ของขวัญจากใจให้พระแม่มารีย์และพระเป็นเจ้า

รวมสารการประจักษ์แม่พระที่ลำไทร สามารถแสดงความเห็นได้อย่างสุภาพ และไม่อนุญาตให้ตั้งกระทู้ใด ๆ ในบอร์ดนี้
ตอบกลับโพส
Yan Agape
โพสต์: 1516
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 17, 2005 10:57 am

อังคาร ธ.ค. 10, 2024 5:58 pm

สวัสดีครับ วันนี้เป็นวันจันทร์ 9 ธันวาคม 2024 สมโภชการปฏิสนธินิรมลของพระนางมารีย์พรหมจารี ( Solemnity of the Immaculate Conception of Blessed Virgin Mary)

ผมและภรรยาได้ไปร่วมมิสซาเวลา 9.0 น และนึกถึงความใจดีของพระแม่มารีย์และพระเป็นเจ้าที่มีต่อครอบครัวของเรา เริ่มจากตัวผมที่เป็นหัวหน้าครอบครัว (สามีของภรรยาแล้วก็เป็นพ่อของลูกสาวลูกชาย)

ผม สายัณห์ เสวิวัฒน์/ San Man/ Yan Agape ขอมอบของขวัญจากใจให้แม่มารีย์และพ่อพระเป็นเจ้าด้วยบทความแสดงความกตัญญูรู้คุณและการประกาศยืนยันสรรญเสริญเทิดพระเกียรติถึงความใจดีของแม่มารีย์และของพ่อพระเป็นเจ้าที่ผมได้เห็นได้ยินได้สัมผัส จากตา หู และหัวใจ เนื่องในโอกาสวันเกิดของแม่ของพวกเรามวลมนุษยชาติ แม่ของพระเจ้าพระเยซูเจ้าพระบุตรพระผู้ไถ่ของพวกเรามวลมนุษยชาติผู้ทรงใจดีมอบแม่ของพระองค์ให้เป็นแม่ของเราทุกคน

1) พ่อแม่ใจดี ช่วยเหลือในวัยเด็กวัยรุ่นวัยหนุ่มที่ประเทศไทย : เป็นเด็กช่วยมิสซา ให้ใกล้ชิดกับสองพระองค์แม้จะไม่รู้ตัวเพราะความเยาว์วัย จบการเรียนในประเทศไทยแม้หัวสมองจะตื้อไม่เอาไหนไม่ใส่ใจเห็นความสําคัญของการศึกษาที่จะเป็นพื้นฐานของความก้าวหน้าในอนาคต

ให้ตัวสูงแบบไม่เตี้ยมีปมด้อย เพราะเห็นเพื่อนๆสูงปรูดปราด จนตกใจ กราบขอแม่และพ่อให้ช่วย

ให้เป็นเณรใหญ่ของคณะสงฆ์พระมหาไถ่ ศึกษาพระธรรมและการเตรียมใช้ชีวิตของนักบวชพระสงฆ์ที่มีพื้นฐานความเป็นมาแตกต่างกัน เป็นสังคมน้อยๆของผู้ที่เชื่อว่าตัวเองก็ได้รับกระแสเรียกเช่นกัน ความถือดี ความไม่ยอมน้อยหน้า ก็เป็นเหมือนกับสังคมของวัยรุ่นวัยหนุ่มทั่วๆไป

ได้รับการวางรากฐานของภาษาอเมริกันอังกฤษ ( American English) จากคุณพ่อชาวอเมริกันและคุณพ่อที่เรียนจบและใช้ชีวิตในอเมริกา

ให้ความฝันของเด็กน้อยที่ยากจน เรียนไม่เอาไหน ได้เป็นจริง: สหรัฐอเมริกาสุดยอดของโลก น้าอภิชาติและน้านงลักษณ์ มีเมตตาเป็นสปอนเซอร์

2) เริ่มวัยหนุ่มในสหรัฐอเมริกา (พูดฟังเขียนภาษาอเมริกันอังกฤษได้แบบคล่องแคล่ว แม้จะมีสําเนียงแปร่งนิดๆเพราะลิ้นไม่อ่อนเหมือนเด็กเรียนภาษาเมื่อเยาว์วัย: เป็นเด็กปั้มนํ้ามันของพี่ชนะ จันทรางศุ ที่เมือง ลอส เองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ( Los Angeles, California) ทําทุกอย่าง รวมทั้งเติมนํ้าหม้อเครื่อง เติมนํ้ามัน เติมลมล้อรถ เช็คนํ้า เช็คนํ้ามันเครื่อง ปัดถูกระจกหน้ากระจกหลังของรถ เก็บกวาดขยะและทําความสะอาดห้องนํ้าชายหญิง

