เรื่องจริงในชีวิตที่อยากแบ่งปัน

ปรับทุกข์ หนุนใจ ขอคำภาวนา
New lamb
~@
โพสต์: 656
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 04, 2005 7:21 am
ที่อยู่: Florida U.S.A

เสาร์ ส.ค. 13, 2005 11:55 pm

เรื่องต่อไปนี้เป็นเรื่องราวในชีวิตจริงของพี่ ที่อยากจะแบ่งปันให้แก่น้องๆ และขอเป็นกำลังใจให้แก่ทุกท่าน ที่กำลังอยู่ในความทุกข์ยาก

พี่เกิดมาในครอบครัวที่ยากจน พ่อแม่แยกทางกันตั้งแต่พี่อายุได้2ขวบ พี่จึงอยู่ในความอุปการะของยาย เพราะแม่ที่ต้องทำงาน ต้องต่อสู้กับความอยู่รอด จึงไม่มีโอกาศได้เลี้ยงดูพี่ พี่เป็นเด็กที่ขาดความรักมาตั้งแต่เด็ก ที่เป็นที่พึ่งได้คือยายเท่านั้น

ยายเคยเล่าให้ฟังว่า เมื่อตอนเด็กๆ พี่เคยละเมอบ่อยๆบางครั้งก็ได้ยินเสียงพี่เหมือนกับกำลังพูดคุยกับใครอยู่ และบ่อยๆที่ละเมอเรียกหา พี่นางฟ้า และหลังจากนั้นจะตามด้วยเสียงหัวเราะ

ช่วงแรกๆที่อยู่กับยาย แม่ยังมาเยี่ยมอยู่บ้าง แต่ช่วงหลังที่แม่แต่งงานใหม่ พี่จึงไม่ได้พบแม่บ่อยนัก จะได้เจอแม่ก็ช่วงปิดเทอมเท่านั้น ที่ได้อาศัยอยู่กับแม่บ้าง

ครอบครัวยายพี่ก็ค่อนข้างจะยากจน พี่จำได้ว่ามีชุดนักเรียนแค่ชุดเดียวเท่านั้น ซึ่งตอนเย็นกลับมาก็ต้องรีบซัก เพื่อที่จะแห้งทันในตอนเช้า ส่วนเรื่องรองเท้าไม่เคยมีใส่ไปโรงเรียน พี่เป็นคนที่ไม่ค่อยมีเพื่อน อาจจะเป็นเพราะความจนจึงไม่ค่อยมีใครอยากจะคบเท่าไหร่ และโรงเรียนที่เรียนก็เป็นโรงเรียนวัด และอยู่ในชนบท

จนช่วงที่เรียนมาถึงป.4พี่จำได้ว่าในชั่วโมงวิทยาศาสตร์ ในขณะที่กำลังเรียนเรื่องราวเกี่ยวกับ ระบบสุริยจักวาล ทั้งๆที่ไม่เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับพระเจ้ามาก่อน และขอยืนยันอีกครั้งว่าไม่เคยได้ยินจริงๆไม่รู้จักศาสนาคริสต์ กลับมีคำๆนึงผุดขึ้นมาในสมองเฉยๆว่า พระเจ้าคือผู้ที่สร้างโลก ตอนนั้นพี่งงมากว่าคำๆนี้มาได้อย่างไร หลังจากนั้นพี่ก็ลืมเรื่องนี้เสีย

และเพราะแผนการณ์ของพระองค์ที่วางไว้ในชีวิตพี่อย่างแยบยล ทั้งๆที่ตอนนั้นไม่รู้จักกับพระองค์ ในช่วงปิดเทอมพี่มาอยู่กับแม่ที่ปากนำ ตอนนั้นจะมีฝรั่งนักท่องเที่ยวที่จะนั่งรถ3ล้อผ่านหน้าบ้านทุกวันศุกร์ พี่จะไปยืนคอยฝรั่งทุกครั้ง ขอเพียงได้โบกมือให้ก็มีความสุขแล้ว เพราะพี่คิดแต่เพียงว่า เหมือนกับตุ๊กตาแหม่มผมทองของเล่นเพียงชิ้นเดียวที่พี่มี และนอนกอดอยู่ทุกคืน เหมือนนางฟ้าในความฝัน

โลกของพี่ในวัยเด็กนั้น พี่จะอยู่ในช่วงของความฝันตลอด พี่กลัวการเผชิญความจริง เพราะความจริงในชีวิตพี่มันแสนจะเจ็บปวดเหลือเกิน พี่ชอบไปนอนในทุ่งนาในช่วงหัวคำ่เพื่อจะดูเดือน ดูดาว และบางครั้งก็คุยกับเดือนกับดาว และวาดฝันว่านางฟ้าและเทวดากำลังมองดูพี่ และการกระทำของพี่เป็นที่เวทนาแก่คนรอบข้าง โดยเฉพาะยาย เคยเห็นเครื่องบินที่บินอยู่ในท้องฟ้า พี่เคยบอกกับยายว่า คอยดูนะสักวันหนูจะต้องอยู่บนนั้น หนูจะบินไปให้สุดหล้าฟ้าเขียว และยายที่เฝ้าปลอบโยนว่า เราจนลูก เลิกฝันเถิด และเรื่องนี้ยังเป็นที่เล่าต่อกันมาในครอบครัวทุกวันนี้ว่าไม่เคยคิดว่าเด็กท้องนาคนนี้จะไปได้ไกลขนาดนี้

