
อยากทราบความเป็นมาสายแม่พระมหาทุกข์
-
- โพสต์: 361
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 08, 2012 8:57 pm
อยากทราบว่าใครเป็นผู้ก่อตั้งรวมถึงประวัติน่ะฮับ รบกวนผู้มีความรู้หน่อยนะคั๊บ ขอบคุณมากคับ ^^ 

บทภาวนาสายประคำแม่พระมหาทุกข์

วิธีสวดสายประคำแม่พระมหาทุกข์ 7 ประการ
เริ่มต้นที่กางเขน ให้สวด
เชิญเสด็จมาพระจิตเจ้าข้าฯ + ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเป็นเจ้า
+ ข้าแต่พระบิดา + วันทามารีอา 3 บท + สิริพึงมี
***รำพึงทีละข้อ (ตั้งแต่ข้อที่ 1-7)
***จบข้อรำพึงแต่ละข้อให้สวด:
พระมารดามหาทุกข์ ช่วยวิงวอนเทอญ
+ ข้าแต่พระบิดา + วันทามารีอา 7 บท + สิริพึงมี
บทรำพึงสายประคำ “แม่พระมหาทุกข์”
บทภาวนาเปิดการรำพึง
ในมหาทุกข์ของพระนางพรหมจารีมารีอา เราเห็นภาพสะท้อนของ
ความทรมาน และความทุกข์อันขมขื่นของพระคริสตเจ้าในส่วนที่เป็น
มนุษย์ ดังเช่นพระนางมารีอาได้ยอมรับรหัสธรรมของพระคริสตเจ้า
ทั้งหมดเข้าสู่ชีวิตของพระนาง ให้เรามองเห็นการร่วมมีส่วนที่เลือนราง
แต่เป็นการมีส่วนอย่างแท้จริงในมหาทรมาน และการสิ้นพระชนม์ของ
พระองค์ ในเมื่อเราต้องการรับความเศร้าโศก มีความกลัวการถูก
สบประมาท และความอับอายต่างๆ โดยระลึกเสมอว่าถ้าเราปรารถนา
จะติดตามพระองค์ เราต้องรับแบกไม้กางเขนทุกๆวัน
เราจงสวดภาวนา เพื่อให้เรายอมรับกระแสเรียกของพระคริสตเจ้า
และกลายเป็นผู้ร่วมทุกข์ทรมานกับพระมหาทรมาน

การฉลองแม่พระมหาทุกข์นี้ เชิญชวนให้เรารำพึงถึงความทุกข์เจ็บปวดรวดร้าวของพระมารดา 7 อย่างด้วยกัน ที่มีการพูดถึงในพระวรสาร เป็นพระสันตะปาปาปีโอที่ 7 ที่ได้นำการฉลองแม่พระมหาทุกข์เข้ามาในพิธีกรรมของพระศาสนจักร เพื่อเป็นการระลึกถึงความทุกข์ยากลำบากที่จักพรรดินโปเลียนได้กระทำต่อพระศาสนจักร และเป็นต้นที่ได้กระทำต่อประมุขของพระศานจักร
การมีส่วนร่วมในความทุกข์ยากลำบาก ที่พระมารดาพระผู้ไถ่ได้มีร่วมกับพระบุตรของพระนาง ในงานช่วยมนุษย์ให้รอดนั้น ( ลก. 2: 33 - 35 ) เป็นต้นได้แสดงให้เห็นเป็นประจักษ์พยานในชั่วโมงที่พระองค์ถูกตรึงไม้กางเขน
ในปัจจุบันการฉลองการระลึกถึงแม่พระมหาทุกข์นี้ เรามุ่งมาที่ตัวพระนางเอง พระมารดาผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความทุกข์และยัญบูชาของพระคริสตเจ้า ซึ่งพระนางเองได้ทรงถวายแด่พระบิดาพร้อมๆ กับพระบุตร
ความทุกข์ยากเป็นของมนุษย์ทุกคนที่เจริญชีวิตในโลกนี้ ทุกคนต้องเผชิญกับการประจญของปิศาจและความยากลำบากต่างๆ แต่พระองค์ประทานพระหรรษทานให้แก่ทุกคน ให้สามารถต่อสู้ความทุกข์ยากนั้น ตามแต่ความต้องการของแต่ละคน
มหาทุกข์ 7 ประการของพระแม่เปรียบดั่งดาบ 7 เล่มที่เสียบแทงดวงพระหทัยพระนาง คือ
1. คำพยากรณ์ของท่านซีเมโอน