พี่ชนะมีเมตตาส่งไปเรียนที่โรงเรียนอาชีพสายช่างรถยนตร์ระดับอนุปริญญาที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริการับรอง เพราะสงสาร: ถ้าเป็นช่างฝีมือ ดีไปที่ไหนไม่อดตาย คนเกือบทุกคนในสหรัฐอเมริกาต้องใช้รถ และรถต้องเสียต้องซ่อม

พ่อแม่ปลอบใจและให้กําลังใจเมื่อเห็นผมน้อยใจในความยากจน มีเงินพอจ่ายค่าเช่าบ้านพัก อาหาร นํ้ามันรถ นานๆ ถึงมีเงินไปดูหนังที่โรงหนังชั้นสอง อกหักเพราะสาวไทยสาวอเมริกันหลายครั้งหลายคน แต่ความเป็นหนุ่มไม่ยอมเข็ดเจียมตัวมีความหวังว่าคนรักเนื้อคู่ยังไม่มาถ้าไม่เสนอไมตรีอาจจะไม่เจอ

3) ทะยานตัวปีนป่ายบันไดสังคมอเมริกา: พ่อแม่ช่วยเมื่อตกงานเพราะพี่ชนะขายปั้มนํ้ามันให้เพื่อนและผมไม่ชอบนายใหม่ เปลี่ยนอาชีพทํางานที่โรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งเบื่อเป็นช่างซ่อมรถรายได้พอสมควรแต่...ต้องการอยู่ดีกินดีมีภรรยามีครอบครัวมีลูกมีอาชีพที่ดีกว่านี้

ตกงานหลายแห่งจนหมดแรงหมดกําลังใจ นอนทอดระทวยดูทีวีเสาอากาศหักในห้องเช่าซอมซ่อ พ่อแม่ปลุกให้ตื่นดูโฆษณาของกองทัพบกสหรัฐอเมริกา: โบนัสทุนการศึกษา $25,000.00/842,034.47 บาท ถ้าเซ็นสัญญา 4 ปี แถมมีทุนการศึกษาจีไอเมื่อครบ 4 ปี เรียนจบระดับปริญญาตรี รัฐบาลรับประกันซื้อบ้านไม่ต้องวางดาวน์ ถ้าครบ 20 ปีมีเงินเดือนครึ่งหนึ่งของเงินเดือนช่วงสูงสุด ตายก่อนภรรยา ภรรยาก็จะได้รับต่อจนตายหรือแต่งงานใหม่ และมีสวัสดิการสุขภาพ ( รวมทั้งฟันและตา) ให้ตัวเองและภรรยาจนตาย ให้ลูกจนเรียนจบปริญญาตรี

กองทัพบกสหรัฐอเมริการับรองอนุปริญญาตรีสาขารถยนตร์และให้เลื่อนชั้นสามชั้น เป็นบันไดให้ผมได้เป็นนายทหารช่างสรรพาวุธ เรียนจบหลักสูตร ( อันดับหนึ่งเพราะพ่อแม่ช่วยและให้รู้ถึงความสําคัญของการศึกษา) แล้วคุมทหารช่าง ซ่อมแซม บํารุงรักษา รถถัง ยานเกราะ รถบรรทุก อาวุธสงคราม (ผมใช้เวลาเลิกงานตอนเย็น วันเสาร์วันอาทิตย์เรียนจนจบปริญญาตรี สมปราถนาความใฝ่ฝัน)

4) ไปรบอิรัก สามครั้ง: พ่อแม่ช่วยให้รอดพ้นอันตราย ประสบความสำเร็จในสนามรบ

5) สูงสุดของความเป็นนายทหารช่าง: พ่อแม่ช่วยให้เป็นนายทหารช่างระดับ 5 สูงสุดของกองทัพบกสหรัฐอเมริกาที่นายทหารช่างน้อยคนจะไต่ถึง เกษียณด้วยอายุราชการ 25 ปี

