มีเรื่องอยากจะถามและปรึกษาพี่น้องคริสตังคริสเตียนค่ะ

ปรับทุกข์ หนุนใจ ขอคำภาวนา
ตอบกลับโพส
RAY1988

ศุกร์ มิ.ย. 02, 2006 1:15 pm

เพิ่งเข้ามาสมัครในเว็บนี้ไม่นานนะคะ เป็นสมาชิกใหม่ค่ะ ชื่อกวางนะคะ
คือตอนนี้กวางเป็นคนเดียวที่เป็นคริสเตียนในครอบครัว ซึ่งเคยเอ่ยปากบอกแม่ไปแล้วว่าหนูจะเป็นคริสต์นะ จะเปลี่ยนศาสนา แล้วแม่เขาไม่ยอม เขาบอกว่าแม่ไม่เข้าใจลัทธิของเขา กวางก็บอกให้แม่ฟังว่า พระเจ้าได้ส่งพระเยซูมาวายชนที่กางเขนเพื่อไถ่บาปให้กับพวกเรานะ แล้วบอกว่าแม่เราทุกคนเป็นคนบาปนะแม่ ให้แม่ให้อิสระ หนูในการนับถือศาสนาได้มั้ย แม่เขาก้อไม่ตอบ เราเคยแอบแม่ไปโบสถ์ในวันอาทิตย์หลายครั้ง แต่อ้างกับแม่และที่บ้านว่า ไปซ้อมการแข่งขัน แข่งทักษธคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีแข่งจริงๆ แต่เราซ้อมในเวลาเลิกเรียน เราไม่อยากโกหกหรอกนะ เราเชื่อว่าไม่มีใครอยากจะโกหกหรอก บางครั้งก็ขอแม่ไปโบสถ์ เขาทำท่าไม่อยากให้ไป พอดีวันนั้นจะมีจัดงานวันเด็กที่โบสถ์เราเลยบอกแม่ว่า นะแม่วันอาทิตย์เขามีจัดงานวันเด็ก แม่ก้อเลยยอมให้ไป คือโบสถ์ที่เราไปเนี่ยนะ คือคริสตจักรน้ำพระทัย 2 แถวๆแคราย รพ.ทรวงอกอ่ะค่ะ เขาจะมีนมัสการภาษาไทยตอนบ่ายตั้งแต่ บ่าย 2 และเทศน์เสร็จสิ้นประมาณ 5โมงเย็น แต่ส่วนใหญ่เราจะกลับถึงบ้านประมาณ ทุ่มนึง ประมาณนี้ แต่ถ้าไปโดยบอกแม่ว่าจะไปโบสถ์จะพยายามกลับบ้านไม่มืด พอเทศน์เสร็จจะขอตัวกลับก่อนเลย ซึ่งตอนที่เราบอกแม่ว่าเราเคยไปโบสถ์มาแล้วก็สารภาพกับเขาไปว่าเราไป อย่างงี้ๆ และบอกแม่ว่าจะไปอย่างงี้ๆ ซึ่งแม่เขาก้อพูดว่าโกหกแม่นี่ แบบประมาณว่าซะใหญ่โต เราก็บอกว่าหนูไม่ได้ตั้งใจ นะโกหกแม่ แต่ที่ไม่บอกกลัวแม่ไม่ให้ไป ในบ้านนี่มีแม่คนเดียวเราบอกเขา เราไม่กล้าบอกพ่อกับตา ซึ่งพ่อกับตา ถ้ารู้ นะบ้านแตกแน่ แต่พ่อกับตาเรา เขาไม่เคยพูดว่าไม่ชอบแอนตี้ พวกคริสตชนนะ แต่ตาเราเขารักพุทธมากกก ทั้งบ้านมีแต่หนังสือพระ พระเครื่องนี้เต็มตู้เลย ทุกวันนี้แม่ก็ทำเหมือนลืมว่าเราเคยบอกว่าจะเป็นคริสต์ แม่เขาเคยถามนี่เราเป็นเต็มตัวยัง(หมายถึงเป็นคริตชนเต็มตัว) เราบอกว่ายัง ต้องรับศีลล้างบาปก่อน ก็บัพติศมานั่นแหละ แม่ก็ว่าไม่เอานะไม่รับนะ (เราคิดในใจลูกจะล้างบาป ยังไม่ดีอีกหรือ) เราก้อไม่ได้พูดอะไร แต่ในใจอ่ะเราจะรับ จะรับ !!!