จนพี่จบป.6 แม่พี่รับกลับไปอยู่ด้วยเพื่อจะได้ช่วยเลี้ยงน้อง และเรียนต่อไปด้วย ตอนนั้นพี่วาดอนาคตไว้อย่างสวยหรู พี่รักการเรียนและตั้งความหวังในการเรียนไว้มาก ประกอบกับครอบครัวที่ยากจน พี่จึงมีความทะเยอทะยาน แต่ทุกอย่างกลับต้องมาพังทะลายเพียงแค่ม.3 แค่นั้น เพราะน้องเล็กๆอีก2คนที่ต้องเรียนพี่จึงต้องมีหน้าที่ไปดูแลน้อง และเพราะพี่เป็นพี่คนโต ที่จำต้องเสียสละให้น้อง ก็ปรากฏว่าพี่ต้องยุติการเรียนลงเท่านั้นแค่ม.3

หลังจากนั้นชีวิตก็เหมือนกับอยู่ในความมืดอีกครั้ง ต้องพบเจอปัญหาในครอบครัว การทะเลาะเบาะแว้ง การตบตีกันในบ้าน ช่วงนั้นพี่เหมือนกับอยู่ในช่วงของความทุกข์อย่างแสนสาหัส แต่ไม่คิดเลยว่าเหตุการณ์ในครั้งนั้น ที่พระองค์อนุญาติให้เกิดกับพี่ จะเป็นสี่งที่พี่ต้องขอบคุณพระองค์ในภายหลัง เพราะถ้าไม่มีบทเรียนในครั้งนั้น จะไม่มีวันนี้ของพี่ เดี๋ยวมาเล่าต่อค่ะ
Buddy.

อาทิตย์ ส.ค. 14, 2005 2:26 am

I like when you said พี่นางฟ้า ..... :) Why don't you call พี่นางฟ้า again, instead of calling 'guardian angel' or 'arakkatewada'... ? Right now you are talking to Jesus at night.. you can still talk to พี่นางฟ้า again.... I'm sure she's always with you... and she may be happy to hear you call that again like when you were young... :)
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ ส.ค. 14, 2005 2:48 am

*sad โอ............... ง๊า~~~~~~ *sob
สู้ชีวิตจริงๆคะ



รอฟังต่อนะคะ
New lamb
~@
โพสต์: 656
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 04, 2005 7:21 am
ที่อยู่: Florida U.S.A

อาทิตย์ ส.ค. 14, 2005 5:25 am

มาเล่าต่อค่ะ

หลังจากวัยเด็กผ่านพ้นไปยังมีเหตุการณ์อะไรหลายอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิต และบางเหตุการณ์แทบจะเอาชีวิตไม่รอด แต่พี่จะขอผ่านไป เพราะที่ต้องการให้เห็น คือแผนการณ์ของพระองค์มากกว่า

หลังจากที่พี่แต่งงาน ชีวิตกลับเปลื่ยนมาอีกรูปแบบหนึ่ง และแฟนพี่ก็ไม่ใช่คนที่รํ่ารวย เพราะพี่ไม่ได้เลือกเงิน พี่เลือกความรัก เพราะนั่นเป็นสี่งที่พี่ไขว่คว้าหามาตลอด เราเรี่มต้นชีวิตด้วยกระเป๋าคนละใบ ทุกอย่างเรี่มจากศูนย์ ตอนนั้นแฟนพี่ทำงานอยู่ที่ซาอุ และพี่ก็ตามไปอยู่ที่นั่นด้วย แต่ช่วงหลังๆดูว่าที่นั่นจะไม่ปลอดภัย แฟนพี่จึงนำพี่กลับมาอเมริกา

และนั่นพี่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับลูกแค่สองคน เพราะแฟนพี่ต้องกลับไปทำงานต่อ เพื่อจะเก็บเงินสักก้อนมาทำการค้า แต่เพราะลูกที่ติดพ่อมาก และตอนนั้นลูกแค่ขวบกว่าๆเท่านั้น ทุกเย็นลูกจะไปเกาะที่ข้างรั้วคอยพ่อกลับ ซึ่งพี่ทนเห็นลูกเป็นอย่างนั้นไม่ได้ เพราะในวัยเด็กพี่เคยเจ็บปวดตรงนี้มาก่อน พี่โทรหาแฟนพี่ เล่าให้แฟนฟัง แฟนพี่จึงตัดสินใจลาออกจากงาน พร้อมกับเงินก้อนนึงที่ไม่ใด้มากมายอะไร

