เมื่อผมโดนมารผจญ ในร้านของผมเอง
วันนี้มีเรื่องที่ อืม พูดได้เต็มปากว่าโดนมารผจญ
มันเกิดขึ้นกับตัวผมเอง กลางร้านพระที่มาบุญครอง
อ่านแล้วช่วยกันวิงวอนด้วยนะครับ
วันนี้ช่วงสัก 4-5 โมงเย็น ผมก็นั่งเฝ้าร้านตามปกติของผม
ก็มีชาวต่างชาติ ผิวขาว 2 คน เป็นผู้ชาย วัยรุ่น เป็นฝาแฝดกัน รูปร่างอวบๆ ล่ำๆ
อายุประมาณ 18-20 ปี น่าจะเป็นชาวยุโรป ราวๆนั้น
เค้าก็มายืนหยุดอยู่หน้าร้าน ผมก็สังเกตุเห็นเค้ายืนคุยกัน แล้วมีชี้ๆมาที่รูปแม่พระที่เป็นป้ายหน้าร้าน แล้วก็หัวเราะกัน 2 คน
สักพัก เค้าก็เดินมาถามผม ว่ามีหนังสือเกี่ยวกับพระเจ้าไหม แต่ผมได้ยินไม่ชัด เค้าจึงพูดใหม่
แต่ผมได้ยินว่า Do you have a book about card? (จริงๆเค้าถามว่า ....about god? )
เพราะผมดูแลร้านการ์ดเกมด้วย ก็เลยฟังเป็นอย่างนั้น เลยบอกไปว่าไม่มี (เพราะมีแต่ภาษาไทย ไม่มีภาษาอังกฤษ)
เค้าก็ยืนหน้างงๆ แล้วก็ชี้ไปที่ตู้หนังสือ ที่หนังสือเล่มเล็กๆ ของวาสุลา แล้วก็ถามว่านี่ใช่มั้ย
ผมก็หยิบๆให้เค้าดู เค้า2คนก็เปิดๆ แล้วก็ yes yes แล้วก็ถามราคา ผมตอบไป 50 baht
เค้าก็จ่ายตัง แล้วก็ถามผมว่า ok ? ผมก็ yes thank you
แล้วมัน 2 คนก็ทำในสิ่งที่ผมคิดว่ามีแต่ในละครทีวี กับหนังภาพยนตร์
1ในมัน2คน ฉีกหนังสือเล่มนั้นเป็นชิ้นๆ ด้วยสีหน้าสะใจต่อหน้าผม
ฉีกๆๆๆๆๆ แล้วก็ขยำๆ ปากก็พร่ำว่า I hate Mary. I hate Jesus. I like Buddha.
แล้วก็หันมายิ้มให้ผม แล้วก็ฉีกๆๆๆๆต่อ แล้วก็พูดกับผมว่า Are you ok ? I Hate Jesus. I'm Buddhish.
เด็กๆที่นั่งเล่นอยู่ในร้านผมก็หันมามองกันอย่างงงๆ ผมก็บอกเด็กๆไปว่า ไม่มีอะไรน้อง คนมันบ้า ช่างมัน
ระหว่างนั้นผมก็ทำหน้าเฉยๆ พยายามไม่พูด ไม่โต้ตอบอะไร เพราะรู้อยู่แล้วว่ามันมาหาเรื่อง
แล้วมันก็ถามว่า ฝากทิ้งได้ไหม ผมก็รับหนังสือเป็นชิ้นๆมา แล้วมัน2คนก็หยิบเหรียญ 10 บาทขึ้นมา
วางบนตู้บอกว่า For You แล้วมันก็เดินหัวเราะไป
เท่านั้นแหละครับ ผมอารมณ์ขาดผึงทันที ไม่ได้ขาดที่มันทำอุบาทว์ต่อหน้า แต่โมโหที่มันดูถูก
ผมไม่ได้โกรธที่มันดูหมิ่นพระเจ้า ดูหมิ่นแม่พระ เพราะท่านคงอยากให้ผมอภัยให้เค้ามากกว่า
แต่ผมโมโหที่มันคิดว่าผมอยากได้เงินเลวๆนี่ ไม่ได้รู้เลยว่าผมเห็นแก่พระเจ้าจึงไม่เอาไม้กระบองฟาดหัวมัน
ผมเลยหยิบเหรียญ 10 นั้นขว้างไปกะจะให้โดนหัวมัน แต่ไม่โดน (น่าจะใช้รองเท้ามากกว่า)
มันก็หัวเราะ ผมเลยด่ามันไป F*CKKKKKKKKK จนร้านข้างๆเค้าเดินออกมาดูว่ามีอะไร
หลังจากนั้นเด็กๆในร้านก็ลุกมาถามผมว่ามีอะไร ผมก็เล่าไป
เรื่องนี้ผมว่าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับศาสนา ตัวผมเองไม่เชื่อด้วยซ้ำว่ามันเป็นพุทธ
แต่คงเป็นอะไรที่เลวทรามมากกว่า เรื่องนี้มันอยู่ที่ตัวบุคคล อยู่ที่สันดาน
ก็ขอให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ช่วยกันภาวนา วิงวอน ให้มัน 2 ตัวนั้น กลับใจได้
ก่อนจะสายเกินไปด้วยเถอะครับ อาเมน
มันเกิดขึ้นกับตัวผมเอง กลางร้านพระที่มาบุญครอง
อ่านแล้วช่วยกันวิงวอนด้วยนะครับ
วันนี้ช่วงสัก 4-5 โมงเย็น ผมก็นั่งเฝ้าร้านตามปกติของผม
ก็มีชาวต่างชาติ ผิวขาว 2 คน เป็นผู้ชาย วัยรุ่น เป็นฝาแฝดกัน รูปร่างอวบๆ ล่ำๆ
อายุประมาณ 18-20 ปี น่าจะเป็นชาวยุโรป ราวๆนั้น
เค้าก็มายืนหยุดอยู่หน้าร้าน ผมก็สังเกตุเห็นเค้ายืนคุยกัน แล้วมีชี้ๆมาที่รูปแม่พระที่เป็นป้ายหน้าร้าน แล้วก็หัวเราะกัน 2 คน
สักพัก เค้าก็เดินมาถามผม ว่ามีหนังสือเกี่ยวกับพระเจ้าไหม แต่ผมได้ยินไม่ชัด เค้าจึงพูดใหม่