ในพระวิหาร ซีเมโอนรับพระกุมารมาอุ้มไว้ พยากรณ์ว่าเด็กนี้จะเป็นสัญลักษณ์แห่งการขัดแย้ง " กุมารนี้เกิดมาเพื่อความพินาศ และความรอดของคนเป็นอันมากในชาติอิสราเอล และเป็นเสมือนเป้าให้มนุษย์คัดค้าน ส่วนตัวท่าน ( พระนางมารีอา) ก็จะถูกกระบี่ทิ่มแทงดวงใจ " ( ลก. 2: 34 - 35 )
2. พาพระกุมารหนีไปอิยิปต์

ดาบเล่มที่ 2 ที่ทิ่มแทงดวงหทัยของพระนางคือ การที่ต้องพาพระเยซูเจ้าหนีไปอิยิปต์ เพื่อให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของเฮโรด
เฮโรดคอยด้วยความกระวนกระวาย เมื่อทราบข่าวจากบัณฑิตทั้งสามว่า พระเยซูเจ้าบังเกิดที่ไหน จะได้ไปตามฆ่า เมื่อทราบว่าตนถูกหลอก ก็สั่งให้ฆ่าทารกทุกคนในเมืองเบธเลแฮม แต่เทวดาปรากฏมาบอกโยเซฟในฝันว่า " ลุกขึ้นเถิด พาพระกุมารและพระมารดา หนีไปประเทศอิยิปต์ " ( มธ. 2: 13 )
3. พระเยซูเจ้าทรงหายไปในพระวิหาร

ช่างเป็นภาพที่น่ารันทดใจเพียงใด ที่แม่พระต้องปวดร้าวใจตามหาพระเยซูเจ้าตั้งแต่เช้าจรดค่ำตลอด 3 วัน พระนางอาจจะกินข้าวกับน้ำตาเหมือนกับกษัตริย์ดาวิดคร่ำครวญถึงบุตรของตนที่หายไป " ข้าพระองค์กินน้ำตาต่างอาหารทั้งวันและคืน ขณะที่คนพูดกับข้าพระองค์วันแล้ววันเล่าว่า " พระเจ้าของเจ้าอยู่ที่ไหน " "(สดด. 42: 3)
4. พระมารดาพบพระเยซูเจ้าระหว่างทางสู่เนินเขากัลวาลิโอ

ประกาศกอิสยาห์กล่าวว่า " เรามองเห็นพระองค์ในสายตามนุษย์แล้วน่าสงสาร ( อสย . 53 : 2 ) นี่แหละพระบุตรสุดที่รักของพระนาง ไม่รู้ว่าจะช่วยอย่างไร แม่พระคงปรารถนาจะเข้าไปกอดพระบุตร แต่ทหารคงผลักรุนพระเยซูเจ้าไปข้างหน้า และสบประมาทเยาะเย้ยพระนาง…แม่พระยังคงติดตามพระบุตรไป
5. พระเยซูเจ้าถูกตรึงกางเขน

แม่พระเฝ้าดูลูกน้อยที่ถูกปรับโทษถึงตาย ตาย ทั้งๆ ที่ลูกน้อยนั้นเป็นคนบริสุทธิ์ ลูกน้อยที่พระนางรักอย่างสุดหัวใจ แต่กลับถูกทรมานอย่างโหดร้ายสุดประมาณ และตายอยู่ต่อหน้าต่อตาพระนาง " มารีย์ มารดาของพระเยซูเจ้ายืนอยู่ที่เชิงกางเขน " ( ยน . 19 : 25 ) แม่พระยืนอยู่แทบเชิงกางเขน เฝ้าดูพระบุตรถูกทรมาน และกำลังจะสิ้นใจ เขาถอดเสื้อผ้าของพระองค์ออกจับนอนลงกับกางเขน ตอกตะปูที่มือและเท้าอย่างทารุณ ยกกางเขนตั้งขึ้น แล้วปล่อยให้พระองค์สิ้นพระชนม์…พวกเพชรฆาตหนีไป แต่แม่พระมิได้จากไป พระนางเข้าไปใกล้ๆ เชิงกางเขนมากขึ้น ท่านซีมอนแห่งกาเซีย กล่าวว่า " ใครที่เห็นแม่พระยืนนิ่งเงียบโดยไม่บ่นอะไรแทบเชิงกางเขน คงจะตกใจเพราะพระนางอดทนจริงๆ ริมฝีปากเธอเงียบ แต่ใจเธอไม่เงียบ พระนางถวายพระบุตรเพื่อความรอดของเรา ดังนั้นที่เชิงกางเขนแม่พระจึงเป็นมารดาของเรา และเราเป็นลูก ๆ ของพระนาง " พระเยซูจึงตรัสแก่พระมารดาว่า " สตรีเอ๋ย นี่แน่ะลูกของท่าน "และตรัสกับอัครสาวกว่า " นี่แน่ะแม่ของเจ้า " ( ยน . 19 : 26 - 27 )
6.พระมารดารับพระศพพระเยซูลงจากกางเขน

