มีใครรูจักจิตแพทย์คาทอลิกบ้างมะครับ
แบบว่า ผมไม่อยากคุยกะหมอต่างศาสนาแล้วครับ พอบอกว่าผมเชื่อพระเจ้า เค้าก็มองว่าบ้าแล้ว อาการหนัก ไปเชื่ออะไรที่มองไม่เห็น หมอศาสนาเดียวกัน ต่างนิกายก็คุยไม่รู้เรื่องครับ คุยกะต่างศาสนาง่ายกว่าอีก เคยไปโพสถามตามเว็บของหน่วยงานสุขภาพจิต แทนที่จะมีคนช่วย แต่ละคน เข้ามาทับถมทั้งนั้น ใครรู้จักช่วยผมทีครับ แบบว่า โรคเรื้อรังของผมจะได้หายซักที ผมอยากได้หมอที่อยู่ในกรุงเทพครับ
แบบว่า พี่ครับ คุณพ่อแต่ละท่านที่เจอผม กระเจิงมาหมดแล้วครับ จัดการกะโรคซึมเศร้าเรื้อรังของผมไม่ได้ โรครุนแรงขนาด อยากลาโลกนี้ได้ง่ายๆ ถ้าหากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้องครับ อันนี้ เอามาจากหมอครับHoly เขียน: โรคอะไรครับ ผมว่าบางทีมันอาจไม่ใช่โรคนะ ลองพึ่งพระสงฆ์ดีๆอาจจะช่วยได้ครับ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ผมว่าใจเย็น ๆ ก่อนดีมั๊ยครับ
แนะนำว่า พอเกิดอาการที่ว่าขึ้นมา ให้อยู่ตามลำพัง สนทนากับพระองค์อ่ะครับ สวดเยอะ ๆ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเองครับ
แนะนำว่า พอเกิดอาการที่ว่าขึ้นมา ให้อยู่ตามลำพัง สนทนากับพระองค์อ่ะครับ สวดเยอะ ๆ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเองครับ
พี่บิ๊ก เอชบอกพี่แล้วนะbigect07 เขียน:แบบว่า พี่ครับ คุณพ่อแต่ละท่านที่เจอผม กระเจิงมาหมดแล้วครับ จัดการกะโรคซึมเศร้าเรื้อรังของผมไม่ได้Holy เขียน:
ว่าไม่ใช่คุณพ่อหรอกที่ถอยออกจากพี่
พี่ต่างหาก ที่ดันท่านออกมา
ลองเปิดใจรับ
และปล่อย........วาง.........
ลองมองข้างนอกน้อยลง มองข้างในตัวเองมากขึ้น
สำหรับจิตแพทย์ เอชกลับคิดว่า คนพวกนี้หล่ะที่บ้าเอง
ทุกอาการเค้ามองว่าโรคจิตได้หมด (เท่าที่เคยสัมผัส)
เค้าไม่รับรู้ปัญหาที่แท้จริงของพี่
เพราะไม่ได้ประสบเอง
แล้วเค้าจะแนะนำได้ดีกว่าพี่แนะนำตนเองหรอ
สวดภาวนาเยอะ ๆ การสวดภาวนาทำให้ใจเย็น
สามารถนิ่ง เงียบ คิด
และรำพึงคนเดียวได้นาน ๆ
มันเป็นวิธีที่ทำให้เอชคิดทางออกได้บ่อย ๆ
กับเรื่องที่คิดมากของเอช
บางทีการนิ่งเงียบๆ คิดคนเดียวนานๆ
ว่าเรื่องที่เราคิดมากอยู่น่ะ
มันควรคิดมากจริงหรือ?
มันมีสาระพอหรือเปล่า?
มันจำเป็นกับเราแค่ไหน ?
อย่าเอาปัญหามาหนักตัวให้มากนะฮะ
จริงอยู่ที่ว่า ถ้าห้ามกันได้ ก็ไม่เรียกคิดมาก
แต่ถ้าเราลองปล่อย ลองวางมันบ้าง
มันอาจจะหายไปจากเราเองก็ได้
เอชว่าพึ่งพระดีกว่า
ลองคุณกับคุณพ่อดู
คุณพ่อช่วยได้ แม้จะไม่โดยตรง
แต่การเก็บคำของท่านไปคิดเอง มันก็ช่วยได้เยอะ
แก้ไขล่าสุดโดย Alphonse เมื่อ ศุกร์ ก.พ. 16, 2007 11:29 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
บางทีการมาเชื่อพระเจ้าทำให้คนเค้ามองเราแบบนั้นเหมือนกันนะ เพราะเค้าตีความว่ามันเป็นทางออกของคนที่ขาดที่พึ่งอย่างนึง คือมีแนวโน้มในการมาพึ่งศาสนา และบางทีตีความว่า เป็นการหลอน ยากที่เค้าจะเข้าใจเรื่อง กระแสเรียก เราก็ต้องเข้าใจเข้าเหมือนกันนะจ้ะ เพราะตำราว่าไว้แบบนั้นจริงๆ และเค้าไม่มีประสบการณ์แบบเรา ......... แต่เค้าลืมมองไปว่า ความเชื่อ ความรักและความศรัทธานี่แหละ ที่จะทำให้คนหายมามากต่อมากแล้ว การให้ยาเพื่อปรับสมดุลทางเคมีในสมองสามารถช่วยได้ แต่ความรักและศรัทธาต่างหากที่จะทำให้เราเปลี่ยนตัวเองและเรียนรู้ที่จะมีชีวิตปกติได้แบบยั่งยืน 
ถึงเราจะบอกว่าเราเป็นเรื้อรัง ไม่หายนะ แต่พี่เชื่อว่า น้องหายได้ เพราะสิ่งนึงที่มีในตัวคือ การยอมรับตัวเองและกล้าเปิดเผย มีงานวิจัยออกมาว่า คนที่ยอมรับตัวเองสามารถหายได้ง่ายกว่าคนที่ไม่ยอมรับ อันนี้คือข้อดีของเรานะคะ
โรคซึมเศร้าต้องใช้เวลา ค่อยๆเปลี่ยนทัศนคติตัวเอง ไม่รู้ว่ามีใครเคยแนะนำน้องให้จัดการกับอารมณ์รุนแรงของตัวเองรึเปล่า อันนี้น่าจะเป็นทางนึงที่ช่วยได้ ถ้าเราอ่อนโยนขึ้น และเผชิญโลกด้วยใจอ่อนโยนและสุภาพแบบพระเยซูเจ้า อารมณ์โมโห ฉุนเฉียวของเราจะค่อยๆลดลง อันนี้อาจจะลองปรึกษาคุณพ่อได้นะคะว่า ผมอยากมีใจสุภาพอ่อนโยนแบบพระเยซูเจ้า ขอคุณพ่อช่วยแนะนำด้วย
ที่าำคัญ สวดขอพระ ให้พระจิตเจ้าค่อยๆเปลี่ยนเรา และรักษาเรา
พี่รู้จัก counsellor ที่ รร ร่วมฤดีนะ พี่ไม่แน่ใจว่า เค้าพอจะช่วยอะไรได้มั้ย แต่จะลองติดต่อเค้าดูนะจ้ะ แล้วจะส่งข่าวจ้า

