จิตนิยมกับสสารนิยม
ต้องการทราบถึงความเชื่อของจิตนิยมน่ะครับ ว่ากลุ่มที่เชื่อในจิตนิยมแล้ว เค้าจะเชื่อเรื่องสสารนิยมด้วยหรือไม่ หรือว่าถ้าไม่เชื่อเรื่องสสารนิยม เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นครับ ใครพอจะทราบคำตอบ ช่วยอธิบายให้ทีนะครับ ขอบคุณมากครับ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
มันคืออะไรอ่ะครับ :huh:
ตอบในเชิงอภิปรัชญาแบบสั้นๆนะครับ
ในทางอภิปรัชญา นักปรัชญาจะพยายามตอบคำถามว่า"อะไรคือความจริงสูงสุด"ของโลกจักรวาล
พวกสสารนิยมก็จะบอกว่า อ๋อ ความจริงสูงสุดของโลกจักรวาลเหรอ สิ่งนั้นก็คือ"สสาร"น่ะสิ ไม่มีอะไรเป็นจริงไปมากกว่านี้อีกแล้วแหละ นักสสารนิยมบางคนบอกว่านอกเสียจากสสารและการเคลื่อนที่ของสสาร ก็ไม่มีอะไรที่เป็นอยู่จริง หลักๆ พวกนี้จะปฏิเสธสิ่งเหนือธรรมชาติ สิ่งที่อยู่นอกเหนือประสบการณ์เชิงผัสสะ ฉะนั้นพวกนี้ก็จะไม่เชื่อถึงพระเจ้า นักสสารนิยมบางคนที่สซ้ารรรรรรรรสสาร สสารนิยมหนักๆๆๆ ถึงกับประกาศเลยว่าพระเจ้าตายไปแล้ว
พวกจิตนิยมบอกว่า ฮึ ความจริงสูงสุดของโลกจักรวาลคือ"จิต"ต่างหาก โดยเห็นว่า จิต ที่ว่านี้แหละ สร้างโลกจักรวาลและมนุษย์ อย่างเช่น ปรัชญาคริสต์ ก็จะบอกว่า พระเจ้าทรงสร้างโลกและทรงดูแลรักษาโลกสืบต่อมา
แนวคิดทางอภิปรัชญาจะเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับแนวคิดทางญาณวิทยาและจริยศาสตร์ด้วย เช่น
ยกตัวอย่างแนวคิดทางจริยศาสตร์แล้วกันครับ ถ้ามีแนวคิดเชิงสสารนิยม ก็อาจเห็นเพื่อนมนุษย์เป็นเพียงสสาร เป็นการรวมกันของธาตุต่างๆขึ้นมาเป็นมนุษย์ ไม่ได้มีจิตวิญญาณอะไร แต่สิ่งที่จิตนิยมเห็นว่าเป็นวิญญาณนี้ ก็เป็นเพียงผลของปฏิกิริยาทางเคมีในร่างกายมนุษย์ก่อให้เกิดมี ฉะนั้น ถ้ามีความคิดแนวนี้แบบหนักหนา ก็อาจทำอะไรตามใจฉัน อยากทำอะไรก็ทำ ชีวิตมีแค่โลกนี้ ไม่มีโลกหน้า ไม่ต้องกลัวบาปบุญคุณโทษ ไม่มีพระเจ้ามาทรงพิพากษา ตายแล้วก็คือการที่ธาตุที่ประกอบขึ้นเป็นมนุษย์ดังว่าไปนั้นสลายตัวไปคนละทิศคนละทาง ก็จบ
ในทางอภิปรัชญา นักปรัชญาจะพยายามตอบคำถามว่า"อะไรคือความจริงสูงสุด"ของโลกจักรวาล
พวกสสารนิยมก็จะบอกว่า อ๋อ ความจริงสูงสุดของโลกจักรวาลเหรอ สิ่งนั้นก็คือ"สสาร"น่ะสิ ไม่มีอะไรเป็นจริงไปมากกว่านี้อีกแล้วแหละ นักสสารนิยมบางคนบอกว่านอกเสียจากสสารและการเคลื่อนที่ของสสาร ก็ไม่มีอะไรที่เป็นอยู่จริง หลักๆ พวกนี้จะปฏิเสธสิ่งเหนือธรรมชาติ สิ่งที่อยู่นอกเหนือประสบการณ์เชิงผัสสะ ฉะนั้นพวกนี้ก็จะไม่เชื่อถึงพระเจ้า นักสสารนิยมบางคนที่สซ้ารรรรรรรรสสาร สสารนิยมหนักๆๆๆ ถึงกับประกาศเลยว่าพระเจ้าตายไปแล้ว
พวกจิตนิยมบอกว่า ฮึ ความจริงสูงสุดของโลกจักรวาลคือ"จิต"ต่างหาก โดยเห็นว่า จิต ที่ว่านี้แหละ สร้างโลกจักรวาลและมนุษย์ อย่างเช่น ปรัชญาคริสต์ ก็จะบอกว่า พระเจ้าทรงสร้างโลกและทรงดูแลรักษาโลกสืบต่อมา
แนวคิดทางอภิปรัชญาจะเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับแนวคิดทางญาณวิทยาและจริยศาสตร์ด้วย เช่น
ยกตัวอย่างแนวคิดทางจริยศาสตร์แล้วกันครับ ถ้ามีแนวคิดเชิงสสารนิยม ก็อาจเห็นเพื่อนมนุษย์เป็นเพียงสสาร เป็นการรวมกันของธาตุต่างๆขึ้นมาเป็นมนุษย์ ไม่ได้มีจิตวิญญาณอะไร แต่สิ่งที่จิตนิยมเห็นว่าเป็นวิญญาณนี้ ก็เป็นเพียงผลของปฏิกิริยาทางเคมีในร่างกายมนุษย์ก่อให้เกิดมี ฉะนั้น ถ้ามีความคิดแนวนี้แบบหนักหนา ก็อาจทำอะไรตามใจฉัน อยากทำอะไรก็ทำ ชีวิตมีแค่โลกนี้ ไม่มีโลกหน้า ไม่ต้องกลัวบาปบุญคุณโทษ ไม่มีพระเจ้ามาทรงพิพากษา ตายแล้วก็คือการที่ธาตุที่ประกอบขึ้นเป็นมนุษย์ดังว่าไปนั้นสลายตัวไปคนละทิศคนละทาง ก็จบ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
หนังสือ ของ ศ.กีรติ บุญเจือ ( ทั่นเป็นคาทอลิก ลูกวัด เขมร/คอนเซปชั่นฯ ) เขียนไว้ ในหนังสือ "คู่มือปรัชญาเบื้องต้น" อย่างละเอียดเลยล่ะacimovic เขียน: ต้องการทราบถึงความเชื่อของจิตนิยมน่ะครับ ว่ากลุ่มที่เชื่อในจิตนิยมแล้ว เค้าจะเชื่อเรื่องสสารนิยมด้วยหรือไม่ หรือว่าถ้าไม่เชื่อเรื่องสสารนิยม เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นครับ ใครพอจะทราบคำตอบ ช่วยอธิบายให้ทีนะครับ ขอบคุณมากครับ
อยากตอบให้ แต่ไม่มีเวลา นะดิ

อ.กีรติ เป็นคาทอลิก ไม่ได้เกิดหรือรับศีลล้างที่วัดคอนเซปชัญJeab Agape เขียน:หนังสือ ของ ศ.กีรติ บุญเจือ ( ทั่นเป็นคาทอลิก ลูกวัด เขมร/คอนเซปชั่นฯ ) เขียนไว้ ในหนังสือ "คู่มือปรัชญาเบื้องต้น" อย่างละเอียดเลยล่ะacimovic เขียน: ต้องการทราบถึงความเชื่อของจิตนิยมน่ะครับ ว่ากลุ่มที่เชื่อในจิตนิยมแล้ว เค้าจะเชื่อเรื่องสสารนิยมด้วยหรือไม่ หรือว่าถ้าไม่เชื่อเรื่องสสารนิยม เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นครับ ใครพอจะทราบคำตอบ ช่วยอธิบายให้ทีนะครับ ขอบคุณมากครับ
อยากตอบให้ แต่ไม่มีเวลา นะดิ![]()
และไม่เคยเป็นลูกวัดคอนเซปชั่น
ท่านเคย (เน้นคำว่าเคยและนานมากแล้ว) มีความสัมพันธ์กับวัดนี้มากๆ เท่านั้น
และเป็นเรื่องส่วนตัวของท่านจ้า :lipsrsealed:
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
อาจารย์กีรติ เป้นรุ่นพี่ของพี่ ประมาณกี่ปีค๊า ตอนนี้ แกก็ยังเป็นคาทอลิก ที่หมายความว่ายังเข้าวัดแก้บาปรับศีลอยู่บ้าง ใช่ป่าว เพราะเจอคนเก่ง ๆที่เป้ฯนักคิดหลายคน เขา มักจะประกาศตัวว่าไม่นับถือศาสนา หรือหันไปนับถือศาสนาพุทธก็เยอะPhulasso เขียน:อ.กีรติ เป็นคาทอลิก ไม่ได้เกิดหรือรับศีลล้างที่วัดคอนเซปชัญJeab Agape เขียน:หนังสือ ของ ศ.กีรติ บุญเจือ ( ทั่นเป็นคาทอลิก ลูกวัด เขมร/คอนเซปชั่นฯ ) เขียนไว้ ในหนังสือ "คู่มือปรัชญาเบื้องต้น" อย่างละเอียดเลยล่ะacimovic เขียน: ต้องการทราบถึงความเชื่อของจิตนิยมน่ะครับ ว่ากลุ่มที่เชื่อในจิตนิยมแล้ว เค้าจะเชื่อเรื่องสสารนิยมด้วยหรือไม่ หรือว่าถ้าไม่เชื่อเรื่องสสารนิยม เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้นครับ ใครพอจะทราบคำตอบ ช่วยอธิบายให้ทีนะครับ ขอบคุณมากครับ
