ขอบอกเล่าประสบการณ์

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
Chewalia Derbermong
โพสต์: 17
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 30, 2012 6:13 am

เสาร์ มี.ค. 08, 2014 9:07 pm

กระผมอยากขอแบ่งปันประสบการณ์หน่อยนะครับ
หลังสอบ ผมเจอคุณครู วิชาพระพุทธศาสนา ผมโต้เถียงกันอย่างหนักว่าด้วยเรื่อง
หลักการการมีพระเจ้า คุณครูท่านบอกกระผมว่า ผมปัญญาอ่อนบ้าไปแล้ว พวกคริสต์อะไร ๆ ก็พระเจ้า ๆ แกจะบ้าเหรอ เป็นพุทธน่ะดีแล้ว ครูเตือนเธอในฐานะที่เป็นพุทธด้วยกันนะ ลองไปคิดดูให้ดี ครูว่าเธอ ๆ ชักจะไปกันใหญ่แล้วนะ

กับคำถาม : ทำไมเธอถึงอยากเปลี่ยนศาสนาล่ะ
ตอบ : ผมอ่านในไบเบิล ผมเห็นภาพพระเยซู กับสาวกน่านับถือและประทับใจในพระองค์ตั้งแต่อ่านไบเบิล ผมเลยอยากเปลี่ยนครับ

ครูตอบ : เธออ่านพระไตรปิฎกหมดหรือยัง ไบเบิลยังเทียบไม่ได้กับพระไตรปิฎก กลับไปอ่านมาให้ดีแล้วคิดใหม่นะ

ความคิดส่วนตัว : เราเป็นนักเรียน สอบได้นักธรรมเอกแล้วเห็นสัจธรรมหลาย ๆ อย่างจากการศึกษาวิชาพระพุทธศาสนาของไทย ผิดพลาดอย่างรุนแรง ตามค่านิยม คนจำได้มาก คะแนนมาก - -


1 บังคับให้ท่องหลักธรรมทุกข้อในหนังสือเรียนเอาให้จำได้แล้วไปสอบ ทำให้ไม่ชอบวิชาพระพุทธศาสนาเปนอันมาก

2 เราอ่านผลงานท่าน พุทธทาส ท่านบอกว่า หลักธรรมเป็นเหมือนเครื่องมือ เรามีปัญหาชนิดไหน ควรใช้เครื่องมือชนิดนั้น ใยจึงต้องไปหอบเครื่องมือทั้งหมด ใยต้องไปนั่งท่องไตรปิฎกทั้งหมด ที่เรียกว่าหลักธรรมกันให้หนักเสียเปล่า และเมื่อปัญหานั้นคลี่คลาย ใยต้องหอบเครื่องมือต่อไป ให้วางทิ้งไว้ เหมือนเราใช้เรือ ใช้เรือข้ามเวียนว่ายตายเกิดได้แล้วให้จอดเรือไว้ที่ฝั่ง ใยต้องหอบเรือขึ้นฝั่งตามไป หนักเปล่า
และอ่าน ศาสนาเปรียบเทียบของท่านพุทธทาส เป็นสากลมาก ๆ ปาฐกถา ซินแคลร์ ทอมสัน หาอ่านเอานะถ้าอยากรู้ ท่านไม่ตำหนิผู้เปลี่ยนศาสนา ท่านกล่าวว่า ทุกศาสนา เป็นเจตจำนงของพระเจ้า หรือธรรมชาติในศาสนาพุทธ พระเจ้าท่านอาจตรัสอีกอย่างกับคนในอีกยุค อีกสมัย อีกสถานที่หนึ่งตามความเหมาะสม พระเจ้าอาจพูดกับคนอีกสถานที่หนึ่งอีกยุคหนึ่งคนละอย่างกันตามความ เหมาะสม เหมือนกับในแต่ละยุคสมัย ที่ศาสดา ลงมาในแต่ละพื้นที่ ย่อมมีความเหมาะสมกับสภาพต่าง ๆ ของพื้นที่นั้น ลองหาอ่านรับรองเข้าใจแน่นแน่
พุทธทาสบอกว่า ศาสนาที่สอนให้คนทำดี ละเว้นความชั่ว คือพระประสงค์ของพระเจ้าด้วยกันทั้งนั้น
( เป็นหลักเทียบปัจจุบันได้เลย ศาสนาไหนสอนให้ฆ่าคน ...ไม่ได้มาจากพระเจ้าแน่นอน พระองค์สอนให้รักกัน เพราะมันมักชอบใช้อ้างอยู่ ทำเพื่อพระเจ้า อะไรแบบนี้ )
เราไม่ได้มาเผยแผ่ศาสนานะ เพราะรับทำพิธีแสดงตนว่านับถือพระเยซูเป็นพระบุตรของพระเจ้าแล้ว
แต่ความรู้มันก็สัจจาดาต้ามันคงอยู่ต่อไป : )