จิตใจของพระมารดาไม่สามารถรับความบรรเทาได้ เพราะพระเยซูเจ้าได้สิ้นพระชนม์แล้ว แม้ว่าพระบุตรจะสิ้นพระชนม์แล้ว ก็ยังถูกหอกแทงที่สีข้างด้วยความโหดร้าย " ทหารคนหนึ่งเอาหอกแทงสีข้างของพระองค์ " ( ยน. 19 : 34 ) แม้ว่าพระองค์จะสิ้นพระชนม์แล้วก็ตาม แม่พระรับพระศพพระเยซูลงจากกางเขน ดาบเล่มที่ 6 ได้ทิ่มแทงดวงหทัยของแม่พระ พระนางต้องทรมานทีละอย่างๆ และบัดนี้ทุกอย่างเอามารวมกันทรมานพระนางมากทวีคูณขึ้นไปอีก พระนางยังคงยอมรับทรมาน ซึ่งดูเหมือนว่าความทุกข์นี้ก็ยังคงอยู่เรื่อยๆ เพราะมนุษย์ทำบาป ก็เป็นการทรมานพระองค์ ขอให้เรากลับใจเสียใหม่ ดังที่ประกาศกอิสยาห์กล่าวว่า " จงกลับใจเสียใหม่เถิด " ( อสย. 46 : 8 )
7. ฝังพระศพพระเยซูเจ้า

แม่พระผู้ระทมทุกข์กำลังแบมือรับร่างของพระบุตรที่ไร้ชีวิต เธอคงจะกล่าวเช่นเดียวกับมหาบุรุษโยบว่า " พระองค์ทรงกระทำกับข้าพเจ้าอย่างโหดร้ายนัก " ( โยบ 30 : 21 ) ความโศกเศร้าสุดแสนของแม่พระ พระบุตรยังคงอยู่ในอ้อมแขน พวกศิษย์กลัวแม่พระจะสิ้นใจ จึงรับพระศพไปจากพระนางเพื่อทำพิธีฝัง ถึงเวลาที่ต้องปลงพระศพ พระนางจะปวดร้าวใจสักเพียงใด ที่ต้องกล่าวอำลาครั้งสุดท้าย…แน่นอน ช่างเป็นภาพที่เศร้าสลดและปวดร้าวใจพระนางสุดพรรณา เมื่อคิดถึงโศกนาฏกรรมนี้
แม่พระบอกกับนักบุญบริจิตว่า " บุตรของฉันถูกฝัง แต่มีดวงใจสองดวง ที่ฝังอยู่ที่นั่นด้วย " ที่สุด พวกเขาก็ปิดที่ฝังพระศพของพระเยซูเจ้า ร่างกายนั้นมีค่ามากที่สุดทั้งบนแผ่นดินและในสวรรค์ แม่พระทรงทิ้งดวงใจของพระนางไว้กับพระบุตร เพราะพระองค์มีค่ามากที่สุด " เหตุว่า ทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ใด จิตใจของท่านก็อยู่ที่นั่นด้วย " ( ลก .12 : 34 )
วิดีโอการสวด