อยากตอบให้ แต่ไม่มีเวลา นะดิ![]()
และไม่เคยเป็นลูกวัดคอนเซปชั่น
ท่านเคย (เน้นคำว่าเคยและนานมากแล้ว) มีความสัมพันธ์กับวัดนี้มากๆ เท่านั้น
และเป็นเรื่องส่วนตัวของท่านจ้า :lipsrsealed:
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
พี่หมายถึง กลุ่มคริสต์ เอกสัมพันธ์ หรือง่ายๆ มูนนิสึม หรือ นั่นต้องถามพี่เพชรอันตน เขียน: อ. ท่านมีสัมพันธ์มากๆกับนิกายนิกายหนึ่งซึ่งเจ้านิกายยืนยันว่าตนเองเป็นพ.ม.ป. ถึงขั้นไปช่วยแปลคัมภีร์ของทางโน้นให้ :lipsrsealed:
แต่ท่านทำศาสนาโลก (ศาสนสัมพันธ์ )
ศาสนสัมพันธ์ของทางโน้นอะ ข้างหน้าคือศาสนสัมพันธ์ แต่เวลาที่เขาประกาศกันในหมู่สมาชิกอะ เขาประกาศว่าดูสิ เขาทำสำเร็จแล้ว เห็นไหมศาสนาโน้นศาสนานี้มาร่วม แสดงว่าโลกต้อนรับพระผู้มาโปรดซึ่งหมายถึงเจ้านิกายเรียบร้อยแล้ว ขนาดเขาเอากางเขนไปฝังดินที่เยรูซาเล็มโดยมีพวก ผู้นำคจ.(ฝรั่ง)ไปเข้าร่วม แล้วประกาศออกมาว่าหมดเวลาของคริสต์แล้วก็ยังเคยทำ เอาแค่นี้ดีกว่า เดี๋ยวจะกลายเป็นโจมตีคนนั้นคนนี้ไปJeab Agape เขียน:พี่หมายถึง กลุ่มคริสต์ เอกสัมพันธ์ หรือง่ายๆ มูนนิสึม หรือ นั่นต้องถามพี่เพชรอันตน เขียน: อ. ท่านมีสัมพันธ์มากๆกับนิกายนิกายหนึ่งซึ่งเจ้านิกายยืนยันว่าตนเองเป็นพ.ม.ป. ถึงขั้นไปช่วยแปลคัมภีร์ของทางโน้นให้ :lipsrsealed:
แต่ท่านทำศาสนาโลก (ศาสนสัมพันธ์ )
โอย รุ่นปรมาจารย์กับศิษย์เลยแหละจอมนางกระบี่เดี่ยว เขียน:อาจารย์กีรติ เป้นรุ่นพี่ของพี่ ประมาณกี่ปีค๊า ตอนนี้ แกก็ยังเป็นคาทอลิก ที่หมายความว่ายังเข้าวัดแก้บาปรับศีลอยู่บ้าง ใช่ป่าว เพราะเจอคนเก่ง ๆที่เป้ฯนักคิดหลายคน เขา มักจะประกาศตัวว่าไม่นับถือศาสนา หรือหันไปนับถือศาสนาพุทธก็เยอะPhulasso เขียน:อ.กีรติ เป็นคาทอลิก ไม่ได้เกิดหรือรับศีลล้างที่วัดคอนเซปชัญJeab Agape เขียน: หนังสือ ของ ศ.กีรติ บุญเจือ ( ทั่นเป็นคาทอลิก ลูกวัด เขมร/คอนเซปชั่นฯ ) เขียนไว้ ในหนังสือ "คู่มือปรัชญาเบื้องต้น" อย่างละเอียดเลยล่ะ
อยากตอบให้ แต่ไม่มีเวลา นะดิ![]()
และไม่เคยเป็นลูกวัดคอนเซปชั่น
ท่านเคย (เน้นคำว่าเคยและนานมากแล้ว) มีความสัมพันธ์กับวัดนี้มากๆ เท่านั้น
และเป็นเรื่องส่วนตัวของท่านจ้า :lipsrsealed:
เท่าที่ทราบท่านยังเป็นคาทอลิกที่ดี
และท่านเข้าใจลึกซึ้งมากถึงคำว่าศาสนา
ท่านเป็นราชบัณฑิตด้วยนะ
ประวัติท่านน่าสนใจมาก
