ใน Article http://www.newmana.com/Science_and_God/suffer01.htm
เมื่อประมาณวันพุธที่ 22 พฤศจิกายน 49 ที่ผ่านมา ผมได้เข้าไปอ่านเจอเรื่องของ
อาแลสซานดรีนา มารีอา ดากอสตา (Alessandrina Maria da Costa) ในลิงค์ข้างบนเข้า
ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับหญิงคนหนึ่ง ที่ต้องนอนป่วยอยู่บนเตียงถึง 30 ปี โดยเชื่อกันว่า
เธอเป็นผู้ที่ถูกเลือก ให้มีส่วนร่วมในมหาทรมานของพระเยซูคริสต์ เริ่มตั้งแต่สวนเกสเซมานี
จนถึงตอนที่พระองค์ถูกตรึงกางเขน รายละเอียดอ่านต่อลิงค์ด้านบนครับ
เมื่อผมอ่านจนจบ ความคิดแรกที่แวบเข้ามาก็คือ มันเป็นการจำเป็นด้วยหรือที่คน ๆ หนึ่งจะได้
มาร่วมทรมานโดยที่เชื่อว่าการที่เธอทำแบบนี้จะช่วยเหลือผู้อื่น โดยการร่วมทรมานกับพระเยซูเจ้า
ผมว่ามันเป็นการที่ไม่จำเป็นเลย สมมติว่าถ้าเธอเลือกได้นะ ผมว่าเธอน่าจะไปทำงานเพื่อช่วยเหลือ
ผู้อื่น เช่น ดูแลผู้ป่วย, ดูแลคนชรา อะไรพวกนี้ดีกว่า
ในความคิดของผม การที่ต้องทรมานเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น(นอกจากพระเยซูเจ้า)ถือเป็นสิ่งที่ไร้สาระ
และไม่จำเป็นเลย
จนเมื่อถึงวันอาทิตย์ที่ 26 พฤศจิกายน ระหว่างที่ผมกำลังเล่นอินเตอร์เน็ตอยู่ ก็ได้ไปเจอกับเพลงนี้เข้า
เพลงนั้นก็คือ ฤดูที่แตกต่าง ที่แต่งโดย คุณ บอย โกศิยพงศ์
ระหว่างที่ผมฟังไปเรื่อย ๆ ก็มาสะดุดที่ประโยคหนึ่ง
อย่าไปมองเวลาที่ฟ้าไม่เป็นใจ อย่าไปคิดว่ามันเป็นวันสุดท้าย
น้ำตาที่ไหลย่อมมีวันจางหาย ถ้าไม่รู้จักเจ็บปวดก็คงไม่ซึ้งถึงความสุขใจ
หลังจากนั้นผมก็ได้คิด คิดว่าการเจ็บปวดเพื่อซาบซึ้งในความสุขใจ การเจ็บปวดเพื่อผู้อื่น
โดยที่ไม่มีใครรู้(หรืออาจจะรู้) ไม่ว่ามันจะมีผล หรือไม่มีผลอย่างไรก็ตาม อย่างน้อยก็แสดงให้เราเห็นว่า
เรายังมีความหวังดีต่อผู้อื่นอยู่
พูดตรง ๆ คือตอนนี้ก็ยังไม่ค่อยเข้าในเรื่องพวกนี้มากนัก แต่จะพยายามทำความเข้าใจให้มากขึ้นครับ