แต่ก่อนนหน้านั้น ที่ทางโบสถ์ ในวันตรุษจีนที่ผ่านมา ทางที่นั่นเขาจะมีพิธี รับบัพติศมาในน้ำ เราอยากไปรับ แต่เพื่อนๆในกลุ่มคัดค้านไม่อยากให้รับ เพื่อนๆในกลุ่มเราเป็นพุทธอ่านะ เพื่อนบางคนบอกว่า จะไปรับอ่ะ (แต่เรารับแล้วไม่บอกแม่ ไม่บอกที่บ้านนะ) หัดนึกถึงบุญคุณพ่อแม่บ้างสิ (เราคิดในใจว่าแกนะไม่เข้าใจหรอกว่าคนเป็นคริสตชนนะ ไม่เหมือนคนพุทธนะ) ซึง่ในกลุ่มเพื่อนหาว่าเราเคร่ง บ้าศาสนา เราบอกเพื่อนว่าเราไหว้รู)เคารพไม่ได้นะ เพื่อนมันก็เถียง ฝรั่งที่เขามาเมืองไทยที่มาวัด เขาก็เป็นคริสต์ เขายังไหว้ได้เลย เราเลยบอกเพื่อนว่า ถ้าคนที่เขาเป็นคริสต์ที่เคร่งครัด เชื่อฟังพระเจ้า เขาจะไม่ไหว้ เป็นเพื่อนมันก้อยังเถียงต่อไป เพื่อนมันเคยบอกว่า เราไม่เชื่อเรื่องพระเจ้าหรอกนะ (เราเคยเล่าให้มันฟังว่าพระเจ้าได้ทรงสร้างโลก) เราเชื่อวิทยาศาสตร์มากกว่า (เราก็คิดในใจ ผู้ใดสร้างมนุษย์ ผู้นั้นก็สร้างวิทยาศาสตร์ด้วยนั่นแหละ) ทีนี้กลับมาวันที่เราจะรับบัพติศมานะคะ คือวันนั้นเราไม่กล้าบอกว่าจะไปโบสถ์ เลยโกหก(อีกแล้ว)ว่าจะไปตีแบด กับเพื่อนที่คอร์ด แม่เขาถามจะไปตีแบดแน่หรอ ไม่ใช่ไปโบสถ์นะ เราก็บอกอื้ม ไปตีแบด แม่เขาก็พูดว่า ไม่เอานะไม่ไปโบสถ์นะรู้มั้ย เราก้อไม่ตอบ เขาก็ถามอีกรู้มั้ย เราก้ออือ รับปากไปอย่างนั้นแหละ (ในใจคิดว่าถึงจะตีเราให้ตายเพื่อให้เลิกเชื่อ เราก็ไม่เลิกหรอก ไม่มีสิ่งใดจะมาพรากเราไปจากพระเจ้าได้ ไม่มีทาง) มีวันนึงแม่เราก็บอก เขาคิดถึงมากนะ เรื่องเราอ่ะ เขาจะประสาทกินแล้ว เราก้อบอกพระเจ้ารักแม่นะ แม่เขาก็พูดว่าพระพุทธเจ้าก็รักเราเหมือนกัน เราเลยบอกว่าไม่เหมือน(เราคิดในใจว่าแต่พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงวายชนม์เพื่อไถ่บาปให้กับเราสักหน่อย)แม่เพื่อนเราอ่ะ บอกว่ดูสิคนเป็นพ่อเป็นแม่น่าจะภูมิใจ ที่ลูกสนใจศาสนา ที่เด็กวัยนี้คิดดี สนใจในศาสนา (เราอายุ18) ซึ่งแม่เพื่อนคนนี้ เขาเคยไม่ยอมรับเพื่อนเรา ในเรื่องเปลี่ยนศาสนานี่เหมือนกัน แต่ต่อมาเขาก้อยอมรับ และตอนนี้ครอบครัวเพื่อนทั้งครอบครัวเป้นคริสเตียนหมดแล้ว แต่นั้นตรุษจีนที่เราไปรับบัพติศมา เราไม่ได้ไปโบสถ์อีกเลย แต่ส่วนนึงเพราะติดงานโปรเจค จบ ปวช.3 อ่ะเลยปลีกตัวไม่ได้เพราะมันงานเยอะมากกก เราเลยคิดว่าพอเปิดเทอมเราจะบอแม่ไป แต่คงอาจจะไปไม่ได้ทุกอาทิตย์ (เราเปิดวันที่ 5 มิ.ย.)
แม่เราเขากลัวว่า ถ้าเปลี่ยนศาสนาอ่ะ พอเขาตายจะไม่มีใครมาทำบุญให้เขา เขาก้อบอกอย่างงี้แม่ตายไป แม่ก้ออดข้าวสิ เราเลยจะถามเพื่อนๆพี่น้องว่า ถ้าสมมุตินะสมมุติ ถ้าพ่อแม่เราตายไปจริงๆ อ่ะ เราสามารถเป็นเจ้าภาพงานศพพ่อแม่ได้มั้ย ทำพิธีทางพุทธ โดยปกติอ่ะได้มั้ย แต่โดยที่เราไม่ไหว้รูปเคารพเลยอ่ะ ฝากถามผู้รู้ ด้วยนะคะ เราไม่เชื่อเรื่องคนที่ตายไปแล้วเป็นวิญญาณ แล้วจะต้องไปนรกหรือไม่ก้อสวรรค์ ว่าจะต้องกินดื่มเหมือนคนปกติทั่วไปอีก เราเชื่อว่ามีแต่ผี วิญญาณชั่ว มารร้าย ปีศาจร้าย เท่านั้นที่จะหิวโหยกินดื่ม และขอบคุณนะคะ ที่หลายๆคนอ่านมาถึงตรงนี้ ขอคำปรึกษาทีนะคะ ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