ตาไต้ เปรียญ ๙ อาจารย์สอนศาสนาเปรียบเทียบสมัยโน้น
ของ มหาวิทยาลัยที่น้องเรียนโทอยู่วันนี้
เคยสงสัยว่าท่านเป็นสายลับวาติกันไปโน่นเลย
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
อืมม์ ไม่เคยได้สนใจหาประวัติแกมาอ่านเสียที แต่แก เก่งแน่ ๆ เพราะเขียนหนังสือปรัชญาได้หลายระดับ คนเก่งมาก ๆ เข้าใจถ่องแท้ จะสื่อสารให้คนที่ไม่รู้เรื่องสามารถเข้าใจได้ น่านับถือ น่านับถือPhulasso เขียน:โอย รุ่นปรมาจารย์กับศิษย์เลยแหละจอมนางกระบี่เดี่ยว เขียน:อาจารย์กีรติ เป้นรุ่นพี่ของพี่ ประมาณกี่ปีค๊า ตอนนี้ แกก็ยังเป็นคาทอลิก ที่หมายความว่ายังเข้าวัดแก้บาปรับศีลอยู่บ้าง ใช่ป่าว เพราะเจอคนเก่ง ๆที่เป้ฯนักคิดหลายคน เขา มักจะประกาศตัวว่าไม่นับถือศาสนา หรือหันไปนับถือศาสนาพุทธก็เยอะPhulasso เขียน: อ.กีรติ เป็นคาทอลิก ไม่ได้เกิดหรือรับศีลล้างที่วัดคอนเซปชัญ
และไม่เคยเป็นลูกวัดคอนเซปชั่น
ท่านเคย (เน้นคำว่าเคยและนานมากแล้ว) มีความสัมพันธ์กับวัดนี้มากๆ เท่านั้น
และเป็นเรื่องส่วนตัวของท่านจ้า :lipsrsealed:
เท่าที่ทราบท่านยังเป็นคาทอลิกที่ดี
และท่านเข้าใจลึกซึ้งมากถึงคำว่าศาสนา
ท่านเป็นราชบัณฑิตด้วยนะ
ประวัติท่านน่าสนใจมาก
ตาไต้ เปรียญ ๙ อาจารย์สอนศาสนาเปรียบเทียบสมัยโน้น
ของ มหาวิทยาลัยที่น้องเรียนโทอยู่วันนี้
เคยสงสัยว่าท่านเป็นสายลับวาติกันไปโน่นเลย
โทรมาจอมนางกระบี่เดี่ยว เขียน:
อืมม์ ไม่เคยได้สนใจหาประวัติแกมาอ่านเสียที แต่แก เก่งแน่ ๆ เพราะเขียนหนังสือปรัชญาได้หลายระดับ คนเก่งมาก ๆ เข้าใจถ่องแท้ จะสื่อสารให้คนที่ไม่รู้เรื่องสามารถเข้าใจได้ น่านับถือ น่านับถือ
จะเล่าให้ฟัง
แก้ไขล่าสุดโดย Phulasso เมื่อ พฤหัสฯ. ม.ค. 25, 2007 5:10 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
Holy เขียน: เหอ เหอ เกือบกลายเป็นกระทู้ชีวประวัติ อาจารย์ กีรติ
สนใจประวัติของกีรติ อ่านได้จากเรื่อง ข้างหลังภาพครับ
ตอบพี่โฮลี่ เอาเข้านั่นเลย เหรอพี่ ท่านศรีบูรพา ได้เขียนไว้ซาบซึ้งมากๆ ใช่ไหม

ตอบพี่เปาลูส และพี่จอมนางฯ
เคยทราบจากพี่สาว (เพราะรู้จักคุ้นเคยกันมาก ) ที่ว่าท่านเป็นลูกวัดเขมร เพราะว่า เมียท่าน เป็นลูกวัดเขมร ท่านเองเป็นคนอยุธยา
ท่าน สำเร็จจากมหาวิทยาลัยเกรกอเรียน (อยู่ใกล้ วาติกันน่ะ ) ท่านมีโอกาสเห็น ควันที่ปล่องในนครวาติกันตอนเลือก พระสันตะปาปา จอห์นปอล ที่ 2 ด้วย หลังสำเร็จการศึกษา เคยเป็นบาทหลวง อยู่ 8 ปี หลังจากนั้น ก็ลาสิขาบท แล้วไปเป็นอาจารย์ที่ จุฬาฯ เลยเขียนหนังสือ ชุดปรัชญาต่างๆให้สำนักพิมพ์ ไทยวัฒนาฯ ( เขียนหนังสือกว่า 50 เล่มมั้ง ) เมื่อเกษียณจากจุฬาฯ ก็ไปที่ ม.เอแบก จากเอแบค ก็ไปที่ ม.เซนต์จอห์น และอาจจะไปที่ (?? )
