อ่านแล้วเศร้า สำหรับคนไม่มีความเชื่อ
-
- โพสต์: 663
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ เม.ย. 02, 2005 10:41 pm
- ที่อยู่: Sriracha Chonburi
- ติดต่อ:
อ่านแล้วเศร้า
====================
...ช่างปั้นหม้อ
ปั้นหม้อขึ้นมาจากดินเหนียว
พอเสร็จแล้วก็วางเรียงกันไว้
หม้อใบไหนปากเบี้ยว
ใบไหนไม่สวย
ใบไหนตั้งโงนเงน...ก็ทุบทิ้ง
...พระเจ้า...ก็เช่นกัน
สร้างมนุษย์ขึ้นมาจากดินโคลนอันต่ำต้อย
ใครไม่เชื่อไม่ศรัทธา ไม่นับถึอ
พระเจ้าก็ทำลาย
ใครเชื่อ ใครศรัทธา ใครนับถือ
ก็ต้องตายเสียทุกคนไป.
พระเจ้าท่านสร้างมนุษย์ขึ้นมาเองกับมือของท่าน
ท่านก็ติว่าเลวบ้าง ไม่ดีบ้าง
แล้วก็ลงโทษจะถูกหรือ
หม้อที่ตั้งบิดเบี้ยว หม้อที่ตั้งโงนเงนน่าชังนั้น
มันมิใช่ความผิดของมือท่านปั้นดอกหรือ
ลองคิดตรองดูที.
ช่างปั้นหม้อกำลังขยำดินเหนียว
ดินก็ร้อง ออด.. แอด... ออด... แอด
ด้วยมันไม่อยากจะเป็นหม้อ
พระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นมา
เมื่อท่านสาบเช่ง ข่มเหงรังแกหนักเข้า
มนุษย์ก็หลีกหนีได้เหมือนกัน.
พระเจ้าหลอก ๆ
เอานรกมาขู่ เอาสวรรค์มาล่อ
มนุษย์โง่ ๆ ก็เชื่อฟังและนับถือ
ยามท่านกริ้ว ยามท่านโกรธขึ้นมา
ท่านก็ทำลายเสีย.....
นึกว่าของ ๆ ท่าน สร้างมาเองไม่ได้ยืมใครมา
จะทำอย่างไรก็ได้.
อันธรรมะที่ดี
ของศาสดาก็น่าชอบใจและน่าปฎิบัติอยู่
อีกทั้งสวรรค์อันวิเศษและงดงามก็น่าไปอยู่
แต่ก็อีกนั่นแหละ
จะจริงหรือไม่จริงก็ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา
สู้กำทุนคือความสุขตรงหน้าเราตอนนี้ไม่ดีกว่าหรือ
ก่อนจะแสวงหากำไรที่มีอยู่จริงหรือไม่จริง
และรับรู้ด้วยจิตวิญญาณหรือตาก็ไม่ได้.
อันธรรมะที่ดี ๆ
ของศาสดาก็น่าชอบใจและน่าปฎิบัติอยู่
อีกทั้งสวรรค์อันวิเศษและงดงามก็น่าไปอยู่
แต่ก็อีกนั่นแหละ...
จะจริงหรือไม่จริงก็ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา
สู้กำทุนคือความสุขตรงหน้าเราตอนนี้ไม่ดีกว่าหรือ
ก่อนจะแสวงหากำไรที่มีอยู่จริงหรือไม่จริง
และรับรู้ด้วยจิตวิญญาณหรือตาก็ไม่ได้.
ไม่สมปรารถนาก็โศรกเศร้า
ครั้นสมดั่งใจก็ลิงโลดดีใจ
ดั่งก้อนน้ำแข็งวางไว้บนกองฝุ่น
ยามฝุ่นพัดกลบก็มัวหมอง
ยามปราศจากฝุ่นก้อนน้ำแข็งก็แวววาว
ถึงจะแวววาวงามสักปานใด
ครู่เดียวความงามก็ละลายหายไปบนกองฝุ่นฝอย
...ชีวิตเราจะมีบุญหรือกรรมมากมายสักเพียงใด
ในไม่ช้าต่างก็ต้องสูญหายไปหมดสิ้น
เหมือนดั่งก้อนน้ำแข็งละลาย...
