คำถาม : ยังไม่เคยเห็นใครในพระคัมภีร์ที่บอกว่าเป็นคนบาป เพราะการมีอารมณ์ทางเพศ และที่พระเยซูตรัสว่า "ผู้ใดมองผู้หญิง เพื่อให้เกิดใจกำหนัดในหญิงนั้น ผู้นั้น ได้ล่วงประเวณีในใจ กับหญิงนั้นแล้ว" หมายความว่าอย่างไร?
พระคัมภีร์ไม่ได้ชี้ชัดเกี่ยวกับเรื่องการสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง และก็ไม่เคยกล่าวไว้ด้วยว่า อนุญาตให้ทำได้ คำถามนี้ เกือบจะเป็นหนึ่งใน "ข้อต้องห้าม" ที่คนมักจะไม่คุยกัน แต่ ถ้าเป็นความบาปแล้ว ก็เป็นเรื่องสำคัญที่เราต้องรู้ ผมพยายาม จัดการหัวข้อนี้ อย่างรอบคอบ โดยส่วนตัวแล้ว ผมไม่เชื่อว่า พระเจ้ายินยอม ให้ในเรื่องนี้ (ไม่เลยซักกรณีเดียว) เราควร พยายามออกห่าง จากการตอบสนองฝ่ายเนื้อหนังซักครู่หนึ่ง เพื่อแสวงหา มุมมองของพระเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้าเราเข้าใจ ประเด็นนี้ไม่ได้ จะด้วยความที่โตแล้ว หรือเรื่องการแสวงหา น้ำพระทัยพระเจ้าก็ตามที ก็เป็นไปไม่ได้ ที่จะพบน้ำพระทัย ของพระองค์ และเราควรหยุด สิ่งที่เป็นบาป ในสายพระเนตรพระองค์ไว้ก่อน คุณอาจจะประหลาดใจในข้อสรุปของผม (ผมก็มั่นใจอย่างนั้นนะ!) และคุณก็อาจ จะไม่เห็นด้วยกับผม แต่ว่ามันสำคัญมาก ที่เราจะไม่ให้ความรู้สึกส่วนตัว มีอำนาจ เหนือความเชื่อในเรื่องนี้
ทุกคนมีความสองจิตสองใจ ผมสมมุติว่ามันเป็นบาปอย่างนึง ผมจะวิเคราะห์ตาม "สิ่งต้องห้าม" เป็นหลักว่า คริสเตียน หลายคน มีการสำเร็จความใคร่ มากกว่าการศึกษาพระคัมภีร์ ด้วยตัวเอง แทนที่เราจะต่อต้านด้วยอคติ ผมอยากให้เราดู มุมมองของพระเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้
บางคนบอกว่า โอนาน (Onan) ทำแบบนี้ในพันธสัญญาเดิม (ที่บางครั้งเราเรียกกันว่า Onanism) และพวกเขาก็พูดว่า พระเจ้าประหารโอนาน เพราะพฤติกรรมที่ชั่วร้ายของเขา บางครั้งก็ใช้ข้อนี้มาโต้แย้ง แต่ เป็นความเข้าใจผิด เกี่ยวกับ สถานการณนี้ ให้สังเกตว่าพระคัมภีร์พูดเกี่ยวกับโอนานยังไง
ปฐมกาล 38:6-10 "ยูดาห์ก็ได้หาหญิงคนหนึ่งชื่อทามาร์ให้เป็นภรรยาเอร์ บุตรหัวปีของตน เอร์บุตรหัวปีของยูดาห์ เป็นคนชั่ว ในสายพระเนตร ของพระเจ้า พระเจ้าจึงทรง ประหารเขาเสีย ยูดาห์จึงบอกโอนันว่า เข้าไปหาภรรยาพี่ชาย ของเจ้าเถิด และทำหน้าที่ของน้องผัว เพื่อจะได้สืบพันธุ์ พี่ชายไว้ โอนันรู้ว่าพันธุ์ จะไม่ได้นับเป็นของตน เมื่อเขาเข้าไปหา ภรรยาของพี่ชาย จึงทำให้น้ำกาม ตกดินเสีย ด้วยเกรงว่า จะสืบพันธุ์ให้แก่พี่ชาย ในพระเนตรพระเจ้า สิ่งที่โอนัน ได้กระทำนั้น ผิด พระองค์จึงทรง ประหารชีวิตเขาเสีย"
