โดนประจำอ่ะเรื่องพระเจ้าสร้างโลกเนี่ย ประเด็นดังเรื่องหนึ่งเลยล่ะที่มักโดนเหน็บbouquet เขียน: ตอนมานับถือใหม่ๆนะฮะ เคยโดนครูเหน็บทุกวันเลย
ประมาณว่า เทอเชื่อเหรอพระเจ้าสร้างโลกอ่ะ
ครูว่ามันงี่เง่านะ และก้อ ไปเป็นคริสต์ทำมั๊ย เป็นพุทธก้อดีอยู่แล้วนิ
ดีแล้วตอนนี้ไม่ได้อยู่โรงเรียนนั้นต่อ ไม่งั้นบูบู้บ้าตายก้อแน่เลย
ถ้าได้ยินคนพูดถึงศาสนาคริสต์ผิดๆ หรือพูดจาดูหมิ่นเราควรทำยังไงคะ
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
พระปัญญาของพระเจ้าล้ำลึก ยากที่จะเข้าใจ แต่หนูก็ไม่สงสัย ใครแช่งด่าพระเจ้า
หนูจะรู้สึกเวทนาเขามากกว่า ที่กำลัง สบประมาท องค์พระผู้สร้าง
หนูจะรู้สึกเวทนาเขามากกว่า ที่กำลัง สบประมาท องค์พระผู้สร้าง
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
เห็นด้วยกับเจี๊ยบอย่างแรง(มาก)
-
- โพสต์: 1946
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มิ.ย. 01, 2005 8:23 pm
- ที่อยู่: On this earth obviously
อืมๆ แล้วเราเชื่อมันผิดตรงไหนอ่ะ ถ้างี่เง่าก้อมีคนเป็นล้านๆคนทั้วโลกที่งี่เง่าเหมือนกันอ่ะนะMichaelPaul เขียน:โดนประจำอ่ะเรื่องพระเจ้าสร้างโลกเนี่ย ประเด็นดังเรื่องหนึ่งเลยล่ะที่มักโดนเหน็บbouquet เขียน: ตอนมานับถือใหม่ๆนะฮะ เคยโดนครูเหน็บทุกวันเลย
ประมาณว่า เทอเชื่อเหรอพระเจ้าสร้างโลกอ่ะ
ครูว่ามันงี่เง่านะ และก้อ ไปเป็นคริสต์ทำมั๊ย เป็นพุทธก้อดีอยู่แล้วนิ
ดีแล้วตอนนี้ไม่ได้อยู่โรงเรียนนั้นต่อ ไม่งั้นบูบู้บ้าตายก้อแน่เลย
ศาสนาพราหมณ์ยังบอกพระพรหมสร้างโลกเลยฮะ บูบู้เริ่มจาสับสนแล้วแหละ ตกลงครายสร้างกันแน่
มัทธิว5:33:44
ฝ่ายเราบอกท่านว่าจงรักศัตรูของท่านและจงอธิษฐานเพื่อที่ผู้ที่ข่มเหงท่าน
ฝ่ายเราบอกท่านว่าจงรักศัตรูของท่านและจงอธิษฐานเพื่อที่ผู้ที่ข่มเหงท่าน
จริงๆว่าจะทักนานแล้วครับ แต่ว่าไม่ค่อยจะว่าง วันนี้ว่างเลยขอมาทักตรงนี้
ผู้สร้างเรื่องนี้นั้นได้นำเอาเรื่องของปรัชญาหลายๆศาสนามารวมกัน แต่เหนือสิ่งอื่นใดสารที่แฝงเรื่องของทางรอดของพระเจ้าในคริสต์ศาสนานั้นกระจ่างในภาคที่3ครับ
