นับถอยหลังสถาปนานักบุญใหม่ 6 องค์

[teyteybboy]

ในวันนี้อยากจะนำเสนอข่าวที่ยังไม่ได้ลงในเมืองไทยคือในวันที่ 23 พฤศจิกายน ปีนี้ สมเด็จพระสันตะฟรานซิส จะทรงประกอบพิธีมิสซาสถาปนานักบุญใหม่จำนวนทั้งสิ้น 6 ท่าน โดยในรอบนี้มีนักบุญจากทวีปเอเชียด้วยถึง 2 องค์ ดังนั้นวันนี้เราลองมาทำความรู้จักกับนักบุญใหม่ทั้งท่านกันดีกว่า มาเลยที่องค์แรกเลยครับ



1.บุญราศีกูลีอากอส ชาวารา
ท่านเป็นพระสงฆ์ชาวอินเดียเกิดเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1805 ที่ รัฐเกรละ ประเทศอินเดีย ภายหลังท่านได้เข้าบ้านเณร และได้ร่วมก่อตั้งคณะคาร์เมไลท์แห่งพระนางมารีย์ผู้ปฏิสนธินิรมลสำหรับผู้ชายขึ้น อันนับเป็นคณะพื้นเมืองแรกของประเทศอินเดีย หลังจากนั้นท่านก็ได้ร่วมก่อตั้งคณะแม่พระแห่งภูเขาคาร์แมลสำหรับผู้หญิงขึ้น ซึ่งทั้งสองคณะดำเนินภายใต้กฏของคาร์เมไลท์ขั้นสาม



นอกจากนั้นท่านยังได้ปกป้องเอกภาพของพระศาสนจักรในแขวง Syro-Malabar โดยต่อต้านพวก Rochos ที่สอนความเชื่อผิดหลง ตลอดชีวิตท่านได้ทำงานเพื่อฟื้นฟูชีวิตจิตของพระศาสนจักรในแขวงดังกล่าว ท่านเป็นแบบอย่างในการภาวนา มีความศรัทธาร้อนรนต่อศีลมหาสนิท และมีความรักต่อพระนางมารีย์ผู้ปฏิสนธิ์นิรมลเป็นพิเศษ และมีบทบาทสำคัญในส่งเสริมการศึกษาแก่ผู้ต่ำต้อยในสังคมอินเดีย ท่านเชื่อว่าการให้การศึกษาแก่สตรีเป็นขั้นตอนแรกของสวัสดิการสังคม จนที่สุดคุณพ่อสิ้นใจอย่างสงบในวันที่ 3 มกราคม ค.ศ.1871 ขณะอายุ 66 ปี และได้รับการสถาปนาเป็นบุญราศีในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1986 ขณะสมเด็จพระสันตะปาปายอห็น ปอล ที่ 2 เสด็จเยือนอินเดีย พร้อมกับวิสเตอร์อันฟอนซา(เป็นนักบุญ ค.ศ.2006)



#คุณพ่อเป็นคนเดียวกันกับที่ประจักษ์ไปรักษานักบุญอัลฟอนซา

หนังประวัติของท่าน

[teyteybboy]

2.บุญราศีอิวพาเซีย แห่งพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า
ท่านเป็นซิสเตอร์ชาวอินเดีย เกิดเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม ค.ศ.1877 และได้รับนามตามนามนักบุญโรซา มีวันหนึ่งแม่พระประจักษ์มาหาท่าน ทำให้ท่านตัดสินใจถือความบริสุทธิ์ และได้ตัดสินใจเข้าอารามคณะภคินีแห่งพระมานดาแห่งคาร์แมล คณะเดียวกับที่บุญราศีกูลีอากอสตั้ง โดยการภาวนา พลีกรรม อดอาหาร จนถึงขั้นล้มป่วย ท่านจึงชนะใจบิดาได้และได้ถวายตนเป็นซิสเตอร์



