+ The .6men .6nd The .6ntichrist +
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
The Omen
Omen แปลตรงตัวแปลว่า "ลางบอกเหตุ"
เรื่องนี้อะไรคือลางบอกเหตุ?.. สำหรับเรื่องนี้หลายๆคนคงเคยดูแล้ว(เวอร์ชั่นเก่า) ลางบอกเหตุที่ว่าคือก็ การมาของ Antichrist นั่นเอง
Q: Antichrist คืออะไร?
A: Antichrist แปลตรงตัวคือ ปรปักษ์พระคริสต์ หรือผู้ที่ต่อต้านพระเยซูนั่นเอง ในอดีตมีผู้ที่ถือว่าเป็น Antichrist หลายคนเช่น จักพรรดิ์เนโร,ฮิตเลอร์ , นโปเลียน
Q : มีการกล่าวถึงการมาของ Antichrist แบบในหนังหรือไม่?
A: ในพระคำภีร์ Bible ทั้งพันธสัญญาเก่า และ พันธสัญญาใหม่ มีการกล่าวถึงการมาของ antichrist ทั้ง 2 เล่ม ซึ่งจะกล่าวเป็นคำอุปมาอุปมัยทั้งสิ้นโดยจะใช้สัญลักษณ์ของ antichrist คือสัตว์ร้าย(beast) และมารหรือซาตานจะใช้สัญลักษณ์เป็นมังกร(dragon)
พระธรรมเก่ากล่าวถึงมันโดยใช้สัญลักษณ์คือ เขาที่งอกแซมขึ้นมา(little horn)
ดาเนียล 7:2-8
ดาเนียลกล่าวว่า
Omen แปลตรงตัวแปลว่า "ลางบอกเหตุ"
เรื่องนี้อะไรคือลางบอกเหตุ?.. สำหรับเรื่องนี้หลายๆคนคงเคยดูแล้ว(เวอร์ชั่นเก่า) ลางบอกเหตุที่ว่าคือก็ การมาของ Antichrist นั่นเอง
Q: Antichrist คืออะไร?
A: Antichrist แปลตรงตัวคือ ปรปักษ์พระคริสต์ หรือผู้ที่ต่อต้านพระเยซูนั่นเอง ในอดีตมีผู้ที่ถือว่าเป็น Antichrist หลายคนเช่น จักพรรดิ์เนโร,ฮิตเลอร์ , นโปเลียน
Q : มีการกล่าวถึงการมาของ Antichrist แบบในหนังหรือไม่?
A: ในพระคำภีร์ Bible ทั้งพันธสัญญาเก่า และ พันธสัญญาใหม่ มีการกล่าวถึงการมาของ antichrist ทั้ง 2 เล่ม ซึ่งจะกล่าวเป็นคำอุปมาอุปมัยทั้งสิ้นโดยจะใช้สัญลักษณ์ของ antichrist คือสัตว์ร้าย(beast) และมารหรือซาตานจะใช้สัญลักษณ์เป็นมังกร(dragon)
พระธรรมเก่ากล่าวถึงมันโดยใช้สัญลักษณ์คือ เขาที่งอกแซมขึ้นมา(little horn)
ดาเนียล 7:2-8
ดาเนียลกล่าวว่า
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ พุธ มิ.ย. 07, 2006 8:11 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
Q: หลักการตีความพระคำภีร์มีหลักเกณฑ์อยู่ที่ไหน?
A: การตีความคำพยากรณ์ในพระคำภีร์เราอาศัยการตีความจากสัญลักษณ์โดยมีตัวอย่างจากตัวพระคำภีร์ที่ตีความเอง ดังนั้นการตีความจากสัญลักษณ์จึงไม่ใช่สิ่งที่เราจะสามารถคิดเองเออเองได้ เช่นในพระธรรมดาเนียลบทนี้ได้มีการตีความถึงนิมิตใน ดาเนียล 12:1-8 ที่ฝันถึงสัตว์ร้ายทั้ง 4
ดาเนียล 7:16 -25
ข้าพเจ้าเข้าไปใกล้ท่านผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ที่นั่นและไต่ถามความจริงของเรื่องราวนี้ท่านก็บอกข้าพเจ้าและให้ข้าพเจ้ารู้ความหมายของเรื่องเหล่านี้'สัตว์มหึมาทั้งสี่คือกษัตริย์สี่พระองค์ซึ่งเกิดมาจากพิภพ แต่บรรดาวิสุทธิชนแห่งองค์ผู้สูงสุดจะรับราชอาณาจักรและถือกรรมสิทธิ์ราชอาณาจักรนั้นสืบๆไปเป็นนิตย์ทีเดียว'แล้วข้าพเจ้าก็อยากจะทราบถึงความจริงอันเกี่ยวกับสัตว์ตัวที่สี่นั้นซึ่งผิดแปลกกับสัตว์อื่นๆทั้งสิ้นร้ายกาจเหลือเกินมีฟันเหล็กและเล็บตีนทองสัมฤทธิ์ซึ่งกินและหักเป็นชิ้นๆและกระทืบสิ่งที่เหลือนั้นเสียและเกี่ยวกับเขาสิบเขาซึ่งอยู่บนหัวของมันและเขาอีกเขาหนึ่งซึ่งงอกขึ้นมาต่อหน้าเขารุ่นแรกสามเขาที่หลุดไปเขาซึ่งมีตาและมีปากซึ่งพูดสิ่งใหญ่โตและซึ่งดูเหมือนจะใหญ่โตกว่าเพื่อนเขาด้วยกันเมื่อข้าพเจ้ามองดูเขานี้ทำสงครามกับวิสุทธิชนและชนะจนถึงผู้เจริญด้วยวัยวุฒิเสด็จมาถึงและทรงให้มีการพิพากษาให้แก่วิสุทธิชนขององค์ผู้สูงสุดนั้นและจนสมัยเมื่อวิสุทธิชนรับราชอาณาจักรมาถึงท่านผู้นั้นกล่าวดังนี้ว่า'เรื่องสัตว์ตัวที่สี่จะมีราชอาณาจักรที่สี่บนพิภพซึ่งจะผิดกับราชอาณาจักรทั้งสิ้นและจะกินทั้งพิภพนี้เสียและเหยียบพิภพลงและกระทำให้เป็นชิ้นๆส่วนเรื่องเขาสิบเขานั้นจากราชอาณาจักรนี้จะมีกษัตริย์สิบพระองค์เกิดขึ้นและมีกษัตริย์อีกองค์หนึ่งเกิดขึ้นภายหลังผิดแปลกกว่ากษัตริย์ที่มีมาก่อนและจะโค่นกษัตริย์เสียสามองค์ท่านจะพูดคำกล่าวร้ายองค์ผู้สูงสุดและจะให้วิสุทธิชนขององค์ผู้สูงสุดนั้นอิดหนาระอาใจและจะคิดเปลี่ยนแปลงบรรดาวาระและธรรมบัญญัติและเขาทั้งหลายจะถูกมอบไว้ในมือของท่านตลอดหนึ่งวาระสองวาระกับครึ่งวาระ..