หลังกลับมาเราตกลงที่จะนำเงินก้อนนั้นลงทุนทำการค้า หลังจากลงทุนไปแล้วกลับไม่มีงานเข้ามาเลย ดีแต่ว่าบ้านหลังนั้นพ่อสามีทิ้งไว้ให้ก่อนตายจึงไม่ต้องเสียค่าเช่า แต่ครอยครัวกำลังตกอยู่ในวิกฤติ ค่าใช้จ่ายในบ้านที่ต้องจ่ายออกโดยไม่มีเข้ามา กำลังหนักขึ้นเรื่อยๆ พี่ตัดสินใจให้แฟนพี่อยู่บ้านเลี้ยงลูก พี่ออกหางานทำเพราะถ้าจะให้แฟนออกไปทำงาน ก็กลัวจะมีงานเข้ามาและจะเสียงานไป

แต่เพราะพี่เป็นคนที่เรียนมาน้อยจึงค่อนข้างจะหางานได้ยาก พี่ตัดสินใจเข้าทำงานที่โรงงาน และขอบอกเลยว่าโรงงานในอเมริกาหนักหนาสาหัสมาก กับการที่ต้องแรกกับเงินเพียงน้อยนิด บางครั้งเหนื่อยจนแทบจะล้มทั้งยืน แต่พอคิดถึงลูก และครอบครัวที่กำลังรอความหวังอยู่ที่พี่ พี่กลับมีพละกำลังที่จะต่อสู้ เงินเพียงแค่300เหรียญที่ได้รับในหนึ่งอาทิตย์ เป็นเงินที่น้อยนิดเหลือเกิน

และทุกครั้งที่ได้รับเงินมาเราจะต้องจ่าย ค่านำ ค่าไฟ เติมนำมันรถไว้ให้พอสำหรับอาทิตย์นั้น หลังจากนั้นเหลือเท่าไหร่ถึงจะไปซื้ออาหาร เพราะฉนั้นอาหารดีจึงตัดที้งไปใด้ ลูกพี่ชอบทานพิซซ่าพี่ยังไม่มีปัญญาซื้อให้ลูกทานเลย งานที่ลงทุนไว้ก็แทบจะล้มเสียแล้ว

แต่รู้ไม๊ความลำบากที่พี่ได้รับมาตั้งแต่เด็กๆที่พระองค์อนุญาติให้เกิดขึ้นกับพี่ กำลังจะเป็นของขวัญลำค่าเพราะบทเรียนที่ได้รับในวัยเยาว์ กับครอบครัวที่แตกแยกเพราะความยากจน จึงทำให้พี่ประคับประคองครอบครัวอย่างสุดชีวิต แม้จะจนขนาดไหนเรากลับไม่ทะเลาะกัน เรากลับเห็นใจกันมากขึ้น แม้ข้างในกำลังร้องไห้แต่เรากลับยิ้มให้กัน แม้อาหารที่ตกถึงท้องในแต่ละมื้อ อาจจะเป็นแค่ฮ๊อดดอกกับถั่ว แต่เพราะเราเข้าครัวปรุงด้วยกัน กับการหยอกล้อมันสามารถที่จะเปลี่ยนเป็นอาหารสุดหรู ที่แม้แต่ภัตตาคารก็เทียบไม่ใด้ และพี่รู้ดีว่าแฟนพี่ก็มีความรู้สึกเดียวกัน

ช่วงเวลาที่กำลังลำบากอย่างสุดขีด มีบริษัทนึงโทรเข้ามาหาแฟนพี่ คือมีงานที่ต่างประเทศที่เสนอเงินเดือนที่ค่อนข้างจะสูง แฟนพี่ถามเขาว่านำครอบครัวไปใด้ไหม คำตอบคือไม่ใด้แฟนพี่ปรึกษาพี่ พี่ตอบไปเลยว่าพี่ไม่ยอมเห็นความเหงาของลูก วันนั้นเป็นวันที่เราจับมือกัน พร้อมที่จะสู้ไปด้วยกัน จะลำบากแค่ไหนเราก็จะทน

จนครบหนึ่งปีที่ทำงานของพี่เขาต้องการให้คนงานครึ่งนึงพักงาน เพราะงานเข้ามาน้อยและนั่นจะเป็นวิกฤติครั้งใหญ่ ความทุกข์กำลังหนักขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดวันนั้นแฟนพี่ จูงมือพี่กับลูกไปที่ไม้กางเขน ทั้งๆที่พี่ยังไม่เชื่อ แต่พี่ก็ตามเขาไป วันนั้นแฟนพี่ขอกับพระองค์ ว่าถึงที่สุดของชีวิตแล้ว ทุกอย่างในชีวิต ครอบครัว และการงาน ขอมอบทุกอย่างไว้ในพระหัตย์ของพระองค์ พี่จำได้ว่าวันนั้นระหว่างที่แฟนพี่พูด เป็นครั้งแรกที่พี่เห็นเค้าร้องไห้

และหลังจากนั้นปาฏิหารย์กำลังเกิดกับครอบครัวพี่ แค่3วันหลังจากนั้น งานกลับหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาด ที่เรียกว่าสามารถตั้งตัวได้ภายในหนึ่งปี สามารถซื้อบ้านหลังใหม่ใด้ และขยายกิจการออกไปเป็นรูปของบริษัท แม้บางครั้งจะพบอุปสรรคบ้างแต่เราก็ยังยืนอยู่ได้

