ทูตสวรรค์

ถาม-ตอบพระคัมภีร์ เรื่องเสริมศรัทธา ความรู้ และสาระ บทความ ในคริสตศาสนา
ตอบกลับโพส
stars

เสาร์ ก.พ. 12, 2005 12:52 pm

ทูตสวรรค์



เหล่าทูตสวรรค์มี 2 ประเภท คือประเภทชั้นดี กับประเภทที่หล่นลงในความบาป แต่ในบทนี้จะกล่าวเฉพาะประเภทแรก บทต่อไปจึงจะกล่าวถึงประเภทหลัง
พระคัมภีร์สอนว่าทูตสวรรค์นั้นมีจริง ในพระคัมภีร์ มากกว่า 273 ครั้ง บอกว่าทูตสวรรค์นำน้ำพระทัยและพระประสงค์ในการปกครองของพระเจ้าไปปฏิบัติ
ภาษาฮีบรูและกรีกได้แปลคำว่า " angel " ว่า " ผู้ส่งข่าว ", ทูต หรือ ผู้รับใช้ " คำว่า " angel " ไม่ใช่ชื่อบุคคล แต่เป็นคำที่ใช้บรรยายสำนัก คำว่า "ทูตสวรรค์" เมื่อใช้สรรพนามแทน จะใช้เพศผู้เสมอ ถึงแม้ว่าไม่มีการกล่าวถึงเพศของทูตสวรรค์ในแง่ของมนุษย์

II.ข้อพระธรรม

สดด.8: 4-5; 68:17;103:20;104:4; ปฐก.16:1-13;21:17-19;22:11-16;31:11-13;อพย.3:2-4;ยด.9; 1ธส.4:16;คส.1:16; ฮบ.1:4-14; 12:12; มธ.25:31;28:2-4;;22:30;ลก.20:35-36;อฟ.3:10-11;6:12;1ปต.1:10-12;3:22;กจ.5:19-20;8:26;27:23-25;วว.1:1,20; 2ปต.2:10-11

III.แก่นแท้ของสัจจะธรรม

เหล่าทูตสวรรค์ถูกทรงสร้างจากพระเจ้า บรรดาทูตสวรรค์ไม่มีการสืบทอดสายพันธุ์ พวกเขาเป็นวิญญาณอมตะที่อยู่ชั่วนิรันดร์ จำนวนของเหล่าทูตสวรรค์คงที่เสมอชั่วนิรันดร์ เนื่องจากพวกเขาไม่มีการสืบทอดสายพันธุ์ พวกเขาเป็นผู้รับใช้ และ ผู้ส่งข่าวสารของพระเจ้า พวกเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ พระคัมภีร์ประกาศถึงสิ่งที่พวกเขาได้ทำ กำลังทำ และจะทำในอนาคต พวกเขาถูกส่ง " ไปช่วยเหลือบรรดาผู้ที่จะได้รับความรอด " (ฮบ.1:14) นั้นย่อมหมายความว่า คริสเตียนได้รับสองสิ่งจากพระเจ้า พระบิดา และพระบุตร
ประการแรก พระวิญญาณบริสุทธิ์ประทับอยู่ในเรา
ประการที่สอง ทูตสวรรค์ปรนนิบัติเรา

ความจริงที่ว่าพระวญญาณฯอยู่ในเรา และ เหล่าทูตสวรรค์ปรนนิบัติเราควรจะเป็นที่หนุนใจเรา

สัจจะธรรมที่ยิ่งใหญ่
a. การทรงสร้างเหล่าทูตสวรรค์

a.มีทูตสวรรค์อยู่ด้วยเมื่อมีการทรงสร้างโลก (ยบ.38:4-7)



คำว่า " บรรดาบุตรพระเจ้า " คือเหล่าทูตสวรรค์

b. ความจริงข้อนี้ได้รับการยืนยันจากพระธรรม คส.1:16-17 ค้นข้อพระธรรมนี้ และ ขีดเส้นไต้
พระคัมภีร์ยืนยันว่ามีการทรงสร้างทูตสวรรค์

a. ในสดุดี 148 ซึ่งเป็นพระธรรมแห่งการสรรเสริญที่ยิ่งใหญ่ จะพบคำว่า "ทูตสวรรค์ " และ " พลโยธา " จะถูกนำมากล่าวก่อนคำว่า " ดวงอาทิตย์ " , " ดวงจันทร์ " , " ดาว " ฯลฯ




b. รูปร่างและธรรมชาติของทูตสวรรค์


1.ทูตสวรรค์เป็นวิญญาณ
a. ความจริงข้อนี้ได้รับการยืนยันจาก ฮบ.1:7 :
(ดู สดด. 104:4)
และ ฮบ.1:14 :
ทูตสวรรค์มีฤทธิ์เดชที่จะทำให้มองเห็นได้

a. ทูตสวรรค์มีกายในบางลักษณะ และปฏิบัติการด้วยกายได้ แต่ไม่เหมือนกายของเรา พวกเขาปรากฏร่างคล้ายมนุษย์ (ลก.1:28-29)
บันทึก ยน.20:12

b. ใน ปฐก.19:1-3 ทูตสวรรค์ปรากฏในร่างที่เห็นได้ และโลตได้จัดอาหารไว้รับรอง และพวกเขาก็รับประทาน



