ถ้าคริสตชนได้แต่งงานกับคนศาสนาอื่นจะรู้สึกอย่างไร
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
เอ...งงอ่ะครับ ไม่เข้าใจ ???S.PAULVS เขียน: ตามที่บอก
ตามหัวกระทู้ไงครับ ;DBatholomew เขียน:เอ...งงอ่ะครับ ไม่เข้าใจ ???S.PAULVS เขียน: ตามที่บอก
ผมว่า เราต้อง แยกแยะเรื่องความรักกับศาสนาให้ออกนะครับ
1.ถ้าเรา แต่งงาน เพราะรักเค้าจริงๆ
และ เข้าใจกัน จนเรายังเป็นคริสตังที่ดี
หรือ พาเขา มาเป็น คริสตัง ด้วยได้
ก็ สมควรยิ่ง
2. แต่ถ้า คุณแต่งงาน เพราะหมกมุ่น
แล้ว ละทิ้งพระเจ้าไป เช่นนั้นก้ไม่สมควรเช่นกัน
เป็น กรณีตามแต่ละบุคคลไป ::)
รู้สึกอยากให้เค้ายอมรับในความเป็นคริสตังของเรา และยอมเข้าพิธิรับศีลสมรสด้วย(...อยากให้เป็นอย่างนั้นมากๆๆๆเลย...) จะได้รับศีลมหาสนิทเหมือนเดิม... ;D
แก้ไขล่าสุดโดย Ken เมื่อ เสาร์ พ.ย. 26, 2005 12:14 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 659
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 10, 2005 2:01 pm
- ที่อยู่: I believe in God...
ถ้าเรารักเขาจริงๆ และ เขายอมรับก็ดีนาครับ
Ken เขียน: รู้สึกอยากให้เค้ายอมรับในความเป็นคริสตังของเรา และยอมเข้าพิธิรับศีลสมรสด้วย(...อยากให้เป็นอย่างนั้นมากๆๆๆเลย...) จะได้รับศีลมหาสนิทเหมือนเดิม... ;D
อันนี้สำคัญมากๆเลย เพราะว่าชีวิตคู่นั้น ต่างคนต่างต้องยอมรับในตัวตน(ที่แท้จริง)ของกันและกัน ปรับตัวและปรับเปลี่ยนเข้าหากัน และที่สำคัญคือยอมรับความเป็นคริสตังของเราได้ และยอมรับศีลสมรส(อันเป็นศีลศักดิ์สิทธิ์ในเจ็ดศีลของพระศาสนจักร) รวมทั้งคู่สมรสมิให้ทำให้เราต้องเสียความเชื่อในพระเป็นเจ้าและพระศาสนจักร เพราะชีวิตคริสตัง คือชีวิตพระ ทั้งแนวคิด จิตวิญญาณ และการดำเนินชีวิต
แต่หากเป็นไปได้ หาคริสตังด้วยกันดีกว่า เพราะชีวิตคู่นั้น เหมือนลิ้นกับฟัน หากทั้งสองเป็นคริสตัง ซึ่งแน่นอนถูกหล่อหลอมจากคำสอนพระศาสนจักรและพระวรสาร ความแตกต่างทางความคิดและการตัดสินใจจะน้อยลงมาก รวมทั้งเมื่อเกิดปัญหาในการอยู่ร่วมกัน ยังสามารถแก้ปัญหาโดยอาศัยแนวทางของพระเยชูได้ อีกอย่าง คนต่างศาสนา จะไม่ค่อยเคารพในศีลสมรส(อันเป็นหนึ่งในเจ็ดศีลศักดิ์สิทธ์ของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก)ว่าหย่าร้างมิได้ และเป็นศีลที่ต่อท่อพระหรรษทานศักดิ์สิทธิกร สำหรับชีวิตคริสตังในการดำเนินชีวิตคู่ และอีกประการหนึ่ง ในสังคมไทย การแต่งงานมิได้เกี่ยวข้องแค่คู่สมรสอย่างเดียว ยังต้องเกี่ยวข้องกับญาติพี่น้องของคู่สมรสด้วย หากสังคมของคู่สมรส มีผลทำให้เราเสียความเชื่อ และก่อให้เกิดปัญหาร้อยแปด คงต้องสวดของพระอย่างหนักครับ
สำหรับผมไม่คิดเรื่องนี้อยู่แล้ว คิด(และภาวนา)อยู่อย่างเดียว ขอพระเข้าบ้านเณร(ในคณะที่เหมาะสมกับตนเอง)สักที หากพระตอบคำภาวนานะครับ ทุกข์และทรมานสุดแสนไม่เคยท้อแท้ แต่การขาดจากพระหรรษทานจากพระ(ทั้งจากศีลศักดิ์สิทธิ์โดยพระศาสนจักร และการคำภาวนา)คือความทรมานที่ตายทั้งเป็นจริงๆ อดตายไม่กลัว กลัวอดใกล้พระเป็นเจ้า อัลเลลูยา สรรเสริญพระเจ้า
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
ปล.คณะนักบวชที่คุณพ่อสมเกียร์ติเข้า(ตอนอายุเกือบสี่สิบ)นั้น คณะอะไรครับ เสียดายตัวไม่อยู่เมืองไทย ไม่งั้นคงได้ไปคุยกับพ่อแล้ว
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ไม่ทราบว่า เจ้าของกระทู้ โยนหินถามทางหรือเปล่า อะ นะ จะตอบ ฮะ
พูดตรงๆ นะ เจี๊ยบอยากให้ คริสตชนทุกคนเป็นท่อพระพรของพระเจ้า
นำความรอดของพระเยซูเจ้า ไป ถึง คนที่ยังหาพระบิดาไม่เจอ
ดังนั้น การสมรส ของคริสตชนแต่ละคน น่าจะเป็นท่อพระพรไปถึงคู่สมรส
ญาติพี่น้อง ของคู่สมรส และบุตร ธิดา ที่จะตามมาในภายหลัง ฮะ
พูดตรงๆ นะ เจี๊ยบอยากให้ คริสตชนทุกคนเป็นท่อพระพรของพระเจ้า
นำความรอดของพระเยซูเจ้า ไป ถึง คนที่ยังหาพระบิดาไม่เจอ
ดังนั้น การสมรส ของคริสตชนแต่ละคน น่าจะเป็นท่อพระพรไปถึงคู่สมรส
ญาติพี่น้อง ของคู่สมรส และบุตร ธิดา ที่จะตามมาในภายหลัง ฮะ