ภาคแรกเราได้เห็นรูปแบบของปรัชญาแบบพุทธมหายานที่กลมกลืนกับปรัชญาทางศาสนาอื่นได้ง่ายกว่ามาก ในแง่การหลุดพ้นจากโลก(แมรททริก) แต่สิ่งที่คนที่ไม่ใช่คริสต์อาจไม่ได้เฉลียวใจก็คือ เจ้าของแมรททริกนั้นไม่ใช่พระเจ้านะครับ
เราจะเห็นว่ามีโลกนอกแมรททริกอยู่เป็นโลกจริงกว่า ไม่ใช่โลกสมมุติถ้าเปรียบไปโลกแมรททริกคือโลกเนื้อหน้ง ส่วนโลกข้างนอกนั้นคือตัวเราจริงๆเปรียบไปคือจิตวิญญาณ
ในคริสตศาสนานั้นคนที่ครองโลกฝ่ายเนื้อหนังไม่ใชพระเจ้านะครับ แต่คือบาป และคือซาตาน
ยน 15:28
ท่านได้ยินที่เราบอกกับท่านแล้วว่า
เรากำลังจะไป และเราจะกลับมาหาท่านทั้งหลาย
ถ้าท่านรักเรา ท่านคงยินดีที่เรากำลังไปเฝ้าพระบิดา
เพราะพระบิดาทรงยิ่งใหญ่กว่าเรา
และบัดนี้เราได้บอกท่านทั้งหลายก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้น
เพื่อว่าเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว ท่านจะเชื่อ
เราจะพูดกับท่านต่อไปอีกไม่ได้นาน
เพราะซาตานเจ้านายแห่งโลกนี้กำลังมา
มันไม่มีอำนาจอันใดเหนือเรา
แต่โลกจะต้องรู้ว่าเรารักพระบิดา
และรู้ว่าพระบิดาทรงบัญชาให้เราทำอย่างไร เราก็ทำอย่างนั้น
ผมเข้าใจว่าคุณเรยืน่าจะได้ดูแมรททริกทั้ง3ภาค แต่ว่าคุณเรตอนนั้นอาจดูด้วยพื้นฐานทางพุทธจึงไม่เข้าใจเรื่องนี้ถ่องแท้พูดเรื่องเปรียบเทียบศาสนา เราบอกว่า มีวิธีออกจากเมทริกซ์ 2 วิธี
คือ 1 ไปทางพุทธ ด้วยการตัดกิเลสทุกอย่าง แล้วดับสูญไปจากวัฏจักร
หรือ 2 นมัสการผู้สร้างเมทริกซ์ ดำเนินชีวิตในแบบที่พระองค์พอพระทัย
เมื่อตายแล้วก็จะได้มีชีวิตนิรันดร์ร่วมกับพระองค์ในสวรรค์
ซึ่งจริงๆแล้วก็ดีทั้งสองทาง อยู่ที่ว่าจะเลือกทางไหน (เราอุตส่าห์ใจกว้างแล้วนะ)
เพื่อนบอกว่า "ถ้าตัดกิเลสได้แล้ว พระเจ้าก็ไม่มีปัญญาทำให้มนุษย์มาเกิดใหม่ได้อีก
ก็จะพ้นไปจากมือของพระองค์ใช่ป่ะ"
เส้นความอดทนขาดดังผึงเลยอ่ะ ไม่รู้ก็ไม่ว่าหรอก แต่พูดออกมาแต่ละคำมันเจ็บไปถึงใจเลย
เลยบอกไปว่า ไม่เชื่อก็ไม่ได้ว่า แต่อย่ามาลบหลู่พ่อชั้น....