ทูตสวรรค์ปรากฏในร่างมนุษย์

a. ใช้สรรพนามเพศผู้แทนทูตสวรรค์เสมอ (มธ.28:2-6)
b. ไม่ปรากฏว่ามีการบ่งว่าทูตสวรรค์เป็นเพศใดในแง่มุมของมนุษย์
บันทึก มธ.22:30 :



ทูตสวรรค์ไม่มีการตาย

a. พวกเขาดำรงอยู่เสมอ ไม่มีการแก่ตาย (ลก.20:35-36)
b. จำนวนทูตสวรรค์จึงไม่มีการลดลงหรือเพิ่มขึ้น
5.ทูตสวรรค์มีนับไม่ถ้วน
a. บันทึก ฮบ.12:22 :


b.ค้นและขีดเส้นไต้ที่ข้อพระธรรมต่อไปนี้ :
ดน.7:10 ;มธ.26:53;ลก.2:13
ข้อพระธรรมทั้งหมดเหล่านี้ล้วนทำให้เกิดความรู้สึกว่าทูตสวรรค์ช่างมีมากมายเหลือคณานับ

ทูตสวรรค์อยู่ในสวรรค์

a.บันทึก วว.5:11:


b.ขีดเส้นไต้ที่ วว.7:11 ; สดด.103:19-21

ทูตสวรรค์ภักดีต่อพระเจ้า

a.ดู สดด.103:20 :

b.ขีดเส้นไต้ที่ ปฐก.19:13 ; สดด.91:11



ทูตสวรรค์มีฤทธิ์อำนาจและพลัง

a. ทูตสวรรค์ไม่มีมหิทฤทธิ์ แต่มีพลังอำนาจที่พระเจ้ามอบให้ ตัวอย่างนี้จะพบได้ใน 2พกษ.19:35 :



b.ดู กจ.5:19;12:5-11;12:23
C.การจำแนกทูตสวรรค์

พระคัมภีร์สอนว่าทูตสวรรค์มียศและหน้าที่ต่างๆ
a.เครูบ
เครูบปรากฏตัวครั้งแรกในสวนเอเดน ซึ่งเป็นที่ๆพระเจ้าให้ทูตสวรรค์ตนนี้เฝ้าทางเข้า " ต้นไม้แห่งชีวิต " เพื่อมิให้อาดัมซึ่งได้หล่นลงในความบาปเข้าไปได้
แบบจำลองที่เป็นทองคำของเครีบถูกวางไว้บนหีบพันธะสัญญาตอนปลายทั้งสองของพระที่นั่งกรุณาในอภิสุทธิาถาน ซึ่งเป็นที่พระเจ้าประทับอยู่กับประชากรของพระองค์ (อพย.25:18-22;สดด.80:1;อพย.26:1;1พกษ.6:23-25)
พระที่นั่งกรุณาเป็นบัลลังค์ของพระเจ้า เครูบเฝ้าบัลลังค์นี้เพื่อความบริสุทธิ์
b. เสราฟิม
เป็นพหูพจน์ ปรากฏเพียงครั้งเดียวในพระคัมภีร์ ในนิมิตของอิสยาห์ เขาได้เห็นเสราฟิม ซึ่งแปลว่า เตา ล้อมรอบบัลลังค์ของพระเจ้า อ่าน อสย.6:1-8 และบันทึกข้อ 6 :

ทูตสวรรค์เหล่านี้สำแดงถึงความบริสุทธิ์ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ต้องมีก่อนที่จะมีการรับใช้