ถึงเราจะบอกว่าเราเป็นเรื้อรัง ไม่หายนะ แต่พี่เชื่อว่า น้องหายได้ เพราะสิ่งนึงที่มีในตัวคือ การยอมรับตัวเองและกล้าเปิดเผย มีงานวิจัยออกมาว่า คนที่ยอมรับตัวเองสามารถหายได้ง่ายกว่าคนที่ไม่ยอมรับ อันนี้คือข้อดีของเรานะคะ

โรคซึมเศร้าต้องใช้เวลา ค่อยๆเปลี่ยนทัศนคติตัวเอง ไม่รู้ว่ามีใครเคยแนะนำน้องให้จัดการกับอารมณ์รุนแรงของตัวเองรึเปล่า อันนี้น่าจะเป็นทางนึงที่ช่วยได้ ถ้าเราอ่อนโยนขึ้น และเผชิญโลกด้วยใจอ่อนโยนและสุภาพแบบพระเยซูเจ้า อารมณ์โมโห ฉุนเฉียวของเราจะค่อยๆลดลง อันนี้อาจจะลองปรึกษาคุณพ่อได้นะคะว่า ผมอยากมีใจสุภาพอ่อนโยนแบบพระเยซูเจ้า ขอคุณพ่อช่วยแนะนำด้วย

ที่าำคัญ สวดขอพระ ให้พระจิตเจ้าค่อยๆเปลี่ยนเรา และรักษาเรา

พี่รู้จัก counsellor ที่ รร ร่วมฤดีนะ พี่ไม่แน่ใจว่า เค้าพอจะช่วยอะไรได้มั้ย แต่จะลองติดต่อเค้าดูนะจ้ะ แล้วจะส่งข่าวจ้า


หนังสือภาษาอังกฤษดีๆ เกี่ยวกับการต่อสู้กับโรคซึมเศร้าด้วยวิถีคาทอลิกมีเยอะนะ อย่างเล่มนี้ก็น่าจะดี ถ้าไม่ถนัดก็อาจจะหาคนช่วยอ่านช่วยแปลให้ ถ้าสนใจก็บอกได้นะ เดี๋ยวซื้อส่งไปให้ ลองอ่านพวก customer reviews ข้างล่างนะ แล้วจะรู้ว่า มีคนต้อสู้กับโรคนี้อยู่มาก อย่างคนแรกนี่ก็ 20 ปี แน่ะ
http://www.amazon.com/Surviving-Depress ... 0819870773
My mother found this book and after 20 years of dealing with MY depression, she finally understands. This book was a miracle for me. It is great for the person suffering from depression because it gives a great "plan of action." However, it is SUPERB for those not depressed who are around the depressed person.
The author is sincere and insightful. You can't help, but like her. I also like the fact that she does not just say: Going To Catholic Mass is the only answer. She understands that depression is only treated through ATTEMPTS and FAILURES at "healing" the mind, body, and spirit.
และมีอีกอันนึง ที่พี่เคยได้ยินมา ศีลศักดิ์สิทธิ์ในพระศาสนจักรนี่ รักษาโรคซึมเศร้ามามากแล้ว โดยเฉพาะศีลมหาสนิทและศีลอภัยบาป น้องล้างบาปรึยังคะ