ผู้สร้างเรื่องนี้นั้นได้นำเอาเรื่องของปรัชญาหลายๆศาสนามารวมกัน แต่เหนือสิ่งอื่นใดสารที่แฝงเรื่องของทางรอดของพระเจ้าในคริสต์ศาสนานั้นกระจ่างในภาคที่3ครับ
ภาคแรกเราได้เห็นรูปแบบของปรัชญาแบบพุทธมหายานที่กลมกลืนกับปรัชญาทางศาสนาอื่นได้ง่ายกว่ามาก ในแง่การหลุดพ้นจากโลก(แมรททริก) แต่สิ่งที่คนที่ไม่ใช่คริสต์อาจไม่ได้เฉลียวใจก็คือ เจ้าของแมรททริกนั้นไม่ใช่พระเจ้านะครับ
เราจะเห็นว่ามีโลกนอกแมรททริกอยู่เป็นโลกจริงกว่า ไม่ใช่โลกสมมุติถ้าเปรียบไปโลกแมรททริกคือโลกเนื้อหน้ง ส่วนโลกข้างนอกนั้นคือตัวเราจริงๆเปรียบไปคือจิตวิญญาณ
ในคริสตศาสนานั้นคนที่ครองโลกฝ่ายเนื้อหนังไม่ใชพระเจ้านะครับ แต่คือบาป และคือซาตาน
ยน 15:28
ท่านได้ยินที่เราบอกกับท่านแล้วว่า
เรากำลังจะไป และเราจะกลับมาหาท่านทั้งหลาย
ถ้าท่านรักเรา ท่านคงยินดีที่เรากำลังไปเฝ้าพระบิดา
เพราะพระบิดาทรงยิ่งใหญ่กว่าเรา
และบัดนี้เราได้บอกท่านทั้งหลายก่อนที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้น
เพื่อว่าเมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว ท่านจะเชื่อ
เราจะพูดกับท่านต่อไปอีกไม่ได้นาน
เพราะซาตานเจ้านายแห่งโลกนี้กำลังมา
มันไม่มีอำนาจอันใดเหนือเรา
แต่โลกจะต้องรู้ว่าเรารักพระบิดา
และรู้ว่าพระบิดาทรงบัญชาให้เราทำอย่างไร เราก็ทำอย่างนั้น
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ พุธ ก.ค. 13, 2005 9:33 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
พี่ปอสุดยอดเข้าใจได้ไงนี่ ปรีชาญาณ โดยแท้ :)
-
- โพสต์: 100
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มี.ค. 18, 2005 12:25 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพ
สวัสดีคุณปอครับ
ผมก็ได้ดูเมทริกซ์นะ...
ผมก็คิดเหมือนคุณปอนะ เพราะ ผมเคยมีความคิดจะสลัดโลก (detach from ther world) ด้วยความที่อยากรู้มาก ๆว่า นิพพาน หรือ การหลุดพ้นทางจิตนั้นเป็นอย่างไร... แต่ก็เปล่าประโยชน์
จริงอยู่ มันดับทุกข์ได้ แต่ มันก็ชั่วขณะ เชื้อเพลิงของมนุษย์โดยทั้วไปนั้น เยอะมากครับ.. เราไม่อาจใช้เวลาทั้งชีวิตในสภาพแวดล้อมปัจจุบันที่เต็มไปด้วยวัตถุนิยมนี้ เพื่อ สลัดอัตตาของเราได้...
สิ่งที่ผมรู้จากพระเยซูเจ้าก็คือ การถ่อมตัวและรับน้ำพระทัย ความทุกข์ไม่ใช่สิ่งที่หนีพ้นได้ เหมือนกับ ถ้วยกาลิกส์ ที่พระเยซูทรงเคยอธิษฐานต่อพระบิดาว่า ขอให้ถ้วยนี้พ้นไปจากข้าพระองค นั่นคือความรู้สึกของเราทุกคน แต่พระองค์ก็ตรัสสิ่งที่ เราทำได้ยากที่สุด ก็คือ
แต่ขออย่าให้เป็นไปตามข้าพระองค์ แต่ให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์เถิด...
สุขที่แท้จริง คริสต์เราเชื่อว่า พระเจ้าจะประทานให้เราทุกคย ตามกำลังของเรา พระองค์รู้ขีดจำกัดของเราทุกคน ทุกช์จึงเป็นการร่วมทุกข์ ร่วมดื่มถ้วยเดียวกับที่พระองค์เคยดิ่ม และ ถ้วยนี้เอง ก็คือพระโลหิตที่จะนำเราไปสู่ชีวิจทางจิตวิญญาณที่ไม่ตาย... เหมือนที่นักบุญหลายองค์ได้เป็นแบบอย่าง....