โอนานมีหน้าที่ คือ ต้องแต่งงาน (หรือนอนกับ) ภรรยาของพี่ชายที่เสียไปแล้ว และทำหน้าที่ สืบเชื้อสายของพี่ชาย ต่อไป ให้สังเกตุว่า โอนานไม่ได้สำเร็จความใคร่ แต่เขานอนกับภรรยาพี่ชาย ด้วยหน้าที่ แต่ว่าความเล วและหัวใจ หยาบกร้านของเขา เขาได้ไตร่ตรองไว้ก่อนว่า ไม่ต้องการสืบพันธุ์ให้คนอื่น หมายความว่า พี่ชายไม่มีบุตรสืบทอด นี่เป็นความบาปที่พระเจ้าประหารโอนาน ไม่เกี่ยวกับเรื่องสำเร็จความใคร่ นี่เป็นสิ่งที่พระคัมภีร์ ได้อธิบายไว้ข้างบน... ตามกฎของเลวี (Levirate - เป็นธรรมเนียมที่ผู้ชาย ต้องแต่งงานกับ ภรรยาพี่น้องที่ตายไป) กฎการแต่งงาน บุตรคนที่สอง โอนาน แต่งงานกับ ทามาร์ แม่หม้ายของพี่ชาย โอนานได้ใช้ความพอใจทางเพศ เอาเปรียบคนอื่น พระเจ้าจึงประหารเสีย
โมเสสใช้คำไม่ธรรมดาสำหรับการแต่งงาน แต่ว่าเป็นการแต่งงานที่แปลกพิเศษ ไม่เคยมีมาก่อน ตามกฎในเวลานั้น "ถ้าพี่น้องอยู่ด้วยกัน และคนหนึ่งตายเสีย หามีบุตรชายไม่ ภรรยาของผู้ที่ตายนั้น จะออกไปเป็นภรรยา ของคนนอกไม่ได้ ให้พี่น้องของสามีนาง เข้าไปหานาง และรับหญิงนั้นมาเป็นภรรยา และทำหน้าที่ ของสามี แก่นาง" [เฉลยธรรมบัญญัติ 25:5] ให้สังเกตุว่า โอนาน รู้ ว่า เด็กที่เกิดจากการแต่งงานนี้ จะไม่ใช่เชื้อสายของเขาเอง นี่เป็นกฎสมัยก่อน และโอนานได้ทำหน้าที่นี้บกพร่อง
ข้อถกเถียงของคริสเตียนเกี่ยวกับการสำเร็จความใคร่นั้น อาจเกี่ยวข้องกับ ภาพลามก (Pornography) และการจินตนาการที่เป็นบาป ซึ่งอาจลดความต้องการเรื่องคู่ครอง คล้ายๆ กับยาเสพติด อย่างไรก็ตาม ข้อถกเถียงเหล่านี้ ไม่ได้พิสูจน์ว่านี่คือบาป เมื่อการสำเร็จความใคร่จบลง และไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น การขับรถอาจเกี่ยวข้องกับ ความเร็วเกินกำหนด หรือฝ่าไฟแดง ซึ่งผิดทั้งสองอย่าง แต่ไม่ได้หมายความว่าการขับรถผิด ด้วยตัวเอง ในทำนองเดียวกัน การสำเร็จความใค่ สามารถ เกี่ยวพันกับสิ่งที่ผิด อย่างแน่นอน แต่ไม่ได้หมายความว่า การทำอย่างนี้ผิดจริง การสำเร็จความใคร่เสร็จ โดยไม่มีอะไรเกิดขึ้นตามข้างบน ข้อโต้แย้งต่างๆ ก็จะพิสูจน์ เรื่องนี้ไม่ได้ ว่าเป็นบาป
ซาตานต้องการให้คน อยู่ในตัณหาและ ติดอยู่ในเรื่องเซ็กส์ ด้วยภาพเปลือย การกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ ยา, สุรา และอื่นๆ เพื่อทำให้คุณเป็นอิสระในการเสพติดนั้น นี่เป็นขั้นตอนที่มีอำนาจ สำหรับการประกาศ ให้ซาตาน เข้ามาควบคุมชีวิตเราไว้ และเกิดสิ่งเลวร้ายในชีวิต (หรือเกิดสิ่งผิดพลาดในชีวิตของเรา) เป็นการเปิดประตูให้ซาตาน เข้ามาโจมตี มันเหมือนศัตรูของเราที่มี "สิทธิทางกฎหมาย" เพื่อจะนำความเจ็บปวดให้กับเรา และเป็นเหตุผลที่พระเจ้า ให้เราอยู่ใน "ภาวะที่ต้องรอคอย" มากกว่าจะให้ซาตานมามีสิทธิ เหนือความทุกข์และถูกผูกมัดด้วยความสับสน ตัวอย่างเช่น ตัวเลขของคนที่แต่งงานแล้ว ก็เกี่ยวข้องกับ การบำบัด เพราะว่าพวกเขาเสพติดเซกส์ แต่ไม่ได้หมายความว่าเซกส์สำหรับคู่แต่งงานเป็นบาป บางครั้งเราบอกว่า ถ้าคนใช้จินตนาการ ระหว่างการสำเร็จความใคร่ ได้ละเมิดคำสอนของพระเยซู ที่มองผู้หญิงด้วยใจกำหนัด
