พญานาค

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อาทิตย์ ส.ค. 06, 2006 6:29 am

พญานาค

    ในตำนานสิงหนวัติ กล่าวว่า เมื่อเจ้าเมืองสิงหนวัติอพยพคนมาจากทางเหนือ พญานาคแปลงกายมาช่วยชี้ที่ตั้งเมืองใหม่ และขอให้อยู่ในทศพิธราชธรรม พอตกกลางคืนก็ขึ้นมาสร้างคูเมือง 4 ด้าน เป็น เมืองนาคพันธุ์สิงหนวัติ ต่อมาเมื่อยกทัพปราบเมืองอื่นได้ และรวมดินแดนเข้าด้วยกัน จึงเปลี่ยนชื่อเป็น แคว้นโยนกนาคราช ที่เห็นได้ชัดก็คือ ที่ปราสาทพนมรุ้ง จะมีคูเมืองที่เป็นสระน้ำ 4 ด้าน รอบปราสาทและมี พญานาค อยู่ด้วย ตามความเชื่อของคนสมัยโบราณ นาคจะมีความหมายเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจากน้ำ เช่น การสร้างศาสนสถานไม่ว่าจะเป็นอุโบสถ นาคที่ราวบันได จึงมี พญานาค ซึ่งตามความเป็นจริง (ความเชื่อ) การสร้างต้องสร้างกลางน้ำ เพื่อให้ดูเหมือนว่าศาสนสถานนั้นลอยอยู่เหนือน้ำ แต่ก็ไม่ต้องสร้างจริง ๆ เพียงแต่มีสัญลักษณ์ พญานาค ไว้ เช่น ที่ปราสาทพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นต้น

      แม้เกี่ยวกับชีวิตมนุษย์ ก็จะมีอยู่ในราศีเกิด เช่นของคนนักษัตรปีมะโรง ที่มีความหมายถึง ความยิ่งใหญ่และพลังอำนาจ ที่มี พญานาค เป็นสัญลักษณ์

      นาคให้น้ำ...พญานาค เป็นสัญลักษณ์แห่งธาตุน้ำ นาคให้น้ำ เป็นเกณฑ์ที่ชาวบ้านรู้และเข้าใจดี ที่ใช้วัดในแต่ละปี จำนวนนาคให้น้ำมีไม่เกิน 7 ตัว ถ้าปีไหนอุดมสมบูรณ์มีน้ำมากเรียกว่า นาคให้น้ำ 1 ตัว แต่หากปีไหนแห้งแล้งเรียกว่าปีนั้น มีนาคให้น้ำ 7 ตัว จะวัดกลับกันกับจำนวนนาค ก็คือที่น้ำหายไป เกิดความแห้งแล้งนั้นก็เพราะ พญานาคกลืนน้ำไว้ในท้อง

      เกี่ยวข้องกับคนไทย...เรามักจะเห็นสัญลักษณ์ที่เกี่ยวกับนาคได้เสมอ ในงาน จิตรกรรม ประติมากรรม และหัตถกรรม นาคเป็นส่วนประกอบที่สำคัญทางสถาปัตยกรรม โดยเฉพาะตามอาคารวัดต่าง ๆ หลังคาอาคารที่สร้างขึ้นสำหรับสถาบันพระมหากษัตริย์ และสถานบันศาสนสถาน ตามคตินิยมที่ว่า นาคยิ่งใหญ่คู่ควรกับสถาบันอันสูงส่ง เช่น นาคสะดุ้ง ที่ทอดลำตัวยาวตามบันได นาคลำยอง ที่ทำเป็นป้านลมหลังคาโบสถ์ ที่ต่อเชื่อมกับนาคสะดุ้ง นาคเบือน นาคจำลอง และนาคทันต์คันทวยรูปพญานาค