เหล่าศาสดา สาวก และนักปราชญ์
ต่างก็ถกเถียงกันถึงชาติก่อนและชาติหน้า
ทั้งนรกและสวรรค์มานานแสนนาน
ที่สุดก็สิ้นสุดลงที่ปากหลุม
จนตายก็เอาแน่เอานอนตรงไหนไม่ได้
...ความโง่ที่จะเอาชนะความโง่ด้วยกันนั้นดีหรือ
สู้หาอะไรบำรุงชีวิตให้เป็นสุขเสียก่อนตายจะดีเสียกว่า.
มนุษย์เราเกิดมาในโลกนี้ทำไม
มาจากไหนไม่มีใครรู้จริง
ป่วยการที่จะถามว่าตายแล้วจะไปไหน
อุตสาห์หาคาวมสุขไว้เป็นกำไรแต่นี้เถิด
อย่าเพ้อหาสวรรค์วิมานไปเลย เสียแรงเปล่า
เมื่อตายไปแล้วก็จะไม่ได้พบเห็นอีกต่อไป.
ถ้าถามว่าสวรรค์อยู่ที่ไหน
ไปทางใดไม่มีใครตอบได้
เข้าใจว่าต้องตายไปแล้วเท่านั้นจึงจะรู้
เหตุใดเราไม่หาความสุขเสียแต่ตอนยังมีชีวิตอยู่
นี่แหละที่เรียกว่าสวรรค์อย่างแท้จริง
เห็นด้วยตาและจับต้องได้
สวรรค์ตอนตายไปแล้วใครเชื่อก็โง่เต็มที.
พระเจ้าทรงอิทธิฤิทธ์
ฆ่าคนที่ไม่นับถือพระองค์
ผู้คนพากันกลัวภัยต่าง ๆ นา ๆ
ด้วยความหลอกลวงนรกและสวรรค์
พระเจ้าก็เป็นแค่คมในฝัก
ครั้นพอชักออกมาก็หาประโยชน์อันใดมิได้
..............................................................................
พระเจ้าไม่ได้สร้างมนุษย์ขึ้นมาอย่างจริงแท้แน่นอน
มนุษย์เกิดมาจากบรรพบุรุษของมนุษย์เอง
จากของพ่อของพ่อ ของปู่ของปู่ และของทวดของทวด
สืบต่อกันมาเราทุกคนย่อมรู้ดี
แต่เหตุไฉนจึงแสร้งเชื่อว่าพระเจ้าสร้างมา.
............................................................................
ที่มาจาก http://www.siamtower.com/religion/god.html
====================
...ช่างปั้นหม้อ
ปั้นหม้อขึ้นมาจากดินเหนียว
พอเสร็จแล้วก็วางเรียงกันไว้
หม้อใบไหนปากเบี้ยว
ใบไหนไม่สวย
ใบไหนตั้งโงนเงน...ก็ทุบทิ้ง
...พระเจ้า...ก็เช่นกัน
สร้างมนุษย์ขึ้นมาจากดินโคลนอันต่ำต้อย
ใครไม่เชื่อไม่ศรัทธา ไม่นับถึอ
พระเจ้าก็ทำลาย
ใครเชื่อ ใครศรัทธา ใครนับถือ
ก็ต้องตายเสียทุกคนไป.
พระเจ้าท่านสร้างมนุษย์ขึ้นมาเองกับมือของท่าน
ท่านก็ติว่าเลวบ้าง ไม่ดีบ้าง
แล้วก็ลงโทษจะถูกหรือ
หม้อที่ตั้งบิดเบี้ยว หม้อที่ตั้งโงนเงนน่าชังนั้น
มันมิใช่ความผิดของมือท่านปั้นดอกหรือ
ลองคิดตรองดูที.
