รัก...แล้วไม่สมหวังในรัก...
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
ปายยอยู่หนายยยยมา ห๊าKilenfai เขียน: สมาชิกชาวคาทอลิกเยอะดีจังเลยนะครับ เคยคิดว่าคาทอลิกอย่างเราๆจะไม่มีชุมชนมนโลกอินเตอร์เน็ตไทยเสียแล้ว
เรื่องความรัก ที่ไม่อยู่ในสายตาผู้นำก็ต้องมีปัญหาบ้าง ทางคริสตจักรผมเขาถึงไม่ให้หนุมสาวจีบกันเอง ถ้าใครชอบใครให้ไปบอกผู้นำแล้วผู้นำทั้งสองฝายจะติดต่อกันเอง จะค่อยดูให้ ถ้าผู้นำเห็นว่าทั่งสองฝายเหมาะสมก็จับให้แต่งงานกันเลย ดังนั้นหนุ่มสาวคริสตจักรผมจึงไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ หน้าที่เราคือรับใช้พระเจ้าอย่างเดียวครับ ประกาศข่าวประเสริฐร้อนรนเอาจริงเอาจัง ขยันติดตามผลผู้เชื่อใหม่ ผู้นำเห็นว่าท่าที่เราร้อนรนเอาจริงเอาจังสามารถแต่งานกันแล้วงานพระเจ้าเกิดผล จิตวิญญาณเราเติปโตเขาก็จับให้เราแต่งงานเอง แต่ถ้าเราแต่งงานแล้วงานพระเจ้าไม่เกิดผลจิตวิญญาณไม่เติปโตก็ไม่มีใครจับให้คุณแต่งงานหรอกครับ ร้อนรนรับใช้เดียวพระเจ้าก็ส่งมาเองครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Ezekiel เมื่อ พุธ ธ.ค. 13, 2006 2:46 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
แล้วถ้าแต่งแล้วเลิกนี่ ผู้นำรับผิดชอบมั้ยคะ รึว่าผู้นำบอกห้ามเลิกก็ไม่เลิกกันEzekiel เขียน: เรื่องความรัก ที่ไม่อยู่ในสายตาผู้นำก็ต้องมีปัญหาบ้าง ทางคริสตจักรผมเขาถึงไม่ให้หนุมสาวจีบกันเอง ถ้าใครชอบใครให้ไปบอกผู้นำแล้วผู้นำทั้งสองฝายจะติดต่อกันเอง จะค่อยดูให้ ถ้าผู้นำเห็นว่าทั่งสองฝายเหมาะสมก็จับให้แต่งงานกันเลย ดังนั้นหนุ่มสาวคริสตจักรผมจึงไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ หน้าที่เราคือรับใช้พระเจ้าอย่างเดียวครับ ประกาศข่าวประเสริฐร้อนรนเอาจริงเอาจัง ขยันติดตามผลผู้เชื่อใหม่ ผู้นำเห็นว่าท่าที่เราร้อนรนเอาจริงเอาจังสามารถแต่งานกันแล้วงานพระเจ้าเกิดผล จิตวิญญาณเราเติปโตเขาก็จับให้เราแต่งงานเอง แต่ถ้าเราแต่งงานแล้วงานพระเจ้าไม่เกิดผลจิตวิญญาณไม่เติปโตก็ไม่มีใครจับให้คุณแต่งงานหรอกครับ ร้อนรนรับใช้เดียวพระเจ้าก็ส่งมาเองครับ
ปล ถามจริงๆค่ะ มาจากโบสถ์ไหนคะ ยังกะคอมมิวนิสต์เลย แต่ก็ดีนะคะ คนในโบสถ์มีฤทธิ์กุศลด้านความนบนอบสูงมากเป็นพิเศษ

พูดคล้ายคริสตจักรพี่เลยหุหุ ไม่รู้พูดได้เปล่า สมัยก่อนพี่รับใช้ รับใช้ พี่เจอสาวนางหนึ่งพี่ก็ไปบอกผู้นำ ผู้นำก็ดูให้ แล้ววันสุดท้าย แง้ๆ พี่ต้องเลือกว่าจะเอาคาทอลิกหรือเธอคนนั้นแล้วในที่สุดพี่ก็ต้องเลือกคาทอลิก ผู้นำก็ถามแล้วพี่ก็ตัดสินใจแน่ พอมาอยู่คาทอลิกมันก็เป็นอย่างที่เห็นแหละ
แต่ผู้นำก็เตือนพี่แล้ว เอาแค่นี้พอดีกว่า
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ พุธ ธ.ค. 13, 2006 4:51 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
Ezekiel เขียน: เรื่องความรัก ที่ไม่อยู่ในสายตาผู้นำก็ต้องมีปัญหาบ้าง ทางคริสตจักรผมเขาถึงไม่ให้หนุมสาวจีบกันเอง ถ้าใครชอบใครให้ไปบอกผู้นำแล้วผู้นำทั้งสองฝายจะติดต่อกันเอง จะค่อยดูให้ ถ้าผู้นำเห็นว่าทั่งสองฝายเหมาะสมก็จับให้แต่งงานกันเลย ดังนั้นหนุ่มสาวคริสตจักรผมจึงไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ หน้าที่เราคือรับใช้พระเจ้าอย่างเดียวครับ ประกาศข่าวประเสริฐร้อนรนเอาจริงเอาจัง ขยันติดตามผลผู้เชื่อใหม่ ผู้นำเห็นว่าท่าที่เราร้อนรนเอาจริงเอาจังสามารถแต่งานกันแล้วงานพระเจ้าเกิดผล จิตวิญญาณเราเติปโตเขาก็จับให้เราแต่งงานเอง แต่ถ้าเราแต่งงานแล้วงานพระเจ้าไม่เกิดผลจิตวิญญาณไม่เติปโตก็ไม่มีใครจับให้คุณแต่งงานหรอกครับ ร้อนรนรับใช้เดียวพระเจ้าก็ส่งมาเองครับ

