
พวกเราคงจำกันได้ถึงพระวรสารนักบุญยอห์นในตอนที่พระเยซูเจ้าทรงสนทนากับหญิงชาวสะมาเรียริมบ่อน้ำ นับว่าเป็นพระวรสารตอนที่คลาสสิคมากตอนหนึ่ง ใช่ไหมครับ
Florian เขียน: หลายคนประทับใจหญิงสะมาเรียคนนี้ที่เป็นผู้นำคนอื่นให้มารู้จักพระเจ้า
แต่สำหรับผมแล้ว ความคลาสสิคของพระวรสารตอนนี้อยู่ที่คำสอนของพระเยซูเจ้าที่สอน"วิธีที่ถูกต้องเหมาะสมในการสวดภาวนา"ครับ
เมื่ออาณาจักรอิสราเอลแตกเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งก็คือพวกยิว อีกฝ่ายก็คือพวกสะมาเรีย พวกสะมาเรียกับยิวไม่คบค้ากัน ชาวยิวที่ต้องการเดินทางไปนมัสการพระเจ้าที่พระวิหารในกรุงเยรูซาเล็ม ในกรณีที่ต้องเดินทางผ่านแคว้นสะมาเรีย ก็อาจเดินทางเลี่ยงๆอ้อมๆเอา เพราะไม่เช่นนั้น ถ้าเดินทางผ่านแคว้นสะมาเรียก็อาจโดนพวกสะมาเรียกลั่นแกล้งรังแกได้
ตามปกติ พวกแม่บ้านชาวสะมาเรียจะออกมาซักผ้งซักผ้า ตักน้ำตักท่า ก็ตอนสายๆ และออกมาเป็นหมู่คณะ มาเป็น"กลุ่มแม่บ้าน" และพวก"แม่บ้าน"เหล่านี้ บางทีก็อาจเป็น"แม่บ้า" เพราะไม่เพียงแค่ทำงานบ้านเท่านั้น ยังนินทาสามีและชาวบ้านร้านถิ่นไปด้วย แต่แปลกที่เจ๊คนนี้มาตักน้ำที่บ่อคนเดียวเปลี่ยวเอกา แถมโผล่มาซะตอนเที่ยงเชียว แสดงว่าสมาคมแม่บ้านสะมาเรียคงไม่คบค้าด้วย
เมื่อพระเยซูเจ้าทรงพบเธอที่ริมบ่อน้ำ พระองค์ทรงกระหายและขอน้ำจากหญิงสะมาเรียคนนี้ดื่ม เจ๊ก็ทำลีลา บอกว่า "อุ๊ย ท่านเป็นยิว แต่ทำไมมาขอน้ำจากดิฉันซึ่งเป็นเป็นหญิงชาวสะมาเรียเล่าคะ" คำพูดนี้มีอยู่สองประเด็น (1)ยิวกับสะมาเรียไม่คบค้ากัน ท่านมาขอน้ำจากดิฉันได้ไง ; (2)ท่านเป็นผู้ชาย จู่ๆมาคุยกับดิฉันซึ่งเป็นหญิงได้ไงคะ(ทำนองเป็นกุลสตรี พึงสงวนตัวหน่อย) พระเยซูเจ้าตรัสว่า "ถ้าเธอรู้จักเรา เธอจะกลับเป็นผู้ขอน้ำดื่มจากเรา และน้ำที่เราจะให้นั้นเป็นน้ำทรงชีวิต ใครดื่มแล้วจะไม่กระหายอีก" หญิงนั้นตะลึงตึงตึง คือคิดไม่ถึงว่าบุรุษผู้นี้จะมีน้ำทรงชีวิต คงเป็นผู้ยิ่งใหญ่เป็นแน่ ก็เลยถามว่า"ท่านเป็นใหญ่กว่ายาโคบเจ้าของบ่อน้ำนี้อีกหรือ ถ้างั้นให้ดิฉันดื่มน้ำทรงชีวิตสักหน่อยเถิด" พระเยซูเจ้าทรงทราบว่าหญิงนี้มีสิ่งปิดบังบางอย่างอยู่ จึงตรัสกับนางว่า "เธอไปตามสามีเธอมาซิ" เอาล่ะสิ หญิงนั้นก็ไม่กล้าแง้มความจริงออกมาอย่างเปิดอก เลยตอบพระองค์ไปว่า "ท่านเจ้าขา ดิฉันไม่มีสามีค่ะ" พระองค์ทรงทราบความจริง จึงทรงเฉลยออกมาเลยว่า "ที่เธอว่าตัวเธอไม่มีสามีนั้นถูกแล้ว เพราะเธอมีมา 5 คนแล้ว และคนปัจจุบันก็ไม่ใช่สามีเธอ" เจ๊สะมาเรียเป็นอันถึงบางอึ้ง ต๊ายยยยยยยยย พระองค์รู้ได้อย่างไร จึงสารภาพยอมรับว่า"พระองค์ทรงเป็นประกาศกจริงแท้" เมื่อโดนจับได้ เจ๊ก็เลยเฉไฉไปว่า "แต่ทว่า...เอ๊...บรรพบุรุษของเรานมัสการพระเจ้าบนภูเขา ส่วนพวกท่านนมัสการในพระวิหาร ณ กรุงเยรูซาเล็ม" พระเยซูเจ้าจึงทรงสอนว่าวิธีการนมัสการพระเจ้าที่ถูกต้องก็คือ "การนมัสการด้วยจิตวิญญาณและความสัตย์จริง" ต่างหาก
