สงสัยในหลักคำสอนของพระคริสต์ครับผม
...ได้รับพระคัมภีร์จากพี่ๆน้องๆแล้ว เพิ่งได้อ่าน ได้ศึกษา
อยากถามที่สงสัยเพื่อให้ได้กระจ่าง ข้อข้อเท็จจริงที่กระจ่างแก่ผมที
1.เรากำเนิดจกพระองค์ แล้วสิ่งใดคือตัวกำหนอว่าคนๆนี้จะต้องเกิดมาเป็นอย่างไรเช่น
1.1เกิดมาจน หรือรวย
1.2เกิดมาครบ 32 หรือ เกิดมาพิการ ไม่สมประกอบ
1.3เกิดเป็นคนที่ต่างเชื้อชาติกัน อยู่คนละสาขา คนละทวีป
ผมอยากรู้ว่าใช้หลักใดเป็นตัวกำหนดว่าวิญญาณนี้ จะพิการ จะตาบอด จะหูหนวก จะลำบาก เพราะถ้า 1 วิญญาณเกิดมาครั้งเดียว อะไรคือความยุติธรรมที่จะกำหนดเขาเหล่านั้นให้เป็นแบบนั้น หรือแบบไหนๆ และถ้ามีตัวกำหนด กำหนอเพื่อสิ่งใด แล้วยุติธรรมแค่ไหน
บางทีผมเกิดมาปกติดี แต่เพื่อนผมเกิดมาไม่สมประกอบเท่าไหร่แต่เมื่อเขาได้รู้จักพระเจ้า ก้อเชื่อว่าพระองค์ยังรักเขา แต่คำถามในใจก้อคือ แล้วก่อนเขามารู้จักพระองค์ ใครเป็นคนกำหนดให้เขาต้องพิการ ช่วยให้กระจ่างที
2.ได้อ่านพระคัมภีร์บางส่วน มีอยู่บทหนึ่งผมจำได้แต่เพียงว่า ถ้าเชื่อในพระองค์ก้อจะรับชีวิตนิรันดิ์ ถ้าไม่เชื่อ และยังทำบาป ก้อจะได้รับความตาย
...2.1 ชีวิตนิรันด์ คืออะไร
...2.2 ได้รับความตายคืออะไร
3.เห็นข่าวจาก วาติกันอยู่บ่อยๆ ถ้าคนที่เป็นทอม ดี้ กระเทย เกย์ หรือสาวประเภทสองก้อตาม เขานับถือคริสต์ได้มั้ย รับศีลล้างบาปได้มั้ย ...เพราะเขาเกิดมาเป็นแบบนี้ เหมือนเลือกเกิดไม่ได้พระองค์จะยอมรับเขามั้ย
...3.1เห็นข่าวบางที เหมือนวาติกันไม่ยอมรับ แล้วผมก้อสงสัยว่า ถ้าร่างกายและชีวิตเราพระองค์เป็นผู้สร้างขึ้น แล้วทำไมคนที่เขาเกิดมาเป็นแบบนั้น ถ้าพระเจ้าสร้างเขาขึ้น แต่ทำไมพระองค์ไม่ยอมรับเขาเลย เพราะผมก้อมีเพื่อนเป็นแบบนี้เยอะ ถามเขาว่าทำไมถึงเป็น เขาก้อตอบได้แต่เพียงว่าใจเขาเป็นแบบนั้นจิงๆเค้าห้ามไม่ได้ จะให้เขากลับเป็นผู้ชายตามธรรมชาติเหมือนเดิมเขาก้อทำไม่ได้เพราะเขาเกิดมาเป็นแบบนั้นแล้ว... แล้วยุติธรรมมั้ยถ้าเขาจะรักพระองค์...แล้วทำไมพระองค์ส่งเขามาเกิดเพือเป็นกระเทย หรือสาวประเภทสอง (เคยถามอีกว่าถ้าเลือกเกิดได้ เขาก้ออยากเกิดเป็นคนปกติ เขาก้อไม่อยากเป็นแบบนี้ ไม่อยากให้ใครมองเขาว่าผิด)...