ตัดเข้าเหตการณ์ : หลังจากนั้น คุณครูก็เริ่มพูดเสียดสีเกี่ยวกับศีลอภัยบาป ของพระคริสต์
เธอ ยกตัวอย่างว่า งั้น ผู้ร้ายฆ่าคน ไปสารบาปก็หมดบาปแล้วสิ จะบ้าเหรอ
เรารู้สึกเสียใจที่ครูเข้าใจผิด เราแก้ต่างให้กับศีลอภัยบาปของพระคริสต์ว่า
ครูครับ มันมี บาปหนัก กับ บาปเบา
การฆ่าคนเป็นบาปหนัก ไม่สามารถชำระได้ แต่ถ้าเขาสารภาพบาป เขาได้รับการอภัยชั่วคราวทางจิตวิญญาณ และลดความทรมาณใจลง แต่เขาต้องได้รับการพิพากษาตามสิ่งที่เขากระทำทั้งในโลกนี้และโลกหน้าแน่นนอน ไม่ได้รับการอภัยตามที่เข้าใจ // คุณครูตัดบทบอกให้หยุด หยุดพูดในเมื่อเธอไม่ฟัง มันก็แล้วแต่เธอตัดสินใจแล้วกัน คิดดูให้ดี ๆ ล่ะ

ครูพูดต่อว่า นับถือพระเจ้าก็เข้าถึงสวรรค์แค่ชั้นล่าง ๆ ไม่เหมือนกับพวกพุทธ ที่เข้าถึงสวรรค์ชั้นสูงกว่าและไปนิพพานได้ เธอไม่อยากไปนิพพานหรือ ( เหยียดเลย )
เราตอบไปว่า : ครูครับ อาณาจักรสวรรค์ คือที่ ซึ่งเป็น อนันต์สุข นิพพานก็คือที่ซึ่งเป็นอนันต์สุข มีคุณหมอซึ่งเป็นทหารคนหนึ่ง ยืนยันว่ามันเป็นสถานที่ ที่เหมือนกัน ( เป็นนักพูด พูดให้ นร.ฟัง )
ครูตอบว่า ก็แล้วแต่เธอ

เรารู้สึกเสียใจจนแทบร้องไห้นะ ที่ครูไม่เข้าใจศาสนาคริสต์ เลย ในหนังสือเรียนเน้นแต่ศาสนาพุทธ สังเกตดูให้ดีนะ ในหนังสือเรียนพระพุทธศาสนา เขาจะบอกข้อมูลของศาสนาอื่น ๆ ให้เข้าทำนองว่า งมงาย เขียนตรง ๆ เลย เชื่อในการมีอยู่ของพระเจ้า เชื่อว่าพระเจ้ามีอยู่จริง - - แล้วพระเจ้าไม่มีจริงหรือไงกัน เราเห็นมนุษย์ก็รู้แล้วว่า มนุษย์ ต้องมาจากสิ่งที่วิเศษ เหมือนเ็ห็นคอมพิวเตอร์อ่ะ จะนึกว่ามันเกิดจาก เศษเหล็กที่บังเอิญถูกลมพัดมารวมกันหรือไง ทุกสิ่งมีผู้สร้าง
แล้วเขียนทำนองว่า ศาสนาอื่น ๆ มีแต่ความแตกแยกจากการแบ่งนิกาย สงคราม ลามไปถึงการก่อการร้ายจากศาสนา ทำให้ดูเหมือนว่า ศาสนาพุทธ สงบสุขที่สุด เราไม่โจมตีศาสนาพุทธนะ แต่โจมตีคนทำหนังสือเรียนโดยตรงตางหาก ถ้าบังเอิญเข้ามาอ่านขอให้รู้ด้วย ควรให้ความสำคัญกับทุกศาสนา
เท่าเทียมกัน ไม่ดูถูกศาสนาหนึ่ง ท่านพุทธทาสบอกว่า มนุษย์ต่างหากที่เป็นคนแบ่งศาสนา เพื่อก่อให้เกิดอำนาจ หรือเอกภาพอื่น ๆ ซึ่งศาสดาแต่ละพระองค์ ที่เสด็จมา ไม่ได้ บอกเลยว่า
เรา / อาตมา / มาเพื่อก่อตั้งศาสนา....นี้ ทุกคัมภีร์ไม่มีเลย เป็นเพราะมนุษย์ที่มาแบ่งในภายหลัง