ปัจจุบันท่านอายุ 78 ปี ตอนอายุ 72 ปี ( พี่จอมนางฯ ไม่น่าจะนับรุ่นว่าเป็นรุ่นพี่แล้วนะ จะเป็นรุ่นพ่อ ) ลูกศิษย์เลี้ยงฉลองใหญ่ และตั้งกองทุน กีรติ บุญเจือ เพื่อสนับสนุนการศึกษา
ตอบบังอันตน
1. ศ.กีรติ ท่านทำเรื่องศาสนสัมพันธ์ ของศาสนาโลก ซึ่งมีหลากศาสนา อยู่ในนั่น การที่ท่านร่วมไม้ร่วมมือกับศาสนาต่างๆ เป็นเรื่องธรรมดา
2. คาทอลิก ไม่ได้ต่อสู้กับคำสอนเท็จแบบ โปรเตสแตนต์ เพราะกลุ่มไหนที่ไม่ขึ้นกับองค์สันตะปาปา สันตะสำนัก พระสังฆราช และบาทหลวงแล้ว ทางคอลิกทั่วๆไป ก็จะมองว่าเป็น โปรเตสแตนต์ นั่นเอง ดังนั้นเมื่อท่านเข้าไปช่วยฟากไหน กลุ่มไหนท่านก็มอง เรื่องศาสนสัมพันธ์ และอีกกลุ่มหนึ่งก็เป็นโปรเตสแตนต์ มั้ง
3.มูนลิสึมนะ เขาก็ชวนทุกๆคริสต์แหละ มีจดหมาย และโทรศัพท์เชิญ แต่โปรเตสแตนต์ที่รู้จักเขาจริงๆ ก็ไม่ไปร่วม เพราะเท่ากะไปสนับสนุนพวกเขา (อ่านเกมส์ออกไงพี่ )
ขอเสริมเรื่อง...มูนนิสึม จาก.. http://www.geocities.com/janejira_jc/CHURCH11.htm
ยองมิวมูน หรือซันมิว มูน เป็นผู้ก่อตั้งลัทธิมูน
เกิดในปีคริสตศักราช 1920 ที่เมืองกวางจู ประเทศเกาหลีเหนือ บิดาเป็นสมาชิกคริสตจักรเพรสไบทีเรียน แต่มูนไปร่วมการนมัสการกับกลุ่มเพ็นตาคอส
..............
ลัทธินี้สอนว่า
- มูนสอนว่า พระมาซีฮาองค์ใหม่ จะเสด็จมาในช่วง 2000 ปี หลังจากพระเยซู และอ้างว่าจะต้องเกิดในประเทศจีน ญี่ปุ่นหรือเกาหลี
(อ้างวิวรณ์ 7:2-4) และสรุปว่าต้องเป็นเกาหลี แรกเริ่มมูนไม่ได้พูดว่าตนเองเป็นผู้นั้น แต่ก็ชี้เป็นนัยว่าเป็นตน โดยเฉพาะเมื่อกล่าวว่าการแต่งงานของพระมาซีฮา เกิดในปีคริสตศักราช 1960 นั้นหมายถึงตนเอง
4. แม้คำสอนของมูน จะผิดเพี้ยนแต่มีหนุ่มสาวจำนวนมากมายที่ติดตามมูน
- สาวกของมูนจะชักชวนคนในทุกแห่งหน ไม่ว่าในสถานศึกษา หรือศูนย์การค้า หรือสนามบิน พวกเขาจะใช้วิธีเชิญคนไปร่วมงานเลี้ยงอาหารเย็น ซึ่งจะมีการต้อนรับอย่างอบอุ่น และเอาอกเอาใจโดยเฉพาะรอยยิ้ม
- หลังจากนั้น เขาจะชวนให้เข้ากลุ่มศึกษา และมีเพื่อนต่างเพศคอยเอาใจใส่ติดตาม และมีรายการที่เคร่งเครียด โดยไม่ค่อยให้เวลาพัก เพื่อให้คนไม่มีแรงปฎิเสธคำสอน จนคนต้องรับเชื่อ
- หลังจากรับเชื่อ มูนจะเรียกร้องให้มอบทุกสิ่ง ทรัพย์สิ่งของให้กับคริสตจักร และมีรายการอบรมที่หนักหน่วงขึ้น มีงานรับผิดชอบมากมาย นอนเพียงวันละ 5-6 ชั่วโมง แต่ต้องอดอาหารอธิษฐานเสมอ รวมทั้งออกไปประกาศนำคนมาเชื่อ
จงระวังอย่าให้ผู้ใดใช้ "ปรัชญา" หรือใช้เล่ห์กลอันไร้แก่นสารหลอกลวงท่านตามขนบประเพณีของมนุษย์หรือหลักการของโลก ไม่สั่งสอนตามคำสอนของพระคริสต์เจ้า โคโลสี 2:8
ยองมิวมูน หรือซันมิว มูน เป็นผู้ก่อตั้งลัทธิมูน
เกิดในปีคริสตศักราช 1920 ที่เมืองกวางจู ประเทศเกาหลีเหนือ บิดาเป็นสมาชิกคริสตจักรเพรสไบทีเรียน แต่มูนไปร่วมการนมัสการกับกลุ่มเพ็นตาคอส
..............