อยากถามที่สงสัยเพื่อให้ได้กระจ่าง ข้อข้อเท็จจริงที่กระจ่างแก่ผมที
1.เรากำเนิดจกพระองค์ แล้วสิ่งใดคือตัวกำหนอว่าคนๆนี้จะต้องเกิดมาเป็นอย่างไรเช่น
1.1เกิดมาจน หรือรวย
1.2เกิดมาครบ 32 หรือ เกิดมาพิการ ไม่สมประกอบ
1.3เกิดเป็นคนที่ต่างเชื้อชาติกัน อยู่คนละสาขา คนละทวีป
ผมอยากรู้ว่าใช้หลักใดเป็นตัวกำหนดว่าวิญญาณนี้ จะพิการ จะตาบอด จะหูหนวก จะลำบาก เพราะถ้า 1 วิญญาณเกิดมาครั้งเดียว อะไรคือความยุติธรรมที่จะกำหนดเขาเหล่านั้นให้เป็นแบบนั้น หรือแบบไหนๆ และถ้ามีตัวกำหนด กำหนอเพื่อสิ่งใด แล้วยุติธรรมแค่ไหน
บางทีผมเกิดมาปกติดี แต่เพื่อนผมเกิดมาไม่สมประกอบเท่าไหร่แต่เมื่อเขาได้รู้จักพระเจ้า ก้อเชื่อว่าพระองค์ยังรักเขา แต่คำถามในใจก้อคือ แล้วก่อนเขามารู้จักพระองค์ ใครเป็นคนกำหนดให้เขาต้องพิการ ช่วยให้กระจ่างที
2.ได้อ่านพระคัมภีร์บางส่วน มีอยู่บทหนึ่งผมจำได้แต่เพียงว่า ถ้าเชื่อในพระองค์ก้อจะรับชีวิตนิรันดิ์ ถ้าไม่เชื่อ และยังทำบาป ก้อจะได้รับความตาย
...2.1 ชีวิตนิรันด์ คืออะไร
...2.2 ได้รับความตายคืออะไร
3.เห็นข่าวจาก วาติกันอยู่บ่อยๆ ถ้าคนที่เป็นทอม ดี้ กระเทย เกย์ หรือสาวประเภทสองก้อตาม เขานับถือคริสต์ได้มั้ย รับศีลล้างบาปได้มั้ย ...เพราะเขาเกิดมาเป็นแบบนี้ เหมือนเลือกเกิดไม่ได้พระองค์จะยอมรับเขามั้ย
...3.1เห็นข่าวบางที เหมือนวาติกันไม่ยอมรับ แล้วผมก้อสงสัยว่า ถ้าร่างกายและชีวิตเราพระองค์เป็นผู้สร้างขึ้น แล้วทำไมคนที่เขาเกิดมาเป็นแบบนั้น ถ้าพระเจ้าสร้างเขาขึ้น แต่ทำไมพระองค์ไม่ยอมรับเขาเลย เพราะผมก้อมีเพื่อนเป็นแบบนี้เยอะ ถามเขาว่าทำไมถึงเป็น เขาก้อตอบได้แต่เพียงว่าใจเขาเป็นแบบนั้นจิงๆเค้าห้ามไม่ได้ จะให้เขากลับเป็นผู้ชายตามธรรมชาติเหมือนเดิมเขาก้อทำไม่ได้เพราะเขาเกิดมาเป็นแบบนั้นแล้ว... แล้วยุติธรรมมั้ยถ้าเขาจะรักพระองค์...แล้วทำไมพระองค์ส่งเขามาเกิดเพือเป็นกระเทย หรือสาวประเภทสอง (เคยถามอีกว่าถ้าเลือกเกิดได้ เขาก้ออยากเกิดเป็นคนปกติ เขาก้อไม่อยากเป็นแบบนี้ ไม่อยากให้ใครมองเขาว่าผิด)...
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
อืมม์ คำถามเยอะเหลือเกิน อิกคิวเจี๊ยบ ขอบาย ให้พี่โฮลี่ กะพี่เปาลูส ขอรับ :cheesy:
-
- โพสต์: 1159
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มิ.ย. 13, 2005 2:03 pm
ประเด็นที่ถาม เคยมีคนถามคล้าย ๆ กัน และมีคนตอบแล้ว บองคำตอบอธิบายค่อนข้างดี อาจจะลองค้นดูในคลังกระทู้เก่าดูก็ได้นะคะ
เรื่องการสร้างมนุษย์นั้น ไม่ได้มีเกณฑ์อะไรกำหนด ทุกอย่างเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าเอง พระเป้นเจ้าไม่ได้สร้างทุกคนมาให้เหมือนกัน เพราะพระองค์ต้องการให้มนุษย์ได้เรียนรู้จากความหลากหลาย สำหรับคนที่ครบสามสิบสอง ต้องเรียนรู้ว่า เรามีผุ้คนที่รอน้ำใจ รอรับความรัก รอรับการช่วยเหลือ เราเขาต้องเรียนรู้ที่จะมอบความรัก แบ่งปันน้ำใจ รู้จักช่วยเหลือ ให้อภัย หรืออะไรต่าง ๆ ตามที่พระเยซูได้ทรงสอน