แต่เราประทับใจอยู่อย่างหนึ่งนะ ตอนเราประกาศในโรงเรียน ที่มีแต่ชาวพุทธ แล้วเขาหาว่าเราบ้า
จนรุ่นน้องหมดความนับถือไปเลย เราอยู่ ม.5 เป็นประธาน รร. เราบอกว่า จงกลับใจเถิด พระอาณาจักรใกล้มาถึงแล้ว เราพูดด้วยความกล้า ที่มันล้นใจจนฮึกเหิมมาก ๆ หยุดทำชั่ว ทำความดีเถิด พระอาณาจักรใกล้มาถึงแล้ว เราพูดอยู่อย่างนี้ เสมอ ๆ จนวันที่โต้วาทีตีวาทะกับครูวิชาพระพุทธนั่นล่ะ เราไม่กลัวเลยนะ พอคิด ๆ ดูถึงสิ่งที่พูดโต้ครูไป ก็ไม่อยากเชื่อว่าเราจะพูดแบบนั้นออกไปได้ อย่างตอนแก้ต่างศีลอภัยบาป เรารู้จริง ไม่รู้รายละเอียดหรอก รู้แต่ว่า มีบาปเบา กับ บาปหนักแค่นั้นเอง ที่รู้มา เรายังทึ่งอ่ะ อาจเป็นการดลใจให้พูดเช่นนั้น เรามาเพื่อยืนยันถึงการมีอยู่จริงของพระเจ้าให้กับผู้เชื่อใหม่นะ สิ่งเหล่านี้ เป็นสิ่งที่รู้ได้เฉพาะบุคคล แสวงหาพระองค์ด้วยใจจริงนะแล้วพระองค์จะทรงเปิดเผยแก่เรา เหมือนลม ไม่เห็นแต่สัมผัส แต่รู้สึก ได้

เราอยากถามว่า
คนที่บอกว่าไม่มีพระเจ้า และดูถูกผู้ที่นับถือพระเจ้าบาปไหม ถ้าเราอฐิษฐานขอทรงอภัยที่เขาพูดาแบบนั้น เขาได้รับการอภัยไหม ไม่รวมคำพูดดูถูกพระจิตเจ้านะ

ประธาน นร. ถ้าไม่ได้นับถือพุทธ เป็นได้ไหม เพราะงาน รร. มันเกี่ยวกับพิธี อื้อเลย เราสมควรลาออกหรือเปล่า ตอนนี้ เราให้คนอื่นทำแทนเราด้านพิธีไปแล้วล่ะ แต่งานบางอย่างประธานต้องทำเอง เราว่าไม่สมควรเลยเช่น นำสวดมนต์ใหญ่วันสำคัญ

เราโต้เรื่องหลักการปาสคาลไป เราอยากถามว่า เราใช้ประกาศได้หรือเปล่า

ถ้าไม่มีพระเจ้า คนนับถือเมื่อตายไปก็ไม่เสียประโยชน์อะไร ผู้ไม่นับถือก็เช่นกัน และผู้ดูถูกก็ไม่เป็นอะไร

แต่ถ้ามีพระเจ้า คนนับถือก็ได้รับความปิติ ผู้ที่ไม่นับถือแต่ไม่ดูถูกก็เฉย ๆ ไม่เป็นไร ผู้ดูถูกก็บาป

