เมื่อคุณเครียด

ปรับทุกข์ หนุนใจ ขอคำภาวนา
ตอบกลับโพส
แต้ว

พุธ ก.ค. 20, 2005 1:56 pm

ช่วงนี้ฉันรู้สึกเครียดมาก ท้อแท้ใจ เบื่อชีวิต รู้สึกว่าชีวิตฉันไม่มีคุณค่าอะไรเลย รู้สึกว่าตัวเองไม่น่าเกิดมาเลย ฉันไม่มีประโยชน์ ไม่มีความสามารถ ฉันท้อใจ ฉันร้องไห้ ฉันรู้สึกว่าพระเจ้าอยู่ห่างไกลฉันเหลือเกิน บางครั้งก็อยากตาย
แต่ก็รู้ว่าการฆ่าตัวตายเป็บบาปหนัก

ทุกคนคงเคยทุกข์ใจ เครียด ฉันอยากรู้ว่า เมื่อพวกคุณมีปัญหาในชีวิต คุณเครียด คุณมีวิธีแก้เครียดอย่างไรบ้าง?

ปล.บางทีฉันอธิษฐานแล้วเปิดพระคัมภีร์ แต่ก็เหมือนพระเจ้าไม่ตอบ เหมือนว่าตัวเองบาปเกินไป ไม่คู่ควรกับพระองค์เลย
:+: seraphim :+:
~@
โพสต์: 7624
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
ที่อยู่: Pattaya Chonburi

พุธ ก.ค. 20, 2005 3:46 pm

แต้ว เขียน:
ช่วงนี้ฉันรู้สึกเครียดมาก ท้อแท้ใจ เบื่อชีวิต รู้สึกว่าชีวิตฉันไม่มีคุณค่าอะไรเลย รู้สึกว่าตัวเองไม่น่าเกิดมาเลย ฉันไม่มีประโยชน์ ไม่มีความสามารถ ฉันท้อใจ ฉันร้องไห้ ฉันรู้สึกว่าพระเจ้าอยู่ห่างไกลฉันเหลือเกิน บางครั้งก็อยากตาย
แต่ก็รู้ว่าการฆ่าตัวตายเป็บบาปหนัก

ทุกคนคงเคยทุกข์ใจ เครียด ฉันอยากรู้ว่า เมื่อพวกคุณมีปัญหาในชีวิต คุณเครียด คุณมีวิธีแก้เครียดอย่างไรบ้าง?

ปล.บางทีฉันอธิษฐานแล้วเปิดพระคัมภีร์ แต่ก็เหมือนพระเจ้าไม่ตอบ เหมือนว่าตัวเองบาปเกินไป ไม่คู่ควรกับพระองค์เลย


;) ;) อะไรที่ทำให้คุณรู้สึกไม่มีคุณค่าค่ะ คุณอาจจะไม่มีคุณค่าในสายตามนุษย์ แต่ในสายพระเนตรของพระองค์

แล้วคุณมีค่าที่สุด พระองค์ทรงอยู่เคียงข้างคุณเสมอ เพียงแต่เวลานี้คุณไม่สงบนิ่งพอที่จะพบพระองค์ ลองอยู่เงียบๆ

สักพักดีมั๊ยค่ะ การภาวนาเป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณควรกระทำในเวลานี้ อาจจะมองดูพระองค์เฉยๆ ปล่อยใจให้สงบนิ่ง

ให้พระองค์ทำงานในตัวคุณ คุณอาจจะพบคำตอบที่คุณต้องการ พระองค์ไม่รังเกียจคุณหรอกค่ะ และรอคอยคุณ

เสมอ รอให้คุณมาปรับทุกข์... รอให้คุณวอนขอ ฯลฯ


ส่วนจะได้หรือไม่ได้นั้น ก็ต้องมาดูอีกทีว่า สิ่งที่คุณต้องการนั้นมันเหมาะสมกับคุณหรือปล่า บางทีสิ่งที่คุณวอนขอ อาจ

จะไม่เหมาะสมกับคุณก็ได้ หรือไม่ก็ยังไม่ถึงเวลาที่คุณควรจะได้รับ อย่าลืมว่า พระองค์เป็นบิดาของเรา พระองค์ไม่