    พญานาค...เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา

        ตามตำนาน พญานาค มีอยู่ก่อนสมัยพระพุทธเจ้าแล้ว ดังเช่น หลังจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมพิเศษแล้ว ได้เสด็จไปตามเมืองต่าง ๆ เพื่อแสดงธรรมเทศนา มีครั้งหนึ่งได้เสด็จออกจากร่มไม้อธุปปาลนิโครธ ไปยังร่มไม้จิกชื่อ มุจลินท์ ทรงนั่งเสวยวิมุตติสุข อยู่ 7 วัน คราวเดียวกันนั้นมีฝนตกพรำ ๆ ประกอบไปด้วยลมหนาวตลอด 7 วัน ได้มีพญานาคชื่อ มุจลินท์ เข้ามาวงด้วยขด 7 รอบพร้อมกับแผ่พังพานปกพระผู้มีพระภาคเจ้า เพื่อจะป้องกันฝนตกและลมมิให้ถูกพระวรกาย หลังจากฝนหายแล้ว คลายขนดออก แปลงเพศเป็นมานพมายืนเฝ้าที่เบื้องพระพักตร์ ด้วยความศรัทธาอย่างแรงกล้า

        ความเชื่อดังกล่าวทำให้ชาวพุทธสร้างพระพุทธรูปปางนาคปรก แต่มักจะสร้างแบบพระนั่งบนตัวพญานาค ซึ่งดูเหมือนว่าเอาพญานาคเป็นบัลลังก์ เพื่อให้เกิดความสง่างาม และทำให้คิดว่า พญานาค คือผู้คุ้มครองพระศาสดา

      พญานาค...สะพาน (สายรุ้ง) ที่เชื่อมโลกมนุษย์กับสวรรค์ หรืออีกชื่อหนึ่งก็คือ โลกศักดิ์สิทธิ์ ความเชื่อที่ว่า พญานาคกับรุ้ง เป็นอันเดียวกัน ก็คือสะพานเชื่อมโลกมนุษย์กับสวรรค์นั่นเอง

        นาคสะดุ้ง...ที่ราวบันไดโบสถ์นั้นได้สร้างขึ้นตามความเชื่อถือ บันไดนาค ก็ด้วยความเชื่อดังกล่าว แม้ตอนที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากดาวดึงส์ ก็โดยบันไดแก้วมณีสีรุ้ง ที่เทวดาเนรมิตขึ้นและมีพญานาคจำนวน 2 ตน เอาหลังหนุนบันไดไว้หรือแม้แต่ ตุง ของชาวล้านนา และพม่า ก็เชื่อกันว่าคลี่คลายมาจากพญานาค และหมายถึงบันไดสู่สวรรค์

        ความเชื่อของชาวฮินดู ก็ถือว่า นาคเป็นสะพานเชื่อมภาวะปกติ กับที่สถิตของเทพ ทางเดินสู่วิษณุโลก เช่น ปราสาทนครวัด จึงทำเป็น พญานาคราช ที่ทอดยาวรับมนุษย์ตัวเล็ก ๆ สู่โลกแห่งความศักดิ์สิทธิ์ หรือก็บั้งไฟของชาวอีสานที่ทำกันในงานประเพณีเดือนหก ก็ยังทำเป็นลวดลาย และเป็นรูปพญานาค พญานาคนั้นจะถูกส่งไปบอกแถนบนฟ้าให้ปล่อยฝนลงมา

        ในสมัยพระพุทธเจ้า มีพญานาคตนหนึ่งนั่งฟังธรรมเทศนาของพระพุทธเจ้าแล้วได้เกิดศรัทธา จึงได้แปลงกายเป็นมนุษย์ขอบวชเป็นพระภิกษุ แต่อยู่มาวันหนึ่งเข้านอนในตอนกลางวัน หลังจากหลับแล้วมนต์ได้เสื่อมกลายเป็นงูใหญ่ จนพระภิกษุรูปอื่นไปเห็นเข้า ต่อมาพระพุทธเจ้าทรงทราบจึงให้พระภิกษุนาคนั้นสึกออกไป เพราะเป็นสัตว์เดรัจฉาน นาคตนนั้นผิดหวังมาก จึงขอถวายคำว่า นาค ไว้ใช้เรียกผู้ที่เข้ามาขอบวชในพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นอนุสรณ์ในความศรัทธาของตน