.มีการกล่าวถึงชื่อทูตสวรรค์ 3 ตน


a.มีคาเอล เป็น ทูตสวรรค์ที่สำคัญ และ เป็นหัวหน้า หรือเจ้าชายแห่งทูตสวรรค์ ชื่อของเขามีความหมายว่า " ผู้ที่เหมือนพระเจ้า " เขาเป็นผู้สื่อสารเรื่องบัญญัติและการพิพากษา
ชื่อของเขาถูกกล่าวถึง 5 ครั้งในพระคัมภีร์
ใน ดน.10:13 มีคาเอลถูกเรียกว่า เจ้าผู้พิทักษ์ชั้นหัวหน้า ข้อพระธรรมอื่นอีก 2 ข้อในดานิเอลที่กล่าวถึงมีคาเอลคือ ดน.10:21;12:1
มีคาเอลโต้เถียงซาตานเกี่ยกับศพของโมเสส (ยด.9) มีคาเอลนี่เองที่นำทัพทูตสวรรค์ในสวรรค์สูกับ " พญานาค " ซึ่งเป็นพวกซาตาน (วว.12:7)
สำเนียงเรียกของ " เทพบดี " ใน 1ธส.4:16 คือเสียงของมีคาเอล มีเทพบดีเพียงตนเดียว(เป็นเอกพจน์)

b. กาเบรียล แปลว่า " คนของพระเจ้า " หรือวีรบรุษของพระเจ้า กาเบรียลถูกกล่าวถึง 4 ครั้งในพระคัมภีร์ กาเบรียลได้รับสาสน์จากพระเจ้าให้ไปบอกดานิเอล,เศคาริยาห์ , และ มารีย์ มารดาพระเยซูขีดเส้นไต้ที่ ดน.8:16
กาเบรียลบอกดานิเอลถึงนิมิตเรื่อง "เจ็ดสิบสัปดาห์ " กาเบรียลอธิบายความหมายของนิมิตนี้แก่ดานิเอล เปิดพระธรรม ดน.9:20-27 ขีดเส้นไต้ที่ข้อ21 และ 23
พระเจ้าส่งสาสน์ไปถึงดานิเอลทางกาเบรียล ดังนั้นสิ่งที่เรียกว่า " เจ็ดสิบสัปดาห์ของดานิเอล " ควรจะเรียกว่า " เจ็ดสิบสัปดาห์ของพระเจ้า "
กาเบรียลแจ้งแก่เศคาริยาห์ถึงการกำเนิดของยอห์น ผู้มาปูทางสำหรับพระเยซู บันทึก ลก.1:19





กาเบรียลประกาศการประสูตรของพระผู้ช่วยให้รอดจากหญิงพรหมจรรย์ นางมารีย์ อ่าน ลก.1:26-35 และบันทึกข้อ 26




ลูซิเฟอร์ (ทูตสวรรค์ตนที่สาม จะเรียนในบทต่อไป)

กิจการการรับใช้ของทูตสวรรค์

1. สรรเสริญบูชาพระเจ้า

a. บันทึก ฮบ.1:6 :


b. อ่านและขีดเส้นไต้ อสย.6:3 ; วว.5:11-12


2. เปิดเผยน้ำพระทัยของพระเจ้าแก่มนุษย์
a. ขีดเส้นไต้ที่ ลก.1:11-13; กจ.1:9-11







b. บันทึก ฮบ.2:2


3.ปรนนิบัติธรรมิกชนของพระเจ้า

a.บันทึก ฮบ.1:14 :


c. ขีดเส้นไต้ที่ 1พกษ.19:5-7; กจ.10:3-7
4. หนุนใจบุตรของพระเจ้า

a.ขีดเส้นไต้ กจ.27:23-24
b.อ่าน กจ.12:5-15 และบันทึกข้อ 7:


c.บันทึก กจ.5:19-20:

5.เป็นผู้ดูบนสวรรค




a.บันทึก ลก.12:8-9 :




c. ขีดเส้นไต้ที่ 1คร.4:9
6.ทูตสวรรค์มีความยินดีเมื่อมีผู้ได้รับความรอด

บันทึก ลก.15:10 :



7.พวกเขาเอาใจใส่สวัสดิภาพของผู้เชื่อพระเจ้า

a.ขีดเส้นไต้ที่ สดด.34:7;91:11
b.ขีดเส้นไต้ที่ ดน.6:22
c.บันทึก มธ.18:10 :



8.ทูตสวรรค์นำ และ ยืนยันพระวจนะ

a. บันทึก กท.3:19 :



b. ขีดเส้นไต้ ฮบ.2:2

E. ทูตสวรรค์ และพระราชกิจของพระเยซูบนโลก

(จะแจงฉะเพาะเหตุการณ์เท่านั้น )