------------------------------------------------------------------------------------------
ดังนั้นสัตว์ร้ายหรือมังกรที่เราเห็นในพระคำภีร์นั่นไม่ใช่ สัตว์ร้ายตัวใหญ่ๆหรือเป็นมังกรพ่นไฟได้แบบในหนังเอนิเมชั่น แต่เป็นภาษาสัญลักษณ์ต่างหาก เราจึงอาศัยการตีความแบบนี้มาตีความพระคำภีร์ส่วนที่เป็นภาษสัญลักษณ์ในบทอื่นๆ
1.การตีความ "มังกร" ใน วว 12:1-17
@มังกรสื่อถึงซาตาน
(มังกรใหญ่ คืองูดึกดำบรรพ์ที่มีชื่อว่าปีศาจและซาตาน ผู้ล่อลวงผู้อาศัยอยู่ทั่วแผ่นดินให้หลงไป)
@มันจะทำสงครามกับสตรี และเผ่าพันธุ์ที่เหลือของนางก็คือธรรมมิกชน
(มังกรโกรธสตรี และออกไปทำสงครามกับเผ่าพันธุ์ที่เหลือของนาง คือผู้ที่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระเจ้า และยึดมั่นในคำพยานถึงพระเยซูเจ้า)
2.การตีความ "สัตว์ร้ายสิบเขา" ใน วว 12:1-10
สัตว์ร้ายตัวนี้เราพบในอีกคำพยากรณ์นึงซึ่งเขียนใว้ดังนี้
วิวรณ์ 17:1 -18
ทูตสวรรค์หนึ่งในเจ็ดองค์ซึ่งถือขันเจ็ดใบเข้ามาพูดกับข้าพเจ้าว่า
A: การตีความคำพยากรณ์ในพระคำภีร์เราอาศัยการตีความจากสัญลักษณ์โดยมีตัวอย่างจากตัวพระคำภีร์ที่ตีความเอง ดังนั้นการตีความจากสัญลักษณ์จึงไม่ใช่สิ่งที่เราจะสามารถคิดเองเออเองได้ เช่นในพระธรรมดาเนียลบทนี้ได้มีการตีความถึงนิมิตใน ดาเนียล 12:1-8 ที่ฝันถึงสัตว์ร้ายทั้ง 4
ดาเนียล 7:16 -25
ข้าพเจ้าเข้าไปใกล้ท่านผู้หนึ่งที่ยืนอยู่ที่นั่นและไต่ถามความจริงของเรื่องราวนี้ท่านก็บอกข้าพเจ้าและให้ข้าพเจ้ารู้ความหมายของเรื่องเหล่านี้'สัตว์มหึมาทั้งสี่คือกษัตริย์สี่พระองค์ซึ่งเกิดมาจากพิภพ แต่บรรดาวิสุทธิชนแห่งองค์ผู้สูงสุดจะรับราชอาณาจักรและถือกรรมสิทธิ์ราชอาณาจักรนั้นสืบๆไปเป็นนิตย์ทีเดียว'แล้วข้าพเจ้าก็อยากจะทราบถึงความจริงอันเกี่ยวกับสัตว์ตัวที่สี่นั้นซึ่งผิดแปลกกับสัตว์อื่นๆทั้งสิ้นร้ายกาจเหลือเกินมีฟันเหล็กและเล็บตีนทองสัมฤทธิ์ซึ่งกินและหักเป็นชิ้นๆและกระทืบสิ่งที่เหลือนั้นเสียและเกี่ยวกับเขาสิบเขาซึ่งอยู่บนหัวของมันและเขาอีกเขาหนึ่งซึ่งงอกขึ้นมาต่อหน้าเขารุ่นแรกสามเขาที่หลุดไปเขาซึ่งมีตาและมีปากซึ่งพูดสิ่งใหญ่โตและซึ่งดูเหมือนจะใหญ่โตกว่าเพื่อนเขาด้วยกันเมื่อข้าพเจ้ามองดูเขานี้ทำสงครามกับวิสุทธิชนและชนะจนถึงผู้เจริญด้วยวัยวุฒิเสด็จมาถึงและทรงให้มีการพิพากษาให้แก่วิสุทธิชนขององค์ผู้สูงสุดนั้นและจนสมัยเมื่อวิสุทธิชนรับราชอาณาจักรมาถึงท่านผู้นั้นกล่าวดังนี้ว่า'เรื่องสัตว์ตัวที่สี่จะมีราชอาณาจักรที่สี่บนพิภพซึ่งจะผิดกับราชอาณาจักรทั้งสิ้นและจะกินทั้งพิภพนี้เสียและเหยียบพิภพลงและกระทำให้เป็นชิ้นๆส่วนเรื่องเขาสิบเขานั้นจากราชอาณาจักรนี้จะมีกษัตริย์สิบพระองค์เกิดขึ้นและมีกษัตริย์อีกองค์หนึ่งเกิดขึ้นภายหลังผิดแปลกกว่ากษัตริย์ที่มีมาก่อนและจะโค่นกษัตริย์เสียสามองค์ท่านจะพูดคำกล่าวร้ายองค์ผู้สูงสุดและจะให้วิสุทธิชนขององค์ผู้สูงสุดนั้นอิดหนาระอาใจและจะคิดเปลี่ยนแปลงบรรดาวาระและธรรมบัญญัติและเขาทั้งหลายจะถูกมอบไว้ในมือของท่านตลอดหนึ่งวาระสองวาระกับครึ่งวาระ..
------------------------------------------------------------------------------------------
ดังนั้นสัตว์ร้ายหรือมังกรที่เราเห็นในพระคำภีร์นั่นไม่ใช่ สัตว์ร้ายตัวใหญ่ๆหรือเป็นมังกรพ่นไฟได้แบบในหนังเอนิเมชั่น แต่เป็นภาษาสัญลักษณ์ต่างหาก เราจึงอาศัยการตีความแบบนี้มาตีความพระคำภีร์ส่วนที่เป็นภาษสัญลักษณ์ในบทอื่นๆ
1.การตีความ "มังกร" ใน วว 12:1-17
@มังกรสื่อถึงซาตาน
(มังกรใหญ่ คืองูดึกดำบรรพ์ที่มีชื่อว่าปีศาจและซาตาน ผู้ล่อลวงผู้อาศัยอยู่ทั่วแผ่นดินให้หลงไป)
@มันจะทำสงครามกับสตรี และเผ่าพันธุ์ที่เหลือของนางก็คือธรรมมิกชน
(มังกรโกรธสตรี และออกไปทำสงครามกับเผ่าพันธุ์ที่เหลือของนาง คือผู้ที่ปฏิบัติตามบทบัญญัติของพระเจ้า และยึดมั่นในคำพยานถึงพระเยซูเจ้า)
2.การตีความ "สัตว์ร้ายสิบเขา" ใน วว 12:1-10
สัตว์ร้ายตัวนี้เราพบในอีกคำพยากรณ์นึงซึ่งเขียนใว้ดังนี้
วิวรณ์ 17:1 -18
ทูตสวรรค์หนึ่งในเจ็ดองค์ซึ่งถือขันเจ็ดใบเข้ามาพูดกับข้าพเจ้าว่า
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ พุธ มิ.ย. 07, 2006 8:14 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
Q:สัญลักษณ์เลข 666 มาจากไหน
A: 666 หรือสัญลักษณ์ของสัตว์ร้ายนั้นมาจากพระคำภีร์บทนี้
วว 13:11-18