แต่ผมได้ยินว่า Do you have a book about card? (จริงๆเค้าถามว่า ....about god? )
เพราะผมดูแลร้านการ์ดเกมด้วย ก็เลยฟังเป็นอย่างนั้น เลยบอกไปว่าไม่มี (เพราะมีแต่ภาษาไทย ไม่มีภาษาอังกฤษ)
เค้าก็ยืนหน้างงๆ แล้วก็ชี้ไปที่ตู้หนังสือ ที่หนังสือเล่มเล็กๆ ของวาสุลา แล้วก็ถามว่านี่ใช่มั้ย
ผมก็หยิบๆให้เค้าดู เค้า2คนก็เปิดๆ แล้วก็ yes yes แล้วก็ถามราคา ผมตอบไป 50 baht
เค้าก็จ่ายตัง แล้วก็ถามผมว่า ok ? ผมก็ yes thank you
แล้วมัน 2 คนก็ทำในสิ่งที่ผมคิดว่ามีแต่ในละครทีวี กับหนังภาพยนตร์
1ในมัน2คน ฉีกหนังสือเล่มนั้นเป็นชิ้นๆ ด้วยสีหน้าสะใจต่อหน้าผม
ฉีกๆๆๆๆๆ แล้วก็ขยำๆ ปากก็พร่ำว่า I hate Mary. I hate Jesus. I like Buddha.
แล้วก็หันมายิ้มให้ผม แล้วก็ฉีกๆๆๆๆต่อ แล้วก็พูดกับผมว่า Are you ok ? I Hate Jesus. I'm Buddhish.
เด็กๆที่นั่งเล่นอยู่ในร้านผมก็หันมามองกันอย่างงงๆ ผมก็บอกเด็กๆไปว่า ไม่มีอะไรน้อง คนมันบ้า ช่างมัน
ระหว่างนั้นผมก็ทำหน้าเฉยๆ พยายามไม่พูด ไม่โต้ตอบอะไร เพราะรู้อยู่แล้วว่ามันมาหาเรื่อง
แล้วมันก็ถามว่า ฝากทิ้งได้ไหม ผมก็รับหนังสือเป็นชิ้นๆมา แล้วมัน2คนก็หยิบเหรียญ 10 บาทขึ้นมา
วางบนตู้บอกว่า For You แล้วมันก็เดินหัวเราะไป
เท่านั้นแหละครับ ผมอารมณ์ขาดผึงทันที ไม่ได้ขาดที่มันทำอุบาทว์ต่อหน้า แต่โมโหที่มันดูถูก
ผมไม่ได้โกรธที่มันดูหมิ่นพระเจ้า ดูหมิ่นแม่พระ เพราะท่านคงอยากให้ผมอภัยให้เค้ามากกว่า
แต่ผมโมโหที่มันคิดว่าผมอยากได้เงินเลวๆนี่ ไม่ได้รู้เลยว่าผมเห็นแก่พระเจ้าจึงไม่เอาไม้กระบองฟาดหัวมัน
ผมเลยหยิบเหรียญ 10 นั้นขว้างไปกะจะให้โดนหัวมัน แต่ไม่โดน (น่าจะใช้รองเท้ามากกว่า)
มันก็หัวเราะ ผมเลยด่ามันไป F*CKKKKKKKKK จนร้านข้างๆเค้าเดินออกมาดูว่ามีอะไร
หลังจากนั้นเด็กๆในร้านก็ลุกมาถามผมว่ามีอะไร ผมก็เล่าไป
เรื่องนี้ผมว่าไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับศาสนา ตัวผมเองไม่เชื่อด้วยซ้ำว่ามันเป็นพุทธ
แต่คงเป็นอะไรที่เลวทรามมากกว่า เรื่องนี้มันอยู่ที่ตัวบุคคล อยู่ที่สันดาน
ก็ขอให้เพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ช่วยกันภาวนา วิงวอน ให้มัน 2 ตัวนั้น กลับใจได้
ก่อนจะสายเกินไปด้วยเถอะครับ อาเมน
แก้ไขล่าสุดโดย Champkun เมื่อ อาทิตย์ มี.ค. 04, 2007 9:09 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
แย่จังแฮะ ถ้าเป้นผมอาจทำอะไรไม่ถูก

บ้าไปเเล้ว ๕๕๕ พุธเก๊อ่ะดิ ไม่ได้มีความเป็นพุธเลยๆๆ ๕๕๕
จัดอยู่ในพวก คนไม่มีศาสนา เเอบอ้าง หรือไม่ก็ยังไม่เข้าถึงศาสนาจริงๆ
เเต่ เราจะให้อภัยเขาเนอะๆ เพราะว่า เเค่นี้ชีวิตเขาก็เเย่พอเเล้ว
เห็นแก่พระเจ้า เราจึงจะไม่ทำให้มันเเย่ไปกว่าเดิม
เราจะต้องสวดให้เขา เยอะๆ
พวกเขาจะได้ไม่ต้องทำเรื่องให้พระเจ้าเคืองพระทัย อีก :sad:
ที่จริงพยายามมองหายามแล้วครับ
แต่ยามที่นี่มีความสามารถพิเศษ เวลามีเรื่องจะหายไป
เวลาไม่มีอะไรจะโผล่มา
วานซืนมีคนตบกันหน้าร้านผม เรียกให้มาดู ก็ทำอืดๆอาด เหมือนไม่อยากลุก
กว่าจะเดินมาถึง พอถึงก็ทำไม่สนใจเดินเลยไปซะงั้น
เสียดายค่ายามมากๆ
แต่ยามที่นี่มีความสามารถพิเศษ เวลามีเรื่องจะหายไป
เวลาไม่มีอะไรจะโผล่มา
วานซืนมีคนตบกันหน้าร้านผม เรียกให้มาดู ก็ทำอืดๆอาด เหมือนไม่อยากลุก
กว่าจะเดินมาถึง พอถึงก็ทำไม่สนใจเดินเลยไปซะงั้น
เสียดายค่ายามมากๆ
ขอพระเจ้าประทานอภัยแกเค้าเถิด ขอแม่พระโปรดวิงวอนพระเจ้าเถิด โปรดอภัยให้เขาเถิด เขาไม่รุ้ว่าเขาทำอะไรลงไป
ขอโปรดให้เขาทั้งหลายกลับใจ...