1. ทูตสวรรค์เห็นพระองค์ (1ทธ.3:16)
2. ทูตสวรรค์ปราถนาจะเข้าใจความล้ำลึกของความรอดที่ยิ่งใหญ่ (1ปต.1:10-12)
3. กาเบรียลประกาศการประสูตรของพระองค์ (ลก.1:31-33)
4. ทูตสวรรค์ให้ความมั่นใจแก่โยเซฟถึงพระประสงค์ของพระเจ้า (มธ.1:18-25)
5. ทูตสวรรค์แถลงถึงการประสูตรของพระองค์ (ลก.2:10-11;ฮบ.1:6)
6. ทูตสวรรค์อยู่ใกล้พระคริสต์ในยามที่พระองค์ถูกทดลอง (มธ.4:1-11)
7. ทูตสวรรค์คอยเฝ้าพระคริสต์ในสวนกาซิมาเน (ลก.22:39-44)
8. ไม่มีทูตสวรรค์คอยปรนนิบัติเมื่อพระองค์ถูกตรึงบนกางเขน (พระเยซูต้องแบกรับโทษบาป และ ความเจ็บปวดเต็มขนาดเพราะบาปของเรา ไม่มีใครช่วยพระองค์ พระองค์ต้องดื่มถ้วยนั้นคนเดียว)
9. ทูตสวรรค์แถลงถึงการเป็นขึ้นจากความตายของพระคริสต์ (มธ.28:5-7)
10. ทูตสวรรค์เฝ้าการเสด็จสู่สวรรค์ของพระองค์ (กจ.1:10-11)

ทูตสวรรค์ และ วันสิ้นยุค

1. ทูตสวรรค์จะยกย่องพระเมษโปดก (วว.5:11-12)
2. ทูตสวรรค์จะลงมากับพระคริสต์ เมื่อพระองค์เสด็จกลับมา (มธ.25:31; 2ธส.1:7)
3. ทูตสวรรค์เจ็ดตนจำเพาะพระพักตร์พระเจ้า (วว.8:2)
4. ทูตสวรรค์ทั้งเจ็ดได้รับมอบแตรแห่งการพิพากษา (วว.8,9 )
5. ทูตสวรรค์ทั้งเจ็ดกับขันทองคำเจ็ดใบที่เต็มไปด้วยพระพิโรธของพระเจ้า (วว.15:5-8)
6. มิคาเอล และ บริวาน สู้กับมารร้าย และ สมุนของมัน (วว.12:7-12)
7. ทูตสวรรค์กับข่าวประเสริฐ (วว.14:6-7)
8. ทูตสวรรค์แถลงถึงความหายนะของบาบิโลน(วว.14:8)
9. ทูตสวรรค์แถลงถึงความพินาศของบรรดาสมุนของผู้เป็นปฏิปักษ์กับพระคริสต์ (วว.14:9-11)
10. นิมิตเกี่ยวกับ Armageddon (วว.14:14-20)
11. ทูตสวรรค์ที่ดีจะนมัสการพระเจ้า (วว.7:11-12)

." ทูตพระเจ้า " สภาพพระคริสต์ก่อนลงมาจุติ

1. "ทูตพระเจ้า " เป็นสภาพของพระคริสต์ก่อนลงมาจุติ เราเรียกสภาพนี้ว่า Theophany ซึ่งแปลว่าพระเจ้ามาปรากฏ
พระเยซู คือพระคริสต์ที่ลงมาจุติ พบได้ทั่วไปในพระคัมภีร์ในทั้งประเภท รูป ว่าเป็น "ทูตพระเจ้า "(เยโฮวาห์)

2.พระคัมภีร์หลายตอนกล่าวถึง "ทูตพระเจ้า " (เยโฮวาห์)

a. พระองค์ปรากฏแก่ ฮาการ์ (ปฐก.16:7-14)
b. พระองค์ปรากฏแก่อับราฮัม และถูกเรียกว่า องค์พระผู้เป็นเจ้า หกครั้ง (ปฐก.18)
c. พระองค์ปรากฏแก่อับราฮัม (ปฐก.22:11-18)
d. พระองค์ปรากฏแก่ยาโคบที่ เปนีเอล (ปฐก.32:24-32)
e. พระองค์ปรากฏแก่โมเสสในพุ่มไม้ที่ติดไฟ (อพย.3:2-6)
f. พระองค์ปรากฏแก่โยชูวา (ยชว.5:13-15)
g. พระองค์ปรากฏแก่ กิเดโอน (วนฉ.6:11-23)
h. เปรียบเทียบ อพย.17:2-7 และ 23:20-21 กับ 1คร.10:9 และ 10:4
(ข้อพระธรรมเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งที่ระบุถึง "ทูตพระเยโฮวาห์ " )

