+ ความแยบยลของมารคือ "สันติภาพ" +
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
เมื่อสักครู่ได้ไปเจอบทความหนึ่งเขียนใว้นานแล้ว เขียนโดยพระสันปาปาเบเนดิกต์ที่16 เมื่อครั้งสมัยที่ท่านยังเป็นพระคาร์ดินัลโจเซฟ รัทซิงเกอร์ เมื่อปี 1988 เกี่ยวกับการ "ประชุมสภาระหว่างศาสนาเพื่อความสันติภาพของมนุษย์ชาติ" ในนิตยสาร 30 DAYS ว่าดังนี้
"ภารกิจของพระศาสนจักร มิใช่จะนำสันติภาพมาสู่โลก แต่จะนำความรอดชั่วนิรันดร์มาสู่โลกโดยการสอนพระธรรมคำสอน และล้างบาปให้พวกเขามามีความเชื่อในพระศาสนา การที่ชาวคาทอลิคจะเข้าร่วมในสภาระหว่างศาสนาเพื่อสันติภาพนั้นไม่น่าจะเป็นไปได้" พระคาร์ดินัลโจเซฟ รัทซิงเกอร์(ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นพระสันตปาปาเบเนดิกต์ที่ 16)ได้อธิบายว่า ความพยายามที่จะจะสภาปนาสันติภาพครอบคลุมไปทั่วโลก โดยอาศัยสหภาพศาสนาโลกมีบางอย่างคล้ายคลึงกับการประจญข้อที่ 3 ของพระเยซู
(มธ 4:8-11
อีกครั้งหนึ่งปีศาจนำพระองค์ไปบนยอดเขาสูงมาก ชี้ให้พระองค์ทอด
พระเนตรอาณาจักรรุ่งเรืองต่าง ๆ ของโลก แล้วทูลว่า
"ภารกิจของพระศาสนจักร มิใช่จะนำสันติภาพมาสู่โลก แต่จะนำความรอดชั่วนิรันดร์มาสู่โลกโดยการสอนพระธรรมคำสอน และล้างบาปให้พวกเขามามีความเชื่อในพระศาสนา การที่ชาวคาทอลิคจะเข้าร่วมในสภาระหว่างศาสนาเพื่อสันติภาพนั้นไม่น่าจะเป็นไปได้" พระคาร์ดินัลโจเซฟ รัทซิงเกอร์(ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นพระสันตปาปาเบเนดิกต์ที่ 16)ได้อธิบายว่า ความพยายามที่จะจะสภาปนาสันติภาพครอบคลุมไปทั่วโลก โดยอาศัยสหภาพศาสนาโลกมีบางอย่างคล้ายคลึงกับการประจญข้อที่ 3 ของพระเยซู
(มธ 4:8-11
อีกครั้งหนึ่งปีศาจนำพระองค์ไปบนยอดเขาสูงมาก ชี้ให้พระองค์ทอด
พระเนตรอาณาจักรรุ่งเรืองต่าง ๆ ของโลก แล้วทูลว่า
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
อืมๆ คิดไปน่ากลัวเหมือนกันแฮะ มันมาแบบ นิ่งๆจิงๆมารเนี่ย
แล้วทำไมสมเด็จพระสันตะปาปายอน์หนปอลที่ 2 จึงทรงพบปะเสวนากับผู้แทนศาสนาต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ ทุก ๆ ปีครับ จุดประสงค์ประการหนึ่งของพระองค์คือ สร้างความเข้าใจอันดีต่อกันและกัน นั่นก็คือเพื่อให้เกิดสันติสุขขึ้นในโลกนั่นเอง
และแนวทางการศาสนสัมพันธ์ของพระองค์ก็มิใช่เพื่อนำผู้นับถือศาสนาอื่นมาเป็นคาทอลิกด้วยนะครับ
และแนวทางการศาสนสัมพันธ์ของพระองค์ก็มิใช่เพื่อนำผู้นับถือศาสนาอื่นมาเป็นคาทอลิกด้วยนะครับ
I think Pope Benedict didn't mean that he didn't agree with ecuminism. He just wanted us to prioritize on our faith, not to make peace in the world. .... I've seen a group who's focusing on making peace in the world and they think masterbation is the way to make peace. This group just promote people to masterbate so that you can find pleasure by yourself and thus decrease violence in the world... and they call that's peace!! I think this is an example if we just focus on making peace with no root in morality or faith.
