บทความที่น่าสนใจ ( 3 )

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6845
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ก.ย. 08, 2025 9:53 pm

( 1 )

“โลกนี้ไม่มี ใครพูดถึงดักแด้หรอก
จนกระทั่งเติบโตเป็นผีเสื้อ ทุกคนก็อยากจะจับ”
.
ระหว่างที่เราเงียบ ระหว่างที่เราพยายาม
ระหว่างที่เรากำลังเปลี่ยนแปลง ทีละนิดแบบไม่หวือหวา
.
แทบไม่มีใครมองเห็นหรอก ไม่มีเสียงปรบมือ
ไม่มีใครมาสนใจ ไม่มีใครรู้ว่าคิดมาก
ไม่มีใครเห็นตอนเราเจ็บ ไม่มีใครถามตอนเราอยากจะถอดใจ
.
โลกมันก็เป็นแบบนี้ เงียบกับคนที่ยังไม่ถึง แต่ดังก้องกับคนที่ไปไกลแล้ว
.
ดักแด้น่าเกลียดที่ไม่มีใครพูดถึง นอนนิ่งอยู่เงียบ ๆ จนหลายคนลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่า
ข้างในนั้นกำลังดิ้นรน เพื่อกลายเป็นอะไรบางอย่างอยู่
.
จนวันหนึ่ง ดักแดเป็นผีเสื้อบินได้ ทุกคนถึงหันมา
ทุกคนถึงยิ้มให้ ทุกคนถึงพูดว่า "เก่งจังเลย"
.
แต่ไม่มีใครรู้หรอก ว่าเราผ่านอะไรมาบ้าง
.
เพราะฉะนั้น ถ้าตอนนี้คุณยังอยู่ ในช่วงที่ไม่เป็นที่สนใจ ยังไม่มีใครพูดถึง
ยังรู้สึกเหมือนกำลังดิ้นรน ในเปลือกของตัวเอง "อย่าเพิ่งหมดหวังนะ"
.
เพราะการเป็น “ดักแด้” ไม่ใช่ความพ่ายแพ้ แต่มันคือ “กระบวนการของผีเสื้อ”
ที่โลกนี้ไม่เคยมองเห็น...

- ไอเกลอ

ปรัชญา & คำคม
..🕊️🪶
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6845
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ก.ย. 09, 2025 10:45 pm

( 2 )

ไม่มีรักใดไม่ต้องการสิ่งตอบแทน ..
ดังนั้น ..
เมื่อเรารักใคร . เราก็จะคาดหวังให้เขารักเราตอบในปริมาณที่เท่าๆกัน
โดยลืมไปว่า ..
ไม่มีเครื่องมือ หรือมิเตอร์ไหนที่จะมาวัดปริมาณความรักได้
ดังนั้น .. จะบอกว่ารักเราไม่เท่ากันก็คงไม่ได้
คนแต่ละคนก็เติบโตมาสภาวะแวดล้อมที่ต่างกัน
อุปนิสัย การดำเนินชีวิต ความอดทน ความกดดัน ต่างกัน
คำว่ารักของคนๆนึง อาจไม่เท่ากับ .. คำว่ารักของอีกคนนึง
หรือพูดอีกอย่างนึงก็คือ คำจำกัดความของคำว่ารักของคนเราล้วนต่างกัน
คนบางคน .. การได้เจอกันทุกวัน ได้คุยกันทุกวัน นั่นคือรัก
แต่คนบางคน การได้จับมือ เดินไปไหนมาไหนด้วยกันทุกๆที่ นั่นคือรัก
ในขณะที่คนบางคน .. มีแค่ความคิดถึง และความเชื่อใจกัน โดยที่ไม่ต้องอยู่ด้วยกันตลอดเวลา
นั่นคือรัก เมื่อเราคาดหวัง .. แล้วมันไม่เป็นดังหวัง ก็จะคิดไปเองว่า .. เขาไม่รัก
..
ซึ่งแท้จริงแล้ว .. อาจไม่ใช่ เขาอาจจะรัก แต่แสดงออกในแบบของเขาก็ได้
แต่ไม่ว่าจะรักแบบไหน ล้วนเกิดจากพื้นฐานของความเข้าใจ เชื่อใจ และห่วงใย
ไม่อย่างนั้นคงเรียกว่ารักไม่ได้ เมื่อไหร่ที่ความเข้าใจกันหายไป
ก็จะพาลให้ความเชื่อใจ และห่วงใยหายไปด้วย สิ่งหนึ่งที่ทำได้ ..
คือการหันหน้าคุยกัน ด้วยคำพูดดีๆ ปรับความเข้าใจกันอีกครั้ง สิ่งสำคัญก็คือ
อย่าพูดว่ารัก แต่ใจไม่รัก เพราะการกระทำสุดท้ายแล้วก็จะบ่งบอกว่าเราไม่รัก
และอย่าคิดว่าแค่การแสดงออกก็เพียงพอในการรักใครซักคน ไม่ต้องพูดอะไรก็จะเข้าใจ
เพราะจิตใจคนเรานั้นอ่อนแอ ... คำพูด จะทำให้รู้สึกเชื่อมั่น ..
การกระทำ .. จะทำให้รู้สึกเชื่อใจ หากเมื่อไหร่ที่สิ่งต่างๆไม่เป็นไปตามที่เราคาดหวัง
หากการคุยกันดีๆแล้วไม่เป็นผล มองหน้าเขาให้ดีๆ แล้วถามใจตัวเองว่า..
คนๆนี้คือคนที่เรารักจริงๆมั้ย ถ้าหากว่าคำตอบคือใช่ .. คำถามต่อไปก็คือ
เราทำใจ เข้าใจเขา และลดความคาดหวังลงได้มั้ย แล้วคำตอบจะปรากฎขึ้นในใจ
ของเราเอง ที่เหลือก็คือ .. เราจะยอมรับมันได้หรือเปล่าก็เท่านั้น
..
.
ไม่ใช่เรื่องง่าย ในการที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใครซักคน แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เรารักใครซักคนนั้น
การเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่าง ก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไป
เพราะว่ารัก .. จึงอยากให้เขามีความสุขเมื่ออยู่ใกล้ๆเรา จึงอยากที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรๆให้มันดีขึ้น ...
แต่ทว่า ...
ความรัก .. กับความชอบนั้นต่างกัน เมื่อฝ่ายหนึ่งรัก . แต่อีกฝ่ายหนึ่งชอบ
ความคาดหวังที่ไม่ตรงกันก็จะตามมา .. และความวุ่นวายต่างๆก็จะตามมา
ดังนั้น ..ก่อนที่จะพูดคำว่ารัก ถามใจตัวเองให้ดี ว่ารักจริงๆ .. หรือแค่ชอบ..
ก่อนที่จะมีใครบางคนต้องเจ็บปวด .. ด้วยความรู้สึกครึ่งๆกลางๆของคุณเอง
นอกจากนี้..
คนเรา .. ถูกสร้างขึ้นมาพร้อมข้อดี และข้อเสีย เมื่อเรารักใคร ..
หากว่ามองเห็นแต่ด้าน ที่ดีของเขาละก็ ให้บอกกับตัวเองได้เลยว่า
เรายังไม่รู้จักเขาดีพอ .....หรือไม่ก็ .. เรากำลังตาบอดเพราะความรัก
จงจำไว้เลยว่า ..
การที่คนเราจะอยู่ด้วยกันได้อย่างยืดยาวนั้น ต้องชื่นชมในข้อดี และเข้าใจ
ในข้อเสียของกันและกัน ในเส้นทางของชีวิต ถ้าแค่เราคนเดียว .. จะเดิน จะวิ่ง
เร็วเท่าไหร่ ช้าเท่าไหร่ จะล้มยังไง ก็คงไม่เป็นไร เพราะมีแค่เราคนเดียวที่เจ็บ
แต่เมื่อวันใด .. ที่เราตัดสินใจจะเดินร่วมทางกับใครซักคน ก็เหมือนกับการเดินสามขา
จะก้าวยังไง เดินเร็วเท่าไหร่ ก็ต้องก้าวไปด้วยกัน เมื่อล้ม .. ก็จะไม่ใช่เราคนเดียวที่เจ็บ
จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน ปรับเปลี่ยนบางสิ่งเข้าหากัน
เพื่อหาจังหวะในการเดินที่พอดีของทั้งสองฝ่าย .. ไม่เร็วเกินไป ไม่ช้าเกินไป
เพื่อจะได้เดินไปด้วยกันได้ ไม่ว่าจะเจออุปสรรคแบบไหนก็ตาม ...