ข้าพเจ้าเห็นสัตว์ร้ายตัวหนึ่งขึ้นมาจากพื้นดิน มีสองเขาเหมือนลูกแกะ พูดเหมือนมังกร มันใช้อำนาจทั้งหมดของสัตว์ร้ายตัวแรก เมื่อสัตว์ร้ายตัวนี้ทำให้แผ่นดินและผู้อาศัยบนแผ่นดินกราบนมัสการสัตว์ร้ายตัวแรกที่มีบาดแผลฉกรรจ์ถึงตายแต่หายแล้ว สัตว์ร้ายตัวที่สองนี้ทำปาฏิหาริย์ยิ่งใหญ่ แม้กระทั่งไฟมันก็ทำให้ตกจากท้องฟ้าลงบนแผ่นดินต่อหน้ามนุษย์ได้ มันใช้ปาฏิหาริย์ที่มันได้รับอำนาจให้ทำได้เมื่อสัตว์ร้ายตัวแรกหลอกลวงผู้อาศัยบนแผ่นดินให้หลงไป โดยชักชวนเขาให้สร้าง รูปปั้นถวายแด่สัตว์ร้ายที่ยังมีชีวิตอยู่แม้ถูกดาบฟันเป็นแผลฉกรรจ์แล้ว สัตว์ตัวที่สองนี้ได้รับอำนาจให้ชีวิตแก่รูปปั้นของสัตว์ร้ายตัวแรก เพื่อให้รูปปั้นนั้นพูดได้ และได้รับอำนาจประหารชีวิตทุกคนที่ไม่ยอมกราบนมัสการรูปปั้นของสัตว์ร้าย สัตว์ร้ายตัวที่สองนี้บังคับทุกคน ทั้งผู้น้อย ผู้ใหญ่ ทั้งคนมั่งมีและคนยากจน ทั้งคนอิสระและทาส ให้สักตราไว้ที่มือขวาหรือที่หน้าผาก ไม่มีใครซื้อขายได้ ถ้าไม่มีตราคือนามของสัตว์ร้ายหรือจำนวนเลขของนามนั้น ดังนั้น จำเป็นต้องมีปรีชาญาณ ผู้มีปัญญาจงตีความจำนวนเลขของสัตว์ร้ายให้ได้ เพราะมันเป็นจำนวนเลขที่หมายถึงมนุษย์คนหนึ่ง จำนวนเลขนั้นคือ 666
----------------------------------------------------------------------------------------------------
แต่เลข 666 นั้นก็เป็นสัญลักษณ์อีกเหมือนกันซึ่งก็มีการตีความหลากหลายกันไปมีทั้งแปลออกมาได้เป็น Computer , บาร์โค้ด ฯลฯ ตรงนี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจมากเพราะในอนาคตอันใกล้นี้มนุษย์จะไม่ต้องพกบัตรเครติดหรือบัตรประจำตัวแล้ว เพราะเรากำลังมีสิ่งที่เรียกว่าไมโครชิพ(mocrochip) (อ้างอิง http://www.imf.org/external/np/exr/facts/sdr.HTM )
วันที่ 31 มีนาคม 1969 ธนาคารโลกหรือ IMF ได้ประกาศระบบแลกเปลี่ยนเงินตราแบบใหม่โดยไม่ผูกกับธนบัตรหรือทองคำ แต่ไปผูกกับระบบเครติดใหม่โดยใช้ตัวเลขชื่อว่าระบบ S.D.R (Special Drawing Right)
ในปี 1976 SDR ได้เริ่มดำเนินการโดยใช้ทองคำสำรองการเงินซึ่งระบบนี้ประกอบขึ้นโดยใช้หมายเลขซึ่งในหนังสือคอมพิวเตอร์ระหว่างนานาชาติจะกำหนดเดบิตและเครติต(รายรับรายจ่าย)ของสมาชิกแต่ละชาติ ซึ่งระบบเงินตราแบบใหม่นี้ เพื่อจะใช้ได้ในระดับส่วนบุคคล มีความจำเป็นจะต้องประกอบไปด้วย
1. รหัสระหว่างนานาชาติของผลิตภัณฑ์(บาร์โค้ด)
บาร์โค้ดของสิ้นค้านั้นทั่วโลกสำหรับผลิตภัณฑ์ซื้อขายของทั่วโลกจะมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันดังนี้
และแน่นอน แถบกลางที่เป็นเส้นคู่แบบนี้ || เมื่อถอดใน Computer แล้วก็จะอ่านได้เป็นเลข 6 เป็นเหมือนกันกับสินค้าทุกชนิดทั่วโลก(ไม่เชื่อลองเอาบาร์โค้ดของสินค้าที่ซื้อมาเทียบดูจะมีเส้นที่เหมือนกันทุกอันคือเส้นของเลข 666)
2.เครื่องคอมพิวเตอร์
ไม่ว่าจะซื้อเข้าหรือขายออกจำเป็นต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์
3.S.D.R
จำเป็นที่ S.D.R ต้องถูกนำมาใช้ มิใช่แค่ภายในประเทศใด้ประเทศหนึ่งเท่านั้นแต่ต้องเป็นในระดับส่วนบุคคลด้วย(รายบุคคล)และใช้ทั่วโลก
4.หมายเลขบัญชีประจำตัว
แต่ละบุคคลต้องได้รับหมายเลขประจำตัวซึ่งเป็นเลขบัญชีเฉพาะตัวเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์นานาชาติ
5.หมายเลขที่ประทับลงบนมือขวาหรือหน้าผาก
เป็นเรื่องจำเป็นที่ไมโครชิพจะต้องประทับลงบนมือขวาหรือหน้าผากโดยแสงเลเซอร์ซึ่งจะไม่เจ็บและตาเปล่ามองไม่เห็น
Dr.Carl W.Sanders นักประดิษฐ์วิชาการและที่ปรึกษาขององค์กรรัฐบาล IBM General Electric,Honeywell และ Teledyne กล่าวว่า
"การฝังไม่โครชิพนั้นต้องอาศัยพลังงานในการชาร์จไฟ ซึ่งการจะฝังในร่างกายมนุษย์นั้นไม่สามารถที่จะนำออกมาชาร์จไฟได้ เราจึงต้องอาศัยการเปลี่ยนอุณหภูมิร่างกายของมนุษย์ซึ่งจะต้องต่อวงจรของชิพให้มีการชาร์จไฟทุกครั้งที่อุณหภูมิของร่างกายเปลี่ยนอุณหภูมิ ได้มีการใช้เงินไปถึง 1.5 ล้านดอลลาร์ในการค้นหาจุดของร่างกายที่มีการเปลี่ยนอุณหภูมิที่เร็วที่สุดซึ่งเหมาะแก่การฝังไมโครชิพคือที่ หน้าผาก และ หลังข้อมือ "
Dr.Carl W.Sanders ยังกล่าวอีกว่า "ข้าพเจ้าได้เข้าร่วมการประชุม One World เป็นจำนวน 17 ครั้งซึ่งได้มีการถกเถียงกันเรื่องไมโครชิพ การประชุมที่บรัสเซลล์และลักเซมเบิร์ก พยายามโยงการเงินของโลกเข้ามาอ้าง ขณะนี้กำลังมีพระราชบัญญัติเข้าสภา Congress ว่าจะอนุญาติให้ฝังไมโครชิพในทารกแรกเกิดด้วยวัตถุประสงค์เพื่อสำหรับข้อมูลประจำตัว "
นั่นทำให้เรายิ่งระลึกถึงคำทำนายที่ว่า
" สัตว์ร้ายตัวที่สองนี้บังคับทุกคน ทั้งผู้น้อย ผู้ใหญ่ ทั้งคนมั่งมีและคนยากจน ทั้งคนอิสระและทาส ให้สักตราไว้ที่มือขวาหรือที่หน้าผาก ไม่มีใครซื้อขายได้ ถ้าไม่มีตราคือนามของสัตว์ร้ายหรือจำนวนเลขของนามนั้น ดังนั้น จำเป็นต้องมีปรีชาญาณ ผู้มีปัญญาจงตีความจำนวนเลขของสัตว์ร้ายให้ได้ เพราะมันเป็นจำนวนเลขที่หมายถึงมนุษย์คนหนึ่ง จำนวนเลขนั้นคือ 666"
