
-เถ้าเป็นเครื่องหมายของ “ความทุกข์ถึงบาป” “จงกลับใจใช้โทษบาปและเชื่อพระวรสารเถิด” (มก1:15)
-เถ้ายังหมายถึงสภาพของมนุษย์คนบาปซึ่งพยายามแสดงความสำนึกผิดของตนต่อพระเจ้าออกมา
เป็นพิธีภายนอก “มนุษย์เอ๋ยจงระลึกเถิดว่าเจ้าเป็นแค่ฝุ่นดินและจะกลับเป็นฝุ่นดินอีก”(ปฐก3:19)
-เถ้ายังอาจหมายถึงความสกปรก(บาป)ซึ่งใช้น้ำชำระให้สะอาดได้(ศีลล้างบาป)

-ธรรมเนียมที่ให้โรยเถ้าที่ได้จากใบลานซึ่งเสกในปีก่อนนั้นมีความหมายดีเพราะใบลานหมายถึง
ชัยชนะของพระเยซูเจ้าในฐานะกษัตริย์ในการเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างสง่า(ภาพอนาคตของ
การกลับคืนชีพ) เมื่อเอามาเผาเป็นเถ้าและโรยเพื่อเตือนใจให้คริสตชนใช้โทษบาปแล้วยังเป็นสิ่งที่
บอกคริสตชนว่าการใช้โทษบาปนี้มีเป้าหมายเพื่อเตรียมการฉลองชัยชนะแห่งการกลับคืนชีพของพระเยซูเจ้า
ในบทเสกเถ้าทั้ง2แบบให้ความหมายอย่างชัดเจนว่าเทศกาลมหาพรตเป็นช่วงเวลาที่คริสตชนเตรี
ยมสมโภชปัสกา
-“ขอโปรดสดับฟังคำอ้อนวอนของข้าพเจ้าทั้งหลาย และทรงพระเมตตาประทานพระพรแก่ข้ารับใช้ของพระองค์ ผู้เข้ามารับการโรยเถ้าเหล่านี้ ขอให้ทุกคนทำกิจการใช้โทษบาปตลอดเทศกาลมหาพรตเพื่อจะได้เป็นผู้เหมาะสมที่จะระลึกถึงการสิ้นพระชนม์และกลับคืนชีพขององค์พระบุตร...”
(บทภาวนาเสกเถ้าแบบที่1)

เครื่องหมายของการเป็นทุกข์กลับใจในพิธีกรรม “พิธีเสกและโรยเถ้า” แสดงออกอย่างชัดเจนในชีวิตคริสตชนเห็นได้จากการที่วันพุธรับเถ้าเป็นวันใช้โทษบาปสากลของพระศาสนจักรโดยคริสตชนผู้มีอายุตั้งแต่ 14 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปต้องอดเนื้อ และคริสตชนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป จนถึงอายุ
59 ปีบริบูรณ์ต้องอดอาหาร
-พระศาสนจักรสากลยังคำนึงถึงประเพณีและวัฒนธรรมของท้องถิ่นด้วย เช่น ปีที่วันพุธรับเถ้าตรงกับวันตรุษจีนพอดี พระสังฆราชสมณประมุขท้องถิ่นจะเป็นผู้กำหนดในเรื่องการรับเถ้าและวันในการ
จำศีลอดอาหารเพื่อเป็นประโยชน์ที่สุดในการอภิบาลพี่น้องคริสตชนในความปกครองของพระคุณเจ้าซึ่งแต่ละสังฆมณฑลจะมีการประกาศในเรื่องนี้
---ที่มา คณะกรรมการคาทอลิกเพื่อพิธีกรรม