6) พ่อแม่ช่วยให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสรรพาวุธของกองทัพบกสหรัฐอเมริกา เกษียณ 10 ปี เมื่อมีเงินส่งลูกสาวลูกชายให้จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยรัฐวอชิงตัน ซื้อรถใหม่ให้ลูกเมื่อเตรียมเข้ามหาวิทยาลัยเพราะรู้ถึงความสำคัญของสภาพเครื่องยนต์และระบบประกันคุณภาพประสิทธิภาพของรถใหม่ทันสมัยของปีที่ซื้อ

7) พ่อแม่ให้ภรรยาคู่ใจ: ครบรอบ 34 ปี เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีนี้ ( 2024)

8) พ่อแม่เมตตาให้ลูกสาวลูกชาย: แม่ผม พี่ชาย ภรรยาของผม และตัวผมไปขอลูกสาวลูกชายกับพระสังฆราชยอด พิมพิสาร และชีลับ ของอาสนวิหารพระมารดานิจจานุเคราะห์ อุดรธานี

- หลังจากกลับถึงสหรัฐ ผมกับภรรยานอนที่บ้านพักทหารในค่ายฝอรด์ เออวิน รัฐแคลิฟอร์เนีย ( Fort Irwin, California) ประมาณตีห้า ผมพบตัวเองอยู่ในอาสนวิหารพระมารดานิจจานุเคราะห์ อุดรธานี กําลังคุกเข่า ร่วมสวดภาวนากับสุภาพสตรี 5-8 คนที่มีผ้าคลุมหน้าก้มหัวสวดข้างหน้าผม ผมมองไปที่พระแท่นกลาง เห็นพระแม่อุ้มพระกุมารเยซูที่มือซ้าย พระกุมารทรงเคลื่อนตัวจากซ้ายมือของพระแม่มาทางขวามือมีทีท่าจะตกพื้น ผมมองไปที่กลุ่มสุภาพสตรี ไม่มีใครเงยหน้ามองพระแท่น ผมตกใจวิ่งไปรับพระกุมาร ผมพบตัวเองกลับมานอนที่เตียงข้างภรรยา ผมปลุกเธอแล้วเล่าให้ฟัง พ่อแม่ให้ลูกแล้ว ผมนึกว่าคงเป็นลูกชายเพราะพระกุมารเป็นเด็กชาย...แต่...สองพระองค์ให้ลูกสาวก่อน ห้าปีต่อมาทรงให้ลูกชาย สมปรารถนา

( พระสังฆราชยอด พิมพิสาร เดินทางไปสหรัฐอเมริกาทําธุระ ผมขอเชิญท่านทําพิธีล้างบาปให้ลูกสาวผมเมื่อลูกผมอายุได้หนึ่งขวบ ในวัดค่ายทหาร)

- ก่อนที่ภรรยาจะคลอดลูกสาว ผมพบตัวเองยืนต่อหน้าแม่มารีย์ ในรูปลักษณ์ของพระแม่มารีย์แห่งกัวดาลูป แม่เปิดผ้าคลุมตัวออกจากกายและไหล่ทั้งสองข้าง หน้าตัวแม่เป็นลูกสาววัยรุ่นของผม สูง หน้าตาน่ารัก ผมชี้ไปที่ลูกแล้วพูดกับแม่ในหัวว่า "จมูกแฟบ" แม่หัวเราะ ตอบผมในหัวผมว่า " แต่น่ารักดี"

ผมบอกให้ภรรยาฟังและเล่าให้ลูกๆรู้ จะได้ขอบพระคุณพระเป็นเจ้าและพระแม่มารีย์ ลูกสาวผมชื่อคริสติ้ ชื่อกลาง มารีย์ ( Christy Marie ) ลูกชายชื่อ โจ ชื่อกลาง ไมเกิ้ล (Joe Michael)

การพบพระแม่มารีย์และพระเยซูเจ้าด้วยตาหูใจ:

- ผมพึ่งเป็นทหารยังโสด ต้องไปรายงานตัวที่ค่ายทหารในรัฐแมรี่แลนด์ ( Maryland) ขับรถจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ในช่วงฤดูหนาว เมื่อผมขับบนทางด่วนข้ามรัฐ ใกล้เมือง โรโน๊ก ( Roanoke) รัฐแมรี่แลนด์ ทางไต่เขาสูงชัน ไม่มีรั้วกั้นหน้าผา หิมะตกหนักแล้วจับตัวเป็นก้อนใหญ่ สูงเกือบท่วมล้อรถ ผมวิ่งตามรถบรรทุกที่บดหิมะเป็นรอย เหลือแต่หิมะที่เกาะตัวแข็งระหว่างกลางของความห่างของล้อของข้างซ้ายและข้างขวา รถบรรทุกวิ่งไวมากจนผมไม่กล้าขับตาม ผมตัดสินใจหักพวงมาลัยเปลี่ยนเลนเข้าเลนขวา ( กฎจราจรของสหรัฐอเมริกา: พวงมาลัยอยู่ซ้ายมือ เลนไวข้างซ้าย เลนขวาชิดถนน) ล้อรถผมปะทะกองหิมะ รถเสียหลักหมุนติ้วเป็นวงกลม ผมพยามบังคับรถ เหยียบเบรค หักพวงมาลัยไม่ให้แฉลบเข้าเลนซ้าย จะตกผาสูงชัน ผมร้องตะโกน " แม่ช่วยด้วย" ( Mom, help!) แล้วปล่อยมือออกจากพวงมาลัย ในหัวเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างในชีวิตจากเด็กจนโต รวดเร็วเหมือนดูหนังในเวลาไม่ถึงเสี้ยววินาที แม่ช่วยบังคับรถให้กระเด็นเข้าเลนขวา ขวารถกระแทกกองหิมะข้างถนน หัวรถหมุนสวนทางจราจร เครื่องดับ เหงื่อผมแตกท่วมตัว เหม็นสะอิดสะเอียน ( ยางตาย) ผู้คนเป็นสิบจอดรถวิ่งมาดูจะช่วย ผมขอบคุณพระแม่และพระเป็นเจ้า เดินสะเปะสะปะขาสั่นออกจากรถ บอกทุกคนว่าไม่เป็นไร แล้วเข้านั่งในรถสตาร์ตเครื่อง ถอยหลังขับเข้าเส้นทางตามกฎจราจร ค่อยๆ ขับจนถึงที่พัก รถไม่มีรอยบุบบี้เสียหาย

- ผมเป็นนายทหารช่างระดับสอง คึกคะนองและหยิ่งยโสในความเป็นนายทหาร แสวงหาความสุขทางเพศที่ผิดศีลธรรม วันหนึ่ง ผมนอนบนเตียงในห้องพักนายทหาร สะดุ้งตื่นเพราะมีคนยกปลายเตียงแล้วปล่อยกระแทกพื้น ผมผวาเมื่อเห็นชายผู้หนึ่งใส่แว่นตากันแดดสีดํามองมาที่ผม ผมวิ่งหนี ชายผู้นั้นเดินตามมาเรื่อยๆ ผมกลัวแบบสุดขั้วหัวใจ รู้ว่าเขามีอํานาจเหนือผม ผมวิ่งจนเจอแม่มารีย์นั่งบนเตี่ยงใหญ่ข้างในกําแพงของวัดที่เหมือนกับวัดพระพุทธศาสนา ผมวิ่งไปก้มกราบ ชายผู้นั้นหยุดข้างกําแพง ไม่เข้ามา เพ่งตามาที่ผม แม่ถามผมในหัวผมว่า "กลัวมั้ย" ผมตอบในหัวว่า "กลัว" แม่บอกในหัวว่า "ถ้ากลัวก็เป็นคนดีซะ" แล้วผมก็พบตัวเองนอนบนเตียงในห้องพัก

- ผมเป็นนายทหารช่างระดับสาม แต่งงานกับภรรยามีลูกสาว ภรรยาและลูกอยู่ในค่าย ประเทศเยอรมนี กรมทหารม้ายานเกราะของผมเป็นกองกําลังพลของเนโต้ ถูกส่งไปควบคุมความสงบของประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ( Bosnia and Herzegovina) ผมนอนในรถประจำตำแหน่งในเขตทําเหมืองถ่านหิน พบตัวเองยืนต่อหน้าแม่มารีย์ แม่นั่งลอยตัวในอากาศ ซ้ายมือของแม่ตํ่ากว่าแม่เป็นปีศาจมีเขาสองข้างมีหางปลายแหลม เพ่งมาที่ผม แม่พูดในหัวผมว่า "เมื่อไหร่จะเป็นคนดีสักที" ผมแก้ตัว ชี้มือไปที่ปีศาจตอบแม่ในหัวผมว่า " กลัว" ยังไม่จบคําพูด แม่สวนกลับว่า " ไม่ต้องกลัวถ้าเป็นคนดี" ผมพบตัวเองนอนในรถประจำตำแหน่งอีกครั้ง