มัทธิว 5:27-28 "ท่านทั้งหลายได้ยินคำซึ่งกล่าวไว้ว่า อย่าล่วงประเวณีผัวเมียเขา ฝ่ายเราบอกท่าน ทั้งหลายว่า ผู้ใดมองผู้หญิง เพื่อให้เกิดใจกำหนัด ในหญิงนั้น ผู้นั้นได้ล่วงประเวณีในใจกับหญิงนั้นแล้ว"
ไม่ว่าเราจะเชื่อว่าการใช้จินตการในเรื่องทางเพศ เป็นเรื่องผิดหรือถูกก็ตาม ทำให้ประโยค ที่ครอบคลุมเรื่องการจินตนาการว่าตรงข้ามกับข้อความข้างบน อีกแง่หนึ่ง พระเยซูบอกว่า เราไม่ควรอนุญาตให้ ภาพเกี่ยวกับเซกส์อยู่ในใจเลยหรือเปล่า?
มัทธิว 15:18-19 "แต่สิ่งที่ออกจากปาก ก็ออกมาจากใจ สิ่งนั้นแหละ ทำให้มนุษย์ เป็นมลทิน ความคิดชั่วร้าย การฆ่าคน การผิดผัวผิดเมีย การล่วงประเวณี การลักขโมย การเป็นพยานเท็จ การใส่ร้าย ก็ออกมาจากใจ"
ในมัทธิว พระเยซูอธิบายว่า ความบาปออกมาจากภายใน มันไม่ได้แสดงถึงความบาปง่ายๆ (เช่น การล่วงประเวณี) ซึ่งจริงๆ มันผิด แต่เจตนาของบาปคือสิ่งที่ผิดด้วย สิ่งที่พระคัมภีร์กล่าวไว้ชัดเจนคือ การล่วงประเวณี เริ่มจากภายในใจ ของเรา และออกมาเป็นการกระทำ ความต้องการของตัณหา ในใจเรา คือสิ่งที่ผิดด้วยการกระทำ บอกให้รู้ว่า สิ่งนี้ ไม่ได้ สัมพันธ์กับพระเจ้า พระเยซูสอนหลักการเชิงวิญญาณว่า ความบาป เริ่มจากใจ และเจตนาที่จะทำบาป คือสิ่งไม่ดีด้วย การกระทำบาป ในมัทธิวบทที่ 5 ไม่ได้บอกว่าการจินตนาการด้วยเรื่องเพศ ที่เป็นสิ่งผิด เป็นบาปเสมอไป เพราะว่าไม่ใช่ ประเด็นที่พระเยซูชี้ แน่นอนว่าการจินตนาการ มักจะมาจากภาพเปลือย ซึ่งเรากำลังมองที่จิตใจของเรา เป็นสิ่งไม่ดี เมื่อเราดู รูป หรือ วิดีโอ โป๊ อย่างไรก็ตาม ให้พิจารณา เรื่องที่สามี ต้องห่างจากภรรยา เพราะต้องเดินทางด้วยเรื่องธุรกิจ ถ้าเขาทำอะไรกับภรรยาเมื่อเขากลับมา ก็เป็นเรื่องดีแน่นอน จินตนาการแบบนี้บาปหรืไม่? เขาสร้างความต้องการ ให้กับภรรยา เพื่อจะได้อยู่ด้วยกันอีก ช่วยให้ เพิ่มความสัมพันธ์ ให้ชีวิตคู่ ประเด็นคือ การจินตนาการทางเพศ อาจไม่ใช่บาปเสมอไป (เราควรฟังคำแนะนำจากพระวิญญาณด้วย) มัทธิวบทที่ 5 ไม่ได้พิสูจน์เรื่องนี้ว่าเป็นบาปเสมอ