แก้ไขล่าสุดโดย Buddy เมื่อ ศุกร์ ก.พ. 16, 2007 10:40 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
อันนี้ผมก็อยากหาจิตแพทย์คาทอลิกหรือคริสเตียนก็ได้เหมือนกันครับ
ปกติผมเป้นโรคเครียด แต่แม่ผมดันพูดว่าผมเปลี่ยนศาสนา หมอฟันธงเลยว่าบ้า(อ้าว) ทั้งๆที่ผลตรวจบอกว่าปกติแต่คิดระเอียดไปนี๊ด(ไม่ใช่คิดมากนะ) ไม่เข้าใจทำไมหมอที่ไม่นับถือพระเจ้าถึงมองเราขนาดนี้ เนี่ยยาที่เค้าให้มายังกังขาเลยว่า ชั้นไม่ได้บ้าแล้วจะกินทำไม แค่เครียดธรรมดา
ปกติผมเป้นโรคเครียด แต่แม่ผมดันพูดว่าผมเปลี่ยนศาสนา หมอฟันธงเลยว่าบ้า(อ้าว) ทั้งๆที่ผลตรวจบอกว่าปกติแต่คิดระเอียดไปนี๊ด(ไม่ใช่คิดมากนะ) ไม่เข้าใจทำไมหมอที่ไม่นับถือพระเจ้าถึงมองเราขนาดนี้ เนี่ยยาที่เค้าให้มายังกังขาเลยว่า ชั้นไม่ได้บ้าแล้วจะกินทำไม แค่เครียดธรรมดา
นั่นดิ พี่เลยไม่อยากคุยกะหมอต่างศาสนา เพราะเหตุฉะนี้Mobster เขียน: อันนี้ผมก็อยากหาจิตแพทย์คาทอลิกหรือคริสเตียนก็ได้เหมือนกันครับ
ปกติผมเป้นโรคเครียด แต่แม่ผมดันพูดว่าผมเปลี่ยนศาสนา หมอฟันธงเลยว่าบ้า(อ้าว) ทั้งๆที่ผลตรวจบอกว่าปกติแต่คิดระเอียดไปนี๊ด(ไม่ใช่คิดมากนะ) ไม่เข้าใจทำไมหมอที่ไม่นับถือพระเจ้าถึงมองเราขนาดนี้ เนี่ยยาที่เค้าให้มายังกังขาเลยว่า ชั้นไม่ได้บ้าแล้วจะกินทำไม แค่เครียดธรรมดา
ส่วนที่พี่ Buddy ถามว่าผมล้างบาปยัง ตอบเลยครับว่า ยัง แล้วก็ เรียนคำสอนจะจบแล้ว แต่ยังไม่ได้ล้างตอนปัสกานี้ แบบว่า เพิ่งย้ายวัดมา มาเรียนต่อที่ฟาติมาครับ แต่ว่า มีลายเซ็นต์ จากพ่อเจ้าวัดที่รังสิต ยืนยันมา ว่าเรียนจริง แล้วเรียนถึงไหนแล้วครับ ส่วนเหตุผล ที่คุณพ่อยังไม่ให้ล้างบาป เพราะว่า คุณพ่อขอดูไปก่อนครับ ถ้าโอเคอแล้ว จะล้างให้
แก้ไขล่าสุดโดย Big_TC29 เมื่อ ศุกร์ ก.พ. 16, 2007 11:19 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
พี่ counsellor เค้าตอบมาแล้วนะ เค้าบอกเค้ารู้จักจิตแพทย์คาทอลิกที่เชี่ยวชาญโรคศึมเศร้า เดี๋ยวเค้าไปหาเบอร์ให้ แต่ตอนนี้เค้าไม่อยู่นะ กลับมาอีกทีวันอังคาร แล้วจะติดต่อพี่มาอีกที .... พี่เค้าถามว่า รอได้มั้ย ถ้าไม่ได้ให้ลองโทรติดต่อ รพ เซ็นต์หลุย์หรือคามิลเลี่ยนดูก่อน
ส่วนหนังสือเล่มประมาณ 400-500 บาทจ้ะ
แต่ดูจากรูปการณ์แล้ว พี่ว่า ลองพบจิตแพทย์ก่อนละกันนะจ้ะ เพราะเรายังมี agitation และอารมณ์รุนแรงค่อนข้างเยอะ ซึ่งอาจต้องใช้ยาช่วย ออกกำลังกายก็ช่วยนะ ถ้าเล่นกีฬาเป็นกลุ่มได้จะดี แต่ถ้าเล่นแล้วเราไปทะเลาะกับเค้า ก็อย่าเพิ่งนะ ออกมาก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวเราท้ออีก หากีฬาที่เล่นคนเดียว เพื่อให้สารเคมีในสมองเราสมดุล พอเราอารมณ์ดีเมื่อไหร่ step ต่อไปค่อยไปเล่นกับเพื่อน ...... ต้องเอา agitation และอารมณ์รุนแรง ตรงนี้ให้ลงก่อน และอีกอย่าง เรายังเรียนคำสอนอยู่ เดี๋ยวจะสับสนนะ (คือมันจะเยอะไปน่ะค่ะ)
ส่วนหนังสือเล่มประมาณ 400-500 บาทจ้ะ
แต่ดูจากรูปการณ์แล้ว พี่ว่า ลองพบจิตแพทย์ก่อนละกันนะจ้ะ เพราะเรายังมี agitation และอารมณ์รุนแรงค่อนข้างเยอะ ซึ่งอาจต้องใช้ยาช่วย ออกกำลังกายก็ช่วยนะ ถ้าเล่นกีฬาเป็นกลุ่มได้จะดี แต่ถ้าเล่นแล้วเราไปทะเลาะกับเค้า ก็อย่าเพิ่งนะ ออกมาก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวเราท้ออีก หากีฬาที่เล่นคนเดียว เพื่อให้สารเคมีในสมองเราสมดุล พอเราอารมณ์ดีเมื่อไหร่ step ต่อไปค่อยไปเล่นกับเพื่อน ...... ต้องเอา agitation และอารมณ์รุนแรง ตรงนี้ให้ลงก่อน และอีกอย่าง เรายังเรียนคำสอนอยู่ เดี๋ยวจะสับสนนะ (คือมันจะเยอะไปน่ะค่ะ)