วิธีสวดสายประคำแม่พระมหาทุกข์ 7 ประการ
เริ่มต้นที่กางเขน ให้สวด
เชิญเสด็จมาพระจิตเจ้าข้าฯ + ข้าพเจ้าเชื่อถึงพระเป็นเจ้า
+ ข้าแต่พระบิดา + วันทามารีอา 3 บท + สิริพึงมี
***รำพึงทีละข้อ (ตั้งแต่ข้อที่ 1-7)
***จบข้อรำพึงแต่ละข้อให้สวด:
พระมารดามหาทุกข์ ช่วยวิงวอนเทอญ
+ ข้าแต่พระบิดา + วันทามารีอา 7 บท + สิริพึงมี
บทรำพึงสายประคำ “แม่พระมหาทุกข์”
บทภาวนาเปิดการรำพึง
ในมหาทุกข์ของพระนางพรหมจารีมารีอา เราเห็นภาพสะท้อนของ
ความทรมาน และความทุกข์อันขมขื่นของพระคริสตเจ้าในส่วนที่เป็น
มนุษย์ ดังเช่นพระนางมารีอาได้ยอมรับรหัสธรรมของพระคริสตเจ้า
ทั้งหมดเข้าสู่ชีวิตของพระนาง ให้เรามองเห็นการร่วมมีส่วนที่เลือนราง
แต่เป็นการมีส่วนอย่างแท้จริงในมหาทรมาน และการสิ้นพระชนม์ของ
พระองค์ ในเมื่อเราต้องการรับความเศร้าโศก มีความกลัวการถูก
สบประมาท และความอับอายต่างๆ โดยระลึกเสมอว่าถ้าเราปรารถนา
จะติดตามพระองค์ เราต้องรับแบกไม้กางเขนทุกๆวัน
เราจงสวดภาวนา เพื่อให้เรายอมรับกระแสเรียกของพระคริสตเจ้า
และกลายเป็นผู้ร่วมทุกข์ทรมานกับพระมหาทรมาน

การฉลองแม่พระมหาทุกข์นี้ เชิญชวนให้เรารำพึงถึงความทุกข์เจ็บปวดรวดร้าวของพระมารดา 7 อย่างด้วยกัน ที่มีการพูดถึงในพระวรสาร เป็นพระสันตะปาปาปีโอที่ 7 ที่ได้นำการฉลองแม่พระมหาทุกข์เข้ามาในพิธีกรรมของพระศาสนจักร เพื่อเป็นการระลึกถึงความทุกข์ยากลำบากที่จักพรรดินโปเลียนได้กระทำต่อพระศาสนจักร และเป็นต้นที่ได้กระทำต่อประมุขของพระศานจักร
การมีส่วนร่วมในความทุกข์ยากลำบาก ที่พระมารดาพระผู้ไถ่ได้มีร่วมกับพระบุตรของพระนาง ในงานช่วยมนุษย์ให้รอดนั้น ( ลก. 2: 33 - 35 ) เป็นต้นได้แสดงให้เห็นเป็นประจักษ์พยานในชั่วโมงที่พระองค์ถูกตรึงไม้กางเขน
ในปัจจุบันการฉลองการระลึกถึงแม่พระมหาทุกข์นี้ เรามุ่งมาที่ตัวพระนางเอง พระมารดาผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความทุกข์และยัญบูชาของพระคริสตเจ้า ซึ่งพระนางเองได้ทรงถวายแด่พระบิดาพร้อมๆ กับพระบุตร
ความทุกข์ยากเป็นของมนุษย์ทุกคนที่เจริญชีวิตในโลกนี้ ทุกคนต้องเผชิญกับการประจญของปิศาจและความยากลำบากต่างๆ แต่พระองค์ประทานพระหรรษทานให้แก่ทุกคน ให้สามารถต่อสู้ความทุกข์ยากนั้น ตามแต่ความต้องการของแต่ละคน
มหาทุกข์ 7 ประการของพระแม่เปรียบดั่งดาบ 7 เล่มที่เสียบแทงดวงพระหทัยพระนาง คือ
1. คำพยากรณ์ของท่านซีเมโอน

ในพระวิหาร ซีเมโอนรับพระกุมารมาอุ้มไว้ พยากรณ์ว่าเด็กนี้จะเป็นสัญลักษณ์แห่งการขัดแย้ง " กุมารนี้เกิดมาเพื่อความพินาศ และความรอดของคนเป็นอันมากในชาติอิสราเอล และเป็นเสมือนเป้าให้มนุษย์คัดค้าน ส่วนตัวท่าน ( พระนางมารีอา) ก็จะถูกกระบี่ทิ่มแทงดวงใจ " ( ลก. 2: 34 - 35 )
2. พาพระกุมารหนีไปอิยิปต์

