ก่อนอื่นขอเกริ่นนิดนึงนะคะ ...
Jerusalem Pager เป็นสารวัดภาคภาษาอังกฤษของวัดเซนต์จอห์น
ขอถามคนที่เคยไปฟังมิสซารอบภาษาอังกฤษที่วัดเซนต์จอห์นหน่อยเถอะ
มีใครเคยสังเกตบ้างและมีใครเคยเอาติดตัวกลับบ้านมาอ่านกันบ้างหรือเปล่าจ้ะ? ???
พี่เองในฐานะที่ช่วยงานอยู่รอบภาษาอังกฤษมาหลายปีแล้ว
(ตั้งแต่มีคนฟิลิปินส์มาวัดนี้กันไม่กี่คนจนเดี๋ยวนี้เป็นมิสซารอบรวมชาวฟิลิปปินส์ไปแล้ว)
และเห็นเพื่อนชาวฟิลิปปินส์ช่วยกันทำสารวัดมาตั้งแต่ต้น
แต่รู้สึกเลยว่าคนไทยที่ไปวัดรอบนี้ ... แทบจะไม่มีใครเอาสารวัดฉบับนี้กลับบ้านกันเลย !!!
บางวันถึงต้องออกประกาศในวัดว่า
แบ่งปันจาก Jerusalem Pager ... บทความ The Woman I love
- fizzy vippie
- โพสต์: 371
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 26, 2005 10:58 am
แก้ไขล่าสุดโดย fizzy vippie เมื่อ เสาร์ ส.ค. 20, 2005 3:24 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- fizzy vippie
- โพสต์: 371
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 26, 2005 10:58 am
บทความ The Woman I love
โดย พระอัครสังฆราช Fulton J. Sheen (1895-1979)
โดย พระอัครสังฆราช Fulton J. Sheen (1895-1979)
แก้ไขล่าสุดโดย fizzy vippie เมื่อ เสาร์ ส.ค. 20, 2005 3:37 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- fizzy vippie
- โพสต์: 371
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 26, 2005 10:58 am
���เมื่อพ่อได้รับศีลบรรพชาเป็นพระสงฆ์ พ่อก็ถือเอาทุกวันเสาร์ทำพิธีบูชามิสซาศักดิ์สิทธิ์ถวายแด่แม่พระ เป็นการรื้อฟื้นความรักและขอคำเสนอวิงวอนจากแม่พระ ทั้งหมดก็เพื่อยืนยันว่าเมื่อถึงเวลาที่พ่อจะไปรับคำตัดสินต่อหน้าองค์พระคริสตเจ้าแล้ว พระองค์จะทรงเมตตาพ่อ
���ลูกได้ยินคุณแม่ของลูกพูดถึงท่านบ่อยๆ ในชีวิตของพ่อ พ่อได้ไปแสวงบุญยังสักการสถานแห่งแม่พระเมืองลูร์ดประมาณสามสิบครั้งและอีกประมาณสิบครั้งที่สักการสถานที่ฟาติมา หนึ่งในการไปเมืองลูร์ดครั้งแรกๆของพ่อ เมื่อคราวที่พ่อเป็นเพียงนักศึกษาอยู่ที่ ลูแวง (Louvain) พ่อมีเงินเพียงแค่ให้เดินทางไปให้ถึงเท่านั้นไม่ได้สำหรับค่าใช้จ่ายในการอยู่ที่ลูร์ดเลย พ่อถามพี่ชายที่ชื่อ ทอม ว่าพอจะมีเงินให้พ่อบ้างไหม แต่เขาก็เป็นแค่นักศึกษาเหมือนกันและก็ ไม่มีตังค์ พ่อก็เลยบอกกับเขาว่า เอาละ ถ้าเรามีความเชื่อมากพอที่จะไปลูร์ดให้ได้ เพื่อจะไปฉลองครบรอบที่ได้บวชมา 5 ปีแล้ว พ่อคิดว่าแม่พระจะมีทางให้พ่อกลับมาได้เอง และพ่อก็มาถึงเมืองลูร์ดแบบ หมดตัว พ่อเข้าพักในโรงแรมที่ดีแห่งหนึ่ง อย่างไรก็ตามโรงแรมในเมืองลูร์ด ก็ไม่ใช่ว่าจะหรูหรามากนัก พ่อตัดสินใจว่าถ้าแม่พระจะช่วยให้จ่ายค่าโรงแรมแล้วล่ะก็ ท่านก็จะช่วยได้ทั้งนั้นไม่ว่ามันจะแพงหรือถูก พ่อไปทำนพวารแม่พระ สวดภาวนาอยู่เก้าวัน - แต่ในเช้าวันที่เก้าก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตกถึงตอนบ่ายก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น พ่อรู้สึกหนักใจมากแล้ว เริ่มมองเห็นภาพโดนตำรวจของประเทศฝรั่งเศสจับและคงจะต้องอยู่ล้างจานแทนค่าโรงแรมเป็นแน่แล้ว พ่อคิดเหมือนกับว่าขอรอคอยอัศจรรย์จากแม่พระอีกสักนิด แล้วก็ไปที่ กรอตโต ตอนนั้นก็สี่ทุ่มได้แล้ว ก็มีชายสูงวัยชาวอเมริกันรูปร่างท้วมๆเข้ามาแตะที่ไหล่ของพ่อถามว่า
คุณเป็นพระสงฆ์ชาวอเมริกันหรือเปล่าครับ?
ใช่ครับ
คุณพ่อพูดภาษาฝรั่งเศสเป็นไหมครับ?