บางครั้ง .. การเดินไปคนเดียว .. อาจมีความสุขกับอิสระของชีวิตที่เราเลือกเองได้
จะเดินไปไหนก็ได้ จะวิ่งก็ได้ เหนื่อยนักจะพักก็ได้ แต่คงจะดีกว่าไม่น้อย
ถ้ามีใครซักคนร่วมเดินคุยไปด้วยกันตามทางเดินชีวิตที่ยังไม่รู้จุดจบนี้
ร่วมหัวเราะไปด้วยกัน ช่วยเช็ดน้ำตาของกันและกัน เสียงหัวเราะที่มีก็จะดังมากขึ้น...
น้ำตาที่ไหลมาก็จะเหือดแห้งเร็วขึ้น... แล้วเราก็จะพบว่า ชีวิตเรามีค่ามากขึ้น ..
เพราะตัวเราเองไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกนี้อีกต่อไป ..
ความสุข ณ ปัจจุบัน

#ที่ว่าการคำคม
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6845
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ก.ย. 09, 2025 10:52 pm

( 3 )

ใครใจร้อนลองฝึกดู พศิน อินทรวงค์

ใครที่ใจร้อน อารมณ์ขึ้นลงง่าย ต้องรีบแก้ไข
อย่าปล่อยใจตามความเคยชิน อย่าปล่อยให้สถานการณ์ลากพา

วิธีฝึกง่ายมาก...
สมมุติว่า มีถนนเส้นหนึ่ง มีข้างทางเป็นป่า ถนนมีชื่อว่า ถนนแห่งความเบาสบาย
ส่วนป่ามีชื่อว่า ป่าแห่งความคิดมาก
เวลาเดินทาง... ถ้าเราออกนอกเส้นทางเล็กๆน้อยๆก็ไม่เป็นไร
ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องธรรมดา เพราะมนุษย์กับความคิดเป็นของคู่กัน
เพียงแต่เราต้องกลับมาเส้นทางหลักให้เร็ว อย่าหลงเข้าไปในป่านานเกินไป
ยิ่งเดินเข้าไปจะยิ่งหลง -หาทางกลับออกมาลำบาก หงุดหงิดก็รีบกลับมา
โกรธเคืองก็รีบกลับมา เศร้า เหงา สับสน ก็รีบกลับมา เสียงในป่าจะตะโกนเรียก
แต่เราต้องมีสติ
อย่าออกนอกเส้นทางไปนาน เผลอคิดไปแล้ว ก็รีบกลับมา กลับมาที่ถนนเส้นหลัก
คือถนนแห่งความเบาสบาย

ใครที่เป็นคนคิดมาก
ฝึกแรกๆจะไม่คุ้นเคย ใจคอยแต่จะเดินไปตามเสียง หลงเดินไปตามความโกรธ
หลงเดินไปตามความเหงา เศร้า ร้าวลึก ต้องมีสตืระลึกรู้ แล้วเตือนตัวเองบ่อยๆ
เห็นใจตัวเองให้เร็ว แล้วดึงใจกลับมาที่ความเบาสบาย ดีใจเราไม่เอา เสียใจเราก็ไม่เอา
เราเอาแค่พอสบายๆ พอดีๆ แค่ใจที่เบิกบานอย่างผ่อนคลาย ง่ายๆเบาๆเราต้องการแค่นั้น
หากทำใจอย่างนี้ได้ ฝึกบ่อยๆ ได้เช่นนี้ ซ้ำๆ เสมอๆ สิ่งนี้ก็คือต้นทางแห่งความสุขแท้ๆ

ความสุขที่เป็นของจริง ที่ไม่ยึดโยงอยู่กับอะไรๆ อุปนิสัยจะเปลี่ยนแปลงจากรากฐานของจิต
จากแก่นกลางที่เป็นตัวตนของเราจริงๆ จำไว้เสมอ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
กลับมาที่ถนนหลักแห่งความเบาสบายให้เร็ว แล้วเราจะรอดจากความคิด
แล้วเราจะรอดจากทุกสิ่ง... ฝึกให้ชำนาญ ทำให้ชิน ชินแล้วจะกลายเป็นนิสัย
จากนิสัยเป็นวาสนา วาสนาคือชะตาชีวิตของเราทุกคน...
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6845
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

อังคาร ก.ย. 09, 2025 10:57 pm

( 4 )

ข้อคิดที่ได้จากหนังสือ อะไรที่คนสำเร็จมีเหมือนกัน
7 กุญแจสู่ความสำเร็จและการเติบโตในชีวิต

1.) กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน
• การรู้จักตัวเองและสิ่งที่ต้องการเป็นจุดเริ่มต้นของความสำเร็จ
• เขียนสิ่งที่ชอบลงไป แล้วเลือกสิ่งที่สำคัญที่สุดเป็นเป้าหมายหลัก
• ตั้งเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง ไม่กว้างเกินไป เพื่อให้มองเห็นหนทางไปสู่ความสำเร็จได้ชัดเจน

2. )ลงมือทำทันที
• การกระทำสำคัญกว่าความคิด หากยังไม่เริ่ม ให้พิจารณาสาเหตุที่ทำให้หยุดนิ่ง
• หากขาดเงิน ให้หาแหล่งรายได้เสริม หากขาดความรู้ ให้ศึกษาเพิ่มเติม
• เริ่มต้นจากวันละเล็กน้อยแต่ทำอย่างสม่ำเสมอ ความสำเร็จจะค่อย ๆ สะสมขึ้น

3. )พัฒนาความสามารถสู่การเป็นผู้นำ
• การเป็นผู้นำที่ดีต้องเก่งทั้งงานและการบริหารคน
• ศึกษาความรู้ให้ลึกซึ้งและสั่งสมประสบการณ์เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจในการตัดสินใจ
• กล้าตัดสินใจ แม้จะผิดพลาดก็เป็นโอกาสเรียนรู้

4. )เริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ ก่อน
• อย่าพยายามก้าวกระโดดเกินไป เริ่มจากจุดเล็ก ๆ แล้วพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ
• ตั้งเป้าหมายระยะสั้น เช่น สร้างรายได้เสริม แล้วค่อยต่อยอดเป็นธุรกิจขนาดใหญ่
• ลงทุนด้วยงบประมาณที่พอรับไหว แล้วนำกำไรไปขยายต่อ

5. )หยุดเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น
• เลิกทำสิ่งที่ไม่ใช่ตัวเองเพียงเพราะกลัวตกกระแส
• มองหาความสุขจากสิ่งที่เรารัก ไม่ใช่จากการพยายามทำให้เหมือนคนอื่น
• เป็นตัวของตัวเองให้ดีที่สุด เพราะไม่มีใครสามารถเป็นเราได้ดีเท่าเราเอง

6. )เก่งแค่เรื่องเดียวก็เพียงพอ
• แทนที่จะพยายามเก่งทุกอย่าง จงมุ่งพัฒนาให้เชี่ยวชาญในเรื่องเดียว
• ผู้ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มักมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
• เวลามีจำกัด เลือกสิ่งที่ชอบและพัฒนาให้ถึงระดับที่เลี้ยงชีพได้

7. )ความสำเร็จคือผลลัพธ์ของความอดทน
• ทุกความสำเร็จต้องใช้เวลาและความพยายาม
• อย่าท้อแท้หากยังไม่มีผลตอบรับในช่วงแรก จงสร้างคุณค่าอย่างต่อเนื่อง
• ความสำเร็จเกิดขึ้นเมื่อคุณทุ่มเทมากพอ และเมื่อถึงจุดหนึ่ง ผลลัพธ์จะเริ่มงอกเงยเอง

สั่งซื้อได้ที่
Shopee : https://s.shopee.co.th/7zwJXFGhks
Lazada : https://s.lazada.co.th/s.H4YLN?cc
ข้อความได้รับอนุญาตจากเพจ Readism
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6845
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. ก.ย. 25, 2025 8:46 pm

. 5. )


ลูกค้าที่ยอมจ่ายแพงขึ้น VS ร้านที่ขายถูกจนเจ๊ง
ลูกค้ายุคนี้... ไม่ได้มองแค่ราคาอย่างเดียว
แต่มองหาคุณค่า...