ลัทธินี้สอนว่า
- มูนสอนว่า พระมาซีฮาองค์ใหม่ จะเสด็จมาในช่วง 2000 ปี หลังจากพระเยซู และอ้างว่าจะต้องเกิดในประเทศจีน ญี่ปุ่นหรือเกาหลี
(อ้างวิวรณ์ 7:2-4) และสรุปว่าต้องเป็นเกาหลี แรกเริ่มมูนไม่ได้พูดว่าตนเองเป็นผู้นั้น แต่ก็ชี้เป็นนัยว่าเป็นตน โดยเฉพาะเมื่อกล่าวว่าการแต่งงานของพระมาซีฮา เกิดในปีคริสตศักราช 1960 นั้นหมายถึงตนเอง
4. แม้คำสอนของมูน จะผิดเพี้ยนแต่มีหนุ่มสาวจำนวนมากมายที่ติดตามมูน
- สาวกของมูนจะชักชวนคนในทุกแห่งหน ไม่ว่าในสถานศึกษา หรือศูนย์การค้า หรือสนามบิน พวกเขาจะใช้วิธีเชิญคนไปร่วมงานเลี้ยงอาหารเย็น ซึ่งจะมีการต้อนรับอย่างอบอุ่น และเอาอกเอาใจโดยเฉพาะรอยยิ้ม
- หลังจากนั้น เขาจะชวนให้เข้ากลุ่มศึกษา และมีเพื่อนต่างเพศคอยเอาใจใส่ติดตาม และมีรายการที่เคร่งเครียด โดยไม่ค่อยให้เวลาพัก เพื่อให้คนไม่มีแรงปฎิเสธคำสอน จนคนต้องรับเชื่อ
- หลังจากรับเชื่อ มูนจะเรียกร้องให้มอบทุกสิ่ง ทรัพย์สิ่งของให้กับคริสตจักร และมีรายการอบรมที่หนักหน่วงขึ้น มีงานรับผิดชอบมากมาย นอนเพียงวันละ 5-6 ชั่วโมง แต่ต้องอดอาหารอธิษฐานเสมอ รวมทั้งออกไปประกาศนำคนมาเชื่อ
จงระวังอย่าให้ผู้ใดใช้ "ปรัชญา" หรือใช้เล่ห์กลอันไร้แก่นสารหลอกลวงท่านตามขนบประเพณีของมนุษย์หรือหลักการของโลก ไม่สั่งสอนตามคำสอนของพระคริสต์เจ้า โคโลสี 2:8
แก้ไขล่าสุดโดย Agape เมื่อ ศุกร์ ม.ค. 26, 2007 8:34 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
อ่านออกสิเจี๊ยบ แต่พี่ก็เห็นศาสนาจารย์ชื่อดังท่านหนึ่งอักษรย่อ ป. เข้าร่วมกับเขาทุกงาน ส่วนทางคาทอลิกทางไทยไม่เห็น แต่เมืองนอกอาจจะมีบ้างเพราะเขาเข้าไปหาแบบเนียนเหลือเกิน ส่วนเรื่องอาจารย์กีรติ เท่าที่พี่ได้ยิน นัยว่าแกก็ค่อนข้างจะเห็นดีเห็นงามกับตัว "หลักการของพระเจ้า" หรือภาษาอังกฤษว่า "Divine Principle" ค่อนข้างมาก เพราะเห็นแกยังไปบรรยายให้พวกทางโน้นฟังด้วยนะ เรียกว่าแปลให้แล้วยังบรรยายให้ฟังอีก แต่พวกทางโน้นเขาบอกว่ามันเข้าใจยากที่แกบรรยายJeab Agape เขียน:Holy เขียน: เหอ เหอ เกือบกลายเป็นกระทู้ชีวประวัติ อาจารย์ กีรติ
สนใจประวัติของกีรติ อ่านได้จากเรื่อง ข้างหลังภาพครับ
ตอบพี่โฮลี่ เอาเข้านั่นเลย เหรอพี่ ท่านศรีบูรพา ได้เขียนไว้ซาบซึ้งมากๆ ใช่ไหม
ตอบพี่เปาลูส และพี่จอมนางฯ
เคยทราบจากพี่สาว (เพราะรู้จักคุ้นเคยกันมาก ) ที่ว่าท่านเป็นลูกวัดเขมร เพราะว่า เมียท่าน เป็นลูกวัดเขมร ท่านเองเป็นคนอยุธยา
ท่าน สำเร็จจากมหาวิทยาลัยเกรกอเรียน (อยู่ใกล้ วาติกันน่ะ ) ท่านมีโอกาสเห็น ควันที่ปล่องในนครวาติกันตอนเลือก พระสันตะปาปา จอห์นปอล ที่ 2 ด้วย หลังสำเร็จการศึกษา เคยเป็นบาทหลวง อยู่ 8 ปี หลังจากนั้น ก็ลาสิขาบท แล้วไปเป็นอาจารย์ที่ จุฬาฯ เลยเขียนหนังสือ ชุดปรัชญาต่างๆให้สำนักพิมพ์ ไทยวัฒนาฯ ( เขียนหนังสือกว่า 50 เล่มมั้ง ) เมื่อเกษียณจากจุฬาฯ ก็ไปที่ ม.เอแบก จากเอแบค ก็ไปที่ ม.เซนต์จอห์น และอาจจะไปที่ (?? )