ศุกร์ มิ.ย. 02, 2006 2:47 pm

คำถามจริงๆ คือ อะไร ฮะ ถ้เปิดเผย ไม่ได้ ก็โอเค

ตอนนี้คุณกวางอายุเท่าไหร่ แล้ว ฮะ

คุณกวางลอง ไอเอ็มคุยกับ พี่ Sugarai หรือ พี่ Prod Pran ( พีพี )

เดี๋ยวพี่ หนูจะไอเอ็มให้เบอร์พี่พีพี ให้ คุณกวางคุยได้ 8)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ มิ.ย. 02, 2006 3:10 pm

มี2ทางออก

1.จัดงานให้เขาแบบพุทธ แต่ในเรื่องการถวายอาหารอะไรต่อมิอะไรที่คุณทำไม่ได้ ให้คนอื่นทำแทนเช่นเพื่อนสนิท หลาน ฯลฯ(ผมเคยเป็นเจ้าภาพงานศพของคนที่นับถือพุทธ เราก็ออกเงินค่าใช้จ่ายต่างๆ และเข้าไปนั่งเพื่อให้เกียรติผู้ตาย แต่ตอนพระสวดไม่ได้ไหว้ สวดสายประคำแทน และตอนถวายอาหารพระ ก็ให้คนอื่นทำแทนเรานั่งดูเฉยๆ ก็จบด้วยดี)
2.ชวนเขามาเข้าคริสต์ซะ บอกเขาว่าเป็นคริสต์แล้ว จะได้อยู่ด้วยกันในสวรรค์ ไม่ต้องกลัวอดพระเยซูเลี้ยงดูเอง :D
RAY1988