ได้ครับ
คุณพ่อพอไป ปารีส เป็นกับภรรยาและลูกสาวผมในวันพรุ่งนี้ เพื่อเป็นล่ามภาษาฝรั่งเศสให้กับพวกเราได้ไหมครับ?
ชายคนนั้นเดินมาส่งพ่อที่โรงแรมที่พัก แล้วเขาก็ถามคำถามที่น่าทึ่งที่สุดในชีวิตพ่อก็ว่าได้มาว่า แล้วคุณพ่อจ่ายเงินค่าที่พักหรือยังครับ? พ่อก็ไม่ลังเลเลยที่จะขอยืมเงินมาจ่ายค่าโรงแรมแล้ววันรุ่งขึ้นพวกเราก็ออกเดินทางไปปารีสกัน และอีกมากกว่ายี่สิบปีต่อมา เมื่อพ่อไปนิวยอร์คเพื่อสอนคำสอนให้คนที่กลับใจ พ่อก็จะไปพักที่บ้านของสามี ภรรยาคู่นี้ นายและนาง โธมัส ฟาร์แรล ผู้ที่เป็นตัวแทนจากแม่พระมาช่วยให้พ่อรอดมาจากเจ้าหนี้ได้
���เมื่อพ่อเรียนจบมหาวิทยาลัย พ่อได้เดินทางไปแสวงบุญที่เมืองลูร์ดอีกครั้งหนึ่ง ลึกๆแล้วพ่อกังวลใจอยู่ว่าอาจจะไม่ได้กลับมาเยือนที่นี่อีกแล้วเพราะยังไม่รู้ว่าพระสังฆราชจะมอบหมายงานแบบไหนให้พ่อทำ พ่อสวดขอพระนางพรหมจารีมารีอาโปรดประทานสัญญาณบางอย่างให้พ่อรู้ทีว่าจะได้กลัมมาอีกไหม เพราะแม่พระมักจะทำในเรื่องที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้เสมอ สัญญาณที่ว่าเกิดขึ้นหลังจากที่พ่อถวายมิสซาขอบพระคุณเสร็จและเดินออกมาจนเกือบถึงรั้วด้านหน้าของสักการสถานแล้ว มีเด็กผู้หญิงอายุประมาณสิบสองปีอยู่ในชุดสีขาวเอาดอกกุหลาบมาจะมอบให้พ่อ จำได้ว่ามีเสียงพูดว่า เร็วๆหน่อยนะจ๊ะ เราเหลือเวลาไม่มากแล้ว แล้วเด็กผู้หญิงคนนั้นก็มอบดอกกุหลาบสีขาวให้กับพ่อ
���เมื่อพ่อถูกส่งไปอยู่ที่เมือง Peoria (รัฐอิลอนอยส์) พ่อได้บอกกับคุณพ่อเจ้าอาวาสว่าปีหน้าพ่ออยากจะไปแสวงบุญที่เมืองลูร์ดอีก เจ้าอาวาสถอนใจพูดว่า
พ่อเองเป็นเจ้าอาวาสมาสิบห้าปี ยังไม่เคยได้ไปยุโรปซักกะครั้งนึงเลย แต่คุณพ่อยังเป็นแค่พ่อปลัดก็คิดวางแผนจะไปเที่ยวในตอนสิ้นปีนี้แล้ว
ใช่ครับ แต่ผมก็ยังไม่ทราบเลยว่าจะได้ไปยังไง ก็แค่หวังว่าจะได้ไปเท่านั้นแหละครับ
สิ้นปีนั้นเองที่ครบรอบปีของงานอภิบาลในสังฆมณฑล พระสังฆราชก็บอกกับพ่อว่าจะส่งพ่อไปเป็นครูในมหาวิทยาลัยของคาทอลิกแห่งหนึ่ง และให้พ่อออกเดินทางไปยุโรปทันทีเพื่อเตรียมตัวสอนหนังสือ ดังนั้นในหน้าร้อนของปีนั้นพ่อก็ได้ไปแสวงบุญที่สักการสถานแม่พระประจักษ์เมืองลูร์ดอีกครั้ง
���ถ้ามีใครที่คิดว่าคำสวดอ้อนวอนของเราไม่ได้รับการตอบรับ ก็ขอให้คนๆนั้นสวดขอพระผู้เป็นเจ้า เพื่อว่าการทนทุกข์ในการรอคอยจะได้รักษาวิญญาณเอาไว้ หลังจากที่ได้ไปแสวงบุญครั้งนั้น ขากลับพ่อจองตั๋วรถไปเที่ยวกลางคืนกลับมาปารีส รถไฟออกเวลา 9 โมงกลางคืน มีความรู้สึกเหมือนเวลาที่คนรักจะต้องพรากจากกัน พ่อพยายามอยู่ที่นั่นให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนกระทั่ง 8 โมงเข้าไปแล้ว พ่อก็ไปที่ กรอตโตอีกครั้ง สวดขอแม่พระโปรดให้พ่อได้ถูกทดลองและได้ทนทุกข์ซักเศษเสี้ยวหนึ่งแห่งพระทรมานบ้างเพื่อจะได้ช่วยรักษาวิญญาณ พ่อรีบกลับมาเก็บของที่โรงแรมกระโจนขึ้นบันไดที่ละ 2 ขั้นเพื่อมาที่ห้อง พ่อสังเกตว่ามีคนวิ่งตามพ่อมา หันกลับไปดูเห็นเด็กผู้หญิงชาวดัทช์อายุราวๆ 12ปี เลยถามว่า หนูตามพ่อมาเหรอจ้ะ
เด็กหญิงตอบว่า ใช่ค่ะ แต่หนูก็ไม่ทราบว่าทำไม หนูเห็นพ่อในขบวนแห่เมื่อตอนบ่าย