พี่เชื่อว่าความทุกข์ยากตั้งแต่แรกของชีวิต เป็นสี่งที่พระองค์ได้จัดเตรียมไว้ให้ เพราะถ้าพี่ไม่เคยเห็นตัวอย่างของความแตกแยก ในห้วงวิกฤติของครอบครัวพี่จะไม่สามารถยืนหยัดอยู่ได้ เพราะฉนั้นไม่ว่าเหตุการณ์อะไรที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แม้บางครั้งจะรู้สึกว่าหนักหนาสาหัสนัก แต่นั่นจะเราให้เราแข็งแกร่งขึ้นจนกล้าที่จะเผชิญกับสี่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

แล้วจะมาเล่าต่อค่ะ กับเหตุการณ์บางอย่างที่พี่ได้รับการสอนจากพระองค์และแม่พระ :D
แก้ไขล่าสุดโดย New lamb เมื่อ อาทิตย์ ส.ค. 14, 2005 5:34 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
New lamb
~@
โพสต์: 656
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 04, 2005 7:21 am
ที่อยู่: Florida U.S.A

อาทิตย์ ส.ค. 14, 2005 6:30 am

น้องๆท่านใดที่มีประสบการณ์ที่เกี่ยวกับความเชื่อ และพระพรที่ได้รับก็ขอเชิญมาร่วมแบ่งปันกันนะคะ มาร่วมกันแบ่งปันพระพรเถอะค่ะ :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
-Rei-
โพสต์: 1015
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 8:31 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ ส.ค. 14, 2005 5:42 pm

รออ่านต่อนะคะพี่
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ ส.ค. 14, 2005 8:09 pm

สุดยอดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


แสดงให้เห็นถึงความหวังและความยอมมอบถวายทุกอย่างของแฟนพี่
ถวายความไม่มีอะไรเลย....กลับมาหาพระเจ้า และ เริ่มนับหนึ่งใหม่ *no1


และ...พี่ได้แฟนที่ดีมากคะ *no1 *no1
Divine Mercy

อาทิตย์ ส.ค. 14, 2005 9:05 pm

ถึงชีวิตในอดีตของพี่จะไม่ค่อยสวยงาม แต่ผมเชื่อว่าทุกวันนี้พระเป็นเจ้าทรงประทานสิ่งล้ำค่าที่สุดให้พี่นั่นคือครอบครัวที่อบอุ่น สามีที่ดี ลูกที่น่ารัก ดีใจด้วยครับ ต่อไปยิ่งพี่เชื่อและวางใจในพระเป็นเจ้าและแม่พระมากขึ้นเท่าไหร่ พี่ก็ยิ่งจะค้นพบพระพรอย่างบริบูรณ์ เป็นกำลังใจให้นะครับ
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

อาทิตย์ ส.ค. 14, 2005 9:38 pm

I really like when you and your husband decided to do everything for your son. It reminds me of my parents. .... Most of the time, I just didn't realize that love... Thanks a lot, P'Tik...

By the way, I think your life is beautiful..... :)
แก้ไขล่าสุดโดย Buddy เมื่อ อาทิตย์ ส.ค. 14, 2005 9:40 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
New lamb
~@
โพสต์: 656
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 04, 2005 7:21 am
ที่อยู่: Florida U.S.A

จันทร์ ส.ค. 15, 2005 12:55 am

มาเล่าต่อค่ะ

หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านไป ชิวิตเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ แต่พี่กลับไม่เคยคิดว่าทุกสี่งทุกอย่างมาจากพระเจ้า พี่หันหลังให้พระเจ้าโดยสี้นเชิง แม้จะเห็นแฟนพี่สอนลูกสวดอยู่ทุกวัน แต่พี่กลับไม่มีความรู้สึกใดๆ ชีวิตดำเนินไปเรื่อยๆและพี่ก็แทบจะลืมเหตุการณ์ ในวันที่แฟนพี่พาครอบครัวไปถวายต่อพระองค์

ช่วงนั้นของชีวิตพี่เริ่มมีเพื่อนมากขึ้น โดยเฉพาะเพื่อนคนไทย ซึ่งการพูดคุยกันบางครั้งเขาอาจจะไม่รู้ว่ากำลังสะกิดแผลในใจพี่อยู่ พี่เรี่มกลายเป็นคนที่คิดมาก และเรี่มสร้างกำแพงขึ้นปิดล้อมตัวเอง พี่เรี่มขังตัวเองอยู่แต่ในบ้าน ถึงตัวจะเรี่มสบายขึ้น แต่ใจกำลังทุรนทุราย พี่เป็นอย่างนั้นมาถึง5ปี

จนช่วงปลายปี04พระองค์เรียกพี่ เป็นครั้งแรกในชีวิตที่พบความปิติ ความสงบและสันติสุข ที่พี่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนในชีวิต วันนั้นพี่เรี่มสงสัยว่าจริงๆแล้วศาสนาคริสต์สอนอะไรกันแน่ เพราะในช่วง10ปีพี่ได้ยินคำว่าพระเจ้ามาตลอด พี่เห็นไม้กางเขนที่มีพระเยซู แต่พี่ไม่เคยแม้แต่จะถามว่าทำไมพระองค์อยู่บนนั้น