ศุกร์ มิ.ย. 02, 2006 4:19 pm

ขอบคุณคุณโฮลี่ กับ คุณJeab Agape มากค่ะ แต่ว่ามีแต่แม่เท่านั่นที่รู้ว่าหนูจะเป็น(ทั้งๆที่เป็นแล้ว) ทางครอบครัวหนู 4 คน พ่อ แม่ ตา ยาย อันนี้หนูไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่หรอกค่ะ แต่ลุงหนูเนี่ยสิคะ เขาหัวโบราณ และประมาณว่า ทิฐิ เนี่ยต้องเรียกพ่อเลยค่ะ แล้วเขาก็ทางพุทธมากกกกกกกกกกกเลยค่ะ ลุงเขาเห็นหนูห้อยไม้กางเขน ทุกครั้งที่เจอเขาจะถามบ่อยเลยค่ะ นี่พ่อ.....(ละไว้ในฐานที่เข้าใจนะคะ)เป็นคริสต์หรอ(ตอนนั้นยังไม่ได้รับเชื่อ) หนูก้อบอกเปล่า แล้วเขาก้อถามแล้วห้อยไม้กางเขนทำไม อีกประโยคนึง เขาถามว่านี่มันเด็กคริสต์ หรือเด็กไทยเนี่ย พระมีไม่ห้อย ของดีๆๆมีไม่ห้อย ไปห้อยอะไรไม่รู้ (หนูเลยคิดในใจว่าทำไมละ กางเขนเท่านั้นเป็นความรอด)
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

ศุกร์ มิ.ย. 02, 2006 4:40 pm

ลองชวนแม่ไปโบสถ์ด้วยกันคะ
ไปดูว่าเรานับถืออะไร (แม่บอกไม่รู้จัก ก็ให้มาทำความรู้จัก)
ภาพประจำตัวสมาชิก
SHANTIRAKSA
โพสต์: 87
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 19, 2005 8:58 pm

ศุกร์ มิ.ย. 02, 2006 4:57 pm

ขออนุญาตตอบตามประสบการณ์ของผมนะครับ เผื่อเป็นประโยชน์บ้าง(เล่าบ่อย เบื่อก้ขออภัยนะคับ)
ผมนับถือศาสนาพุทธครับ แต่มีญาติสนิทมิตรสหายอยู่หลายศาสนา หลายลัทธิความเชื่อ นั่นเลยเป็นโอกาสดีให้ผมได้เรียนรู้ในคำสอนของศาสนาต่างๆ
ครั้งหนึ่งผมเคยศึกษาฮินดูอย่างจริงจัง ไปวัดฮินดู ทำพิธีต่างๆตามแบบฮินดู ฯลฯ
ตอนแรกที่บ้านผมก้ไม่ว่าอะไรครับ คงดูๆกันไปก่อน ตอนหลังท่านเห็นว่าไม่ได้มีปัญหาอะไร
ที่บ้านก็สนับสนุนด้วย พ่อกับแม่เช่าเทวรูปมาให้ผมบูชา
หลังจากนั้นผมหันมาศึกษาพุทธศาสนาอย่างจริงจังอีกครั้ง ในสายนิกายต่างๆ
ทางบ้านก็ไม่ว่าอะไร ผมเข้าวัดจีน เข้าวัดญวน เข้าหมดทุกวัด ได้อะไรมาหลายอย่าง
ต่อมาผมสนิทกับน้องที่เป็นคาทอลิก ไปโบสถ์(วัด)ทุกวันอาทิตย์ สอบถามความรู้จากคุณพ่อ ไปวัดโน้นวัดนี้ (เดี๋ยวนี้ก็ยังไป) ทางบ้านก็ไม่ว่าอะไรผมบอกทุกอย่าง
เมื่อเดือนก่อนไปเชียงใหม่ ไปหาน้องที่เป็นโปรแตสแต้นท์ ไปฟังคุณปู่อธิบายพระคัมภีร์

