วันพุธที่ 14 กันยายน 2005 ฉลองเทิดทูนไม้กางเขน(ซางตาครู้ส)

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
St.paul

พุธ ก.ย. 14, 2005 6:45 pm

บทอ่านที่ 1 ฟป 2:6-1 1

แม้ว่าพระองค์ทรงมีธรรมชาติพระเจ้า พระองค์ก็มิได้ทรงถือว่าศักดิ์ศรีเสมอพระเจ้านั้นเป็นสมบัติที่จะต้องหวงแหน แต่ทรงสละพระองค์จนหมดสิ้นทรงรับสภาพดุจทาส เป็นมนุษย์ดุจเรา ทรงแสดงพระองค์ในธรรมชาติมนุษย์ ทรงถ่อมพระองค์จนถึงกับทรงยอมรับแม้ความตาย เป็นความตายบนไม้กางเขน
เพราะเหตุนี้ พระเจ้าจึงทรงเทิดทูนพระองค์ขึ้นสูงส่ง และประทานพระนามให้แก่พระองค์ พระนามนี้ประเสริฐกว่านามอื่นใดทั้งสิ้น เพื่อทุกคนในสวรรค์และบนแผ่นดิน รวมทั้งใต้พื้นพิภพ จะย่อเข่าลงนมัสการพระนาม "เยซู" นี้ และเพื่อชนทุกภาษาจะได้ร้องประกาศว่า พระเยซูคริสต์ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้า เพื่อพระสิริรุ่งโรจน์แด่พระเจ้า พระบิดา

พระวรสาร ยน 3:13-17

เวลานั้น พระเยซูเจ้าตรัสกับนิโคเดมัสว่า "ไม่มีใครเคยขึ้นไปบนสวรรค์ นอกจากผู้ที่ลงมาจากสวรรค์คือบุตรแห่งมนุษย์เท่านั้น โมเสสยกรูปงูขึ้นในถิ่นทุรกันดารฉันใด บุตรแห่งมนุษย์ก็จะต้องถูกยกขึ้นฉันนั้น เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระองค์จะมีชีวิตนิรันดร พระเจ้าทรงรักโลกอย่างมากจึงประทานพระบุตรเพียงพระองค์เดียวของพระองค์ เพื่อทุกคนที่มีความเชื่อในพระบุตรจะไม่พินาศแต่จะมีชีวิตนิรันดรเพราะพระเจ้าทรงส่งพระบุตรมาในโลกนี้ มิใช่เพื่อตัดสินลงโทษโลก แต่เพื่อโลกจะได้รับความรอดพ้นเดชะพระบุตรนั้น"

ข้อคิด

กางเขนเป็นเครื่องหมายและสัญลักษณ์แห่งความรักอันสูงส่งของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์ทุกคน การฉลองเทิดทูนกางเขน จึงหมายถึงความยินดีที่จะน้อมรับกางเขนในชีวิตจริงของแต่ละบุคคล นั่นคือ น้อมรับความทุกข์ ความลำบากทุกรูปแบบที่เข้ามาในชีวิตด้วยจิตตารมณ์แห่งความรัก จนสามารถเปลี่ยนความทุกข์นั้นให้กลายเป็นความรักเหมือนกางเขนของพระเยซู นี่คือความหมายของการฉลองเทิดทูนไม้กางเขนอย่างแท้จริง

วัดซางตาครู้สได้ฉลองไปแล้วเมื่อวันที่11/9/2005ที่ผ่านมาสำหรับคนไม่ได้ไปร่วมฉลองเทิดทูนกางเขนไม่ต้องเสียใจครับปีหน้ามีอีกขอโทษที่ลืมประชาสัมพันครับ
ตอบกลับโพส