ช่างปั้นหม้อกำลังขยำดินเหนียว
ดินก็ร้อง ออด.. แอด... ออด... แอด
ด้วยมันไม่อยากจะเป็นหม้อ
พระเจ้าสร้างมนุษย์ขึ้นมา
เมื่อท่านสาบเช่ง ข่มเหงรังแกหนักเข้า
มนุษย์ก็หลีกหนีได้เหมือนกัน.
พระเจ้าหลอก ๆ
เอานรกมาขู่ เอาสวรรค์มาล่อ
มนุษย์โง่ ๆ ก็เชื่อฟังและนับถือ
ยามท่านกริ้ว ยามท่านโกรธขึ้นมา
ท่านก็ทำลายเสีย.....
นึกว่าของ ๆ ท่าน สร้างมาเองไม่ได้ยืมใครมา
จะทำอย่างไรก็ได้.
อันธรรมะที่ดี
ของศาสดาก็น่าชอบใจและน่าปฎิบัติอยู่
อีกทั้งสวรรค์อันวิเศษและงดงามก็น่าไปอยู่
แต่ก็อีกนั่นแหละ
จะจริงหรือไม่จริงก็ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา
สู้กำทุนคือความสุขตรงหน้าเราตอนนี้ไม่ดีกว่าหรือ
ก่อนจะแสวงหากำไรที่มีอยู่จริงหรือไม่จริง
และรับรู้ด้วยจิตวิญญาณหรือตาก็ไม่ได้.
อันธรรมะที่ดี ๆ
ของศาสดาก็น่าชอบใจและน่าปฎิบัติอยู่
อีกทั้งสวรรค์อันวิเศษและงดงามก็น่าไปอยู่
แต่ก็อีกนั่นแหละ...
จะจริงหรือไม่จริงก็ไม่อาจเห็นได้ด้วยตา
สู้กำทุนคือความสุขตรงหน้าเราตอนนี้ไม่ดีกว่าหรือ
ก่อนจะแสวงหากำไรที่มีอยู่จริงหรือไม่จริง
และรับรู้ด้วยจิตวิญญาณหรือตาก็ไม่ได้.
ไม่สมปรารถนาก็โศรกเศร้า
ครั้นสมดั่งใจก็ลิงโลดดีใจ
ดั่งก้อนน้ำแข็งวางไว้บนกองฝุ่น
ยามฝุ่นพัดกลบก็มัวหมอง
ยามปราศจากฝุ่นก้อนน้ำแข็งก็แวววาว
ถึงจะแวววาวงามสักปานใด
ครู่เดียวความงามก็ละลายหายไปบนกองฝุ่นฝอย
...ชีวิตเราจะมีบุญหรือกรรมมากมายสักเพียงใด
ในไม่ช้าต่างก็ต้องสูญหายไปหมดสิ้น
เหมือนดั่งก้อนน้ำแข็งละลาย...
เหล่าศาสดา สาวก และนักปราชญ์
ต่างก็ถกเถียงกันถึงชาติก่อนและชาติหน้า
ทั้งนรกและสวรรค์มานานแสนนาน
ที่สุดก็สิ้นสุดลงที่ปากหลุม
จนตายก็เอาแน่เอานอนตรงไหนไม่ได้
...ความโง่ที่จะเอาชนะความโง่ด้วยกันนั้นดีหรือ
สู้หาอะไรบำรุงชีวิตให้เป็นสุขเสียก่อนตายจะดีเสียกว่า.
มนุษย์เราเกิดมาในโลกนี้ทำไม
มาจากไหนไม่มีใครรู้จริง
ป่วยการที่จะถามว่าตายแล้วจะไปไหน
อุตสาห์หาคาวมสุขไว้เป็นกำไรแต่นี้เถิด
อย่าเพ้อหาสวรรค์วิมานไปเลย เสียแรงเปล่า
เมื่อตายไปแล้วก็จะไม่ได้พบเห็นอีกต่อไป.