คุณอยู่คริสตจักรไหนครับEzekiel เขียน: เรื่องความรัก ที่ไม่อยู่ในสายตาผู้นำก็ต้องมีปัญหาบ้าง ทางคริสตจักรผมเขาถึงไม่ให้หนุมสาวจีบกันเอง ถ้าใครชอบใครให้ไปบอกผู้นำแล้วผู้นำทั้งสองฝายจะติดต่อกันเอง จะค่อยดูให้ ถ้าผู้นำเห็นว่าทั่งสองฝายเหมาะสมก็จับให้แต่งงานกันเลย ดังนั้นหนุ่มสาวคริสตจักรผมจึงไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ หน้าที่เราคือรับใช้พระเจ้าอย่างเดียวครับ ประกาศข่าวประเสริฐร้อนรนเอาจริงเอาจัง ขยันติดตามผลผู้เชื่อใหม่ ผู้นำเห็นว่าท่าที่เราร้อนรนเอาจริงเอาจังสามารถแต่งานกันแล้วงานพระเจ้าเกิดผล จิตวิญญาณเราเติปโตเขาก็จับให้เราแต่งงานเอง แต่ถ้าเราแต่งงานแล้วงานพระเจ้าไม่เกิดผลจิตวิญญาณไม่เติปโตก็ไม่มีใครจับให้คุณแต่งงานหรอกครับ ร้อนรนรับใช้เดียวพระเจ้าก็ส่งมาเองครับ
ผมบอกให้เลยครับ คริสตจักรความหวังแน่ๆHoly เขียน:คุณอยู่คริสตจักรไหนครับEzekiel เขียน: เรื่องความรัก ที่ไม่อยู่ในสายตาผู้นำก็ต้องมีปัญหาบ้าง ทางคริสตจักรผมเขาถึงไม่ให้หนุมสาวจีบกันเอง ถ้าใครชอบใครให้ไปบอกผู้นำแล้วผู้นำทั้งสองฝายจะติดต่อกันเอง จะค่อยดูให้ ถ้าผู้นำเห็นว่าทั่งสองฝายเหมาะสมก็จับให้แต่งงานกันเลย ดังนั้นหนุ่มสาวคริสตจักรผมจึงไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ หน้าที่เราคือรับใช้พระเจ้าอย่างเดียวครับ ประกาศข่าวประเสริฐร้อนรนเอาจริงเอาจัง ขยันติดตามผลผู้เชื่อใหม่ ผู้นำเห็นว่าท่าที่เราร้อนรนเอาจริงเอาจังสามารถแต่งานกันแล้วงานพระเจ้าเกิดผล จิตวิญญาณเราเติปโตเขาก็จับให้เราแต่งงานเอง แต่ถ้าเราแต่งงานแล้วงานพระเจ้าไม่เกิดผลจิตวิญญาณไม่เติปโตก็ไม่มีใครจับให้คุณแต่งงานหรอกครับ ร้อนรนรับใช้เดียวพระเจ้าก็ส่งมาเองครับ
ปล.ทำไมไม่มีใครทำอะไรกับพวกนี้มั่งเลย นี่มันหลักการของพวก บอลเชวิก(คอมมิวนิสต์)ชัดๆ ขืนปล่อยไว้ จะพาลให้ศาสนาเราทั้ง 3 นิกายเสื่อมเสีย ผมหละเห็นแบบนี้มานานละ อึดอัดมาก อยากจะทำอะไรมั่ง
ไม่รู้นะฮะ
แต่สำหรับตัวผมเอง..เด็กน้อยคนหนึ่ง (หึๆ)
ที่ผ่านโลกมาน้อย...(จริงๆ)
ผมชอบถามตัวเองว่า
"ความรักคืออะไร".....แต่ความรักในที่นี้หมายถึงความรักจริง ๆ ที่จะครองคู่นะครับ
ไม่ใช่ความรักของพระเจ้า พ่อแม่ หรือเพื่อน ๆ
คำตอบของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป
แต่คำตอบของผมคือ "รักคือทุกสิ่งที่ทำให้ไม่มีทุกข์"
เพราะฉะนั้นถ้าใครสักคนอกหัก (รวมถึงตัวเองบ่อยๆ)
ก็มักปลอบเขาหรือตัวเองว่า
"ถ้าการที่เรารักเขาแล้วเราทุกข์อย่างนี้ มันก็คงไม่ใช่ความรัก"
..........ตามหารักต่อไป..........
แต่สำหรับตัวผมเอง..เด็กน้อยคนหนึ่ง (หึๆ)
ที่ผ่านโลกมาน้อย...(จริงๆ)
ผมชอบถามตัวเองว่า
"ความรักคืออะไร".....แต่ความรักในที่นี้หมายถึงความรักจริง ๆ ที่จะครองคู่นะครับ
ไม่ใช่ความรักของพระเจ้า พ่อแม่ หรือเพื่อน ๆ
คำตอบของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป
แต่คำตอบของผมคือ "รักคือทุกสิ่งที่ทำให้ไม่มีทุกข์"
เพราะฉะนั้นถ้าใครสักคนอกหัก (รวมถึงตัวเองบ่อยๆ)
ก็มักปลอบเขาหรือตัวเองว่า
"ถ้าการที่เรารักเขาแล้วเราทุกข์อย่างนี้ มันก็คงไม่ใช่ความรัก"
..........ตามหารักต่อไป..........