ทำไมบางร้านตั้งราคาแพงกว่า แต่คนยังต่อคิวรอกิน ทำไมบางร้านขายถูกสุดๆ แต่ไม่มีใครแวะเข้าไป

เพราะราคา...
ไม่ใช่ปัจจัยเดียว ที่ทำให้คนตัดสินใจซื้อ เจ้าของร้านอาหารแบ่งเป็น 2 ประเภท

#ประเภทที่ 1 ขายแข่งราคา
ข้าวผัดร้านอื่น 50 เราขาย 40 ลดราคา ลดโปรโมชั่น ของแถมเพียบ

#ประเภทที่ 2 ขายด้วยคุณค่า
ข้าวผัดร้านเราใช้ข้าวหอมมะลิแท้ ปรุงด้วยเชฟมีประสบการณ์ 10 ปี จัดส่งร้อนๆ ภายใน 20 นาที
ทำคลิปโชว์ให้เห็นความเชี่ยวชาญ

ลูกค้าเองก็แบ่งเป็น 2 กลุ่ม

#กลุ่มที่ 1 คนมองราคา อะไรถูกกว่า กินอันนั้น ลดกี่เปอร์เซ็นต์ มีของแถมไหม

#กลุ่มที่ 2 คนมองคุณค่า อาหารอร่อยแท้ ยอมจ่าย ร้านสะอาด พนักงานยิ้มแย้ม ยอมจ่าย
ส่งไว ห่อดี ไม่หกเลอะ ยอมจ่าย

ถามตัวเองสิว่า...
ร้านคุณกำลังสู้กับใคร? กำลังแย่งลูกค้ากลุ่มไหน?

ถ้าสู้กันที่ราคา... คนที่จะรอด คือคนที่ต้นทุนต่ำสุด ซึ่งอาจไม่ใช่คุณ

ถ้าขายถูกจนกำไรน้อย แถมคุณภาพก็แย่ ร้านคุณจะอยู่ไม่นาน

ทำไมไม่ลองดู...
ปรับร้านให้ดีกว่า สะอาดกว่า ทำอาหารให้อร่อยกว่า บริการให้ประทับใจกว่า
ส่งให้เร็วกว่า ตรงเวลากว่า โชว์ความเชี่ยวชาญได้มากกว่า

เมื่อนั้น... คุณจะขึ้นราคาได้ แม้แพงกว่าคนอื่น

แต่ลูกค้าจะยอมจ่าย เพราะเขารู้ว่า คุ้มค่า เห็นไหม ร้านกาแฟแบรนด์ดัง ขาย 180 บาท คนยังเข้าคิวซื้อ

ในขณะที่ร้านข้างๆ ขาย 40 บาท กลับเงียบเหงา ไม่ใช่เพราะคนไม่มีเงิน แต่เพราะ คุณค่าต่างกัน

ถ้าเลือกได้ คุณอยากเป็นร้านไหน? ร้านที่ขายถูก กำไรน้อย? หรือร้านที่ขายแพง กำไรเยอะ?

คำตอบอยู่ที่คุณภาพของร้านคุณ ถ้าทำให้ดีไม่ได้ ก็ต้องสู้ที่ราคา แต่ถ้าทำให้ดีได้
คุณจะเก็บเงินได้มากกว่า

ที่สำคัญ... ลูกค้ากลุ่มที่ 2 จะกลับมาซ้ำ

ส่วนลูกค้ากลุ่มที่ 1 จะไปหาที่ถูกกว่าเรื่อยๆ เลือกเลย...จะเอาแบบไหน?

คุณมี 2 ทางเลือก

ทางเลือกที่ 1 ขายแข่งราคา ลดต้นทุนจนสุด ลดคุณภาพลง ผลลัพธ์ กำไรน้อย ทำงานหนัก
ลูกค้าไม่จงรักภักดี สุดท้ายเขาก็หนีไปกินร้านที่ขายถูกกว่า

ทางเลือกที่ 2 ขายด้วยคุณค่า ยกระดับคุณภาพ สร้างประสบการณ์ที่ดี ผลลัพธ์ กำไรสูง ขยายร้านได้

ลูกค้าบอกต่อ
ร้านอยู่ได้ 10+ ปี มีเงินเหลือเก็บ เปิดสาขาได้ ตอนนี้คุณเห็นความต่างแล้ว... จะเลือกทางไหน?

เลือกเส้นทางราคาถูก = เหนื่อยไปวันๆ
เลือกเส้นทางคุณค่า = สร้างอนาคตที่มั่นคง

วันนี้ถ้ายังทำไม่ได้ ก็ค่อยๆปรับ วันละนิด แต่ต้องไปให้ถึงจุดที่...
ลูกค้าพูดว่า แพงก็ยอม เพราะร้านนี้คุ้มค่ากว่า

หวังว่าจะมีประโยชน์นะครับ

(โยขายดี)
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6845
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. ก.ย. 25, 2025 8:53 pm

( 6 )

ชายคนหนึ่งสร้างสวนสัตว์ขึ้นมา
ตั้งค่าเข้าชมไว้ที่ 1,000 บาท แต่ไม่มีใครมาเลย
.
เขาจึงลดราคาลงเหลือ 500 บาท
แต่ก็ยังไม่มีใครมาเที่ยว สวนสัตว์ของเขาเงียบสนิท
.
ต่อมาเขาจึงลดราคาลงเหลือ 300 บาท
แต่ก็ยังไร้วี่แวว ไม่มีผู้คนเข้ามาชมเลยสักคนเดียว
.
จนในที่สุด.. เขาจึงเปิดให้เข้าชมฟรี..!! ในไม่ช้าสวนสัตว์ก็เต็มไปด้วยผู้คน
จากนั้นเขาก็ล็อคประตูสวนสัตว์อย่างเงียบๆ ขังผู้คนไว้แล้วปล่อยสิงโตออกมา
ตั้งค่าออกจากสวนสัตว์ไว้ที่คนละ 1,000 บาท และ ทุกคนก็เต็มใจจ่าย..!! 🤣🤣
.
ในขณะที่คุณมีชีวิตอยู่.. จงระวังข้อเสนอราคาถูก หรือ ของฟรี
ของถูก และ ดี ไม่มีในโลก บนโลกนี้ไม่มีสิ่งใดที่ฟรี..!! จำไว้
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6845
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ต.ค. 27, 2025 11:26 am

( 7 )

ทุกวันนี้ ถ้าคุณอายุ เลย 50 ปี 60 ปี
เวลาคุณเหลือน้อยลง มากแล้ว แสงไฟ ค่อย ๆ....หรี่ลง
แรงกาย แรงใจ ถดถอย ตามสังขาร
…แต่คุณกำไร ชีวิตมาเกิน ครึ่งคนแล้ว มองเห็นโลกมากมาย ผ่านเรื่องราว
สุข ทุกข์ มากมาย ใช้เวลาที่เหลือ ให้คุ้มค่า
เพราะ
… ทุกอย่างที่มีก็จะกลายเป็นของคนอื่น จะเหลือเพียงรูปติดข้างฝา ที่บ้าน
(จะมีมั้ย...ไม่รู้)
ลูกเรา...เดินผ่านไปผ่านมา แทบจะไม่เหลียวมองรูป
แล้วเรา...จะโดนลืมในที่สุด จึงควร มองหาแต่ความสุขในทุกวัน เพราะเรามา
ที่นี่....เพียง....ชั่วคราว ไม่ได้มาค้ำฟ้า ทุก ๆ ปีใหม่ ทุก ๆ วันเกิด
นาฬิกาชีวิตของเราเริ่มนับถอยหลัง ชนิดที่ว่าไม่อาจรู้ได้ว่าเหลืออีกเท่าไหร่
ดังนั้น...อยากกิน...ไรกิน อยากทำไร...ทำ โนสน...โนแคร์
เลือก คบ กับคนที่ใช่ เลือกปฎิเสธ- กับ - สิ่งที่ไม่ชอบ
ทำชีวิตให้มีความสุข....กับทุกวัน รักครอบครัว รักษาสุขภาพ ให้ดี....
อย่าเสียเวลา กับ เรื่องราวในชีวิตที่ไม่คุ้มค่าและผู้คน...ที่ทำร้ายเรา
.
ขอบคุณบทความดีๆ
#อ่านเถอะดีมาก
#บทความดีๆ
#อ่านแล้วชอบ