ดีแล้วพี่แชมป์ ดีนะที่ฟิวยังไม่ค่อยขาด ยังควบคุมสติได้ น่าจะสำนึกได้นะว่าถ้าไม่เห็นแก่พระเจ้า คงเอาอะไรใกล้ๆมือแถวนั้นตีหัวมันไปแล้ว
แหมพูดมาได้ว่าเกลียดแม่เรา..เชอะ...
ขอให้เค้ารูจักแม่พระมากขึ้นกว่านี้เถิด ...
ยังไงก็สู้ต่อไปนะ จะสวดให้ค่ะ ว่างๆจะแวะไปร้านพี่บ่อยๆ
ขอโปรดให้เขาทั้งหลายกลับใจ...
ดีแล้วพี่แชมป์ ดีนะที่ฟิวยังไม่ค่อยขาด ยังควบคุมสติได้ น่าจะสำนึกได้นะว่าถ้าไม่เห็นแก่พระเจ้า คงเอาอะไรใกล้ๆมือแถวนั้นตีหัวมันไปแล้ว
แหมพูดมาได้ว่าเกลียดแม่เรา..เชอะ...

ยังไงก็สู้ต่อไปนะ จะสวดให้ค่ะ ว่างๆจะแวะไปร้านพี่บ่อยๆ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
จริง ๆ แล้วไม่นานจะไปด่ามันเลย ตอนที่มันเอาตังมาวาง
น่าจะบอกไปว่า God be with U as always
มันคงจะงงไปเลย
แต่ก็เข้าใจนะ...เพราะตอนที่พี่อ่าน ก็ลมขึ้นเหมือนกัน
วันสองวันที่ผ่านมา เพิ่งได้ยินเรื่องพระยุติธรรมของพระเจ้ามาหมาด ๆ
จะเล่าให้ฟังนะ
เรื่องแรก..คุณพ่อเป็นคนเล่า แม้ไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่ก็ประมาณว่าคงจะเป็นวัดปากลัด หรือวัดซางตาครูส
เรื่องนี้เกิดเมื่อ 10 ปีก่อนนู่น
ที่วัดมันมีเด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง ชอบเตะบอลอัดกำแพงวัดเป็นประจำ
ใครว่าก็ไม่ฟัง พอคุณพ่อออกไปเตือนว่าจะทำมิสซาแล้วให้หยุด เจ้าคนนี้ก็ไม่เชื่อ
พอพ่อเข้าไป...มันก็อัดใส่กำแพงวัดต่อ ดังตึ่งๆ ๆ จนมิสซาเริ่มไป 15 นาที
เขาก็หยุด แต่หัวเราะเยาะเสียงดัง แบบเยาะเย้ย
หลังจากนั้น คุณพ่อจึงเอาต้นไม้และกระถางมาลงรอบวัด
กะไม่ให้มาเตะอัดกำแพงวัดอีก หลังจากนั้นไม่ถึงอาทิตย์
ทุกคนก็ต้องช๊อคไปตาม ๆ กัน เพราะต้นไม้ทั้งหมดถูกฟันยับไม่เหลือสักต้น
ทุกคนรู้ว่าเด็กคนนี้ทำ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังงัย
เวลาผ่านไปไม่นาน ปรากฏว่าเด็กคนนี้ไปมีเรื่องกะคู่อริ ถูกคู่อริยิงหัวตาย
ทุกคนที่รู้ก็แอบเสียดายในใจว่า มันน่าจะโดนมากว่านี้..ให้สาสม
ในวันงานศพ ไม่มีใครไปร่วมงานสักคน มีแต่ญาติ ๆ เขา
ตอนแรกตั้งใจว่าจะสวด 3 วัน...แต่ไม่มีใครมาเลย เลยสวดแค่วันเดียวแล้วก็ฝัง
1 เดือนผ่านไป ปรากฏว่าตำรวจมาขอชันสูตรศพ
แม่เขาก็ห้ามว่าอย่าเลย..เขาไม่ติดใจ คนก็ตายไปแล้ว ป่านนี้เน่าไปแล้ว
ตำรวจไม่ยอม เข้าไปขุดศพขึ้นมา แล้วตัดคอ หิ้วหัวไปชันสูตร
สุดท้ายเอามาคืน ก็ต่อหัวไม่ได้แล้ว จึงเอาวางตั้งไว้ในโลงทั้งอย่างนั้น
....