ผมว่า ไม้กางเขน หรือ การยอมรับตามน้ำพระทัยโดยบริสุทธิ์ นี่แหละ คือรหัสธรรมศักดิ์สิทธิ์ของการสิ้นพระชนม์ และที่สุด จะนำเราไปสู่การคืนชีพเป็นชีวิตใหม่ทางวิญญาณ....
การพยายามออกจากเมทริกซ์ จึงยากยิ่งนัก แต่ผู้ที่กล้าเผชิญหน้ากับเมทริกซ์ เช่นนีโอ ต่างหาก ที่จะไม่มีใครพรากชีวิตไปจากเขาได้...
ผมก็ได้ดูเมทริกซ์นะ...
ผมก็คิดเหมือนคุณปอนะ เพราะ ผมเคยมีความคิดจะสลัดโลก (detach from ther world) ด้วยความที่อยากรู้มาก ๆว่า นิพพาน หรือ การหลุดพ้นทางจิตนั้นเป็นอย่างไร... แต่ก็เปล่าประโยชน์
จริงอยู่ มันดับทุกข์ได้ แต่ มันก็ชั่วขณะ เชื้อเพลิงของมนุษย์โดยทั้วไปนั้น เยอะมากครับ.. เราไม่อาจใช้เวลาทั้งชีวิตในสภาพแวดล้อมปัจจุบันที่เต็มไปด้วยวัตถุนิยมนี้ เพื่อ สลัดอัตตาของเราได้...
สิ่งที่ผมรู้จากพระเยซูเจ้าก็คือ การถ่อมตัวและรับน้ำพระทัย ความทุกข์ไม่ใช่สิ่งที่หนีพ้นได้ เหมือนกับ ถ้วยกาลิกส์ ที่พระเยซูทรงเคยอธิษฐานต่อพระบิดาว่า ขอให้ถ้วยนี้พ้นไปจากข้าพระองค นั่นคือความรู้สึกของเราทุกคน แต่พระองค์ก็ตรัสสิ่งที่ เราทำได้ยากที่สุด ก็คือ
แต่ขออย่าให้เป็นไปตามข้าพระองค์ แต่ให้เป็นไปตามพระประสงค์ของพระองค์เถิด...
สุขที่แท้จริง คริสต์เราเชื่อว่า พระเจ้าจะประทานให้เราทุกคย ตามกำลังของเรา พระองค์รู้ขีดจำกัดของเราทุกคน ทุกช์จึงเป็นการร่วมทุกข์ ร่วมดื่มถ้วยเดียวกับที่พระองค์เคยดิ่ม และ ถ้วยนี้เอง ก็คือพระโลหิตที่จะนำเราไปสู่ชีวิจทางจิตวิญญาณที่ไม่ตาย... เหมือนที่นักบุญหลายองค์ได้เป็นแบบอย่าง....
ผมว่า ไม้กางเขน หรือ การยอมรับตามน้ำพระทัยโดยบริสุทธิ์ นี่แหละ คือรหัสธรรมศักดิ์สิทธิ์ของการสิ้นพระชนม์ และที่สุด จะนำเราไปสู่การคืนชีพเป็นชีวิตใหม่ทางวิญญาณ....
การพยายามออกจากเมทริกซ์ จึงยากยิ่งนัก แต่ผู้ที่กล้าเผชิญหน้ากับเมทริกซ์ เช่นนีโอ ต่างหาก ที่จะไม่มีใครพรากชีวิตไปจากเขาได้...
จำได้ว่าเคยมีกระทู้พูดเรื่อง Matrix กับศาสนาที่ web smn สมัยก่อน ไม่รู้ยังอยู่ไหม ::)
ขอบคุณค่า ^^ น่ารักมากๆ เข้าใจขึ้นอีกเยอะเยย :-*