JERUSALEM (AP) - เอกสารอายุย้อนหลังไป 3 ศตวรรษชิ้นนี้ เขียนโดย เซอร์ไอแซค นิวตัน นักวิทยาศาสตร์เอกของโลก ในเอกสารนี้ท่านได้คำนวณวันสิ้นโลกโดยยึดตามพระคัมภีร์, บอกรายละเอียดของความกว้างยาวที่แน่นอนของพระวิหารเก่าแก่ในกรุงเยรูซาเล็ม และยังได้แปลข้อความบางตอนของพระคัมภีร์ไบเบิลด้วย. นี่เป็นครั้งแรกที่เอกสารชิ้นนี้ถูกนำออกแสดง เผยให้เราทราบถึงความศรัทธาในศาสนาของนักวิทยาศาสตร์เอกของโลกท่านนี้.
* * * * * *

เซอร์ไอแซค นิวตัน เสียชีวิตเมื่อ 280 ปีก่อน ท่านมีความเชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์สาขา ฟิสิกส์, ดาราศาสตร์, คณิตศาสตร์,แสงและการมองเห็น. แต่ในนิทรรศการที่เยรูซาเล็มครั้งนี้ยังเปิดเผยให้เห็นอีกด้านหนึ่ง นั่นคือความเชื่ออย่างลึกซึ้งในพระเป็นเจ้า ท่านจึงได้อุทิศเวลาในการศึกษาและเขียนบทความเกี่ยวกับกฎบัญญัติของชาวยิว ท่านได้ศึกษาหนังสือของดาเนียลในพระคัมภีร์พระธรรมเก่าเพื่อค้นคว้าเกี่ยวกับวันอวสานของโลก
เอกสารชิ้นนี้ได้ถูกซื้อไปจากห้างประมูลสินค้าหายากซอทบีในกรุงลอนดอน, โดยนักวิชาการชาวยิวผู้หนึ่งในปี 1936 ต่อมาเอกสารได้ถูกเก็บรักษาไว้ในห้องสมุดแห่งชาติของอิสราเอลในกรุงเยรูซาเล็มตั้งแต่ 1969 มีนักวิชาการเพียงไม่กี่คนที่มีโอกาสได้เห็นเอกสารชิ้นนี้. และไม่เคยนำออกแสดงแก่สาธารณชนมาก่อนเลย.
เอกสารถูกเขียนขึ้นในปี 1700 ในข้อความบางตอนของเอกสารนั้น, ไอแซค นิวตัน ได้ศึกษาคำทำนายที่บรรยายอย่างลึกลับจากหนังสือดาเนียลในพระคัมภีร์มาใช้คำนวณหาวันเวลา และได้ผลสรุปว่า วันอวสานของโลกจะอยู่ประมาณปี ค.ศ. 2060.
"มันอาจจะเลยไปหน่อย แต่ผมไม่เห็นเหตุผลที่มันจะมาเร็วกว่านี้" นิวตันได้เขียนอธิบายไว้. อย่างไรก็ตาม,ท่านกล่าวต่อว่า "ที่ผมกล่าวเช่นนี้ ไม่ได้หมายที่จะยืนยันถึงวันเวลาที่แน่นอนของวันอวสานของโลกหรอกนะ แต่ผมต้องการจะหยุดยั้งการด่วนสรุปหรือคาดเดาของพวกนักเพ้อฝันที่ทำนายทายทักบ่อยครั้งในเรื่องวันอวสานของโลก เพราะการกระทำเช่นนั้นจะทำให้ความศักดิ์สิทธิ์ของคำพยากรณ์ของพระคัมภีร์ด้อยคุณค่าไป เมื่อปรากฏว่ามันไม่เป็นไปตามที่ทำนายไว้"
ในเอกสารอีกส่วนหนึ่ง, นิวตันได้แปลคำทำนายจากพระคัมภีร์ออกมาได้ว่า ชาวยิวจะกลับมาสู่แผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ก่อนวันอวสานของโลก. และในอวสานกาลนั้นจะได้เห็น "การล่มสลายของชาติที่ชั่วช้าเลวทราม, การสิ้นสุดของการร่ำไห้คร่ำครวญและความทุกข์ยากลำบาก, การที่ชาวยิวจะกลับตกเป็นเชลยและได้กลับมาก่อร่างสร้างอาณาจักรที่ไม่มีที่สิ้นสุด"
งานนิทรรศจะมีการแสดงหนังสือตำราที่ใช้ประจำวันในวิหารในเยรูซาเล็มด้วย. ในเอกสารส่วนหนึ่งของนิวตัน, ท่านได้บอกถึงความกว้างยาวที่แน่นอนของวิหารเอาไว้ - ท่านเชื่อว่ามันถูกออกแบบให้เหมือนการจัดระเบียบของจักรวาล. และได้เสก็ตภาพคร่าวๆ. เอกสารอีกส่วนหนึ่ง,นิวตันเขียนบันทึกอักษรฮีบรูซึ่งเป็นประโยคที่นำมาจากหนังสือสวดภาวนาของชาวยิว.
Yemima Ben-Menahem หนึ่งในผู้ดูแลนิทรรศการ, ได้กล่าวว่า เอกสารชิ้นนี้บ่งชี้ว่า นิวตันมีความเชื่อว่า ความรู้ที่สำคัญๆถูกซ่อนอยู่ในข้อความโบราณ.
"ท่านเชื่อว่ามีความรู้ขั้นสูงในโลกนี้ที่สูญหายไปค่ะ. และคิดว่ามันเป็นรหัสลับ, โดยอาศัยการศึกษาสิ่งต่างๆเช่น ความกว้างยาวของวิหาร ท่านก็จะสามารถถอดรหัสนั้นได้" .
เธอกล่าวต่อไปว่า เอกสารของนิวตัน ยังให้ทัศนะเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของวิทยาศาสตร์ที่มีต่อศาสนา "เอกสารเหล่านี้แสดงว่านักวิทยาศาสตร์ได้ถูกนำทางโดยความเชื่อทางศาสนา ท่านปรารถนาที่จะได้เห็นผลงานต่างๆของพระเป็นเจ้าในโลกนี้" .
นอกจากเอกสารชิ้นนี้แล้ว, ยังมีเอกสารอื่นๆอีกมากที่นำออกแสดงแต่ดูไม่น่าสนใจเท่า เช่น เอกสารที่นิวตันได้จดรายรับรายจ่ายอย่างละเอียดขณะที่ท่านเป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์, และเมื่อได้เป็นศาสตราจารย์ในโรยัลมินท์, และเอกสารการต่อรองกับกลุ่มเหมืองแร่จากเดวอนและคอนวอลเกี่ยวกับราคาของดีบุกที่จะส่งมาให้ควีนส์แอนน์
นอกจากนี้ยังมีเอกสารสำคัญของมหาวิทยาลัยฮีบรูในเยรูซาเล็ม อาทิเช่น จดหมายเขียนในปี 1940 จาก อัลเบิรต์ ไอน์ไสตน์ เขียนถึง อับราฮัม ชาลอม ยาฮูดา ซึ่งได้ซื้อมาเมื่อปีก่อน.
เอกสารของนิวตันที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อทางศาสนา ทำให้เราได้ภาพของตัวตนที่แท้จริงและเห็นจิตใจของนักคิดที่โดดเด่นผู้นี้
http://usatoday30.usatoday.com/tech/sci ... pers_N.htm
http://www.cnn.com/2007/TECH/science/06 ... index.html