ความสำเร็จไม่ได้วัดกันแค่สิ่งที่มองเห็นจากภายนอก บางครั้งสิ่งเล็ก ๆ ที่ไม่โดดเด่นกลับมี
รากฐานที่ แข็งแรงและมั่นคง ในขณะที่สิ่งที่ดูใหญ่โตสวยหรู อาจกลวงเปล่าและไม่มีอะไร
อยู่เบื้องหลัง หลายคนมักตัดสินกันด้วยภาพลักษณ์ภายนอก เช่น ทรัพย์สิน ตำแหน่ง หรือ
คำชื่นชม แต่ความจริงแล้ว
สิ่งเหล่านั้นไม่ใช่ตัวตัดสินว่าชีวิตใครมีคุณค่ามากกว่า เพราะสิ่งที่สำคัญจริง ๆ คือผลลัพธ์ที่
แท้จริงที่เราสร้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความพยายาม ความอดทน หรือการเติบโตที่ไม่มีใครเห็น
ดังนั้น อย่าด่วนตัดสินคนอื่นจากสิ่งที่ตาเห็น และอย่าลดค่าตัวเองเพียงเพราะยังไม่เป็นที่
ประจักษ์ต่อใคร ๆ เพราะแท้จริงแล้ว “ความสำเร็จ” อยู่ที่สิ่งที่คุณสร้างไว้เบื้องหลัง ไม่ใช่แค่
สิ่งที่เอาออกมาโชว์ให้โลกเห็นเท่านั้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6845
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ต.ค. 27, 2025 11:33 am

( 8 )

"คนทำจริง ยืนได้นานกว่า"
.....
บางคนไม่ได้ขยันอะไรเลย แต่เขาขยันอยู่ในที่ที่มีคนมองเห็น
เขาไม่ได้ทำเยอะ แค่พูดเก่ง เขาไม่ได้ลงแรง แค่อยู่ถูกที่ถูกเวลา
.
ตอนทีมลุย เขาเงียบ ตอนหัวหน้ามา เขายืนหน้า
ตอนงานสำเร็จ เขาเดินออกไปรับคำชม ตอนมีปัญหา เขาหลบหาย
.
คุณอาจสงสัยว่า ทำไมคนแบบนี้ถึงได้ดี นั้นเพราะบางระบบไม่ได้เลือกคนทำงานจริง
แต่มองหาคนที่สร้างภาพได้ดีมากกว่า
.
อย่าเสียเวลาไปอิจฉา คนที่ได้หน้า แต่ไม่มีราก
.
เพราะวันหนึ่ง ต้นไม้ที่ไม่มีราก จะล้มลงทันทีที่เจอลมแรง
แต่คนที่ทำจริง แม้ไม่ได้ดังตอนนี้ แต่เขาจะยืนได้นานกว่าเสมอ.
.
**************************************************************
เครดิต : เพจ ปรัชญา
ภาพ : Mode & Man - Pinterest
#SISTERLYJewelry
#jeweljuice_thailand
#PositivePowerJewelry
#MadeinChanthaburi

…………………………………………………
ลมพัดแรง มิอาจพัดภูผา คลื่นโถมฟ้า มิอาจกลืนแสงดาว
ใจมั่นคง ดั่งขุนเขาเงียบงัน ย่อมผ่านวันพายุได้โดยไม่หวั่นไหว

หนทางยาว มิใช่เพื่อให้เหนื่อย แต่เพื่อให้ใจเรียนรู้ความทน
เมื่อถึงปลายฟ้าแห่งความฝัน จะรู้ว่าแรงศรัทธาต่อพระเจ้าคือปีกแท้ของมนุษย์

ทุกความลำบากคือครูผู้เงียบ (พระเยซูเจ้า) จากสวรรค์ ทุกความเจ็บคือไฟหล่อเหล็กใจให้แข็งแกร่ง
อย่ากลัวคืนมืดในหนทาง เพราะคริสตชนส่องสว่างได้ก็เพราะความมืดนั้นเอง

หยุดหนึ่งก้าวเพื่อฟังเสียงพระจิตเจ้า หยุดหนึ่งใจเพื่อรู้ว่าพระองค์อยู่ใกล้เพียงปลายลมหายใจ
ความสำเร็จไม่อยู่ที่ปลายทาง แต่อยู่ที่ความสันติสุขในใจระหว่างทางชีวิต
เดินตามพระวาจาพระยาห์เวห์ พระเป็นเจ้าของพวกเรา
แก้ไขล่าสุดโดย rosa-lee เมื่อ จันทร์ ต.ค. 27, 2025 11:47 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6845
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ต.ค. 27, 2025 11:38 am

( 9 )

นั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่ มีผู้ชายคนนึง นั่งโต๊ะถัดไป กินไป มันก็มองๆผมไป
ผมก็คิดในใจ..มอง ค. อะไร

จนกินเสร็จพร้อมๆกัน จ่ายเงินเสร็จ ผมเดินมาที่รถ
ติ๊ก… ติ๊กป่าว ใช่ติ๊กมั้ย?? ผมหันไปมองหน้า ที่เรียก ก็ไอ้คนในร้านก๋วยเตี๋ยวนี่แหละ

กู… กูเอ็กไง เอ็กเพื่อนมึงตอนเด็กไง เด็กในซอยไง แม่กูขายหมากไง

อ๋ออออออ ถึงว่าแม่ง มองผมแปลกๆในร้านก๋วยเตี๋ยว ยาวเลยทีนี่ ระลึกความหลังกัน
ยืนสูบบุหรี่ คนละ 2 ตัวคุยกัน

เอ็ก เล่าว่า พอพ่อแม่แยกทางกัน แม่เอาไปฝากกับยาย กูไปอยู่ กับยายที่ ต่างจังหวัด จน 20

ก็ทำงาน เปลี่ยนงานไปเรื่อยอะ จนมามีเมียคนแรก เปลี่ยนชีวิตกู นาง สายมู ชอบดูดวง ชอบไป
ตำหนักพวก ทรงเจ้า เข้าผี

ไปแม่งทุกที เกือบทุกจังหวัด กูเนี่ย คนขับรถให้นาง โคตรเบื่อ จนกู…เลิกกัน เพราะเรื่องนี้

พอกูไปทำงานได้ 4-5 ปี กูไปเจอเจ้านาย สายมูอีก บูชาทุกอย่าง กิ่งไม้ลงยันต์ 10,000 นึง แม่งก็บูชา

แม่ มาขอให้กูบวชให้ อยากเห็นชายผ้าเหลือง กูก็บวชให้ 1 พรรษา ตรงนี้แหละ
กูไปบวชวัดป่า ที่เขามีการ ทำพิธี มีดูดวง กูกพอจะได้ความรู้มา

สึกออกมา จะกลับไป ทำงานที่เดิม บริษัทก็เจ๊งแล้ว นอนอยู่บ้านเป็นเดือนๆ คิด ทำไรดี

เพื่อนมมบอกว่า… ย้ำนะ เพื่อนผมพูดเองจากปาก เขาบอกว่า หาแดกกับคนโง่ดีกว่า!!

และแล้วก็….เปิดสำนักดูดวง รับทำพิธีต่างๆ เรียนอ่านเพิ่มนิดหน่อย สถาปนาตัวเองเป็น…อาจารย์

ปีเดียว มีเงินล้านครั้งแรก ปีที่สอง เริ่มฉลาด ทำยันต์ ทำสีปาก ทำเครื่องรางขายด้วย

ผ้าดิบ เมตรละ 100 เอามาตัด เอามาเขียนยันต์ ผ้าเมตรเดียว ขายได้เป็นหมื่น!