          ต่อจากนั้นมาพระพุทธเจ้าจึงทรงบัญญัติไม่ให้สัตว์เดรัจฉาน ไม่ว่าจะเป็นนาค ครุฑ หรือสัตว์อื่น ๆ บวชอีกเป็นอันขาด เพราะก่อนที่อุปัชฌาย์จะอุปสมบทให้แก่ผู้ขอบวชจะต้องถาม อัตรายิกธรรม หรือข้อขัดข้องที่จะทำให้ผู้นั้นบวชเป็นพระภิกษุไม่ได้ รวม 8 ข้อเสียก่อน ในจำนวน 8 ข้อนั้น มีข้อหนึ่งถามว่า ท่านเป็นมนุษย์หรือเปล่า

        เหตุที่พระสุกจมน้ำ ที่เวินสุก บ้านหนองกุ้ง อำเภอโพนพิสัย
          มีการเล่าขานถึงความศรัทธาของพญานาคว่า เหล่าพญานาค นั้นเป็นผู้ที่มีความเคารพ และศรัทธาในพระพุทธเจ้ามาก หลังจากที่มีการสร้างพระพุทธรูปขึ้นที่เมืองล้านช้าง ประเทศลาว ความทราบถึงเหล่าพญานาค ที่อยู่เมืองบาดาล จึงได้แปลงกายขึ้นไปขอพระพุทธรูปกับเจ้าเมืองล้านช้าง โดยเจาะจงขอเอาพระสุก เพื่อไปไหว้สักการะบูชา ที่เมืองบาดาล ปกติเหล่าพญานาคเป็นผู้ที่ถือศีลแปดเคร่งครัดมาก พญานาค จะไม่ทำร้ายใคร ส่วนมนุษย์ตายในน้ำที่ว่าเงือกกินนั้น เงือกก็คือ พญานาค ชั้นเลว ประพฤติตนเกเร จึงชอบทำร้ายมนุษย์ตามน้ำ เดี๋ยวนี้พระสุกก็ยังจมอยู่ในแม่น้ำโขง ที่ที่เป็นที่อยู่ของเหล่า พญานาค ในเมืองบาดาล เวินสุกอยู่ตรงข้ามกับบ้านหนองกุ้ง อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย ตรงนั้นเป็นบริเวณปากน้ำงึมไหลลงมาออกแม่น้ำโขง เป็นแม่น้ำสองสี

        เมืองพญานาค หรือเมืองบาดาล
          ในเมื่อมีเมืองมนุษย์ หรือโลกมนุษย์ โลกสวรรค์ หรือเมืองสวรรค์ ก็ต้องมีเมืองบาดาล (เมืองพญานาค) สองเมืองนอกจากเมืองมนุษย์แล้วหลายคนก็คงต้องอยากไปเป็นแน่ วิสัยของมนุษย์ชอบในสิ่งที่ท้าทาย ยิ่งห้ามก็ยิ่งอยากพบ อยากเห็นเมืองบาดาลอยู่ใต้เมืองมนุษย์ลงไปในใต้ดิน 16 กิโลเมตร (ตามความเชื่อ) มีคำเล่าลือเกี่ยวกับเมืองบาดาลในเขต อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย (แต่อย่าอุตริขุดไปหาพญานาคก็แล้วกัน)