บางคนอาจถามคนอื่นว่า "จิตสำนึกได้บอกหรือไม่?" เราจำเป็นต้องฟัง จิตสำนึกของเรา เพราะว่าเป็นวิธีที่ พระเจ้า จะแนะนำเรา แต่ให้ดูว่า คนเรามีประสบการณ์ เกี่ยวกับความรู้สึกผิด เมื่อพวกเขาสำเร็จความใคร่ได้ง่ายมาก เพราะว่า นี่คือ "สิ่งต้องห้าม" เหมือนกับ บาปที่ร้ายแรง ในชีวิตคริสเตียน แม้ว่าการกระทำเช่นนี้จะเสร็จโดยไม่บาป หลายคนจะมี ประสบการณ์ที่รู้สึกผิด และไม่ต้องการที่จะทำอีก เพราะว่าคริสเตียนทั่วไปมองว่า การสำเร็จความใคร่ คือ "เรื่องสกปรก" และเป็นบาป เราจึงต้องฟังจิตใต้สำนึก แต่เราก็ต้องแน่ใจจริงๆ ว่าได้ยินจากพระวิญญาณ มากกว่า การตีความรู้สึก ที่ผิดพลาด จากเนื้อหนังที่ตัดสินแทนพระเจ้า
1 โครินธ์ 7:3-5 "สามีพึงประพฤติต่อภรรยาตามควร และภรรยาก็พึงประพฤติต่อสามี ตามควรเช่นเดียวกัน ภรรยาไม่มีอำนาจ เหนือร่างกายของตน แต่สามี มีอำนาจ เหนือร่างกายของภรรยา ทำนองเดียวกัน สามีไม่มี อำนาจ เหนือร่างกายของตน แต่ภรรยา มีอำนาจเหนือร่างกายของสามี อย่าปฏิเสธ การอยู่ร่วมกัน เว้นแต่ได้ ตกลงกัน เป็นการชั่วคราว เพื่ออุทิศตัวในการอธิษฐาน แล้วจึงค่อยมาอยู่ร่วมกันอีก เพื่อมิให้ ซาตานชักจูง ให้ทำผิด เพราะตัวอดไม่ได้"
ผมได้รับอีเมลล์จากหลายคนที่เห็นด้วยกับผม แต่บางคนก็บอกว่า คนอาจคิดว่าเรื่องนี้ ทำได้ภายใต้กาลเทศะ แต่ว่าการอนุมัติว่าเรื่องนี้ พระเจ้าเป็นผู้อนุญาตหรือไม่ เราจำเป็นต้องฟังคำชี้แนะ โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในการปฏิบัต ทัศนคติ คำสอน คำพูด ของเรา และอื่นๆ ให้เราพิจารณาว่าถ้าสิ่งนี้ สมเหตุผล เราสามารถใช้ข้อโต้แย้ง เกี่ยวกับ พระคุณ พระเจ้าได้ แต่ให้สังเกตุสิ่งที่เปาโลพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้
โรม 5:20; 6:2 "เมื่อมีธรรมบัญญัติ ก็ทำให้มีการละเมิดธรรมบัญญัติ ปรากฏมากขึ้น แต่ที่ใดมีบาป ปรากฏมากขึ้น ที่นั้นพระคุณก็จะไพบูลย์ยิ่งขึ้น ..... อย่าให้เป็นอย่างนั้นเลย พวกเราที่ตายต่อบาปแล้ว จะมีชีวิตในบาป ต่อไป อย่างไรได้"
เปาโลเขียนเกี่ยวกับพระคุณพระเจ้า เขาตระหนักว่าบางคนพูดว่า "ดีสิ ทำบาปให้มากๆ เพราะพระคุณพระเจ้า" สิ่งที่เปาโล ตอบกลับคือ การสอนเรื่องพระคุณพระเจ้า ไม่ใช่สิ่งที่อนุญาตให้คนทำผิด เรายังรับผิดชอบต่อพระเจ้า ด้วยการกระทำ ในทางเดียวกัน ก็อย่าตัดสินว่า เรื่องการสำเร็จความใคร่ เป็นเรื่องถูกต้อง หรือเป็นเรื่องที่พระเจ้า ให้เราทำ ... สรุปแล้ว การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง เป็นบาปหรือไม่? พระคัมภีร์ไม่ได้บอกไว้ ตรงๆ ก็ไม่สามารถตอบได้ตรงๆ แต่ถ้าการ กระทำนี้ เป็นบาปร้ายแรง สำหรับคริสเตียนแล้ว พระคัมภีร์ก็ไม่ได้กล่าว แม้กระทั่งจะเตือนเรา
ที่มา : David Emrson Root
แปล(กระโดด)และเรียบเรียง โดย ZiGaNiC
http://www.layhands.com/IsMasturbationASin.htm
การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง เป็นบาปหรือไม่?
