25 ธันวาคม ของทุกปี คนทั้งโลกร่วมเฉลิมฉลอง อย่างสุดๆแบบไม่ตะขิดตะขวงใจ ร้านรวง พับ บาร์ ประดับประดาสถานที่ อย่างตื่นตาตื่นใจ เพื่อดึงดูดลูกค้า ภาพที่เราพบเห็น เช่น ต้นคริสต์มาส กวางเรนเดียร์ ลุงซานตาคลอส พุงพลุ้ย เสียงเพลง Jingle Bell, Joy to the World เป็นต้น ที่กล่าวมา คือ เรื่องราวของ วันคริสต์มาส หรือเทศกาลคริสตสมภพ แล้วคริสต์มาสแรก เป็นอย่างไร ความหมายแท้จริง คนที่ร่วมเฉลิมฉลอง หรือกลุ่มคนที่ใช้ประโยชน์เพื่อธุรกิจของตัวเองจะทราบบ้างไหม
จุดเริ่มต้นของคริสต์มาส
เริ่มต้นที่ประเทศอิสราเอล ในทวีปเอเชีย ขณะนั้นอิสราเอล เป็นเมืองขึ้นของ อาณาจักรโรมัน มีออกัสตัส ซีซาร์ เป็นจักรพรรดิ แทบไม่น่าเชื่อว่า จักรพรรดิของอาณาจักรโรมัน ที่เคยเบียดเบียน คริสตชน ได้ละทิ้งความเชื่อ เทพเจ้า ได้มาติดตามพระเยซูคริสต์ โดยจักรพรรดิ คอนสแตนติน ทรง ประกาศพระราชกฤษฏีกา มิลาน ( ค.ศ. ๓๑๓ ) ให้อาณาจักรโรมัน มีเสรีภาพในการนับถือศาสนา และยอมรับคริสตศาสนา เป็นศาสนาประจำอาณาจักรโรมัน ยิ่งกว่านั้น พระมารดา เฮเลนน่า (นักบุญ เฮเลนน่า ) ทรงมีบทบาทสำคัญในการรื้อฟื้น สถานที่สำคัญเกี่ยวข้องกับชีวิต และพระราชกิจของพระเยซูที่ ประเทศอิสราเอล หลังจาก ถูกโรมันทำลาย

ความเชื่อพระเจ้าตรีเอกภาพ และโดยพระเยซูคริสต์ คือ พระผู้ไถ่ ได้ถูกเผยแพร่ในอาณาจักรโรมัน มานานแล้ว ซึ่ง อัครทูต เปาโล และเปรโต เป็น สาวกคนสำคัญที่ได้เผยแผ่ข่าวดี เกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ ไปถึง กรุงโรม และพวกเขา ถูกลงโทษ ประหาร เพราะการประกาศพระนามของพระเยซูคริสต์ ถึงเวลานี้สถิติ ปี ค.ศ. 2000 มีคริสตชนทุก นิกาย ทุกคณะ และ ทุกสังกัด ทั้งสิ้น 33% ของประชากรโลก คือ ประมาณ 2.1 พันล้าน คน
เรื่องการเฉลิมฉลองคริสตสมภพ (วันเกิดของพระเยซู ) นั้นสำคัญต่อคริสตชน เพราะว่า พวกเราเชื่อว่า เป็นวันที่พระสัญญาของพระเจ้าสำเร็จ ตามคำทำนาย “... เราจะให้บุตรชายคนหนึ่งของเจ้าเกิดขึ้นสืบต่อจากเจ้าผู้ซึ่งเกิดมาจากตัวเจ้าเองและเราจะสถาปนาอาณาจักรของเขาเขาจะเป็นผู้สร้างนิเวศเพื่อนามของเราและเราจะสถาปนาบัลลังก์แห่งราชอาณาจักรของเขาให้อยู่เป็นนิตย์เราจะเป็นบิดาของเขา และเขาจะเป็นบุตรของเรา ถ้าเขากระทำผิดเราจะตีสอนเขาด้วยไม้เรียวของมนุษย์ ด้วยการเฆี่ยนแห่งบุตรมนุษย์ทั้งหลาย” ( ๒ ซามูเอล ๗.๑๒-๑๔ ) และ “เพราะฉะนั้น องค์พระผู้เป็นเจ้าจะประทานหมายสำคัญเอง ดูเถิดหญิงสาว คนหนึ่งจะตั้งครรภ์ และคลอดบุตรชายคนหนึ่ง และเขาจะเรียกนามของท่านว่า อิมมานูเอล {แปลว่า พระเจ้าสถิตกับเราทั้งหลาย}” ( อิสยาห์ ๗.๑๔ )