เอาความต้องการฝ่ายโลกของมนุษย์...มาเป็นแรงจูงใจให้กลุ่มสมาชิกเดินตามด้วยความร้อนรนEzekiel เขียน: เรื่องความรัก ที่ไม่อยู่ในสายตาผู้นำก็ต้องมีปัญหาบ้าง ทางคริสตจักรผมเขาถึงไม่ให้หนุมสาวจีบกันเอง ถ้าใครชอบใครให้ไปบอกผู้นำแล้วผู้นำทั้งสองฝายจะติดต่อกันเอง จะค่อยดูให้ ถ้าผู้นำเห็นว่าทั่งสองฝายเหมาะสมก็จับให้แต่งงานกันเลย ดังนั้นหนุ่มสาวคริสตจักรผมจึงไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ หน้าที่เราคือรับใช้พระเจ้าอย่างเดียวครับ ประกาศข่าวประเสริฐร้อนรนเอาจริงเอาจัง ขยันติดตามผลผู้เชื่อใหม่ ผู้นำเห็นว่าท่าที่เราร้อนรนเอาจริงเอาจังสามารถแต่งานกันแล้วงานพระเจ้าเกิดผล จิตวิญญาณเราเติปโตเขาก็จับให้เราแต่งงานเอง แต่ถ้าเราแต่งงานแล้วงานพระเจ้าไม่เกิดผลจิตวิญญาณไม่เติปโตก็ไม่มีใครจับให้คุณแต่งงานหรอกครับ ร้อนรนรับใช้เดียวพระเจ้าก็ส่งมาเองครับ

อิสรภาพ....มโนธรรม....ที่พระเจ้าให้มามันเป็นอย่างไร...มันเกิดอะไรขึ้น
ความชอบธรรมอย่างเดียวคือ...การนำคนมาเป็นสมาชิกเพิ่ม???
ถ้าอย่างนั้น...ผมก็ไม่ต้องแบ่งปันให้กับคนที่มีฐานะแตกต่างกัน...ไม่ต้องไปสมาคมกับคนอื่นๆ
เพี่ยงแค่สมาคมกับคนที่เกิดมา...เรียนที่เดียวกัน...ทำงานคล้ายๆกัน...อายุไล่เลี่ยกัน...
แล้วคนที่เกิดมาพิกลพิการ...เป็นโรคร้าย(โรคเรื้อน)..จะมีใครไปสมาคมด้วย...หรือคนพิการก็สมาคมอยู่กับคนพิการ
เหตุผลคือเพื่อให้งานพระเจ้าเกิดผล???
ให้สมาชิกรู้สึกว่ามีกลุ่มคนที่เหมือนๆกันรวมอยู่ด้วยกัน...ดูอบอุ่น...เกิดผล...เติบโตทางฝ่ายวิญญาน???
วันอาทิตย์ ก็ แต่งตัว หล่อๆ สวยๆ ไปโบสถ์...ทำให้สมาชิกใหม่ประทับใจ...
แค่นี้เองหรือ กับคำว่า มโนธรรม ???
อย่าหาว่ากระทบกระทั่งหรือเข้าไปสอดเลยนะครับEzekiel เขียน: เรื่องความรัก ที่ไม่อยู่ในสายตาผู้นำก็ต้องมีปัญหาบ้าง ทางคริสตจักรผมเขาถึงไม่ให้หนุมสาวจีบกันเอง ถ้าใครชอบใครให้ไปบอกผู้นำแล้วผู้นำทั้งสองฝายจะติดต่อกันเอง จะค่อยดูให้ ถ้าผู้นำเห็นว่าทั่งสองฝายเหมาะสมก็จับให้แต่งงานกันเลย ดังนั้นหนุ่มสาวคริสตจักรผมจึงไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ หน้าที่เราคือรับใช้พระเจ้าอย่างเดียวครับ ประกาศข่าวประเสริฐร้อนรนเอาจริงเอาจัง ขยันติดตามผลผู้เชื่อใหม่ ผู้นำเห็นว่าท่าที่เราร้อนรนเอาจริงเอาจังสามารถแต่งานกันแล้วงานพระเจ้าเกิดผล จิตวิญญาณเราเติปโตเขาก็จับให้เราแต่งงานเอง แต่ถ้าเราแต่งงานแล้วงานพระเจ้าไม่เกิดผลจิตวิญญาณไม่เติปโตก็ไม่มีใครจับให้คุณแต่งงานหรอกครับ ร้อนรนรับใช้เดียวพระเจ้าก็ส่งมาเองครับ
แต่เมื่ออ่านข้อความนี้แล้ว สิ่งที่แว๊บเข้ามาในหัวของผมคือ
"นี่หรือความรัก...สิ่งประเสริฐที่สุดที่พระเจ้าทรงประทานให้แก่มวลมนุษย์ผู้เป็นสิ่งสร้างที่รักยิ่งของพระองค์
ทำไมมนุษย์จึงเอาสิ่งประเสริฐที่สุดของพระองค์มาเหยียบย่ำ ดูแคลน โดยอ้างนามของพระองค์ในการทำเช่นนั้น"
ระอาแก่ใจบ้างไหมนี่
ปล. ขออภัย แต่นี่คือสิ่งที่ผมคิดจริง ๆ อาจจะเกิดจากอคติ
หรือเกิดจากความไม่เข้าใจ หากสิ่งที่ผมเข้าใจนั้นผิดไป
รบกวนช่วยแถลงให้ผมเข้าใจด้วย สงสัยใคร่รู้จริงๆ
ขออภัยมา ณ ที่นี้