ประการแรกผมคิดว่า พ่อแม่ของผมท่านคงดูๆอยู่เหมือนกัน แต่เมื่อเราได้พิสูจน์แล้วว่า ทั้งหมดนี้ไม่ได้เป็นการผิด หรือกระทำสิ่งไม่ดีแต่ประการใด ท่านก็เลยโอเค
แต่ที่สำคัญคือผมไม่เคยชวนให้ทางบ้านต้อง"ศึกษา" อะไรอย่างผม ท่านก็ยังถือพุทธอยู่เช่นเดิม(แต่แม่ผมน่ะจบโรงเรียนคริสต์) ผมก็นับถือพุทธแต่ไหว้พระคริสต์ แม่พระ นักบุญทั้งหลาย
ข้อนี้ไม่มีปัญหา เพราะผมถือว่าท่านเหล่านี้เป็นผู้ที่เราควรเคารพอย่างที่สุด เพราะมนุษย์ที่เห็นแก่ตัวอย่างเราๆคงต้องถือท่านเป็นตัวอย่าง
ทุกวันนี้ผมไปวัดฮินดูก็ไหว้เทวรูป"ตามสมควรแก่สถานที่" ผ่านมัสยิดแถวบ้านผมก็นึกถึง พระศาสดานบี มูฮัมหมัด ไปพาหุรัด ผมระลึกถึงคุรุนานัก และพระคัมภีร์ คุรุ ครันถ์ ซาฮิบ

การแสดงความเคารพ การยกมือไหว้ ไม่ได้หมายถึงผมไม่มั่นคงต่อคำสอนในศาสนาที่ผมปฏิบัติอยู่ แต่อย่างที่ผมบอกไป ผมเคารพในสิ่งที่เป็นสัญลักษณ์แห่ง"ความดีงามทั้งหลายของมนุษยชาติ"

ดังนั้นสำหรับท่านเจ้าของกระทู้ ผมว่าการให้เวลาทางบ้านได้เข้าใจเป็นสิ่งที่สำคัญ ในขณะที่คุณศรัทธา ขอให้คุณมีศรัทธาอย่างมั่นคง แม้คุณอาจจะยังไม่ได้รับบัพติศมา แต่ผมเชื่อว่าศรัทธานั่นล่ะที่สำคัญ

ดังนันในมุมมองของผม(ซึ่งไม่ใช่ผู้รู้ทางศาสนาคริสต์นะครับ) ผมคิดว่าการร่วมประกอบวิธีในศาสนาอื่นสามารถทำได้ โดยถือเอาประโยชน์ทางสังคมไว้ก่อน (ประเพณีครับ ไม่ใช่ตัวศรัทธา)
อย่างน้องสาวผม เป็นคาทอลิก แต่ใส่บาตรทำบุญ(เพราะการสละ และแบ่งปัน ไม่ได้ทำให้ศรัทธาในพระเจ้าของเธอน้อยลง) ในงานทำบุญให้กับญาติผู้ใหญ่ที่เธอเคารพมากท่านหนึ่ง
วันปาสการ์ผมก็ไปอยู่ตั้งแต่เสกไฟ เสกน้ำ จนจบพิธี กลับมาบ้านผมก็สวดมนต์นั่งสมาธิของผมต่อ

ยุคสมัยนี้ ทางวาติกันก็เน้นเรื่องศาสนสัมพันธ์ อยู่มากแล้ว โลกก็วุ่นวายขึ้นทุกวัน น่าสนใจนะครับที่เราจะมองเรื่องศาสนาให้เป็นเรื่องของประโยชน์ส่วนรวม มากกว่าเรื่องของ"ความเชื่อ ของฉัน กับความเชื่อของเธอ" โดยเนื้อหาแล้ว เราต่างต้องการความสุขและสันติครับ

ได้ประโยชน์บ้าง หรือ ไม่ได้บ้าง ก็ขอขอบคุณครับ
Buddy
โพสต์: 3057
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 09, 2005 10:48 am
ที่อยู่: USA

เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 10:09 am

1. Try to be silent when your family talk anything about this na ka... :)
2. Pray a lot to your family..
3. Love your family a lot... and try to win your family's heart the same way Jesus won your heart... :)

Ask yourself what makes you love Jesus... what did Jesus do to you so that you love Him.. :)

If you like the way Jesus loves us for so much that He can die for us, just try to love your family in that way.. :) I'm not saying that you'll die for your family na ka... but just sacrifice for your family...