-17 ปีต่อมาผมเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสรรพาวุธของกองทัพบกสหรัฐอเมริกา ประจำที่ค่ายทหาร ในประเทศเยอรมนี ภรรยาและลูกสองคนไม่ย้ายตามเพราะเตรียมตัวเข้าเรียนมหาวิทยาลัย ผมเป็นทีมพระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจฯ วัดพระวิสุทธิวงส์ ลําไทร ปทุมธานี รู้พระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจฯ วัดพระวิสุทธิวงส์ ลําไทร ปทุมธานี จากคุณนิพนธ์ มณีกิจ ทางเวปไซด์นิวมานา ของครอบครัวพี่อมราที่รู้จักกับผมและครอบครัว และเป็นทีมพระเมตตา เพราะการแนะนําของทีมพระแม่ผู้เห็นอกเห็นใจฯ วัดพระวิสุทธิวงส์ ลําไทร ปทุมธานี เริ่มสวดสายประคําพระเมตตาเวลาบ่ายสามทุกวัน ผมพักงานตอนเกือบบ่ายสาม เดินไปสวดหน้าประตูวัดน้อยของค่ายทหาร จันทร์-ศุกร์ วันหนึ่ง ผมคุกเข่าหน้าวัดที่ปิดประตูกันขโมย พูดกับตัวเองในใจว่า " มาทำไม เสียเวลา ไม่เห็นได้อะไร" ทันทีทันใด เสียงพระเป็นเจ้าดังสนั่นในหัวผมว่า *"มาหาเมื่อมาได้ มาไม่ได้จะไปหา" ผมตระหนกตกใจ ทิ้งตัวลงกับพื้น นอนราบขวัญเขย่า กราบขอโทษพระองค์ แล้วเริ่มสวดสายประคําพระเมตตา ตั้งแต่วันนั้นจนถึงปัจจุบัน

ผมสงสัยว่าทําไมพระองค์พูดภาษาอังกฤษกับผมแทนที่จะพูดภาษาไทย พระองค์ทรงพูดแบบเจ้าของต้นตำหรับของภาษาไม่ใช่สําเนียงอเมริกันหรืออังกฤษที่เราเชื่อว่าเป็นผู้ค้นคิดภาษาอังกฤษ ผมไม่กล้าถามพระองค์ จนสองสามปีต่อมา ผมได้รับความสว่าง พระองค์พูดภาษาอังกฤษกับผมเพราะภรรยาและลูกสาวลูกชายเป็นคนอเมริกัน เวลาผมเล่าให้ฟัง ไม่ต้องแปลจากไทยเป็นอังกฤษ

* Come see me when you can, will come see you when you cannot."

- ในส่วนลึกของหัวใจ ผมเศร้าใจที่แม่มารีย์ไม่มาให้ผมได้เห็นอีก แต่แม่และพ่อช่วยให้ผมได้งานตำแหน่งที่ดี มีรายได้เลี้ยงดูครอบครัว จนลูกๆเรียนจบมีอาชีพมีรายได้สามารถเลี้ยงดูตัวเองและลูกชายแต่งงานก็เลี้ยงดูภรรยาได้แบบสบายๆ แม่และพ่อรับฟังคําภาวนาของผมและครอบครัว ให้สัญญานตอบรับ ด้วยการให้หินรูปหัวใจหลายสิบก้อนที่ผมและครอบครัวไม่ค้นหาแต่เจอที่ชายหาดหลายแห่ง ให้เหรียญเงินราคาแตกต่างกันเยอะแยะเวลาเดินออกจากรถไปไหนมาไหน ให้ลูกก๊อฟหลายสิบลูกที่นักเล่นก๊อฟตีออกนอกสนามข้างบ้านแบบไม่ต้องมองหาเดินเจอเอง ผมงงไม่เข้าใจ จนกระทั่งเมื่อผมไปประจําการที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย แล้วเห็นสนามก๊อฟข้างบ้านพักมีลูกก๊อฟเกลื่อนกลาด ทรงบอกผมล่วงหน้าครับ

