ขอคำภาวนาให้กับตัวเอง
ช่วยขยายความสักนิดก็ดีนะครับ ปัญหาที่เจอคืออะไร ผู้ขอคำภาวนาคือใคร มีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาอย่างไร ทางออกที่ต้องการเป็นอย่างไร
มิเช่นนั้นไม่รู้จะช่วยภาวนาให้อย่างไร
ถ้าเราไปที่ร้านแล้วบอกว่า "เจ๊ ม่าม่าซอง"
เจ๊อาจจะหยิบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อม่าม่ารสหมูสับให้ซองหนึ่ง หรืออาจจะไม่หยิบให้เพราะไม่รู้ว่าจะเอาอันไหนให้ ถ้าเขาเกิดหยิบรสหมูสับให้แล้วบังเอิญเราเป็นอิสลาม ก็อาจอารมณ์เสียหรือต้องคุยกันใหม่ หรือถ้าต้องการรสต้มยำกุ้งก็แสดงว่าการสือสารของเราไม่สัมฤทธิ์ผล หรือรับเอาไปแบบไม่คิดอะไรมาก แน่นอนมันคือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเหมือนกัน แต่มันใช่อย่างทีเราต้องการหรือไม่
ลองเข้าพบพระองค์แบบซื่อๆดูสิครับ เอาสิ่งทีเป็นตัวของเราแท้ๆอย่าปิดบังเข้าหาพระองค์ เราจะได้รับคำตอบอย่างชัดเจนยิ่งกว่า
"นางทูลพระองค์ว่าท่านเจ้าคะขอน้ำนั้นให้ดิฉันเถิดเพื่อดิฉันจะได้ไม่กระหายอีกและจะได้ไม่ต้องมาตักที่นี่" "พระเยซูตรัสกับนางว่าไปเรียกผัวของเจ้ามานี่เถิด"
"นางทูลพระองค์ว่าดิฉันไม่มีผัวค่ะ"พระเยซูตรัสกับนางว่า"เจ้าพูดถูกแล้วว่าผัวไม่มี เพราะเจ้าได้มีผัวห้าคนแล้วและคนที่เจ้ามีอยู่เดี๋ยวนี้ก็ไม่ใช่ผัวของเจ้าเรื่องนี้เจ้าพูดจริง"
มีอะไรก็บอกพระองค์ตรงๆครับ ถ้าจะให้เขาช่วยอธิษฐานให้ ถ้าไม่อายกันเกินไปลองระบุให้ชัดเจนสักนิดสิครับ น่าจะได้ผลดีกว่า
เป็นกำลังใจให้นะครับ
มิเช่นนั้นไม่รู้จะช่วยภาวนาให้อย่างไร
ถ้าเราไปที่ร้านแล้วบอกว่า "เจ๊ ม่าม่าซอง"
เจ๊อาจจะหยิบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยี่ห้อม่าม่ารสหมูสับให้ซองหนึ่ง หรืออาจจะไม่หยิบให้เพราะไม่รู้ว่าจะเอาอันไหนให้ ถ้าเขาเกิดหยิบรสหมูสับให้แล้วบังเอิญเราเป็นอิสลาม ก็อาจอารมณ์เสียหรือต้องคุยกันใหม่ หรือถ้าต้องการรสต้มยำกุ้งก็แสดงว่าการสือสารของเราไม่สัมฤทธิ์ผล หรือรับเอาไปแบบไม่คิดอะไรมาก แน่นอนมันคือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเหมือนกัน แต่มันใช่อย่างทีเราต้องการหรือไม่
ลองเข้าพบพระองค์แบบซื่อๆดูสิครับ เอาสิ่งทีเป็นตัวของเราแท้ๆอย่าปิดบังเข้าหาพระองค์ เราจะได้รับคำตอบอย่างชัดเจนยิ่งกว่า