ดาบเล่มที่ 2 ที่ทิ่มแทงดวงหทัยของพระนางคือ การที่ต้องพาพระเยซูเจ้าหนีไปอิยิปต์ เพื่อให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของเฮโรด
เฮโรดคอยด้วยความกระวนกระวาย เมื่อทราบข่าวจากบัณฑิตทั้งสามว่า พระเยซูเจ้าบังเกิดที่ไหน จะได้ไปตามฆ่า เมื่อทราบว่าตนถูกหลอก ก็สั่งให้ฆ่าทารกทุกคนในเมืองเบธเลแฮม แต่เทวดาปรากฏมาบอกโยเซฟในฝันว่า " ลุกขึ้นเถิด พาพระกุมารและพระมารดา หนีไปประเทศอิยิปต์ " ( มธ. 2: 13 )
3. พระเยซูเจ้าทรงหายไปในพระวิหาร

ช่างเป็นภาพที่น่ารันทดใจเพียงใด ที่แม่พระต้องปวดร้าวใจตามหาพระเยซูเจ้าตั้งแต่เช้าจรดค่ำตลอด 3 วัน พระนางอาจจะกินข้าวกับน้ำตาเหมือนกับกษัตริย์ดาวิดคร่ำครวญถึงบุตรของตนที่หายไป " ข้าพระองค์กินน้ำตาต่างอาหารทั้งวันและคืน ขณะที่คนพูดกับข้าพระองค์วันแล้ววันเล่าว่า " พระเจ้าของเจ้าอยู่ที่ไหน " "(สดด. 42: 3)
4. พระมารดาพบพระเยซูเจ้าระหว่างทางสู่เนินเขากัลวาลิโอ

ประกาศกอิสยาห์กล่าวว่า " เรามองเห็นพระองค์ในสายตามนุษย์แล้วน่าสงสาร ( อสย . 53 : 2 ) นี่แหละพระบุตรสุดที่รักของพระนาง ไม่รู้ว่าจะช่วยอย่างไร แม่พระคงปรารถนาจะเข้าไปกอดพระบุตร แต่ทหารคงผลักรุนพระเยซูเจ้าไปข้างหน้า และสบประมาทเยาะเย้ยพระนาง…แม่พระยังคงติดตามพระบุตรไป
5. พระเยซูเจ้าถูกตรึงกางเขน

แม่พระเฝ้าดูลูกน้อยที่ถูกปรับโทษถึงตาย ตาย ทั้งๆ ที่ลูกน้อยนั้นเป็นคนบริสุทธิ์ ลูกน้อยที่พระนางรักอย่างสุดหัวใจ แต่กลับถูกทรมานอย่างโหดร้ายสุดประมาณ และตายอยู่ต่อหน้าต่อตาพระนาง " มารีย์ มารดาของพระเยซูเจ้ายืนอยู่ที่เชิงกางเขน " ( ยน . 19 : 25 ) แม่พระยืนอยู่แทบเชิงกางเขน เฝ้าดูพระบุตรถูกทรมาน และกำลังจะสิ้นใจ เขาถอดเสื้อผ้าของพระองค์ออกจับนอนลงกับกางเขน ตอกตะปูที่มือและเท้าอย่างทารุณ ยกกางเขนตั้งขึ้น แล้วปล่อยให้พระองค์สิ้นพระชนม์…พวกเพชรฆาตหนีไป แต่แม่พระมิได้จากไป พระนางเข้าไปใกล้ๆ เชิงกางเขนมากขึ้น ท่านซีมอนแห่งกาเซีย กล่าวว่า " ใครที่เห็นแม่พระยืนนิ่งเงียบโดยไม่บ่นอะไรแทบเชิงกางเขน คงจะตกใจเพราะพระนางอดทนจริงๆ ริมฝีปากเธอเงียบ แต่ใจเธอไม่เงียบ พระนางถวายพระบุตรเพื่อความรอดของเรา ดังนั้นที่เชิงกางเขนแม่พระจึงเป็นมารดาของเรา และเราเป็นลูก ๆ ของพระนาง " พระเยซูจึงตรัสแก่พระมารดาว่า " สตรีเอ๋ย นี่แน่ะลูกของท่าน "และตรัสกับอัครสาวกว่า " นี่แน่ะแม่ของเจ้า " ( ยน . 19 : 26 - 27 )
6.พระมารดารับพระศพพระเยซูลงจากกางเขน