-
- .
- โพสต์: 944
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 18, 2005 11:16 pm
เก๋ขอแนะนำให้ บิ๊ก มีแฟนนะได้หายยเหงา
ล้อเล่นน นะคะ อิอิ
แต่ ความซึมเศร้าเนี่ยย
เป็นอาการของเราเอง
ที่เกิดขึ้นเพราะ เรา ปล่อยใจให้คิดว่ามันเศร้า
ถ้าเราคุยกับจิตแพทย์เค้าก้อจะแค่มาพูดจูงใจเรา
หาวิธีให้เราผ่อนคลาย
แต่ถ้าเราเองยังคิดไม่ได้
ยังไม่เปิดใจรับเรื่องราวความเป็นไปที่เราต้องเจอ
และ ธรรมชาติของโลก
เราก็จะซึมเศร้าอยู่เสมอ
เราซึมเศร้าได้นะ
แต่อย่าให้เกน สาม วันเพราะมันจะทำลายสุขภาพจิต
ทางออกที่ดีที่สุดคือ
อยู่เงียบๆแล้วภาวนา อย่างตั้งใจ
ขอแม่พระ ขอ พระเป็นเจ้า ให้ เพิ่มความเข้มแข็งให้แก่เรา
ให้เรา หาทางออกได้ดีที่สุด ให้ใจเราสงบสว่างไสว
สวดขอพระเยอะๆ
แล้วจะได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง

บิ๊ก สู้ๆนะจ๊ะ

ปล. มีอะไร ยังไงก้อ ออนเอ็มมาเด๋วจะ พาให้ฮาเองง คริๆ


แต่ ความซึมเศร้าเนี่ยย
เป็นอาการของเราเอง
ที่เกิดขึ้นเพราะ เรา ปล่อยใจให้คิดว่ามันเศร้า
ถ้าเราคุยกับจิตแพทย์เค้าก้อจะแค่มาพูดจูงใจเรา
หาวิธีให้เราผ่อนคลาย
แต่ถ้าเราเองยังคิดไม่ได้
ยังไม่เปิดใจรับเรื่องราวความเป็นไปที่เราต้องเจอ
และ ธรรมชาติของโลก
เราก็จะซึมเศร้าอยู่เสมอ
เราซึมเศร้าได้นะ
แต่อย่าให้เกน สาม วันเพราะมันจะทำลายสุขภาพจิต
ทางออกที่ดีที่สุดคือ
อยู่เงียบๆแล้วภาวนา อย่างตั้งใจ
ขอแม่พระ ขอ พระเป็นเจ้า ให้ เพิ่มความเข้มแข็งให้แก่เรา
ให้เรา หาทางออกได้ดีที่สุด ให้ใจเราสงบสว่างไสว
สวดขอพระเยอะๆ
แล้วจะได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง

บิ๊ก สู้ๆนะจ๊ะ

ปล. มีอะไร ยังไงก้อ ออนเอ็มมาเด๋วจะ พาให้ฮาเองง คริๆ

แบบว่านะเก๋ แฟนน่ะ ไม่รู้จะหาได้มั้ย เพราะว่า เจ้าหญิง ที่ด้พบเจอพูดจาที่วัด ทุกวันอาทิตย์ก็ดีแค่ไหนแล้ว คงได้แค่นั้น คงไม่มีโอกาสก้าวกน้ามากกว่านี้ เพราะว่า เค้าน่ะ เจ้าหญิง อยู่สูง เราน่ะ คนเดินดินธรรมดา ไม่มีอะไรเลย ใครเค้าอยากจะมองหละ เราน่ะอยู่ใต้ดินเลย เจ้าหญิง เค้าอยู่ บนฟ้า คว้ายังไงคงไม่ถึง เราก็เป็นผู้ชายในฝันเค้าคงไม่ได้ซะด้วย ให้ได้แค่ใจกับเค้าเสมอ คงไม่พอ ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ




-
- .
- โพสต์: 944
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 18, 2005 11:16 pm
bigect07 เขียน: แบบว่านะเก๋ แฟนน่ะ ไม่รู้จะหาได้มั้ย เพราะว่า เจ้าหญิง ที่ด้พบเจอพูดจาที่วัด ทุกวันอาทิตย์ก็ดีแค่ไหนแล้ว คงได้แค่นั้น คงไม่มีโอกาสก้าวกน้ามากกว่านี้ เพราะว่า เค้าน่ะ เจ้าหญิง อยู่สูง เราน่ะ คนเดินดินธรรมดา ไม่มีอะไรเลย ใครเค้าอยากจะมองหละ เราน่ะอยู่ใต้ดินเลย เจ้าหญิง เค้าอยู่ บนฟ้า คว้ายังไงคงไม่ถึง เราก็เป็นผู้ชายในฝันเค้าคงไม่ได้ซะด้วย ให้ได้แค่ใจกับเค้าเสมอ คงไม่พอ ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ![]()
![]()
![]()
บิ๊ก ผู้ ญ กับ ผู้ ชายเนี่ยย หนึ่ง ต่อ สี่ เลยนะ ท่าน
ไม่เห็นได้หายากเลย ผู้ ญ ที่จะเป็นเจ้า ญ ของ บิ๊ก ที่เหมาะสมกัน
มากกว่าคนที่ ทำให้เรา ทรมานใจน่ะ
(( ผู้ ชาย หายากกว่าอีก