การเฉลิมฉลองคริสตมาสจากอดีตถึงปัจจุบันมีหลายสิ่งที่เพิ่มเติมขึ้น เช่น
-การร้องเพลงคริสต์มาส (Christmas Carols)
-การทำฉากประสูติ (Nativity)
-และการทำต้นคริสต์มาส (Christmas tree) เป็นต้น

เมื่อมีการแยกออก เป็นนิกาย ออเทอร์ดอกซ์ โรมันคาทอลิก โปรเตสแตนต์ และนิกายอิสระ จึงมีมุมมองต่อประเพณีปฏิบัติและพิธีกรรม รวมทั้งหลักข้อเชื่อหลายอย่างที่แตกต่างกัน คริสตชนโปรเตสแตนต์ มีหลากหลายคณะ ดังนั้นบางกลุ่มไม่สนับสนุนให้มีการฉลองคริสตมาส เพราะถือว่าเป็นประเพณีที่คริสตจักรไปรับมาจากคนต่างความเชื่อ อย่างไรก็ตามคริสตชนส่วนใหญ่ยังคงเฉลิมฉลองเทศกาลนี้อย่างอบอุ่น
ปัจจุบันนี้การฉลองคริสต์มาส เลอะเทอะที่สุด กลุ่มคนต่างความเชื่อ ก็ถือโอกาส นำเทศกาลคริสต์มาสเพื่อผลประโยชน์ของตน หลากรูปแบบ คริสตสมภพของพระเยซูคริสต์ กลายเป็นความบันเทิง ธุรกิจ และผลประโยชน์มากขึ้น แม้แต่คนที่ไม่เชื่อพระเจ้า หรือต่อต้านพระเยซูคริสต์ ก็ได้รับประโยชน์จากคริสตมาส คือจัดเฉลิมฉลองคริสตมาส เพื่อความรื่นเริงบันเทิงใจ มีการให้ของขวัญ การส่งการ์ดอวยพรและการเฉลิมฉลองด้วยการกินดื่ม และการขายสินค้าต่างๆ
จนทำให้คริสต์มาสเกือบเหลือแต่เพียงชื่อ แถมยังถูกสอดไส้ใหม่ ๆ อย่างเช่น ซานตาคลอส และจินตนิยายต่างๆ ที่ไม่เกี่ยวอะไกับวันคริสตมาสเลยแม้แต่น้อยนิด คริสตมาสเริ่มเหลือแต่เปลือก บางคน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า วันคริสต์มาสนั้นคือ วันเกิดของพระเยซูคริสต์เจ้า ผู้ทรงเสด็จมาบังเกิดเพื่อรับแบกโทษตายแทนมนุษย์...เขาเพียงแต่ใช้เทศกาลคริสตมาสเพื่อเพิ่มความสนุกสนานอีกวันหนึ่ง...ด้านธุรกิจก็เพื่อกอบโกยเงินเข้ากระเป๋าเท่านั้น
หมายเหตุ คริสตสมภพใกล้เข้ามาอีกปี พี่พีพี ไม่ได้เรียบเรียงใหม่ เพราะเนื้อหาที่ค้นคว้ามายังใช้ได้ดีทีเดียวค่ะ
ขอพระเจ้าทรงอวยพรทุกๆท่านค่ะ ......โปรดปราน ( 2 ธันวาคม 2007 )