ใจร้ายพอที่จะหยิบยื่นสิ่งที่ไม่ดีให้คุณหรอก แต่เรื่องบางเรื่องก็ต้องเหมาะสม และ ใช้เวลาด้วยนะค่ะ ;) ;)

:-* :-*ปล.ลองอ่านสิ่งที่เป็นไปตามประสงค์ของพระบิดาดูนะค่ะ
แก้ไขล่าสุดโดย :+: seraphim :+: เมื่อ พุธ ก.ค. 20, 2005 3:50 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
-Rei-
โพสต์: 1015
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 8:31 pm
ติดต่อ:

พุธ ก.ค. 20, 2005 8:11 pm

สวดภาวนาค่ะ

ลองสวดสายประคำดูไหมคะ เผื่อจิตใจจะสงบ

ก่อนหน้านี้เรเคยรู้สึกแย่กับตัวเองมากๆๆ
จนกระทั่งได้รู้จักพระผู้เป็นเจ้า

ตั้งแต่นั้นเรไม่เคยรู้สึกแย่กับตัวเองอีกเลยค่ะ

ถ้ามันหนักหนาก็ถือว่าทำพลีกรรมก็แล้วกันนะคะ
Joseph
โพสต์: 2182
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 27, 2005 6:31 am

พุธ ก.ค. 20, 2005 8:11 pm

บางที่ผมนั่งคิดถึงความสุขต่างๆ ที่เคยได้รับมา ไม่ว่าการไปเที่ยวห้างเซ็นทรัลครั้งแรกที่สีลม คือสมัยเด็กๆ คุณแม่พาไปเป็นห้างที่เปิดใหม่ เพราะเมืองไทยสมัยนั้นยังไม่มีห้าง เมโทรอะไรก็ยังไม่เกิด ห้างนั้นถ้าเทียบกับทุกวันนี้ก็เล็กมากเพราะคล้ายๆ ตึกแถวหลายๆ ห้องติดกัน ผมรู้สึกตื่นเต้นและประทับใจมากเลยเพราะไม่เคยเห็นร้านค้าติดแอร์ และประทับใจที่สุดคือได้ของเล่นกลับบ้านคนละชิ้นไปเล่นกัน หลายครั้งเราได้รับความรักจากพ่อแม่ หรือได้ไปเทียวแล้วเกิดมีความสุข หรือเราไปกินเลี้ยงสนุกสนานเฮ ฮา กับเพื่อนฝูงในวันนี้ พอวันพรุ่งนี้มาถึงความสุขเมื่อวานเป็นเพียงความทรงจำเท่านั้นเอง

แต่พอเวลาผ่านไปกลับมานั่งคิดดู มันก็เป็นแค่ความทรงจำเอากลับมาไม่ได้ มันเป็นเหมือนเงาที่เราไม่สามารถจับต้องมันได้เลย เพราะไม่มีใครจับเงาตัวเองได้ เราไม่อาจจับความเป็นจริงในอดีตได้เหมือนกัน ทุกอย่างเป็นเหมือนความฝัน เป็นเพียงความทรงจำที่ดีๆ เท่านั้น สิ่งที่เกิดขึ้นก็เหมือนกับไม่ได้เกิดขึ้น เพราะมันไม่ใช้รูปธรรม ถ้าเราอ่านนิยายหรือจินตนาก็ทำให้เกิดความรู้สึกดีๆ ได้เหมือนกัน

ไม่ว่าเราอ่านนิยาย ชีวิต นิยาย ตื่นเต้น ไม่ว่าเรื่องมันจะเศร้า หรือสนุกแค่ไหนมันก็เป็นเพียงหนังสือนิยายเล่มหนึ่งเท่านั้น มันไม่มีตัวตนจริงๆ มันเป็นเพียงจินตนาการและความรู้สึกของเราเองเท่านั้น ดังนั้นสิ่งที่เราจับต้องไม่ได้ถึงแม้มันจะเคยเกิดขึ้นจริงกับตัวเราไม่ว่า ทุกข์ หรือ สุข มันก็ไม่ต่างอะไรกับความฝัน หรือนิยายเรื่องหนึ่งเท่านั้นเอง แต่ปัญหาของเราไม่ใช้อดีต ปัญหาของเราอยู่ที่อนาคต เราต้องมองไปที่อนาคต และมีความสุขอยู่กับวันนี้ เพราะอดีตก็เป็นเหมือนเงาจับต้องไม่ได้ สิ่งที่เกิดมาแล้วเมื่อเวลาผ่านไปก็เหมือนไม่เกิดขึ้น