ในเอเซียเรานานแล้วความรักหนุ่มสาวก็อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ แล้วให้ผู้นำในคริสตจักรคอยเป็นหูเป็นตาให้ไม่ดีหรือครับ เรารักกันเราจึงช่วยดูแลซึ่งกันและกัน ดังนั้นความรักต้องอยู่ในสายตาของผู้นำครับ ให้ผู้นำช่วยดูให้ว่าเหมาะสมกับเราแค่ไหน แล้วมันต้องมาจากการสมัครใจของทั่งสองฝายด้วยครับ ไม่ใช้ฝายหนึ่งหนึ่งชอบแล้วอีกฝายหนึ่งไม่ชอบผู้นำก็แค่ไปคุยด้วยเท่านั้นแต่ไม่ปังคับใจใครถ้าอีกฝายไม่ตกลงก็ไม่บังคับ แต่ถ้าทั่งคู่รักกันผู้นำทั่งสองฝายก็ช่วยดูให้ครับ เราต้องเชื่อฟังพระเจ้าเชื่อฟังสิทธิอำนาจของผู้นำไม่มีท่าทีการกบฏอย่างซาตาน แต่ถ้าผู้นำบอกไม่เหมาะสมก็คือไม่เหมาะสม แต่ถ้าสมาชิกดื้อไม่เชื่อฟัง ผู้นำบอกห้ามแล้วยังไม่ยอมยังจะรักกันให้ได้หันมาต่อต้านหรือหนีไปอยู่คริสตจักรอื่น แสดงว่าเขายังมีมีวิญญาณไม่เชื่อฟังอยู่มาก เป็นเพราะจิตวิญญาณเขายังไม่เติบโต เป็นคริสเตียนที่ไม่ได้ถวายตัวให้พระเจ้าอย่างแท้จริง พวกนี้มักเป็นคริสเตียนขอบๆ ถ้าเขาไม่กลับใจวิญญาณเขาก็ยังไม่เติบโตเขามีวิญญาณของการดื้อการกบฏไม่เชื่อฟังเหมือนซาตานอยู่มาก ทางนิตินัยถึงเขามาเชื่อพระเจ้าแต่ทางพฤตินัยแล้วเขายังไม่ยอมทิ้งตัวเองไม่ยอมเสียสิ่งนี้เพื่อถวายพระเจ้า แล้วถ้ายังไม่กลับใจ คงไม่มีคริสเตียนคนไหนที่เติบโตแล้วไปเสียเวลากับเขาด้วยหรอกครับ เอาเวลาไปใช้กับคนที่มีท่าทีดีๆ จะเกิดผลมากกว่า เลือกสร้างคนที่มีท่าทีดีนัดเวลาสอนพระคัมภีร์สร้างเขาให้เติบโต จะทำให้คริสจักรเกิดผลได้มากกว่าที่จะไปเสียเวลากับพวกขอบๆ คริสตจักรเราไม่ใช้คอมมิวนิสอะไรแต่เราระบบสิทธิ์อำนาจและการเชื่อฟังครับ
ส่วนเรื่องอยู่คริสตจักรไหนขอปิดไว้ก่อนนะครับ เพราะตอนนี้คริสตจักรเราก็ถูกโจมตีจากบรรดาคริสตจักรที่ไม่หวังดีอยู่แล้ว
ส่วนเรื่องอยู่คริสตจักรไหนขอปิดไว้ก่อนนะครับ เพราะตอนนี้คริสตจักรเราก็ถูกโจมตีจากบรรดาคริสตจักรที่ไม่หวังดีอยู่แล้ว
แก้ไขล่าสุดโดย Ezekiel เมื่อ ศุกร์ ม.ค. 05, 2007 8:58 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
อย่าทะเลาะกันเลยครับ ขอร้อง... เราเป็นลูกพระบิดาด้วยกันแท้ๆทำไมเราต้องทะเลาะกันด้วยเรื่องแบบนี้ด้วย... 
ความรัก
เป็นของขวัญที่มีค่าสิ่งหนึ่งที่พระเจ้าประทานมาให้มนุษย์
พระองค์ประทานความรักให้เรารักกันและกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
และที่สำคัญก็คือช่วยให้เราเข้าใจว่าพระองค์รักเราอย่างไร และให้เรารักพระองค์สิ้นสุดจิตใจ
ความรักไม่ใช่สิ่งที่เอาไว้ผูกมัดคน และไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะสามารถบังคับกันได้
มนุษย์อาจจะบังคับให้แต่งงานหรือไม่แต่งงานได้ แต่การแต่งงานเป็นเพียงแค่ข้อผูกมัดทางโลกเท่านั้น
หากว่าคนเราจะมีความรัก มนุษย์ก็คงไม่อาจจะห้ามได้...
พระองค์ทรงวางทางเดินไว้ให้เรามากมาย อยู่ที่ว่าเราจะเลือกทางเดินไหน
ฟังเสียงของพระองค์ที่ช่วยชี้ทางให้เรา... ปลายทาง เราก็จะพบกับพระองค์...



พระองค์ประทานความรักให้เรารักกันและกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
และที่สำคัญก็คือช่วยให้เราเข้าใจว่าพระองค์รักเราอย่างไร และให้เรารักพระองค์สิ้นสุดจิตใจ
ความรักไม่ใช่สิ่งที่เอาไว้ผูกมัดคน และไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะสามารถบังคับกันได้
มนุษย์อาจจะบังคับให้แต่งงานหรือไม่แต่งงานได้ แต่การแต่งงานเป็นเพียงแค่ข้อผูกมัดทางโลกเท่านั้น
หากว่าคนเราจะมีความรัก มนุษย์ก็คงไม่อาจจะห้ามได้...
