ไม่แน่ใจว่า กรอบที่อึดอัดนี่ คือกรอบคาทอลิกหรือกรอบวัฒนธรรมคะ

พี่ส้มขา ตรงกะชีวิตหนูเลยค่ะ แต่ดีที่หนูออกจากบ้านไปแค่2 ปีกว่าๆ ก็คิดถึงบ้าน คิดถึงพ่อ คิดถึงแม่ จนกระทั่งได้กลับบ้านและเคารพเชื่อฟังพ่อ แม่ อย่างถึงที่สุด จนกระทั่งวันนี้ค่ะBuddy เขียน:
ที่พูดว่า วันนึงจะกลับบ้าน หมายถึง บ้านคาทอลิกนะคะ ไม่ใช่วันสองวันนี้ แต่อาจเป็นสิบ ยี่สิบปี วันนี้เราต้องออกไปเรียนรู้ก็ขอให้ไป แต่วันนึงจะกลับมา พระองค์จะดึงให้กลับมา และวันนั้นจะเป็นวันที่เราเข้าใจเรื่องศีลศักดิ์สิทธิ์ เข้าใจความเป็นสงฆ์ อย่างถ่องแท้ และวันนั้นจะเป็นวันที่เรานบนอบต่อพระเป็นเจ้าอย่างถึงที่สุด และสัมผัสกับพระองค์อย่างที่ไม่เคยมาก่อน
น้องแทงค์รับไม่ได้เหรอ พี่กลับชอบนะน้อง เห็นอาม่าแดนซ์กระจายอย่างนั้น พี่ยังแอบดิ้นตามคุณยายพวกนั้นเลย มันส์ออกน้องS.Paulvs De Bangkok เขียน:พูดตรงๆนะรับไม่ได้ที่คุณยาย โบสถ์แองกลิกัน เต้นเพลงโย่วๆ แบบวัยรุ่น อายุก็มากแล้วสังขารก็ไม่ค่อยดีเกิดล้มขึ้นมาล่ะจะเป็นยังไงไม่ตายเลยหรอวัยแง้มฝาโรงน่าจะเตรียมตัวเตรียมใจมั่ง ไม้ใกล้ฝั่ง ยางใกล้แตก ยังอยากซ่าอยู่มันดูยังไงอยู่นะยศิโยน:ผู้ยำเกรงพระเจ้า เขียน:ก็ลองไปดูสิGray Cat Mobster เขียน: ถ้าแบบบุคลิกแบบเหมือนคุณปู่ พอจะไปสายไหนได้ครับ คาทอลิก ออร์โด๊อกซ์ โปรเตสแตนท์
พี่ยังเคยเห็น คุณยาย โบสถ์แองกลิกัน เต้นเพลงโย่วๆ แบบวัยรุ่นสามารถมาก
แต่อย่าเปลี่ยนกลับไปกลับมา คนอื่นๆจะมองว่าเป็นคนโลเล![]()
ง่า.....พี่ส้มข๋าBuddy เขียน:คำว่าอิสระในที่นี้คงจะเป็นคนละเรื่องกับที่พี่ส้มหมายถึงล่ะค่ะ คงหมายถึงเรื่องแบบแผนอีกแหละค่ะ ส่วนมากคาทอลิกจะกำหนดมาแล้วเป็นสูตร เช่น บทภาวนา ต้องท่องอะไรก่อน ต่อด้วยอะไร อันนู้นกี่จบอันนี้กี่จบ แต่ถ้าโปรฯนอกจากบทข้าแต่พระบิดาแล้ว ส่วนมากจะปล่อยให้ใช้คำพูดอิสระ
คือไม่ได้หมายถึงเรื่องเต้นอ่ะค่า หมายถึง พวกระเบียบแบบแผน คือหนูมักจะเป็นตัวของตัวเอง บางครั้งก็ใส่แบบฉบับของตัวเอง สไตล์ของตัวเอง เช่นการนำนมัสการ หรือการแบ่งปัน ถ้ามีแบบแผนตายตัวแบบคาทอลิกหนูก็ไม่ไหว และบทบาทบางอย่างพระศาสนจักรก็ไม่ได้เปิดโอกาสให้ผู้หญิงทำ แต่ถ้าไม่มีระเบียบแบบแผนเลย จับฉ่าย อะไรก็ได้ แบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกันค่ะ