ทุกอย่างในอาดีตเป็นเพียงเงาไม่ต้องไปเสียเวลากับมันมาก เราควรทำตัวให้มีความสุขสนุกสนานกับวันนี้ อย่าลืมว่าคนเรามีชีวิตอยู่ในโลกนี้ไม่มาก บางคนขับรถผ่านเส้นทางสายหนึ่งเป็นประจำ แต่ไม่เคยสังเกตว่าข้างทางมีสิ่งสวยงามแค่ไหน ธรรมชาติข้างทางที่เราผ่านไปมาทุกวันมีความสวยงามแค่ไหน เพราะเราไม่เคยอยู่กับวันนี้ เราลองทบทวนดูซิว่า วันนี้เราได้ความสุขจากอะไรบ้าง จากคนรอบข้าง จากเพื่อนที่ให้กำลังใจเรา หรือจากพ่อแม่พี่น้องของเรา รวมทั้งความงดงามต่างๆ ที่พระเจ้าทรงสร้างไว้รอบตัวเรา เราควรแสวงหาความสุขเหล่านั้นในวันนี้ ไม่ใช้พรุ่งนี้ หรือในอดีต แต่คือวันนี้ เพราะทั้งความสุข หรือความทุกข์ ก็เป็นแค่เงา เมื่อตายไปแล้วสิ่งที่เราแสวงหาก็ไม่มีประโยชน์ การกระทำ การแสวงหาของเรา กับการแสวงหาความสุขทั้งชีวิตของเราเพื่ออะไร เหนื่อยเปล่า ไม่มีประโยชน์อะไรเลย คือกินลมกินแล้ง

ชีวิตของคนเรามีความหวังอยู่ที่พระเจ้า มีความรัก ความไว้วางใจอยู่ที่พระเจ้า เพราะชีวิตของเราก็ไม่ใช้ของเราเอง พระเจ้าไถ่ชีวิตของเรามาเป็นของพระองค์แล้วด้วยราคาอันสูงลิ่ว คือ ชีวิตของพระองค์เอง ด้วยเหตุนี้เราจึงเป็นทาสของพระคริสต์ เป็นทาสีของพระองค์ ไม่ใช้เป็นของตัวเราเอง เราไม่ควรมีชีวิตอยู่เพื่อตัวของเราเอง เราไม่ควรแสวงหาสิ่งต่างๆ เพื่อตัวของเราเอง แต่เราควรแสวงหาสิ่งต่างๆ และกระทำสิ่งต่างๆ ด้วยพระนามของพระเจ้า เพราะชีวิตเราเป็นสมบัติของพระองค์ตั้งแต่เรารับพิธีล้างแล้ว

จงรัก ไว้วางใจ แสวงหา และรับใช้พระองค์ แล้วพระองค์จะอยู่ฝ่ายคุณ จะเป็นที่คุ้มภัยให้คุณ จะช่วยเหลือคุณ เพราะคุณทำทุกอย่างในนามของพระองค์

ผมมีชีวิตอยู่ก็เพื่อรับใช้พระเจ้าเท่านั้น เพราะผมเป็นทาสีของพระเยซูคริสตเจ้า

ด้วยรักในพระเยซูคริสตเจ้า
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ พฤหัสฯ. ก.ค. 21, 2005 8:28 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
princess of wand

พฤหัสฯ. ก.ค. 21, 2005 4:22 pm

พระองค์ทรงลงมาบนโลกมนุษย์มาอยู่ท่ามกลางเราครับคุณแต้ว ถ้าพระองค์รังเกียจคนบาปมากมายพระองค์ก็คงยังทรงปลูกผักอยู่บนสวรรค์ไม่ยอมลงมาไถ่เราผู้ซึ่งเป็นคนบาปโคตรๆหรอกครับ ถ้าพระองค์ทรงยอมสิ้นพระชนม์อยู่บนไม้กางเขนเพื่อให้เรารอดแล้วก็อย่าคิดว่าพระองค์ทรงรังเกียจเราเลยครับ ความรู้สึกของคุณนั้นผมจะอธิบายเป็นแบบนี้นะครับเพื่อที่จะเข้าใจง่าย