เดี๋ยวมาต่อเรื่องที่ 2
น่าจะบอกไปว่า God be with U as always
มันคงจะงงไปเลย
แต่ก็เข้าใจนะ...เพราะตอนที่พี่อ่าน ก็ลมขึ้นเหมือนกัน

วันสองวันที่ผ่านมา เพิ่งได้ยินเรื่องพระยุติธรรมของพระเจ้ามาหมาด ๆ
จะเล่าให้ฟังนะ
เรื่องแรก..คุณพ่อเป็นคนเล่า แม้ไม่ได้เอ่ยชื่อ แต่ก็ประมาณว่าคงจะเป็นวัดปากลัด หรือวัดซางตาครูส
เรื่องนี้เกิดเมื่อ 10 ปีก่อนนู่น
ที่วัดมันมีเด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง ชอบเตะบอลอัดกำแพงวัดเป็นประจำ
ใครว่าก็ไม่ฟัง พอคุณพ่อออกไปเตือนว่าจะทำมิสซาแล้วให้หยุด เจ้าคนนี้ก็ไม่เชื่อ
พอพ่อเข้าไป...มันก็อัดใส่กำแพงวัดต่อ ดังตึ่งๆ ๆ จนมิสซาเริ่มไป 15 นาที
เขาก็หยุด แต่หัวเราะเยาะเสียงดัง แบบเยาะเย้ย
หลังจากนั้น คุณพ่อจึงเอาต้นไม้และกระถางมาลงรอบวัด
กะไม่ให้มาเตะอัดกำแพงวัดอีก หลังจากนั้นไม่ถึงอาทิตย์
ทุกคนก็ต้องช๊อคไปตาม ๆ กัน เพราะต้นไม้ทั้งหมดถูกฟันยับไม่เหลือสักต้น
ทุกคนรู้ว่าเด็กคนนี้ทำ แต่ก็ไม่รู้จะทำยังงัย
เวลาผ่านไปไม่นาน ปรากฏว่าเด็กคนนี้ไปมีเรื่องกะคู่อริ ถูกคู่อริยิงหัวตาย
ทุกคนที่รู้ก็แอบเสียดายในใจว่า มันน่าจะโดนมากว่านี้..ให้สาสม
ในวันงานศพ ไม่มีใครไปร่วมงานสักคน มีแต่ญาติ ๆ เขา
ตอนแรกตั้งใจว่าจะสวด 3 วัน...แต่ไม่มีใครมาเลย เลยสวดแค่วันเดียวแล้วก็ฝัง
1 เดือนผ่านไป ปรากฏว่าตำรวจมาขอชันสูตรศพ
แม่เขาก็ห้ามว่าอย่าเลย..เขาไม่ติดใจ คนก็ตายไปแล้ว ป่านนี้เน่าไปแล้ว
ตำรวจไม่ยอม เข้าไปขุดศพขึ้นมา แล้วตัดคอ หิ้วหัวไปชันสูตร
สุดท้ายเอามาคืน ก็ต่อหัวไม่ได้แล้ว จึงเอาวางตั้งไว้ในโลงทั้งอย่างนั้น
....
เดี๋ยวมาต่อเรื่องที่ 2
จริงๆ ช่างหัวมันไปเลยนะ ไม่ควรไปตอบโต้อะไรมันเลย แต่พี่เข้าใจแหละ เพราะมันทำสิ่งที่สารเลวจริงๆ ซึ่งหาได้ยากที่คนไทยจะทำอะไรแบบนี้ เหมือนกรณีที่คนไปทุบพระพรหมแล้วถูกกระทืบตาย เพราะคนพุทธโดยทั่วไปแม้ไม่นับถือ ก็จะถือหลักว่าไม่เชื่อแต่ไม่ลบหลู่อยู่แล้ว ต่างจากฝรั่ง เชื่อก็เชื่อเลยแสดงออกเลยว่ามีความเชื่อ ไม่เชื่อก็สารเลวใส่เลย เรียกว่ามีความกล้าในการแสดงออกมากกว่าเรา ที่ดีก็เลยดูดีกว่า ที่ชั่วก็ดูชั่วมากกว่าด้วย
ในกรณีแบบนี้ พี่กลับรู้สึกทันทีว่า มันสว่างแล้วจริงๆ คือแสงสว่างมันส่องออกมาแล้วจากร้านนั้น นอกจากเทวดาจะชื่นชมแล้ว ซาตานยังอิจฉาด้วย ลองว่าซาตานออกอาการมาขนาดนี้ แสดงว่ากิจการนั้นเป็นที่พอพระทัยพระและมีผลต่อพวกมันจริงๆ มันจึงปล่อยไว้ไม่ได้ ต้องมารังควาญ
พอดีแชมป์พูดเรื่องนี้ขึ้นมา ประจวบเหมาะกับที่แม่พี่เพิ่งเล่าให้ฟังวันนี้สดๆร้อนๆ ว่า เมื่อพระยุติธรรมของพระเจ้าทรงสำแดง ก็เตรียมเจออะไรแบบชาวยิวในพระธรรมเก่าได้เลย
เรื่องนี้คุณพ่อท่านหนึ่งได้เล่าให้ฟัง เมื่อวันเสาร์นี้เอง เป็นเรื่องที่เกิดมานานพอสมควร ว่าในวัดที่ท่านเคยไปเป็นพ่อเจ้าวัดอยู่นั้น มีเด็กวัยรุ่นเกเรคนหนึ่งชอบมาเตะบอลให้มันเด้งกับกำแพงวัด เสียงดังปึกๆๆๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาทำมิซซาหรือเวลาชาวบ้านมาสวดกัน มันก็ยังมาเตะบอลเด้งใส่โดยไม่สนใจว่า เขาทำพิธีทางศาสนากันอยู่ คุณพ่อเคยออกไปเตือนแล้วมันยังเตะบอลใส่กำแพงต่อไปแบบไม่สนใจเลย จนทุกคนเอือมระอามาก คุณพ่อเลยใช้วิธี เอากระถางต้นไม้มาวางรอบกำแพงวัดแทน ในสัปดาห์แรกมันมาเตะบอลอัดกำแพงไม่ได้ก็หายไป แต่สัปดาห์ที่สองปีรากฎว่า มีมือมืดมาตัดต้นไม้ในกระถางเหล่านั้นจนเละหมด ซึ่งก็เดาได้ไม่ยากว่าใครทำ