คือ จะบอกว่า ดีแค่ไหนแล้วที่บิ๊กบอกเรา
เก๋ก็คิดว่า..
ดีแค่ไหนแล้ว.... ที่ อย่างน้อยในหนึ่งอาทิตย์เราก็มีโอกาศได้พบเจอคนที่เราแอบชอบ
ดีแค่ไหนแล้ว.... ที่เรายังมีโอกาศได้ รู้สึกถึงความรักและความรู้สึกดีๆที่เรามีต่อเค้า
ดีแค่ไหนแล้ว.... ที่ ความ รัก ยังเกิดขึ้นกับเรา
ดีกว่า คน ที่ ไม่รู้จักรัก
ดีกว่าคนที่จิตใจแข็งกระด้าง
ดีกว่าคนที่มองไม่เห็น ความ งามในจิตใจของผู้อื่น
ที่บิ๊ก ยกย่อง ให้ เค้าเป็นเจ้าญ
เก๋เข้าใจนะ
เพราะบิ๊กอยากให้เค้าเป็นเจ้าญที่สวยงามแบบนั้น
เป็น คนน่ารัก อ่อนหวาน ยิ้มแย้มแจ่มใส จิตใจดี
ที่บิ๊กคิดว่าบิ๊กคงไม่มีโอกาศได้เจ้าญ องค์นั้นมาครอบครองเป็นแน่
แต่ความจริงแล้ว บิ๊กก็ได้ พูด คุยกับเจ้าญของบิ๊ก
ได้ แลกเปลี่ยนความคิดกัน
ได้เห็นรอยยิ้มของเค้าใกล้ๆ
ดี แค่ ไหน .. ที่ เรา ยังได้ยืนอยู่บนพื้นดินแผ่นเดียวกัน
อยู่ใต้ท้องฟ้าเดียวกัน
ได้สัมผัสสายลมแห่งความชื่นใจไปพร้อมกัน
ดีแค่ไหน ..ที่ความรักเกิดขึ้นกับบิ๊ก
มันเป็นสิ่งที่มีค่านะ ที่บิ๊กรู้สึกกับเค้า
แต่ความรัก ก็คือรัก เรารักเค้าได้ และ เราก็ เก็บความรักไว้กับตัวเราได้
เพราะ ความรัก ไม่ใช่การ จำเป็นที่จะต้องครอบครอง เป็นเจ้าของ เค้า
แต่ ความรัก คือ บิ๊ก ได้เห็น เจ้าญ ของบิ๊ก มีความสุข
แม้ ว่าในความสุขนั้นจะไม่มีบิ๊กเป็นส่วนหนึ่งเลยก็ตาม
แต่บิ๊กก็สุขใจที่ได้อยู่ใกล้เค้า
สุขใจที่ได้เห็นรอยยิ้มของเค้า
เหมือน ที่ พระเป็นเจ้าจะสุขใจอย่างมาก หากว่าบิ๊กมีรอยยิ้มที่สดใสนะ
...
พระคงไม่อยากเห็นลูกบิ๊ก ต้อง ขุ่นข้องหมองใจเป็นแน่
พระไม่อยากเห็นบิ๊ก จมอยู่กับ ความเศร้าใจอยู่เรื่อยไป
เพราะ พระเป็นเจ้า ได้จัดเตรียมสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกของพระองค์ไว้แล้ว
เพื่อลูกที่รักที่สุดของพระองค์
แล้ว จะ มี ความรัก อื่น ใด
มายิ่งใหญ่ กว่าความรักของพระเป็นเจ้าอีกเล่า....
....
เชื่อ ใน การสวดภาวนานะบิ๊ก
เก๋ เคยสวดให้คนคนนึงสวดอย่างมากมาย
ในเมื่อเราไม่สามารถอยู่ในใจเค้าได้
แต่ เราสวดให้เค้าได้ สวดให้คนที่เรารักทุกคน
ให้เค้ามีความสุข ให้เค้าสบายใจ ให้พระคุ้มครองเค้า
แล้ว เราก็จะมีความสุขสงบทางใจ จริงๆนะ
เราจะไม่ฟุ้งซ่านอีกต่อไป เราจะควบคุมความรู้สึกของเราได้
เราท้อแท้ใจ แต่เมื่อเราสวดภาวนา ขอพรพระ ขอให้พระอยู่ข้างกายเรา
ไม่นาน ทุกอย่างก็จะเป็นปกติ ทุกอย่างก็จะสว่างไสว
ตาเราก็จะเปิดออก และ เห็น แสงสว่างของโลกใหม่
ที่ไม่มีความมืดมิดอีกต่อไป
. . . .
"อย่ากลัวในความมืดมิด
เพราะหากว่าเธอเห็นเงา
นั่นแปลว่ามีแสงสว่างจากที่ใดที่หนึ่ง"

May God Bless you

สู้ๆนะจ๊ะ บิ๊ก

แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ เสาร์ ก.พ. 17, 2007 2:20 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
พี่ไม่แน่ใจที่แนะนำไปเท่าไหร่ เหมือนกันโรคซึมเศร้าเมืองไทยมันไม่เหมือนเมืองนอกยังไงไม่รู้ ถ้าเคยไปจีบสาว มีความรักนี่ อาการจะไม่เหมือนที่เคยรู้มาเลยนะ เพราะส่วนมาก จะมีปัญหาเรื่องความสัมพันธ์ คือไม่อยากสัมพันธ์กับคนอื่นด้วยซ้ำ บางที อาจต้องให้หมอเก่งๆลองวินิจฉัยใหม่นะคะว่า เราได้เป็นจริงรึเปล่า จะได้แก้ปัญหาได้ถูกจุด หรือหาเพื่อนอย่างน้องเก๋เยอะๆก็น่าจะหายนะ ::001::
และก็ไม่ค่อยแน่ใจว่า ซึมเศร้ากับ depression มันอันเดียวกันมั้ย คือมันไม่ใช่เหงาใช่มั้ยคะ รึว่า แค่เหงา (พี่ค่อนข้างงงๆนะจ้ะ) คือที่นี่ไม่ได้มองว่า depression เป็นบ้านะ แต่มองว่า เป็นความผิดปกติของระดับสารนำประสาทในสมอง เป็นโรคอย่างนึงเหมือนหัวใจ ความดัน เบาหวานน่ะค่ะ ที่ใครก็เป็นได้ บางรายไม่ได้เกิดจากเครียด แต่เกิดจากเนื้องอกในสมองก็มี แต่เมืองไทยกลับมองว่า เป็นบ้าซะนี่ ::010::
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ละกันนะจ้ะ ถ้าจะเอาเบอร์คุณหมอก็รอนิดนึงนะคะ ::001::
และก็ไม่ค่อยแน่ใจว่า ซึมเศร้ากับ depression มันอันเดียวกันมั้ย คือมันไม่ใช่เหงาใช่มั้ยคะ รึว่า แค่เหงา (พี่ค่อนข้างงงๆนะจ้ะ) คือที่นี่ไม่ได้มองว่า depression เป็นบ้านะ แต่มองว่า เป็นความผิดปกติของระดับสารนำประสาทในสมอง เป็นโรคอย่างนึงเหมือนหัวใจ ความดัน เบาหวานน่ะค่ะ ที่ใครก็เป็นได้ บางรายไม่ได้เกิดจากเครียด แต่เกิดจากเนื้องอกในสมองก็มี แต่เมืองไทยกลับมองว่า เป็นบ้าซะนี่ ::010::
ยังไงก็เป็นกำลังใจให้ละกันนะจ้ะ ถ้าจะเอาเบอร์คุณหมอก็รอนิดนึงนะคะ ::001::
แก้ไขล่าสุดโดย Buddy เมื่อ เสาร์ ก.พ. 17, 2007 5:54 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- .
- โพสต์: 944
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 18, 2005 11:16 pm
อิอิ พี่ Buddy ขา พูดตรงแบบนี้หนูก็เขิลแย่จิคร๊า
>__<
ขอบคุณพี่บัดดี้ที่น่ารักนะคะ : emo045 :
แต่หนูเกรงว่าแทนที่บิ๊กจะ สบายดีขึ้น มีเพื่อน แบบ เก๋ เยอะๆ
พอดี ปวดหัวกะเพื่อนติงต๊อง อาการหนักกว่าเดิม