จิตใจเราก็เหมือนวิทยุครับ..ลำโพงก็คือการแสดงออก ควมรู้สึกอารมณ์ ส่วนแหล่งกระจายเสียงนี่มี 2 แหล่งครับ
1. จีซัสเอฟเอ็ม (จากสวรรค์)
2.ซาตานเอเอ็ม (จากนรก)
บางทีเราก็ไม่รู้ตัวหรอกครับว่าจิตใจเรานั้นรับคลื่นอะไรอยู่ จะรู้ตัวก็ต่อเมื่อลำโพง(การแสดงออก)ของเรานั้นแสดงอะไรออกมา เช่นถ้ารับคลื่นจีซัสเอฟเอมแล้วละก็การแสดงออกก็คือจะปิติสุข จะมีความสุขมีความรักต่อทุกสิ่ง แต่ถ้ารับคลืนซาตานเอเอ็มแล้วละก็...ก็จะเป็นอย่างที่คุณรู้สึกอยู่นี่แหละครับ ;D

หมายความว่าพระองค์ทรงอยู่ตลอดครับ(ทุกที่ทุกแห่ง..แน่นอนใจในคุณข้างกายคุณด้วย)เพียงแต่คุณยังจูนจิตใจคุณไม่ถูกเท่านั้นเอง[/color(พระองค์ทรงอยากให้คุณ หัดเดินมาหาพระองค์นะครับ ) จงสังเกตุอยู่เสมอ ความรู้สึกแย่ทุกอย่างล้วนมาจากมาร คุณจะต้องลองมองสิ่งดีๆท่ามกลางสิ่งร้ายๆบ้าง เช่นสมมุตคุณเดินเหยียบอึหมาแทนที่คุณจะโวยวายด่าพระว่าทำไมปล่อยให้ลูกดวงซวยไปวันๆแบบนี้ คุณก็น่าจะลองคิดดูบ้างว่าพระเมตตาขนาดไหนที่ให้ตรงนั้นเป็นอึหมาไม่ใช่เศษแก้ว และถ้าครั้งหน้าคุณเดินเหยีบอะไรที่แย่กว่านี้คุณก็คิดได้ว่า"ไม่เห็นจะน่าหงุดหงิดตรงไหน ขนาดขี้หมาฉันก็เหยียบมาแล้ว" ....จริงไหมครับ? ดังนั้นพระเป็นเจ้าสอนเสมอว่าให้เรามองโลกในแง่ดี เมื่อมองโลกในแง่ดีแล้วก็จะมีความสุขต่างๆตามมา บางคนบอกว่าการมองโลกในแง่ดีนั้นทำให้เราเสียเปรียบคนอื่น แต่ผมจะบอกว่า มันขึ้นอยู่กับว่าคุณมักจะเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่นเสมอหรือเปล่า? ....เราทุกๆคนเท่าเทียมกันในสายพระเนตรของพระองค์ครับเพราะเราเป็นลูกของพระองค์พระองค์ทรงให้ความรักเท่าเทียมกัน แต่มนุษย์นั้นกลับมองตรงข้ามกันหมดซึ่งจะนำมาซึ่งความอิจฉา ความโลภ และสิ่งชั่วร้ายอื่นๆ
ถ้าหากคุณมองโลกในแง่ดีได้แล้วแน่นอนคุณจะโดนหลอกโดนเอาเปรียบ แต่ผมถามว่าถ้าคุณเชื่อมั่นในพระองคืแล้วไม่ว่าชีวิตคุณจะตกต่ำขนาดไหนคุณก็สามารถมีความสุขได้ครับ เพราะสิ่งที่คนทั้งโลกแสวงหาคือความสุขครับไม่ใช่เงินทอง คนคิดว่าเงินทองนำมาซึ่งความสุขได้แต่มันไม่ใช่ครับ