ก่อนจะได้ดำรงตำแหน่งนวกะจารย์ และคุณแม่อธิการของอารามเซนต์แมรี่ ที โอลลูร์ แม้ว่าสุขภาพของท่านจะอ่อนแอเพียงใด ท่านก็ได้แสดงออกถึงคุณธรรมความนบนอบ ความยากจน การใช่โทษบาป ความเชื่อฟังและการปล่อยไปให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ให้เป็นที่ประจักษ์แก่เหล่านวกะที่ท่านสอน สถานที่ที่ท่านชอบไปใช่ส่วนใหญ่ของวันคือวัดประจำอาราม เพื่อเฝ้าศีลและเช่นกันท่านยังหล่อเลี่ยงความรัก ความภักดีต่อแม่พระ นอกจากนั้นท่านยังคอยปลอบทุกคนที่มาหาด้วยความทุกข์เสมอ



การภาวนาคือลมหายใจของท่านในทุกๆที่ที่ท่านอยู่ ทำให้คนในท้องถิ่นต่างเรียกท่านว่า “คุณแม่ภาวนา” (Praying Mother) ส่วนภคินีในอารามจะเรียกท่านว่า “ตู้ศีลเคลื่อนที่” (the mobile tabernacle) ท่านอธิษฐานอย่างร้อนรนต่อหน้าศีลมหาสนิทเพื่อพระสงฆ์และนักบวช และยังได้เสนอชีวิตของท่านเพื่อความรักของพระเจ้า ท่านปล่อยให้มันเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์และในที่สุดด้วยอาย 74 ปี ท่านก็ได้คืนชีวิตไปสู่อ้อมกอดของพระองค์ในวันที่ 29 สิงหาคม ค.ศ.1952

3 ธันวาคม ค.ศ.2006 ท่านก็ได้รับการสถาปนาเป็นบุญราศีองค์ที่ห้าของรัฐเกรละและองค์ที่หกของประเทศอินเดีย

หนังประวัติ


แบบ 2

[teyteybboy]

3.บุญราศีโยวันนี อันโตนี เฟรยนา
ท่านเป็นพระสังฆราชชาวอิตาลี เกิดเมื่อวันที่ 11 มกราคม ค.ศ.1803 ที่ วินเซนซา ประเทศอิตาลี ภายหลังจากบวชแล้ว ท่านก็ไปเป็นครูที่บ้านเณร ก่อนในปี ค.ศ.1831 ท่านจึงได้ตั้งโรงเรียนหญิงขึ้น พร้อมกับตั้งคณะธิดาครูแห่งนักบุญโดโรธีแห่งพระหฤทัยขึ้นในอีก 5 ปีถัดมา เพื่อดูแลการศึกษาแก่เด็กหญิงผู้ยากไร้ และขยายไปถึงการดูแลเด็กหญิงพิการ การดูแลคนป่วยสูงวัยตามโรงพยาบาลและบ้าน



หลังจากนั้นในวันที่ 19 มกราคม ค.ศ.1851 ท่านก็ได้รับการอภิเสกเป็นพระสังฆราชประจำสังฆมณฑลเตรวีโซ ในฐานะสังฆราชท่านเดินทางไปเยี่ยมตามเขตวัดต่างๆ จัดระเบียบทุกสิ่ง พร้อมดูแลวิญญาณของบรรดาผู้ยากไร้จนท่านได้ชื่อว่า "สังฆราชของคนจน" ไม่เพียงเท่านั้นท่านยังเผยแพร่ฝึกวิญญาณและความช่วยเหลือไปยังพระสงฆ์ที่เจ็บไข้หรือยากไร้อีก นอกนั้นท่านก็ได้ดูแลการสร้างหลักและวัฒนธรรมของพระสงฆ์ การอุทิศตน การเรียน และการสอนคำสอนเยาวชน



ก่อนมนวันที่ 18 มิถุนายน ค.ศ.1860 ท่านจะถูกโยกย้ายไปยังวินเซนซา ที่นั่นท่านได้มุ่งเน้นพันธกิจเช่นเดี่ยวกับที่เตรวีโซ ท่านไปทุกที่เพื่อเยี่ยมสัตบุรุษไม่ว่าไกลแค่ไหนชนิดเดินเท้าก็ไม่ว่า ขณะเดียวกัยท่านก็ก่อตั้งก่อทุนเพื่อช่วยเหลือพระสงฆ์ คนยากไร้ ขยายความศรัทธาต่อพระหฤทัย แม่พระ และศีลมหาสนิท จนเมื่อมีประชุมสังคายนาวาติ 1 ท่านก็ได้ร่วมและเป็นผู้สนับสนุนแนวคิดพระสันตะปาปาไม่เคยผิดพลาด ที่สุดท่านก็สิ้นใจลงอย่างสงบในวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ.1888 ด้วยวัย 85 ปี