        พระพุทธเจ้าเสด็จเทวโลก
            ครั้งหนึ่ง เมื่อพระพุทธเจ้าได้เสด็จพร้อมด้วยพระอรหันต์จำนวน 500 รูป เพื่อเสด็จไปยังเทวโลก ได้ผ่านวิมานของเหล่าพญานาค ที่กำลังมีการรื่นเริงกันอย่างสนุกสนาน ที่มี นันโทปะนันทะนาคราช เป็นประธานใหญ่ เมื่อเห็นคณะสงฆ์ผ่านไปเหนือวิมานจึงมีความโกรธมาก จึงได้ตรงไปยังเขาพระสุเมรุแปลงตนเป็นนาคขนาดใหญ่ พันโอบเขาพระสุเมรุด้วยขดถึง 7 รอบ แล้วแผ่พังพานบังชั้นดาวดึงส์เอาไว้ เพื่อไม่ให้พระพุทธเจ้าและพระสงฆ์ผ่านไปได้ และเมื่อเป็นดังนั้นได้มีพระอรหันต์หลายรูปอาสาปราบ แต่พระพุทธเจ้าไม่ทรงอนุญาต จน พระโมคคัลลานะ ผู้ซึ่งตามเสด็จไปด้วยอาสา พระองค์จึงทรงอนุญาต ดังนั้น พระโมคคัลลานะ จึงได้แปลงกายเป็นนาคราชขนาดใหญ่กว่าถึงเท่าตัว พันเอานาคนันโทปะนันทะนาคราช เอาไว้ด้วยขดถึง 14 รอบ นาคราชทนไม่ไหวบันดาลให้ไฟลุกขึ้น พระโมคคัลลานะ ก็ให้เกิดไฟขึ้นเช่นกัน ไฟของนันโทปะนันทะนาคราชสู่ไม่ไหว จึงถามว่า ท่านผู้เจริญ ท่านเป็นใคร ตอบว่า เราคือโมคคัลลานะ ศิษย์ของตถาคตนันโทปะนันทะนาคราช จึงบอกว่า ท่านจงคืนร่างกลับเป็นพระเหมือนเดิมเถิด แต่ด้วยนิสัยของผู้รู้ว่า นันโทปะนันทะนาคราช เป็นคนไม่ยอมแพ้ใครง่าย ๆ จึงได้แปลงกายให้เล็กนิดเดียว สามารถเข้ารูหู รูจมูกได้ แล้วเข้าไปตามรูต่าง ๆ จน นันโทปะนันทะนาคราช ทนไม่ไหว และนันโทปะนันทะนาคราช สู้ไม่ได้จึงหนีไป พระโมคคัลลานะ จึงแปลงร่างเป็นพญาครุฑไล่ติดตามไป เมื่อหนีไม่พ้นจึงแปลงร่างเป็นมาณพหนุ่ม ยอมแพ้พระโมคคัลลานะและที่สุดจึงยอมให้พระพุทธเจ้าพร้อมพระอรหันต์ผ่านไปแต่โดยดี
lordtole
โพสต์: 131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 14, 2006 12:38 am
ที่อยู่: Bangkok , St.JoHn Church & Fatima

อาทิตย์ ส.ค. 06, 2006 5:57 pm

แต่ศาสนาคริสต์ มองพญานาคเป็นอีกแบบ อิอิ อันนี้ไม่ขอพูดแล้วกัน
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

อาทิตย์ ส.ค. 06, 2006 9:34 pm

lordtole เขียน: แต่ศาสนาคริสต์ มองพญานาคเป็นอีกแบบ อิอิ อันนี้ไม่ขอพูดแล้วกัน
อ้าว พูดให้อยากรู้ไมอ่ะคับ ::007::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ ส.ค. 06, 2006 9:54 pm

Batholomew เขียน:
lordtole เขียน: แต่ศาสนาคริสต์ มองพญานาคเป็นอีกแบบ อิอิ อันนี้ไม่ขอพูดแล้วกัน
อ้าว พูดให้อยากรู้ไมอ่ะคับ ::007::
คริสเตียน จะแม่นเรื่องพระคัมภีร์หน่ะครับ พี่มิว

พี่ต้น เลยลืมไป คิดว่าพี่ และคนอื่นๆทราบอยู่แล้วครับ : xemo029 :
Phulasso
โพสต์: 1236
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.พ. 24, 2006 10:18 am
ที่อยู่: Thailand

อาทิตย์ ส.ค. 06, 2006 10:08 pm

นาคก็คือสัตว์จำพวกงู หรือ อาจจะเก่าถึงไดโนเสาร์ก็เป็นได้ ที่อาศัยอยู่ในน้ำ
เมื่อคนไม่รู้จักก็กลายเป็นกึ่งเทพไปเลย
ทุกวันนี้ คนก็ยังไปฝนหินหาหวยได้นี่นา

จิตร ภูมิศักดิ์ อธิบายถึงนาค ที่ไปขอพระพุทธเจ้าบวชว่า
น่าจะเป็นคนป่าเผ่าหนึ่งในอินเดียที่เรียกตัวเองว่า Naga
พระพุทธเจ้าทรงเห็นว่าถ้าให้บวช คงจะไม่เหมาะ (จิตรว่านะ ไม่ต้องมาต่อว่า  Phulasso)
แต่เมื่อชื่อพ้อง เสียงพ้องกับสัตว์ที่เป็น พญานาค เรื่องก็เลยกลายเป็น
พญานาคมาขอบวชไปเสียอย่างนั้น
แต่คนที่เชื่อในพญานาคก็เยอะนะ
PeterCartoon
โพสต์: 141
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.ค. 03, 2006 12:17 pm