ขอบคุณสำหรับการอ่านความในใจของกระผมมาจนหมดนะครับ
ข้อสุดท้าย ผมเป็นเกย์ แต่ไม่เคย มีเพศสัมพันธุ์กับใคร และตั้งใจเป็นโสด อย่างนี้บาปหรือเปล่าครับ

หากเราคบกันเป็นแฟน แต่เป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก ๆดีกันมาก ๆ แค่นั้น ความสัมพันธ์ไม่เกินเลย และไม่มีเพศสัมพันธุ์แน่นอน เพราะหัวโบราณด้วยกันทั้งคู่ : ) เป็นบาปหรือเปล่าครับที่ผมเป็นอย่างนี้

ขอบคุณสำหรับการตอบคำถามครับ
( ขอปกปิดชื่อ เนื่องด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย . ทางบ้านไม่รู้เลยว่าเราเปลี่ยนศาสนาแล้ว และเราเป็นเกย์ ทางบ้านก็ไม่รู้ด้วย )
หากอยากส่งข้อความหากระผม chewalia@hotmail.com

ป้องกันการดราม่าไว้ก่อน
1. ไม่ได้มาเผยแผ่ศาสนา
2. ไม่ได้มาสร้า้งความแตกแยกระหว่างศาสนา
3. ไม่ได้แต่งเรื่องขึ้นเพื่อเอาความสนุกสนาน
4. ถ้ามีการพิพาท หรือหาเรื่องจากกระทู้ หรืออยากพิพาทกับเจ้าของกระทู้ให้ติดต่อกลับที่อีเมลล์
5. เจ้าของกระทู้ไม่ยินดีกับคำหยาบคาย คำดูหมิ่นเหยียดหยามทำลายสิ่งที่ผู้อื่นศรัทธา แม้จะต้องถูกพระเจ้าพิพากษาอยู่แล้ว สำหรับผู้ที่กระทำการไม่ดี แต่หากกระทำการดูหมิ่นในกระทู้นี้ เจ้าของกระทู้จะขอชำระเป็นรายบุคคล และพิพากษาชั้นต้นให้กับผู้นั้น
6. จงให้คำพูดของท่าน จรรโลงจิตใจคนอื่น...

ขอบคุณครับ.
Lookwa_Dolphin
โพสต์: 17
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 10, 2014 8:49 am

อาทิตย์ มี.ค. 09, 2014 1:22 pm

สวัสดีค่ะ เคยโดนถามเรื่องศีลอภัยบาปเหมือนกันค่ะ เราอธิบายไปเท่าไหร่ แต่คนถามเขายังมีอคติไม่เปิดใจรับฟัง
ถึงเราอธิบายชัดเจน เขาก็คงไม่เข้าใจอยู่ดี
ยอมรับว่าตอนแรกๆรู้สึกเหนื่อยเหมือนกันที่เขาเข้ามาถาม แต่กลับไม่เปิดใจรับฟังเราเลย
ได้แต่ภาวนาให้เขาเปิดใจ และได้เรียนรู้ที่จะรู้จักพระเจ้า ได้เรียนรู้ว่าพระองค์ทรงมีแต่ความเมตตา

เรียนคำสอนกับคุณพ่อ บอกว่า การที่เราทำบาป ถ้าผิดกฎหมาย จะต้องโดนลงโทษตามกฎหมายอยู่แล้ว จะเข้าคุก หรืออะไรก็แล้วแต่
แต่ส่วนตัวคิดว่าในเชิงจิตวิญญาน ถ้าเรามีความสำนึกผิดบาปด้วยใจจริง และความตั้งใจจริงที่จะแก้ไขและไม่ทำผิดอีก
ซึ่งพระองค์ทรงเป็นพระผู้เมตตาย่อมให้อภัยบาปแก่เรา

ที่พระเยซูคริสตเจ้าทรงตั้งศีลอภัยบาปนี้ขึ้น เพื่อทรงช่วยให้มนุษย์จะได้สามารถชำระล้างมลทินบาปและความผิดให้หมดไป ให้มีชีวิตพระหรรษทานเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าอีกครั้งหนึ่ง

บทความข้างล่างนี้ อ่านเจอ แล้วชอบค่ะ

พวกเราหลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยิน
ผู้ที่ไม่ใช่คาทอลิกพูดว่า