เมื่อพ่อถามเธอว่าเธอมาที่ลูร์ดนี่เพื่อจะแสสวงบุญหรือเปล่า เธอตอบว่า
ไม่ใช่ค่ะ หนูไม่เชื่อว่ามีพระเป็นเจ้า
พ่อยืนยันกลับไปว่า หนูไม่ได้เป็นพวกที่ไม่เชื่อถึงพระผู้เป็นเจ้าหรอก ไม่ฉะนั้นหนูจะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หนูแค่สูญเสียความเชื่อไปเท่านั้นเอง
แล้วพ่อก็บอกเธอไปว่า พ่อคิดว่า หนูเป็นคำตอบของคำสวดภาวนาที่พ่อได้วอนขอเอาไว้ ให้พ่อได้ทนทุกข์สักหน่อยเพื่อร้กษาดวงวิญญาณสักดวง และหนูก็คือดววงวิญญาณดวงนั้นแหละ
พ่อเลยตัดสินใจไม่ไปขึ้นรถไฟและอยู่ต่อที่ลูร์ดอีก 3 วัน เพื่อจะช่วยให้เด็กหญิงคนนั้นแก้บาปและกลับมาเข้าวัดได้อย่างเดิม
���แล้วพ่อเองก็มีปัญหาตามมาคือพ่อต้องใช้เวลาอีก 3 วันเพื่อหาทางกลับไปปารีส ถึงแม้พ่อจะพูดภาษาฝรั่งเศสได้ แต่ตั๋วของพ่อก็ใช้ไม่ได้แล้ว คนตรวจตั๋วให้พ่อลงจากรถไฟกลางทาง มันเป็นเมืองที่ประหลาดที่หาภัตตาคารหรือโรงแรมไม่ได้เลย มันเป็นเวลา 3 วันที่ยากลำบาก ไม่สะดวกสบาย นอนไม่ได้ และไม่ได้กินอาหารที่เหมาะสมเลย ในที่สุดพ่อก็กลับถึงปารีส มันเป็นเหมือนกับป้ายบอกราคาในการช่วยเหลือวิญญาณแต่ละดวง บางดวงก็ถูกหน่อย ดวงอื่นๆก็แพง มันก็เหมือนกับการถ่ายเลือดจากคนในสังคมคนหนึ่งไปให้กับอีกคนหนึ่งเพื่อรักษาอาการโลหิตจาง เหมือนกับการตัดเอาเนื้อส่วนที่ยังดีอยู่ไปซ่อมปะส่วนที่เสียให้ดูดีขึ้น จึงว่าได้ว่ามันคือการที่ส่วนต่างๆของพระกายพระคริสตเจ้าที่ยอมทนมหาทรมานเพื่อที่ช่วยเหลือดวงวิญญาณที่ต้องการความรอด
���ลูกได้ยินคุณแม่ของลูกพูดถึงท่านบ่อยๆ ในชีวิตของพ่อ พ่อได้ไปแสวงบุญยังสักการสถานแห่งแม่พระเมืองลูร์ดประมาณสามสิบครั้งและอีกประมาณสิบครั้งที่สักการสถานที่ฟาติมา หนึ่งในการไปเมืองลูร์ดครั้งแรกๆของพ่อ เมื่อคราวที่พ่อเป็นเพียงนักศึกษาอยู่ที่ ลูแวง (Louvain) พ่อมีเงินเพียงแค่ให้เดินทางไปให้ถึงเท่านั้นไม่ได้สำหรับค่าใช้จ่ายในการอยู่ที่ลูร์ดเลย พ่อถามพี่ชายที่ชื่อ ทอม ว่าพอจะมีเงินให้พ่อบ้างไหม แต่เขาก็เป็นแค่นักศึกษาเหมือนกันและก็ ไม่มีตังค์ พ่อก็เลยบอกกับเขาว่า เอาละ ถ้าเรามีความเชื่อมากพอที่จะไปลูร์ดให้ได้ เพื่อจะไปฉลองครบรอบที่ได้บวชมา 5 ปีแล้ว พ่อคิดว่าแม่พระจะมีทางให้พ่อกลับมาได้เอง และพ่อก็มาถึงเมืองลูร์ดแบบ หมดตัว พ่อเข้าพักในโรงแรมที่ดีแห่งหนึ่ง อย่างไรก็ตามโรงแรมในเมืองลูร์ด ก็ไม่ใช่ว่าจะหรูหรามากนัก พ่อตัดสินใจว่าถ้าแม่พระจะช่วยให้จ่ายค่าโรงแรมแล้วล่ะก็ ท่านก็จะช่วยได้ทั้งนั้นไม่ว่ามันจะแพงหรือถูก พ่อไปทำนพวารแม่พระ สวดภาวนาอยู่เก้าวัน - แต่ในเช้าวันที่เก้าก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตกถึงตอนบ่ายก็ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น พ่อรู้สึกหนักใจมากแล้ว เริ่มมองเห็นภาพโดนตำรวจของประเทศฝรั่งเศสจับและคงจะต้องอยู่ล้างจานแทนค่าโรงแรมเป็นแน่แล้ว พ่อคิดเหมือนกับว่าขอรอคอยอัศจรรย์จากแม่พระอีกสักนิด แล้วก็ไปที่ กรอตโต ตอนนั้นก็สี่ทุ่มได้แล้ว ก็มีชายสูงวัยชาวอเมริกันรูปร่างท้วมๆเข้ามาแตะที่ไหล่ของพ่อถามว่า
คุณเป็นพระสงฆ์ชาวอเมริกันหรือเปล่าครับ?