พระแม่มารีย์ทรงให้ผมเห็นอีกครั้งเมื่อเดือนสิงหาคม 2008: เมื่อผมไปประจําการที่ประเทศเยอรมนี (ก่อนที่ผมจะเสียความเชื่อสวดสายประคําพระเมตตาเวลาบ่ายสาม) ผมได้เดินทางไปแสวงบุญที่อาสนวิหารพระแม่มารีย์ เมืองลียง ประเทศฝรั่งเศส (Shrine of Ars, Lyon, France) ที่มีร่างกายไม่เสื่อมสลายของนักบุญยอห์น วีอานเนย์ ในโลงแก้วให้สาธุชนเห็นและขอท่านให้ช่วยภาวนาขออัศจรรย์จากพระเป็นเจ้าและพระแม่มารีย์ ผมเดินไปชมอาสนวิหารและวัดน้อยๆในอาสนวิหารหลายวัด แล้วผมก็นั่งสวดภาวนาในวัดน้อยวัดหนึ่ง เงยหน้ามองพระแท่นก็เห็นพระแม่มารีย์ลอยตัวเหนือข้างซ้ายของตู้ศีล ทรงยิ้มให้ผม เรายิ้มให้กันและกันเกือบสามนาที แล้วผมขออนุญาตถ่ายรูปแม่เป็นที่ระลึก จะให้ครอบครัว ญาติพี่น้องได้เห็น แม่ไม่ตอบ ยิ้มให้ผม ผมถ่ายรูปแล้วไหว้แม่ ลาแม่ ขับรถกลับประเทศเยอรมนี ถึงที่พัก ผมตรวจดูรูปภาพ ไม่มีรูปแม่มารีย์ และผมจําไม่ได้ว่าเจอแม่ที่วัดน้อยวัดไหนในอาสนวิหาร

เสียงของพระเป็นเจ้าที่บอกผมในหัว 1) " คอยหน่อยนะเรื่องบ้าน" ผมมีบ้านสองหลัง ราคาบ้านตกถึงขนาดขายแล้วยังเป็นหนี้ธนาคาร ไม่มีเงินส่งบ้าน 2) " Why worried/ กลุ้มใจทําไม?" 3) "You belong/ลูกเป็นส่วนหนึ่งเช่นกัน" เมื่อผมเดินไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตที่เห็นแต่ชาวอเมริกันผิวขาว ผมผิวเหลืองคนเดียวที่แทรกอยู่ในนั้น รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ 4) " Too many good things to live for." มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ดีที่ต้องมีชีวิตอยู่ต่อ เมื่อผมหมดกําลังใจสู้ชีวิต 5) " กลับบ้านได้แล้ว" เมื่อผมรักษาคำพูดคําสัญญาที่ให้กับพระองค์ว่า ถ้าทรงเมตตาให้ผมได้กลับมารับตำแหน่งที่ค่ายทหารใกล้บ้านในรัฐวอชิงตันที่ครอบครัวของผมรออยู่ ผมจะไปเฝ้าพระองค์ทุกวัน จันทร์-ศุกร์ หลังเลิกงาน ก่อนกลับบ้าน ไม่ว่าจะฝนตก หิมะลง ลมแรง พระองค์ทรงเมตตาให้ผมได้ตําแหน่งในค่ายใกล้บ้าน ผมทําทุกวัน รวมทั้งร่วมมิสซาตอนเที่ยง แล้ววันหนึ่ง ผมนั่งสวดใกล้ตู้ศีลเหมือนที่ทําทุกวัน 6) ผมได้ยินเสียงพระองค์บอกผมในหัวว่า" พอเถอะ" ทรงบอกผมเมื่อผมนั่งดูหนังดูรูปภาพสกปรกลามกในมือถือ แล้วต่อมาผมถึงเข้าใจ จากการอธิบายของคุณพ่อว่า การดูหนังดูรูปภาพสกปรกลามกเป็นบาปหนัก เหมือนกับการเป็นชู้ เป็นการล่วงประเวณี ที่เป็นหนึ่งในพระบัญญัติสิบประการของพระองค์