“เป็นคริสต์ดีเหลือเกินนะ ทำบาปแล้วก็ไปแก้ได้ แก้แล้วได้รับการอภัย”

คำพูดเช่นนี้ ดูเหมือนว่า

การรับศีลอภัยบาป เป็นสิ่งที่ส่งเสริมทำให้เราทำบาปกันง่าย ๆ
เพราะทำบาปแล้วก็มาแก้

แต่ความจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่
เนื่องจากการรับศีลอภัยบาป

จะเกิดประสิทธิภาพประสิทธิผลอย่างเต็มที่

ต่อเมื่อ ผู้ไปรับศีลอภัยบาป
จะต้องปฏิบัติ สิ่งที่เป็นแก่นสำคัญของศีลอภัยบาปอย่างครบครัน พอสมควรด้วย

อาทิ การเป็นทุกข์ถึงบาปอย่างบริบูรณ์

การไปสารภาพบาปอย่างครบถ้วน

ความตั้งใจที่จะไม่ทำอีก

การชดเชยใช้โทษบาปตามความยุติธรรม ฯลฯ

เมื่อเป็นเช่นนี้ศีลอภัยบาป
จะเกิดผลตามความหมาย

ก็ต่อเมื่อผู้รับ ต้องมีความจริงจังและจริงใจ
ในการเตรียมตัวเตรียมจิตใจอย่างดี

สำหรับกิจใช้โทษบาป
ที่พระสงฆ์ให้ในการรับศีลอภัยบาป

ถือเป็นการย้ำเตือนว่า
เราต้องทำกิจใช้โทษบาปอยู่เสมอ

เพราะโทษบาป ต้องได้รับการชดเชย
ตามความยุติธรรม
Lookwa_Dolphin
โพสต์: 17
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 10, 2014 8:49 am

อาทิตย์ มี.ค. 09, 2014 1:29 pm

เพิ่มเติมค่ะ ส่วนตัวคิดว่า การเป็นเกย์ ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ และตั้งใจจริงจะครองตัวเป็นโสด ไม่บาปนะคะ
แต่เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมมากค่ะ ขอให้พระเจ้าประทานพรแก่น้องนะคะ



ลูกจะดำเนินชีวิตอยู่ในความเชื่อ และความไว้วางใจในพระองค์ ขอขอบคุณพระองค์ที่ทรงรักลูกเสมอมา :s012: :s002:
ภาพประจำตัวสมาชิก
sunofgod
โพสต์: 2477
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 18, 2011 8:17 pm

อาทิตย์ มี.ค. 09, 2014 2:06 pm

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าต้องปล่อยวางครับ เลิกโต้กับเขาไปเลย เพราะใจเค้ากระด้างเกินกว่าจะรับได้ ยิ่งพูดเหมือนยิ่งทำให้เค้าเกลียด เราทำได้แค่สวดภาวนาให้เขาครับ เค้าพูดมาเหมือนในทางที่ตนเองดีพร้อมแล้ว แต่มันก็ไม่ใช่ เป็นไม่ได้หรอกครับที่เค้าจะรู้พระธรรมทั้งหมดของเขาหรอกครับ และ เค้าก็ไม่ได้ดูเป็นพุทธที่ดีจากการปกป้องหรือขัดค้านคนที่เปลี่ยนศาสนาเลย เพราะ การเป็นพุทธที่ดี ไม่ใช่อย่างนี้แน่ ถ้าการเป็นพุทธที่ดีแล้วส่อเสียดดูหมิ่นศาสนาอื่นได้นิพพาน เป็นไปไม่ได้แน่

๏ ขนฺตี ปรมํ ตโป ตีติกฺขา
นิพฺพานํ ปรมํ วทนฺติ พุทฺธา
น หิ ปพฺพชิโต ปรูปฆาตี
สมโณ โหติ ปรํ วิเหฐยนฺโตฯ
๏ ขันติ คือความอดกลั้น เป็นตบะอย่างยิ่ง
พระพุทธเจ้าทั้งหลายกล่าวว่า นิพพานเป็นบรมธรรม
ผู้ทำร้ายคนอื่น ไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิต
ผู้เบียดเบียนคนอื่น ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะ

๏ สพฺพปาปสฺส อกรณํ
กุสลสฺสูปสมฺปทา
สจิตฺตปริโยทปนํ
เอตํ พุทฺธานสาสนํฯ
๏ การไม่ทำความชั่วทั้งปวง 1
การบำเพ็ญแต่ความดี 1
การทำจิตของตนให้ผ่องใส 1
นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย


๏ อนูปวาโท อนูปฆาโต
ปาติโมกฺเข จ สํวโร
มตฺตญฺญุตา จ ภตฺตสฺมึ
ปนฺตญฺจ สยนาสนํ
อธิจิตฺเต จ อาโยโค
เอตํ พุทฺธาน สาสนํฯ
๏ การไม่กล่าวร้าย 1 การไม่ทำร้าย 1
ความสำรวมในปาติโมกข์ 1
ความเป็นผู้รู้จักประมาณในอาหาร 1
ที่นั่งนอนอันสงัด 1
ความเพียรในอธิจิต 1
นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย



เราก็อย่าไปโกรธเคืองอะไรเค้า ปล่อยวาง แล้วดำเนินตามพระวรสาร ด้วยความจริงที่ว่า

"อย่าไปตัดสินเขา แล้วพระเจ้าจะไม่ตัดสินท่าน"

"ท่านใช้ทะนานตวงให้เขาอย่างไร พระเจ้าจะใช้ทะนานนั้นตวงให้ท่าน"

"พระองค์ตรัส เราคือ หนทาง ความจริง และ ชีวิต"

ขอพระเจ้าอวยพรครูท่านนั้น และ พี่ครับ :s002:
ภาพประจำตัวสมาชิก
siritawatss
โพสต์: 559
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ พ.ย. 18, 2012 8:11 pm
ที่อยู่: อ มะขาม จ จันทบุรี
ติดต่อ:

อาทิตย์ มี.ค. 09, 2014 7:34 pm

ผมเห็นหลายคนเเล้วนะ ที่มีความเชื่อความศรัทรา จะได้รับการดลใจจากพระจิตเจ้า จะเเปลกใจตนเองว่า เราทำเเบบนั้นไปได้อย่างไร ไม่น่าเชื่อว่าเราจะทำได้ คุณตอบคุณครูวิชาพระพุทธศาสนาได้ดีมากเลยครับ ชัดเจนมากว่าได้รับการส่องสว่าง เเละนำทางจากพระจิตเจ้า ขอให้รักษาความร้อนรนในความเชื่อเช่นนี้ตลอดไปนะครับ ชอบๆๆ เด็กสมัยนี้เก่งๆทั้งนั้นเลย :s007: ตัวพี่เองนั้นเป็นคาทอลิกมาเเต่เกิดเลย เเต่ ไม่เคยสนใจในศาสนาเลย เสียดาย พึ่งจะมากลับใจสนใจศาสนาเมื่อไม่กี่ปีนี้เอง เสียดายๆปรีชาญาน :s004:
Chewalia Derbermong
โพสต์: 17
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 30, 2012 6:13 am

จันทร์ มี.ค. 10, 2014 8:47 pm

ขอบคุณทุกคนนะครับ สำหรับคำตอบ
ขอพระเจ้าทรงโปรดอวยพรให้ทุก ๆ ท่าน มีความสุขนะครับ : )
kanya Muang-in
โพสต์: 282
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 25, 2013 4:55 pm

พฤหัสฯ. มี.ค. 13, 2014 3:38 pm

พระบิดาเจ้าข้า อภัยให้เขาด้วย พวกเขาเหล่านั้น ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ (พระเยซู)

สวดภาวนาให้เค้ามากๆ เถอะค่ะ พระเจ้าให้อภัยเสมอ ความรักของพระองค์ช่างสูงค่านัก

เมื่อพระเยซูเจ้าทรงอยู่บนไม้กางเขนทรงถูกตรึงอย่างทรมาน คนที่อยูข้างล่างกล่าวหาพระองค์แต่พระองค์ไม่ทรงคิดเอาโทษพวกเขาเหล่านั้นเลย ตรงกันข้างพระองค์ทรงให้อภัย