น้ำเปล่าๆ ธรรมดาๆ หยดเทียนลงไป ในบาตรพระ ใส่เครื่องหอม ใส่กลีบดอกไม้
แค่บอกเอาไปพรม ไล่สิ่งไม่ดีได้ น้ำขวดเดียว 999 บาท

หักกิ่งต้นไม้แห้งๆมา มัดสายสิญจน์ เขียนอักขระ ปิดทองคำเปลว บอกกิ่งเงินกิ่งทอง
ช่วยค้าง่าย ขายคล่อง 888 บาท ลงทุน 10 บาท

10 กว่าปี มีบ้าน 7 ล้าน มีรถ 5 ล้าน จากการหาเงิน
กับคนงมงาย และ ขาดสติ ขาดที่พึ่งทางใจ ขาดความมั่นใจ

เพื่อนบอก นี่คือธุรกิจที่กำไรดีมาก และมีลูกค้า เป็นจำนวนมาก คนไทย 90% เชื่อเรื่องแบบนี้

ยิ่งกูมีเพจ เดี๋ยวนี้กู ขายเครื่องราง ออนไลน์ ขายโคตรดี ส่งยันจีน มาเลย์

เพื่อนผมคนนี้ ชื่อเล่นจริงๆ เอ็ก แต่ชื่อในวงการ อีกชื่อ ขอไม่เอ่ย เพื่อเป็น การให้เกียรติ เดี๋ยวเขาเสียหาย

ที่เอามาเล่า และเขียนสด เพราะ แม้กระทั้ง คนทำยังบอกเอง ว่า คนไทย…งมงาย และ เชื่ออะไร
ผิดๆ แบบ…ขาดสติมากๆ

ใครเชื่อ ผมไม่ก้าวก่าย ไม่ก้าวล่วง ชีวิตใครชีวิตมัน เงินคุณ ชีวิตคุณ เรื่องของคุณ

ผมมีคนเดียวในใจ ที่ผมเชื่อคำสอนท่าน แล้ว ชีวิตผมดีขึ้นคือ…พระพุทธเจ้า

บอกเลยว่า ธุรกิจนี้ กำไรดีกว่า ยาบ้าอีก กำไรดีกว่า อสังหาอีก กำไร รายได้ดีกว่าหมอ ดีกว่านักบินอีก

Cr :
สิริทัศน์ สมเสงี่ยม
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6845
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ต.ค. 27, 2025 11:44 am

( 10 )

: ทำไม “วินัย” คือเพื่อนที่โหดที่สุด
แต่แม่งซื่อสัตย์ที่สุด!
.
ฟังให้ชัดนะ...
ชีวิตผู้ชายแม่ง “ไม่มีของง่าย”​ ให้เลือกหรอก ถ้ามึงอยาก... มีชีวิตที่มันยิ่งใหญ่
อยากได้... ร่างกายที่แม่งพร้อม อยากมี...ธุรกิจที่โต...อยากมีเงิน...อยากมีอำนาจ
อยากเป็นผู้ชายที่...ใครก็ต้องหันมอง ของพวกนี้...มันไม่ได้มาตามใจนึก
แต่มันต้องแลกด้วย “วินัย”
วินัยแม่งเหมือน “เพื่อนที่โหดที่สุด” มันไม่เคย...อ่อนข้อให้มึง...ไม่เคยโอ๋มึง
มันบังคับให้มึงลุกจากเตียงตอนตีห้า ในวันที่ร่างกายโคตรอยากนอน
มันบังคับให้มึงไปยกเหล็ก ทั้งที่ร่างแม่งปวดจนแทบล้ม
มันทำให้มึงต้องนั่งทำงานคนเดียวในห้องที่
แม่งเงียบโคตรๆ ทั้งที่เพื่อนคนอื่นไปสนุกกันหมดแล้ว
---
แต่มึงรู้มั้ย “วินัย”​ แม่ง “ซื่อสัตย์”​กับมึงกว่าคนบนโลกใบนี้อีก ไม่มีหักหลัง
ไม่มีเล่นตลก ไม่มีเส้นสาย
ถ้ามึงทำมัน มันตอบแทนมึงแน่นอน และถ้ามึงไม่ทำ ก็ไม่มีใครช่วยได้ทั้งนั้น!!
มึงอยากมีหุ่นโคตรเท่? วินัยแม่งจัดให้!! แต่แม่งต้องแลก...ด้วยเหงื่อ
และการปฏิเสธของอร่อยตรงหน้า มึงอยากรวย อยากประสบความสำเร็จ?
วินัยแม่งจัดให้!!
แต่ต้องแลกด้วย...การทำงานในวันที่ไม่มีไฟ การอ่านหนังสือในวันที่แม่งง่วง
และการยืนหยัดตอนที่ทุกคนเลิกไปแล้ว มึงอยากเป็นผู้ชายที่มีคลาส? วินัยแม่งจัดให้!!
เพราะมันบังคับให้มึง...ไม่ทำตามสัญชาตญาณต่ำๆ แต่ฝึกมึงให้...กลายเป็นคนที่ควบคุมตัวเองได้
ความจริงคือ “ความสำเร็จ” มันไม่เคยทรยศใคร แต่คนที่ “ทรยศความสำเร็จ”​ คือ​ ตัวมึงเองเวลาที่
มึงยอมแพ้ ไม่ทำตามที่ควรทำ!
---
และนี่คือสิ่งที่ลูกผู้ชายแม่งต้องเข้าใจ...
ความรู้สึก แม่งเชื่อถือไม่ได้หรอก วันนี้มึงอยากนอน มึงอยากกิน มึงอยากผ่อนคลาย แต่สิ่งเหล่านั้น
แม่งไม่ได้สร้างอะไรให้ชีวิตมึงเลย มีแต่ “วินัย” นี่แหละ ที่แม่งจะสร้างอนาคต สร้างร่างกาย
สร้างความเป็นลูกผู้ชายที่มึงฝันไว้!!
โคตรจริงเลยนะ...
คนที่ประสบความสำเร็จไม่ได้เก่งกว่ามึงหรอก พวกมันก็เจ็บเหมือนมึง เหนื่อยเหมือนมึง
อยากเลิกเหมือนมึง แต่สิ่งที่มันมีต่างคือ... มันเลือกจะเดินกับเพื่อนที่ชื่อว่า “วินัย” จนสุดทาง
วินัยแม่งโหดจริง แต่โหดเพื่อมึง โหดเพื่อให้มึงเข้มแข็ง โหดเพื่อให้มึงกลายเป็นคนที่แม่ง
ไม่ต้องง้อโชคชะตา ไม่ต้องพึ่งใคร เพราะมึงสร้างทางของตัวเองได้
และในวันที่มึงหันกลับไปมอง มึงจะรู้เลยว่า เพื่อนที่โหดที่สุด แม่งก็คือเพื่อนที่ซื่อสัตย์ที่สุด
เพราะมันไม่เคยทิ้งมึงเลย มันพามึงมาไกลกว่าที่มึงเคยคิดว่าทำได้ด้วยซ้ำ
---
10 หลักการของลูกผู้ชายกับ “วินัย”

1 )ตื่นเมื่อถึงเวลา ไม่ใช่เมื่ออยากตื่น ลูกผู้ชายไม่ปล่อยให้ความง่วงแม่งคุมชีวิต
วินัยคือการลุกแม้ร่างกายจะตะโกนว่า “ขอนอนต่อเถอะ”

2 )ทำสิ่งที่ควร ไม่ใช่สิ่งที่อยาก
ความอยากแม่งเปลี่ยนทุกวัน แต่สิ่งที่ควรทำ คือสิ่งที่แม่งสร้างอนาคตให้มึง

3 )เหนื่อยก็ทำต่อ เจ็บก็ทำต่อ
เพราะทุกครั้งที่มึงก้าวผ่านจุดที่อยากเลิก นั่นแหละคือจุดที่มึงโคตรโต