ส่วนคนที่เกิดมาพิการ หรืออื่นใด เขาเองก็เกิดมาเพื่อผู้อื่น เขาจะต้องเรียนรู้ความอดทนต่อความยากลำบาก เรียนรู้ที่จะไว้วางใจในพระเจ้า หากเขาสามารถเรียนรู้และทำได้ ก็จะเป้นการให้แก่คนอื่น อย่างเช่น คนที่ทุกข์ใจกับชีวิต แต่มาเจอคนพิการที่ไม่เคยท้อแท้กับชีวิต เขาก็มีกำลังใจขึ้น นี่คือการให้ คริสตชนเชื่อว่า บางครั้งชีวิตที่ทุกข์ยากของเรา ก็อาจจะถือเป้นการใช้โทษบาปให้ตัวเองและคนอื่น ๆได้ (ประเด็นค่อนว่ากันต่อไปนะคะ)
สำหรับคริสตศาสนิกชนแล้ว ชีวิตที่มุ่งหวังรอคอย คือชีวิตนิรันดร ก็คือชีวิตที่มีแต่สันติสุข ตลอดนิรันดร มันก็ยิ่งทำให้เรายอมรับความยากลำบากในโลก คนที่พิการ คนที่ทุกข์ยากเมื่อมีชีวิตอยู่ในโลก ถ้าเขายังเพียรทนทำความดี ประพฤติตัวตามคำสอนของพระเยซู รู้จัก รักและแบ่งปัน และมีแต่ความไว้วางใจในพระเป็นเจ้า คนประเภทนี้ ได้รับบำเหน็จในสวรรค์ ได้รับชีวิตนิรันดรแน่นอน
การได้รับความตาย ก็ตายนิรันดร ตายไปกับบาป กับความทุกข์ แบบนิรันดร คือไม่มีชีวิตอยู่ในอาณาจักรพระเจ้า แต่อยู่ในไฟนรก นิรันดร
ส่วนกรณีรักร่วมเพศ พระศาสนจักรไม่ได้ปิดประตูสำหรับเขานะคะ เขาเป็นมนุษย์เหมือนกัน ถึงแม้ว่าพระศาสนจักรจะไม่สนับสนุนเรื่องรักร่วมเพศก็ตาม แต่ไมได้มองว่าเขาไม่เป็นมนุษย์นะคะ ไม่ได้มีความผิดที่เขามีเพศแบบนี้ แต่ที่สำคัญอย่าทำบาป ซึ่งก็เหมิอนกับสมาชิกในพระศาสนจักรอื่น ๆ คือ ต้องไม่ทำบาป
ตอบแค่สั้น ๆ ก่อน เดี่ยวรอคนอธิบายดี ๆมาตอบก็แล้วกันนะคะ สรุปแล้ว ทุกอย่างเป้นไปตามแผนการของพระเป็นเจ้าค่ะ จะยากดีมีจน สมบูรณ์หรือพิการ รักร่วมเพศ หรือไม่รักร่วมเพศ ต้องเรียนรู้ที่จะรัก อดทน แบ่งปัน และไว้วางใจกับผู้ที่สร้างเรามา เพราะพระองค์จะทรงคอยนำทางเราเสมอ และความรักของพระองค์ไม่มีขอบเขต
เรื่องการสร้างมนุษย์นั้น ไม่ได้มีเกณฑ์อะไรกำหนด ทุกอย่างเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าเอง พระเป้นเจ้าไม่ได้สร้างทุกคนมาให้เหมือนกัน เพราะพระองค์ต้องการให้มนุษย์ได้เรียนรู้จากความหลากหลาย สำหรับคนที่ครบสามสิบสอง ต้องเรียนรู้ว่า เรามีผุ้คนที่รอน้ำใจ รอรับความรัก รอรับการช่วยเหลือ เราเขาต้องเรียนรู้ที่จะมอบความรัก แบ่งปันน้ำใจ รู้จักช่วยเหลือ ให้อภัย หรืออะไรต่าง ๆ ตามที่พระเยซูได้ทรงสอน