จิตใจของพระมารดาไม่สามารถรับความบรรเทาได้ เพราะพระเยซูเจ้าได้สิ้นพระชนม์แล้ว แม้ว่าพระบุตรจะสิ้นพระชนม์แล้ว ก็ยังถูกหอกแทงที่สีข้างด้วยความโหดร้าย " ทหารคนหนึ่งเอาหอกแทงสีข้างของพระองค์ " ( ยน. 19 : 34 ) แม้ว่าพระองค์จะสิ้นพระชนม์แล้วก็ตาม แม่พระรับพระศพพระเยซูลงจากกางเขน ดาบเล่มที่ 6 ได้ทิ่มแทงดวงหทัยของแม่พระ พระนางต้องทรมานทีละอย่างๆ และบัดนี้ทุกอย่างเอามารวมกันทรมานพระนางมากทวีคูณขึ้นไปอีก พระนางยังคงยอมรับทรมาน ซึ่งดูเหมือนว่าความทุกข์นี้ก็ยังคงอยู่เรื่อยๆ เพราะมนุษย์ทำบาป ก็เป็นการทรมานพระองค์ ขอให้เรากลับใจเสียใหม่ ดังที่ประกาศกอิสยาห์กล่าวว่า " จงกลับใจเสียใหม่เถิด " ( อสย. 46 : 8 )
7. ฝังพระศพพระเยซูเจ้า

แม่พระผู้ระทมทุกข์กำลังแบมือรับร่างของพระบุตรที่ไร้ชีวิต เธอคงจะกล่าวเช่นเดียวกับมหาบุรุษโยบว่า " พระองค์ทรงกระทำกับข้าพเจ้าอย่างโหดร้ายนัก " ( โยบ 30 : 21 ) ความโศกเศร้าสุดแสนของแม่พระ พระบุตรยังคงอยู่ในอ้อมแขน พวกศิษย์กลัวแม่พระจะสิ้นใจ จึงรับพระศพไปจากพระนางเพื่อทำพิธีฝัง ถึงเวลาที่ต้องปลงพระศพ พระนางจะปวดร้าวใจสักเพียงใด ที่ต้องกล่าวอำลาครั้งสุดท้าย…แน่นอน ช่างเป็นภาพที่เศร้าสลดและปวดร้าวใจพระนางสุดพรรณา เมื่อคิดถึงโศกนาฏกรรมนี้
แม่พระบอกกับนักบุญบริจิตว่า " บุตรของฉันถูกฝัง แต่มีดวงใจสองดวง ที่ฝังอยู่ที่นั่นด้วย " ที่สุด พวกเขาก็ปิดที่ฝังพระศพของพระเยซูเจ้า ร่างกายนั้นมีค่ามากที่สุดทั้งบนแผ่นดินและในสวรรค์ แม่พระทรงทิ้งดวงใจของพระนางไว้กับพระบุตร เพราะพระองค์มีค่ามากที่สุด " เหตุว่า ทรัพย์สมบัติของท่านอยู่ที่ใด จิตใจของท่านก็อยู่ที่นั่นด้วย " ( ลก .12 : 34 )
วิดีโอการสวด
-
- โพสต์: 361
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 08, 2012 8:57 pm
ไม่เป็นไรจ้าพี่สวดเป็นแล้ว ว่าแต่สวดสายประคำแม่พระมหาทุกข์นี้ เราจะได้รับพระคุณอะไรพิเศษอ๊เปล่าน๊ >< 

น้อง Sun ขยันหามาเผยแพร่ได้ ดีจริงๆ ดาบทุกเล่มที่เสียบบนหัวใจแม่
มีความหมาย ความทุกข์ของแม่มากมาย แต่แม่ก็ยอมรับด้วยความนบน้อบ
พวกเราร่วมสวด พลีกรรมแม้นเรื่องเล็กๆน้อยๆ ยกถวายแด่พระแม่ บรรเทาใจแม่
ที่ลูกๆยังรักแม่คิดถึงแม่ จำไว้แม้นใครลืมแม่ แต่แม่ไม่มีวันลืมลูกๆของแม่แน่นอน
(เดือนนี้เป็นเดือนแม่พระน้องๆอย่าลืมสวดสายประคำเป็นพิเศษนะคะและยังได้
ร่วมสวดพร้อมกันทั่วโลก ตลอดเดือนนี้ทั่วโลกพร้อมเพียงไม่สิ้นเสียงสวดสายประคำ)