ใช่ครับ
คุณพ่อพูดภาษาฝรั่งเศสเป็นไหมครับ?
ได้ครับ
คุณพ่อพอไป ปารีส เป็นกับภรรยาและลูกสาวผมในวันพรุ่งนี้ เพื่อเป็นล่ามภาษาฝรั่งเศสให้กับพวกเราได้ไหมครับ?
ชายคนนั้นเดินมาส่งพ่อที่โรงแรมที่พัก แล้วเขาก็ถามคำถามที่น่าทึ่งที่สุดในชีวิตพ่อก็ว่าได้มาว่า แล้วคุณพ่อจ่ายเงินค่าที่พักหรือยังครับ? พ่อก็ไม่ลังเลเลยที่จะขอยืมเงินมาจ่ายค่าโรงแรมแล้ววันรุ่งขึ้นพวกเราก็ออกเดินทางไปปารีสกัน และอีกมากกว่ายี่สิบปีต่อมา เมื่อพ่อไปนิวยอร์คเพื่อสอนคำสอนให้คนที่กลับใจ พ่อก็จะไปพักที่บ้านของสามี ภรรยาคู่นี้ นายและนาง โธมัส ฟาร์แรล ผู้ที่เป็นตัวแทนจากแม่พระมาช่วยให้พ่อรอดมาจากเจ้าหนี้ได้
���เมื่อพ่อเรียนจบมหาวิทยาลัย พ่อได้เดินทางไปแสวงบุญที่เมืองลูร์ดอีกครั้งหนึ่ง ลึกๆแล้วพ่อกังวลใจอยู่ว่าอาจจะไม่ได้กลับมาเยือนที่นี่อีกแล้วเพราะยังไม่รู้ว่าพระสังฆราชจะมอบหมายงานแบบไหนให้พ่อทำ พ่อสวดขอพระนางพรหมจารีมารีอาโปรดประทานสัญญาณบางอย่างให้พ่อรู้ทีว่าจะได้กลัมมาอีกไหม เพราะแม่พระมักจะทำในเรื่องที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้เสมอ สัญญาณที่ว่าเกิดขึ้นหลังจากที่พ่อถวายมิสซาขอบพระคุณเสร็จและเดินออกมาจนเกือบถึงรั้วด้านหน้าของสักการสถานแล้ว มีเด็กผู้หญิงอายุประมาณสิบสองปีอยู่ในชุดสีขาวเอาดอกกุหลาบมาจะมอบให้พ่อ จำได้ว่ามีเสียงพูดว่า เร็วๆหน่อยนะจ๊ะ เราเหลือเวลาไม่มากแล้ว แล้วเด็กผู้หญิงคนนั้นก็มอบดอกกุหลาบสีขาวให้กับพ่อ
���เมื่อพ่อถูกส่งไปอยู่ที่เมือง Peoria (รัฐอิลอนอยส์) พ่อได้บอกกับคุณพ่อเจ้าอาวาสว่าปีหน้าพ่ออยากจะไปแสวงบุญที่เมืองลูร์ดอีก เจ้าอาวาสถอนใจพูดว่า
พ่อเองเป็นเจ้าอาวาสมาสิบห้าปี ยังไม่เคยได้ไปยุโรปซักกะครั้งนึงเลย แต่คุณพ่อยังเป็นแค่พ่อปลัดก็คิดวางแผนจะไปเที่ยวในตอนสิ้นปีนี้แล้ว
ใช่ครับ แต่ผมก็ยังไม่ทราบเลยว่าจะได้ไปยังไง ก็แค่หวังว่าจะได้ไปเท่านั้นแหละครับ
สิ้นปีนั้นเองที่ครบรอบปีของงานอภิบาลในสังฆมณฑล พระสังฆราชก็บอกกับพ่อว่าจะส่งพ่อไปเป็นครูในมหาวิทยาลัยของคาทอลิกแห่งหนึ่ง และให้พ่อออกเดินทางไปยุโรปทันทีเพื่อเตรียมตัวสอนหนังสือ ดังนั้นในหน้าร้อนของปีนั้นพ่อก็ได้ไปแสวงบุญที่สักการสถานแม่พระประจักษ์เมืองลูร์ดอีกครั้ง
���ถ้ามีใครที่คิดว่าคำสวดอ้อนวอนของเราไม่ได้รับการตอบรับ ก็ขอให้คนๆนั้นสวดขอพระผู้เป็นเจ้า เพื่อว่าการทนทุกข์ในการรอคอยจะได้รักษาวิญญาณเอาไว้ หลังจากที่ได้ไปแสวงบุญครั้งนั้น ขากลับพ่อจองตั๋วรถไปเที่ยวกลางคืนกลับมาปารีส รถไฟออกเวลา 9 โมงกลางคืน มีความรู้สึกเหมือนเวลาที่คนรักจะต้องพรากจากกัน พ่อพยายามอยู่ที่นั่นให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ จนกระทั่ง 8 โมงเข้าไปแล้ว พ่อก็ไปที่ กรอตโตอีกครั้ง สวดขอแม่พระโปรดให้พ่อได้ถูกทดลองและได้ทนทุกข์ซักเศษเสี้ยวหนึ่งแห่งพระทรมานบ้างเพื่อจะได้ช่วยรักษาวิญญาณ พ่อรีบกลับมาเก็บของที่โรงแรมกระโจนขึ้นบันไดที่ละ 2 ขั้นเพื่อมาที่ห้อง พ่อสังเกตว่ามีคนวิ่งตามพ่อมา หันกลับไปดูเห็นเด็กผู้หญิงชาวดัทช์อายุราวๆ 12ปี เลยถามว่า หนูตามพ่อมาเหรอจ้ะ
เด็กหญิงตอบว่า ใช่ค่ะ แต่หนูก็ไม่ทราบว่าทำไม หนูเห็นพ่อในขบวนแห่เมื่อตอนบ่าย
เมื่อพ่อถามเธอว่าเธอมาที่ลูร์ดนี่เพื่อจะแสสวงบุญหรือเปล่า เธอตอบว่า
ไม่ใช่ค่ะ หนูไม่เชื่อว่ามีพระเป็นเจ้า