หลังจากครอบครัวพี่ทราบว่าพี่ได้รับกระแสเรียก ทุกคนตื่นเต้นมาก แฟนพี่กับลูกเรี่มวาดภาพของการไปโบสถ์ แต่พี่ก็ผลัดผ่อนไปเรื่อย เพราะพี่ยังไม่สามารถสัมผัสความรักของพระองค์ได้อย่างแท้จริง และอีกอย่างคือใจพี่ยังเปิดไม่พอ ถึงจะได้รับกระแสเรียกแล้วก็เถอะ พี่เรี่มมาเข้าใจความรักได้อย่างลึกซึ้งหลังจากเหตุการณ์นี้

ลูกพี่หายออกจากบ้าน แม้จะเป็นในช่วงเวลาสั้นๆ แต่เป็นห้วงของความทุกข์อย่างแสนสาหัส แม้จะเป็นเวลาแค่2ชั่วโมงที่พี่ออกตามหาลูก แต่ทุกวินาทีในช่วงนั้นช่างทารุณเหลือเกิน คิดแต่เหตุร้ายๆที่จะเกิดกับลูก หัวใจแทบแหลกสลาย หลังจากได้ลูกกลับคืนมา พี่เรี่มคิดถึงแม่พระ เพราะพี่ที่อยู่ในฐานะแม่คนหนึ่งพี่ยังทุกข์ถึงเพียงนี้ แล้วแม่พระล่ะจะต้องทนทุกข์ทรมารเพียงใด จะหนักหนาสาหัสเพียงไหน

ลูกขอบคุณพระแม่มารีย์เหลือเกิน เดี๋ยวมาเล่าต่อค่ะ :)
ภาพประจำตัวสมาชิก
P
.
.
โพสต์: 1383
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 10:10 pm
ที่อยู่: เมืองไทย

จันทร์ ส.ค. 15, 2005 7:47 am

น้ำตาไหลเลยครับ ...
พลายแก้ว

จันทร์ ส.ค. 15, 2005 7:52 am

ขอบคุณพี่นิวแลมป์มากๆครับ สำหรับคำพยานชีวิต พระเป็นเจ้าและแม่มารีอา มีหนทางสำหรับลูกของพระองค์ กระแสเรียกและพระหรรษทานจากพระนั้น เกินกว่าความคาดหมายของมนุษย์ พระเจ้าเป็นความรัก ผู้ที่มีความรัก(ที่บริสุทธิ์ ตามแบบฉบับพระเยชูคริสต์เจ้า)ก็ย่อมอยู่ในพระองค์ พระทรงดูแลและเป็นน้ำธำรงค์ชีวิตสำหรับผู้ที่แสวงหาพระองค์ ลูกของสรรเสริญพระองค์ พระเจ้าข้า

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
New lamb
~@
โพสต์: 656
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 04, 2005 7:21 am
ที่อยู่: Florida U.S.A

จันทร์ ส.ค. 15, 2005 9:21 am

มาเล่าต่อค่ะ

หลังจากนั้นพี่และครอบครัว เรี่มพากันเข้าวัด จิตใจพี่เรี่มสงบขึ้น บาดแผลในใจกำลังได้รับการเยียวยา ความเชื่อค่อยๆเข้มแข็งขึ้น พี่รักแม่พระอย่างสุดจิตสุดใจ และบางครั้งในความรู้สึกเหมือนพี่สัมผัสกับแม่พระใด้ และความรู้สึกว่าแม่พระอยู่กับพี่ตลอดเวลา จิตใจพี่กำลังได้รับการเติมเต็มด้วยความรัก

แต่กับพระเยซูเจ้า ทั้งๆที่พี่รักพระองค์อย่างเหลือเกิน แต่พี่กับมองพระองค์เหมือนสูงเกินกว่าที่พี่จะได้สัมผัส พี่มองตัวเองเหมือนคนสกปรก คนตำ่ต้อยที่ไม่กล้าจะเผยอขอหมายสำคัญในการประทับอยู่ของพระองค์

และมีเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นกับพี่ในวันรับเถ้า ที่จริงเรื่องนี้พี่เคยจะนำมาถาม ตั้งแต่ตอนที่เข้าเวปนี้ใหม่ๆ แต่ไม่รู้จะเรี่มต้นอย่างไรดี ก็เลยถือโอกาศนี้นำมาเล่าที่นี่เสียเลย

ในวันรับเถ้าก่อนที่พี่จะไปโบสถ์ พี่ก็มีอาการปรกติดีทุกอย่าง จนเข้าไปในโบสถ์ พี่ไม่ทราบว่าทำไม วันนั้นความศรัทธา และความรัก ความเสียใจในบาปหลายๆอย่าง ได้ถาโถมมาสู่พี่ได้มากมายขนาดนั้น ในช่วงที่พี่คุกเข่าลงพี่ขอได้รับการอภัยจากพระองค์ ในวันนั้นช่วงที่พี่กำลังจะลุกขึ้น พี่กลับมีอาการปวดที่หัวไหล่อย่างรุนแรง อาการปวดค่อยๆแผ่ไปทั่วแผ่นหลัง แต่จะปวดหนักที่หัวไหล่ข้างขวา