แม้นี่จะเป็นการถอดรหัสที่น่าสนใจ แต่แท้จริงจะเป็นเช่นไร เวลาเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์
A: 666 หรือสัญลักษณ์ของสัตว์ร้ายนั้นมาจากพระคำภีร์บทนี้
วว 13:11-18
ข้าพเจ้าเห็นสัตว์ร้ายตัวหนึ่งขึ้นมาจากพื้นดิน มีสองเขาเหมือนลูกแกะ พูดเหมือนมังกร มันใช้อำนาจทั้งหมดของสัตว์ร้ายตัวแรก เมื่อสัตว์ร้ายตัวนี้ทำให้แผ่นดินและผู้อาศัยบนแผ่นดินกราบนมัสการสัตว์ร้ายตัวแรกที่มีบาดแผลฉกรรจ์ถึงตายแต่หายแล้ว สัตว์ร้ายตัวที่สองนี้ทำปาฏิหาริย์ยิ่งใหญ่ แม้กระทั่งไฟมันก็ทำให้ตกจากท้องฟ้าลงบนแผ่นดินต่อหน้ามนุษย์ได้ มันใช้ปาฏิหาริย์ที่มันได้รับอำนาจให้ทำได้เมื่อสัตว์ร้ายตัวแรกหลอกลวงผู้อาศัยบนแผ่นดินให้หลงไป โดยชักชวนเขาให้สร้าง รูปปั้นถวายแด่สัตว์ร้ายที่ยังมีชีวิตอยู่แม้ถูกดาบฟันเป็นแผลฉกรรจ์แล้ว สัตว์ตัวที่สองนี้ได้รับอำนาจให้ชีวิตแก่รูปปั้นของสัตว์ร้ายตัวแรก เพื่อให้รูปปั้นนั้นพูดได้ และได้รับอำนาจประหารชีวิตทุกคนที่ไม่ยอมกราบนมัสการรูปปั้นของสัตว์ร้าย สัตว์ร้ายตัวที่สองนี้บังคับทุกคน ทั้งผู้น้อย ผู้ใหญ่ ทั้งคนมั่งมีและคนยากจน ทั้งคนอิสระและทาส ให้สักตราไว้ที่มือขวาหรือที่หน้าผาก ไม่มีใครซื้อขายได้ ถ้าไม่มีตราคือนามของสัตว์ร้ายหรือจำนวนเลขของนามนั้น ดังนั้น จำเป็นต้องมีปรีชาญาณ ผู้มีปัญญาจงตีความจำนวนเลขของสัตว์ร้ายให้ได้ เพราะมันเป็นจำนวนเลขที่หมายถึงมนุษย์คนหนึ่ง จำนวนเลขนั้นคือ 666
----------------------------------------------------------------------------------------------------
แต่เลข 666 นั้นก็เป็นสัญลักษณ์อีกเหมือนกันซึ่งก็มีการตีความหลากหลายกันไปมีทั้งแปลออกมาได้เป็น Computer , บาร์โค้ด ฯลฯ ตรงนี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจมากเพราะในอนาคตอันใกล้นี้มนุษย์จะไม่ต้องพกบัตรเครติดหรือบัตรประจำตัวแล้ว เพราะเรากำลังมีสิ่งที่เรียกว่าไมโครชิพ(mocrochip) (อ้างอิง http://www.imf.org/external/np/exr/facts/sdr.HTM )
วันที่ 31 มีนาคม 1969 ธนาคารโลกหรือ IMF ได้ประกาศระบบแลกเปลี่ยนเงินตราแบบใหม่โดยไม่ผูกกับธนบัตรหรือทองคำ แต่ไปผูกกับระบบเครติดใหม่โดยใช้ตัวเลขชื่อว่าระบบ S.D.R (Special Drawing Right)
ในปี 1976 SDR ได้เริ่มดำเนินการโดยใช้ทองคำสำรองการเงินซึ่งระบบนี้ประกอบขึ้นโดยใช้หมายเลขซึ่งในหนังสือคอมพิวเตอร์ระหว่างนานาชาติจะกำหนดเดบิตและเครติต(รายรับรายจ่าย)ของสมาชิกแต่ละชาติ ซึ่งระบบเงินตราแบบใหม่นี้ เพื่อจะใช้ได้ในระดับส่วนบุคคล มีความจำเป็นจะต้องประกอบไปด้วย
1. รหัสระหว่างนานาชาติของผลิตภัณฑ์(บาร์โค้ด)
บาร์โค้ดของสิ้นค้านั้นทั่วโลกสำหรับผลิตภัณฑ์ซื้อขายของทั่วโลกจะมีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันดังนี้
และแน่นอน แถบกลางที่เป็นเส้นคู่แบบนี้ || เมื่อถอดใน Computer แล้วก็จะอ่านได้เป็นเลข 6 เป็นเหมือนกันกับสินค้าทุกชนิดทั่วโลก(ไม่เชื่อลองเอาบาร์โค้ดของสินค้าที่ซื้อมาเทียบดูจะมีเส้นที่เหมือนกันทุกอันคือเส้นของเลข 666)
2.เครื่องคอมพิวเตอร์
ไม่ว่าจะซื้อเข้าหรือขายออกจำเป็นต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์
3.S.D.R
จำเป็นที่ S.D.R ต้องถูกนำมาใช้ มิใช่แค่ภายในประเทศใด้ประเทศหนึ่งเท่านั้นแต่ต้องเป็นในระดับส่วนบุคคลด้วย(รายบุคคล)และใช้ทั่วโลก
4.หมายเลขบัญชีประจำตัว
แต่ละบุคคลต้องได้รับหมายเลขประจำตัวซึ่งเป็นเลขบัญชีเฉพาะตัวเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์นานาชาติ
5.หมายเลขที่ประทับลงบนมือขวาหรือหน้าผาก
เป็นเรื่องจำเป็นที่ไมโครชิพจะต้องประทับลงบนมือขวาหรือหน้าผากโดยแสงเลเซอร์ซึ่งจะไม่เจ็บและตาเปล่ามองไม่เห็น
Dr.Carl W.Sanders นักประดิษฐ์วิชาการและที่ปรึกษาขององค์กรรัฐบาล IBM General Electric,Honeywell และ Teledyne กล่าวว่า
"การฝังไม่โครชิพนั้นต้องอาศัยพลังงานในการชาร์จไฟ ซึ่งการจะฝังในร่างกายมนุษย์นั้นไม่สามารถที่จะนำออกมาชาร์จไฟได้ เราจึงต้องอาศัยการเปลี่ยนอุณหภูมิร่างกายของมนุษย์ซึ่งจะต้องต่อวงจรของชิพให้มีการชาร์จไฟทุกครั้งที่อุณหภูมิของร่างกายเปลี่ยนอุณหภูมิ ได้มีการใช้เงินไปถึง 1.5 ล้านดอลลาร์ในการค้นหาจุดของร่างกายที่มีการเปลี่ยนอุณหภูมิที่เร็วที่สุดซึ่งเหมาะแก่การฝังไมโครชิพคือที่ หน้าผาก และ หลังข้อมือ "