ดังนั้นลองมองโลกในแง่ดีให้มากๆนะครับ^^

ตอบคำถามคุณดีกว่า

ช่วงนี้ฉันรู้สึกเครียดมาก ท้อแท้ใจ เบื่อชีวิต รู้สึกว่าชีวิตฉันไม่มีคุณค่าอะไรเลย รู้สึกว่าตัวเองไม่น่าเกิดมาเลย ฉันไม่มีประโยชน์ ไม่มีความสามารถ ฉันท้อใจ ฉันร้องไห้ ฉันรู้สึกว่าพระเจ้าอยู่ห่างไกลฉันเหลือเกิน บางครั้งก็อยากตาย
แต่ก็รู้ว่าการฆ่าตัวตายเป็บบาปหนัก
///// อ่านข้างบนนะครับ^^

ทุกคนคงเคยทุกข์ใจ เครียด ฉันอยากรู้ว่า เมื่อพวกคุณมีปัญหาในชีวิต คุณเครียด คุณมีวิธีแก้เครียดอย่างไรบ้าง?
////มองโลกในแง่ดี และคิดว่าพระองค์เดินอยู่ข้างๆคุณด้วยครับ

ปล.บางทีฉันอธิษฐานแล้วเปิดพระคัมภีร์ แต่ก็เหมือนพระเจ้าไม่ตอบ เหมือนว่าตัวเองบาปเกินไป ไม่คู่ควรกับพระองค์เลย
///// บางทีพระองค์อาจอยากสอนคุณว่า ให้ค้นหาคำตอบด้วยตนเองก่อนนะครับ เพราะชาวคริสต์ส่วนมากคิดว่าไม่ต้องทำอะไรมากเดี๋ยวพระก็ทรงช่วยอันนี้ไม่ใช่นะครับ พระองค์ทรงอยากให้เราทำอะไรด้วยตัวเองพยายามให้ถึงที่สุดก่อน(บางทีเราก็คิดว่าเราพยายามที่สุดแล้วแต่ผิดทาง) ถ้าเราทำสุดความสามารถแล้วพระองค์ทรงช่วยแน่นอนครับ

พระเป็นเจ้ารักคุณขนาดตายเพื่อคุณนะครับ^^ พระเจ้าผู้สร้างดาวดารา..สร้างดินสร้างฟ้า สร้างฯลฯ ยอมลงมาจากฟ้าตายเพื่อคุณ คุณก็คิดเอาเองละกันว่าพระเจ้ารังเกียจคุณหรือไม่
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

พฤหัสฯ. ก.ค. 21, 2005 10:47 pm

Talk to a priest.... :)

When you are so confused, you cannot open your heart so much that you can hear God.... So, you need to talk to someone who understands you. .... :) So,

talk to a priest ka... :)
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

พฤหัสฯ. ก.ค. 21, 2005 11:05 pm

คุยกะคุณพ่อที่วัดนะคะ..... :)
New lamb
~@
โพสต์: 656
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 04, 2005 7:21 am
ที่อยู่: Florida U.S.A

ศุกร์ ก.ค. 22, 2005 12:31 am

พี่เคยเป็นมายิ่งกว่านี้ค่ะ ถ้ามีความรู้สึกอย่างนี้อย่าอยู่คนเดียวค่ะ ขอคำแนะนำจากคุณพ่อที่วัด และสวดภาวนาให้มากขึ้น ชีวิตเรามีค่าเสมอสำหรับพระองค์ค่ะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ :-*
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