"นางทูลพระองค์ว่าท่านเจ้าคะขอน้ำนั้นให้ดิฉันเถิดเพื่อดิฉันจะได้ไม่กระหายอีกและจะได้ไม่ต้องมาตักที่นี่" "พระเยซูตรัสกับนางว่าไปเรียกผัวของเจ้ามานี่เถิด"
"นางทูลพระองค์ว่าดิฉันไม่มีผัวค่ะ"พระเยซูตรัสกับนางว่า"เจ้าพูดถูกแล้วว่าผัวไม่มี เพราะเจ้าได้มีผัวห้าคนแล้วและคนที่เจ้ามีอยู่เดี๋ยวนี้ก็ไม่ใช่ผัวของเจ้าเรื่องนี้เจ้าพูดจริง"
มีอะไรก็บอกพระองค์ตรงๆครับ ถ้าจะให้เขาช่วยอธิษฐานให้ ถ้าไม่อายกันเกินไปลองระบุให้ชัดเจนสักนิดสิครับ น่าจะได้ผลดีกว่า
เป็นกำลังใจให้นะครับ
เรื่องมีอยู่ว่า คนในครอบครัวแฟนไม่ยอมเข้าใจเกี่ยวกับศาสนาที่ผมนับถือและครอบครัวของแฟนจะเป็นครอบครัวที่มีความเครงครัดในศาสนาพุทธมากแม่ยายไม่ยอมเปิดใจเลย แม่ยาย เขาบอกว่าถ้าจะมาอยู่ในบ้านหลังนี้(หมายถึงบ้านของแฟน)จะต้องไม่พูดเรี่องราวของพระเจ้าอย่างเด็ดขาด ส่วนแฟนผมนั้นไม่มีปัญหาอะไรเขาเรียนคำสอนและรับศีลล้างมาเป็นคริสตชนแล้วแต่ยังไม่ได้บอกท่านเพราะถ้าบอกเขาจะตัดแม่ตัดลูกเลยแฟนเขาก็กลัวแม่จะตัดเขาจริงๆแต่ผมบอกแฟนว่าถ้าเราเดินในทางของพระเจ้าเราจะกลัวสิ่งใดอีกเพราะในคำภีร์เขีนยว่าถ้าเราสละพ่อแม่พี่น้องเพราะเห็นแก่พระเจ้าเราจะได้ทุกอย่างกลับมาผมบอกแฟนดังนี้เขาก็สบายใจ
ต่อมาผมย้ายเข้าอยู่บ้านแฟนแม่ยายก็ตั้งข้อรังเกียจเราทำงานทุกอย่างให้ท่านๆก็ยังไม่พอใจแต่เราก็ไม่ถือโกรธท่านจนวันนึงมาถึงผมและแฟนชี้แจงว่าถ้าเราอยู่ร่วมกันเราต้องพูดคุยและเครียล์ปัญหากันแต่ท่านไม่ยอมเข้าใจและนำเรื่องที่เราชี้แจงไปเล่าให้เพื่อนบ้านฟังและบอกว่าแฟนผมโง่เชื่อแต่สามีตัวเองผมตัดสินใจออกมาอยู่ข้างนอกบ้านมาเช่าเขาอยู่แต่ก็ยังคอยส่งข้าวนำและดูแลครอบครัวของแฟนเหมือนเดิมและผมไม่ถือโทษเขาที่เขาไม่รู้แต่ผมยังงงว่าผมผิดหรือที่นับถือพระเจ้า
ต่อมาผมย้ายเข้าอยู่บ้านแฟนแม่ยายก็ตั้งข้อรังเกียจเราทำงานทุกอย่างให้ท่านๆก็ยังไม่พอใจแต่เราก็ไม่ถือโกรธท่านจนวันนึงมาถึงผมและแฟนชี้แจงว่าถ้าเราอยู่ร่วมกันเราต้องพูดคุยและเครียล์ปัญหากันแต่ท่านไม่ยอมเข้าใจและนำเรื่องที่เราชี้แจงไปเล่าให้เพื่อนบ้านฟังและบอกว่าแฟนผมโง่เชื่อแต่สามีตัวเองผมตัดสินใจออกมาอยู่ข้างนอกบ้านมาเช่าเขาอยู่แต่ก็ยังคอยส่งข้าวนำและดูแลครอบครัวของแฟนเหมือนเดิมและผมไม่ถือโทษเขาที่เขาไม่รู้แต่ผมยังงงว่าผมผิดหรือที่นับถือพระเจ้า