มีความหมาย ความทุกข์ของแม่มากมาย แต่แม่ก็ยอมรับด้วยความนบน้อบ
พวกเราร่วมสวด พลีกรรมแม้นเรื่องเล็กๆน้อยๆ ยกถวายแด่พระแม่ บรรเทาใจแม่
ที่ลูกๆยังรักแม่คิดถึงแม่ จำไว้แม้นใครลืมแม่ แต่แม่ไม่มีวันลืมลูกๆของแม่แน่นอน
(เดือนนี้เป็นเดือนแม่พระน้องๆอย่าลืมสวดสายประคำเป็นพิเศษนะคะและยังได้
ร่วมสวดพร้อมกันทั่วโลก ตลอดเดือนนี้ทั่วโลกพร้อมเพียงไม่สิ้นเสียงสวดสายประคำ)



-
- โพสต์: 413
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 22, 2011 8:16 pm
พระนางพรหมจารีมารีอาทรงประทานพระหรรษทานเจ็ดประการแก่คริสตชนผู้ถวายเกียรติแด่พระนางทุกวันโดยสวดบทวันทามารีอา
และรำพึงถึงมหาทุกข์ของพระนาง นักบุญบริดยิทเป็นคนแรกเผยแพร่ความศรัทธานี้
พระนางมารีอาสัญญาว่า:
1. แม่จะประทานสันติสุขแก่ครอบครัวของผู้มีความศรัทธาต่อมหาทุกข์เจ็ดประการ
2. เขาจะได้รับความสว่างสามารถเข้าใจรหัสธรรมลึกล้ำต่างๆ
3. แม่จะมาบรรเทาทุกข์เขาในยามเจ็บป่วยและเป็นเพื่อนเขาในเวลาทำงาน
4. แม่จะประทานสิ่งที่เขาขอจากแม่ ถ้าสิ่งนั้นไม่ขัดต่อน้ำพระทัยของพระบุตรและความศักดิ์สิทธิ์ของวิญญาณ
5. แม่จะพิทักษ์เขาในการต่อสู้กับฤทธิ์อำนาจของเจ้าแห่งความมืด และปกป้องคุ้มครองเขาทุกเวลาในระหว่างยังมีชีวิตอยู่
6. เขาจะได้เห็นแม่มาช่วยเขาในวาระสุดท้าย
7. แม่ได้ขอพระหรรษทานนี้จากองค์พระบุตรสำหรับคนที่เผยแพร่ความศรัทธาต่อมหา ทุกข์เจ็ดประการ หลังจากความตายในโลกนี้เขาจะได้เข้าสวรรค์โดยตรง เพราะพระบุตรจะให้อภัยบาปทั้งหมด และพระองค์จะเป็นความบรรเทาใจและความชื่นชมยินดีของเขาชั่วนิรันดร
http://www.reocities.com/prakobkit/new3/07.html
และรำพึงถึงมหาทุกข์ของพระนาง นักบุญบริดยิทเป็นคนแรกเผยแพร่ความศรัทธานี้
พระนางมารีอาสัญญาว่า:
1. แม่จะประทานสันติสุขแก่ครอบครัวของผู้มีความศรัทธาต่อมหาทุกข์เจ็ดประการ
2. เขาจะได้รับความสว่างสามารถเข้าใจรหัสธรรมลึกล้ำต่างๆ
3. แม่จะมาบรรเทาทุกข์เขาในยามเจ็บป่วยและเป็นเพื่อนเขาในเวลาทำงาน
4. แม่จะประทานสิ่งที่เขาขอจากแม่ ถ้าสิ่งนั้นไม่ขัดต่อน้ำพระทัยของพระบุตรและความศักดิ์สิทธิ์ของวิญญาณ
5. แม่จะพิทักษ์เขาในการต่อสู้กับฤทธิ์อำนาจของเจ้าแห่งความมืด และปกป้องคุ้มครองเขาทุกเวลาในระหว่างยังมีชีวิตอยู่
6. เขาจะได้เห็นแม่มาช่วยเขาในวาระสุดท้าย
7. แม่ได้ขอพระหรรษทานนี้จากองค์พระบุตรสำหรับคนที่เผยแพร่ความศรัทธาต่อมหา ทุกข์เจ็ดประการ หลังจากความตายในโลกนี้เขาจะได้เข้าสวรรค์โดยตรง เพราะพระบุตรจะให้อภัยบาปทั้งหมด และพระองค์จะเป็นความบรรเทาใจและความชื่นชมยินดีของเขาชั่วนิรันดร
http://www.reocities.com/prakobkit/new3/07.html
-
- โพสต์: 361
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 08, 2012 8:57 pm
หนูเมอิจิ หนูก้สวดด้วยสิน๊ะคะ