But if we focus on faith, peace will come afterwards. .... Faith comes before peace not peace and then faith.
But if we focus on faith, peace will come afterwards. .... Faith comes before peace not peace and then faith.
แก้ไขล่าสุดโดย Buddy เมื่อ พฤหัสฯ. ก.ย. 08, 2005 10:24 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
ปั้มมองว่าการสร้างสันตินั้นดีนะพี่เพชร อย่างท่านจอห์นปอลที่2 ทรงทำนั่นก็คือการสร้างสันดิมีความสัมพันธ์อันดีต่อเพื่อนพี่น้องศาสนาต่างๆ แต่ผมคิดว่าการสร้างสันติโดยอาศัยองกรระดับโลกที่ใช้ศาสนามาเป็นฉากหน้ามันอันตราย ท่านสันตปาปาเบเนดิกต์คงหมายความว่าอย่างนี้นะครับAndreas เขียน: แล้วทำไมสมเด็จพระสันตะปาปายอน์หนปอลที่ 2 จึงทรงพบปะเสวนากับผู้แทนศาสนาต่าง ๆ อย่างสม่ำเสมอ ทุก ๆ ปีครับ จุดประสงค์ประการหนึ่งของพระองค์คือ สร้างความเข้าใจอันดีต่อกันและกัน นั่นก็คือเพื่อให้เกิดสันติสุขขึ้นในโลกนั่นเอง
และแนวทางการศาสนสัมพันธ์ของพระองค์ก็มิใช่เพื่อนำผู้นับถือศาสนาอื่นมาเป็นคาทอลิกด้วยนะครับ
ปล.เห็นด้วยกับพี่บัดดี้ครับ
พี่เพชรลองนึกดูนะตอนนี้ศาสนาทุกศาสนาก็มีคำสอนให้รักสันติกันอยู่แล้ว แต่นี่กลับกลายเป็นว่าจะตั้งองกรศาสนาโลกขึ้นมาเพื่อความสันติโดยเฉพาะ มันต่างจากพระคริสต์จอมปลอมตรงไหนที่อ้างว่าเป็นผู้นำสันติๆ แต่ลึกๆแล้วกลายเป็นชนวนก่อให้เกิดการเบียดเบียนแล้วนำไปสู่ความขัดแย้งต่างๆนาๆซะเอง มาเป็นลูกแกะแต่ข้างในเป็นสุนัขป่าจริงๆ
แก้ไขล่าสุดโดย พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ เมื่อ พฤหัสฯ. ก.ย. 08, 2005 12:31 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
อ๋อ เข้าใจแล้วครับ ศาสนสัมพันธ์นั้นแต่ละศาสนาควรมีอิสระ ไม่ควรมีองค์กรกลางมาครอบอีกทีนึง ที่จริงมีบางศาสนาใหม่ ๆ ที่พยายามรวมเอาหลักธรรมศาสนาต่าง ๆ เข้ามาเช่น ศาสนาบาไฮ และกลุ่ม New Age เมื่อก่อนนี้ในเมืองไทยก็เคยมีสำนักหุบผาสวรรค์ แต่ดีนะที่สำนักนี้โดนแบบไปเรียบร้อย
แก้ไขล่าสุดโดย Andreas เมื่อ พฤหัสฯ. ก.ย. 08, 2005 7:40 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
สุภาษิตเขาบอกว่า "ตีงูตีที่หัว" ถ้าตีที่ตัวหัวมันจะมากัด ดังนั้นมารก็มักจะเล่นงานผู้นำเป็นเรื่องธรรมดา บุคลที่เป็นผู้นำทางศาสนาควรเข็มแข็งและยืนหยัดเกาะติดกับพระวาจาพระเจ้าหรือพระคัมภีร์เป็นบรรทัดฐาน ไม่ควรนำปรัชญาสมัยใหม่บางแนวคิดเข้าไปรวมกับคำสอนของพระศาสนจักร ซึ่งเป็นแนวคิดทางด้านสังคมวิทยาของมนุษย์เท่านั้น