ถ้ามีคนมาว่าร้าย หรือกล่าวว่าพระเจ้า เราต้องปกป้องแต่โดยไม่ใช่การโต้เถียง แต่เป็นการอวยพรแทน
เพื่อเป็นการแสดงความรักของพระเจ้าที่มีอยู่ในตัวคุณให้เขาฟังค่ะ
ถึงอาจจะทำใจลำบาก ก็ขอ ให้ วางใจในพระองค์เสมอ แล้วคุณจะไม่ผิดหวัง
ต่อสู้เพื่อความเชื่อที่คุณที่เชื่อในความรักพระองค์เสมอ อย่ายอมแพ้

และเมื่อใดที่คุณพยายามเพื่อพระองค์จนสุดชีวิต สุดจิตใจ และสุดวิญญาณแล้ว เมื่อคุณได้พบพระองค์อีกครั้ง พระองค์จะกล่าวกับคุณว่า "เรารู้จักเจ้านะสหายของเรา เจ้าทำทุกสิ่งเพื่อปกป้องนามของเรา และเวลานี้ เจ้าได้อยู่กับเราในพระราชัยสวรรค์แล้ว" ::001::
sansrepos
โพสต์: 460
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 04, 2005 6:23 pm

ศุกร์ มี.ค. 14, 2014 5:55 pm

อย่าไปคิดมากครับ คนบางคนยึดติดกับศาสนาตัวเองมากไปครับ จุดสูงสุดจริงๆอาจเป็นสิ่งเดียวกันด้วยซ้ำ แต่เข้าใจไปคนละอย่าง ต่างคนก็เชื่อว่าของตัวเองดีกว่า

ความดีสูงสุดมีหนึ่งเดียว แต่วิธีที่จะไปอาจไม่เหมือนกัน พระเจ้าของเราก็อาจไม่ได้ยิ่งใหญ่ไปกว่าพระเจ้า สิ่งศักดิสิทธิ์สูงสุด หรือนิพพานก็ได้ เพราะพระเจ้าสูงสุดองค์เดียวเป็นพระเจ้าของมนุษย์ทุกคนทุกศาสนาหรือแม้แต่ที่ไม่นับถือศาสนา เป็นพระเจ้าของมิติอื่นๆและของดาวอื่นๆทั้งจักรวาลแต่สิ่งที่ทำให้ผมมีความรู้สึกยินดีและอบอุ่นเมื่อเป็นคริสต์ก็คือเราเชื่อว่าพระเจ้าทรงรักเราครับ
sansrepos
โพสต์: 460
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 04, 2005 6:23 pm

ศุกร์ มี.ค. 14, 2014 5:58 pm

ไม่ว่าคุณจะนับถือศาสนาอะไรหรือแม้ไม่มีศาสนา พระเจ้าทรงตัดสินคุณจากความรักที่คุณมีให้ตนเองและผู้อื่นตามมโนธรรมซึ่งก็คือน้ำพระทัยของพระองค์เอง ไม่ได้ตัดสินจากความเชื่อนะครับ

ดังนั้นความเชื่อสำคัญแต่เทียบไม่ได้เลยกับความรัก
เมจิ
โพสต์: 3257
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ส.ค. 22, 2011 6:44 pm

เสาร์ มี.ค. 15, 2014 7:19 pm

:s002: :s002: :s002:
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6637
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

เสาร์ มี.ค. 15, 2014 9:04 pm

น้องโชคดีมากค่ะ พระเจ้ารักน้องนะ พระองค์เลือกน้องมาแต่นิรันดร ให้มารู้จักพระองค์
รักพระองค์เป็นลูกที่น่ารักของพระองค์.....
........จงรักพระผู้เป็นเจ้าสิ้นสุดจิตใจ และรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง.......
ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาแห่งความรัก และการให้อภัย...
ขอพระเจ้าอวยพรน้องมากๆค่ะ......
:s002:
kanya Muang-in
โพสต์: 282
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 25, 2013 4:55 pm

จันทร์ มี.ค. 17, 2014 6:22 pm

:s007: :s007: :s002:
Chewalia Derbermong
โพสต์: 17
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ ก.ย. 30, 2012 6:13 am

พุธ มี.ค. 26, 2014 10:02 am

ข้อความโดนลบ
ตอบกลับโพส