ครั้งแรกพี่คิดว่าอาจเป็นอาการของหลังยอก ตอนเดินออกมาข้างนอก แฟนพี่ต้องประคองออกมา กลับมาถึงบ้านรู้สึกจะบรรเทาลงไปบ้าง แต่ก็ไม่หายสนิทมาเรี่มปวดหนักๆอีกครั้งช่วงหัวคำ่ แต่ก็ยังมีทางทุเลาให้พี่หลับได้บ้าง

หลังจากหลับไป พี่มาตื่นอีกทีตอนตี4อาการปวดเรียกว่าหนักหนาสาหัสมาก และอาการที่เกิดขึ้นอีกอย่างคือพี่เรี่มหายใจติดขัด ตอนนั้นพยายามเรียกแฟน แต่พี่กลับเปล่งเสียงออกมาไม่ได้ พี่เรี่มเรียกหาพระเยซู บอกกับพระองค์ว่าลูกไม่ไหวแล้ว

ทั้งๆที่พี่อยู่ในห้องที่มืดๆ พี่กลับเห็นเงาบางอย่าง กำลังก้มลงมาที่พี่ แล้วหลังจากนั้นพี่ไม่รู้สึกตัวอีกเลย เหมือนหลับไปเฉยๆ พี่มารู้สึกตัวตอน7โมงเช้ากับความสดชื่นอย่างประหลาด แต่ที่พี่แปลกใจคือ อาการเจ็บปวดทั้งหมดหายไป และนี่แหละคือสี่งที่พี่สงสัยมาตลอด ว่าวันนั้นเป็นเหตุบังเอิญหรือ พี่ได้แบกกางเขนไปกับพระองค์ ???
Mei

จันทร์ ส.ค. 15, 2005 10:30 am

เพิ่งเห็นกระทู้นี้ และกำลังตามอ่าน ดีมาก ๆ ค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะที่นำมาแบ่งปันเป็นกำลังใจให้กัน

เคยอ่านหนังสือของคริสเตียนเล่มหนึ่งบอกว่า พระเจ้าทรงสามารถเปลี่ยนขยะในชีวิตของเราผ่านโรงสีของพระองค์ให้เป็นพระพรได้เสมอ

ภาษาอังกฤษเค้าว่า blessing in disguise หรือไงเนี่ยะค่ะ
Mei

จันทร์ ส.ค. 15, 2005 10:34 am

พูดถึงความจนแล้ว ดูเหมือนว่า เป็นอะไรที่น่ารังเกียจ น่าหวาดกลัว แต่หลายครั้งที่ความยากจนกลับนำพระพรมาให้

ในทางตรงกันข้าม ความร่ำรวยนี่แหละที่นำเราสู่ความผิดบาป ความหยิ่งยโส ความจองหอง ถือดี และ ฯลฯ

บางทีเหมือนเส้นผมบังภูเขาเนาะ
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

จันทร์ ส.ค. 15, 2005 6:38 pm

Mei เขียน: พูดถึงความจนแล้ว ดูเหมือนว่า เป็นอะไรที่น่ารังเกียจ น่าหวาดกลัว แต่หลายครั้งที่ความยากจนกลับนำพระพรมาให้

ในทางตรงกันข้าม ความร่ำรวยนี่แหละที่นำเราสู่ความผิดบาป ความหยิ่งยโส ความจองหอง ถือดี และ ฯลฯ

บางทีเหมือนเส้นผมบังภูเขาเนาะ
เห็นด้วยกับน้องเม่ยค่ะ จริงๆแล้วพระเจ้าทรงใช้ ภาชนะทุกอย่าง เป็นอุปกรณ์ที่ถวายเกียรติแด่พระองค์ได้

แท้จริงแล้วพระเจ้าทรงเตรียมแต่ละคนไม่เหมือนกัน พระองค์คือช่างปั้น ทรงหล่อหลอมปั้นชีวิตเรา แต่ละคนมี อัตลักษณ์ที่เด่นชัดเสมอ :D ตัวอย่างหนึ่งที่ ชอบเทียบ คือ เรื่องของ โยเซฟ ( อ่านปฐมกาลบทที่ ๓๙-๔๗ )พระเจ้าทรงเปลี่ยนสถาการณ์ที่เลวร้าย ให้เป็นสถานการที่ดี เพือคน คน นั้น และวงศ์วานของเขา

ขอบคุณคุณนิวแลมป์ค่ะ ที่แบ่งปันประสบการณ์ที่ดี ช่วยเสริมความเชื่อและศรัทธาให้แก่ผู้อ่านค่ะ :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ ส.ค. 15, 2005 10:12 pm

สั้นๆครับพี่ติ๊ก


รม 8:28
เรารู้ว่า พระเจ้าทรงบันดาลให้ทุกสิ่งกลับเป็นประโยชน์แก่ผู้ที่รักพระองค์ ผู้ที่ทรงเรียกมาตามพระประสงค์ของพระองค์
New lamb
~@
โพสต์: 656
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 04, 2005 7:21 am
ที่อยู่: Florida U.S.A