ถ้าถามว่าสวรรค์อยู่ที่ไหน
ไปทางใดไม่มีใครตอบได้
เข้าใจว่าต้องตายไปแล้วเท่านั้นจึงจะรู้
เหตุใดเราไม่หาความสุขเสียแต่ตอนยังมีชีวิตอยู่
นี่แหละที่เรียกว่าสวรรค์อย่างแท้จริง
เห็นด้วยตาและจับต้องได้
สวรรค์ตอนตายไปแล้วใครเชื่อก็โง่เต็มที.
พระเจ้าทรงอิทธิฤิทธ์
ฆ่าคนที่ไม่นับถือพระองค์
ผู้คนพากันกลัวภัยต่าง ๆ นา ๆ
ด้วยความหลอกลวงนรกและสวรรค์
พระเจ้าก็เป็นแค่คมในฝัก
ครั้นพอชักออกมาก็หาประโยชน์อันใดมิได้
..............................................................................
พระเจ้าไม่ได้สร้างมนุษย์ขึ้นมาอย่างจริงแท้แน่นอน
มนุษย์เกิดมาจากบรรพบุรุษของมนุษย์เอง
จากของพ่อของพ่อ ของปู่ของปู่ และของทวดของทวด
สืบต่อกันมาเราทุกคนย่อมรู้ดี
แต่เหตุไฉนจึงแสร้งเชื่อว่าพระเจ้าสร้างมา.
............................................................................
ที่มาจาก http://www.siamtower.com/religion/god.html
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
เศร้าจริงครับ
ยิ่งถ้าไม่เชื่อแล้วไม่เปิดใจที่จะเชื่อ ก็เศร้าอีกครับ
ยิ่งถ้าไม่เชื่อแล้วไม่เปิดใจที่จะเชื่อ ก็เศร้าอีกครับ
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi


-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ซึ่งก็หลายสิบทศวรรษแล้วใช่ป่ะพี่:+: seraphim :+: เขียน:เปิดตอนนี้ได้ตอนอกหักอ่ะ
![]()

ไปดีกว่า....
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
Batholomew เขียน:ซึ่งก็หลายสิบทศวรรษแล้วใช่ป่ะพี่:+: seraphim :+: เขียน:เปิดตอนนี้ได้ตอนอกหักอ่ะ
![]()
ไปดีกว่า....

เพราะความทะนงตัวคนอธรรมกล่าวว่า"พระเจ้าไม่ทรงลงโทษ"
ความคิดทั้งสิ้นของเขาคือ"ไม่มีพระเจ้า"..
วิธีการของคนอธรรมจำเริญอยู่ทุกเวล
าการพิพากษาของพระองค์อยู่สูงพ้นสายตาของเขาเขาพ่นความร้ายใส่บรรดาคู่อริของเขา..
สดุดี10:4-5
คนโง่รำพึงอยู่ในใจของตนว่า"ไม่มีพระเจ้า"
เขาทั้งหลายก็เสื่อมทรามกระทำความบาปผิดที่น่าเกลียดน่าชังไม่มีสักคนเดียวที่กระทำดี..
พระเจ้าทรงมองลงมาจากฟ้าสวรรค์ดูบุตรชายทั้งหลายของมนุษย์
ว่าจะมีคนใดบ้างที่ฉลาดที่เสาะหาพระเจ้า
สดุดี53:1-2

_________________________
ฝ่ายพระเยซูจึงทรงอธิษฐานว่า
"โอพระบิดาเจ้าข้า ขอโปรดอภัยโทษเขาเ พราะว่าเขาไม่รู้ว่าเขาทำอะไร"
ลูกา 23:34
ความคิดทั้งสิ้นของเขาคือ"ไม่มีพระเจ้า"..
วิธีการของคนอธรรมจำเริญอยู่ทุกเวล
าการพิพากษาของพระองค์อยู่สูงพ้นสายตาของเขาเขาพ่นความร้ายใส่บรรดาคู่อริของเขา..
สดุดี10:4-5
คนโง่รำพึงอยู่ในใจของตนว่า"ไม่มีพระเจ้า"
เขาทั้งหลายก็เสื่อมทรามกระทำความบาปผิดที่น่าเกลียดน่าชังไม่มีสักคนเดียวที่กระทำดี..