พระเป็นเจ้าและพระแม่มารีย์ให้ผมสัมผัสถึงความรักของสองพระองค์ในเวลาสวดภาวนา ร่วมมิสซา หรือจู่ๆ ก็ให้ผมได้รับรู้

เมื่อแปดปีที่แล้ว ผมสวดสายประคําพระเมตตาตอนบ่ายสามในค่ายทหาร ที่ฮาวาย พระเป็นเจ้าทรงให้ผมเห็นพระองค์ถูกตรึงบนไม้กางเขนที่เป็นเมฆเหนือท้องฟ้า ผมให้ครอบครัว ญาติมิตรพี่น้องดู โดยไม่บอกว่าเป็นอะไร บางคนเห็นบางคนไม่เห็น แต่ลูกชายลูกสาวพระเมตตากว่าสิบคนที่วัดพระหฤทัย เมืองเลซี่ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ทุกคนเห็นทันที บางคนเห็นมากกว่าผมซะอีก (ตัวผมเองไม่เคยคิดจะซูมอิน เมื่อผมมาประเทศไทย 6 ปีที่ผ่านมา ผมให้คุณนิพนธ์ดู คุณนิพนธ์เห็นทันทีแล้วซูมอินให้ผมเห็นพระองค์แบบชัดเจนยิ่งขึ้น)


กราบขอบพระคุณ: พระเป็นเจ้า (พระบิดา พระบุตร และพระจิต) พระแม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล คุณพี่อารักขเทวดา สหพันธ์นักบุญทุกท่าน
Yan Agape
โพสต์: 1516
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร พ.ค. 17, 2005 10:57 am

จันทร์ มิ.ย. 02, 2025 8:20 am

ลูกกราบขอบพระคุณพ่อและแม่อีกครั้งในความรัก ความเมตตา และ พระศักดา ที่ให้ลูกกับภรรยาตัดสินใจเดินทางจากรัฐวอชิงตัน ย้ายไปรัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา เพราะเริ่มแก่ตัว ทนหนาวที่รัฐวอชิงตันไม่ไหว และบ้านสองชั้น ขึ้นลงลําบากโดยเฉพาะภรรยาของลูก เนื้อที่ใหญ่เกินกว่าที่เราสองคนจะทําความสะอาด ปัดฝุ่น ดูดฝุ่น ทุกอาทิตย์ และลูกสาวย้ายไปรัฐเทกซัส สามปีที่แล้ว ลูกชายมีภรรยา เราอยู่กันแค่สองคน

ลูกกับภรรยาตั้งใจจะขายบ้านในช่วงเดือนมิถุนายนของปีนี้ (คศ 2025) แต่เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ หลังวันเกิดลูกหนึ่งวัน พ่อพระเป็นเจ้าและแม่มารีย์บอกลูกให้ติดต่อเอเยนต์ขายบ้าน แล้วทําความสะอาดบ้าน บรรจุข้าวของ เตียงนอน เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ในบ้านในคอนเทนเนอร์สองตู้ ส่งไปคอยที่รัฐเทกซัส แล้วเอเยนต์ประกาศขายปลายเดือนกุมภาพันธ์:

1) เอเยนต์ประกาศขายทางอินเตอร์เน็ต ไม่ถึง 24 ชั่วโมง มีคนจองซื้อให้เต็มราคา บอกให้เอาบ้านออกจากประกาศขายและเลิกการเปิดบ้านให้คนสนใจดู ลูกทั้งสองและเอเยนต์สุดจะดีใจ เอเยนต์ของคนจะซื้อติดต่อเอเยนต์ของเรา ตามกฎหมายของรัฐวอชิงตัน คนซื้อต้องวางเงินมัดจำภายในสามวัน วันที่สองเอเยนต์ของเขาบอกเอเยนต์ของเราว่าเขาเปลี่ยนใจ

ลูกสองคนสุดจะผิดหวังและเศร้าใจ บอกกันว่าอย่าโกรธแค้นเกลียดชังเขา สวดแผ่เมตตาให้เขาได้สํานึกว่าการกระทำของเขาเกิดผลเสียหายให้เราผู้ขาย นอกจากจะผิดหวังเสียใจแล้ว มันยังมีผลกระทบต่อการเปิดบ้านของเราให้คนสนใจจะซื้อไปดู เสียเวลาไปสองวันเพราะเป็นวันสุดสัปดาห์ (เสาร์และอาทิตย์) ที่คนสนใจซื้อบ้านมีเวลาไปดู และอาจจะมีคนสนใจขอซื้อ เราสองคนถวายความผิดหวังเสียใจให้พ่อและแม่เป็นการพลีกรรมให้เขา ตัวเราเอง ญาติมิตร ทุกคนบนโลกและในไฟชําระ