ส่วนคนที่เกิดมาพิการ หรืออื่นใด เขาเองก็เกิดมาเพื่อผู้อื่น เขาจะต้องเรียนรู้ความอดทนต่อความยากลำบาก เรียนรู้ที่จะไว้วางใจในพระเจ้า หากเขาสามารถเรียนรู้และทำได้ ก็จะเป้นการให้แก่คนอื่น อย่างเช่น คนที่ทุกข์ใจกับชีวิต แต่มาเจอคนพิการที่ไม่เคยท้อแท้กับชีวิต เขาก็มีกำลังใจขึ้น นี่คือการให้ คริสตชนเชื่อว่า บางครั้งชีวิตที่ทุกข์ยากของเรา ก็อาจจะถือเป้นการใช้โทษบาปให้ตัวเองและคนอื่น ๆได้ (ประเด็นค่อนว่ากันต่อไปนะคะ)
สำหรับคริสตศาสนิกชนแล้ว ชีวิตที่มุ่งหวังรอคอย คือชีวิตนิรันดร ก็คือชีวิตที่มีแต่สันติสุข ตลอดนิรันดร มันก็ยิ่งทำให้เรายอมรับความยากลำบากในโลก คนที่พิการ คนที่ทุกข์ยากเมื่อมีชีวิตอยู่ในโลก ถ้าเขายังเพียรทนทำความดี ประพฤติตัวตามคำสอนของพระเยซู รู้จัก รักและแบ่งปัน และมีแต่ความไว้วางใจในพระเป็นเจ้า คนประเภทนี้ ได้รับบำเหน็จในสวรรค์ ได้รับชีวิตนิรันดรแน่นอน
การได้รับความตาย ก็ตายนิรันดร ตายไปกับบาป กับความทุกข์ แบบนิรันดร คือไม่มีชีวิตอยู่ในอาณาจักรพระเจ้า แต่อยู่ในไฟนรก นิรันดร
ส่วนกรณีรักร่วมเพศ พระศาสนจักรไม่ได้ปิดประตูสำหรับเขานะคะ เขาเป็นมนุษย์เหมือนกัน ถึงแม้ว่าพระศาสนจักรจะไม่สนับสนุนเรื่องรักร่วมเพศก็ตาม แต่ไมได้มองว่าเขาไม่เป็นมนุษย์นะคะ ไม่ได้มีความผิดที่เขามีเพศแบบนี้ แต่ที่สำคัญอย่าทำบาป ซึ่งก็เหมิอนกับสมาชิกในพระศาสนจักรอื่น ๆ คือ ต้องไม่ทำบาป
ตอบแค่สั้น ๆ ก่อน เดี่ยวรอคนอธิบายดี ๆมาตอบก็แล้วกันนะคะ สรุปแล้ว ทุกอย่างเป้นไปตามแผนการของพระเป็นเจ้าค่ะ จะยากดีมีจน สมบูรณ์หรือพิการ รักร่วมเพศ หรือไม่รักร่วมเพศ ต้องเรียนรู้ที่จะรัก อดทน แบ่งปัน และไว้วางใจกับผู้ที่สร้างเรามา เพราะพระองค์จะทรงคอยนำทางเราเสมอ และความรักของพระองค์ไม่มีขอบเขต
1คร 12:12-27 การเปรียบเทียบกับร่างกาย
แม้ร่างกายเป็นร่างกายเดียว แต่ก็มีอวัยวะหลายส่วน อวัยวะต่าง ๆ เหล่านี้แม้จะมีหลายส่วนก็ร่วมเป็นร่างกายเดียวกันฉันใด พระคริสตเจ้า ก็ฉันนั้น เดชะพระจิตเจ้าพระองค์เดียว เราทุกคนจึงได้รับการล้างมารวมเข้าเป็นร่างกายเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นชาวยิวหรือชาวกรีก ไม่ว่าจะเป็นทาสหรือไทยก็ตาม เราทุกคนต่างได้รับพระจิตเจ้าพระองค์เดียวกัน ร่างกายไม่ได้ประกอบด้วยอวัยวะส่วนเดียว แต่มีอวัยวะหลายส่วน ถ้าเท้าจะพูดว่า
แม้ร่างกายเป็นร่างกายเดียว แต่ก็มีอวัยวะหลายส่วน อวัยวะต่าง ๆ เหล่านี้แม้จะมีหลายส่วนก็ร่วมเป็นร่างกายเดียวกันฉันใด พระคริสตเจ้า ก็ฉันนั้น เดชะพระจิตเจ้าพระองค์เดียว เราทุกคนจึงได้รับการล้างมารวมเข้าเป็นร่างกายเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นชาวยิวหรือชาวกรีก ไม่ว่าจะเป็นทาสหรือไทยก็ตาม เราทุกคนต่างได้รับพระจิตเจ้าพระองค์เดียวกัน ร่างกายไม่ได้ประกอบด้วยอวัยวะส่วนเดียว แต่มีอวัยวะหลายส่วน ถ้าเท้าจะพูดว่า
ที่พี่ๆเขาตอบให้น้องนั้นคือข้อความจริงทั้งหมดจ้าdeejai เขียน: ...ได้รับพระคัมภีร์จากพี่ๆน้องๆแล้ว เพิ่งได้อ่าน ได้ศึกษา