พระเจ้าทรงมองลงมาจากฟ้าสวรรค์ดูบุตรชายทั้งหลายของมนุษย์
ว่าจะมีคนใดบ้างที่ฉลาดที่เสาะหาพระเจ้า
สดุดี53:1-2

_________________________
ฝ่ายพระเยซูจึงทรงอธิษฐานว่า
"โอพระบิดาเจ้าข้า ขอโปรดอภัยโทษเขาเ พราะว่าเขาไม่รู้ว่าเขาทำอะไร"
ลูกา 23:34

-
- โพสต์: 1946
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มิ.ย. 01, 2005 8:23 pm
- ที่อยู่: On this earth obviously
เหอๆๆๆๆๆๆ:+: seraphim :+: เขียน:เปิดตอนนี้ได้ตอนอกหักอ่ะ
![]()
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
เป็นธรรมดา ของผู้ที่ไม่ได้ใช้ปัญญา ก็มักจะคิดเช่นนี้แหละ
กำทุน คือ ความสุขที่เห็นได้ในปัจจุบัน จับต้องได้ เสพได้
โถ น่าสงสาร ทุนนั้น จะงอกงามได้ปานใดเชียว
มันจะมั่นคงอยู่ได้เท่าไหร่เชียว
ความสุขที่ว่านั้นมาพร้อมกับความทุกข์ ความทุกข์ที่เกิดจากความกลัว ว่าความสุขนั้นจะหายไป
เหตุนี้ เขาจึงกำมือไว้ เพราะกลัวว่าความสุข หรือทุนนั้นจะหล่นหาย
โอ้ หนอ ดังนี้หรือ จึงเรียกว่าความสุขแท้
สวรรค์นั้น สามารถมองเห็นได้ด้วยปัญญา ไม่จำเป็นต้องรอตายไปจึงจะเข้าใจหรอก
เอ้าๆๆๆ อย่าไปสนใจ พี่น้อง เราตั้งมั่นของเราไว้ดีกว่า
ความจริง ทำให้เราเป็นอิสระ แสวงความจริงในองค์พระเยซูดีกว่า
กำทุน คือ ความสุขที่เห็นได้ในปัจจุบัน จับต้องได้ เสพได้
โถ น่าสงสาร ทุนนั้น จะงอกงามได้ปานใดเชียว
มันจะมั่นคงอยู่ได้เท่าไหร่เชียว
ความสุขที่ว่านั้นมาพร้อมกับความทุกข์ ความทุกข์ที่เกิดจากความกลัว ว่าความสุขนั้นจะหายไป
เหตุนี้ เขาจึงกำมือไว้ เพราะกลัวว่าความสุข หรือทุนนั้นจะหล่นหาย
โอ้ หนอ ดังนี้หรือ จึงเรียกว่าความสุขแท้
สวรรค์นั้น สามารถมองเห็นได้ด้วยปัญญา ไม่จำเป็นต้องรอตายไปจึงจะเข้าใจหรอก
เอ้าๆๆๆ อย่าไปสนใจ พี่น้อง เราตั้งมั่นของเราไว้ดีกว่า
ความจริง ทำให้เราเป็นอิสระ แสวงความจริงในองค์พระเยซูดีกว่า
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
ยังเข้าได้อยู่เรย - -"Matthew เขียน: แจ้งปิดเว็บให้เป็นเว็บไซด์ ไม่เหมาะสมให้แล้วครับ
-
- โพสต์: 50
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 28, 2006 12:49 pm
อนิจจา อนิจจา มนุษย์...
ขลาดเขลากำก้อนทรายตรงหน้า...
ก็คิดเสียว่าทรายก็มีอยู่แค่ในกำมือ...
ที่อื่นก็หามีไม่...เสียดาย เสียดาย...
กำแน่นมากเท่าใด...ทรายก็มีแต่จะหลุดมือไปกับสายลม...
เพียงแค่เปิดดวงใจและดวงตา...
ก็เห็นหาดทรายใต้ฝ่าเท้า...ทอดยาวไกล...
...
...
...
