ไม่เพียงแค่สวดภาวนานะครับ แต่ที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันก็คือ
การเป็นพยานถึงพระคริสตเจ้า น้องสามารถเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่อง
สันติภาพ ความดี ความรัก และการให้อภัย พี่ว่าการที่ชาวคริสต์จำนวนหนึ่งหวั่นไหวสั่นคลอนกับความเชื่อของตนเองก็เพราะเขาสัมผัสไม่ได้ถึงพระเจ้า เป็นต้นพระเจ้าในฐานะที่ทรงเป็นองค์ความรัก หลายครั้งความรักและการให้อภัยแม้เพียงสักครั้งเดียวก็อาจเปลี่ยนจิตใจคนที่แข็งดั่งศิลาให้อ่อนลงได้นะครับ ซึ่งพี่เชื่อว่าถ้าเขาได้สัมผัสหรือเข้าถึง
ความรักของพระเจ้าอย่างแท้จริง ได้สัมผัสหรือเข้าถึง
ความรักต่อเพื่อนพี่น้องอย่างแท้จริง ความเชื่อของเขาก็จะไม่หวั่นไหวคลอนแคลนไปเลยครับ
ในฐานะนักเรียนคนหนึ่ง น้องสามารถแสดงความรักต่อเพื่อนที่โรงเรียนได้ เช่น ช่วยเหลือผู้อื่น ให้กำลังใจเพื่อนที่ท้อแท้ใจ อยู่เคียงข้างเพื่อนที่กำลังรู้สึกโดดเดี่ยวเดียวดาย ฯลฯ เมื่อเราทำผิดก็กล้าขอโทษ และเมื่อมีคนทำให้น้องเจ็บช้ำน้ำใจก็กล้าที่จะให้อภัย เช่นนี้ก็จะเป็นดังที่พระเยซูเจ้าได้ตรัสไว้ว่า เมื่อท่านรักกันและกัน คนทั้งหลายก็จะรู้ว่าท่านเป็นศิษย์ของเรา นี่ไงครับ น้องเป็นพยานถึงพระคริสตเจ้าแล้ว เมื่อมีคนถามน้องว่าทำไมน้องจึงรัก อารีอารอบต่อผู้อื่น และให้อภัยผู้อื่นเมื่อเขาทั้งหลายทำผิดต่อน้อง น้องก็สามารถกล่าวได้เต็มปากว่า น้องเป็นลูกของพระเจ้าองค์ความรัก น้องเป็นศิษย์ของพระคริสตองค์ นี่ไงครับ น้องได้ทำแล้ว น้องได้ประกาศถึงพระเจ้าแล้ว
นอกจากนี้ การเป็นแบบอย่างที่ดีในการเรียน เช่น เข้าเรียนสม่ำเสมอ ตรงเวลา ขยันหมั่นเพียร ฯลฯ ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งในการประกาศถึงพระนามของพระเจ้า เพราะเมื่อใดมีคนถามว่าทำไมน้องถึงได้เป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน ขยันหมั่นเพียร มีวินัยและความรับผิดชอบในหน้าที่ของการเป็นนักเรียน น้องก็สามารถตอบได้ว่า เพราะน้องเป็นคริสตชน
น้องบอกว่าน้องยังเป็นนักเรียน แถมยังไม่ได้ล้างบาป ทำอะไรได้ไม่ค่อยมาก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าน้องประกาศถึงพระเจ้าด้วยการกระทำของน้อง แล้วน้องทำ
อย่างต่อเนื่อง ทุกวัน สม่ำเสมอ หนึ่งวัน สองวัน สามวัน สี่วัน ห้าวัน ... หลายๆวันเข้า จากหนึ่งก็จะเป็นสองและเป็นสามและเป็นสี่และเป็นห้าและเป็น
มากมาย นี่ไงครับ น้องได้ทำแล้ว และทำได้มากด้วยสิ จริงปะครับ :cheesy:
มุ่งหน้าต่อไป...เพื่อพระสิริของพระเจ้าสูงสุดครับ
Ad Gloriam Dei !!!