พระองค์ทรงวางทางเดินไว้ให้เรามากมาย อยู่ที่ว่าเราจะเลือกทางเดินไหน
ฟังเสียงของพระองค์ที่ช่วยชี้ทางให้เรา... ปลายทาง เราก็จะพบกับพระองค์...
คริสตจักรคุณสอนเหมือนพรรคบอลเชวิกจังนิ พระศาสนจักรตะวันตก กับตะวันออก เค้ายังไม่สอนแบบนี้เลยEzekiel เขียน: ในเอเซียเรานานแล้วความรักหนุ่มสาวก็อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ แล้วให้ผู้นำในคริสตจักรคอยเป็นหูเป็นตาให้ไม่ดีหรือครับ เรารักกันเราจึงช่วยดูแลซึ่งกันและกัน ดังนั้นความรักต้องอยู่ในสายตาของผู้นำครับ ให้ผู้นำช่วยดูให้ว่าเหมาะสมกับเราแค่ไหน แล้วมันต้องมาจากการสมัครใจของทั่งสองฝายด้วยครับ ไม่ใช้ฝายหนึ่งหนึ่งชอบแล้วอีกฝายหนึ่งไม่ชอบผู้นำก็แค่ไปคุยด้วยเท่านั้นแต่ไม่ปังคับใจใครถ้าอีกฝายไม่ตกลงก็ไม่บังคับ แต่ถ้าทั่งคู่รักกันผู้นำทั่งสองฝายก็ช่วยดูให้ครับ เราต้องเชื่อฟังพระเจ้าเชื่อฟังสิทธิอำนาจของผู้นำไม่มีท่าทีการกบฏอย่างซาตาน แต่ถ้าผู้นำบอกไม่เหมาะสมก็คือไม่เหมาะสม แต่ถ้าสมาชิกดื้อไม่เชื่อฟัง ผู้นำบอกห้ามแล้วยังไม่ยอมยังจะรักกันให้ได้หันมาต่อต้านหรือหนีไปอยู่คริสตจักรอื่น แสดงว่าเขายังมีมีวิญญาณไม่เชื่อฟังอยู่มาก เป็นเพราะจิตวิญญาณเขายังไม่เติบโต เป็นคริสเตียนที่ไม่ได้ถวายตัวให้พระเจ้าอย่างแท้จริง พวกนี้มักเป็นคริสเตียนขอบๆ ถ้าเขาไม่กลับใจวิญญาณเขาก็ยังไม่เติบโตเขามีวิญญาณของการดื้อการกบฏไม่เชื่อฟังเหมือนซาตานอยู่มาก ทางนิตินัยถึงเขามาเชื่อพระเจ้าแต่ทางพฤตินัยแล้วเขายังไม่ยอมทิ้งตัวเองไม่ยอมเสียสิ่งนี้เพื่อถวายพระเจ้า แล้วถ้ายังไม่กลับใจ คงไม่มีคริสเตียนคนไหนที่เติบโตแล้วไปเสียเวลากับเขาด้วยหรอกครับ เอาเวลาไปใช้กับคนที่มีท่าทีดีๆ จะเกิดผลมากกว่า เลือกสร้างคนที่มีท่าทีดีนัดเวลาสอนพระคัมภีร์สร้างเขาให้เติบโต จะทำให้คริสจักรเกิดผลได้มากกว่าที่จะไปเสียเวลากับพวกขอบๆ คริสตจักรเราไม่ใช้คอมมิวนิสอะไรแต่เราระบบสิทธิ์อำนาจและการเชื่อฟังครับ
ส่วนเรื่องอยู่คริสตจักรไหนขอปิดไว้ก่อนนะครับ เพราะตอนนี้คริสตจักรเราก็ถูกโจมตีจากบรรดาคริสตจักรที่ไม่หวังดีอยู่แล้ว
Ich bin Anti- Kirche der Hoffnung aber nicht Anti- anderen Protestanten.
ถ้าเจอแบบผมมาดิ แล้วรับรอง จะญาติดีกับพวกนี้ไม่ลง ผมออกมาจากคริสตจักรนั้น มาเป็นสมาชิกของพระศาสนจักรคาทอลิกก็เพราะคำสอนของพวกเค้าหละครับAgape เขียน:ผมว่าคริสตจักรคาทอลิกกับคริสตจักรที่ว่า...น่าจะเป็นมิตรกันได้นะ...เพราะหัวอกเดียวกันEzekiel เขียน: เพราะตอนนี้คริสตจักรเราก็ถูกโจมตีจากบรรดาคริสตจักรที่ไม่หวังดีอยู่แล้ว![]()
![]()
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า..ทำไม๊..ทำไม..ทั้งๆที่เราดูจะอ่อนแอเสียด้วยซ้ำ...ยัง...
Ich bin Anti- Kirche der Hoffnung aber nicht Anti- anderen Protestanten.
แก้ไขล่าสุดโดย Big_TC29 เมื่อ ศุกร์ ม.ค. 05, 2007 11:31 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ประมาณว่าถูกเบียดเบียน... ...เหมือนกันเลยEzekiel เขียน: เพราะตอนนี้คริสตจักรเราก็ถูกโจมตีจากบรรดาคริสตจักรที่ไม่หวังดีอยู่แล้ว



ผมว่าคริสตจักรคาทอลิกกับคริสตจักร(ที่ไม่ออกนาม)...น่าจะเป็นมิตรกันได้นะ

ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่า..ทำไม๊..ทำไม..ทั้งๆที่เราดูจะอ่อนแอเสียด้วยซ้ำ...ยัง...