อ้าวงั้นที่พี่สวดอยู่ทุกวันนี้ก็ผิดหลักคาทอลิกอะดิพี่ว่าเหตุผลหลักของเราคืออันหลังนะ แต่พี่ก็ไม่เข้าใจคำว่า ที่ออกไปจากกรอบนึงเพื่อไปอยู่อีกกรอบเนี่ยเรียกอิสระ :huh:
ถ้าเราไม่ได้รับศีลแต่แรก พี่จะไม่พูดแบบนี้ เราจะได้อยู่บ้านเดียวกัน ...... แต่อันนี้บอกตรงๆนะคะว่า พี่ไม่แน่ใจ เพราะด้วยศีลศักดิ์สิทธิ์ วิญญาณเราจะถูกฟอร์มขึ้นใหม่ เป็นวิญญาณที่โตได้ด้วยศีลศักดิ์สิทธิ์ อย่างที่พี่พีพีเคยพูดว่า คาทอลิกเติบโตได้ด้วยศีลศักดิ์สิทธิ์ เหมือนพระเจ้าสร้างดอกบัวให้อยู่ในน้ำ วันนึงดอกบัวบอกว่า จะไปอยู่บนบก ถามว่า ดอกบัวจะโตได้มั้ย บัวจะโตได้ก็ต่อเมื่อกลับมาอยู่ในน้ำ
ที่พูดว่า วันนึงจะกลับบ้าน หมายถึง บ้านคาทอลิกนะคะ ไม่ใช่วันสองวันนี้ แต่อาจเป็นสิบ ยี่สิบปี วันนี้เราต้องออกไปเรียนรู้ก็ขอให้ไป แต่วันนึงจะกลับมา พระองค์จะดึงให้กลับมา และวันนั้นจะเป็นวันที่เราเข้าใจเรื่องศีลศักดิ์สิทธิ์ เข้าใจความเป็นสงฆ์ อย่างถ่องแท้ และวันนั้นจะเป็นวันที่เรานบนอบต่อพระเป็นเจ้าอย่างถึงที่สุด และสัมผัสกับพระองค์อย่างที่ไม่เคยมาก่อน
อืม...อันนี้ก้อเพิ่งรุเหมือนกันนะคะว่ามีผู้หญิงวางแผนงานอภิบาล และที่สำคัญเทศน์ในมิสซาด้วยBuddy เขียน: จะว่าไป .... พี่ก็มานั่งนึกนะว่า ผู้หญิงทำอะไรไม่ได้บ้่าง ก็นึกไม่ออก นอกจากการเสกศีล โปรดศีลนี่แหละ เราส่งศีลได้ วางแผนงานอภิบาลได้ เทศน์ในมิสซาได้ (ที่นี่ทำกันนะคะ) เป็นผู้นำวิญญาณได้ คุณพ่อที่นี่หลายองค์มีผู้นำวิญญาณเป็นผู้หญิง (ไม่ใช่นักบวชนะคะ สัตบุรุษนี่แหละ)
ไม่แน่ใจว่า กรอบที่อึดอัดนี่ คือกรอบคาทอลิกหรือกรอบวัฒนธรรมคะ![]()
มีหลายที่อยู่นะ ถ้า48ก็ รามฯ48(ที่วันก่อนพี่แมวไป) เข้า ซ.ไม่ถึง100เมตร (ลงรถผิดป้าย เดินหาจนแทบเป็นลม)Gray Cat Mobster เขียน: อ้อ แล้ว คริสตจักรลูเธอแรน นี่ อยู่ตรงไหนงับ (ใช่ลาดพร้าว48หรือเปล่าเอ่ย) ช่วยชี้ทางเข้าทีงับ
เผื่อแวะแวะไปหา(ทำไมดปรแกรมเที่ยวชั้นเยอะจริงๆ ชอบๆ)
ง่า.....พี่ส้มข๋า ทั้งหมดนี้พี่คงไม่รู้รายละเอียด จิงๆแล้วหนูมีเบื้องหลังที่มีไม่กี่คนรู้ คือก่อนที่หนูรับศีลล้างบาปคาทอลิก หนูผ่านบัพติสมาโปรฯมาก่อนอ่ะค่ะ (มันซับซ้อนมากเกินบรรยาย พี่คงไม่เข้าใจ ) แต่ทุกสิ่งที่พระองค์อนุญาตให้เกิดขึ้นไม่มีอะไรบังเอิญ พระองค์มีแผนการที่เราคาดไม่ถึง และถึงยังไงหนูก็ค่อนข้างแน่ใจว่าพระเจ้าคงไม่แยกบ้านเราหรอกค่ะ ในโลกนี้อาจจะดูเหมือนคนละบ้าน ในด้านกรอบความคิดของมนุษย์เรา แต่บ้านพระองค์มีบ้านเดียวสำหรับทุกคนที่เชื่อในพระองค์
