โดย Barbara Sande Dimmitt และจากวิกิปีเดีย 2565 รวบรวมโดย กอบกิจ ครุวรรณ
ไมเคิล ลิตเติลขับรถกระบะสีเขียวตามรถของมาร์กพี่ชายไปบนถนนนอกเมืองยูบาซิตี้
(Yuba City) รัฐแคลิฟอร์เนีย ไมเคิลยิ้มอย่างเป็นสุขขณะชำเลืองมองลูกสาวทั้งสองซึ่งนั่งอยู่ข้าง ๆ
มาร์ซาอายุ 12 ปีกางแขนโอบตัวรีเบกกาน้องสาววัย 10 ขวบที่นั่งหลับอยู่ตรงกลาง ทุกคนในครอบครัว
ล้วนชื่นชอบการเที่ยวพักผ่อนตกปลาครั้งนี้ ขณะนั้นเป็นเวลาบ่ายวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2539
ทางข้างหน้าเป็นทางชันขึ้นสู่ถนนที่สร้างเป็นคันกั้นน้ำ ด้านตรงข้ามเป็นสะพานไม้ขนาดพอให้รถแล่นได้
ทางเดียวทอดอยู่เหนือสายน้ำไหลเอื่อยของคลองซัตเทอร์ (Sutter Bypass) ซี่งเป็นคลองระบายน้ำที่
เอ่อท้นจากแม่น้ำซาคราเมนโต (Sacramento River) สะพานข้ามไม่มีราวสะพาน มีเพียงไม้หมอนรถไฟ
ตอกติดไว้เป็นขอบกั้น
ไม่กี่วินาทีหลังจากรถของไมเคิลขับขึ้นไปอยู่บนคันถนน ก็มีรถยนต์สีขาววิ่งตัดหน้าผ่านไปอย่างกระชั้นชิด
ไมเคิลรีบลดเกียร์ลง แต่รถกระบะก็ยังไถลลื่นไปบนสะพานชนไม้หมอนทางด้านซ้ายแล้วแฉลบไปทางขวา
ปีนไม้หมอนที่กั้นด้านนั้นขึ้นไปโงนเงนอยู่เหนือสายน้ำสีขุ่น
ไมเคิลไม่กล้าขยับตัว มือจับพวงมาลัยนิ่ง รถกำลังจะตกจากสะพาน ขณะที่มาร์ซากรีดร้องดัง ไมเคิลได้
แต่ตะโกนว่า “อยู่นิ่ง ๆ นะลูก!
มาร์ก ลิตเติลกับหลานชายวัยรุ่น 2 คน พอลกับโจนาทาน เห็นรถของไมเคิลค้างเติ่งอยู่บนขอบสะพาน
ง่อนแง่นโงนเงนอยู่ชั่วอึดใจก่อนจะตกลงไปในน้ำลึก 4.50 เมตร
มาร์กและเด็กหนุ่มทั้งสองออกวิ่งเต็มฝีเท้าไปที่คลองทันที รถพลิกคว่ำล้อทั้งสี่หงายปริ่มน้ำ ชายสองคน
ที่ตกปลาอยู่ใกล้ ๆ วิ่งมาสมทบ มาร์กลุยน้ำเข้าไปและพยายามเปิดประตูรถ แล้วก็มีนักตกปลาอีก 3 คน
ตามเข้ามาช่วย คนหนึ่งใช้โทรศัพท์มือถือเรียกหมายเลขฉุกเฉิน 911 ขณะนั้นเป็นเวลา 16.43 น.
มาร์กรู้สึกว่ามีมือจากใต้น้ำมาจับขากางเกง “ไมเคิลนั่นเอง” เขารู้ดี “น้องผมยังมีชีวิตอยู่” เขาตะโกนและ
แล้วมือที่จับกางเกงคลายออกและหลุดไป
เมื่อหมดหนทาง ผู้มาช่วยตัดสินใจเสี่ยงจับรถตะแคงโดยหวังว่ารถคงไม่จมลึกลงไปอีก พวกเขาช่วยกัน
ผลักทางด้านคนนั่ง ในที่สุดรถก็เริ่มขยับ แล้วเอียงด้านข้างตั้งขึ้นได้ ประตูด้านคนนั่งปรากฏแก่สายตา
ไมเคิลและลูก ๆ จมอยู่ใต้น้ำหลายนาที ซึ่งเป็นหลายนาทีที่มีค่าอย่างยิ่ง
พวกเขาช่วยกันใช้แม่แรงยกรถและที่ขันดุมล้องัดประตู ในที่สุดประตูก็เปิดออก เผยให้เห็นร่างอ่อนปวกเปียก
ของมาร์ซา
คนหนึ่งช่วยตัดสายเข็มขัดนิรภัย อีกคนดึงตัวเด็กน้อยออกมา คนอื่น ๆ ช่วยกันผลักรถให้ตั้งตรง ชาย 4 คน
แบกร่างของไมเคิลขึ้นไปบนฝั่ง มาร์กกลับไปที่รถอีกครั้ง และเห็นโจนาทานอุ้มร่างที่แน่นิ่งของรีเบกกาตรงมา
มาร์กบอกตัวเองว่า
“หลานฉันต้องไม่เป็นอะไร”
เวลาผ่านไป 8 นาทีหลังจากเกิดอุบัติเหตุ ไมเคิลและมาร์ซาฟื้นขึ้นแล้ว แต่รีเบกกายังนอนตัวเขียวคล้ำอยู่
เจ้าหน้าที่หน่วยแพทย์มาถึงและกำลังปฏิบัติการกู้ชีวิต
โปรดติดตามตอนที่ ( 2 )ในวันพรุ่งนี้