ผมอ่านแล้วรู้สึกว่าคริสตจักรคุณสอนให้เชื่อฟังผู้นำมาก ขนาดพระสันตะปาปายังไม่มีอำนาจเหนือฆารวาสคาทอลิคขนาดนี้เลย จะอย่างไรก็ตาม ขอให้ยอมรับความจริงว่า พระสันตะปาปาหรือผู้นำคริสตจักรยังคงเป็นมนุษย์สามารถบกพร่องและผิดพลาดได้ครับEzekiel เขียน: ในเอเซียเรานานแล้วความรักหนุ่มสาวก็อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ แล้วให้ผู้นำในคริสตจักรคอยเป็นหูเป็นตาให้ไม่ดีหรือครับ เรารักกันเราจึงช่วยดูแลซึ่งกันและกัน ดังนั้นความรักต้องอยู่ในสายตาของผู้นำครับ ให้ผู้นำช่วยดูให้ว่าเหมาะสมกับเราแค่ไหน แล้วมันต้องมาจากการสมัครใจของทั่งสองฝายด้วยครับ ไม่ใช้ฝายหนึ่งหนึ่งชอบแล้วอีกฝายหนึ่งไม่ชอบผู้นำก็แค่ไปคุยด้วยเท่านั้นแต่ไม่ปังคับใจใครถ้าอีกฝายไม่ตกลงก็ไม่บังคับ แต่ถ้าทั่งคู่รักกันผู้นำทั่งสองฝายก็ช่วยดูให้ครับ เราต้องเชื่อฟังพระเจ้าเชื่อฟังสิทธิอำนาจของผู้นำไม่มีท่าทีการกบฏอย่างซาตาน แต่ถ้าผู้นำบอกไม่เหมาะสมก็คือไม่เหมาะสม แต่ถ้าสมาชิกดื้อไม่เชื่อฟัง ผู้นำบอกห้ามแล้วยังไม่ยอมยังจะรักกันให้ได้หันมาต่อต้านหรือหนีไปอยู่คริสตจักรอื่น แสดงว่าเขายังมีมีวิญญาณไม่เชื่อฟังอยู่มาก เป็นเพราะจิตวิญญาณเขายังไม่เติบโต เป็นคริสเตียนที่ไม่ได้ถวายตัวให้พระเจ้าอย่างแท้จริง พวกนี้มักเป็นคริสเตียนขอบๆ ถ้าเขาไม่กลับใจวิญญาณเขาก็ยังไม่เติบโตเขามีวิญญาณของการดื้อการกบฏไม่เชื่อฟังเหมือนซาตานอยู่มาก ทางนิตินัยถึงเขามาเชื่อพระเจ้าแต่ทางพฤตินัยแล้วเขายังไม่ยอมทิ้งตัวเองไม่ยอมเสียสิ่งนี้เพื่อถวายพระเจ้า แล้วถ้ายังไม่กลับใจ คงไม่มีคริสเตียนคนไหนที่เติบโตแล้วไปเสียเวลากับเขาด้วยหรอกครับ เอาเวลาไปใช้กับคนที่มีท่าทีดีๆ จะเกิดผลมากกว่า เลือกสร้างคนที่มีท่าทีดีนัดเวลาสอนพระคัมภีร์สร้างเขาให้เติบโต จะทำให้คริสจักรเกิดผลได้มากกว่าที่จะไปเสียเวลากับพวกขอบๆ คริสตจักรเราไม่ใช้คอมมิวนิสอะไรแต่เราระบบสิทธิ์อำนาจและการเชื่อฟังครับ
ส่วนเรื่องอยู่คริสตจักรไหนขอปิดไว้ก่อนนะครับ เพราะตอนนี้คริสตจักรเราก็ถูกโจมตีจากบรรดาคริสตจักรที่ไม่หวังดีอยู่แล้ว
ปล.เราพยายามพูดคุยกันด้วยสันติจะดีกว่านะครับ คนไหนทำไม่ดีกับเราไว้ เราก็ไม่จำเป้นต้องเหมารวมว่าทุกคนจะต้องเป็นแบบนั้น ค่อยๆเรียนรู้กันเป็นรายบุคคลแล้วตัดสินใจก็ยังไม่สาย
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ เสาร์ ม.ค. 06, 2007 1:37 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
เห็นด้วยครับ แถมยังมีกลุ่มคนคล้ายอีก คนประเภทไหนต้องไปนั่งรวมกลุ่มกันเวลาไปโบสถ์ คนทำงานออฟฟิสต้องไปนั่งกลุ่มทำงานออฟฟิส คนเป็นนักธุรกิจต้องไปนั่งกลุ่มนักธุรกิจ คนที่ยังเรียนอยู่ก็ไปนั่งกลุ่มคนเรียนอยู่ คนใช้แรงงานต้องไปเข้ากลุ่มคนใช้แรงงาน คนแก่ที่มีอายุไม่ได้ทำงานก็ไปนั่งกับกลุ่มคนแก่ที่มีอายุ คนอย่างไหนก็ต้องเข้ากลุ่มอย่างนั้น เวลาไปนมัสการก็นั่งตามกลุ่มอยู่แต่สังคมแค่นั้นเป้าหมายคือใช้กลุ่มดึงคนที่เหมือนกันมาเชื่อพระเจ้าเพื่อให้บรรยากาศดึกดูด ดึงตามสายสัมพันธ์Agape เขียน:เอาความต้องการฝ่ายโลกของมนุษย์...มาเป็นแรงจูงใจให้กลุ่มสมาชิกเดินตามด้วยความร้อนรนEzekiel เขียน: เรื่องความรัก ที่ไม่อยู่ในสายตาผู้นำก็ต้องมีปัญหาบ้าง ทางคริสตจักรผมเขาถึงไม่ให้หนุมสาวจีบกันเอง ถ้าใครชอบใครให้ไปบอกผู้นำแล้วผู้นำทั้งสองฝายจะติดต่อกันเอง จะค่อยดูให้ ถ้าผู้นำเห็นว่าทั่งสองฝายเหมาะสมก็จับให้แต่งงานกันเลย ดังนั้นหนุ่มสาวคริสตจักรผมจึงไม่ต้องกังวลเรื่องนี้ หน้าที่เราคือรับใช้พระเจ้าอย่างเดียวครับ ประกาศข่าวประเสริฐร้อนรนเอาจริงเอาจัง ขยันติดตามผลผู้เชื่อใหม่ ผู้นำเห็นว่าท่าที่เราร้อนรนเอาจริงเอาจังสามารถแต่งานกันแล้วงานพระเจ้าเกิดผล จิตวิญญาณเราเติบโตเขาก็จับให้เราแต่งงานเอง แต่ถ้าเราแต่งงานแล้วงานพระเจ้าไม่เกิดผลจิตวิญญาณไม่เติบโตก็ไม่มีใครจับให้คุณแต่งงานหรอกครับ ร้อนรนรับใช้เดียวพระเจ้าก็ส่งมาเองครับ
อิสรภาพ....มโนธรรม....ที่พระเจ้าให้มามันเป็นอย่างไร...มันเกิดอะไรขึ้น
ความชอบธรรมอย่างเดียวคือ...การนำคนมาเป็นสมาชิกเพิ่ม???