.สัจจะธรรมนี้สอนอะไรแก่เรา

คนหลายคนทุกวันนี้ไม่เชื่อว่าทูตสวรรค์มีจริง เช่นเดียวกับพวกสะดูสีในสมัยพระคริสต์ บางคนอาจจะถือว่าสำนักทูตสวรรค์เป็นพระเจ้า เช่นพวก Essenes
ทูตสวรรค์ไม่มีหน้าที่นำพาและอฐิษฐานเผื่อ และให้กำลังใจ (ทุกคนซึ่งเป็นของพระคริสต์) พระวิญญาณฯในเรา และ พระเยซูต่างหากที่เป็นคนกลางระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์
ทูตสวรรค์ปรนนิบัติผู้ที่ได้รับความรอดทุกคน พระเยซูอาจเรียกกองทัพทูตสวรรค์ (72000)ได้ถ้าพระองค์พึงประสงค์จะทำ (มธ.26:53) ทูตสวรรค์ทำงานเพื่อเราและกับเรา ส่วนพระวิญญาณทำงานในเรา
แก้ไขล่าสุดโดย stars เมื่อ เสาร์ ก.พ. 12, 2005 11:04 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
stars

เสาร์ ก.พ. 12, 2005 12:55 pm

ซาตาน ภาค 1

รูปไม่สอดคล้องกับบทความครับ กรุณาอ่านระเบียบด้วย

I.บทนำ


เมื่อเราศึกษาหัวข้อ ซาตาน และ สมุนของมัน ซึ่งถูกขนานนามว่าเหล่าภูตผี เราต้องตระหนักว่างานหลักของมันคือทำให้คนเชื่อว่ามันไม่ได้มีอยู่จริง ซาตานจะทำทุกวิถีทางที่จะไม่ให้มีบทเรียนบทนี้เกิดขึ้น ให้สังเกตุด้วยตัวคุณเองเถิดว่ามีกี่ครั้งที่จิตใจคุณหันเหไปจากบทเรียนนี้
ซาตานมีอยู่จริง มันเป็นหัวหน้าของเหล่าทูตสวรรค์ที่ถูกสาปลงจากสวรรค์ พระเยูได้เคยพูดถึง "มารร้ายและสมุนของมัน " พระมภีร์ได้บันทึก ชื่อ ที่มา กิจกรรม ฤทธิ์เดช และข้อจำกัดของมันและเหล่าสมุน ในฉากเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ชาติมนุษย์ ซาตานได้กระด้างกระเดื่องต่อพระเจ้า และได้ล่อมนุษย์ให้ทำผิด แต่เรารู้ว่า ผลที่สุด ซาตานจะถูกทำลายตลอดไปเป็นนิตย์

II.ข้อพระธรรม
อสย.14:12-15; อสค.28:15-17; ลก.10:18; ปฐก.3:1-19; ยบ.1:6-12; 1ซมอ.18:10; 1พศด.21:1; 2พศด.11:15; ฉธบ.18:10-12; 1ยน.3:12; ยด.6 - 9 ;มธ.2:13-16; 4:1-11;5:1-13;16:23; ลก.22:3; อฟ.2:2;6:12; กจ.5:3,16; 1ธส.2:18;2ทธ.3:1-9; 4:3-4; 1ทธ.4:1; มธ.25:41;2ธส.2:9; 2ปต.2:4; วว.12:3-12; 16:13-16; 19:20;20:1-3;20:7-10
III.แก่นแท้ของสัจจะธรรม
เรื่องของซาตานและสมุนที่ถูกสาปลงมาของมันมีปรากฏชัดเจนในพระคัมภีร์ พระคัมภีร์สอนว่า ซาตานและสมุนเป็นบุคคล เหลี่ยมคูสาระพัด และมีอำนาจชั่วร้ายต่อกิจการของมนุษย์
เราควรศึกษาซาตานและเหล่าสมุนในเรื่องเดียว เพราะว่าพวกมันเป็นผู้ที่ปฏิเสธพระเจ้า ถ้าซาตานไม่เป็นซาตาน ก็จะไม่มีสมุน (ภูตผี)
พระคัมภีร์พูดถึงอำนาจชั่วร้ายนี้เรื่อยๆเป็นลำดับ และ ยิ่งชัดเจนขึ้นเมื่อมีการพยากรณ์ถึงพระคริสต์ และเมื่อพระองค์มาปรากฏในสภาพมนุษย์ สงครามระหว่างพระคริสต์กับซาตานเริ่มย้อนหลังไปตั้งแต่ ปฐก.3:15 และดำเนินต่อมาจนถึงทุกวันนี้
การรู้สัจจะ จะทำให้เราเป็นไท เราต้องรู้สัจจะธรรมของพระเจ้า ขั้นต่อไปคือรู้จักองค์พระเยซูเจ้า และพระคุณที่ช่วยให้รอดพ้นจากความบาป , เราต้องรู้สัจจะธรรมเกี่ยวกับซาตาน มันเหมือนกับ " สิงห์คำราม เที่ยวไปเสาะหาคนที่มันจะกินได้ " (1ปต.5:8)
IV.สัจจะธรรมที่ยิ่งใหญ่ : ซาตานและสมุนของมัน ภาค 1
A.ที่มาของซาตาน