สมเด็จพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 สถาปนาท่านเป็นบุญราศีในวันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ.2001

[teyteybboy]

4.บุญราศีลูโดวีโก แห่ง กาโซเรีย
ท่านเป็นภารดาฟรังงซิสกันเกิดเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ.1814 ที่เมืองเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี ในครอบครัวช่างไม้ จนเมื่อายุได้ 18 ปี ท่านก็ได้สมัครเข้าคณะภารดาน้อย และหลังเข้าพิธีปฏิญาณตนท่านก็กลายมาเป็นครูปรัชญาและคณิตศาสตร์ให้แก่สมาชิกในอารามนักบุญเปโตร และในปีเดียวกันเบื้องศีลมหาสนิทท่านก็ตระหนักว่าท่านต้องเปลี่ยนตัวท่านเพื่ออุทิศเวลาที่เหลือทั้งหมดเพื่องานเมตตาธรรม



ไม่ช้าท่านก็เริ่มดูแลคนยากจน พร้อมตั้งร้านขายยาและสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ยังรวมไปถึงการดูผู้สูงอายุในคณะ หลังจากนั้นท่านก็ได้ก่อตั้งคณะนักบวชขั้นสามชื่อคณะภารดาสีเทาแห่งความเมตตาธรรมขึ้น ในปี ค.ศ.1859 สามปีต่อมาท่านก็ก่อตั้งคณะของสตรีขึ้นมีชื่อว่าคณะซิสเตอร์ฟรังซิสกัน แห่ง นักบุญเอลิซาเบธ ภายใต้การอารักษ์ของนักบุญเอลิซาเบธ แห่ง ฮังการี



นอกจากนั้นท่านยังได้ไถ่เด็กทาสผิวดำ เพื่อนำพวกเขาสู่ชีวิตที่ดี และสอนคำสอน ซึ่งด้วยชาติกำเนินดของพวกเขาจะเป็นประโยชน์ต่อการแพร่ธรรมในแอฟริกา ซึ่งก็มีหลายคนที่ขอรับศีลล้างบาปและได้เป็นพระสงฆ์และนักบวชผู้ศักดิ์สิทธิ์ ท่านสิ้นใจลงในวันที่ 30 มีนาคม ค.ศ.1885 ด้วยอายุ 71 ปี และได้รับการสถาปณาเป็นบุญราศีในวันที่ 18 เมษายน ค.ศ.1993 โดยพระสันตะปาปายอห์น ปอล ที่ 2 "พระเจ้าทรงเรียกข้าพเจ้าด้วยพระองค์ด้วยความรักอันอ่อนโอนยิ่ง และด้วยกิจการเมตตาธรรมไม่สิ้นสุด ทรงนำและกำกับข้าพเจ้าไปตามทางชีวิตของข้าพเจ้า"

*ปัจจบุันมีการยกเลิกคณะชายที่ท่านก่อตั้งไปแล้ว เพราะ ขาดสมาชิก
คณพสตรียังคงทำงานในอิตาลีส หรัฐอเมริกาเ อธิโอเปีย อินเดีย ปานามาและฟิลิปปินส์

[teyteybboy]

5.บุญราศีอมาโต รอนโกนี
ท่านเป็นสมาชิกคณะฟรานซิสกันขั้นสาม เกิดในครอบครัวอัยร่ำรวยประมาณปี ค.ศ.1225 ที่ ริมินี ประเทศอิตาลี แต่ไม่นานท่านก็กำพร้าบิดามารดา ท่านจึงมาอยู่กับพี่ชายที่แต่งงาน ภายหลังท่านก็สละทุกสิ่งและย้ายมาอาศัยน้องสาวชื่อคลารา ที่บ้านบริเวณเขาโอเชียเล ที่เปิดรับผู้แสวงบุญและคนยากไร้โดยอุทิศแด่การบังเกิดของแม่พระ เพราะเป็นทางผ่านไปโรมพอดี