แต่ ขอบคุณนะคะพี่
แล้วก็
สู้ๆ อีกทีนะจ๊ะ บิ๊ก
^______^



ขอบคุณพี่บัดดี้ที่น่ารักนะคะ : emo045 :
แต่หนูเกรงว่าแทนที่บิ๊กจะ สบายดีขึ้น มีเพื่อน แบบ เก๋ เยอะๆ
พอดี ปวดหัวกะเพื่อนติงต๊อง อาการหนักกว่าเดิม


แต่ ขอบคุณนะคะพี่
แล้วก็
สู้ๆ อีกทีนะจ๊ะ บิ๊ก
^______^
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ เสาร์ ก.พ. 17, 2007 10:06 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
มีหมอคริสเตียน อยู่ 2 คน คือ ศ.ดร.พญ.อุมามร ตรังคสมบัติ ท่านเป็นจิตแพทย์ที่ โรงพยาบาล จุฬาฯ
อีกคน อยู่ที่ ร.พ.ศรีธัญญา คือแพทย์ หญิงสมลักษณ์
ถ้ารู้ตัวว่าเป็นโรคซึมเศร้า ต้องรักษา เพราะอาการเหล่านี้นับวันจะยิ่งมากขึ้น จิตแพทย์ให้คำแนะนำ และให้ยาด้วย
ลองอ่านเว็บนี้ ฮะ มีงานเขียนตรงของหมอสมลักษณ์
http://www.srithanya.go.th/E-service/De ... nic1-1.htm
อีกคน อยู่ที่ ร.พ.ศรีธัญญา คือแพทย์ หญิงสมลักษณ์
ถ้ารู้ตัวว่าเป็นโรคซึมเศร้า ต้องรักษา เพราะอาการเหล่านี้นับวันจะยิ่งมากขึ้น จิตแพทย์ให้คำแนะนำ และให้ยาด้วย
ลองอ่านเว็บนี้ ฮะ มีงานเขียนตรงของหมอสมลักษณ์

http://www.srithanya.go.th/E-service/De ... nic1-1.htm
แก้ไขล่าสุดโดย Jeab Agape เมื่อ เสาร์ ก.พ. 17, 2007 7:35 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
จิตแพทย์คริสเตียนเหล่านี้มีมุมมองต่อเรื่องพระเจ้าอย่างไรครับ เพราะฟอรย์ดบอกว่าความเชื่อทางศาสนาเป็นเพียงสภาวะจิตอย่างหนึ่ง หรือพูดง่ายๆคือตาคนนี้สอนว่าพระเจ้าไม่มีจริงจิตมนุษย์ปรุงแต่งเอง หรืออย่างเรื่องการเห็นนิมิต การอัศจรรย์ การได้ยินเสียงภายใน พวกจิตแพทย์จะสอนว่าเป็นโรคจิตหมด ท่านอยู่ในวิชาชีพที่สอนอะไรแบบนี้มีจุดยืนอย่างไรครับJeab Agape เขียน:
มีหมอคริสเตียน อยู่ 2 คน คือ ศจ.ดร.อุมามร ตรังคสมบัติ ท่านเป็นจิตแพทย์ที่ โรงพยาบาล จุฬาฯ
อีกคน อยู่ที่ ร.พ.ศรีธัญญา คือแพทย์ หญิงสมลักษณ์
ถ้ารู้ตัวว่าเป็นโรคซึมเศร้า ต้องรักษา เพราะอาการเหล่านี้นับวันจะยิ่งมากขึ้น จิตแพทย์ให้คำแนะนำ และให้ยาด้วย![]()
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ตื้นตันน้องสาวช้าน 

-
- .
- โพสต์: 944
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 18, 2005 11:16 pm
Batholomew เขียน: ตื้นตันน้องสาวช้าน![]()
โอ๋ๆๆ แต่ช้าแต่ค่ะพี่ชายยอย่าร้องน๊าคร๊ะ