แนวคิดทางด้านสังคมวิทยาสมัยใหม่บางแนวคิดอาดดูเหมือนดี แต่เมื่อนำไปใช่ในชีวิตประจำวันอาจทำให้ชีวิตจริงมีปัญหาก็ได้ โดยเฉพาะแนวคิดด้านสถาบันครอบครัว เราจะเห็นว่าในปัจจุบันมีการหย่าร้างกันมากกว่าอดีต ส่วนสถาบันอื่นๆ ก็ล่วนแต่มีปัญหาเกิดขึ้นตามมาทีหลังทั้งนั้นแหละครับ
แนวคิดทางสังคมวิทยาสมัยใหม่ อาจแบ่งเป็นรูปแบบของทฤษฎีตายตัว หรือในรูปแบบของค่านิยม ซึ่งนับวันก็จะมีความรุ่นแรงมากขึ้น ทำให้หนุมสาวจำนวนมากรับค่านิยมไปโดยไม่รู้ตัวรวมทั้งผู้นำทางศาสนาบางท่านด้วย
นอกนั้นแล้วยังมีพวกนักวิชาการหัวแข็งบางท่านไม่ยอมรับแนวคิดคนอื่น แม้แต่พระวาจาพระเจ้ายังไม่ยอมรับแถมมีใจคิดสู้อีก พยายามที่จะแปลงพระวาจาพระเจ้าให้เข้ากับแนวคิดตัวเองแล้วให้คนอื่นยอมรับ บางกลุ่มก็พยายามจับให้พระวาจาพระเจ้าอยู่ในมุมของเหตุผลในรูปของวิทยาศาสตร์อะไรที่ขัดกับวิทยาศาสตร์ก็จะถูกตีความาว่าเป็นนิยายหรือเรื่องโกหกไป ไม่รู้ใครจะตาบอดเพียงนั้น ถ้ามีตำแหน่งเป็นผู้นำศาสนามีความรู้สูงๆ แล้วตาบอด สู่ไม่เป็นดีกว่าครับ
ด้วยรักในพระคริสต์
แนวคิดทางด้านสังคมวิทยาสมัยใหม่บางแนวคิดอาดดูเหมือนดี แต่เมื่อนำไปใช่ในชีวิตประจำวันอาจทำให้ชีวิตจริงมีปัญหาก็ได้ โดยเฉพาะแนวคิดด้านสถาบันครอบครัว เราจะเห็นว่าในปัจจุบันมีการหย่าร้างกันมากกว่าอดีต ส่วนสถาบันอื่นๆ ก็ล่วนแต่มีปัญหาเกิดขึ้นตามมาทีหลังทั้งนั้นแหละครับ
แนวคิดทางสังคมวิทยาสมัยใหม่ อาจแบ่งเป็นรูปแบบของทฤษฎีตายตัว หรือในรูปแบบของค่านิยม ซึ่งนับวันก็จะมีความรุ่นแรงมากขึ้น ทำให้หนุมสาวจำนวนมากรับค่านิยมไปโดยไม่รู้ตัวรวมทั้งผู้นำทางศาสนาบางท่านด้วย
นอกนั้นแล้วยังมีพวกนักวิชาการหัวแข็งบางท่านไม่ยอมรับแนวคิดคนอื่น แม้แต่พระวาจาพระเจ้ายังไม่ยอมรับแถมมีใจคิดสู้อีก พยายามที่จะแปลงพระวาจาพระเจ้าให้เข้ากับแนวคิดตัวเองแล้วให้คนอื่นยอมรับ บางกลุ่มก็พยายามจับให้พระวาจาพระเจ้าอยู่ในมุมของเหตุผลในรูปของวิทยาศาสตร์อะไรที่ขัดกับวิทยาศาสตร์ก็จะถูกตีความาว่าเป็นนิยายหรือเรื่องโกหกไป ไม่รู้ใครจะตาบอดเพียงนั้น ถ้ามีตำแหน่งเป็นผู้นำศาสนามีความรู้สูงๆ แล้วตาบอด สู่ไม่เป็นดีกว่าครับ
ด้วยรักในพระคริสต์