จันทร์ ส.ค. 15, 2005 10:51 pm

ก่อนอื่นพี่ต้องขอโทษน้องๆด้วยค่ะ ที่บางครั้งเรื่องที่นำมาลงอาจจะล่าช้า หรือไม่ประติดประต่อเท่าที่ควร ซึ่งพี่ขอบอกอย่างตรงๆว่าเป็นการยากมากที่พี่ต้องเรียบเรียง เรื่องราวในอดีต เพราะหลายๆอย่างพี่พยายามที่จะฝังมันทิ้งไปแล้ว

และทุกๆครั้งที่เรี่มเขียน พี่ต้องนำตัวเองย้อนเข้าหาอดีตที่เหมือนแผลและนี่พี่กำลังสะกิดแผลตัวเอง และเหตุการณ์ต่างๆที่พี่นำมาแบ่งปัน นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น หลายๆอย่างพี่นำมาลงไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับครอบครัวพี่ที่เมืองไทย เพราะถึงอย่างไร นั่นก็คือครอบครัวพี่ พี่รักพวกเค้า

แต่ในขณะนี้ทั้งๆที่แสนยาก และเจ็บขนาดหนัก ที่ต้องพาตัวเองย้อนเข้าหาอดีต แต่เหมือนกับเป็นการสะกิดที่เป็นผลดีกับพี่ เพราะต้องเขียนเรื่องของตัวเอง พี่กับค้นพบพระพรมากมายที่ซ่อนอยู่ในนั้น พระพรที่ส่งผ่านมากับความทุกข์ยาก และการเติมเต็มจนเป็นชีวิตที่สมบูรณ์ที่สุด

ชีวิตพี่ที่เคยรู้สึกไร้ค่า ไม่ต่างกับผ้าขี้ริ้วขาดๆผืนนึง ที่ผู้คนเคยมองด้วยความรังเกียจ แต่ในขณะนี้ไม่ว่าใครจะมองพี่ยังไง สายตาของมนุษย์ และคำพูดจะไม่มีวันทำร้ายพี่ได้อีกต่อไป เพราะพี่ได้รับเกียรต์อย่างสูงสุดแล้วจากพระผู้สร้าง ในการเรียกพี่เข้ามาเป็นลูกของพระองค์

และปากของลูกคนนี้ จะขอสรรเสริญพระองค์และแม่พระจนกว่าลมหายใจจะสิ้น และลูกวอนขอเมตตาจากพระองค์ เมื่อลูกจากโลกนี้ไปแล้ว ขอให้วิญญานของลูก ได้อยู่ที่เบื้องพระบาทของพระองค์ ถ้าลูกไม่มีบุญได้เห็นพระพักตร์ ลูกขอแค่ปลายพระบาทเท่านั้น ขอพระแม่มารีย์ของลูกช่วยวิงวอนเทอญ อาแมน
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

จันทร์ ส.ค. 15, 2005 10:56 pm

New lamb เขียน:
ลูกพี่หายออกจากบ้าน แม้จะเป็นในช่วงเวลาสั้นๆ แต่เป็นห้วงของความทุกข์อย่างแสนสาหัส แม้จะเป็นเวลาแค่2ชั่วโมงที่พี่ออกตามหาลูก แต่ทุกวินาทีในช่วงนั้นช่างทารุณเหลือเกิน คิดแต่เหตุร้ายๆที่จะเกิดกับลูก หัวใจแทบแหลกสลาย หลังจากได้ลูกกลับคืนมา พี่เรี่มคิดถึงแม่พระ เพราะพี่ที่อยู่ในฐานะแม่คนหนึ่งพี่ยังทุกข์ถึงเพียงนี้ แล้วแม่พระล่ะจะต้องทนทุกข์ทรมารเพียงใด จะหนักหนาสาหัสเพียงไหน

ลูกขอบคุณพระแม่มารีย์เหลือเกิน เดี๋ยวมาเล่าต่อค่ะ :)
พี่ติ๊กมีบุญมากๆ ได้รับรู้ความรู้สึกของแม่พระตอนนี้

ลก 2:48 พระเยซูเจ้าทรงหายไปในพระวิหาร
เมื่อโยเซฟพร้อมกับพระนางมารีย์เห็นพระองค์ก็รู้สึกแปลกใจ พระมารดาจึงตรัสถามพระองค์ว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

อังคาร ส.ค. 16, 2005 12:34 am

หนูเชื่อว่าความทุกข์ถึงบาปของพี่
ทำให้พี่ได้มีโอกาสรับรู้ถึงความทรมาน
ที่พระเยซูเจ้าทรงเคยได้รับขณะแบกกางเขนคะ

พระเยซูทรงให้พี่ร่วมใช้โทษบาปกับพระองค์

ถ้าพี่ดู The Passion แล้ว
พี่ได้รับคล้ายพระองค์เลยคะ *no1


พระเจ้ารักพี่มากๆเลยคะ
ถึงให้พี่ได้มีโอกาสเข้าใจ และ สัมผัสความทุกข์
ของทั้งแม่พระ และ พระเยซู


พระเจ้าไม่เคยมอบงู หรือ ตะขาบให้ลูกๆของพระองค์
Buddy.