กระนั้นคนโง่ก็กำทราย ขณะผู้มีปัญญาขุดหาทองคำ...
ขลาดเขลากำก้อนทรายตรงหน้า...
ก็คิดเสียว่าทรายก็มีอยู่แค่ในกำมือ...
ที่อื่นก็หามีไม่...เสียดาย เสียดาย...
กำแน่นมากเท่าใด...ทรายก็มีแต่จะหลุดมือไปกับสายลม...
เพียงแค่เปิดดวงใจและดวงตา...
ก็เห็นหาดทรายใต้ฝ่าเท้า...ทอดยาวไกล...
...
...
...
กระนั้นคนโง่ก็กำทราย ขณะผู้มีปัญญาขุดหาทองคำ...
แนวคิดของเค้าคือนับถือตัวเอง
ไม่นับถืออะไรเลย
แนวนี้มีเยอะขึ้นทุกวัน สาเหตุ เกิดจาก ประสบความสำเร็จในชีวิต หรือ พึ่งตนเองมาตลอด
อ่อนแอมากที่สุด อีกอัน คือ ประสาท
ไม่นับถืออะไรเลย
แนวนี้มีเยอะขึ้นทุกวัน สาเหตุ เกิดจาก ประสบความสำเร็จในชีวิต หรือ พึ่งตนเองมาตลอด
อ่อนแอมากที่สุด อีกอัน คือ ประสาท
(1คร 15:31)
พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าเสี่ยงชีวิตอยู่ทุกวันเช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้ามีความภูมิใจในท่านที่มีความเชื่อในพระคริสตเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ข้าพเจ้าจะได้สิ่งใดเล่า ถ้าข้าพเจ้าต่อสู้กับสัตว์ร้ายที่เมืองเอเฟซัส เพื่อประโยชน์ในชีวิตนี้เท่านั้น ถ้าผู้ตายไม่กลับคืนชีพ เราก็จงกินและดื่มเถิด เพราะพรุ่งนี้เราก็จะตายแล้ว อย่าให้ผู้ใดหลอกหลวงท่าน
พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าเสี่ยงชีวิตอยู่ทุกวันเช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้ามีความภูมิใจในท่านที่มีความเชื่อในพระคริสตเยซูองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา ข้าพเจ้าจะได้สิ่งใดเล่า ถ้าข้าพเจ้าต่อสู้กับสัตว์ร้ายที่เมืองเอเฟซัส เพื่อประโยชน์ในชีวิตนี้เท่านั้น ถ้าผู้ตายไม่กลับคืนชีพ เราก็จงกินและดื่มเถิด เพราะพรุ่งนี้เราก็จะตายแล้ว อย่าให้ผู้ใดหลอกหลวงท่าน
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
มีเป็นปกติครับ น่าเศร้าใจ
เอะเอ......ระวังกลายเป็นเผด็จการเน่อ..น้อง การที่เค้าไม่มีความเชื่อเหมือนเราไม่ศรัทธาในพระเจ้าเพราะเค้ายังไม่สัมผัสในความรักของพระเจ้าเหมือนพวกเรา แต่ก็ใช่ว่าพระจะไม่ทรงทำงานกับเค๊า ยิ่งเค้ารุนแรงอย่างนี้ เมื่อเค้ากลับใจ เค้าอาจจะเป็นคริสตชนที่ร้อนรนกว่าเราหลายเท่าก็ได้ เรื่องนี้ละเอียดอ่อนนะ ใครไม่เชื่อเหมือนเรา ก็ปล่อยให้พระจัดการจะดีกว่ามั๊ยเอ่ยยยยยยbigect07 เขียน: โห จัดการเลยครับ ความคิดพวกเฮเรติ๊ก



- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