ต่อมาไม่นาน เด็กคนนี้ก็ไปมีเรื่องกับคู่อริแล้วถูกยิงเสียชีวิต แม้จะเป็นเด็กคริสตังทิ้งวัดและทำเลวร้ายกับวัด แต่คุณพ่อก็ยอมจัดงานศพให้ ปรากฎว่าไม่มีใครมางานศพมันเลย จากทีแรกว่าจะตั้งศพสวด3วันตามแบบคาทอลิคไทยทั่วไป กลับกลายเป็นไม่มีคนมาสวดเลยจัดวันเดียวฝังเลย หลังจากฝังไป20วัน ตำรวจก็มาที่บ้านพ่อแม่ บอกว่าต้องชันสูตรศพ เพราะตายเพราะโดนฆาตกรรม พ่อแม่ทีแรกก็คัดค้านว่าไม่เอาเรื่องหรอกช่างเถอะป่านนี้ศพเน่าแล้ว แต่ตำรวจว่า ไม่ได้ ต้องทำตามระบบกฎหมาย จึงต้องขุดศพขึ้นมา แต่ตำรวจขอตัดแต่หัวศพไปพิสูจน์ (คงเพราะว่าดูรูปืนที่หัวอย่างเดียวพอ) แล้วหลังจากนั้นไม่นานก็เอามาหัวมาคืนฝังรวมกันใหม่
พระเจ้ายังเมตตา ไม่ให้โดนตัดตอนเป็นๆนะ ตายแล้วถึงโดนตัด ดังนั้น เชื่อเถอะว่า พระยุติธรรมมีจริง เราไม่ต้องไปทำอะไรมันเลย ปล่อยมันไป ถ้าไม่กลับใจเดี๋ยวพระเจ้าจัดการเอง พระองค์ตอบแทนการกระทำทุกคนอยู่แล้ว
ในกรณีแบบนี้ พี่กลับรู้สึกทันทีว่า มันสว่างแล้วจริงๆ คือแสงสว่างมันส่องออกมาแล้วจากร้านนั้น นอกจากเทวดาจะชื่นชมแล้ว ซาตานยังอิจฉาด้วย ลองว่าซาตานออกอาการมาขนาดนี้ แสดงว่ากิจการนั้นเป็นที่พอพระทัยพระและมีผลต่อพวกมันจริงๆ มันจึงปล่อยไว้ไม่ได้ ต้องมารังควาญ
พอดีแชมป์พูดเรื่องนี้ขึ้นมา ประจวบเหมาะกับที่แม่พี่เพิ่งเล่าให้ฟังวันนี้สดๆร้อนๆ ว่า เมื่อพระยุติธรรมของพระเจ้าทรงสำแดง ก็เตรียมเจออะไรแบบชาวยิวในพระธรรมเก่าได้เลย
เรื่องนี้คุณพ่อท่านหนึ่งได้เล่าให้ฟัง เมื่อวันเสาร์นี้เอง เป็นเรื่องที่เกิดมานานพอสมควร ว่าในวัดที่ท่านเคยไปเป็นพ่อเจ้าวัดอยู่นั้น มีเด็กวัยรุ่นเกเรคนหนึ่งชอบมาเตะบอลให้มันเด้งกับกำแพงวัด เสียงดังปึกๆๆๆ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวลาทำมิซซาหรือเวลาชาวบ้านมาสวดกัน มันก็ยังมาเตะบอลเด้งใส่โดยไม่สนใจว่า เขาทำพิธีทางศาสนากันอยู่ คุณพ่อเคยออกไปเตือนแล้วมันยังเตะบอลใส่กำแพงต่อไปแบบไม่สนใจเลย จนทุกคนเอือมระอามาก คุณพ่อเลยใช้วิธี เอากระถางต้นไม้มาวางรอบกำแพงวัดแทน ในสัปดาห์แรกมันมาเตะบอลอัดกำแพงไม่ได้ก็หายไป แต่สัปดาห์ที่สองปีรากฎว่า มีมือมืดมาตัดต้นไม้ในกระถางเหล่านั้นจนเละหมด ซึ่งก็เดาได้ไม่ยากว่าใครทำ
ต่อมาไม่นาน เด็กคนนี้ก็ไปมีเรื่องกับคู่อริแล้วถูกยิงเสียชีวิต แม้จะเป็นเด็กคริสตังทิ้งวัดและทำเลวร้ายกับวัด แต่คุณพ่อก็ยอมจัดงานศพให้ ปรากฎว่าไม่มีใครมางานศพมันเลย จากทีแรกว่าจะตั้งศพสวด3วันตามแบบคาทอลิคไทยทั่วไป กลับกลายเป็นไม่มีคนมาสวดเลยจัดวันเดียวฝังเลย หลังจากฝังไป20วัน ตำรวจก็มาที่บ้านพ่อแม่ บอกว่าต้องชันสูตรศพ เพราะตายเพราะโดนฆาตกรรม พ่อแม่ทีแรกก็คัดค้านว่าไม่เอาเรื่องหรอกช่างเถอะป่านนี้ศพเน่าแล้ว แต่ตำรวจว่า ไม่ได้ ต้องทำตามระบบกฎหมาย จึงต้องขุดศพขึ้นมา แต่ตำรวจขอตัดแต่หัวศพไปพิสูจน์ (คงเพราะว่าดูรูปืนที่หัวอย่างเดียวพอ) แล้วหลังจากนั้นไม่นานก็เอามาหัวมาคืนฝังรวมกันใหม่
พระเจ้ายังเมตตา ไม่ให้โดนตัดตอนเป็นๆนะ ตายแล้วถึงโดนตัด ดังนั้น เชื่อเถอะว่า พระยุติธรรมมีจริง เราไม่ต้องไปทำอะไรมันเลย ปล่อยมันไป ถ้าไม่กลับใจเดี๋ยวพระเจ้าจัดการเอง พระองค์ตอบแทนการกระทำทุกคนอยู่แล้ว