พ่อยืนยันกลับไปว่า หนูไม่ได้เป็นพวกที่ไม่เชื่อถึงพระผู้เป็นเจ้าหรอก ไม่ฉะนั้นหนูจะมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หนูแค่สูญเสียความเชื่อไปเท่านั้นเอง
แล้วพ่อก็บอกเธอไปว่า พ่อคิดว่า หนูเป็นคำตอบของคำสวดภาวนาที่พ่อได้วอนขอเอาไว้ ให้พ่อได้ทนทุกข์สักหน่อยเพื่อร้กษาดวงวิญญาณสักดวง และหนูก็คือดววงวิญญาณดวงนั้นแหละ
พ่อเลยตัดสินใจไม่ไปขึ้นรถไฟและอยู่ต่อที่ลูร์ดอีก 3 วัน เพื่อจะช่วยให้เด็กหญิงคนนั้นแก้บาปและกลับมาเข้าวัดได้อย่างเดิม
���แล้วพ่อเองก็มีปัญหาตามมาคือพ่อต้องใช้เวลาอีก 3 วันเพื่อหาทางกลับไปปารีส ถึงแม้พ่อจะพูดภาษาฝรั่งเศสได้ แต่ตั๋วของพ่อก็ใช้ไม่ได้แล้ว คนตรวจตั๋วให้พ่อลงจากรถไฟกลางทาง มันเป็นเมืองที่ประหลาดที่หาภัตตาคารหรือโรงแรมไม่ได้เลย มันเป็นเวลา 3 วันที่ยากลำบาก ไม่สะดวกสบาย นอนไม่ได้ และไม่ได้กินอาหารที่เหมาะสมเลย ในที่สุดพ่อก็กลับถึงปารีส มันเป็นเหมือนกับป้ายบอกราคาในการช่วยเหลือวิญญาณแต่ละดวง บางดวงก็ถูกหน่อย ดวงอื่นๆก็แพง มันก็เหมือนกับการถ่ายเลือดจากคนในสังคมคนหนึ่งไปให้กับอีกคนหนึ่งเพื่อรักษาอาการโลหิตจาง เหมือนกับการตัดเอาเนื้อส่วนที่ยังดีอยู่ไปซ่อมปะส่วนที่เสียให้ดูดีขึ้น จึงว่าได้ว่ามันคือการที่ส่วนต่างๆของพระกายพระคริสตเจ้าที่ยอมทนมหาทรมานเพื่อที่ช่วยเหลือดวงวิญญาณที่ต้องการความรอด
แก้ไขล่าสุดโดย fizzy vippie เมื่อ เสาร์ ส.ค. 20, 2005 3:44 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- fizzy vippie
- โพสต์: 371
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 26, 2005 10:58 am
���การช่วยเหลือด้านจิตวิญญาณแกดวงวิญญาณที่ต้องการนั้นไม่ได้กำจัดอยู่แต่เพียงความช่วยเหลือด้านวัตถุหรือความต้องการฝ่ายร่างกายเท่านั้น มันไม่มีความหมายใดๆเลยถ้าเราได้ช่วยเหลือฝ่ายร่างกายแล้วยังไม่รู้สึกว่าได้ช่วยเหลือดวงวิญญาณที่อดอยากในด้านความรอด ถ้าคนหนึ่งในบรรดาสมาชิกต้องอดๆอยากๆ สมาชิกที่เหลือก็จะทนทุกข์เหมือนกันหมด ถ้าเรามีธนาคารดวงตาสำหรับคนตาบอด และมีธนาคารเลือดสำหรับผู้ป่วยโรคโลหิตจางแล้วล่ะก็ ทำไมเราไม่มีธนาคารคำภาวนาสำหรับคนบาปที่ยังไม่ยอมรับตัวเองและยังคงตกอยู่ในบาปอยู่ด้วยล่ะ ยังมีคนเดินทางอีกมากมายที่มีบาดแผลทางวิญญาณและยังไม่ได้เจอชาวสะมาเรียนผู้ใจดี ที่จะมาชโลมน้ำมันแห่งคำภาวนาอ้อนวอนกับเหล้าองุ่นแห่งการเยียวยาลงในวิญญาณที่อ่อนแรง
���การอุทิศตนให้แม่พระนำพาให้พ่อค้นพบมิติใหม่แห่งความศักดิ์สิทธิ์ของการทนทรมาน พ่อไม่คิดว่าตัวเองได้เคยตัดพ้อกับองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ลูกไปทำอะไรมา ถึงได้ต้องมาทนรับการทดลองเช่นนี้ ในใจของพ่อเองพ่อรู้ดีว่า พ่อได้ทนทรมานน้อยกว่าที่พ่อควรจะโดนจริงๆซะอีก มากไปกว่านั้นหากองค์พระคริสตเจ้าทรงเรียกให้พระมารดาของพระองค์ ผู้ซึ่งไม่มีบาปใดๆมากร้ำกรายให้มาร่วมในพระมหาทรมานด้วยแล้ว พระองค์ก็ทรงขีดฆ่าคำว่า สาสม ออกไปจากสารบบของพระองค์แล้ว