จันทร์ ส.ค. 07, 2006 7:20 am

แต่ที่น่ากลัวว่าพญานาคคือ..............................แม่นาค(ก)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

จันทร์ ส.ค. 07, 2006 7:53 am

PeterCartoon เขียน: แต่ที่น่ากลัวว่าพญานาคคือ..............................แม่นาค(ก)
จริงอ่ะ? ::006::
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

จันทร์ ส.ค. 07, 2006 9:23 am

PeterCartoon เขียน: แต่ที่น่ากลัวว่าพญานาคคือ..............................แม่นาค(ก)
ขนาดนั้น ::010::
lordtole
โพสต์: 131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 14, 2006 12:38 am
ที่อยู่: Bangkok , St.JoHn Church & Fatima

จันทร์ ส.ค. 07, 2006 12:29 pm

Batholomew เขียน:
lordtole เขียน: แต่ศาสนาคริสต์ มองพญานาคเป็นอีกแบบ อิอิ อันนี้ไม่ขอพูดแล้วกัน
อ้าว พูดให้อยากรู้ไมอ่ะคับ ::007::
ที่ไม่พูดก็เพราะว่า ในเรื่องของพญานาคนั้นในความหมายของพระคัมภีร์นั้นจะดูทับถมความเชื่อของศาสนาอื่นๆครับ และอาจเกิดความเข้าใจผิดได้ถ้าเกิดว่าศาสนิกชนอื่นๆเข้ามาอ่าน ถ้าอยากเข้าใจลองอ่านในพระธรรมวิวรณ์ดูสิครับว่า พระคัมภีร์พูดถึงพญานาคว่าอย่างไร
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

จันทร์ ส.ค. 07, 2006 12:47 pm

lordtole เขียน:
Batholomew เขียน:
lordtole เขียน: แต่ศาสนาคริสต์ มองพญานาคเป็นอีกแบบ อิอิ อันนี้ไม่ขอพูดแล้วกัน
อ้าว พูดให้อยากรู้ไมอ่ะคับ ::007::
ที่ไม่พูดก็เพราะว่า ในเรื่องของพญานาคนั้นในความหมายของพระคัมภีร์นั้นจะดูทับถมความเชื่อของศาสนาอื่นๆครับ และอาจเกิดความเข้าใจผิดได้ถ้าเกิดว่าศาสนิกชนอื่นๆเข้ามาอ่าน ถ้าอยากเข้าใจลองอ่านในพระธรรมวิวรณ์ดูสิครับว่า พระคัมภีร์พูดถึงพญานาคว่าอย่างไร
::010:: ไม่ค่อยได้อ่านซะด้วย เอางี้ครับ ช่วยส่ง im มาบอกได้ป่าวครับว่าบทไหน
lordtole
โพสต์: 131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 14, 2006 12:38 am
ที่อยู่: Bangkok , St.JoHn Church & Fatima

จันทร์ ส.ค. 07, 2006 2:24 pm

ไหนๆก็ไหนๆละ ยกตัวอย่างข้อพระคัมภีร์ให้ได้ดูเลยละกันครับ แต่ต้องขออภัยพี่น้องศาสนิกชนอื่นที่เข้ามาอ่านพอดีด้วยนะครับ

สัตว์ร้ายสองตัว  วิวรณ์ 13:1-4
1 ข้าพเจ้าได้เห้นสัตว์ร้ายตัวหนึ่งขึ้นมาจากทะเล มันมีเจ็ดหัวและสิบเขา ที่เขาทั้งสิบนั้นมีมงกุฎสิบอัน และมีชื่อที่เป็นคำหมิ่นประมาทพระเจ้าจารึกไว้ที่หัวของมัน 2 สัตว์ร้ายที่ข้าพเจ้าได้เห็นนั้น ตัวเหมือนเสือดาว และตีนเหมือนตีนหมี และปากเหมือนสิงห์ และพญานาคได้ให้ฤทธิ์อำนาจอันยิ่งใหญ่และที่นั่งของมันแก่สัตว์ร้ายนั้น 3 หัวๆหนึ่งของมันดูเหมือนถูกฟันปางตาย แต่แผลที่ถูกฟันนั้นรักษาหายแล้ว คนทั้งโลกติดตามสัตว์ร้ายนั้นด้วยความอัศจรรย์ใจ 4 เขาทั้งหลายได้บูชาพญานาคเพราะพญานาคได้ให้อำนาจแก่สัตว์ร้ายนั้น เขาได้บูชาสัตว์ร้ายนั้น กล่าวว่า "ไครจะเปรียบปรานสัตว์นี้ได้ และไครจะสามารถสู้รบกับสัตว์นี้ได้