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
เรื่องที่ 2
อันนี้มาม๊าเล่าให้ฟัง เป้นเรื่องที่เกิดหลาย 10 ปีมาแล้ว ที่วัดLL
มีเด็กช่วยมิสซาคนหนึ่ง ชอบแอบมาไขตู้ศีลเอาแผ่นศีล และ จอกกาลิสมาเล่น
เอาแผ่นศีลมาทำเป็นยื่นส่ง ๆ เล่นไม่รู้เรื่อง โดนจับได้ก็หยุด
ถ้ามีโอกาสก็แอบมาเล่นอีก
ปรากฏว่า พอแก่ตัวลง อายุ 40 กว่า ๆ ก็เกิดเป็น อัมพาต มือทั้งสองข้างแป แบบเป็นง่อยไปเลย
+++
ดังนั้น ไม่ต้องโกรธ ไม่ต้องโมโหไปเลย
ในพระคัมภีร์มีกล่าวไว้ว่า... การแก้แค้นเป้นของพระเจ้า
เขาจะได้รับโทษทัณฑ์ที่สาสมกับการกระทำของเขาแน่นอน
ปล.
อ้าว..ดันมาเล่าเรื่องเดียวกันเลย..ทั้งพี่ทั้งน้อง ง่ะ ง่ะ
อันนี้มาม๊าเล่าให้ฟัง เป้นเรื่องที่เกิดหลาย 10 ปีมาแล้ว ที่วัดLL
มีเด็กช่วยมิสซาคนหนึ่ง ชอบแอบมาไขตู้ศีลเอาแผ่นศีล และ จอกกาลิสมาเล่น
เอาแผ่นศีลมาทำเป็นยื่นส่ง ๆ เล่นไม่รู้เรื่อง โดนจับได้ก็หยุด
ถ้ามีโอกาสก็แอบมาเล่นอีก
ปรากฏว่า พอแก่ตัวลง อายุ 40 กว่า ๆ ก็เกิดเป็น อัมพาต มือทั้งสองข้างแป แบบเป็นง่อยไปเลย
+++
ดังนั้น ไม่ต้องโกรธ ไม่ต้องโมโหไปเลย
ในพระคัมภีร์มีกล่าวไว้ว่า... การแก้แค้นเป้นของพระเจ้า
เขาจะได้รับโทษทัณฑ์ที่สาสมกับการกระทำของเขาแน่นอน
ปล.
อ้าว..ดันมาเล่าเรื่องเดียวกันเลย..ทั้งพี่ทั้งน้อง ง่ะ ง่ะ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ จันทร์ มี.ค. 05, 2007 3:12 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ตอนนี้หวังว่ามันจะไม่ไปทำอย่างนี้ที่อื่นอีกอะครับ
เพราะไม่รู้ว่าที่อื่นจะโต้ตอบมันยังไง
ก็ขอให้มันคิดได้แล้วกัน
แต่ถ้าคิดไม่ได้ ก็แล้วแต่พระเมตตาครับ
เพราะไม่รู้ว่าที่อื่นจะโต้ตอบมันยังไง
ก็ขอให้มันคิดได้แล้วกัน
แต่ถ้าคิดไม่ได้ ก็แล้วแต่พระเมตตาครับ

การสบประมาทพระเป็นเจ้า มันรุนแรงเพียงใด้เขาต้องได้รับแน่
แต่กระนั้นก็ดี สุดแท้แต่น้ำพระทัยของพระเป็นเจ้าเถิด
ขอชมเชยในความขันติเกือบแตก
พระเจ้าอวยพรครับ
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
ชื่นชมพี่แชมป์มากครับที่สามารถมี "ขันติ" ได้ถึงขนาดนั้น เป็นผมคง "ขันแตก" โดดถีบมันทั้งคู่ไปแระ



-
- ~@
- โพสต์: 698
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 5:52 pm
ยากนักที่จะหาเด็กวัยรุ่นฝรั่งเข้าวัด ทุกทีผมจะไปวัดเย็นที่อยู่ในโรงพยาบาลใกล้ๆ บัาน ก่อนเริ่มมิสซาคนเค้าจะคุยและทักทายกันภายในวัด รวมทั้งพระสงฆ์ด้วย แรกๆก็คิดว่าทำไมไม่มีความเคารพต่อพระเยซูในตู้ศีลเลย แต่พอนานไปก็ดูว่า ยิ่งกว่าเดิม (บางทียังสงสัยว่าพวกเขายังคิดว่า พระเยซูยังอยู่ในตู้ศีล รึเปล่า?) วัดที่นี่จะเป็นที่พบปะพูดคุยมากกว่าจะ เป็นที่สวดภาวนา ผมว่าถ้าพื้นฐานไม่ดี แล้วคนที่ควบคุมยังปล่อยปะละเลย หรือสนับสนุน ก็ยากที่จะแก้ไข เพราะมันจะติดไปกับเขาตลอด
-
- โพสต์: 7
- ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มี.ค. 04, 2007 9:14 am
เป็นเรื่องของสันดานมนุษย์ ... ที่ต่างเผ่าพันธุ์ ต่างการอบรมศึกษา ต่างวัฒนธรรม ต่างประเพณี........อันที่จริงเหล่าเขาควรต้องได้รับผลของการกระทำ
เช่นนั้นบ้าง....ไม่มากก็น้อย ... การวางเฉยใช้ได้กับบางสถานการณ์เท่านั้น....ในเคสนี้สมควรเรียกเลือดจากหัวออกมาดู....