���เมื่อพระแม่เจ้าได้นำองค์พระกุมารผู้ศักดิ์สิทธิ์ไปพบผู้เฒ่า ซิเมโอน พระนางได้รับทราบว่าองค์พระกุมารจะเป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อต้าน(กฏเกณฑ์ของโลก) และจะเป็นดั่งดาบที่จะทิ่มแทงดวงพระทัยของพระนางด้วย แม่พระคือคนแรกที่จะต้องรู้สึกสะเทือนใจ ไม่ใช่ในฐานะเหยื่อผู้ไม่สมัครใจ แต่ในทางกลับกันทั้งๆที่เป็นผู้ที่มีโอกาสที่จะขอถอนตัว แม่พระได้พยายามอย่างเต็มความสามารถที่จะร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับองค์พระคริสตเจ้า มากที่สุดเท่าที่ชีวิตๆหนึ่งจะพึงทำได้ในกิจการไถ่กู้มนุษยชาติของพระองค์
���ถ้าเราเป็นคนตาดีเพียงคนเดียวในโลกของคนตาบอด เราไม่คิดที่จะเป็นดั่งไม้เท้าช่วยให้เขาเดินได้บ้างเหรอ? หรือถ้าเราเป็นพลทหารที่ไม่ได้รับบาดเจ็บคนเดียวในสมรภูมิรบ เราจะไม่ช่วยเยียวยาคนที่เจ็บปวดเลยหรือ? ดังนั้นจึงขอให้เราใช้ข้อได้เปรียบต่อบาปอันนี้ร่วมกับพระองค์ ผู้ซึ่งได้เตรียมการล่วงหน้าด้วยพระพรพิเศษแห่งการปฏิสนธินิรมลของแม่พระ
���เมื่อพ่อได้เข้ารับการผ่าตัดหัวใจ ในระยะเวลา 4 เดือนแรกที่อยู่ในโรงพยาบาล พ่อเริ่มรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆว่า แม่พระไม่เพียงประทานยารักษาที่หอมหวานให้ แต่ยังมียาที่ขมด้วย เพื่อดิ้นรนที่จะไม่ให้พลาดวันฉลองสำคัญทั้งสามวันของแม่พระ พ่อได้ถูกพามายืนอยู่หน้าประตูแห่งความตาย และต้องมาทนทรมานครั้งใหญ่ในชีวิต ครั้งแรกวันฉลองแม่พระแห่งภูเขาคาร์เมล วันที่ 16 กรกฎาคม ที่หมอต้องมาคอยเฝ้าระวังและพยายามอยู่ทั้งวันเพื่อที่จะรักษาสัญญาณชีวิตอันน้อยนิดของพ่อเอาไว้ ครั้งต่อมาในการผ่าตัดเพื่อฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจในวันฉลองแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ วันที่ 15 สิงหาคม ครั้งสุดทายนี้เองที่พ่อเริ่มจะรู้สึกหวาดกลัวในความศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ในวันที่ 8 กันยายนที่เราฉลองวันเกิดของแม่พระ เกิดการติดเชื้อขึ้นที่ไตซึ่งทำให้พ่อรู้สึกทรมานมาหลายสัปดาห์แล้ว พ่อมาคิดได้ระหว่างการเฉลิมฉลองของแม่พระและความพยายามที่จะแบกกางเขนของพ่อเองว่า นี่เป็นเหมือนสัญญาณแสดงถึงความโปรดปรานที่พิเศษที่พระผู้เป็นเจ้ามีให้แม่พระ ถ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงเรียกพระแม่ผู้ไม่สมควรที่จะต้องทนความเจ็บปวดใดๆ ให้มายืนอยู่แทบเชิงกางเขนแล้ว ทำไมพระองค์จะไม่ทรงเรียกพ่อด้วยล่ะ
���ในเมื่อพ่อได้แสดงความรักต่อแม่พระให้เป็นมารดาแห่งชีวิตสงฆ์แล้ว ทำไมพระนางจะไม่มอบความรักฉันท์มารดาที่ทำจะให้พ่อเป็นเหมือนพระบุตรของพระนาง โดยให้พ่อต้องตกเป็นเหยื่อของความทรมานนี้ล่ะ ถ้าพระนางไม่ได้มองข้ามการยอมรับในพระมหาทรมานของพระบุตรแล้ว พระนางจะมองข้ามพ่อผู้ซึ่งยกให้พระนางเป็นมารดาในสวรรค์ของตัวเอง ในการเสาะหาฉายาแห่งพระบุตรให้มาประทับอยู่ในวิญญาณของพ่อได้อย่างไร ในขณะที่คุณแม่ในโลกนี้ของพ่อได้วางพ่อลงบนพระแท่นถวายตัวพอแด่พระนางเมื่อแรกเกิด ทำไมมารดาแห่งสวรรค์ของพ่อจะไม่มอบกางเขนไว้ให้พ่อแบกเมื่อพ่อมาถึงจุดจบของชีวิต
���ในขณะที่พ่อยังเรียนอยู่ high school ปีที่ 2 บราเดอร์คณะ Brothers of Mary ที่เป็นคุณครูของพวกเราได้ให้เราสวดวันทามารีอา 3 จบในแต่ละวันต่อหน้ารูปนักบุญยอแซฟ เพื่อขอพระหรรษทานในการสิ้นใจอย่างสงบ พ่อยังทำเช่นนั้นมาจนทุกวันนี้ แต่ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา พ่อได้เพิ่มบทสวดต่อแม่พระลงไปด้วยของให้พ่อได้ตายในวันเสาร์ซึ่งเป็นวันที่พ่ออุทิศให้กับแม่พระเป็นพิเศษหรือไม่ก็วันฉลองอื่นๆของแม่พระ