หมอคริสเตียนไม่เอา จะคุยกะหมอคริสตังเท่านั้น คริสเตียนคุยกันไม่รู้เรื่องJeab Agape เขียน: มีหมอคริสเตียน อยู่ 2 คน คือ ศ.ดร.พญ.อุมามร ตรังคสมบัติ ท่านเป็นจิตแพทย์ที่ โรงพยาบาล จุฬาฯ
อีกคน อยู่ที่ ร.พ.ศรีธัญญา คือแพทย์ หญิงสมลักษณ์
ถ้ารู้ตัวว่าเป็นโรคซึมเศร้า ต้องรักษา เพราะอาการเหล่านี้นับวันจะยิ่งมากขึ้น จิตแพทย์ให้คำแนะนำ และให้ยาด้วย
ลองอ่านเว็บนี้ ฮะ มีงานเขียนตรงของหมอสมลักษณ์
http://www.srithanya.go.th/E-service/De ... nic1-1.htm
Jeab Agape เขียน: มีหมอคริสเตียน อยู่ 2 คน คือ ศ.ดร.พญ.อุมามร ตรังคสมบัติ ท่านเป็นจิตแพทย์ที่ โรงพยาบาล จุฬาฯ
อีกคน อยู่ที่ ร.พ.ศรีธัญญา คือแพทย์ หญิงสมลักษณ์
ถ้ารู้ตัวว่าเป็นโรคซึมเศร้า ต้องรักษา เพราะอาการเหล่านี้นับวันจะยิ่งมากขึ้น จิตแพทย์ให้คำแนะนำ และให้ยาด้วย
ลองอ่านเว็บนี้ ฮะ มีงานเขียนตรงของหมอสมลักษณ์
http://www.srithanya.go.th/E-service/De ... nic1-1.htm
หมอ อุมาพรไม่ใช่เหรอ จำได้ว่า เคยไปนาซ่าด้วย

ปล. ท่านเชื่อพระเจ้า ตั้งแต่เมื่อไหร่

-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ก็เห็นไม่มีใครแนะนำหมอคริสตังเสียที เลยแนะนำหมอ คริสเตียนให้ ส่วนไอ้ที่ว่าคุยกันไม่รู้เรื่องน่ะ เจี๊ยบว่า อาการคุณน่าเป็นห่วงนะbigect07 เขียน:
หมอคริสเตียนไม่เอา จะคุยกะหมอคริสตังเท่านั้น คริสเตียนคุยกันไม่รู้เรื่อง
เพราะคุณหมอทั้งสองท่าน ก็ได้รับการยอมรับ อย่างกว้างขวาง ของคนหลายกลุ่ม ทั้งพุทธ คริสต์ อิสลาม และไม่มีศาสนา
ดูจาก ศ. ดร.พญ.อุมาพร คนที่มีศ.ศาสตราจารย์ นี่มีงานวิเคราะห์ วิจัย ที่เขียนออกมาเสนอ มากมาย :cheesy:
แต่เมื่อไม่เอา ก็จะไม่ยุ่งอีกแล้ว ขออภัยคร้าบ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
เจ๊ยศ ท่านได้ไปนาซ่า หรือเปล่าไม่ทราบ เชื่อพระเจ้ามา 30 ปีแล้วมั้งยศิโยน:ผู้เห็นแด่พระเจ้า เขียน:
หมอ อุมาพรไม่ใช่เหรอ จำได้ว่า เคยไปนาซ่าด้วย
ปล. ท่านเชื่อพระเจ้า ตั้งแต่เมื่อไหร่![]()
มีหนังสือใหม่เล่มหนึ่งที่ หมอเขียน เพื่อเป็นพยานเรื่องคำตอบเกี่ยวกับพระเจ้า ที่ท่านเชื่อ เป็นการตอบข้อสงสัย ของตัวเอง และคนอื่นๆ
ท่านเขียนเพื่อหารายได้ให้ นกท. หมอ อุมาร เป็นสมาชิก คริสตจักรสืบนะเจ๊ยศ
บทข้าเเต่พระบิดา
อาเวมารีอา
บทยืนยันความเชื่อ
ฯลฯ
เค้าว่ากันว่า บทสวดภาวนา ทำให้สมองเราโล่ง สบาย ปลอดโปร่ง ความดันโลหิตลด ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น
ดังนั้น ลองไว้ก็ไม่เสียหลายนะคะ
ดังนั้น ถ้าเกิดบังเอิญ เครียด ขึ้นมา สวดสายประคำก็ได้นะคะ
ป.ล. พี่บิ๊กสู้ๆนะค๊า
เปงกำลังจายให้ หุหุหุ
อาเวมารีอา
บทยืนยันความเชื่อ
ฯลฯ
เค้าว่ากันว่า บทสวดภาวนา ทำให้สมองเราโล่ง สบาย ปลอดโปร่ง ความดันโลหิตลด ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น
ดังนั้น ลองไว้ก็ไม่เสียหลายนะคะ
ดังนั้น ถ้าเกิดบังเอิญ เครียด ขึ้นมา สวดสายประคำก็ได้นะคะ
ป.ล. พี่บิ๊กสู้ๆนะค๊า
เปงกำลังจายให้ หุหุหุ
ถ้าเป็นอย่างที่พี่ Holy ห่วง ก็รอเบอร์คุณหมอคนนี้หน่อยละกัน และพี่จะลองถามพี่ counsellor ดูว่า เค้ารับปรึกษาได้มั้ย เพราะเค้าเองเป็น charismatic เค้าค่อนข้างเข้าใจปรากฎการณ์พวกนี้ ยังไงน้องบิ๊กก็ลองบอกมาละกันนะคะว่า จะยังไง ต้องการแค่ผู้เชียวชาญ หรือต้องการคนที่เข้าใจปรากฎการณ์ทางจิตด้วย