1. ซาตานถูกสร้างขึ้น

a. ซาตานถูกสร้างให้ยิ่งใหญ่ที่สุดในหมู่ทูตสวรรค์(อสค.28:15) มันมีนามบนสวรรค์ว่า " ลูซิเฟอร์ โอรสแห่งพระอรุณ " (อสย.14:12)
b. พระเจ้าตรัสผ่านอิสยห์โดยเอ่ยถึงมันว่า "ลูซิเฟอร์" พระเจ้าตรัสผ่านทางเอเสเคียล โดยใช้นามบนโลกว่า "กระษัตริย์เมืองไทระ" ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่ามันได้ตกต่ำด้านจริยธรรมที่สุด นามเหล่านี้แสดงถึงการมีอำนาจสูงสุด และตกต่ำสุด และความผยองเหมือนเมืองไทระ
c. ใน อสค.28:12-15 พระเจ้าตรัสถึงซาตานนอกเหนือไปจากกระษัตริย์เมืองไทระ พระเจ้าได้เอ่ยแบบอ้อมๆถึงซาตานใน ปฐก.3:14-15 และใน มธ.16:23. และยังพบใน อสย.14:12 ที่เอ่ยมาถึงนี้จะเป็นใครไม่ได้นอกจากซาตาน
d. ดังนั้นซาตานคือ "ลูซิเฟอร์ , โอรสแห่งพระอรุณ " ลูซิเฟอร์แปลว่า "ดาวประจำกลางวัน , ผู้ถือความสว่าง " (อสย.14:12) มันเป็น "ตราแห่งความสมบูรณ์แบบ เต็มด้วยสติปัญญา และมีความงามอย่างพร้อมสรรพ อยู่ในเอเดน พระอุทยานของพระเจ้า " และ "อยู่กับเครูบ ผู้พิทักษ์ที่ได้เจิมตั้งไว้"( อสค.28:12-15)
2.สภาพของซาตานก่อนล่ม

a. สภาพของซาตานก่อนล่มพบใน อสค.28:12-15 ขีดเส้นไต้ที่ข้อ12
บันทึก อสค.28:15 b. มันเป็น " เครูบ ผู้พิทักษ์ " ซึ่งเท่ากับเป็นการบ่งว่ามันเคยเฝ้าอยู่เหนือพระที่นั่งของพระเจ้า มัน "ปราศจากตำหนิในวิธีการทั้งหลายของเจ้า ตั้งแต่วันที่เจ้าได้ถูกสร้างขึ้น มาจนพบความบาปชั่วในตัวเจ้า " วลีนี้บ่งบอกว่าพระเจ้าพบความบาป ความกระด้างกระเดื่อง และความผยองในตัวมัน
c. พระเจ้าทรงสร้างทูตสวรรค์ทุกตน รวมทั้งลูซิเฟอร์ด้วย พระองค์สร้างให้ลูซิเฟอร์โดดเด่นในทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นสติปัญญา ความงาม สิทธิอำนาจ การเจิม และความสมบูรณ์
ดังนั้นพระเจ้าได้สร้างทูตสวรรค์ ลูซิเฟอร์ แต่ด้วยความบาปของความผยอง ลูซิเฟอร์จึงกลายเป็นซาตาน
B. บาป และการล่มของซาตาน

1.อะไรทำให้ลูซิเฟอร์กลายเป็นซาตาน

a. ลูซิเฟอร์ "เครูบที่ได้รับการเจิม " กลายเป็นซาตาน โดยการนำบาปแรกเข้ามาในจักรวาฬ : ความผยอง
b. อสย.14:13-14 แจงรายละเอียดของบาป ให้สังเกตุวลีที่ว่า " ข้าจะ " ในข้อพระธรรมสองข้อ :
ท ข้าจะขึ้นไปยังฟ้าสวรรค์
ท ข้าจะตั้งพระที่นั่งของข้า ณ ที่สูงนั้น
ท ข้าจะนั่งบนขุนเขาชุมนุมสถาน ณ ที่อุดรใกล
ท ข้าจะขึ้นไปเหนือความสูงของเมฆ
ท ข้าจะกระทำตัวของข้าเหมือนองค์ผู้สูงสุด

c. ลูซิเฟอร์กลายเป็นซาตาน โดยเลือกทำตามใจตนเองเหนือน้ำพระทัยพระเจ้า
บาปเริ่มเกิดขึ้นเมื่อลูซิเฟอร์กล่าวว่า " ข้าจะ "
คำถาม : บาปเริ่มที่ไหน ?
คำตอบ : ในสวรรค์ ในใจของลูซิเฟอร์