���ในการสนทนาครั้งล่าสุดกับ มัลคอม มักเกอริจด์ นักหนังสือพิมพ์ที่มีชื่อเสียงของอังกฤษและอดีคบรรณาธิการของนิตยสาร Punch เขาได้บอกกับพ่อว่าเขาคิดว่ามันผิดที่จะสวดขอความตายให้มาถึงมาในทุกวันนี้ ตัวเขาเองก็บอกว่า ผมอยากให้ความตายมาถึงเร็วและผมยินดีต้อนรับมันเสมอ ไม่ว่าเราจะมีชีวิตเพียงสั้นๆหรือยืนยาวในโลกใบนี้มันก็ไม่ได้แตกต่างกันเลย พ่อไม่รู้หรอกว่าแม่พระจะมอบสิ่งที่พ่อวอนขอให้หรือเปล่า พ่อแค่เชื่อมั่นในความช่วยเหลือของพระแม่ที่จะนำพาไปสู่ทางสายตรงที่สุดสู่องค์พระคริสตเจ้าเพราะว่า แม่พระทรงรู้จักทางสายนั้นดี
���การอุทิศตนให้แม่พระนำพาให้พ่อค้นพบมิติใหม่แห่งความศักดิ์สิทธิ์ของการทนทรมาน พ่อไม่คิดว่าตัวเองได้เคยตัดพ้อกับองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า ลูกไปทำอะไรมา ถึงได้ต้องมาทนรับการทดลองเช่นนี้ ในใจของพ่อเองพ่อรู้ดีว่า พ่อได้ทนทรมานน้อยกว่าที่พ่อควรจะโดนจริงๆซะอีก มากไปกว่านั้นหากองค์พระคริสตเจ้าทรงเรียกให้พระมารดาของพระองค์ ผู้ซึ่งไม่มีบาปใดๆมากร้ำกรายให้มาร่วมในพระมหาทรมานด้วยแล้ว พระองค์ก็ทรงขีดฆ่าคำว่า สาสม ออกไปจากสารบบของพระองค์แล้ว
���เมื่อพระแม่เจ้าได้นำองค์พระกุมารผู้ศักดิ์สิทธิ์ไปพบผู้เฒ่า ซิเมโอน พระนางได้รับทราบว่าองค์พระกุมารจะเป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อต้าน(กฏเกณฑ์ของโลก) และจะเป็นดั่งดาบที่จะทิ่มแทงดวงพระทัยของพระนางด้วย แม่พระคือคนแรกที่จะต้องรู้สึกสะเทือนใจ ไม่ใช่ในฐานะเหยื่อผู้ไม่สมัครใจ แต่ในทางกลับกันทั้งๆที่เป็นผู้ที่มีโอกาสที่จะขอถอนตัว แม่พระได้พยายามอย่างเต็มความสามารถที่จะร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับองค์พระคริสตเจ้า มากที่สุดเท่าที่ชีวิตๆหนึ่งจะพึงทำได้ในกิจการไถ่กู้มนุษยชาติของพระองค์
���ถ้าเราเป็นคนตาดีเพียงคนเดียวในโลกของคนตาบอด เราไม่คิดที่จะเป็นดั่งไม้เท้าช่วยให้เขาเดินได้บ้างเหรอ? หรือถ้าเราเป็นพลทหารที่ไม่ได้รับบาดเจ็บคนเดียวในสมรภูมิรบ เราจะไม่ช่วยเยียวยาคนที่เจ็บปวดเลยหรือ? ดังนั้นจึงขอให้เราใช้ข้อได้เปรียบต่อบาปอันนี้ร่วมกับพระองค์ ผู้ซึ่งได้เตรียมการล่วงหน้าด้วยพระพรพิเศษแห่งการปฏิสนธินิรมลของแม่พระ
���เมื่อพ่อได้เข้ารับการผ่าตัดหัวใจ ในระยะเวลา 4 เดือนแรกที่อยู่ในโรงพยาบาล พ่อเริ่มรู้สึกมากขึ้นเรื่อยๆว่า แม่พระไม่เพียงประทานยารักษาที่หอมหวานให้ แต่ยังมียาที่ขมด้วย เพื่อดิ้นรนที่จะไม่ให้พลาดวันฉลองสำคัญทั้งสามวันของแม่พระ พ่อได้ถูกพามายืนอยู่หน้าประตูแห่งความตาย และต้องมาทนทรมานครั้งใหญ่ในชีวิต ครั้งแรกวันฉลองแม่พระแห่งภูเขาคาร์เมล วันที่ 16 กรกฎาคม ที่หมอต้องมาคอยเฝ้าระวังและพยายามอยู่ทั้งวันเพื่อที่จะรักษาสัญญาณชีวิตอันน้อยนิดของพ่อเอาไว้ ครั้งต่อมาในการผ่าตัดเพื่อฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจในวันฉลองแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ วันที่ 15 สิงหาคม ครั้งสุดทายนี้เองที่พ่อเริ่มจะรู้สึกหวาดกลัวในความศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์ ในวันที่ 8 กันยายนที่เราฉลองวันเกิดของแม่พระ เกิดการติดเชื้อขึ้นที่ไตซึ่งทำให้พ่อรู้สึกทรมานมาหลายสัปดาห์แล้ว พ่อมาคิดได้ระหว่างการเฉลิมฉลองของแม่พระและความพยายามที่จะแบกกางเขนของพ่อเองว่า นี่เป็นเหมือนสัญญาณแสดงถึงความโปรดปรานที่พิเศษที่พระผู้เป็นเจ้ามีให้แม่พระ ถ้าองค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงเรียกพระแม่ผู้ไม่สมควรที่จะต้องทนความเจ็บปวดใดๆ ให้มายืนอยู่แทบเชิงกางเขนแล้ว ทำไมพระองค์จะไม่ทรงเรียกพ่อด้วยล่ะ