2) เอเยนต์ของเราประกาศขายบ้านขึ้นอินเตอร์เน็ตอีกครั้ง ไม่ถึงสองวัน มีสามีภรรยาคู่หนึ่งติดต่อซื้อบ้านให้เต็มราคา มีเงินมัดจำให้ทันทีและสามารถทําการโอนเงินโอนบ้านเสร็จภายในสามอาทิตย์ (ปกติจะกินเวลาสี่อาทิตย์) เอเยนต์ของเขาและของเราติดต่อกันแล้วเซนต์สัญญาซื้อขายบ้านทันที คนซื้อมีคนตรวจสภาพบ้านของเขา ( บ้านสภาพดีมากไม่มีอะไรต้องซ่อมแซม) ธนาคารของเขามาประเมินราคาบ้านแล้วบอกว่าราคาเป็นที่ยอมรับเมื่อเทียบกับราคาบ้านหลังอื่นๆที่คล้ายกันในละแวกหมู่บ้านของเรา วันที่ 11 มีนาคม เป็นวันสิ้นสุดของการโอนขายซื้อบ้าน

ลูกสองคนเดินทางไปรัฐเทกซัส วันที่ 14-19 เมษายน แล้วเอเยนต์ซื้อบ้าน ( เพื่อนของเอเยนต์ขายบ้านของเราที่รัฐวอชิงตัน) พาเราไปดูบ้านในเมืองใกล้กับเมืองที่ลูกสาวเราอาศัยอยู่แบบขับรถครึ่งชั่วโมงถึง เราตัดสินใจซื้อบ้านที่เราทั้งสองรู้สึกทันทีว่าเป็นบ้านที่พ่อและแม่เตรียมให้ เปิดประตูเข้าบ้านสามารถสัมผัสถึงพลังสดชื่นแจ่มใสพุ่งใส่ตัว

(บ้านของเราสร้างเสร็จเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้ ตั้งราคาสูงมาก เมื่อไม่มีคนซื้อ บริษัทสร้างบ้าน ลดราคาลงเป็นสามส่วนสี่ของราคาเดิม)

เมื่อลูกทั้งสองไปร่วมมิสซาวันอาทิตย์และกราบพ่อและแม่ที่วัดใกล้บ้านห่างแค่หกกิโลเมตร ขับรถไม่เกิน 8 นาทีถึง ลูกเห็นวัดที่สร้างจากหิน (แต่ละชิ้นยาวขนาดสองไม้บันทัดและกว้างเกือบไม้บันทัดเป็นส่วนประกอบสําคัญของตัววัด เป็นก้อนหินสีเหลืองสลับสีขาวหม่น ลูกทั้งสองรู้สึกอบอุ่นใจ แล้วลูกทั้งสองก็ลงทะเบียนเป็นสมาชิกของวัดนั้น

เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา พ่อกับแม่บอกลูกว่า บ้านของเรามีส่วนประกอบสําคัญเป็นก้อนหินสีเหลืองสลับสีขาวหม่นเหมือนบ้านพ่อบ้านแม่! ลูกบอกให้ภรรยารู้ ภรรยาร้องอ๋อว่าจริง แล้วแถมบอกลูกต่อว่าเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ตั้งโทรทัศน์พึ่งซื้อ เป็นสีเดียวกับสีตู้เก็บจานชามในครัว!

พ่อแม่ให้ความสำคัญทุกเรื่องในชีวิตของครอบครัวของเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กน้อยที่ลูกมองข้าม ไม่สนใจ และไม่อยู่ในสายตาของลูก

ลูกและภรรยากราบขอบพระคุณพ่อพระเป็นเจ้า แม่มารีย์ นักบุญโยเซฟ อัครเทวดาไมเกิ้ล เกเบรียล ราฟาเอล อัครเทวดาแห่งสันติภาพ คุณพี่อารักขเทวดา สหพันธ์นักบุญทุกท่าน อีกครั้งหนึ่งจากหัวใจของลูกทั้งสอง
ตอบกลับโพส