เช่นนั้นบ้าง....ไม่มากก็น้อย ... การวางเฉยใช้ได้กับบางสถานการณ์เท่านั้น....ในเคสนี้สมควรเรียกเลือดจากหัวออกมาดู....
เพื่อนใหม่
Offline
Posts: 2
Re: เมื่อผมโดนมารผจญ ในร้านของผมเอง
« Reply #15 on: Today at 04:41:29 pm » Quote
--------------------------------------------------------------------------------
เป็นเรื่องของสันดานมนุษย์ ... ที่ต่างเผ่าพันธุ์ ต่างการอบรมศึกษา ต่างวัฒนธรรม ต่างประเพณี........อันที่จริงเหล่าเขาควรต้องได้รับผลของการกระทำ
เช่นนั้นบ้าง....ไม่มากก็น้อย ... การวางเฉยใช้ได้กับบางสถานการณ์เท่านั้น....ในเคสนี้สมควรเรียกเลือดจากหัวออกมาดู....
Report to moderator Logged
.....................
เห็นด้วย อิอิ ล้อเล่น
Offline
Posts: 2
Re: เมื่อผมโดนมารผจญ ในร้านของผมเอง
« Reply #15 on: Today at 04:41:29 pm » Quote
--------------------------------------------------------------------------------
เป็นเรื่องของสันดานมนุษย์ ... ที่ต่างเผ่าพันธุ์ ต่างการอบรมศึกษา ต่างวัฒนธรรม ต่างประเพณี........อันที่จริงเหล่าเขาควรต้องได้รับผลของการกระทำ
เช่นนั้นบ้าง....ไม่มากก็น้อย ... การวางเฉยใช้ได้กับบางสถานการณ์เท่านั้น....ในเคสนี้สมควรเรียกเลือดจากหัวออกมาดู....
Report to moderator Logged
.....................
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
จริง ๆ แล้ว ทำอย่างที่พี่ LL ว่าดีที่สุดนะครับ ผมว่า
อวยพรเค้าเถอะครับ
อย่าไปสนใจ
แต่ขอชมนะครับ ที่สามารถเก็บอารมณ์ได้ดีมาก ๆ ครับ
อวยพรเค้าเถอะครับ
อย่าไปสนใจ
แต่ขอชมนะครับ ที่สามารถเก็บอารมณ์ได้ดีมาก ๆ ครับ

เมื่อคืนตอบน้องแล้วไปนอนคิดว่า ควรจัดการอย่างไร
การกระทำของเขาเป็นการดูหมิ่นซึ่งหน้า
หนังสือเขาซื้อเป็นของเขา แต่การกระทำเป็นการดูหมิ่น
คราวต่อไป ถ้ามีเรื่องเช่นนี้ สามารถแจ้งความกล่าวโทษที่โรงพักก่อน
แน่นอน โทษน้อยมาก
แต่สามารถร้องต่อกรรมการสิทธิมนุษย์ชน โทร 1111
เพื่อที่จะร้องเรียนต่อสถานทูตของเขาให้ดำเนินการต่อไป
ซึ่งจะเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว
เรื่องการละเมิดดูถูก เชื้อชาติ ศาสนา เป็นเรื่องใหญ่ อย่าง Big Brother ที่อังกฤษ
นักข่าวต่างประเทศชอบมาก เขาจะเกาะติดทีเดียว
ถ้ามีเรื่องอย่างนี้อีก หลังไมค์มาเลย ให้ได้ชื่อที่อยู่มาเถอะ
น้องได้ออก CNN แน่
การกระทำของเขาเป็นการดูหมิ่นซึ่งหน้า
หนังสือเขาซื้อเป็นของเขา แต่การกระทำเป็นการดูหมิ่น
คราวต่อไป ถ้ามีเรื่องเช่นนี้ สามารถแจ้งความกล่าวโทษที่โรงพักก่อน
แน่นอน โทษน้อยมาก
แต่สามารถร้องต่อกรรมการสิทธิมนุษย์ชน โทร 1111
เพื่อที่จะร้องเรียนต่อสถานทูตของเขาให้ดำเนินการต่อไป
ซึ่งจะเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว
เรื่องการละเมิดดูถูก เชื้อชาติ ศาสนา เป็นเรื่องใหญ่ อย่าง Big Brother ที่อังกฤษ
นักข่าวต่างประเทศชอบมาก เขาจะเกาะติดทีเดียว