ถ้าอย่างนั้น...ผมก็ไม่ต้องแบ่งปันให้กับคนที่มีฐานะแตกต่างกัน...ไม่ต้องไปสมาคมกับคนอื่นๆ
เพี่ยงแค่สมาคมกับคนที่เกิดมา...เรียนที่เดียวกัน...ทำงานคล้ายๆกัน...อายุไล่เลี่ยกัน...
แล้วคนที่เกิดมาพิกลพิการ...เป็นโรคร้าย(โรคเรื้อน)..จะมีใครไปสมาคมด้วย...หรือคนพิการก็สมาคมอยู่กับคนพิการ
เหตุผลคือเพื่อให้งานพระเจ้าเกิดผล???
ให้สมาชิกรู้สึกว่ามีกลุ่มคนที่เหมือนๆกันรวมอยู่ด้วยกัน...ดูอบอุ่น...เกิดผล...เติบโตทางฝ่ายวิญญาน???
วันอาทิตย์ ก็ แต่งตัว หล่อๆ สวยๆ ไปโบสถ์...ทำให้สมาชิกใหม่ประทับใจ...
แค่นี้เองหรือ กับคำว่า มโนธรรม ???
คริสต์จักรนี้ดูแลวเป็นเหมือนธุรกิจดูวางโครงสร้างไว้ดีแต่อาจมีผลประโยชน์ของใครบางคนซ่อนอยู่ เช่น ดร. ... เป็นคนตั้งคริสตจักร แล้วตัวเองก็ลาออกไปทำโครงการ... แล้วให้ อ. .... มาเป็นผู้นำดูแลคริสนจักรแทน โดยไม่เปิดเผยตัวเองว่าตัวเองเป็นผู้นำสูงสุดอยุ่เบื่อหลังอีกที แล้วก็ให้ทุกคนถวายๆ มากๆ ท้าทายให้ถวายมากๆ อาทิตย์หนึ่งซองถวายอย่างเดียวมีต้องสามซอง แล้วเจ้าตัว ดร. ... ก็เอาเงินไปตั้ง บริษัทเกี่ยวกับหนังสือแห่งหนึ่งจนเติบโต ดูเหมือนคริสตจักรนี้จะเป็นธุระกิจอะไรบางอย่างของตา ดร.คณะเศรษฐศาสตรคนนี้ ทุกคนที่ร้อนรนเอาจริงเอาจังในนี้ล้วนโดนหลอกหมด แต่ถ้าใครไม่ได้ร้อนรนเอาจริงเอาจังก็จะไม่ได้รับการยอมรับใดๆ จากสมาชิกในคริสตจักรเลยเพราะโครงสร้างเขาวางมาเป็นอย่างนั้น โดยตา ดร. ....
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ เสาร์ ม.ค. 06, 2007 2:33 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.

ผมคิดไปคิดมา...
เอาเป็นว่า..ถ้าการจัดการ...ในรูปแบบนั้น...คือสิ่งเดียว...ที่เขาคิดว่ามันทำให้เขาสัมผัสถึงพระเจ้าได้...
ผมก็ยินดีกับเขาด้วย



เดี๋ยวเราจะกลายเป็น...มาร...ซาตาน..ผู้ไม่หวังดีต่อเขา...ไปเสียเปล่าๆ :police: ?:evil:?
เอ๊ะ...หรือเราจะไม่หวังดีจริงๆ

เข้าใจเอามาอ้างเนอะ ผมไม่ว่าอะไรคุณหรอก ต้องเจอเอาเอง แล้วจะรู้ ตอนแรกๆ ก็เคยเป็นแบบคุณนี่หละ พอมาเจอแม่พระมาให้เห็น แล้วผมก็เปลี่ยนไป ทำให้รู้ว่า ที่เป็นอยู่มันไม่ใช่ แล้วคุณจะออกมาจากตรงนั้นเอง เวลานี้อาจจะยังไม่ใช่เวลาของคุณ ที่ต้องออกมาก็ได้Ezekiel เขียน: ที่โลกเขาโจมตีเราก็เพราะเขาเป็นโลกของมาร คนที่ใฝ่ในสิ่งที่เป็นของมารซาตานก็จะต่อต้านเรา เพราะแผ่นดินโลกนั้นชัวร้าย (มธ. 6:10, มธ. 13:38, ) ที่โลกต่อต้านเราเพราะเราเป็นคนชอบพระเจ้า (ยนฺ. 7:7 ยอห์นฺ 15:18 - 19)
ปล.Ich bin Anti- Kirche der Hoffnung aber nicht Anti- anderen Protestanten.