Dr.Carl W.Sanders ยังกล่าวอีกว่า "ข้าพเจ้าได้เข้าร่วมการประชุม One World เป็นจำนวน 17 ครั้งซึ่งได้มีการถกเถียงกันเรื่องไมโครชิพ การประชุมที่บรัสเซลล์และลักเซมเบิร์ก พยายามโยงการเงินของโลกเข้ามาอ้าง ขณะนี้กำลังมีพระราชบัญญัติเข้าสภา Congress ว่าจะอนุญาติให้ฝังไมโครชิพในทารกแรกเกิดด้วยวัตถุประสงค์เพื่อสำหรับข้อมูลประจำตัว "
นั่นทำให้เรายิ่งระลึกถึงคำทำนายที่ว่า
" สัตว์ร้ายตัวที่สองนี้บังคับทุกคน ทั้งผู้น้อย ผู้ใหญ่ ทั้งคนมั่งมีและคนยากจน ทั้งคนอิสระและทาส ให้สักตราไว้ที่มือขวาหรือที่หน้าผาก ไม่มีใครซื้อขายได้ ถ้าไม่มีตราคือนามของสัตว์ร้ายหรือจำนวนเลขของนามนั้น ดังนั้น จำเป็นต้องมีปรีชาญาณ ผู้มีปัญญาจงตีความจำนวนเลขของสัตว์ร้ายให้ได้ เพราะมันเป็นจำนวนเลขที่หมายถึงมนุษย์คนหนึ่ง จำนวนเลขนั้นคือ 666"
แม้นี่จะเป็นการถอดรหัสที่น่าสนใจ แต่แท้จริงจะเป็นเช่นไร เวลาเท่านั้นที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ พุธ มิ.ย. 07, 2006 8:48 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
Q: พระเยซูเจ้าเคยกล่าวอะไรถึง Antichrist บ้างหรือไม่
A: มันคือ False Prophet(ผู้เผยพระวจนะเทียม) ที่พระเยซูเจ้าทรงกล่าวเตือนใว้
มธ 24:15-25
เมื่อใดที่ท่านทั้งหลายเห็นผู้ทำลายที่น่ารังเกียจยืนอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ตามที่ประกาศกดาเนียลได้กล่าวไว้ เมื่อนั้น ผู้ที่อยู่ในแคว้นยูเดียจงหนีไปยังภูเขา ผู้ที่อยู่บนดาดฟ้าก็อย่าลงมาเก็บข้าวของในบ้าน ผู้ที่อยู่ในทุ่งนาจงอย่ากลับไปเอาเสื้อคลุมที่บ้าน น่าสงสารหญิงมีครรภ์และหญิงแม่ลูกอ่อนในวันนั้น จงอธิษฐานภาวนาอย่าให้ท่านต้องหนีในฤดูหนาว หรือในวันสับบาโต เพราะในเวลานั้น จะมีทุกขเวทนาใหญ่หลวงอย่างที่ไม่เคยมีตั้งแต่พระเจ้าทรงสร้างโลกจนบัดนี้ และจะไม่มีต่อไปอีกเลย ถ้าพระเจ้ามิได้ทรงให้วันเหล่านั้นสั้นลง เพราะทรงเห็นแก่ผู้ที่พระองค์ทรงเลือกสรรไว้
A: มันคือ False Prophet(ผู้เผยพระวจนะเทียม) ที่พระเยซูเจ้าทรงกล่าวเตือนใว้
มธ 24:15-25
เมื่อใดที่ท่านทั้งหลายเห็นผู้ทำลายที่น่ารังเกียจยืนอยู่ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ตามที่ประกาศกดาเนียลได้กล่าวไว้ เมื่อนั้น ผู้ที่อยู่ในแคว้นยูเดียจงหนีไปยังภูเขา ผู้ที่อยู่บนดาดฟ้าก็อย่าลงมาเก็บข้าวของในบ้าน ผู้ที่อยู่ในทุ่งนาจงอย่ากลับไปเอาเสื้อคลุมที่บ้าน น่าสงสารหญิงมีครรภ์และหญิงแม่ลูกอ่อนในวันนั้น จงอธิษฐานภาวนาอย่าให้ท่านต้องหนีในฤดูหนาว หรือในวันสับบาโต เพราะในเวลานั้น จะมีทุกขเวทนาใหญ่หลวงอย่างที่ไม่เคยมีตั้งแต่พระเจ้าทรงสร้างโลกจนบัดนี้ และจะไม่มีต่อไปอีกเลย ถ้าพระเจ้ามิได้ทรงให้วันเหล่านั้นสั้นลง เพราะทรงเห็นแก่ผู้ที่พระองค์ทรงเลือกสรรไว้
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
Q: แล้วสตรีผู้มีดวงอาทิตย์เป็นอาภรณ์และมังกรคือใคร ทำไมมังกรถึงได้โกรธแค้นขนาดนั้น
A: ก่อนจะตอบคำถามนี้ต้องอ่านพระธรรมวิวรณ์บทนี้อีกรอบครับ
วว 12:1-17
เครื่องหมายยิ่งใหญ่ปรากฏในสวรรค์ คือ สตรีผู้หนึ่งมีดวงอาทิตย์เป็นอาภรณ์ มีดวงจันทร์อยู่ใต้เท้า มีมงกุฎดาวสิบสองดวงประดับศีรษะ นางมีครรภ์แก่ กำลังร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดจะคลอดบุตร เครื่องหมายอีกประการหนึ่งปรากฏในสวรรค์ คือมังกรใหญ่สีแดง มีเจ็ดหัวและสิบเขา แต่ละหัวสวมมงกุฎ หางของมันตวัดดวงดาวหนึ่งในสามบนท้องฟ้าให้ตกลงมาบนแผ่นดิน มังกรยืนอยู่ตรงหน้าสตรีที่กำลังจะคลอดบุตรเพื่อจะกินบุตรของนางทันทีที่คลอด นางคลอดบุตรเป็นชาย ซึ่งจะต้องปกครองชาติทั้งหลายด้วยคทาเหล็ก แต่บุตรของนางถูกคว้าตัวขึ้นไปเฝ้าพระเจ้ายังพระบัลลังก์ของพระองค์ ส่วนสตรีนั้นหลบหนีไปในถิ่นทุรกันดาร ที่นั่นนางมีที่พำนักซึ่งพระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ให้ เพื่อนางจะได้รับการเลี้ยงดูเป็นเวลาหนึ่งพันสองร้อยหกสิบวัน สงครามเกิดขึ้นในสวรรค์ มีคาเอลกับเหล่าทูตสวรรค์ของเขาต่อสู้กับมังกร มังกรพร้อมกับบริวารของมันก็ต่อสู้ด้วย แต่มันพ่ายแพ้และไม่มีที่พำนักในสวรรค์อีกต่อไป มังกรใหญ่ คืองูดึกดำบรรพ์ที่มีชื่อว่าปีศาจและซาตาน ผู้ล่อลวงผู้อาศัยอยู่ทั่วแผ่นดินให้หลงไป ถูกโยนลงมาบนแผ่นดิน บริวารของมันก็ถูกโยนลงมาด้วย ข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังจากสวรรค์ว่า
A: ก่อนจะตอบคำถามนี้ต้องอ่านพระธรรมวิวรณ์บทนี้อีกรอบครับ
วว 12:1-17