ปัจจุบันท่านอายุ 78 ปี ตอนอายุ 72 ปี ( พี่จอมนางฯ ไม่น่าจะนับรุ่นว่าเป็นรุ่นพี่แล้วนะ จะเป็นรุ่นพ่อ ) ลูกศิษย์เลี้ยงฉลองใหญ่ และตั้งกองทุน กีรติ บุญเจือ เพื่อสนับสนุนการศึกษา
ตอบบังอันตน
1. ศ.กีรติ ท่านทำเรื่องศาสนสัมพันธ์ ของศาสนาโลก ซึ่งมีหลากศาสนา อยู่ในนั่น การที่ท่านร่วมไม้ร่วมมือกับศาสนาต่างๆ เป็นเรื่องธรรมดา
2. คาทอลิก ไม่ได้ต่อสู้กับคำสอนเท็จแบบ โปรเตสแตนต์ เพราะกลุ่มไหนที่ไม่ขึ้นกับองค์สันตะปาปา สันตะสำนัก พระสังฆราช และบาทหลวงแล้ว ทางคอลิกทั่วๆไป ก็จะมองว่าเป็น โปรเตสแตนต์ นั่นเอง ดังนั้นเมื่อท่านเข้าไปช่วยฟากไหน กลุ่มไหนท่านก็มอง เรื่องศาสนสัมพันธ์ และอีกกลุ่มหนึ่งก็เป็นโปรเตสแตนต์ มั้ง
3.มูนลิสึมนะ เขาก็ชวนทุกๆคริสต์แหละ มีจดหมาย และโทรศัพท์เชิญ แต่โปรเตสแตนต์ที่รู้จักเขาจริงๆ ก็ไม่ไปร่วม เพราะเท่ากะไปสนับสนุนพวกเขา (อ่านเกมส์ออกไงพี่ )
ข้อมูลเก่าแล้วครับ เดี๋ยวนี้ เขาก้าวหน้าไปถึงเปลี่ยนคำลงท้ายคำอธิษฐานเรียบร้อยแล้ว โดยอธิษฐานด้วยนามตัวเองและเปลี่ยนจากอาเมนเป็น "อาจู" ซึ่งเป็นภาษาเกาหลีAgape เขียน: ขอเสริมเรื่อง...มูนนิสึม
ยองมิวมูน หรือซันมิว มูน เป็นผู้ก่อตั้งลัทธิมูน
http://www.geocities.com/janejira_jc/CHURCH11.htm
เกิดในปีคริสตศักราช 1920 ที่เมืองกวางจู ประเทศเกาหลีเหนือ บิดาเป็นสมาชิกคริสตจักรเพรสไบทีเรียน แต่มูนไปร่วมการนมัสการกับกลุ่มเพ็นตาคอส
..............
ลัทธินี้สอนว่า
- เมื่อพระเยซู ซึ่งเป็นอาดามคนที่สอง ไม่สามารถช่วยมนุษย์ทางฝ่ายกาย ฉะนั้นต้องมีพระมาซีฮาองค์ใหม่เสด็จมาบังเกิด เพื่อให้มนุษย์รอดทางร่างกาย
- มูนสอนว่า พระมาซีฮาองค์ใหม่ จะเสด็จมาในช่วง 2000 ปี หลังจากพระเยซู และอ้างว่าจะต้องเกิดในประเทศจีน ญี่ปุ่นหรือเกาหลี (อ้างวิวรณ์ 7:2-4) และสรุปว่าต้องเป็นเกาหลี แรกเริ่มมูนไม่ได้พูดว่าตนเองเป็นผู้นั้น แต่ก็ชี้เป็นนัยว่าเป็นตน โดยเฉพาะเมื่อกล่าวว่าการแต่งงานของพระมาซีฮา เกิดในปีคริสตศักราช 1960 นั้นหมายถึงตนเอง
4. แม้คำสอนของมูน จะผิดเพี้ยนแต่มีหนุ่มสาวจำนวนมากมายที่ติดตามมูน
- สาวกของมูนจะชักชวนคนในทุกแห่งหน ไม่ว่าในสถานศึกษา หรือศูนย์การค้า หรือสนามบิน พวกเขาจะใช้วิธีเชิญคนไปร่วมงานเลี้ยงอาหารเย็น ซึ่งจะมีการต้อนรับอย่างอบอุ่น และเอาอกเอาใจโดยเฉพาะรอยยิ้ม
- หลังจากนั้น เขาจะชวนให้เข้ากลุ่มศึกษา และมีเพื่อนต่างเพศคอยเอาใจใส่ติดตาม และมีรายการที่เคร่งเครียด โดยไม่ค่อยให้เวลาพัก เพื่อให้คนไม่มีแรงปฎิเสธคำสอน จนคนต้องรับเชื่อ