แก้ไขล่าสุดโดย Big_TC29 เมื่อ พฤหัสฯ. ม.ค. 11, 2007 4:49 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ลองมาเจอแบบจริงๆอย่างผมสิครับ รับรอง ดีไม่ลงกะพวก Kirche der Hoffnung นี้แน่นอนsasuke เขียน: อย่าตีกันเลยครับ นี่เป็นกระทู้ที่คุยเรื่องความรักไม่ใช่เหรอครับ อย่าทะเลาะกันซิ![]()
ปล.Ich bin Anti- Kirche der Hoffnung aber nicht Anti- anderen Protestanten. อยากรู้ว่าแปลว่าอะไร ใบ้ให้ก็ได้ เป็นภาษาเยอรมัน
ฮืออออออออออออออ แค่ภาษาอังกฤษ ยังจะอ่านไม่ออกเลย ทำไมต้องทำให้ลำบากด้วยเนี่ย คนใจร้ายยยยยยยยbigect07 เขียน:ลองมาเจอแบบจริงๆอย่างผมสิครับ รับรอง ดีไม่ลงกะพวก Kirche der Hoffnung นี้แน่นอนsasuke เขียน: อย่าตีกันเลยครับ นี่เป็นกระทู้ที่คุยเรื่องความรักไม่ใช่เหรอครับ อย่าทะเลาะกันซิ![]()
ปล.Ich bin Anti- Kirche der Hoffnung aber nicht Anti- anderen Protestanten. อยากรู้ว่าแปลว่าอะไร ใบ้ให้ก็ได้ เป็นภาษาเยอรมัน



อิ อิ น้องบิ๊กทำเป็นลึกลับ แกล้งน้องดีกว่า กล่าวคือแกล้งโดยการไม่ปล่อยให้คำพูดนี้ดูเป็นสิ่งที่ลึกลับอีกต่อไป งั้นผมเฉลยซะเลย เหอ เหอ ดังนี้bigect07 เขียน:ลองมาเจอแบบจริงๆอย่างผมสิครับ รับรอง ดีไม่ลงกะพวก Kirche der Hoffnung นี้แน่นอนsasuke เขียน: อย่าตีกันเลยครับ นี่เป็นกระทู้ที่คุยเรื่องความรักไม่ใช่เหรอครับ อย่าทะเลาะกันซิ![]()
ปล.Ich bin Anti- Kirche der Hoffnung aber nicht Anti- anderen Protestanten. อยากรู้ว่าแปลว่าอะไร ใบ้ให้ก็ได้ เป็นภาษาเยอรมัน
Ich = ผม / ดิฉัน / ตู / ข้าพเจ้า ฯลฯ
bin = กริยา sein กระจายในรูปของประธาน ich sein ก็คือ verb to be ในภาษาเยอรมัน
Kirche = คำนามเพศหญิง แปลว่า โบสถ์ / วัดคริสต์
der = Artikel ( article ) ของการก ( case ) Genitiv ( genitive ) ในแสดงความเป็นเจ้าของ
Hoffnung = เป็นคำนามเพศหญิงเช่นกัน ( ภาษาเยอรมัน คำนามที่ลงท้ายEndung ด้วย-ung ทุกตัวเป็นเพศหญิงหมด ) แปลว่า ความหวางงงงง
aber = เป็นสันธาน แปลว่า แต่
nicht = ไม่ ( not ในภาษาอังกฤษนั่นเอง )
anderen = อื่นๆ ( another หรือ other ในภาษาอังกฤษนั่นเอง ) ผันไปตามเพศ พจน์ การกของนามที่ตามหลัง
Protestanten = แปลเหมือนภาษาอังกฤษ แต่ตามไวยากรณ์ภาษาเยอรมัน ในทีนี้คำนี้ลงEndung -en แสดงว่าเป็นพหูพจน์
หมายเหตุไวยากรณ์
1. Kirche der Hoffnung ในที่นี้ใช้ der เพราะในการกGenitiv คำนามเพศหญิงเอกพจน์จะใช้ der คำว่าHoffnungเป็นเพศหญิงเอกพจน์ จึงใช้ der อนึ่งถ้าเป็นนามเพศชายและนามเพศกลาง ( หรือไม่มีเพศ ) เอกพจน์ ก็จะไม่ใช้ der แต่จะใช้ des แทน และท้ายคำนามอาจมีการลงEndung -s หรือ -es แล้วแต่กรณี
2. ander- ใช้รูปanderen เพราะคำนามที่ตามหลังมานั้นเป็นคำนามพหูพจน์ ander- จึงต้องลงEndung -en ตามกฎไวยากรณ์เยอรมัน
หมายเหตุท้ายคำอธิบาย
จะเห็นได้คำว่า Anti- ผมไม่ได้แปล ก็เพราะผมไม่กล้าแปล และคิดว่าทุกท่านเห็นคำนี้ก็คงรู้แล้วว่าแปลว่าอะไร
อธิบายมาพอหอมปากหอมคอ ลองแปลกันดูนะครับ ไม่ยากอย่างที่คิดครับ

18ปีที่อกหักตลอด ไม่เคยมีแฟนเป้นตัวเป็นตน เจ็บซ้ำซาก
แต่จงลุกขึ้นมาเหมือนตุ๊กตาล้มลุก!
แต่จงลุกขึ้นมาเหมือนตุ๊กตาล้มลุก!