อยากถามที่สงสัยเพื่อให้ได้กระจ่าง ข้อข้อเท็จจริงที่กระจ่างแก่ผมที
ไม่ใช่ข้อเท็จ แม้แต่น้อยนะ
และไม่ใช่เท็จๆจริงๆด้วย
...อยากให้เพื่อนๆอธิบายเพิ่มเติมนิดนึงนะครับ บางทีอ่านพระคัมภีร์ ก้ออ่าเจอบทที่เพื่อนๆมาตอบ มาแนะนำ แต่ยังไม่กระจ่างเท่าที่ควร
ข้อที่ 2 ที่ผมถามเริ่มกระจ่างแล้วคับ แล้วกับรายละเอียด ข้อ 1 กับข้อ 3 ที่ผมถาม อยากขอรายละเอียดมากกว่านี้หน่อยนะครับ รบกวนที
....แล้วคำถามใหม่ คือผมสงสัย กับ ออร์ทอดอกซ์ ในบ้านเรามีบ้างมัยครับ บางทีผมอาจกระทู้เก่าๆก้อเจอแต่เป็นที่อยู่กับเบอร์โทรที่ไม่ค่อยสมบูรณ์นะครับ ก้อเลยติดต่อสืบค้นไม่ได้เลย รบกวนอีกทีนะครับ
...สรุปคำถาม คือ คำถามเก่าที่ต้องการรายละเอียดเพิ่ม 2 ข้อ (ข้อที่ 1 กับ 3 ที่เคยโพสไว้)
คำถามล่าสุด ออร์ทอดอกซ์ ในไทย นะครั ว่าจะติดต่อข้อมูลได้อย่างไร
ข้อที่ 2 ที่ผมถามเริ่มกระจ่างแล้วคับ แล้วกับรายละเอียด ข้อ 1 กับข้อ 3 ที่ผมถาม อยากขอรายละเอียดมากกว่านี้หน่อยนะครับ รบกวนที
....แล้วคำถามใหม่ คือผมสงสัย กับ ออร์ทอดอกซ์ ในบ้านเรามีบ้างมัยครับ บางทีผมอาจกระทู้เก่าๆก้อเจอแต่เป็นที่อยู่กับเบอร์โทรที่ไม่ค่อยสมบูรณ์นะครับ ก้อเลยติดต่อสืบค้นไม่ได้เลย รบกวนอีกทีนะครับ
...สรุปคำถาม คือ คำถามเก่าที่ต้องการรายละเอียดเพิ่ม 2 ข้อ (ข้อที่ 1 กับ 3 ที่เคยโพสไว้)
คำถามล่าสุด ออร์ทอดอกซ์ ในไทย นะครั ว่าจะติดต่อข้อมูลได้อย่างไร
น้องดีใจรับประทานอาหารหรือยังmaple เขียน: ...อยากให้เพื่อนๆอธิบายเพิ่มเติมนิดนึงนะครับ
อะไรทำให้น้องถึงเลือกรับประทานอาหารเหล่านี้
มื้อนี้ทานข้าวกับอะไรบ้าง ทานกี่คำ
น้องเคี้ยวอาหารละเอียดไหม เคี้ยวคำละกี่ครั้ง ดื่มน้ำไปเท่าใด
คำถามเหล่านี้น้องจะตอบว่าอย่างไร แน่นอนน้องตอบคำถามของพี่ได้
อย่าคิดว่าที่พี่ถามคำถามนี้ ไม่ใช่ตอบไม่ได้ จึงแกล้งถาม
จริงๆแล้วพี่จอมนางตอบได้ดีมากๆๆๆเลย อ่านอีกหลายๆเที่ยวนะ
ลองคิดตามนะ การรับประทานอาหาร เราจะถามกันว่า อาหารพอไหม อิ่มไหม มีประโยชน์ไหม อร่อยไหม
เพราะนั่นคือวัตถุประสงค์ของการกินอาหาร
เช่นเดียวกัน พี่ขอสรุปคำถามว่า น้องกำลังหาเหตุผลว่า
ทำไมมนุษย์จึงต่างกัน หล่อ สวย ขี้เหร่ รวย จน ปกติ พิการ เป็นเกย์ เกิดที่ต่างกันฯลฯ
พระยุติธรรมไหม
คำตอบของน้องง่ายนิดเดียว พระทรงยุติธรรมเสมอmaple เขียน: ...รายละเอียด ข้อ 1 กับข้อ 3 ที่ผมถาม อยากขอรายละเอียดมากกว่านี้หน่อยนะครับ รบกวนที
คำถามล่าสุด ออร์ทอดอกซ์ ในไทย นะครั ว่าจะติดต่อข้อมูลได้อย่างไร
แต่มนุษย์ตัดสินมนุษย์ด้วย สติปัญญาของมนุษย์
เป็นคนหล่อ สวย ดีกว่า คนขี่เหร่? ฝรั่งดีกว่าไทย? ขาวดีกว่าดำ?
คนปกติ ดีกว่าพิการ? รวยดีกว่าจน? เป็นเกย์ ไม่ดี ?