2. การล่มของซาตาน

a. พระเจ้ากำหนดการลงโทษ สิ่งที่พระเจ้าทรงสร้าง ไม่ว่าจะเป็นทูตสวรรค์ หรือ มนุษย์ ต้องให้พระเจ้าเป็นศูณย์กลาง ลูซิเฟอร์ได้ทำผิดเมื่อเอาตัวเองเป็นใหญ่
b. การลงโทษของพระเจ้าคือ " เจ้ากระทำบาป เราจะกำจัดเจ้าเสียจากภูเขาแห่งพระเจ้า และเครูบผู้พิทักษ์นั้นก็ขับเจ้าออกไป.." (อสค.28:16) " โอ ดาวประจำกลางวันเอ๋ย พ่อโอรสแห่งพระอรุณ เจ้าร่วงลงมาจากฟ้าสวรรค์แล้วซิ เจ้าถูกตัดลงมายังพื้นดินอย่างไรหนอ
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ เสาร์ ก.พ. 12, 2005 12:58 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

เสาร์ ก.พ. 12, 2005 1:17 pm

อ่านได้ที่

http://www.mew6.com/forum/viewforum.php?f=10
spirit

เสาร์ ก.พ. 12, 2005 2:14 pm

อฟ บทที่ 6
เพราะว่าเราไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและเลือด แต่ต่อสู้กับเทพผู้ครอง ศักดิเทพ เทพผู้ครองพิภพในโมหะความมืดแห่งโลกนี้ ต่อสู้กับเหล่าวิญญาณที่ชั่วในสถานฟ้าอากาศ
13 เหตุฉะนั้นจงรับยุทธภัณฑ์ทั้งชุดของพระเจ้าไว้ เพื่อท่านจะได้ต่อต้านในวันอันชั่วร้ายนั้น และเมื่อเสร็จแล้วจะอยู่อย่างมั่นคงได้
14 เหตุฉะนั้นท่านจงมั่นคง เอาความจริงคาดเอว เอาความชอบธรรมเป็นทับทรวงเครื่องป้องกันอก
15 และเอาข่าวประเสริฐแห่งสันติสุข ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดความพรั่งพร้อมมาสวมเป็นรองเท้า
16 และพร้อมกับสิ่งทั้งหมดนี้ จงเอาความเชื่อเป็นโล่ ด้วยโล่นั้นท่านจะได้ดับลูกศรเพลิงของพญามารเสีย
17 จงเอาความรอดเป็นหมวกเหล็กป้องกันศีรษะ และจงถือพระแสงของพระวิญญาณ คือ พระวจนะของพระเจ้า
18 จงอธิษฐานวิงวอนทุกอย่าง จงขอโดยพระวิญญาณทุกเวลา ทั้งนี้จงระวังตัวด้วยความเพียรทุกอย่าง จงอธิษฐานเพื่อธรรมิกชนทุกคน










คงต้อมสวม ยุทธปกรณ็แห่งพระเจ้าแล้ววิ่งไปหลบหลัง พระองค์ผู้ทรงชัยดีก่า กัวๆๆๆ ;D ที่ไหนก็ไม่ปลอดภัยเท่าองค์พระเยซู
แก้ไขล่าสุดโดย spirit เมื่อ เสาร์ ก.พ. 12, 2005 10:25 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Prod Pran
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 3324
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
ที่อยู่: Bangkok

เสาร์ ก.พ. 12, 2005 2:21 pm

น้อง Stars ยกเรื่องนี้มาจากหนังสือเล่มไหน หรือเวบไหนคะ

เพราะเรื่องทูตสวรรค์ จะอยู่ในหนังสือ หลายเล่ม ในชุดการเรียนการสอนนี้เป็นชุดวิชา

คริสเตียนเรียก:Systematic Theology
สำหรับคริสตัง เรียก Doctrine (มั้ง )
แก้ไขล่าสุดโดย Prod Pran เมื่อ เสาร์ ก.พ. 12, 2005 2:21 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
stars

เสาร์ ก.พ. 12, 2005 11:06 pm

เรื่องเวปนี้คุณโฮลี่เขียนให้แล้วนี่ครับเฮ่อ........ปีใหม่แล้วเดี๋ยวก็แก่ขึ้นล่ะสิ 25 ไป 26 ซะแล้วเร็วจริงๆ
Junior Boy
โพสต์: 659
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 10, 2005 2:01 pm
ที่อยู่: I believe in God...