อันดับแรกบล็อคเว็ปก่อนจะดีไหมเหมือนก่อให้เกิดความแตกแยกทางศาสนานะครับ หุหุkornkrid เขียน:เอะเอ......ระวังกลายเป็นเผด็จการเน่อ..น้อง การที่เค้าไม่มีความเชื่อเหมือนเราไม่ศรัทธาในพระเจ้าเพราะเค้ายังไม่สัมผัสในความรักของพระเจ้าเหมือนพวกเรา แต่ก็ใช่ว่าพระจะไม่ทรงทำงานกับเค๊า ยิ่งเค้ารุนแรงอย่างนี้ เมื่อเค้ากลับใจ เค้าอาจจะเป็นคริสตชนที่ร้อนรนกว่าเราหลายเท่าก็ได้ เรื่องนี้ละเอียดอ่อนนะ ใครไม่เชื่อเหมือนเรา ก็ปล่อยให้พระจัดการจะดีกว่ามั๊ยเอ่ยยยยยยbigect07 เขียน: โห จัดการเลยครับ ความคิดพวกเฮเรติ๊ก![]()
![]()
![]()
เกรงว่า ไม่รู้ว่าเรามีสิทธิ์ไปปิดกั้น การแสดงความคิดเห็นของเค้ารึป่าวน่ะสิครับ แล้วอีกอย่างศาสนาของเราเป็นศาสนาแห่งความรัก ถ้าเราเป็นแสดงความตื่นเต้น กับเรื่องแสดงความคิดเห็นของเค้า(ที่เราไม่ชอบใจ) มันจะดีรึป่าว อันนี้ผมเฉยๆนะ ถ้าเราไม่ไปต่อความยาวสาวความยืดกะเค้า ผมว่ามันก็แค่ตัวหนังสือ สะเหร่อๆไม่กี่บรรทัดเองอ่ะครับ อันนี้แล้วแต่นะครับไม่ได้คัดค้านการเสนอการบลอคเวป เพียงแต่แสดงความเห็นของตัวผมเองเฉยๆ ขอพระจิตเจ้าทรงโปรดอวยพระพร พี่น้องทุกคนครับผ๊มImmanuel (MichaelPaul) เขียน:อันดับแรกบล็อคเว็ปก่อนจะดีไหมเหมือนก่อให้เกิดความแตกแยกทางศาสนานะครับ หุหุkornkrid เขียน:เอะเอ......ระวังกลายเป็นเผด็จการเน่อ..น้อง การที่เค้าไม่มีความเชื่อเหมือนเราไม่ศรัทธาในพระเจ้าเพราะเค้ายังไม่สัมผัสในความรักของพระเจ้าเหมือนพวกเรา แต่ก็ใช่ว่าพระจะไม่ทรงทำงานกับเค๊า ยิ่งเค้ารุนแรงอย่างนี้ เมื่อเค้ากลับใจ เค้าอาจจะเป็นคริสตชนที่ร้อนรนกว่าเราหลายเท่าก็ได้ เรื่องนี้ละเอียดอ่อนนะ ใครไม่เชื่อเหมือนเรา ก็ปล่อยให้พระจัดการจะดีกว่ามั๊ยเอ่ยยยยยยbigect07 เขียน: โห จัดการเลยครับ ความคิดพวกเฮเรติ๊ก![]()
![]()
![]()



-
- Arch Guardian
- โพสต์: 297
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ต.ค. 09, 2006 8:19 pm
- ที่อยู่: ดินแดนอันไกลโพ้น
แจ้งบล็อคเว็บนี้ไปแล้วครับเนื่องจากศาสนาที่มีพระเจ้านั้นไม่ได้มีแต่เพียงศาสนาคริสต์ของเราเท่านั้น แต่หมายรวมถึงอิสลามและอื่นๆอีกมาก ซึ่งถ้ามีพวกหัวรุนแรงท่านใดมาเปิดเจออาจเกิดเหตุถึงอ้านความมั่นคงของชาติได้ แต่จะบล็อคได้หรือไม่นั้นอยู่ที่กระทรวง ICT จะมาทำการตรวจสวบอีกครั้งหนึ่ง และถ้ามีการแจ้งบล็อคในจำนวนเยอะมากๆก็มีสิทธิที่ทางกระทรวงจะมาตรวจสอบเร็วขึ้นครับkornkrid