วิวรณ์ 13:13-15
13 สัตว์ร้ายนี้แสดงหมายสำคัญใหญ่ จนกระทำให้ไฟตกลงมาจากฟ้าสู่แผ่นดินโลกประจักษ์แก่ตามนุษย์ทั้งหลาย 14 มันล่อลวงคนทั้งหลายในโลกด้วยหมายสำคัญนั้น ซึ่งงทรงยอมให้มันกระทำต่อหน้าสัตว์ร้ายตัวเดิมนั้น และมันสั่งให้คนทั้งหลายที่แผ่นดินโลกสร้างรูปจำลองให้แก่สัตว์ร้ายที่ถูกฟันด้วยดาบแต่ยังไม่ตายนั้น 15 ทรงยอมให้มันมีอำนาจที่จะให้ลมหายใจแก่รูปสัตว์นั้น เพื่อให้รูปสัตว์ร้ายนั้นพูดได้ และมีอำนาจที่จะกระทำให้บรรดาคนที่ไม่ยอมบูชาสัตว์ร้ายนั้น ถึงแก่ความตายได้

เอาแค่นี้ก่อนครับ 
ผมของดวิจารณ์ข้อพระคัมภีร์เหล่านี้ครับ

โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน
:+:Regina Pacis:+:
.
.
โพสต์: 944
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 18, 2005 11:16 pm

จันทร์ ส.ค. 07, 2006 3:53 pm

แล้วศาสนาคริสต์มองพานาคเป็นอะไรอ่ะคะ??

::001::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

จันทร์ ส.ค. 07, 2006 4:23 pm

ความจริงเป็นปัญหาทางการแปลครับ

คือถ้าเอาคำแปลตรงตัวจริงๆคือ งูใหญ่หรืองูดึกดำบรรพ์

ฉบับของโปรฯแปลคำนี้ออกมาว่าพญานาค

ของคาทอลิคจะแปลออกมาว่า มังกร

ซึ่งฉบับอังกฤษทั้งหมดก็ใช้คำว่า Dragon ไม่ใช่ Naga
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ จันทร์ ส.ค. 07, 2006 4:25 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
lordtole
โพสต์: 131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 14, 2006 12:38 am
ที่อยู่: Bangkok , St.JoHn Church & Fatima

จันทร์ ส.ค. 07, 2006 5:06 pm

Naga นี่เป็นพวกสัตว์น้ำ งูน้ำอะไรทำนองนี้รึเปล่าครับ ถ้าภาษาอังกฤษว่า Dragon ก็น่าจะแปลเป็นมังกรนะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร ส.ค. 08, 2006 11:26 am

lordtole เขียน: Naga นี่เป็นพวกสัตว์น้ำ งูน้ำอะไรทำนองนี้รึเปล่าครับ ถ้าภาษาอังกฤษว่า Dragon ก็น่าจะแปลเป็นมังกรนะ
นั่นสิ  ::013::
lordtole
โพสต์: 131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.พ. 14, 2006 12:38 am
ที่อยู่: Bangkok , St.JoHn Church & Fatima

อังคาร ส.ค. 08, 2006 2:23 pm

เคยสังเกตบ้างไหมว่าทำไมคนเราถึงต้องกลัวงูด้วย ถึงแม้ว่างูนั่นจะไม่มีพิษก็ตาม แต่เราก็กลัวมัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