เครื่องหมายยิ่งใหญ่ปรากฏในสวรรค์ คือ สตรีผู้หนึ่งมีดวงอาทิตย์เป็นอาภรณ์ มีดวงจันทร์อยู่ใต้เท้า มีมงกุฎดาวสิบสองดวงประดับศีรษะ นางมีครรภ์แก่ กำลังร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดจะคลอดบุตร เครื่องหมายอีกประการหนึ่งปรากฏในสวรรค์ คือมังกรใหญ่สีแดง มีเจ็ดหัวและสิบเขา แต่ละหัวสวมมงกุฎ หางของมันตวัดดวงดาวหนึ่งในสามบนท้องฟ้าให้ตกลงมาบนแผ่นดิน มังกรยืนอยู่ตรงหน้าสตรีที่กำลังจะคลอดบุตรเพื่อจะกินบุตรของนางทันทีที่คลอด นางคลอดบุตรเป็นชาย ซึ่งจะต้องปกครองชาติทั้งหลายด้วยคทาเหล็ก แต่บุตรของนางถูกคว้าตัวขึ้นไปเฝ้าพระเจ้ายังพระบัลลังก์ของพระองค์ ส่วนสตรีนั้นหลบหนีไปในถิ่นทุรกันดาร ที่นั่นนางมีที่พำนักซึ่งพระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ให้ เพื่อนางจะได้รับการเลี้ยงดูเป็นเวลาหนึ่งพันสองร้อยหกสิบวัน สงครามเกิดขึ้นในสวรรค์ มีคาเอลกับเหล่าทูตสวรรค์ของเขาต่อสู้กับมังกร มังกรพร้อมกับบริวารของมันก็ต่อสู้ด้วย แต่มันพ่ายแพ้และไม่มีที่พำนักในสวรรค์อีกต่อไป มังกรใหญ่ คืองูดึกดำบรรพ์ที่มีชื่อว่าปีศาจและซาตาน ผู้ล่อลวงผู้อาศัยอยู่ทั่วแผ่นดินให้หลงไป ถูกโยนลงมาบนแผ่นดิน บริวารของมันก็ถูกโยนลงมาด้วย ข้าพเจ้าได้ยินเสียงดังจากสวรรค์ว่า
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ พุธ มิ.ย. 07, 2006 8:45 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
Q: ท้ายสุดแล้วจะลงเอยอย่างไร
A: ท้ายที่สุดแล้วพระเจ้าและบรรดาผู้ที่อดทนยึดมั่นความชอบธรรมและพระเยซูเจ้าใว้ได้ จะได้รับชัยชนะ
วิวรณ์ 19:20
สัตว์ร้ายถูกจับเป็นเชลย ประกาศกเทียมที่เคยทำปาฏิหาริย์ต่อหน้าสัตว์ร้าย และใช้ปาฏิหาริย์เหล่านี้หลอกลวงผู้ที่ยอมสักตราของสัตว์ร้ายและผู้ที่กราบนมัสการรูปปั้นของสัตว์ร้ายนั้นก็ถูกจับเป็นเชลยพร้อมกันด้วย สัตว์ร้ายและประกาศกเทียมถูกโยนทั้งเป็นลงไปในทะเลไฟที่มีกำมะถันเป็นเชื้อเพลิง
วิวรณ์ 20:1 -3
ข้าพเจ้าเห็นทูตสวรรค์องค์หนึ่งลงมาจากสวรรค์ ถือกุญแจแห่งบาดาลและโซ่ใหญ่เส้นหนึ่ง เขาจับมังกร งูดึกดำบรรพ์คือปีศาจและซาตาน แล้วล่ามมันไว้เป็นเวลาหนึ่งพันปี โยนมันลงไปในบาดาล ปิดกุญแจทางเข้าและประทับตราไว้ข้างบน เพื่อมิให้มันหลอกลวงนานาชาติให้หลงผิดได้อีกจนกว่าจะครบกำหนดหนึ่งพันปี หลังจากนั้น มันจะต้องถูกปล่อยออกมาชั่วระยะเวลาสั้น ๆ..
A: ท้ายที่สุดแล้วพระเจ้าและบรรดาผู้ที่อดทนยึดมั่นความชอบธรรมและพระเยซูเจ้าใว้ได้ จะได้รับชัยชนะ
วิวรณ์ 19:20
สัตว์ร้ายถูกจับเป็นเชลย ประกาศกเทียมที่เคยทำปาฏิหาริย์ต่อหน้าสัตว์ร้าย และใช้ปาฏิหาริย์เหล่านี้หลอกลวงผู้ที่ยอมสักตราของสัตว์ร้ายและผู้ที่กราบนมัสการรูปปั้นของสัตว์ร้ายนั้นก็ถูกจับเป็นเชลยพร้อมกันด้วย สัตว์ร้ายและประกาศกเทียมถูกโยนทั้งเป็นลงไปในทะเลไฟที่มีกำมะถันเป็นเชื้อเพลิง
วิวรณ์ 20:1 -3
ข้าพเจ้าเห็นทูตสวรรค์องค์หนึ่งลงมาจากสวรรค์ ถือกุญแจแห่งบาดาลและโซ่ใหญ่เส้นหนึ่ง เขาจับมังกร งูดึกดำบรรพ์คือปีศาจและซาตาน แล้วล่ามมันไว้เป็นเวลาหนึ่งพันปี โยนมันลงไปในบาดาล ปิดกุญแจทางเข้าและประทับตราไว้ข้างบน เพื่อมิให้มันหลอกลวงนานาชาติให้หลงผิดได้อีกจนกว่าจะครบกำหนดหนึ่งพันปี หลังจากนั้น มันจะต้องถูกปล่อยออกมาชั่วระยะเวลาสั้น ๆ..
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ พุธ มิ.ย. 07, 2006 7:07 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
Q: มีข้อสังเกตุใดไหมว่าบุคคลผู้นี้ได้เกิดขึ้นแล้ว
A: มีข้อสังเกตุใหญ่ๆดังนี้
@เขาสั่งให้เลิกพิธีมิสซา(พิธีประกอบศาสนกิจของศาสนาคริสต์)
ดาเนียล 12:11
และตั้งแต่เวลาที่ให้เลิกเครื่องเผาบูชาเนืองนิตย์เสียนั้นและให้ตั้งสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนซึ่งกระทำให้เกิดความวิบัติขึ้นจะเป็นเวลาหนึ่งพันสองร้อยเก้าสิบวัน..
@เขาจะบังคับผู้คนอยู่ใต้อำนาจ
วิวรณ์ 13:16
"สัตว์ร้ายตัวที่สองนี้บังคับทุกคน ทั้งผู้น้อย ผู้ใหญ่ ทั้งคนมั่งมีและคนยากจน ทั้งคนอิสระและทาส ให้สักตราไว้ที่มือขวาหรือที่หน้าผาก ไม่มีใครซื้อขายได้ ถ้าไม่มีตราคือนามของสัตว์ร้ายหรือจำนวนเลขของนามนั้น"
@ เขาจะอ้างว่าตัวเขาเองคือพระเยซูเจ้าที่แท้จริง
@ เขาพยายามบิดเบือนพระธรรมคำสอน
มธ 24:4-14
พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า
A: มีข้อสังเกตุใหญ่ๆดังนี้
@เขาสั่งให้เลิกพิธีมิสซา(พิธีประกอบศาสนกิจของศาสนาคริสต์)
ดาเนียล 12:11
และตั้งแต่เวลาที่ให้เลิกเครื่องเผาบูชาเนืองนิตย์เสียนั้นและให้ตั้งสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนซึ่งกระทำให้เกิดความวิบัติขึ้นจะเป็นเวลาหนึ่งพันสองร้อยเก้าสิบวัน..