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ตอบคุณ saroonram ครับ
ไม่ผิดหรอกครับที่เราเชื่อในพระองค์ พระองค์ยังเคยตรัสบอกเราไว้เลยครับว่า
ท่านจะถูกคนทั้งปวงเกลียด
ชังเพราะเห็นแก่นามของเรา แต่
ผู้ใดที่ทนได้ถึงที่สุด ผู้นั้นจะ
รอด มธ. 10:22
อดทนเถอะนะครับ สวดให้แม่ยายของคุณ
และหมั่นพลีกรรมชดเชยบาปครับ
ผมจะช่วยสวดให้คุณอีกแรงนะครับ
ไม่ผิดหรอกครับที่เราเชื่อในพระองค์ พระองค์ยังเคยตรัสบอกเราไว้เลยครับว่า
ท่านจะถูกคนทั้งปวงเกลียด
ชังเพราะเห็นแก่นามของเรา แต่
ผู้ใดที่ทนได้ถึงที่สุด ผู้นั้นจะ
รอด มธ. 10:22
อดทนเถอะนะครับ สวดให้แม่ยายของคุณ
และหมั่นพลีกรรมชดเชยบาปครับ
ผมจะช่วยสวดให้คุณอีกแรงนะครับ
รม 8:31-39 บทเพลงสรรเสริญความรักของพระเจ้า
แล้วเราจะพูดอะไรอีกในเรื่องนี้ ถ้าพระเจ้าทรงอยู่ข้างเรา ใครจะสู้เราได้ พระองค์มิได้ทรงหวงแหนพระบุตรของพระองค์ แต่ทรงมอบพระบุตรเพื่อเราทุกคน แล้วพระองค์จะไม่ประทานทุกสิ่งให้เราพร้อมกับองค์พระบุตรหรือ ใครเล่าจะฟ้องร้องผู้ที่ทรงเลือกสรรไว้แล้วได้ พระเจ้าประทานความชอบธรรม ใครเล่าจะตัดสินลงโทษ พระคริสตเยซูสิ้นพระชนม์ ทั้งยังทรงกลับคืนพระชนมชีพ ประทับอยู่เบื้องขวาของพระเจ้า ทรงวอนขอแทนเราอีกด้วย ใครจะพรากเราจากความรักของพระคริสตเจ้าได้ ความทุกข์ลำเค็ญหรือ ความคับแค้นใจหรือ การเบียดเบียนข่มเหงหรือ การขาดอาหารและเครื่องนุ่งห่มหรือ ภยันตรายและคมดาบหรือ ดังที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า
แล้วเราจะพูดอะไรอีกในเรื่องนี้ ถ้าพระเจ้าทรงอยู่ข้างเรา ใครจะสู้เราได้ พระองค์มิได้ทรงหวงแหนพระบุตรของพระองค์ แต่ทรงมอบพระบุตรเพื่อเราทุกคน แล้วพระองค์จะไม่ประทานทุกสิ่งให้เราพร้อมกับองค์พระบุตรหรือ ใครเล่าจะฟ้องร้องผู้ที่ทรงเลือกสรรไว้แล้วได้ พระเจ้าประทานความชอบธรรม ใครเล่าจะตัดสินลงโทษ พระคริสตเยซูสิ้นพระชนม์ ทั้งยังทรงกลับคืนพระชนมชีพ ประทับอยู่เบื้องขวาของพระเจ้า ทรงวอนขอแทนเราอีกด้วย ใครจะพรากเราจากความรักของพระคริสตเจ้าได้ ความทุกข์ลำเค็ญหรือ ความคับแค้นใจหรือ การเบียดเบียนข่มเหงหรือ การขาดอาหารและเครื่องนุ่งห่มหรือ ภยันตรายและคมดาบหรือ ดังที่มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ใช้ความดีเอาชนะใจค่ะ