���ในเมื่อพ่อได้แสดงความรักต่อแม่พระให้เป็นมารดาแห่งชีวิตสงฆ์แล้ว ทำไมพระนางจะไม่มอบความรักฉันท์มารดาที่ทำจะให้พ่อเป็นเหมือนพระบุตรของพระนาง โดยให้พ่อต้องตกเป็นเหยื่อของความทรมานนี้ล่ะ ถ้าพระนางไม่ได้มองข้ามการยอมรับในพระมหาทรมานของพระบุตรแล้ว พระนางจะมองข้ามพ่อผู้ซึ่งยกให้พระนางเป็นมารดาในสวรรค์ของตัวเอง ในการเสาะหาฉายาแห่งพระบุตรให้มาประทับอยู่ในวิญญาณของพ่อได้อย่างไร ในขณะที่คุณแม่ในโลกนี้ของพ่อได้วางพ่อลงบนพระแท่นถวายตัวพอแด่พระนางเมื่อแรกเกิด ทำไมมารดาแห่งสวรรค์ของพ่อจะไม่มอบกางเขนไว้ให้พ่อแบกเมื่อพ่อมาถึงจุดจบของชีวิต
���ในขณะที่พ่อยังเรียนอยู่ high school ปีที่ 2 บราเดอร์คณะ Brothers of Mary ที่เป็นคุณครูของพวกเราได้ให้เราสวดวันทามารีอา 3 จบในแต่ละวันต่อหน้ารูปนักบุญยอแซฟ เพื่อขอพระหรรษทานในการสิ้นใจอย่างสงบ พ่อยังทำเช่นนั้นมาจนทุกวันนี้ แต่ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา พ่อได้เพิ่มบทสวดต่อแม่พระลงไปด้วยของให้พ่อได้ตายในวันเสาร์ซึ่งเป็นวันที่พ่ออุทิศให้กับแม่พระเป็นพิเศษหรือไม่ก็วันฉลองอื่นๆของแม่พระ
���ในการสนทนาครั้งล่าสุดกับ มัลคอม มักเกอริจด์ นักหนังสือพิมพ์ที่มีชื่อเสียงของอังกฤษและอดีคบรรณาธิการของนิตยสาร Punch เขาได้บอกกับพ่อว่าเขาคิดว่ามันผิดที่จะสวดขอความตายให้มาถึงมาในทุกวันนี้ ตัวเขาเองก็บอกว่า ผมอยากให้ความตายมาถึงเร็วและผมยินดีต้อนรับมันเสมอ ไม่ว่าเราจะมีชีวิตเพียงสั้นๆหรือยืนยาวในโลกใบนี้มันก็ไม่ได้แตกต่างกันเลย พ่อไม่รู้หรอกว่าแม่พระจะมอบสิ่งที่พ่อวอนขอให้หรือเปล่า พ่อแค่เชื่อมั่นในความช่วยเหลือของพระแม่ที่จะนำพาไปสู่ทางสายตรงที่สุดสู่องค์พระคริสตเจ้าเพราะว่า แม่พระทรงรู้จักทางสายนั้นดี
แก้ไขล่าสุดโดย fizzy vippie เมื่อ เสาร์ ส.ค. 20, 2005 7:17 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ขอบคุณคะ ;)
- fizzy vippie
- โพสต์: 371
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ม.ค. 26, 2005 10:58 am
(มาโพสต์ต่อ ... ส่วนสุดท้ายแล้ว)
แก้ไขล่าสุดโดย fizzy vippie เมื่อ เสาร์ ส.ค. 20, 2005 10:12 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- Good Nanny
- ~@
- โพสต์: 227
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 13, 2005 10:32 pm
- ที่อยู่: BKK
ไปร่วมมิสซาภาษาอังกฤษที่เซนต์จอนห์ค่ะ...
เอาสารวัดกลับบ้านมาอ่านทุกครั้งคะ...แต่ไม่มั่นใจในการแปลค่ะ
เลยไม่กล้าpostอ่ะ :-[
เอาสารวัดกลับบ้านมาอ่านทุกครั้งคะ...แต่ไม่มั่นใจในการแปลค่ะ
เลยไม่กล้าpostอ่ะ :-[
ขอบคุณค่ะ ชอบจัง
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
สุดยอด เลยค่ะ
ทรมาน เพื่อวิญญาณ สักดวง <<<<< ชอบตรงนี้จัง
ทรมาน เพื่อวิญญาณ สักดวง <<<<< ชอบตรงนี้จัง
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ จันทร์ มิ.ย. 26, 2006 2:31 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.