@เขาจะบังคับผู้คนอยู่ใต้อำนาจ
วิวรณ์ 13:16
"สัตว์ร้ายตัวที่สองนี้บังคับทุกคน ทั้งผู้น้อย ผู้ใหญ่ ทั้งคนมั่งมีและคนยากจน ทั้งคนอิสระและทาส ให้สักตราไว้ที่มือขวาหรือที่หน้าผาก ไม่มีใครซื้อขายได้ ถ้าไม่มีตราคือนามของสัตว์ร้ายหรือจำนวนเลขของนามนั้น"
@ เขาจะอ้างว่าตัวเขาเองคือพระเยซูเจ้าที่แท้จริง
@ เขาพยายามบิดเบือนพระธรรมคำสอน
มธ 24:4-14
พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ พุธ มิ.ย. 07, 2006 8:46 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
Q: มีการกล่าวถึง Antichrist ในแง่อื่นๆนอกเหนือจากพระคำภีร์อีกใหม?
A: มี
ขอยกตัวอย่างคำทำนายของนอสตราดามุสที่ได้เขียนจดหมายทูลกษัติริย์อังรี่ที่ 2แห่งฝรั่งเศษที่กล่าวถึงแอนตี้ไครส์มาให้ได้อ่านกัน
"แอนตี้ไครส์เป็นเจ้าแห่งอเวจีที่มาในโลกมนุษย์ คริสต์ศาสนาจะสั่นคลอน จะมีสงครามน้อยใหญ่เกิดขึ้นจนถึงสงครามขั้นรุนแรง เมืองเล็กเมืองใหญ่ตึกรามบ้านช่องจะถูกไฟเผา ผู้หญิงจะถูกข่มขืน ทารกที่เพิ่งเกิดใหม่จะถูกโยนทิ้งและจับฟาดกับกำแพงเมืองให้ตาย จะมีคนมากมายประกอบกิจอันชั่วช้า ซึ่งก่อนเหตุการ์ณนี้จะมีนกประหลาดส่งเสียงร้องที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนบนท้องฟ้า"
หรือแม้แต่บรรดาผู้ที่คริสตศาสนานิกายโรมันคาทอลิคแต่งตั้งให้เป็นนักบุญ(ผู้ที่ดำเนินชีวิตได้ศักดิสิทธ์ สมควรได้รับเกียรติและการยกย่อง)บางองค์ที่ได้รับนิมิตถึงเรื่องของ Antichrist
นักบุญบริเจต์ แห่งสวีเดน (1373):
"ยุคของปรปักษ์พระคริสต์จะเข้ามาใกล้เมื่อความบาปท่วมท้น ความชั่วจะแพร่อย่างมหาศาลเมื่อคริสต์ชนถือนอกรีตและคนอธรรมเหยียบย่ำคนรับใช้ของพระเป็นเจ้า ในท้ายยุคนี้ antichrist จะถือกำเนิดขึ้นจากสตรีที่ถูกสาปแช่ง แม่ของมันจะแสร้งทำเป็นผู้รู้ซึ่งเรื่องวิญญาณ และพ่อของมันก็ถูกสาปแช่งด้วยเพราะลูกของมันคือปีศาจ ความชั่วและความไร้ศรัทธาจะแพร่ขยายไปทั่ว คนชั่วจะครองอำนาจ และมันจะมีอำนาจควบคุมโลกอยู่ 3 ปี "
A: มี
ขอยกตัวอย่างคำทำนายของนอสตราดามุสที่ได้เขียนจดหมายทูลกษัติริย์อังรี่ที่ 2แห่งฝรั่งเศษที่กล่าวถึงแอนตี้ไครส์มาให้ได้อ่านกัน
"แอนตี้ไครส์เป็นเจ้าแห่งอเวจีที่มาในโลกมนุษย์ คริสต์ศาสนาจะสั่นคลอน จะมีสงครามน้อยใหญ่เกิดขึ้นจนถึงสงครามขั้นรุนแรง เมืองเล็กเมืองใหญ่ตึกรามบ้านช่องจะถูกไฟเผา ผู้หญิงจะถูกข่มขืน ทารกที่เพิ่งเกิดใหม่จะถูกโยนทิ้งและจับฟาดกับกำแพงเมืองให้ตาย จะมีคนมากมายประกอบกิจอันชั่วช้า ซึ่งก่อนเหตุการ์ณนี้จะมีนกประหลาดส่งเสียงร้องที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนบนท้องฟ้า"
หรือแม้แต่บรรดาผู้ที่คริสตศาสนานิกายโรมันคาทอลิคแต่งตั้งให้เป็นนักบุญ(ผู้ที่ดำเนินชีวิตได้ศักดิสิทธ์ สมควรได้รับเกียรติและการยกย่อง)บางองค์ที่ได้รับนิมิตถึงเรื่องของ Antichrist
นักบุญบริเจต์ แห่งสวีเดน (1373):
"ยุคของปรปักษ์พระคริสต์จะเข้ามาใกล้เมื่อความบาปท่วมท้น ความชั่วจะแพร่อย่างมหาศาลเมื่อคริสต์ชนถือนอกรีตและคนอธรรมเหยียบย่ำคนรับใช้ของพระเป็นเจ้า ในท้ายยุคนี้ antichrist จะถือกำเนิดขึ้นจากสตรีที่ถูกสาปแช่ง แม่ของมันจะแสร้งทำเป็นผู้รู้ซึ่งเรื่องวิญญาณ และพ่อของมันก็ถูกสาปแช่งด้วยเพราะลูกของมันคือปีศาจ ความชั่วและความไร้ศรัทธาจะแพร่ขยายไปทั่ว คนชั่วจะครองอำนาจ และมันจะมีอำนาจควบคุมโลกอยู่ 3 ปี "
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ พุธ มิ.ย. 07, 2006 7:27 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ทำไมต้อง666
เลขของพระเจ้าคือ 333 เป็นเลขที่สมบูรณ์สมดุลย์ และลงตัวมาก เลข3 3ตัว สื่อถึงหลักความเชื่อเรื่อง ตรีเอกภาพ (Holy Trinity) นั่นคือความเชื่อที่ว่า พระบิดา(พระเจ้า) พระบุตร(พระเยซู) และ พระจิต 3พระบุคคล เป็น1เดียวกัน
ซาตาน คือการพยายามเป็นใหญ่กว่าพระเจ้า การใช้เลข666 เพื่อพยายามบอกว่ามันใหญ่กว่า แต่จะเห็นว่าเลขมันเกินสมดุลย์ มีทฤษฎีที่ว่า ซาตานไม่ได้สร้างสิ่งไม่ดีหรือสร้างอะไรขึ้นมาได้เองเลย ผู้สร้างมีพระเจ้าผู้เดียว ซาตานใช้วิธี ทำให้สิ่งที่ดีกลายเป็นสิ่งไม่ดี เรียกว่าบาป โดยการทำให้โลกที่ดีอยู่แล้วนี้ เสียสมดุลย์ เช่นโลกเราเลวร้ายลงทั้งสิ่งแวดล้อม ทั้งการเอารัดเอาเปรียบ ฯลฯ เพราะการต้องการเกินพอดี สูบทรัพยากรเกินพอดี โลภเกินพอดี ทำลายสมดุลย์ จึงกลายเป็นความไม่ดี
อย่างในข้อนี้
วว 13:4
ทุกคนนมัสการมังกรเพราะมันมอบอำนาจให้สัตว์ร้าย และทุกคนยังนมัสการสัตว์ร้าย กล่าวว่า
เลขของพระเจ้าคือ 333 เป็นเลขที่สมบูรณ์สมดุลย์ และลงตัวมาก เลข3 3ตัว สื่อถึงหลักความเชื่อเรื่อง ตรีเอกภาพ (Holy Trinity) นั่นคือความเชื่อที่ว่า พระบิดา(พระเจ้า) พระบุตร(พระเยซู) และ พระจิต 3พระบุคคล เป็น1เดียวกัน