มีเรื่องหนึ่งจะเล่าให้ฟัง เป็นเรื่องจริงของสามี ภรรยาคู่หนึ่ง
เวลานี้ก็อายุมากแล้วค่ะ น่าจะ50-60 แล้ว คุณพ่อได้เล่าเรื่องของพวกเขาให้ฟัง
เพื่อสอนพวกเราทุกคน
เรื่องมีอยู่ว่าภรรยานั่นเป็นคาทอลิก ส่วนสามีเป้นพุทธ เมื่อแต่งงานใหม่ก็รักกันดี
อยู่ ๆ ไปนานวันเข้า เมื่อภรรยาเริ่มมีอายุ ไม่สาวไม่สวยเหมือนแต่ก่อน สามีด้วยความเจ้าชู้ก็ไปมีเมียน้อย
และขอหย่าภรรยา ฝ่ายภรรยาก็ว่า เธอเป้นคาทอลิก หย่าไม่ได้ และไม่ยอมหย่า
เมื่อเป็นเช่นนั้น สามีก็โกรธ "มึงไม่หย่า งั้นก็อยู่ด้วยกันอย่างนี้แหละ"
สามีก็เอาเมียน้อยเข้าบ้านเลย ให้ลูกเมียใหม่ เรียกเธอว่าแม่ใหญ่
เธอก็ได้แต่น้ำตาตกใน มาปรับทุกข์กับคุณพ่ออยู่เป็นประจำ คุณพ่อก็ได้แต่ปลอบใจ
บอกให้เธอทำดีที่สุด เพื่อเห็นแก่พระเจ้า
เธอก็กลับบ้าน ดูแลทุกอย่างอย่างดี ก้มหน้าก้มตาทำงาน
ดูแลลูกเมียใหม่ ให้ความรักทุกอย่าง เรียกว่าด้านความเป้นภรรยาก็ไม่ขาดตกบกพร่องเลย
แม้จะเสียใจ ร้องไห้ แต่ก็อดทน มีโอกาสก็มาปรับทุกข์กับคุณพ่อ
จนเวลาผ่านไปเป็นสิบ ๆ ปี จนทั้งสามี และ เธอ ก็อายุขึ้นเลข 50-60 นี่แหละค่ะ
วันหนึ่งสามีก็พูดกับภรรยาคาทอลิกว่า "เฮ้ย... (ชื่อเธอ) กูนับถือน้ำใจมึงจริง ๆ ว่ะ กูเชื่อแล้ว กูจะเข้าคริสต์กับมึง"
ที่สุดเมื่อประมาณ 4 ปีก่อนมั๊งคะ สามีเธอก็ได้รับศีลล้างบาป (จำไม่ค่อยได้เรื่องระยะเวลา แต่สามีล้างบาปแล้ว)
ส่วนเรื่องในครอบครัว เราก็ไม่รู้ว่าเขาจัดการกันอย่างไรนะคะ
LL ไม่ได้ติดตามต่อ แต่LL จะชี้ให้เห้นว่า การพิสูจน์ความมั่นคง ความเป็นคริสตชนของเรานั้น
สำหรัยบางคน มันไม่ใช่ 1 ปี 2 ปี แต่อาจจะต้องใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตในการพิสูจน์ความเชื่อ
ดังนั้น เรื่องของคุณ ไม่เป้นไรค่ะ
อดทน ทำความดี ในพระนามของพระเจ้าต่อไปเถิดค่ะ และจงยิ่งทำให้มากขึ้น
ให้แสงแห่งพระเจ้าส่องออกมาจากตัวเราให้ได้ เมื่อเขาเห็นพระเยซูเจ้าในตัวเราเมื่อไร
เขาจะยอมรับเราในที่สุด และอย่าลืม สวดของพระเจ้าให้เปิดจิตใจของสมาชิกในบ้านด้วย
มีเรื่องหนึ่งจะเล่าให้ฟัง เป็นเรื่องจริงของสามี ภรรยาคู่หนึ่ง
เวลานี้ก็อายุมากแล้วค่ะ น่าจะ50-60 แล้ว คุณพ่อได้เล่าเรื่องของพวกเขาให้ฟัง
เพื่อสอนพวกเราทุกคน