เรียนที่ไหนเหรอที่บอกว่าไม่ได้อ่ะ มันไม่ได้ผิด doctrine นะ .. แต่ก็ไม่ถึงกับแพร่หลาย พอคุณพ่ออ่านพระวรสารเสร็จก็ไปนั่งฟังเทศน์ เสร็จแล้วก็มาเสกศีลต่อ ::001:: ... ส่วนการวางแผนงานอภิบาล คือตั้งแต่ strategic planning เริ่มมีบทบาท ก็ต้องมีการทำงานเป็นทีม ผู้หญิงก็เข้ามาทำได้น่ะจ้ะ และก็มีบางวัดที่ outsource .... อันนี้ที่อเมริกานะอืม...อันนี้ก้อเพิ่งรุเหมือนกันนะคะว่ามีผู้หญิงวางแผนงานอภิบาล และที่สำคัญเทศน์ในมิสซาด้วย
ที่เรียนเคยมาคือทำไม่ได้อ่ะค่ะ(เอ....หรือเราเข้าใจผิดเอง )
เมืองไทยคงไม่มีอะพี่ หรืออาจจะมี แต่หนูไม่รู้Buddy เขียน:เรียนที่ไหนเหรอที่บอกว่าไม่ได้อ่ะ มันไม่ได้ผิด doctrine นะ .. แต่ก็ไม่ถึงกับแพร่หลาย พอคุณพ่ออ่านพระวรสารเสร็จก็ไปนั่งฟังเทศน์ เสร็จแล้วก็มาเสกศีลต่อ ::001:: ... ส่วนการวางแผนงานอภิบาล คือตั้งแต่ strategic planning เริ่มมีบทบาท ก็ต้องมีการทำงานเป็นทีม ผู้หญิงก็เข้ามาทำได้น่ะจ้ะ และก็มีบางวัดที่ outsource .... อันนี้ที่อเมริกานะอืม...อันนี้ก้อเพิ่งรุเหมือนกันนะคะว่ามีผู้หญิงวางแผนงานอภิบาล และที่สำคัญเทศน์ในมิสซาด้วย
ที่เรียนเคยมาคือทำไม่ได้อ่ะค่ะ(เอ....หรือเราเข้าใจผิดเอง )
ตอนที่พี่เห็นครั้งแรกที่นี่พี่ก็งง แต่ก็ถามเพื่อนที่เป็นเณรเมืองไทยนะ เพื่อนบอกว่า ได้ ไม่มีปัญหา ใครเทศน์ก็ได้ ..... แต่คุณพ่อต้องใจกว้างนิดนึงนะMaew Martha (Grace) เขียน:เมืองไทยคงไม่มีอะพี่ หรืออาจจะมี แต่หนูไม่รู้Buddy เขียน:เรียนที่ไหนเหรอที่บอกว่าไม่ได้อ่ะ มันไม่ได้ผิด doctrine นะ .. แต่ก็ไม่ถึงกับแพร่หลาย พอคุณพ่ออ่านพระวรสารเสร็จก็ไปนั่งฟังเทศน์ เสร็จแล้วก็มาเสกศีลต่อ ::001:: ... ส่วนการวางแผนงานอภิบาล คือตั้งแต่ strategic planning เริ่มมีบทบาท ก็ต้องมีการทำงานเป็นทีม ผู้หญิงก็เข้ามาทำได้น่ะจ้ะ และก็มีบางวัดที่ outsource .... อันนี้ที่อเมริกานะอืม...อันนี้ก้อเพิ่งรุเหมือนกันนะคะว่ามีผู้หญิงวางแผนงานอภิบาล และที่สำคัญเทศน์ในมิสซาด้วย
ที่เรียนเคยมาคือทำไม่ได้อ่ะค่ะ(เอ....หรือเราเข้าใจผิดเอง )
สงสัยตอนนั้นหนูจะไม่ได้ตั้งใจฟังพ่อสอนมั้งมัวแต่คุยกะเพื่อน(ขนาดนั่งหน้าสุดเลยนะเนี่ย) อิอิ
หรือหนูอาจจะเข้าใจผิดเอง เด๋วยังไงจะลองโทรฯไปถามเพื่อนที่ยังเรียนอยู่อีกทีละกาน![]()