ก็เจ๊แนะนำอยู่นี่ไงJeab Agape เขียน:ก็เห็นไม่มีใครแนะนำหมอคริสตังเสียที เลยแนะนำหมอ คริสเตียนให้ ส่วนไอ้ที่ว่าคุยกันไม่รู้เรื่องน่ะ เจี๊ยบว่า อาการคุณน่าเป็นห่วงนะbigect07 เขียน:
หมอคริสเตียนไม่เอา จะคุยกะหมอคริสตังเท่านั้น คริสเตียนคุยกันไม่รู้เรื่อง
เพราะคุณหมอทั้งสองท่าน ก็ได้รับการยอมรับ อย่างกว้างขวาง ของคนหลายกลุ่ม ทั้งพุทธ คริสต์ อิสลาม และไม่มีศาสนา
ดูจาก ศ. ดร.พญ.อุมาพร คนที่มีศ.ศาสตราจารย์ นี่มีงานวิเคราะห์ วิจัย ที่เขียนออกมาเสนอ มากมาย :cheesy:
แต่เมื่อไม่เอา ก็จะไม่ยุ่งอีกแล้ว ขออภัยคร้าบ![]()

พี่บิ๊กลองเปิดใจดูนะฮะBuddy เขียน: ถ้าเป็นอย่างที่พี่ Holy ห่วง ก็รอเบอร์คุณหมอคนนี้หน่อยละกัน และพี่จะลองถามพี่ counsellor ดูว่า เค้ารับปรึกษาได้มั้ย เพราะเค้าเองเป็น charismatic เค้าค่อนข้างเข้าใจปรากฎการณ์พวกนี้ ยังไงน้องบิ๊กก็ลองบอกมาละกันนะคะว่า จะยังไง ต้องการแค่ผู้เชียวชาญ หรือต้องการคนที่เข้าใจปรากฎการณ์ทางจิตด้วย
ก็เจ๊แนะนำอยู่นี่ไงJeab Agape เขียน:ก็เห็นไม่มีใครแนะนำหมอคริสตังเสียที เลยแนะนำหมอ คริสเตียนให้ ส่วนไอ้ที่ว่าคุยกันไม่รู้เรื่องน่ะ เจี๊ยบว่า อาการคุณน่าเป็นห่วงนะbigect07 เขียน:
หมอคริสเตียนไม่เอา จะคุยกะหมอคริสตังเท่านั้น คริสเตียนคุยกันไม่รู้เรื่อง
เพราะคุณหมอทั้งสองท่าน ก็ได้รับการยอมรับ อย่างกว้างขวาง ของคนหลายกลุ่ม ทั้งพุทธ คริสต์ อิสลาม และไม่มีศาสนา
ดูจาก ศ. ดร.พญ.อุมาพร คนที่มีศ.ศาสตราจารย์ นี่มีงานวิเคราะห์ วิจัย ที่เขียนออกมาเสนอ มากมาย :cheesy:
แต่เมื่อไม่เอา ก็จะไม่ยุ่งอีกแล้ว ขออภัยคร้าบ![]()
ทุกอย่างจะไม่สำเร็จ
ถ้าไม่เปิดใจรับ
ลองเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ หรือมองอะไรกว้างๆ แบบลดอคติดู
อาจจะพบสิ่งดีๆ เหมือนกับที่พี่เปิดใจรับพระเยซูก็ได้
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
วันนี้ไปเจอประกาศที่วัดอ่ะครับ
ศูนย์บรรเทาใจ ให้บริการปรึกษาทางโทรศัพท์
สมาคมคาทอลิกแห่งประเทศไทย
ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 13.00-21.00 น.
โทร. 02-6755533, 02-6755577
ลองโทรไปนะครับ
ศูนย์บรรเทาใจ ให้บริการปรึกษาทางโทรศัพท์
สมาคมคาทอลิกแห่งประเทศไทย
ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 13.00-21.00 น.
โทร. 02-6755533, 02-6755577
ลองโทรไปนะครับ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ไม่เคยฟังเองชัดๆ แต่ทั้งสองหมอ คงไม่ยึดหลักทางทฤษฏีของการเรียนทั่วๆไปแน่ๆ เพราะในแวดวงคริสเตียน ท่านทั้งสองเป็นจิตแพทย์ ที่ให้การอบรมHoly เขียน:
จิตแพทย์คริสเตียนเหล่านี้มีมุมมองต่อเรื่องพระเจ้าอย่างไรครับ เพราะฟอรย์ดบอกว่าความเชื่อทางศาสนาเป็นเพียงสภาวะจิตอย่างหนึ่ง หรือพูดง่ายๆคือตาคนนี้สอนว่าพระเจ้าไม่มีจริงจิตมนุษย์ปรุงแต่งเอง หรืออย่างเรื่องการเห็นนิมิต การอัศจรรย์ การได้ยินเสียงภายใน พวกจิตแพทย์จะสอนว่าเป็นโรคจิตหมด ท่านอยู่ในวิชาชีพที่สอนอะไรแบบนี้มีจุดยืนอย่างไรครับ
คริสเตียน โดยเฉพาะระดับผู้นำ เพื่อนำทั้งทางโลก และทางธรรม (เรื่องพระเจ้า)ไปใช้ด้วยกัน
คริสเตียนแล้วปกติ จะค่อนข้างระวัง เรื่องจิตแพทย์ ในกลุ่มของคาริสเมติก มักจะเน้น เรื่องวิญญาณชั่วอย่างเดียว เลยขับเท่าไหร่ก็ผีไม่ออก
แต่บางกลุ่ม เช่นในเครือสภาคริสตจักร ใช้ทั้ง 2 แบบผสมผสานกัน ซึ่งคงคล้ายๆ งานอภิบาล ที่คุณพ่อ ของคาทอลิกใช้ มั้ง