จริงไหม จริงหรือ เราเอาสมบัติทางโลกมาตัดสินมนุษย์
ถ้าเรามองคนด้วยฉายาของพระเจ้า เราจะเห็นว่าพระยุติธรรม
น้องเห็นคนปัญญาอ่อนไหม เขาเดินยิ้มมีความสุขทั้งวัน ไม่โกรธใคร
เราสุขกว่าเขาหรือ ความสุขนะ ไม่ใช่ดูดีในสายตาของมนุษย์
เราด่าคนว่าปัญญาอ่อน แต่แน่ใจหรือว่าเราดีกว่าเขา
เขาเกิดมาไม่มีโอกาสทำความผิดเลย เขาเป็นเทวดาในร่างมนุษย์นะ
แต่เราที่ดูดีด้วยสมบัติทางโลก ทำผิดต่อพระเท่าใด แต่กล้าไปดูถูกเหยียดหยามเขา
++++ส่วนคำถามว่าทำไมพระสร้างคนไม่เหมือนกัน ให้อ่านคำถามเรื่องที่พี่ถามเรื่องอาหาร
แล้วตอบตัวเอง เพราะพี่ไม่รู้ว่าทำไม+++++
พี่ถามบ้าง แล้วไปอยากรู้เรื่องออร์ทอดอกซ์ ทำไม
อยากรู้เรื่องประเพณีหรือศาสนาจ๊ะ
:huh: :huh: :huh:
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
เออ..ขอนอกเรื่องนิดนึงนะคะ
ทำไมต้องสมัคร 2 ชื่อล่ะคะ?? :huh:
ทำไมต้องสมัคร 2 ชื่อล่ะคะ?? :huh:
การสมัครสองชื่อแสดงถึงความไม่จริงใจ มีอะไรซ่อนเร้น แต่ที่นี่ซ่อนอะไรไม่ได้หรอกครับ มีคนรู้ทันหมด
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
Phulasso เขียน: เอ้า น้อง Maple ตอบเลยจ้า
พี่เชื่อน้องต้องมีเหตุผลที่ดี
ไม่ต้องห่วง
เพราะอย่างไรก็เป็นเหตุผลของน้อง
(แบบว่ามีหลายคนอยากรู้น่ะ) :laugh: :laugh: :laugh:
เข้ามาขออยากรู้ด้วยคนนะ เพราะลำพังพวกที่เปลี่ยนชื่อปล่อยเนี่ยก็ต้องใช้ความสามารถพิเศษจดจำสำนวนแล้ว นี่คนเดียว 2 ชื่อเลยหรือ :huh:
ต้องเอาความสามารถที่เรียนรู้มาจากพันทิปมาใช้ล่ะฮะ:+: seraphim :+: เขียน:
เข้ามาขออยากรู้ด้วยคนนะ เพราะลำพังพวกที่เปลี่ยนชื่อปล่อยเนี่ยก็ต้องใช้ความสามารถพิเศษจดจำสำนวนแล้ว นี่คนเดียว 2 ชื่อเลยหรือ :huh:
(ขนาดให้ใช้เลขบัตรประจำตัวประชาชนสมัคร ยังสามารถมีหลายชื่อได้ ยอมเค้าเลย)
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
Florian เขียน: อีกหน่อยอาจต้องสแกนนิ้วตอนสมัครและก่อนล็อกอินทุกครั้ง หุ หุ : xemo026 :
ไม่ต้องถึงขนาดนั้นมั๊งจ๊ะ จะกรุณากันก็อย่าขยันเบื่อชื่อเก่าง่ายก็พอแล้วหล่ะ
อันตน เขียน:แหม่ คุณแม่อธิคานก็...:+: seraphim :+: เขียน:Florian เขียน: อีกหน่อยอาจต้องสแกนนิ้วตอนสมัครและก่อนล็อกอินทุกครั้ง หุ หุ : xemo026 :
ไม่ต้องถึงขนาดนั้นมั๊งจ๊ะ จะกรุณากันก็อย่าขยันเบื่อชื่อเก่าง่ายก็พอแล้วหล่ะ
แหม่ คุณแม่อธิคานก็...
อ้าวน้องฟิมเปลี่ยนชื่อแล้วเหรอ
แก้ไขล่าสุดโดย Phulasso เมื่อ เสาร์ มี.ค. 03, 2007 1:17 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
เอ่อ แม่อธิคาน นะเป็นตำแหน่ง ที่ชีแกว่งอยู่บนบอร์ด ฮะPhulasso เขียน:
แหม่ คุณแม่อธิคานก็...
อ้าวน้องฟิมเปลี่ยนชื่อแล้วเหรอ
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
Jeab Agape เขียน:เอ่อ แม่อธิคาน นะเป็นตำแหน่ง ที่ชีแกว่งอยู่บนบอร์ด ฮะPhulasso เขียน:
แหม่ คุณแม่อธิคานก็...