4 )ไม่ใช้ข้ออ้างเป็นทางออก
ฝนตก ร่างกายล้า ไม่มีเวลา ข้ออ้างแม่งไม่เคยทำให้ใครเป็นผู้ชายที่ยิ่งใหญ่

5 )ความสม่ำเสมอคืออาวุธลับ
มึงไม่ต้องทำยิ่งใหญ่ทุกวัน แค่ทำเล็กๆ ให้สม่ำเสมอ แล้วมันจะพามึงโคตรไกล

6 )ปฏิเสธความสุขชั่วคราว เพื่อเป้าหมายระยะยาว
เบียร์เมื่อคืน เกมตรงหน้า หรือสาวที่ชวนไปเที่ยว ถ้ามันพังอนาคต วินัยแม่งสั่งให้มึงปฏิเสธ

7 )ควบคุมตัวเองได้ คุมชีวิตได้
คนที่ทำอะไรตามใจคือทาสของความรู้สึก คนที่มีวินัยคือเจ้านายของชีวิต

8 )อดทนกับความเงียบ ความเหงา และการรอคอย
เพราะเส้นทางสู่ความสำเร็จแม่งไม่ได้มีใครเดินข้างๆ มึงตลอดเวลา

9 )ซื่อสัตย์กับตัวเองก่อนใคร
วินัยแม่งโหดตรงนี้​ มึงโกหกใครได้หมด แต่ถ้ามึงโกหกตัวเอง มึงพังแน่

10 )ทำจนกลายเป็นตัวตน ไม่ใช่ภาระ
วันหนึ่งที่วินัยไม่ใช่สิ่งที่ต้อง “ฝืนทำ” แต่เป็นสิ่งที่ “มึงคือ” …นั่นแหละ ลูกผู้ชายตัวจริง
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6845
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ต.ค. 27, 2025 11:50 am

( 11 )

ผมเปิดร้านมา เกือบ 15 ปี เปลี่ยนพนักงานมา นับไม่ถ้วน
ทุกชุด ที่ถูก..“ไล่ออก” คือ นั่งดู ซีรีส์ นั่งเล่นเกมส์ ในเวลางาน
และพวก นัด 9โมง มา 09.25 หน้าที่ตัวเอง…ไม่รู้
เวลายังรักษาไม่ได้ จะเอา ทักษะ ความรู้ที่ไหนไป
ทำให้ชีวิต…เจริญได้?!!! เท่าที่ผม สังเกตเห็น
พฤติกรรม นิสัย ของคน ล้มเหลวในชีวิต…มีดังนี้

1 หนักไม่เอา…เบาไม่สู้
2 อยากได้เงินเดือนสูง ความรับผิดชอบ…ต่ำ
3 ทำงานแค่ให้มัน พ้นตัวไปวันๆ
4 ขี้เกียจ ขี้เกียจ และขี้เกียจ
5 มักง่าย มักง่าย และมักง่าย
6 ติเตียนไม่ได้ ไม่พอใจ
7 ผิด เสือกคิดว่าตัวเองถูก
8 ขาดความรับชอบ
9 ไม่พัฒนาตัวเอง
10 ไม่ตรงต่อเวลา

ผมพบว่า… คนล้มในชีวิต จะโทษทุกอย่าง ยกเว้นตัวเอง
ผมเคยเป็น ลูกจ้างมาก่อน ผมรู้ ลูกจ้างคิดอะไร คิดยังไง
ผมยังจำคำพูดพ่อผมได้ดี |กู๋เล้งเคยถามผมว่า วันๆมึงคิดอะไร
ผมเดินไปบอกพ่อว่า ขอค่าแรงจาก 50เป็น 70
พ่อไม่พูดอะไร พ่อพาผมเดินไป ที่โต๊ะก๋วยเตี๋ยวในร้านพ่อ
พ่อชี้ให้ผมดูว่า ผมเช็ดโต๊ะไม่สะอาด ที่พื้นมีเศษถั่วงอก
มีกระดาษทิชชูตกอยู่ พ่อบอกผมว่า… แค่โต๊ะตัวเดียว
มึงยังเช็ดไม่สะอาด ชีวิตมึง จะไปดูแลใคร หรือร้านตัวเองได้…?
พ่อบอกผมว่า
อย่าเอาความรับผิดชอบถูกๆ มาเรียกร้องผลตอบแทนแพงๆ ไม่มีใคร…จ่ายมึงหรอก
ผมจำมา…จนวันนี้ ผมตกผลึกได้ว่า โลกจ่ายผลตอบแทน ตามความสามารถเรา
และ…เป็นลูกจ้างที่ดีไม่ได้ ก็อย่าหวัง จะไปเป็น เจ้าของธุรกิจที่สำเร็จ ได้เลย
อย่าทำตัวเป็น คนคุณภาพ 150 บาท แต่เสือก อยากได้ค่าแรง 400

บทความจาก (สิริศักดิ์ ศิริสุขะ CR ติ๊ก สิริทัศน์ สมเสงี่ยม )
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6845
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

จันทร์ ต.ค. 27, 2025 12:31 pm

( 12 )