และด้วยเหตุนี้ที่น้องสาวของท่านตัดสินใจสละชีวิตทางโลกปฏิเสธการแต่งงาน อันเป็นเหตุให้พี่สะใภ้แค้นใจมาก ดังนั้นเธอจึงใส่ร้ายว่าท่านได้เสียกับน้องสาว เหตุการณ์ทำให้ท่านเริ่มเฆี่ยนตีตัวเองด้วยแส้โดยปิดหน้าต่างมิดชิด แต่กระนั้นก็มีคนเห็นแสงสว่างลอยรอดออกมากจากหน้าต่างทุกคืนและได้ยินเสียงเพลงจากทูตสวรรคืลอยมาจากบ้้านท่าน นอกจากนั้นตลอดชีวิตของท่าน ท่านยังเดินแสวงบุญไปยังหลุมฝังศพของนักบุญยากอบ ที่สเปนถึงสี่ครั้งตลอดชีวิต และได้ก่ออัศจรรย์ไว้มากมายทั้งการทวีผักกาด รักษาคนตายให้ฟื้น



และในครั้งที่ 5 ของการแสวงบุญไปยังหลุมศพนักบุญยากอบ ทูตสวรรค์ก็แจ้งว่าท่านกำลังจะสิ้นใจ ท่านจึงกลับมาท่านก็บริจาคทรัพย์สินทุกสิ่งที่ท่านมีและอยู่ภายใต้การดูแลของคุณพ่อคณะเบเนดิกติน ก่อนจะสิ้นในในวันที่ 8 พฤษภาคม ค.ศ.1292 หลังจากตรากตรำช่วยผู้คนไม่ว่าชนชั้นไหนทั้งฝ่ายกายและฝ่ายจิตด้วยวัย 77 ปี

ร่างของท่านไม่สลายไปตามธรรมชาติแต่ยังคงอยู่ที่ที่ท่านสิ้นใจ สมเด็จพระสันตะปาปาปีโอที่ 6 สถาปนาท่านเป็นบุญราศีในวันที่ 7 มีนาคม ค.ศ.1776

[teyteybboy]

6.บุญราศีนิโกลา แห่ง ลอนโกบาร์ดี
ท่านเป็นภารดาชาวอิตาลี ของคณะรีมินีองค์ล่าสุด ท่านเกิดเมื่อวันที่ 6 มกราคม ค.ศ.1650 ในครอบครัวชาวนา ท่านจึงเติบโตมากับจอบและเสียม ภายหลังท่านก็ตัดสินใจเข้าคณะรีมีนี แต่ก็ถูกบิดามารดาไปพาตัวมา ทันใดท่านก็กลายเป็นตาบอด ทำให้บิดามารดาของท่านต้องยอมให้ท่านเข้าคณะท่านจึงกลับมามองเห็นอีกครั้ง หลังจากนั้นท่านก็ปฏิบัติตนตามด้วยฤทธิ์กุศลลอันดีเลิศ ทั้งการนบนอบ ถ่อมตน



เและเมื่อถูกส่งไปประจำที่โรม ท่านก็คอยช่วยเหลือคนยากไร้แถวๆนั้น จนเป็นเคารพทั้งจากคนจนและคนมั่งมี ที่พากันแวะเวียนมาขอคำแนะนำและคำภาวนา นอกจากนั้นหลายครั้งท่านก็เข้าฌานบ่อยๆ และได้รับพระพรมากมาย ทั้งนั้นในช่วงชีวิตของท่านยังได้บูรณะวัดหลังหนี่งอีกด้วย จนเมื่อพระศาสนจักรอยู่ในความกดดันครั้งใหญ่ครั้งหนึ่ง ท่านก็ถวายตนเป็นยัญบูชาและร่วมสวดภาวนา ที่สุดท่านก็ล้มป่วยลงและสิ้นใจในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1709 ด้วยอายุ 59 ปี หลังกล่าวว่า "สวรรค์ สวรรค์"



ท่านได้รับการบันทึกนามในสานบบบุญราศีในวันที่ 17 กันยายน 1786 โดยพระสันตะปาปาปีโอ ที่ 6

[sunofgod]

ว้าวว น่าสนใจมากๆคับ

[เมจิ]

ขอบคุณที่เเบ่งปันค่า

[rosa-lee]

ขอบคุณ ดีมากค่ะที่แบ่งปัน เสริมศรัทธา หนุนใจดีมาก