อ้าวน้องฟิมเปลี่ยนชื่อแล้วเหรอ
ก็ตามๆ พ่ออธิคานแถวนี้นั่นหล่ะ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ใครอ่ะพี่อันตนหรอ:+: seraphim :+: เขียน:Jeab Agape เขียน:เอ่อ แม่อธิคาน นะเป็นตำแหน่ง ที่ชีแกว่งอยู่บนบอร์ด ฮะPhulasso เขียน:
แหม่ คุณแม่อธิคานก็...
อ้าวน้องฟิมเปลี่ยนชื่อแล้วเหรอ
ก็ตามๆ พ่ออธิคานแถวนี้นั่นหล่ะ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
อ่อ งั้นรู้แล้วพี่อันตน เขียน:มะช่ายม้างงง พี่ไม่คานแล้ว วู้ มิวก็ อย่ามั่วดิBatholomew เขียน:ใครอ่ะพี่อันตนหรอ:+: seraphim :+: เขียน:
ก็ตามๆ พ่ออธิคานแถวนี้นั่นหล่ะ
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
อย่ามาหมิ่นประมาทนะเดี๋ยวจะโดนฟ้อง 200 ล้านแบบเปมิกา ชะเอิงเอย....
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
พี่อันตนสังเกตมั๊ย ช่วงนี้คุณแม่เค้าอารมณืดีเป็นพิเศษนะครับ:+: seraphim :+: เขียน: อย่ามาหมิ่นประมาทนะเดี๋ยวจะโดนฟ้อง 200 ล้านแบบเปมิกา ชะเอิงเอย....
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
:+: seraphim :+: เขียน: อย่ามาหมิ่นประมาทนะเดี๋ยวจะโดนฟ้อง 200 ล้านแบบเปมิกา ชะเอิงเอย....
555 คง itsha ละซิ ที่เจ๊เป ดังชั่วข้ามคืน
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
เอ่อ สำนักข่าวนางนวลเน่าพัทยา ให้เบาะแสว่า คุณแม่อธิคาน ได้ดูดเลือดฝาด หนุ่มๆศิษย์เก่า บ้านเณรมหาไถ่ เมื่อเสาร์ที่ผ่านมาคร้าบ จึงเพิ่มพลังวังชาBatholomew เขียน:
พี่อันตนสังเกตมั๊ย ช่วงนี้คุณแม่เค้าอารมณืดีเป็นพิเศษนะครับ
ให้ คุณแม่อย่างยิ่งยวด ยิ่งกว่านั้น กระจิบข่าวไร้สังกัด เสริมอีกว่า เมื่อเสาร์ ที่ผ่านมา คุณแม่อธิคาน เป็นจอมใจของหนุ่มๆศิษย์เก่าทั้งโขลง คร้าบ
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
Jeab Agape เขียน:เอ่อ สำนักข่าวนางนวลเน่าพัทยา ให้เบาะแสว่า คุณแม่อธิคาน ได้ดูดเลือดฝาด หนุ่มๆศิษย์เก่า บ้านเณรมหาไถ่ เมื่อเสาร์ที่ผ่านมาคร้าบ จึงเพิ่มพลังวังชาBatholomew เขียน:
พี่อันตนสังเกตมั๊ย ช่วงนี้คุณแม่เค้าอารมณืดีเป็นพิเศษนะครับ
ให้ คุณแม่อย่างยิ่งยวด ยิ่งกว่านั้น กระจิบข่าวไร้สังกัด เสริมอีกว่า เมื่อเสาร์ ที่ผ่านมา คุณแม่อธิคาน เป็นจอมใจของหนุ่มๆศิษย์เก่าทั้งโขลง คร้าบ
อี๊...ซ้อ 7 ให้ข่าวมั่วอีกแระ เดี๋ยวเถอะจะได้ไปอยู่ที่เดียวกับน้องเป
สิ่งที่หล่อเลี้ยงศาสนาหรือนิกายใดนิกายหนึ่งคืออัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในศาสนาหรือในนิกายนั้น ๆ
และที่สำคัญรากฐานของศาสนาทุกศาสนาที่ได้รับการยอมรับในปัจจุบันเป็นรากฐานเดียวกันทั้งนั้น
คือความรักและความเมตตา ผู้ที่รักตนเอง รักผู้อื่นเหมือนรักตนเอง ล้วนเป็นศิษย์ของพระเยซู
และเชื่อในพระเยซูอย่างแท้จริง
พระผู้เป็นเจ้าทรงไขแสดงความจริงแก่มนุษย์ตามกาลเวลาที่เหมาะสมและพระองค์ให้บทเรียนแก่มนุษย์เสมอ
อะไรที่ทำให้คนเปลี่ยนศาสนาและความเชื่อ ?