ทำไมเราต้องวางแผนชีวิต มันจำเป็นจริงเหรอ?
.
.ผมก็เคยสงสัยเหมือนคุณ จนกระทั่ง ผมได้เจอเรื่องหนึ่ง ที่เปลี่ยนมุมมองของผมไปเลย
.ผมเป็นคนหนึ่ง ที่ชอบวางแผนการเงินของตัวเอง เขียนเป้าหมาย วางเส้นทาง เก็บออม
และลงทุน แต่พอคนอื่นมองมา
.
.บางคนก็บอกว่า “ใช่สิ คุณพร้อมแล้วไง” บางคนก็คิดว่า “คุณทำได้ แต่ผมทำไม่ได้หรอก”
บางคนก็หัวเราะ แล้วบอกว่า “ผมยังไม่พร้อม”
.
.แต่คุณรู้ไหม…ผมเพิ่งไปเจอเด็กคนหนึ่ง ที่ทำให้ผมอึ้ง
.
.เด็กอายุแค่ 14 ปี เขาชื่อ “วิน – ภาสวิน ตันนิติ”
.
.เด็กวัยนี้ ที่หลายคน ยังเอาแต่เล่นเกม ใช้เงินไปวันๆ
แต่เขากลับเลือกจะ “วางแผนชีวิต”
.
.และสิ่งที่เขาวางแผน ไม่ใช่แค่เก็บเงินไว้ใช้ แต่น้องบอกว่า
.
.อยากส่งเงินไปให้ตัวเองใช้ในอนาคต แต่ถ้าเลือกได้...เขาบอกว่าเขาจะส่งทอง
.
.เพราะเขาเข้าใจว่า เงินเก็บอาจแพ้เงินเฟ้อ แต่ทอง…เอาชนะมันได้
.
.
คุณอึ้งไหมครับ? ผมเองยังอึ้ง
.
.เด็กอายุแค่ 14 ปี กลับคิดเรื่องการป้องกันเงินเฟ้อได้แล้ว
.
.นี่มันไม่ใช่แค่เรื่องการเก็บเงิน แต่มันคือ การมองอนาคต
สิ่งนี้ถูกสัมภาษณ์ไว้ ในรายการ มนุษย์ต่างวัยTalk และมันทำให้ผู้ใหญ่อย่างเรา…ต้องฉุกคิด
.
.เด็กทำได้ แล้วทำไมผู้ใหญ่อย่างเรา ถึงยังผัดวันประกันพรุ่ง?
.
.หลายคนมักบอกว่า “เกิดมาจน” เหมือนเป็นตราบาป เหมือนเป็นต้นทุนต่ำ
แต่น้องวิน กลับมองต่างออกไป
.
.เขาบอกว่า ต้นทุนไม่ได้อยู่ที่เงิน ไม่ได้อยู่ที่ทรัพย์สิน แต่มันอยู่ที่ “วิธีคิด”
อยู่ที่เราจะมองอะไรเป็นต้นทุนมากกว่า
.
.เพราะตัวเขาเอง… เกิดมาพร้อมต้นทุน ที่ใครไม่อยากได้เลย เขา “ป่วย” ตั้งแต่เด็ก
แม้หายแล้ว แต่สุขภาพไม่แข็งแรง ใช้ชีวิตท่ามกลางความเสี่ยงเสมอ
.
.แต่เขากลับบอกว่า ต้นทุนที่แท้จริงของเขาคือ “เวลา” เพราะเขาเริ่มได้ไว เริ่มตั้งแต่เด็ก
เริ่มก่อนใครหลายคน และเขาใช้ต้นทุนนั้นได้อย่างคุ้มค่า
.
.วินตั้งเป้าว่า “ปีหนึ่ง ต้องเก็บทองให้ได้ อย่างน้อย 1 บาท”
เขานั่งคิดต่อว่า… ถ้าอยากเก็บได้แบบนั้น เขาต้องมีรายได้ที่กำไรปีละ 50,000 บาท
.
.เด็กอายุ 14 ที่นั่งวางแผนตัวเลขแบบนี้ คุณเห็นภาพไหมครับ?
.
.เงินค่าขนมที่แม่ให้ อาทิตย์ละ 500 มันไม่พอแน่นอน ดังนั้นเขาต้องมี “อาชีพเสริม”
.และวันนี้… มีรายได้เสริมเดือนละ 10,000 บาท จากงานที่ลูกค้าจ้างเขา
เขามองว่างานมันยังไม่มั่นคง เพราะเหมือนฟรีแลนซ์ ที่ไม่รู้ว่าช่วงไหนจะมี หรือไม่มีงาน
แต่นั่นก็เป็นก้าวสำคัญ ของการเริ่ม
.
.เขายังไม่หยุดแค่นั้น เขามองหาทางเสริมเพิ่มอีก
.ทั้งการเอาขนมไปขายที่โรงเรียน สร้างช่องทางออนไลน์ หาของมาขายผ่านโซเชียล
.แต่สิ่งที่ทำให้ผมทึ่งยิ่งกว่า ไม่ใช่แค่การหาเงิน แต่คือ “วิธีคิด” ของเขา
.
.เขาไม่ได้ผลีผลาม ไม่ได้รีบกระโจนใส่ความสำเร็จ
เขาศึกษาก่อน ดูประสบการณ์ของคนอื่นก่อน และบอกตัวเองว่า
.
.“ถ้ารีบประสบความสำเร็จเกินไป มันก็พังง่าย”
“แต่ถ้าไม่วางแผนเลย ก็เหมือนพายเรือไปตามกระแสน้ำ”
.
.ฟังแล้วขนลุกไหมครับ? เด็กอายุ 14 แต่คิดได้ขนาดนี้
.
.เขาบอกว่า
เราต้องหาจุดสมดุลให้เจอ ต้องกำหนดเป้าหมาย ต้องมีลิมิต
และต้องมีวิธีที่ชัดเจน ว่าจะเดินไปยังไง นี่คือแก่นแท้ ของการวางแผนชีวิต
.
.เพราะฉะนั้น… ถ้าวันนี้คุณยังคิดว่า “การวางแผน มันยากเกินไป” “ไว้พร้อมก่อนค่อยทำ”
.
.ผมอยากให้คุณลองกลับมาดูเด็กคนนี้ เด็กอายุ 14 ที่เริ่มวางแผนชีวิต
อย่างเป็นขั้นตอน ทั้งที่ไม่พร้อม จนกลายเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ใหญ่อย่างเรา
.
.บางที…
การวางแผนชีวิต ไม่ต้องเริ่มจากอะไรยิ่งใหญ่ มันเริ่มได้ง่ายๆ
จากสิ่งเล็กๆ ที่คุณทำได้ในวันนี้
.เพราะการไม่วางแผน ก็เหมือนคุณนั่งอยู่ในเรือ ปล่อยให้กระแสน้ำพัดพาไปเรื่อยๆ
ไม่รู้ว่ามันจะพาไปถึงไหน หรือวันไหนมันจะพาไปติดโขดหิน
.
.แต่ถ้าคุณมีแผน คุณจะมี “พาย” อยู่ในมือ และคุณเลือกได้ ว่าจะพาเรือลำนี้ไปที่ไหน
.
.ลองถามตัวเองสิครับ วันนี้คุณเริ่มวางแผนชีวิตแล้วหรือยัง?
.
.ถ้าหาก การวางแผนแบบผู้ใหญ่มันดูยากไป ลองมาคิดให้มันง่ายขึ้น
.
.วางแผน แบบเด็กคนนี้กันไหมครับ
.
.ผมเชื่อว่า ถ้าเราได้เริ่มวางแผนชิวิตวันนี้ มันจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี...
ที่จะพาเราไปได้ไกลกว่าเดิมแน่นอน
.
.Cr. รายการมนุษย์ต่างวัยTalk EP.58
.เรื่องเล่าชีวิตเหมือนกราฟ ep.41
บทความมีลิขสิทธิ์
แต่งโดยเพจชีวิตเหมือนกราฟ
.
.#เรื่องเล่าชีวิตเหมือนกราฟ #ชีวิตเหมือนกราฟ
#วันใหม่กิตติ์ธนิน #นิทาน #นิทานเงาแดง
#เทรดกราฟเปล่า #เทคนิคเทรด #เทรดตามเจ้า #เทรดสด #ทองคำ #เทรดทองคำ
#เทคนิคที่ใช่คือเครื่องผลิตกำไร #ปลูกสิ่งที่เข้าใจเติบโตอย่างมั่นคง
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6845
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

พฤหัสฯ. ต.ค. 30, 2025 12:46 pm

( 13 )


อย่าตัดสินใคร...เพียงเพราะสิ่งที่ตาเห็น เรือสำราญลำหนึ่งเจอมรสุมกลางทะเล สามีภรรยาคู่หนึ่ง
พยายามเอาชีวิตรอด เมื่อกระเสือกกระสนมาถึงเรือชูชีพ กลับพบว่ามีที่ว่างเพียง “ที่เดียวเท่านั้น”
.
ทันใดนั้น สามีก็ผลักภรรยาไว้ด้านหลัง แล้วกระโดดขึ้นเรือชูชีพทันที ในขณะที่เรือกำลังจะจม
ภรรยายืนอยู่กลางคลื่นน้ำ พร้อมตะโกนประโยคหนึ่งไปยังสามีของเธอ...
.
อาจารย์ที่เล่าเรื่องนี้อยู่ หันมาถามนักเรียนในห้องว่า...
.“เธอคิดว่า ผู้หญิงคนนั้นตะโกนว่าอะไร?”
. เด็กนักเรียนส่วนใหญ่โกรธเคือง บางคนตะโกนว่า "ฉันเกลียดคุณ!" บางคนพูดว่า "ฉันมันโง่ที่รักคุณ!"
.
ท่ามกลางความโกลาหล มีนักเรียนหญิงคนหนึ่งนั่งเงียบ ไม่พูดอะไรเลย
.
อาจารย์จึงถามเธอว่า... “แล้วเธอล่ะ คิดว่าเธอพูดว่าอะไร?”
.เด็กหญิงเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย และตอบเบาๆ ว่า...
.“หนูคิดว่า... แม่คงตะโกนว่า ‘ดูแลลูกของเราดีๆ นะ’ ค่ะ”
.
อาจารย์นิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะถามว่า... “เธอเคยได้ยินนิทานนี้มาก่อนใช่ไหม?”
.เด็กหญิงส่ายหน้า แล้วตอบว่า... “ไม่เคยค่ะ... แต่ตอนที่แม่หนูป่วยหนักก่อนจากไป
แม่ก็พูดแบบนี้กับพ่อหนูค่ะ”
.
อาจารย์น้ำตาซึม... แล้วกล่าวว่า “ใช่แล้ว ลูก... คำตอบของเธอถูกต้องที่สุด”
.
หลังจากเรือจมลง สามีรอดชีวิตกลับบ้าน และเลี้ยงดูลูกสาวตามลำพังอย่างเข้มแข็ง
.หลายปีผ่านไป เมื่อเขาเสียชีวิต ลูกสาวได้ค้นข้าวของของพ่อ และพบ “ไดอารี่เล่มหนึ่ง”
.
ในนั้นมีข้อความที่เขาเคยเขียนไว้ว่า...
.
“ฉันอยากจะจมไปพร้อมกับเธอ แต่ฉันทำไม่ได้... เพราะเธอป่วย ไม่มีทางรอด
และเพื่อลูก ฉันต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป แม้จะต้องเห็นแก่ตัวในสายตาคนทั้งโลกก็ตาม”
.
ห้องเรียนเงียบสนิท อาจารย์รู้ว่า… นักเรียนทุกคนเข้าใจแล้วว่า...
.🌊 ความดี ความเลว บางครั้ง...แยกไม่ออกจากภายนอก
อย่าด่วนตัดสินใคร...โดยไม่รู้เรื่องราวทั้งหมด
.
บทเรียนจากเรื่องนี้...
คนที่แย่งจ่ายเงินก่อน ไม่ได้รวยกว่าใคร แต่เขาเห็น "มิตรภาพ" สำคัญกว่า "ตัวเงิน"
.คนที่ยอมทำงานมากกว่าใคร ไม่ได้โง่ แต่เขารู้ว่า "หน้าที่" สำคัญกว่า "ศักดิ์ศรี"
.คนที่ยอมพูดคำขอโทษก่อน ไม่ได้ผิด แต่เขารู้ว่า "ความรัก" สำคัญกว่า "อัตตา"
.คนที่คอยช่วยเหลือคุณเสมอ ไม่ใช่เพราะเป็นหนี้บุญคุณ แต่เขาเห็นคุณเป็น “คนสำคัญ”
.คนที่ส่งข้อความหาคุณบ่อยๆ ไม่ใช่ว่างงาน แต่เป็นเพราะ... “ในใจเขามีคุณอยู่เสมอ”
.
อย่าตัดสินใคร...จากสิ่งที่เห็นเพียงผิวเผิน
บางครั้ง สิ่งที่เรามองว่า "เลวร้าย" อาจเต็มไปด้วย "ความเสียสละ" ที่ไม่มีใครเคยรู้...
.
- เป็นกำลังใจ
.
ภาพประจำตัวสมาชิก
rosa-lee
โพสต์: 6845
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ม.ค. 29, 2010 2:37 pm