เขียน:เกรงว่า ไม่รู้ว่าเรามีสิทธิ์ไปปิดกั้น การแสดงความคิดเห็นของเค้ารึป่าวน่ะสิครับ แล้วอีกอย่างศาสนาของเราเป็นศาสนาแห่งความรัก ถ้าเราเป็นแสดงความตื่นเต้น กับเรื่องแสดงความคิดเห็นของเค้า(ที่เราไม่ชอบใจ) มันจะดีรึป่าว อันนี้ผมเฉยๆนะ ถ้าเราไม่ไปต่อความยาวสาวความยืดกะเค้า ผมว่ามันก็แค่ตัวหนังสือ สะเหร่อๆไม่กี่บรรทัดเองอ่ะครับ อันนี้แล้วแต่นะครับไม่ได้คัดค้านการเสนอการบลอคเวป เพียงแต่แสดงความเห็นของตัวผมเองเฉยๆ ขอพระจิตเจ้าทรงโปรดอวยพระพร พี่น้องทุกคนครับผ๊มImmanuel (MichaelPaul) เขียน: อันดับแรกบล็อคเว็ปก่อนจะดีไหมเหมือนก่อให้เกิดความแตกแยกทางศาสนานะครับ หุหุ![]()
![]()
![]()
***หมายเหตุ แจ้งเว็บไม่เหมาะสม
http://cyberinspector.org/iiiiikkkiiiii ... index1.php
รับทราบครับ จ่าธันเดอร์ เซอร์,,เยสเซอร์Matthew เขียน:แจ้งบล็อคเว็บนี้ไปแล้วครับเนื่องจากศาสนาที่มีพระเจ้านั้นไม่ได้มีแต่เพียงศาสนาคริสต์ของเราเท่านั้น แต่หมายรวมถึงอิสลามและอื่นๆอีกมาก ซึ่งถ้ามีพวกหัวรุนแรงท่านใดมาเปิดเจออาจเกิดเหตุถึงอ้านความมั่นคงของชาติได้ แต่จะบล็อคได้หรือไม่นั้นอยู่ที่กระทรวง ICT จะมาทำการตรวจสวบอีกครั้งหนึ่ง และถ้ามีการแจ้งบล็อคในจำนวนเยอะมากๆก็มีสิทธิที่ทางกระทรวงจะมาตรวจสอบเร็วขึ้นครับkornkrid เขียน:เกรงว่า ไม่รู้ว่าเรามีสิทธิ์ไปปิดกั้น การแสดงความคิดเห็นของเค้ารึป่าวน่ะสิครับ แล้วอีกอย่างศาสนาของเราเป็นศาสนาแห่งความรัก ถ้าเราเป็นแสดงความตื่นเต้น กับเรื่องแสดงความคิดเห็นของเค้า(ที่เราไม่ชอบใจ) มันจะดีรึป่าว อันนี้ผมเฉยๆนะ ถ้าเราไม่ไปต่อความยาวสาวความยืดกะเค้า ผมว่ามันก็แค่ตัวหนังสือ สะเหร่อๆไม่กี่บรรทัดเองอ่ะครับ อันนี้แล้วแต่นะครับไม่ได้คัดค้านการเสนอการบลอคเวป เพียงแต่แสดงความเห็นของตัวผมเองเฉยๆ ขอพระจิตเจ้าทรงโปรดอวยพระพร พี่น้องทุกคนครับผ๊มImmanuel (MichaelPaul) เขียน: อันดับแรกบล็อคเว็ปก่อนจะดีไหมเหมือนก่อให้เกิดความแตกแยกทางศาสนานะครับ หุหุ![]()
![]()
![]()
***หมายเหตุ แจ้งเว็บไม่เหมาะสม
http://cyberinspector.org/iiiiikkkiiiii ... index1.php
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ผมช่วยแจ้งอีกแรง 

- ดานุ้งพุงระเบิด
- โพสต์: 518
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ส.ค. 31, 2006 3:57 pm
- ที่อยู่: อุบลราชธานี
สวดอวยพรให้พระเจ้าชี้นำทางสว่างให้แก่เขากันเถอะครับ