ประสบการณ์ส่วนตัวในเรื่องของอัศจรรย์ใช่หรือไม่ ?
ไม่มีอะไรที่มีน้ำหนักมากไปกว่าประสบการณ์ส่วนตัวอีกแล้ว
สำหรับคุณดีใจโดยเฉพาะ ปัญญานั้นมีอยู่ 3 ระดับคือ
สุตมยปญฺญา จินฺตมยปญฺญา ภาวนามยปญฺญา
ภาวนามยปญฺญา เป็นปัญญาที่สุงสุด เป็นปัญญาที่เห็นจริง
เป็นปัญญาที่เกิดจากประสบการณ์ของตนเอง
สิ่งที่คุณดีใจโพสต์มาเป็นเรื่อง จินฺตมยปญฺญา เท่านั้น
ซึ่งเป็นเรื่องที่คุยไม่มีวันจบ จนกว่านักวิทยาศาสตร์จะหาวิธี
พิสูจน์ได้
และที่สำคัญรากฐานของศาสนาทุกศาสนาที่ได้รับการยอมรับในปัจจุบันเป็นรากฐานเดียวกันทั้งนั้น
คือความรักและความเมตตา ผู้ที่รักตนเอง รักผู้อื่นเหมือนรักตนเอง ล้วนเป็นศิษย์ของพระเยซู
และเชื่อในพระเยซูอย่างแท้จริง
พระผู้เป็นเจ้าทรงไขแสดงความจริงแก่มนุษย์ตามกาลเวลาที่เหมาะสมและพระองค์ให้บทเรียนแก่มนุษย์เสมอ
อะไรที่ทำให้คนเปลี่ยนศาสนาและความเชื่อ ?
ประสบการณ์ส่วนตัวในเรื่องของอัศจรรย์ใช่หรือไม่ ?
ไม่มีอะไรที่มีน้ำหนักมากไปกว่าประสบการณ์ส่วนตัวอีกแล้ว
สำหรับคุณดีใจโดยเฉพาะ ปัญญานั้นมีอยู่ 3 ระดับคือ
สุตมยปญฺญา จินฺตมยปญฺญา ภาวนามยปญฺญา
ภาวนามยปญฺญา เป็นปัญญาที่สุงสุด เป็นปัญญาที่เห็นจริง
เป็นปัญญาที่เกิดจากประสบการณ์ของตนเอง
สิ่งที่คุณดีใจโพสต์มาเป็นเรื่อง จินฺตมยปญฺญา เท่านั้น
ซึ่งเป็นเรื่องที่คุยไม่มีวันจบ จนกว่านักวิทยาศาสตร์จะหาวิธี
พิสูจน์ได้
เป็นข้อความหนึ่งที่ผมเห็นด้วยครับsakda88 เขียน: สิ่งที่หล่อเลี้ยงศาสนาหรือนิกายใดนิกายหนึ่งคืออัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในศาสนาหรือในนิกายนั้น ๆ
และที่สำคัญรากฐานของศาสนาทุกศาสนาที่ได้รับการยอมรับในปัจจุบันเป็นรากฐานเดียวกันทั้งนั้น
คือความรักและความเมตตา ผู้ที่รักตนเอง รักผู้อื่นเหมือนรักตนเอง ล้วนเป็นศิษย์ของพระเยซู
และเชื่อในพระเยซูอย่างแท้จริง
พระผู้เป็นเจ้าทรงไขแสดงความจริงแก่มนุษย์ตามกาลเวลาที่เหมาะสมและพระองค์ให้บทเรียนแก่มนุษย์เสมอ
อะไรที่ทำให้คนเปลี่ยนศาสนาและความเชื่อ ?
ประสบการณ์ส่วนตัวในเรื่องของอัศจรรย์ใช่หรือไม่ ?
ไม่มีอะไรที่มีน้ำหนักมากไปกว่าประสบการณ์ส่วนตัวอีกแล้ว
สำหรับคุณดีใจโดยเฉพาะ ปัญญานั้นมีอยู่ 3 ระดับคือ
สุตมยปญฺญา จินฺตมยปญฺญา ภาวนามยปญฺญา
ภาวนามยปญฺญา เป็นปัญญาที่สุงสุด เป็นปัญญาที่เห็นจริง
เป็นปัญญาที่เกิดจากประสบการณ์ของตนเอง
สิ่งที่คุณดีใจโพสต์มาเป็นเรื่อง จินฺตมยปญฺญา เท่านั้น
ซึ่งเป็นเรื่องที่คุยไม่มีวันจบ จนกว่านักวิทยาศาสตร์จะหาวิธี
พิสูจน์ได้