ศุกร์ ต.ค. 31, 2025 8:40 pm

( 14 )


กวีปรัชญา : ลมชราใต้เงาจันทรา (風老月明詩)

ลมชราพัดพาเงาจันทรา ภูผาสงบ ดอกเหมยผลิบาน
กายโรยแรง แต่ใจไม่ร้าง เพราะธรรมครองอยู่ทุกลมหายใจ

ชาอุ่นถ้วยน้อย คือสัจธรรม หยดน้ำใสสะท้อนฟ้าไร้กาล
ชีวิตมิใช่สิ่งต้องไขว่คว้า แต่คือการรู้พอ และวางเบา

กิ่งไผ่ลู่ลมอย่างถ่อมตน เมฆขาวลอยคล้อยอย่างอิสระ
ผู้เฒ่าไม่เร่งวันคืน เพียงยิ้มรับความงามแห่งการเปลี่ยนไป

🕊️ “ผู้รู้ยอมตามทางฟ้า
ผู้มีปัญญายอมตามใจสงบ”
……………………………………………………………………

เรื่อง..คนใหญ่..ปล่อยวาง
...อดีตผู้กำกับตำรวจใหญ่ท่านหนึ่งหลังจากเกษียณอายุราชการ เขาได้ย้ายออกจากบ้านพัก
ราชการแล้วมาอยู่ที่บ้านของตนเองที่ซื้อไว้ในชุมชนเงียบสงบแห่งหนึ่ง
..ท่านเป็นผู้ที่ภูมิใจในตำแหน่งเกียรติยศและผลงานในอดีตของตนเองมาก
ทุกๆเย็นเขาจะไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะใกล้บ้าน แต่ท่านไม่เคยเอ่ยปากทักใครก่อน
ไม่เคยชวนใครคุย เพราะคิดว่า คนในละแวกนี้ไม่คู่ควรกับเกียรติของท่านและไม่จำเป็นต้อง
เสียเวลาไปผูกมิตรด้วย จนวันหนึ่ง เขามานั่งบนม้านั่งยาวในสวน แล้วก็มีชายชราคนหนึ่ง
เดินมานั่งข้างๆพยายามชวนคุย แต่ผู้กำกับไม่สนใจครับ หันไปพูดแต่เรื่องของตนเองพูดถึง
แต่ตำแหน่งใหญ่โตที่เคยมีเกียรติยศที่เกิดและได้รับ และยังย้ำเสมอว่า บ้านที่เขาย้ายมาอยู่
เนี่ยไม่ใช่เพราะจนมุมหรอกนะแต่เพราะเขาซื้อเอาไว้เอง
..ภาพแบบนี้เกิดขึ้นหลายวัน ชายชราคนนั้นก็นั่งฟังเงียบๆไม่เคยแย้งไม่เคยขัด จนกระทั่งวันหนึ่ง
ตอนเย็นชายชราคนนั้นเอ่ยขึ้นเบาๆว่า.. ท่านผู้กำกับครับ..หลอดไฟนั้นมีค่าก็ต่อเมื่อมันยังส่อง
แสงสว่างแต่เมื่อมันดับไม่ว่ามันจะเป็น 10 วัตต์หรือ 100 วัตต์มันก็ไม่ต่างกัน เพราะมันจะเงียบงัน
ไร้ค่าและถูกลืม ชายชราหยุดเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อว่า ผมอยู่ที่นี่มา 5 ปีแล้วไม่เคยบอกใคร
เลยว่าผมเองเคยเป็นสมาชิกรัฐสภา 2 สมัย ผู้กำกับได้ยินแบบนั้นสีหน้าเริ่มเปลี่ยนไป
ชายชราพูดต่อด้วยน้ำเสียงสงบ เห็นท่านที่นั่งอยู่ข้างขวามือไหมครับ เขาคืออดีตผู้จัดการใหญ่
ของการรถไฟ
..ส่วนคนที่กำลังคุยอยู่กับเขาคืออดีตนายพลทหารบกและคนที่เดินเงียบๆใส่ชุดขาวตรงโน้นคือ
อดีตประธานองค์การอวกาศ ...แต่พวกเขาไม่เคยเอ่ยถึงตำแหน่งไม่เคยพูดถึงเกียรติยศเลยเพราะ
พวกเขารู้ว่าสิ่งนั้นมันหมดความหมายไปแล้ว จากนั้นชายชราก็พูดอย่างแผ่วเบาแต่ชัดเจน
สุดท้ายเราทุกคนก็เป็นเพียงหลอดไฟที่ดับแล้ว ไม่ว่าคุณจะเป็นหลอดเล็กหลอดใหญ่หลอด LED
หรือหลอดประหยัดไฟ เมื่อไม่มีไฟฟ้ามันก็ดับ เหมือนกันหมด
..หลังเกษียณไม่ว่าคุณเคยเป็นผู้กำกับใหญ่หรือเป็นแค่ตำรวจธรรมดามันก็ไม่สำคัญอีกต่อไป
เขามองไปที่ท้องฟ้าแล้วพูดว่า แสงอรุณกับแสงอัสดงมันสวยงามทั้งคู่แต่ผู้คนมักกราบไหว้เฉพาะ
ดวงอาทิตย์ที่กำลังขึ้นไม่ใช่ดวงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า
นี่แหละคือธรรมชาติของมนุษย์ที่เราต้องเรียนรู้และยอมรับมัน ตำแหน่งอำนาจเกียรติยศล้วน
เป็นเพียงของชั่วคราว

ถ้าคุณยึดสิ่งเหล่านั้นมาเป็นตัวตนของคุณเพราะสุดท้ายไม่ว่าเราจะเคยได้รับกี่เหรียญรางวัล
หรือกี่ใบก็ตาม ประกาศนียบัตร ที่เท่าเทียมกันหมดนั่นก็คือใบมรณบัตร

ที่มา: ชมรมผู้เชี่ยวชาญชีวิต
FB: โต๊ะป้าศรี CH Table
ตอบกลับโพส