วันนี้ตอนดึกๆอากาศดี ผมก็เลยหิ้ววิทยุไปที่สวนหลังบ้านแล้วก็นึกห้าวพายเรือข้ามคลองไปฝั่งสนามกอล์ฟ(บ้านผมติดกับสนามกอล์ฟมีคลองกั้นกลาง) แล้วก็นอนบนพื้นหญ้ามองดูดาว ต้อขออวดว่าที่บ้านผมนี้ดาวเยอะมากๆครับเพราะอยู่รังสิตซึ่งเป็นชาญเมือง หรือเรียกง่ายๆว่าบ้านนอกนั่นเอง 555+ ว่าแล้วก็เปิดฟังเพลงคลาสสิคฟังไปดูดาวไป ผมมีความสุขมากเลยผมจินตนาการเห็นว่าพระองค์ทรงกำลังมองผมอยู่บนท้องฟ้า แล้วผมก็จินตนาการต่อไปว่าพระองค์กำลังนอนอยู่ข้างๆผมฟังเพลงสบายๆเพราะๆพร้อมกัน ผมได้สนทนากับพระองค์ถึงความฝันของผมว่าผมอยากทำอะไรในชีวิตนี้บ้าง ผมพรรณนาถึงความชั่วร้ายของผมว่าพระองค์ทำดีกับผมเสมอแต่ผมก็ยังทำไม่ดีกับคนอื่นจนผมมีความรู้สึกว่าเหมือนพระองค์จะตอบว่า"หรอ?..ไม่ยักกะจำได้แฮะ สงสัยเราลืมไปหมดแล้ว! " ผมมีความสุขมากและร้องให้ออกมาเพราะอยากให้พระองค์มาอยู่ข้างๆผมตรงนั้นจริงๆ(แบบสัมผัสได้ มองไปก็เห็น) ผมรู้ว่าวันนึงบนสวรรค์ต้องเป็นอย่างนี้แน่ ผมรอไม่ไหวผมอยากจะตายตรงนั้นและไปอยุ่กับพระองค์เดี๋ยวนั้นเลยจริงๆ เป็นความทุกข์ที่มีชีวิตอยู่(??)
ผมรู้สึกมานานว่าชีวิตเป็นอะไรที่เรียบง่ายมากๆ พระเป็นเจ้าเป็นอะไรที่เรียบง่ายมากๆ วันนี้พระองค์ทรงยืนยันว่าสิ่งที่ผมคิดและเข้าใจนั้นเป็นจริง ชีวิตเราไม่มีอะไรนอกจากความรัก หากไม่มีรักเราก็ไม่มีชีวิต พระองค์สถิตย์กับเราเสมอ และความรักของพระองค์เติมเต็มเราตลอดเวลา จงจำใว้เสมอ "พระเจ้าสถิตย์กับเราตลอดเวลา"
+ วันนี้ผมนั่งฟังเพลงคลาสสิคแล้วร้องให้ครับ +
รม 4:6
พระองค์ทรงเรียกบางคนว่าเป็นผู้มีความสุข ถ้าพระเจ้าประทานความชอบธรรมให้ผู้นั้นโดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่เขาได้กระทำ โดยตรัสว่า
เป็นความสุขของผู้ที่ได้รับการอภัยความผิด
ผู้ซึ่งบาปของเขาถูกลบล้าง
เป็นความสุขของผู้ที่พระเจ้าไม่ทรงถือโทษ
พระองค์ทรงเรียกบางคนว่าเป็นผู้มีความสุข ถ้าพระเจ้าประทานความชอบธรรมให้ผู้นั้นโดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่เขาได้กระทำ โดยตรัสว่า
เป็นความสุขของผู้ที่ได้รับการอภัยความผิด
ผู้ซึ่งบาปของเขาถูกลบล้าง
เป็นความสุขของผู้ที่พระเจ้าไม่ทรงถือโทษ