+ ทำไม๊..ทำไมต้อง "อวยพระแก่ผู้ที่สาปแช่งท่าน" +

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

เสาร์ พ.ย. 05, 2005 9:08 pm

ผมว่าบางอย่างในพระวาจาบทนี้น่าสนใจ และผมจะลองนำเสนอธรรมล้ำลึกแห่งพระเมตตาของพระเป็นเจ้าที่ซ่อนใว้ใน ลก6;27-35 ในความคิดของผมให้ลองได้อ่านกันนะครับ ;D

รูปภาพ


ให้เรามาทำความเข้าใจกันก่อนถึงหัวข้อกระทู้ว่า "ทำไมถึงต้องภาวนาแก่ผู้ที่สาปแช่งท่าน?" แน่นอนว่าคำสอนนี้เป็นคำสอนของพระเยซูเจ้าที่ทรงสอนเราเพื่อให้เรานำไปปฏิบัติตาม ผมเชื่อว่าหลายๆคนคงได้ยินจนคุ้นหูแล้วสำหรับพระวาจาบทนี้ แต่เอาเข้าจริงๆแล้วมีใครไหมที่ได้ปฏิบัติตาม หรือพยายามที่จะทำ? ผมอยากให้พี่น้องลองนึกดูดีๆเวลามีใครก็ตามมาทำให้เราเจ็บช้ำน้ำใจ เรามักจะนึกในใจเสมอๆว่า "ทำไมเขาถึงทำกับเราอย่างนี้ ไม่นึกเลยว่าเค้าจะเป็นคนแบบนี้"ใช่ไหมครับ นั่นแหละครับที่เป็นสาเหตุของพระวาจาบทนี้เพราะมนุษย์เรานั้นมีส่วนที่ดีและไม่ดีอยู่ในตัวดังนั้นเราก็ไม่ควรจะไปเกลียดชังหรือสาปแช่งใครเพราะการกระทำไม่ดีนองเขาในเมื่อตัวเราเองก็ยังมีส่วนไม่ดีอย่างอื่น(มธ 7:1-5)เพราะทุกคนมีส่วนดีและไม่ดีต่างกัน(1คร 12:12-30) ดังนั้นส่วนที่ไม่ดีนั้นก็เป็นเงามืดในวิญาณเขาและเวลาที่เขาแสดงด้านของเงามืดนั้นออกมาให้กับเราพี่น้อง ตรงนี้ผมก็มองว่าเป็นพระพรของพระเป็นเจ้าอย่างหนึ่งที่พระเป็นเจ้าประทานมาให้เรา การที่คนนั้นได้มาใส่ร้ายเบียดเบียนเราก็เหมือนเป็นคำขอร้องจากพระเป็นเจ้าว่า"นี่แนะพี่น้องของเจ้าทำความผิด เจ้าจะสวดภาวนาเพื่อเขาได้ไหม?" เพื่อให้เราได้มีโอกาสภาวนาเพื่อขออภัยโทษให้พี่น้องของเรา ให้เราเหมาะสมที่จะสวดบทข้าแต่พระบิดาว่า "โปรดประทานอภัยแก่ขาพเจ้า เหมือนขาพเจ้าอภัยแก่ผู้อื่น" มิเช่นนั้นเราก็ไม่ต่างอะไรกับสตอเบอรี่เวลาสวดบทนี้ :) และผมยังมองอีกว่านี่ก็เป็นทางช่วยอีกหนทางหนึ่งสำหรับผู้ที่ตกอยู่ภายใต้บาปที่น่ากลัวที่สุดก็คือบาปจองหอง ผู้ที่จองหองนั้นทะนงตนไม่คิดว่าตนนั้นผิดไม่สำนึกว่าเป็นคนบาปและแน่นอนมันอันตรายมากต่อวิญญาณของเขา ลองนึกนะครับว่าสมมุตมีชายสองคนที่ชอบจับผิดผู้อื่นอยู่เสมอมาเจอกันและแน่นอนเค้าก็จะมัวแต่จับผิดอีกฝ่าย แต่หากเขากระทำตามพระวาจาบทนี้อย่างน้อยเขาก็ได้สวดขออภัยให้แก่กันและกัน และความจริงมีอีกมากมายกว่านี้ที่ผมไม่รู้จะเขียนบรรยายลงมายังไงให้คนอื่นเข้าใจ ก็อยากลองให้พี่น้องลองอ่านทำความเข้าใจ และลองนึกๆตามดูนะครับ ;D


เช่นนี้แล้วผมก็คิดได้ว่า พระวาจาของพระเป็นเจ้า 1 บท จะเชื่อมโยงกับคำสอน บทภาวนา และพระวาจาบทอื่นๆที่รวมอยู่กันเหมือนร่างกาย พระวาจาแต่ละบทก็คืออวัยวะต่างๆมีความแตกต่างกันแต่สำคัญเท่ากัน ร่างกายนี่ก็คือพระคริสต์เจ้า...ก็คือองค์ความรัก
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

เสาร์ พ.ย. 05, 2005 10:01 pm

*thx ครับ
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

อาทิตย์ พ.ย. 06, 2005 6:19 am

คิดง่ายๆ เรา ไม่ก่อศัตรูเพิ่ม คิดลึกๆ เขาเป็นพี่น้อง พระเยซูเจ้า ต้องการให้สิ่งที่ออกมาจากใจ
ซึ่งผ่านปากเรา เป็นคำอวยพร เพราะลูกของพระเจ้า ผู้ที่มีพระเยซูคริสต์ ต้องประจักษ์ด้วยชีวิต

และสิ่งเหล่านี้พระเยซูคริสต์ ได้วางแบบไว้ด้วยชีวิตของพระองค์แล้ว

ดังนั้น คริสตชน คือ ผู้ติดตามพระคริสต์ ก็ต้องเดินตามแบบของพระองค์


จงอวยพรซึ่งกันและกัน ในพระนามของพระเยซูคริสต์ พระมหาไถ่ของเราเทอญ
Junior Boy
โพสต์: 659
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 10, 2005 2:01 pm
ที่อยู่: I believe in God...

อาทิตย์ พ.ย. 06, 2005 9:26 am

*thx *no1
Maria Magdalena
โพสต์: 1946
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มิ.ย. 01, 2005 8:23 pm
ที่อยู่: On this earth obviously

อาทิตย์ พ.ย. 06, 2005 6:29 pm

*thx คับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ พ.ย. 06, 2005 11:17 pm

ประโยคหลังเนี่ย...ทำใจยากอยู่นะ

"ถ้าท่านให้ใครยืมก็อย่าหวังจะได้คืน"

ตอนนี้พี่ก็พยายามทำใจอยู่ T-T
Maria Magdalena
โพสต์: 1946
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มิ.ย. 01, 2005 8:23 pm
ที่อยู่: On this earth obviously

จันทร์ พ.ย. 07, 2005 6:21 pm

5555555+
พี่จิง แอบเสียดายเหรอ อิๆ
St.paul

จันทร์ พ.ย. 07, 2005 8:09 pm

เพื่อให้อภัยอย่างสมบูรณ์
ตอบกลับโพส