อังคาร ส.ค. 08, 2006 5:48 pm

lordtole เขียน: เคยสังเกตบ้างไหมว่าทำไมคนเราถึงต้องกลัวงูด้วย ถึงแม้ว่างูนั่นจะไม่มีพิษก็ตาม แต่เราก็กลัวมัน
ก็จริงนะ ...นิดนึง
แต่ จริงอ่า รึเปล่า (เอ๊ะยังไง : emo033 :)

คือ ผมอ่า อยากเลี้ยงงู นะ : emo045 :

แต่ทางบ้านไม่ให้ : xemo031 :

ไว้แยกไปอยุ่เดียวได้ จะเลี้ยงมาให้กอดจูบลูกคลำเลย : emo010 :
poloplow
โพสต์: 402
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 11, 2006 11:01 pm

อังคาร ส.ค. 08, 2006 6:48 pm

ยศิโยน:ผู้เห็นแด่พระเจ้า เขียน:
lordtole เขียน: เคยสังเกตบ้างไหมว่าทำไมคนเราถึงต้องกลัวงูด้วย ถึงแม้ว่างูนั่นจะไม่มีพิษก็ตาม แต่เราก็กลัวมัน
ก็จริงนะ ...นิดนึง
แต่ จริงอ่า รึเปล่า (เอ๊ะยังไง : emo033 :)

คือ ผมอ่า อยากเลี้ยงงู นะ : emo045 :

แต่ทางบ้านไม่ให้ : xemo031 :

ไว้แยกไปอยุ่เดียวได้ จะเลี้ยงมาให้กอดจูบลูกคลำเลย : emo010 :
อันตรายนะครับ ::006::
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

อังคาร ส.ค. 08, 2006 7:10 pm

ยศิโยน:ผู้เห็นแด่พระเจ้า เขียน:
lordtole เขียน: เคยสังเกตบ้างไหมว่าทำไมคนเราถึงต้องกลัวงูด้วย ถึงแม้ว่างูนั่นจะไม่มีพิษก็ตาม แต่เราก็กลัวมัน
ก็จริงนะ ...นิดนึง
แต่ จริงอ่า รึเปล่า (เอ๊ะยังไง : emo033 :)

คือ ผมอ่า อยากเลี้ยงงู นะ : emo045 :

แต่ทางบ้านไม่ให้ : xemo031 :

ไว้แยกไปอยุ่เดียวได้ จะเลี้ยงมาให้กอดจูบลูกคลำเลย : emo010 :
พูดจริงหรือพูดเล่นเนี่ยยศ ::010::
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

อังคาร ส.ค. 08, 2006 7:14 pm

จริงสิ

ล่าสุด ไป อควาเรี่ยม ก็ ชอบซุ้มป่าดิบชื้น ที่มีงู

เค้าเอางูมาแสดง

เค้าก้ให้ยศจับ

รู้สึกถูกชะตาดีนะ : emo038 :

หนังงูนี่ ลื่นๆ+เย็นดีจัง : emo045 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
BARKER BARBER
โพสต์: 226
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ มิ.ย. 24, 2005 8:34 pm
ที่อยู่: XAVIER HALL / PRISONMINISTRY

พุธ ส.ค. 09, 2006 7:27 pm

ยศิโยน:ผู้เห็นแด่พระเจ้า เขียน: จริงสิ

ล่าสุด ไป อควาเรี่ยม ก็ ชอบซุ้มป่าดิบชื้น ที่มีงู

เค้าเอางูมาแสดง

เค้าก้ให้ยศจับ

รู้สึกถูกชะตาดีนะ : emo038 :

หนังงูนี่ ลื่นๆ+เย็นดีจัง : emo045 :
: emo102 : : xemo033 : เหอๆ  ระวัง...นะครับ : emo102 :
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

พฤหัสฯ. ส.ค. 10, 2006 2:28 am

ยศิโยน:ผู้เห็นแด่พระเจ้า เขียน: จริงสิ

ล่าสุด ไป อควาเรี่ยม ก็ ชอบซุ้มป่าดิบชื้น ที่มีงู

เค้าเอางูมาแสดง

เค้าก้ให้ยศจับ

รู้สึกถูกชะตาดีนะ : emo038 :

หนังงูนี่ ลื่นๆ+เย็นดีจัง : emo045 :
เอามาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนกับงูบนหัวใครหรอครับ ::011::
ตอบกลับโพส