ซาตาน คือการพยายามเป็นใหญ่กว่าพระเจ้า การใช้เลข666 เพื่อพยายามบอกว่ามันใหญ่กว่า แต่จะเห็นว่าเลขมันเกินสมดุลย์ มีทฤษฎีที่ว่า ซาตานไม่ได้สร้างสิ่งไม่ดีหรือสร้างอะไรขึ้นมาได้เองเลย ผู้สร้างมีพระเจ้าผู้เดียว ซาตานใช้วิธี ทำให้สิ่งที่ดีกลายเป็นสิ่งไม่ดี เรียกว่าบาป โดยการทำให้โลกที่ดีอยู่แล้วนี้ เสียสมดุลย์ เช่นโลกเราเลวร้ายลงทั้งสิ่งแวดล้อม ทั้งการเอารัดเอาเปรียบ ฯลฯ เพราะการต้องการเกินพอดี สูบทรัพยากรเกินพอดี โลภเกินพอดี ทำลายสมดุลย์ จึงกลายเป็นความไม่ดี
อย่างในข้อนี้
วว 13:4
ทุกคนนมัสการมังกรเพราะมันมอบอำนาจให้สัตว์ร้าย และทุกคนยังนมัสการสัตว์ร้าย กล่าวว่า
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ พุธ มิ.ย. 07, 2006 7:44 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
อ่าน เรื่องเลข66 ของคุณholyแล้ว
คิดถึงนิยาย ซิลมาริเลี่ยน มหากาพย์ ของ โทลคีน(LoTR)
ที่ว่า องค์เอรู(พระเจ้าสูงสุด) ได้ สรรพสิ่ง ด้วย อมตอัคคี
แต่แล้ว เทพวาลาร์บุตรหัวปีขององค์เอรู นามว่า เมลคอร์
ก็ได้ ทำการ จำลองทุกสิ่งสรรพ ของพระเจ้า มา เป็นของตัว
-เอลฟ์---> ออร์ค
-คนแคระ--->กอบลิ้น
-มนุษย์--->โทรล
__________
ไอเดียของสุดยอดวรรณกรรม อย่าง นาร์เนียหรือ ตำนานแหวน
ก็มาจากSuperBook:bibleสินะ ;D
คิดถึงนิยาย ซิลมาริเลี่ยน มหากาพย์ ของ โทลคีน(LoTR)
ที่ว่า องค์เอรู(พระเจ้าสูงสุด) ได้ สรรพสิ่ง ด้วย อมตอัคคี
แต่แล้ว เทพวาลาร์บุตรหัวปีขององค์เอรู นามว่า เมลคอร์
ก็ได้ ทำการ จำลองทุกสิ่งสรรพ ของพระเจ้า มา เป็นของตัว
-เอลฟ์---> ออร์ค
-คนแคระ--->กอบลิ้น
-มนุษย์--->โทรล
__________
ไอเดียของสุดยอดวรรณกรรม อย่าง นาร์เนียหรือ ตำนานแหวน
ก็มาจากSuperBook:bibleสินะ ;D
สุดยอดค่ะ ขอบคุณมาก ^^
น่าสนใจมั่กๆ
น่าสนใจมั่กๆ
-
- โพสต์: 45
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มิ.ย. 03, 2006 7:03 pm
- ที่อยู่: SomewherE
เขียนได้ดีค่ะ ชอบจัง
เรื่อง The Silmarillion เราก็อ่านค่ะ
ชอบมากเลย
ก็ได้รับอิทธิพลจากไบเบิ้ลแหละค่ะ
คุณโทลคีนเขาเป็นคาทอลิก อิอิ
เรื่อง The Silmarillion เราก็อ่านค่ะ
ชอบมากเลย
ก็ได้รับอิทธิพลจากไบเบิ้ลแหละค่ะ
คุณโทลคีนเขาเป็นคาทอลิก อิอิ
-
- โพสต์: 131
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 14, 2006 12:38 am
- ที่อยู่: Bangkok , St.JoHn Church & Fatima
ยุคสุดท้ายกำลังคืบคลานเข้ามาแล้ว อย่าคิดเวลานั้นจะอยู่ในรุ่นหลานๆเรา แต่มันจะอยู่ในยุคของเรา เพราะเราอยู่ในยุคสุดท้ายอย่างแน่นอน และการเสด็จมาในครั้งที่ 2 ของพระเยซูเราจะได้เห็นกันแล้ว ดังนั้น ธรรมิกชนทั้งหลาย จงเตรียมใจให้พร้อม จงระแวดระวังที่จะกระทำให้วิญญาณของตนเองเป็นของพระเจ้า อย่าเผลอเรอ ทำตัวตกต่ำ เพราะว่าเวลานั้นเราก็ไม่รู้ พระองค์ตรัสว่า เวลานั้นจะมาเหมือนขโมยย่องมา หมั่นสวดภาวนาให้วิญญาณของเราได้รับการฟื้นฟูเสมอ ไม่เช่นนั้น เราก็จะเป็นของมาร ซึ่งจะกลับใจใหม่ในเวลานั้น ก็สายไปเสียแล้ว
สาธุการแด่พระเจ้า องค์ผู้ทรงสร้างโลกาและจักรวาล ผู้เป็นปฐมและอวสาน เป็นอัลฟาและโอเมกา ขอพระฤทธานุภาพของพระองค์ทรงพิทักษ์วิญญาณของธรรมิกชน ในบัดนี้ และเมื่อจะตาย อาเมน
สาธุการแด่พระเจ้า องค์ผู้ทรงสร้างโลกาและจักรวาล ผู้เป็นปฐมและอวสาน เป็นอัลฟาและโอเมกา ขอพระฤทธานุภาพของพระองค์ทรงพิทักษ์วิญญาณของธรรมิกชน ในบัดนี้ และเมื่อจะตาย อาเมน
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
รหัสธรรมเลข 3 ซึ่งเป็นเลขของพระตรีเอกภาพ
พระบิดา
พระบุตร
พระจิต
ศิลปินที่วาดภาพมักจะใช้รหัสธรรมนี้ในการสื่ออกมาเป็นรูปภาพที่เขาวาด
เช่นพระหัตถุ์ของพระเยซูเจ้าทรงชู 3 นิ้วซึ่งหมายถึง พระบิดา พระบุตร และพระจิต
พระบิดา
พระบุตร
พระจิต
ศิลปินที่วาดภาพมักจะใช้รหัสธรรมนี้ในการสื่ออกมาเป็นรูปภาพที่เขาวาด
เช่นพระหัตถุ์ของพระเยซูเจ้าทรงชู 3 นิ้วซึ่งหมายถึง พระบิดา พระบุตร และพระจิต
น่าขึ้นหน้าบทความนะครับ :D
-
- โพสต์: 659
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 10, 2005 2:01 pm
- ที่อยู่: I believe in God...
มีคนถามถึงเรื่องนี้อยู่พอดีเลย 666 :)
- -*-St.GrEGoRY-*-
- โพสต์: 309
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ธ.ค. 15, 2005 2:06 pm
สวยจังครับ
ขอบคุณครับ ;D
ขอบคุณครับ ;D
-
- โพสต์: 1946
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มิ.ย. 01, 2005 8:23 pm
- ที่อยู่: On this earth obviously
โอ้โห เยี่ยมงับ *thx
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
minnie เขียน: ขอบพระคุณสำหรับ ความรู้ค่ะ
ขอเลขเจ็ดด้วยยยย :D
เรื่องเลข 7 อยู่ที่นี่คะ
http://www.newmana.com/Science_and_God/Seven01.htm