When your family is in trouble, if there's anything you can do for your family, just do it... sacrifice for them. For example, you can work a part time job and bring money to your family.... Do it with love na ka... but because you want them to see your good deeds.. just do it because you love them... :) ... Don't expect that they'll see.. Just do it and they'll see it.. :)
RAY1988

เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 12:31 pm

~@Little lamb@~ เขียน: ลองชวนแม่ไปโบสถ์ด้วยกันคะ
ไปดูว่าเรานับถืออะไร (แม่บอกไม่รู้จัก ก็ให้มาทำความรู้จัก)

โอ้โห คุณ LL เราก้ออยากจะทำอย่างนั้นค่ะ แต่แม่ไม่มีเวลาเลย วันอาทิตย์วันหยุดก็จริงแต่แม่ต้องช่วยกันดูแลยายที่เป็นอัมพาตค่ะ แล้วแม่ยังทำงานกิจการของบ้านด้วย วันธรรมดาถึงวันเสาร์ก็ไปทำงานประจำอ่ะค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 3:00 pm

งั้นเอาหนังสือให้แม่อ่าน



ในทำความรู้จัก


สนใจมั๊ยละจ๊ะ
เดี๋ยวจะส่งไปให้ ;D
RAY1988

เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 4:12 pm

~@Little lamb@~ เขียน: งั้นเอาหนังสือให้แม่อ่าน



ในทำความรู้จัก


สนใจมั๊ยละจ๊ะ
เดี๋ยวจะส่งไปให้ ;D
คุณ LL ขอบคุณมากค่ะ เรามีพระคัมภีรม์ 3 เล่ม รวมทั้งพระธรรมเก่า-ใหม่ 1 เล่ม พระธรรมใหม่อย่างเดียว 1 เล่ม ทั้งเก่า ใหม่ฉบับย่อ 1 เล่ม พลังชีวิต 1 เล่ม อย่างที่บอกนะคะ แม่ไม่มีเวลาอ่านหนังสือหรอกค่ะ เคยเอาพลังชีวิตไปให้แม่อ่านแล้ว แต่ไม่รู้ได้อ่านหรือ คงจะไม่ได้อ่านเพราะกลับมาบ้านหนังสือก็มาวางอยู่บนโต๊ะเขียนหนังสือในห้องแล้ว พอดีวันนั้น แม่โทรมาบอกด้วยว่า "อย่าไปเป็นคริสต์นะ ไม่เอานะ แม่ขอ"(พูดแบบจริงมากค่ะ)
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 4:39 pm

ลองเอาหนังสือพระบิดาตรัสกับลูก ๆ ของพระองค์ไปอ่านมั๊ยคะ

แล้วก็บอกให้แม่อ่าน
เรียกบ่อย ๆ บอกให้แม่ลองอ่านดู
เพื่อจะได้เข้าใจมากขึ้นมาทำไมคุณถึงรักพระเจ้า

ก่อนเอาให้ ให้อธิษฐานของพระเจ้าทรงดลใจแม่ และ เปิดใจแม่ให้ยอมรับ


ปล.
(ให้คุณอ่านก่อนแม่นะคะ อ่านจบแล้วค่อยเอาให้แม่อ่าน)
RAY1988

เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 7:25 pm

~@Little lamb@~ เขียน: ลองเอาหนังสือพระบิดาตรัสกับลูก ๆ ของพระองค์ไปอ่านมั๊ยคะ

แล้วก็บอกให้แม่อ่าน
เรียกบ่อย ๆ บอกให้แม่ลองอ่านดู
เพื่อจะได้เข้าใจมากขึ้นมาทำไมคุณถึงรักพระเจ้า

ก่อนเอาให้ ให้อธิษฐานของพระเจ้าทรงดลใจแม่ และ เปิดใจแม่ให้ยอมรับ


ปล.
(ให้คุณอ่านก่อนแม่นะคะ อ่านจบแล้วค่อยเอาให้แม่อ่าน)
คุณ LL จะส่งมามั้ยคะ ถ้าจะกรุณาขอบพระคุณเป็นอย่างสูงค่ะ จะให้ชื่อที่อยู่ไปค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 11:21 pm