- หลังจากรับเชื่อ มูนจะเรียกร้องให้มอบทุกสิ่ง ทรัพย์สิ่งของให้กับคริสตจักร และมีรายการอบรมที่หนักหน่วงขึ้น มีงานรับผิดชอบมากมาย นอนเพียงวันละ 5-6 ชั่วโมง แต่ต้องอดอาหารอธิษฐานเสมอ รวมทั้งออกไปประกาศนำคนมาเชื่อ
จงระวังอย่าให้ผู้ใดใช้ "ปรัชญา" หรือใช้เล่ห์กลอันไร้แก่นสารหลอกลวงท่านตามขนบประเพณีของมนุษย์หรือหลักการของโลก ไม่สั่งสอนตามคำสอนของพระคริสต์เจ้า โคโลสี 2:8
"หลังจากนั้น เขาจะชวนให้เข้ากลุ่มศึกษา และมีเพื่อนต่างเพศคอยเอาใจใส่ติดตาม และมีรายการที่เคร่งเครียด โดยไม่ค่อยให้เวลาพัก เพื่อให้คนไม่มีแรงปฎิเสธคำสอน จนคนต้องรับเชื่อ" ข้อนี้เป็นความเข้าใจผิดเขานิดหนึ่ง ที่จริงไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ
คือตัวเจ้านิกายนี่จะมีความสัมพันธ์กับโบสถ์ซึ่งในเกาหลีถือว่าเป็นสายนอกรีตมาก่อนเกือบทั้งสิ้นก่อนที่จะมาตั้งตัวเป็นเจ้าลัทธิเอง ประวัติก่อนการเกิดก็พิศดารล้ำลึกยิ่ง
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ ศุกร์ ม.ค. 26, 2007 8:33 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
อ.กีรติ เป็นบาทหลวงอยู่ที่วัดคอนเซปชัญ และขณะนั้นก็เป็นอาจารย์พิเศษสอนที่จุฬาด้วย เมื่อสึกและแต่งงานแล้วก็ไม่เคยพักอาศัยที่หมู่บ้านนี้จ้าJeab Agape เขียน:
ตอบพี่เปาลูส และพี่จอมนางฯ
เคยเป็นบาทหลวง อยู่ 8 ปี หลังจากนั้น ก็ลาสิขาบท แล้วไปเป็นอาจารย์ที่ จุฬาฯ เลยเขียนหนังสือ
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
ขอบคุณทุกท่านที่ช่วยกันแถลงประวัติอาจารย์นะคะ จริง ๆไม่ได้สนใจความเป็นมาของอาจารย์เท่าไหร่ สนใจปัจจุบันมากกว่าอ่ะจ้า
อดีต เป้นเรื่องของอดีตอยู่วันยังค่ำ ไม่ว่าจะอดีตของใครก็ตาม สนใจแค่ว่า ปัจจุบัน ยืนอยู่ตรงไหน และคิด หรือทำอะไรมากกว่า
ตกลงว่า อาจารญืแก ยังไปวัดอยู่แม่นก่ ในปัจจุบัน
อดีต เป้นเรื่องของอดีตอยู่วันยังค่ำ ไม่ว่าจะอดีตของใครก็ตาม สนใจแค่ว่า ปัจจุบัน ยืนอยู่ตรงไหน และคิด หรือทำอะไรมากกว่า
ตกลงว่า อาจารญืแก ยังไปวัดอยู่แม่นก่ ในปัจจุบัน
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
ออกทะเล ค๊าบบบบบ ประท้วงๆๆๆ ไม่พาดพิง เรื่องคนอื่นค๊าบบบอันตน เขียน: แกไปวัดแล้วแกรับศีลได้ป่าวหว่า แกบวชแล้วแกก็หมดสิทธิ์รับศีลสมรสไม่ใช่เหรอ
วุ้ย เศษผงในตาคนอื่นนี่ช่างขยันเห็นจริงๆเลยวุ้ย
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
โหะๆๆ ที่ถามไม่ได้คำตอบในกระทู้แต่ไปได้คำตอบที่อื่น
ที่สนใจประเด้นเรื่องเข้าวัด เพราะกำลังสำรวจข้อมูลเพื่อศึกษาอยู่อ่ะจ้า ไม่ว่ากันนี ถ้าจะมีคำถามประเภทนี้บ้าง
ที่สนใจประเด้นเรื่องเข้าวัด เพราะกำลังสำรวจข้อมูลเพื่อศึกษาอยู่อ่ะจ้า ไม่ว่ากันนี ถ้าจะมีคำถามประเภทนี้บ้าง