พฤหัสฯ. ต.ค. 20, 2005 4:35 pm

ให้ความรู้ดีครับ จะได้หาวิธีกำจัดซาตานที่มาผจญเรา โดยเฉพาะซาตานในใจเนี่ย ใจคิดบาปร่างกายก็พลอยทำบาปไปด้วย
internazionale7

พฤหัสฯ. ต.ค. 20, 2005 10:54 pm

ผมว่าทูตสวรรค์ ปรากฏมาในร่างมนุษย์นั้นบ่อยครับ
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

พุธ ม.ค. 03, 2007 5:11 pm

internazionale7 เขียน: ผมว่าทูตสวรรค์ ปรากฏมาในร่างมนุษย์นั้นบ่อยครับ
และซาตานก็ปรากฏในร่างมนุษย์ ก็เยอะนะ

คงจำคำพูดหนึ่งที่ว่า "นางฟ้า และซาตาน" ก็อยู่ในร่างเดียวกัน ( หันไปรอบๆตัวคุณดิ )
Man of Macedonia
โพสต์: 973
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ธ.ค. 04, 2006 9:33 pm
ที่อยู่: Virtusian's House of Prayer,Thailand
ติดต่อ:

พฤหัสฯ. ม.ค. 04, 2007 1:48 am

เพื่อความเข้าใจ สำหรับพี่น้อง(ในหลายๆบทความ ที่พี่น้องช่วยกันผลิตเพื่อเหล่าเทวดา)
การตีความทางเทวดาวิทยา จำเป็น ต้องอาศัย"จิตวิญญาณและศรัทธา"
จำเป็นต้องเห็น"ปีศาจร้าย" ภาพ"เทวดา"ยิ่งแจ่มชัด
อย่างไรก็ตาม,การศึกษาทางเทวดาวิทยา ยังไม่ได้ข้อสรุป  เช่นในประเด็นของ Satan,Samael
ขึ้นอยู่กับผู้ศึกษา ว่าต้องการภาพที่กว้างขนาดไหน(และในเชิงใด ต้องแยกแยะ เช่น นิรุกติศาสตร์ เทวศาสตร์ ปรัชญา ศาสนา แม้กระทั่ง Spiritaul)
+ถ้าพอใจในภาพที่แคบ ก็ไม่ผิดและไม่ได้บอกว่าไม่ดี ดีเสียอีกเพราะปลอดภัย (เพราะไม่จำเป็นต้องลงรายละเอียด-ไม่ใช่หน้าที่สำหรับ"บางคน")
+ถ้าพอใจในภาพที่กว้าง ก็ต้องมี"ศรัทธามั่นคงหน่อย"(เพราะลึกจริงๆ จะไปสู่"พระปรีชาญาณ"อีกแบบ)
สำคัญคือผู้ศึกษาเทวดา ศึกษาในกรอบของอะไร
ถ้าเอาคัมภีร์มากล่าวอ้าง(เช่น Enoch,Bible,หรือพวก Codex)ก็ต้องทราบว่า คัมภีร์เหล่านั้น มีภาพกว้างและทัศนคติอย่างไรต่อคริสตศาสนาเรา(เช่น มุมมองของยิวต่อคริสตศาสนา ถ้าเรายืมคัมภีร์ยิวมาใช้)
หรือแม้กระทั่ง พิจารณาลึกลงไปถึง อารยธรรมเมโสโปเตเมีย ก็ตามที(ขึ้นอยู่กับการมองภาพกว้างหรือแคบ)
.............แต่การศึกษา ต้องยอมรับเท่านั้นเอง ว่าอะไรคือข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ หรือจิตวิญญาณที่แสดงผ่านชนชาติต่างๆนั้นคืออะไร ด้วยว่าพระเป็นเจ้าทรงจำเริญด้วยพระปรีชาญาณและพระญาณสอดส่อง เพราะฉะนั้น พี่น้องที่รัก ยิ่งเราศึกษา "เรากลับยิ่งไม่รู้(ต้องยิ่งถ่อมตนลง)" การตอบคำถามต่อคนที่แคลงใจในศาสนาเราจะได้แจ่มชัดขึ้น(มิใช่ได้เขาจะได้รับคำตอบแบบกำปั้นทุบดิน) สันติจึงเกิดและงดงาม
(ขออภัยที่กล่าวเสริมนอกเรื่อง แต่เรื่องเทวดาเป็นเรื่องที่มีในเกือบทุกวัฒนธรรม บางครั้งเราควรพิจารณาเปรียบเทียบให้ดี และด้วยเหตุผลอันชอบธรรม)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Stephen
โพสต์: 117
ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. ก.ย. 07, 2006 2:07 pm

เสาร์ ม.ค. 06, 2007 9:23 pm

ขอบคุณที่ค้นคว้ามาให้มากขนาดนี้  :angel:  :angel:  :angel:
ตอบกลับโพส