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
เฮีย เจ้าของกระทู้ได้ มีโอกาส ดู กระทู้ ที่เจ๊ฟีมคนสวย นำมาโพสต์ หรือเปล่า
หนูคิดว่า น่าพอจะเป็นแนวทางให้ คุณๆที่มีปัญหาได้นะฮะ
http://www.newmana.com/yabb/http://newm ... eadid=2870
กรณีของโอนัน การที่พระเจ้าทรงลงโทษประหารเขานั้นนะ นักเทวศาสตร์ คริสเตียนส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า เขาปฏิเสธ ที่จะสืบพงศ์พันธ์ให้พี่ชาย ดูในปฐมกาล บทที่ ๓๘/๙-๑๐
"โอนันรู้ว่าพันธุ์จะไม่ได้นับเป็นของตน เมื่อเขาเข้าหาภรรยาของพี่ชาย จึงทำให้น้ำกามตกดินเสียด้วยเกรงว่าจะสืบพันธุ์ให้แก่พี่ชาย" เพราะโอนันทำเช่นนั้น "ในสายพระเนตรของพระเจ้าสิ่งที่โอนันได้กระทำนั้นผิด พระองค์จึงทรงประหารชีวิตเขาเสีย"
ตัวอย่างนี้ นักเทวศาสตร์คริสเตียน มองที่ โอนัน คุมกำเนิดแบบแบบหนึ่ง ( การหลั่งอสุจิภายนอก )ไม่ได้มอง ในแง่ ของ มาสเตอร์เบชั่น
หนูคิดว่า น่าพอจะเป็นแนวทางให้ คุณๆที่มีปัญหาได้นะฮะ
http://www.newmana.com/yabb/http://newm ... eadid=2870
กรณีของโอนัน การที่พระเจ้าทรงลงโทษประหารเขานั้นนะ นักเทวศาสตร์ คริสเตียนส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า เขาปฏิเสธ ที่จะสืบพงศ์พันธ์ให้พี่ชาย ดูในปฐมกาล บทที่ ๓๘/๙-๑๐
"โอนันรู้ว่าพันธุ์จะไม่ได้นับเป็นของตน เมื่อเขาเข้าหาภรรยาของพี่ชาย จึงทำให้น้ำกามตกดินเสียด้วยเกรงว่าจะสืบพันธุ์ให้แก่พี่ชาย" เพราะโอนันทำเช่นนั้น "ในสายพระเนตรของพระเจ้าสิ่งที่โอนันได้กระทำนั้นผิด พระองค์จึงทรงประหารชีวิตเขาเสีย"
ตัวอย่างนี้ นักเทวศาสตร์คริสเตียน มองที่ โอนัน คุมกำเนิดแบบแบบหนึ่ง ( การหลั่งอสุจิภายนอก )ไม่ได้มอง ในแง่ ของ มาสเตอร์เบชั่น
เช่นนั้นแล้ว การมีเพศสัมพันธ์ก่อนการแต่งงานเป็นบาปด้วยรึไม่
ผิดชัวๆ เลยครับ
"1การที่ผู้ชายไม่ข้องแวะกับผู้หญิงเลยก็ดีอยู่แล้ว 2แต่เพื่อป้องกันการล่วงประเวณี ผู้ชายทุกคนควรมีภรรยาเป็นของตน และผู้หญิงทุกคนมีสามีเป็นของตน" (1 โครินธ์ 7 : 1 - 2)
"14จงหลีกเลี่ยงเสียจากการล่วงประเวณี บาปอย่างอื่นที่มนุษย์ทำเป็นบาปนอกกาย แต่คนที่ล่วงประเวณีนั้น ทำผิดต่อร่างกายของตนเอง" ( 1 โครินธ์ 6 : 14)
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ พฤหัสฯ. มี.ค. 09, 2006 2:33 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Whenever your attention is diverted away from God, you are doing a sin.
Because God is all goodness, all virtues.
Any moment, you are not thinking of God, you are doing a sin.
This sexual process is allowed only for the purpose of production of children according to your destiny to maintain human in the creation of Lord God because God want human in his creation.
God send human to control his creation and showing God in man.
Because God is all goodness, all virtues.
Any moment, you are not thinking of God, you are doing a sin.
This sexual process is allowed only for the purpose of production of children according to your destiny to maintain human in the creation of Lord God because God want human in his creation.
God send human to control his creation and showing God in man.