อังคาร ส.ค. 16, 2005 7:58 am

ก่อนอื่นพี่ต้องขอโทษน้องๆด้วยค่ะ ที่บางครั้งเรื่องที่นำมาลงอาจจะล่าช้า หรือไม่ประติดประต่อเท่าที่ควร ซึ่งพี่ขอบอกอย่างตรงๆว่าเป็นการยากมากที่พี่ต้องเรียบเรียง เรื่องราวในอดีต เพราะหลายๆอย่างพี่พยายามที่จะฝังมันทิ้งไปแล้ว

และทุกๆครั้งที่เรี่มเขียน พี่ต้องนำตัวเองย้อนเข้าหาอดีตที่เหมือนแผลและนี่พี่กำลังสะกิดแผลตัวเอง


It's good for you, P'Tik... just keep writing and everything will be released and your wound will be totally healed.... :)
ภาพประจำตัวสมาชิก
-Rei-
โพสต์: 1015
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 8:31 pm
ติดต่อ:

อังคาร ส.ค. 16, 2005 10:08 am

ติดตามอยู่นะคะ และเป็นกำลังใจให้เสมอค่ะ
toffysweety

อังคาร ส.ค. 16, 2005 10:04 pm

พี่แกร่งมากค่ะ
สำหรับชีวิตพี่
ขอบนับถือเลยว่าพี่ลำบากมากจริงๆ
พี่รู้มั้ยพออ่นจบนะ มีกำลังใจฮึดสู้ทันทีเลย
ขอบคุณมากค่ะ
New lamb
~@
โพสต์: 656
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ พ.ค. 04, 2005 7:21 am
ที่อยู่: Florida U.S.A

อังคาร ส.ค. 16, 2005 11:42 pm

ขอบคุณค่ะ สำหรับกำลังใจจากทุกท่าน

พี่ยังมีอีกหลายเรื่องที่จะทยอยนำมาลง แต่ตอนนี้ขอสะสางงานให้เสร็จก่อนค่ะ เป็นเรื่องพยานของผู้อื่นที่พี่ได้รับรู้มาในช่วงที่เรียนคำสอน เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในอเมริกา เป็นคำพยานที่ดีมากๆเลยค่ะ :D
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

อังคาร ส.ค. 16, 2005 11:44 pm

ได้เป็นตัวอย่างให้แล้ว....อย่างน้อยก็ 1 ละ

น้อง ปอ toffy งัย :-*
จอมนางกระบี่เดี่ยว
โพสต์: 1159
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm

พุธ ส.ค. 17, 2005 6:20 pm

เปิดข้ามผ่านไปมาตั้งนาน ไม่เคยคิดจะเข้ามาอ่านจริงจังซะทีเลย เพิ่งจะมาตั้งใจอ่าน น้ำตาจะไหลค่ะ

มีเพื่อนคนหนึ่งกำลังเป็นทุกข์อยู่ เรื่องของเขาอาจจะไม่หนักหนาเท่าเรื่องของพี่ แต่เชื่อว่าวันหนึ่งเขาจะเชื่อว่าพระเจ้ารักเขา แม้ว่าเขาจะม่สนใจที่จะรู้จักพระเจ้าเลยก็ตาม

และเชื่อว่าเรื่องของพี่จะเป็นกำลังใจให้เขาได้ค่ะ

ขอบคุณนะคะ ที่พี่เพียรพยายามนำเรื่องมาแบ่งปัน
:+: seraphim :+:
~@
โพสต์: 7624
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
ที่อยู่: Pattaya Chonburi

พุธ ส.ค. 17, 2005 7:05 pm

*ok เคยสับสนในชีวิตแบบหาอะไรลงตัวไม่ค่อยได้ เลยคุยกับพระสงฆ์ที่เป็นเพื่อนกัน คุณพ่อได้บอกว่า

เธอจะแสวงหาอะไรอีกที่มีคุณค่าไปกว่าการที่พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงเลือกเรามาเป็นลูกของพระองค์อีก นั่น

คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และมีคุณค่ามากมายที่สุดแล้ว อย่าไปแสวงแสวงหาอะไรอีกเลย ปล่อยให้ชีวิตเป็น

ของพระองค์เถอะ
จอมนางกระบี่เดี่ยว
โพสต์: 1159
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm

พฤหัสฯ. ส.ค. 18, 2005 1:19 pm

seraphim เขียน: *ok เคยสับสนในชีวิตแบบหาอะไรลงตัวไม่ค่อยได้ เลยคุยกับพระสงฆ์ที่เป็นเพื่อนกัน คุณพ่อได้บอกว่า

เธอจะแสวงหาอะไรอีกที่มีคุณค่าไปกว่าการที่พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงเลือกเรามาเป็นลูกของพระองค์อีก นั่น

คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด และมีคุณค่ามากมายที่สุดแล้ว อย่าไปแสวงแสวงหาอะไรอีกเลย ปล่อยให้ชีวิตเป็น

ของพระองค์เถอะ

ถูกต้องแล้วคร๊าบบบบบบบบบบ
ตอบกลับโพส