-
- โพสต์: 361
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ส.ค. 08, 2012 8:57 pm
น่า ลองสวดดูน่ะ ไม่ยากๆจ๊ะ ^^
หนึ่งในรูปลักษณ์ความศรัทธาที่โรมันคาทอลิกมีต่อพระแม่มารีอาก็คือ พระมารดามหาทุกข์ (Our Lady of Sorrows, Sorrowful Mother, Mother of Sorrows, Our Lady of the Seven Sorrows and Our Lady of the Seven Dolours) ที่สาธุชนรำลึกรำพึงถึงความทุกข์ 7 ประการของพระแม่ ในขณะสวดสายประคำแม่พระมหาทุกข์ (The Chaplet of the Seven Sorrows of Our Lady) และสวดสายประคำของนักบวชคณะผู้รับใช้พระแม่มารีอา (Servite Rosary) เริ่มแพร่หลายเมื่อประมาณ 800 ปีที่ผ่านมา วันฉลองแม่พระมหาทุกข์เริ่มที่เมืองโคโลญจน์ (Cologne) ประเทศเยอรมนี เมื่อปีค.ศ. 1413 (588 ปีที่ผ่านมา)
7 มหาทุกข์ของพระแม่มารีอา มีดังนี้ครับ
1) คำทำนายของซีเมโอน (Luke 2:34-35)
2) การหนีภัยไปอียิปต์ (Matthew 2:13)
3) การพลัดพรากจากพระกุมารเยซูเจ้าในพระวิหาร (Luke 2:43-45)
4) พระแม่ทรงพบพระเยซูเจ้าในระหว่างการแบกกางเขนไถ่บาปมวลมนุษยชาติของพระองค์ (Luke 23:26)
5) พระเยซูเจ้าทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน (John 19:25)
6) พระแม่ทรงรับพระกายของพระเยซูเจ้าในอ้อมแขน (Matthew 27:57-59)
7) พระกายของพระเยซูเจ้าทรงถูกวางลงในหลุมศพ (John 19:40-42)
http://en.wikipedia.org/wiki/Our_Lady_of_Sorrows
7 มหาทุกข์ของพระแม่มารีอา มีดังนี้ครับ
1) คำทำนายของซีเมโอน (Luke 2:34-35)
2) การหนีภัยไปอียิปต์ (Matthew 2:13)
3) การพลัดพรากจากพระกุมารเยซูเจ้าในพระวิหาร (Luke 2:43-45)
4) พระแม่ทรงพบพระเยซูเจ้าในระหว่างการแบกกางเขนไถ่บาปมวลมนุษยชาติของพระองค์ (Luke 23:26)
5) พระเยซูเจ้าทรงสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน (John 19:25)
6) พระแม่ทรงรับพระกายของพระเยซูเจ้าในอ้อมแขน (Matthew 27:57-59)
7) พระกายของพระเยซูเจ้าทรงถูกวางลงในหลุมศพ (John 19:40-42)
http://en.wikipedia.org/wiki/Our_Lady_of_Sorrows
Dear rosa-lee,
I have submitted เยี่ยมคารวะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งชาติ แม่พระมหาทุกข์ พอร์ทแลนด์
โอเรกอน สหรัฐอเมริกา
(The National Sanctuary of Our Sorrowful Mother, Portland, Oregon, U.S.A.)
to the administrator and it should be posted soon.
R'Sayan
I have submitted เยี่ยมคารวะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งชาติ แม่พระมหาทุกข์ พอร์ทแลนด์
โอเรกอน สหรัฐอเมริกา
(The National Sanctuary of Our Sorrowful Mother, Portland, Oregon, U.S.A.)
to the administrator and it should be posted soon.

R'Sayan