ถ้ามีเรื่องอย่างนี้อีก หลังไมค์มาเลย ให้ได้ชื่อที่อยู่มาเถอะ
น้องได้ออก CNN แน่
มันก็แย่เนอะ คนที่รักพระเยซูเจ้าของเราน้อยลง
หลายคนคงรู้ว่าผมมาจากเวปOnlyonetruth วึ่งตอนนี้เวปนั้นโจมตีอย่างรุนแรง เอาเวปเรื่องเอาโบถส์ขายต่อเป็นสุเหร่าเยอะแยะ เพื่อนผมที่เป็นมุสลิมด้วยกันมาดู ยังบอกเลยว่าพวกนี้ไม่ใช่มุสลิม แค่อ้างชื่อพระเจ้าไปวันวัน เคร่งศาสนาตบตา ไม่เข้าใจแก่นแท้ของคำว่าอิสลาม
กรณีนี้ก็เหมือนกัน ฝร่งพวกนี้เค้าไม่เข้าใจแก่นของพุทธ เขาจึงทำลงไปเท่านั้น
ในแดจังกึม ชองซังกุงพูดว่า "วังหลวงที่หรูหราแท้จริงก็เป้นเปลือกที่ฉาบฉวย วันๆมีคนเข้าออกมากมาย แต่ก็ยังรู้สึกอ้างว้าง แล้วความอ้างว้างนี้ทำให้เกิดการแก่งแย่งชิงดี และความโดดเดี่ยวทำให้คนถึงกับขึ้นทำรายซึ่งกันและกัน เจ้าต้องเห็นใจนะ" ใช่ครับ ผมและพี่น้องควรเห้นใจพวกเค้าจะดีกว่า ผมเชื่อครับว่าพระเจ้าไม่โกรธที่ฝร่ง2คนนั่นทำลงไป พระเจ้ารักเราแม้ว่าเราทำบาปวํกเท่าไหร่ คิดดูครับวันๆเราทำบาปกว่าฝร่งพวกนั้นด้วยซ้ำไป
"จงรักซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลแบ่งปัน จงรักซึ่งกันและกัน ดั่งที่เรารักท่าน"
หลายคนคงรู้ว่าผมมาจากเวปOnlyonetruth วึ่งตอนนี้เวปนั้นโจมตีอย่างรุนแรง เอาเวปเรื่องเอาโบถส์ขายต่อเป็นสุเหร่าเยอะแยะ เพื่อนผมที่เป็นมุสลิมด้วยกันมาดู ยังบอกเลยว่าพวกนี้ไม่ใช่มุสลิม แค่อ้างชื่อพระเจ้าไปวันวัน เคร่งศาสนาตบตา ไม่เข้าใจแก่นแท้ของคำว่าอิสลาม
กรณีนี้ก็เหมือนกัน ฝร่งพวกนี้เค้าไม่เข้าใจแก่นของพุทธ เขาจึงทำลงไปเท่านั้น
ในแดจังกึม ชองซังกุงพูดว่า "วังหลวงที่หรูหราแท้จริงก็เป้นเปลือกที่ฉาบฉวย วันๆมีคนเข้าออกมากมาย แต่ก็ยังรู้สึกอ้างว้าง แล้วความอ้างว้างนี้ทำให้เกิดการแก่งแย่งชิงดี และความโดดเดี่ยวทำให้คนถึงกับขึ้นทำรายซึ่งกันและกัน เจ้าต้องเห็นใจนะ" ใช่ครับ ผมและพี่น้องควรเห้นใจพวกเค้าจะดีกว่า ผมเชื่อครับว่าพระเจ้าไม่โกรธที่ฝร่ง2คนนั่นทำลงไป พระเจ้ารักเราแม้ว่าเราทำบาปวํกเท่าไหร่ คิดดูครับวันๆเราทำบาปกว่าฝร่งพวกนั้นด้วยซ้ำไป
"จงรักซึ่งกันและกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลแบ่งปัน จงรักซึ่งกันและกัน ดั่งที่เรารักท่าน"
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
มาอ่านทุกๆคนให้คำตอบที่ดี
คนทำดีผลดีอยู่กับตัวและลูกหลานชั่วชาติพันธุ์
คนทำชั่ว ผลร้ายตก กับพวก it ทั้งตระกูล
ส่วนเราจะตอบสนองอย่างไร ก็แล้วแต่พระจิตเจ้า (พระวิญญาณฯ) ทรงนำเราเช่นกัน
แต่ถ้าตามคำสอน "อย่าต่อสู้คนชั่วด้วยความชั่ว" " การแก้แค้น เป็นของพระเจ้า" อัครทูตเปาโลหนุนใจว่า "จงขอบคุณพระเจ้าทุกกรณี"ครับ
คนทำดีผลดีอยู่กับตัวและลูกหลานชั่วชาติพันธุ์
คนทำชั่ว ผลร้ายตก กับพวก it ทั้งตระกูล
ส่วนเราจะตอบสนองอย่างไร ก็แล้วแต่พระจิตเจ้า (พระวิญญาณฯ) ทรงนำเราเช่นกัน
แต่ถ้าตามคำสอน "อย่าต่อสู้คนชั่วด้วยความชั่ว" " การแก้แค้น เป็นของพระเจ้า" อัครทูตเปาโลหนุนใจว่า "จงขอบคุณพระเจ้าทุกกรณี"ครับ