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ เสาร์ ก.ย. 10, 2005 4:30 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ส่งเหล่านี้แม่พระเคยบอกไว้แล้วในสารการประจักษ์
แต่สุดท้ายแล้วผู้ที่เชื่อและวางใจในแม่พระจะได้รับชัยชนะ
ถ้าหากพระศาสนจักรในอนาคตยังคงมั่นคงและศรัทธา จงรักถักดีต่อแม่พระอยู่
ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องหวาดกลัว สวดภาวนาเถอะครับ เป็นทางเดียวที่เราทำได้ดีที่สุด
แต่สุดท้ายแล้วผู้ที่เชื่อและวางใจในแม่พระจะได้รับชัยชนะ
ถ้าหากพระศาสนจักรในอนาคตยังคงมั่นคงและศรัทธา จงรักถักดีต่อแม่พระอยู่
ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องหวาดกลัว สวดภาวนาเถอะครับ เป็นทางเดียวที่เราทำได้ดีที่สุด
- King Zadin
- โพสต์: 419
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ พ.ค. 13, 2005 3:53 am
- ติดต่อ:
คิดๆไปก็น่ากลัวคนส่วนใหญ่คงคิดไม่ถึงในข้อนี้
-
- โพสต์: 659
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 10, 2005 2:01 pm
- ที่อยู่: I believe in God...
น่ากลัวง่ะ
-
- .
- โพสต์: 944
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 18, 2005 11:16 pm
สรุปได้ว่า. .หากเรามีพระอยู่ในใจ..แล้วการกระทำของเราก็จะออกมาดีเองโดยที่ไม่ต้องพูดออกไปมากนักแต่ใจที่ดีที่มีพระเป็นเจ้าจะงผลให้การกระทำดีทั้งกับเพื่อนมนุษย์. .แล้วสันติก็จะเกิดมิใช่เกิดสันติโดยการรณรงค์. .ใช่ไหมคะ :)
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ใช่ครับ:+:Regina Pacis:+: เขียน: สรุปได้ว่า. .หากเรามีพระอยู่ในใจ..แล้วการกระทำของเราก็จะออกมาดีเองโดยที่ไม่ต้องพูดออกไปมากนักแต่ใจที่ดีที่มีพระเป็นเจ้าจะงผลให้การกระทำดีทั้งกับเพื่อนมนุษย์. .แล้วสันติก็จะเกิดมิใช่เกิดสันติโดยการรณรงค์. .ใช่ไหมคะ :)
มีผู้นำศาสนาบางกลุ่มประกาศตัวว่าเป็นอาดัมที่3บ้าง เป็นพ่อแม่ที่แท้จริงบ้าง เป็นพระผู้ที่จะเสด็จมาครั้งที่สอง ฯลฯ ชอบจัดตั้งองค์กรขึ้นมามากมายโดยมักจะมีชื่อองค์การลงท้ายด้วย "เพื่อสันติภาพโลก" ฟังเป้าหมายก็เหมือนกับจะนำทุกคนให้มาร่วมกันสร้างสันติ แต่ลึกๆก็เพื่อประกาศให้เชื่อในตัวผู้นำนั้นนั่นเอง แล้วก็เข้าไปถึงสหประชาชาติด้วย ผมเคารพสิทธิของเขา แต่แนวคิดบางอย่างมันชวนให้เกิดการยกตัวหรือ ยกชนชาติหนึ่งชนชาติใดกันเกินไป