ศุกร์ ก.ค. 22, 2005 3:24 am

I agree with you, P'New Lamb... อย่าอยู่คนเดียว.... :)
Divine Mercy

ศุกร์ ก.ค. 22, 2005 1:49 pm

ทุกคนมีปัญหา มากน้อยต่างกัน ผมเจอปัญหามาเยอะ ทั้งเรื่องสุขภาพ ความเจ็บป่วย การงาน การดูแลตนเอง เพื่อนฝูงมิตรสหาย ถ้าคุณป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้และไม่มีคนมาดูแลคุณจะต้องทำอย่างไร ความตายเป็นวิธีหนึ่งที่ผมเคยเลือก แต่พระเป็นเจ้าทรงดลใจผมให้เลือกที่จะเปิดพระคัมภีร์ จึงทำให้ผมรู้ถึงความรัก ความห่วงใยของพระ และจากนั้นมาทำให้ผมหันหน้ามาสวดภาวนาและรำพึงมากกว่าที่จะปล่อยให้ตัวเองหมกหมุ่นกับปัญหาต่างๆ และวันนี้ผมก็เอาชนะปัญหาต่างๆ ได้ และอยู่อย่างมีความสุขกับวันเวลาที่ผ่านไปกับการสวดภาวนา และวิธีการภาวนาตามที่ท่านนักบุญปีโอ แห่งปีเอเตรลชีนาสอนว่า

"เราเรียนรู้พระเป็นเจ้าจากการอ่าน แต่เราจะพบพระองค์ได้ขณะที่เราภาวนา"

"เราควรภาวนาสม่ำเสมอ ด้วยความถ่อมตน และพากเพียร บากบั่น พระเป็นเจ้าทรง เป็นพระบิดาผู้ใจดีที่สุด พระองค์จะทรงประทานให้ในสิ่งที่เราวอนขอ"

"การภาวนาเป็นอาวุธที่ดีที่สุดซึ่งเรามีอยู่ เป็นกุญแจที่จะใช้เปิดดวงพระทัยพระเป็นเจ้า เราจำเป็นต้องทูลพระเยซูเจ้า มิใช่เพียงด้วยคำพูด แต่ด้วยหัวใจ"

และท่านยังสอนอีกว่าในยามที่เราเจอปัญหา มีความมืดมนในจิตใจดังนี้ครับ

"เมื่อลูกแสวงหาพระเป็นเจ้า กระหายหาพระองค์ ร้องงทูลพระองค์ แต่ไม่พบพระองค์ ดูเหมือนพระเป็นเจ้าจะทรงซ่อนพระองค์จากลูก ละทิ้งลูก แต่พ่อขอย้ำว่า จงอย่าได้กลัว พระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่กับลูกในเวลานั้นเช่นกัน ลูกอยู่ในพระองค์ และอยู่กับพระองค์ในยามมืดมน ในความยากลำบาก และในความกังวล พระเยซูเจ้าทรงประทับอยู่กับลูกเสมอ"
แก้ไขล่าสุดโดย Divine Mercy เมื่อ ศุกร์ ก.ค. 22, 2005 2:08 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ ก.ค. 22, 2005 4:46 pm

ดูก่อนบ่ายคลายเครียด ฮับ 8) พูดเล่งๆๆ ;D

ทำหลายๆอย่างฮะ เช่นไปเดินสูดอากาศที่ Park แล้วคิด คุยกับพระเจ้า

อ่านหนังสือพระคัมภีร์ บทสดุดี อ่านหนังสือเสริมศรัทธา

คุย ขอคำปรึกษา และอธิษฐานกับ ศิษยาภิบาล หรือ พี่ที่ดูแลจิตวิญญาณ

ฟังเพลง เกี่ยวกับชีวิตคริสเตียน

นอนพักผ่อน

สุดๆ อธิษฐานฝากไว้กับพระเจ้าทั้งหมด เพราะทำส่วนของตัวเองหมดแล้วฮะ 8)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nihil
~@
โพสต์: 1763
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 4:36 pm
ที่อยู่: Pax
ติดต่อ:

เสาร์ ก.ค. 23, 2005 2:21 am

แต้ว เขียน:
ช่วงนี้ฉันรู้สึกเครียดมาก ท้อแท้ใจ เบื่อชีวิต รู้สึกว่าชีวิตฉันไม่มีคุณค่าอะไรเลย รู้สึกว่าตัวเองไม่น่าเกิดมาเลย ฉันไม่มีประโยชน์ ไม่มีความสามารถ ฉันท้อใจ ฉันร้องไห้ ฉันรู้สึกว่าพระเจ้าอยู่ห่างไกลฉันเหลือเกิน บางครั้งก็อยากตาย
แต่ก็รู้ว่าการฆ่าตัวตายเป็บบาปหนัก

ทุกคนคงเคยทุกข์ใจ เครียด ฉันอยากรู้ว่า เมื่อพวกคุณมีปัญหาในชีวิต คุณเครียด คุณมีวิธีแก้เครียดอย่างไรบ้าง?