ส่งค๊า~~~~~~~~~~~~~~
ภาพประจำตัวสมาชิก
-Rei-
โพสต์: 1015
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มิ.ย. 09, 2005 8:31 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ มิ.ย. 04, 2006 12:00 am

แอด msn คุยกะ พี่พีพี หรือ พี่เรก็ได้ค่ะ
โดนที่บ้านต่อต้านมาก่อนเหมือนกัน

แม่พี่กลัวเหมือนกันคือกลัวอดข้าวตอนตายไปแล้ว
พี่ก็พยายามโน้มน้าวอยู่ว่า ตอนเป็นก็ทำบุญให้เยอะๆสิคะ
บุญที่ทำเอง กับ คนอื่นทำให้ อันไหนได้บุญมากกว่ากัน ?

จริงๆแล้ว ถ้าแม่ห่วงมาก พี่เรจะบอกว่า เรายังสามารถตักบาตรให้เขาได้ด้วยซ้ำ
ในแง่ของคริสตชน ก็ถือว่าให้ข้าวผู้ใหญ่กิน ไม่ได้ผิดอะไร
แล้วก็ทำไปเพื่อให้แม่สบายใจด้วย
เป็นเจ้าภาพงานศพให้เขาแบบพุทธก็ยังได้ เพียงแต่เราอย่าไหว้รูปเคารพเท่านั้นเอง
ส่วนพระสงฆ์น่ะ ไหว้ได้นะคะ ถวายของก็ได้ เวลาไหว้พระสงฆ์ ก็คิดซะว่าไหว้ผู้ใหญ่
พระสงฆ์ไม่ใช่รูปเคารพ แต่เป็นบุคคลค่ะ เหมือนเราไหว้ครูบา อาจารย์อ่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
NKL
โพสต์: 189
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 01, 2005 7:32 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ มิ.ย. 04, 2006 1:35 am

ผู้ที่อดทนถึงที่สุดแล้วจะรอด ลองทำตามพี่ๆRepบน อาจจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
RAY1988

อาทิตย์ มิ.ย. 04, 2006 11:52 am

โอเคค่ะ ขอบคุณทุกๆๆคน ทุกๆๆๆความคิดนะคะ ขอพระเจ้าอวยพรทุกคนค่ะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ มิ.ย. 04, 2006 10:20 pm

SugarRei เขียน: แอด msn คุยกะ พี่พีพี หรือ พี่เรก็ได้ค่ะ
โดนที่บ้านต่อต้านมาก่อนเหมือนกัน

แม่พี่กลัวเหมือนกันคือกลัวอดข้าวตอนตายไปแล้ว
พี่ก็พยายามโน้มน้าวอยู่ว่า ตอนเป็นก็ทำบุญให้เยอะๆสิคะ
บุญที่ทำเอง กับ คนอื่นทำให้ อันไหนได้บุญมากกว่ากัน ?

จริงๆแล้ว ถ้าแม่ห่วงมาก พี่เรจะบอกว่า เรายังสามารถตักบาตรให้เขาได้ด้วยซ้ำ
ในแง่ของคริสตชน ก็ถือว่าให้ข้าวผู้ใหญ่กิน ไม่ได้ผิดอะไร
แล้วก็ทำไปเพื่อให้แม่สบายใจด้วย
เป็นเจ้าภาพงานศพให้เขาแบบพุทธก็ยังได้ เพียงแต่เราอย่าไหว้รูปเคารพเท่านั้นเอง
ส่วนพระสงฆ์น่ะ ไหว้ได้นะคะ ถวายของก็ได้ เวลาไหว้พระสงฆ์ ก็คิดซะว่าไหว้ผู้ใหญ่
พระสงฆ์ไม่ใช่รูปเคารพ แต่เป็นบุคคลค่ะ เหมือนเราไหว้ครูบา อาจารย์อ่ะ

ถูก
ตอบกลับโพส