เจ๊ชาวสะมาเรียคนนี้เป็นตัวอย่างของการนมัสการพระเจ้าที่ไม่ถูกต้อง ไม่ถูกต้องอย่างไร เพราะเธอไม่ได้มาพบพระเจ้าด้วยจิตวิญญาณและความสัตย์จริง เธอได้ปิดบังความจริงในชีวิตของเธอ นับตั้งแต่พระเยซูเจ้าทรงทักทายเธอแล้ว เธอก็ทำทีสงวนท่าทีเป็นเบญจกัลยาณี ทั้งๆที่เธออยู่กินกับชายอื่นมาร่วม 6 คนแล้ว และเมื่อพระเยซูเจ้าทรงรู้ทันเธอ จึงทรงให้เธอไปตามสามีมา เจ๊แกกินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง แต่เธอก็ยังทำไก๋ โดยบอกว่า "ไม่มี้ ดิฉันไม่มีสามีเจ้าค่ะ" และพระองค์ก็ทรงเฉลยให้เธอรู้ว่า พระองค์ทรงล่วงรู้ความจริงมานานแล้วว่าเธอเคยอยู่กินกับชายอื่นมา 5 คนแล้ว คนปัจจุบันนี้เป็นคนที่ 6 นี่ไง หญิงคนนี้ไม่ได้มาพบพระเจ้าด้วยจิตวิญญาณและความสัตย์จริง เพราะถ้าเจ๊แกพบพระด้วยจิตวิญญาณและความสัตย์จริง เจ๊ก็จะไม่ไขสือ และท่าทีของเธอก็จะออกมาในอีกรูปแบบหนึ่ง เธอจะไม่ปกปิด ไม่ปิดบัง แต่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง นำตัวตนที่แท้จริงมาพบพระ
สิ่งนี้น่าจะเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นท่าทีของเราเวลาภาวนา เวลาภาวนา เราได้นำตัวเราที่แท้จริงมาพบพระหรือไม่ หลายๆครั้งเราใช้คำพูดสวยหรูในการภาวนา แต่นั่นออกมาจากจิตวิญญาณของเราแท้ๆหรือไม่ หรือแต่งให้ดูสวยหรูเท่านั้น สิ่งที่เรานำมาภาวนาเป็นความจริงในชีวิตของเราหรือเปล่า หรือเป็นคำพูดที่เราเสกสรรค์ปั้นแต่งให้ฟังดูดี (แต่พระเจ้าก็ทรงล่วงรู้ความจริงอยู่ดีนั่นแหละ) เวลาเราไปร่วมพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณ เราได้นำตัวเราที่แท้จริงไปพบพระหรือไม่ หรือเป็นตัวเราปลอมๆ เราไปด้วยใจหรือไม่ หรือไปเพราะเป็นหน้าที่ หรือว่าตัวอยูในวัด แต่ใจลอยไปไหนต่อไหนก็ไม่รู้ เวลาเรานมัสการพระเจ้า ภาวนาต่อพระองค์ เราพึงเอาตัวเราที่แท้จริงมาพบพระ เราควรนมัสการพระองค์ด้วยจิตวิญญาณ และสรรเสริญพระองค์ด้วยความสัตย์จริง
ผมว่าพระวรสารตอนนี้สำหรับผมจึงเตือนใจให้เรารำลึกถึงวีธีการและท่าทีที่ถูกต้องเหมาะสมในการนมัสการพระเจ้า โดยเราจำเป็นต้องนมัสการพระเจ้าด้วยจิตวิญญาณและความสัตย์จริงนั่นเองครับ
ถ้าสิ่งที่ผมแบ่งปันไปข้างต้นไม่ถูกต้องหรือเหมาะสมอย่างไร หรือผิดพลาดบกพร่องประการใด ขอได้โปรดชี้แนะด้วยนะครับ ขอบพระคุณครับ![]()
![]()
![]()