ปล.บางทีฉันอธิษฐานแล้วเปิดพระคัมภีร์ แต่ก็เหมือนพระเจ้าไม่ตอบ เหมือนว่าตัวเองบาปเกินไป ไม่คู่ควรกับพระองค์เลย


ไม่แปลกหรอกครับที่เราจะมีความคิดแบบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาแห่งความสิ้นหวัง ช่วงเวลาที่อะไรก็ดูไม่เป็นใจมีแต่เรื่องร้าย ๆ ช่วงสภาวะที่ไม่มั่นคงที่เขาเรียกกันว่า "จิตตก" ปัญหาคือเราจะจัดการกับความรู้สึกด้านลบที่รุมประดังเข้ามานั้นได้อย่างไร ผมก็มีความรู้สึกแบบนี้บ่อย ๆ หรือจะพูดให้ถูกบ่อยเสียมากเกินไปเสียด้วยซ้ำ และดูเหมือนเป็นการง่ายด้วยที่คนเราจะมีความคิดด้านนี้ ยินดีที่จะคิดถึงตัวเองในแง่ลบ รู้สึกตัวเองเป็นคนไม่ดี คนไร้ค่าและไม่มีความหมายอะไรเลย แต่ทั้งหมดขึ้นกับมุมมองความรู้สึกครับ เปลี่ยนมุมมองเพียงเล็กน้อยชีวิตก็อาจเป็นสวรรค์หรือนรกได้ในพริบตา จะชีวิตเปี่ยมสุขหรือชีวิตเปี่ยมทุกข์ก็ขึ้นกับมุมมองของเราที่เราอยากจะรับและรู้สึก

ผมเข้าใจดีว่าตอนนี้มันเป็นเรื่องยาก และคุณอาจต้องการแรงบันดาลใจหรือเรื่องดีๆแรงๆมาเปลี่ยนความรู้สึกแบบปุบปับ ซึ่งแรงบันดาลใจดี ๆ นี้ก็หาได้เยอะครับในบรรดาสิ่งที่คุณชอบรอบตัวไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง เดินเล่น นอนเล่น หรือแม้แต่พูดคุยกับเพื่อนที่รู้ใจ และพยายามสัมผัสความรู้สึกหาแรงบันดาลใจดี ๆ ออกมา


ถ้าอารมณ์คุณยังไม่มั่นคงและไม่พร้อมที่จะเปลี่ยน ผมว่าคุณอยู่กับอารมณ์นี้ก่อนก็ดีนะครับ ไม่ใช่ผมอยากเห็นคุณเศร้าทุกข์ใจหรือไล่ให้ไปตาย แต่ในความรู้สึกเศร้าทุกขมนัสเช่นนั้น ผมเชื่อว่ามีบางอย่าง และบางระดับอารมณ์ที่คุณต้องการค้นหาอยู่ ลองให้เวลากับมันดูครับ และค่อย ๆ หาคำตอบให้กับตัวเองไปทีละคำถาม

ถ้าคุณรู้สึกว่าตัวเองเป็นทุกข์ ไม่มีค่า คุณลองคุยกับตัวเองดูนะครับว่าอะไรทำให้คุณรู้สึกเช่นนั้น ความผิดพลาดข้อบกพร่องเรามีทุกคนอยู่แล้วเพราะ nobody perfect แต่ที่ทำให้คุณมองว่าตัวเองไม่มีค่านั้นเป็นสิ่งที่คุณชอบสนใจ หรือตั้งใจแต่ทำออกมาได้ไม่ดีหรือล้มเหลวหรือเปล่า ? หรือความผิดพลาดอะไร อะไรที่ไม่ได้เป็นดังใจทั้งหลาย ลองคุยกับตัวเอง ให้เวลากับตัวเองดูนะครับ แล้วค่อย ๆ ตอบคำถามตัวเองไปทีละข้อ นอกจากคุณจะรู้จักตัวเองมากขึ้นแล้วบางทีคุณอาจพบหลักการจัดการชีวิตดี ๆ ให้กับชีวิตคุณก็เป็นไปได้ ลองพยายามทำความเข้าใจตัวเองในแบบของตัวเอง หรือ มาตรฐานของตัวเองดู โดยไม่พยายามเปรียบเทียบกับคนอื่น เพราะข้อดีของคนอื่นอาจทำให้เรารู้สึกด้อยก็ได้ แต่ลองหาข้อดีและเข้าใจสภาพของตัวคุณดูครับ อะไรที่คุณทำได้ อะไรที่คุณชอบ อะไรที่ทำให้คุณมีความสุข อะไรที่คุณสนุกไปกับมัน และอะไรที่ทำให้คุณเป็นตัวคุณ