เรื่องมีอยู่ว่าภรรยานั่นเป็นคาทอลิก ส่วนสามีเป้นพุทธ เมื่อแต่งงานใหม่ก็รักกันดี
อยู่ ๆ ไปนานวันเข้า เมื่อภรรยาเริ่มมีอายุ ไม่สาวไม่สวยเหมือนแต่ก่อน สามีด้วยความเจ้าชู้ก็ไปมีเมียน้อย
และขอหย่าภรรยา ฝ่ายภรรยาก็ว่า เธอเป้นคาทอลิก หย่าไม่ได้ และไม่ยอมหย่า
เมื่อเป็นเช่นนั้น สามีก็โกรธ "มึงไม่หย่า งั้นก็อยู่ด้วยกันอย่างนี้แหละ"
สามีก็เอาเมียน้อยเข้าบ้านเลย ให้ลูกเมียใหม่ เรียกเธอว่าแม่ใหญ่
เธอก็ได้แต่น้ำตาตกใน มาปรับทุกข์กับคุณพ่ออยู่เป็นประจำ คุณพ่อก็ได้แต่ปลอบใจ
บอกให้เธอทำดีที่สุด เพื่อเห็นแก่พระเจ้า
เธอก็กลับบ้าน ดูแลทุกอย่างอย่างดี ก้มหน้าก้มตาทำงาน
ดูแลลูกเมียใหม่ ให้ความรักทุกอย่าง เรียกว่าด้านความเป้นภรรยาก็ไม่ขาดตกบกพร่องเลย
แม้จะเสียใจ ร้องไห้ แต่ก็อดทน มีโอกาสก็มาปรับทุกข์กับคุณพ่อ
จนเวลาผ่านไปเป็นสิบ ๆ ปี จนทั้งสามี และ เธอ ก็อายุขึ้นเลข 50-60 นี่แหละค่ะ
วันหนึ่งสามีก็พูดกับภรรยาคาทอลิกว่า "เฮ้ย... (ชื่อเธอ) กูนับถือน้ำใจมึงจริง ๆ ว่ะ กูเชื่อแล้ว กูจะเข้าคริสต์กับมึง"
ที่สุดเมื่อประมาณ 4 ปีก่อนมั๊งคะ สามีเธอก็ได้รับศีลล้างบาป (จำไม่ค่อยได้เรื่องระยะเวลา แต่สามีล้างบาปแล้ว)
ส่วนเรื่องในครอบครัว เราก็ไม่รู้ว่าเขาจัดการกันอย่างไรนะคะ
LL ไม่ได้ติดตามต่อ แต่LL จะชี้ให้เห้นว่า การพิสูจน์ความมั่นคง ความเป็นคริสตชนของเรานั้น
สำหรัยบางคน มันไม่ใช่ 1 ปี 2 ปี แต่อาจจะต้องใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตในการพิสูจน์ความเชื่อ
ดังนั้น เรื่องของคุณ ไม่เป้นไรค่ะ
อดทน ทำความดี ในพระนามของพระเจ้าต่อไปเถิดค่ะ และจงยิ่งทำให้มากขึ้น
ให้แสงแห่งพระเจ้าส่องออกมาจากตัวเราให้ได้ เมื่อเขาเห็นพระเยซูเจ้าในตัวเราเมื่อไร
เขาจะยอมรับเราในที่สุด และอย่าลืม สวดของพระเจ้าให้เปิดจิตใจของสมาชิกในบ้านด้วย

-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
อ่านเรื่องของพี่แอลแอลแล้วรู้สึกดีมากเลยครับ 

- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ยินดีรับใช้ค่ะ 

โอโห คนอะไรทนได้เป็นสิบๆปี
สมควรให้สามีดังกล่าว นับถือจริงๆ
ป.ล. อาจจะเป็นเเผนการของพระเจ้า ให้สามีกลับใจก็ได้ค่ะ
สมควรให้สามีดังกล่าว นับถือจริงๆ

ป.ล. อาจจะเป็นเเผนการของพระเจ้า ให้สามีกลับใจก็ได้ค่ะ