ช้า ๆ นะครับไม่ต้องรีบ พอพบคำตอบที่ทำให้คุณสบายใจแล้วก็ค่อย ๆ ตอบคำถามที่ยังทำให้คุณรู้สึกไม่ดี ไปทีละข้อ ๆ จนกว่าคุณจะสบายใจ ให้ทุกอย่างค่อยเป็นค่อยไปโดยอย่าเผลอตัดสินใจทำอะไรที่รุนแรงหรือร้ายแรงลงไป อาจจดลงในสมุดโน๊ตหรืออะไรก็ได้นะครับกับสิ่งที่คุณชอบไม่ชอบ ความรู้สึกคุณ ตลอดจนคำตอบที่คุณตอบตัวเอง แล้วเวลาคุณมีปัญหาแบบนี้อีกเมื่อไหร่ก็ลองเปิดอ่านที่คุณจดดูก็ไม่เลวนะครับ เพราะอย่างน้อยคุณก็ทำความเข้าใจตัวเองและเคยผ่านช่วงเวาที่เลวร้ายได้มาแล้ว หากครั้งหน้าคุณคิดว่ามันรุนแรงและร้ายกว่าทุกครั้ง คุณก็ลองค้นหาตัวเอง ตอบคำถามตัวเองและบันทึกสิ่งที่คุณรู้จักจากตัวเองใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ

หากมีเพลง หรือ ภาพยนต์ ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจหรือความรู้สึกประทับใจ ดี ๆ ที่กระตุ้นได้ก็ลองเปิดประกอบดูนะครับช่วยได้เยอะเลย


สุดท้ายอีกวิธีที่อยากแนะนำคือ เรื่อง "เวลา" ครับ เวลาเป็นเครื่องมือที่ดีที่สุดอย่างหนึ่ง ค่อย ๆ ปล่อยมันไปทีละนิด ๆ กับเวลา พยายามลืมมันไป ทีละนิด ๆ คิดแง่ดีไว้ ทีละนิด ๆ เมื่อเวลาผ่านไประยะหนึ่ง ทั่วไปอารมณ์ก็จะปรับสู่ระดับสมดุลย์เอง หากไม่รู้จะทำไงก็นอนเลยครับ การนอนแบบไม่คิดอะไรช่วยได้เยอะ พอตื่นมาหัวโล่งสดชื่นคุณอาจลืมเรื่องเศร้า ๆ ที่รู้สึกไม่ดีไปหมดเลยก็ได้นะครับ


ไม่ว่าจะลองหาวิธีแบบไหน แต่พวกเราทุกคนที่นี่เป็นกำลังใจให้ครับ อย่างน้อยพวกเราก็พร้อมที่จะฟังคุณ ให้คุณระบายออกมาได้หากสิ่งนี้จะทำให้คุณรู้สึกดีมากขึ้น ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ

สุดท้ายพระเจ้ารักคุรมากครับ ไม่ว่าคุณจะเหลวแหลกหรือเป็นใคร พระองคืก็รักพวกเราทุกคนเสมอ
ตอนนี้ก็พยายามค่อย ๆ ปรับตัว ปรับอารมณ์ไปนะครับ และเมื่อร้อมแล้วก็อย่าลืมวิ่งหลับไปหาพระเจ้า พ่อผู้ใจดีที่อ้าแขนรอสวมกอดคุณด้วยความรักอยู่ ตอนนี้พระองค์ก็อยู่ข้างๆ ๆ คุณเป็นกำลังใจให้คุณนะครับ :D
ตอบกลับโพส