ตัวอย่างคำพยาน
งานประกาศข่าวประเสริฐกลางแจ้งโดย ศจ.ดร. ที แอล ออสบอร์น (ที่ไม่ได้เรียกร้องค่าเข้าร่วม หรือเงิน บริจาคแต่อย่างใด) ได้เสร็จสิ้นลงในคืนวานนี้ (2 พ.ย. 2003) ที่สนามฟุตบอลโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย การรักษาโรคโดยอัศจรรย์เหนือธรรมชาติของพระเจ้า ได้ปรากฏแก่สายตาคนประมาณร่วมๆ หมื่นคน ที่อัดแน่น อยู่ในสนาม และทะลักขึ้นไปอยู่บนทางเชื่อมอาคาร
คืนวันแรก (31 ต.ค.) มีคนไปร่วมงานประมาณ 3-4 พันคน พระเจ้าได้รักษา คนที่หูหนวก จำนวนสิบกว่าคน ให้หาย บางคนหูหนวกมาแต่กำเนิด บางคนหูบอดไปเพราะอุบัติเหตุ และหลายคนหูหนวก เพราะอาการเจ็บป่วยอื่น ที่ลุกลามไปถึงแก้วหู ทำให้หูดับไป เมื่ออาจารย์ออสบอร์น ได้เทศนาข่าวประเสริฐ เรื่องพระเยซูคริสต์ แก่คนทั้งหลาย เราก็ได้ประจักษ์ว่า พระเยซูคริสต์ ยังทรงพระชนม์อยู่ และยังทรงรักษาโรคภัย ให้แก่ผู้ที่เชื่อ และยอมรับพระองค์ "วานนี้ วันนี้ และสืบๆ ไปเป็นนิตย์" ไม่เปลี่ยนแปลง
ในคืนวันที่สอง (1 พ.ย.) มีคนมาร่วมงานประมาณ 5-6 พันคน เราได้เห็นคนง่อยเดินได้! คนง่อยผู้นี้ ไม่สามารถลุกขึ้น แม้แต่จะยืนอยู่กับที่ เพราะกล้ามเนื้อแขนขาลีบหมด ไม่มีแรง แต่คืนนั้นเข้าเดินบนเวที และสรรเสริญพระเจ้า!! เราได้เห็นหญิงชรา ที่เจ็บป่วยด้วยโรคกระดูกผุ จนเดินเองไม่ได้แต่ต้องใช้เครื่องพยุง (walker) เธอสามารถทิ้งเครื่องช่วยเดิน และยิ่งกว่านั้นเธอได้เดินขึ้นบันไดเวที ด้วยตนเอง ขึ้นไปเป็นพยาน ในการรักษา ของพระเจ้า ลูกหลานของเธอกอดกันกลม ร้องไห้ด้วยความยินดี ที่พระเจ้าปลดปล่อยเธอ จากกรงขัง ของมาร เราได้เห็นผู้ป่วยที่ญาติพี่น้องเข็นมาในเก้าอี้ล้อ (wheelchair) อย่างน้อย 3 คน ได้เป็นอิสระ จากเก้าอี้ล้อ และญาติพี่น้องของเขา ได้เอาเก้าอี้ล้อออกไปจากตัวเขา และยกเก้าอี้นั้นขึ้นไปบนเวที จากนั้น ผู้ที่นั่งมาในเก้าอี้ล้อ ก็ได้เดินขึ้นไปสำแดงตัว เป็นพยานและขอบคุณพระเจ้า และยังมีผู้ที่สามารถทิ้งไม้เท้าสามขา และไม้เท้าขาเดียว อีกมากมาย ที่พระเจ้าได้ปลดปล่อยเขา ให้เป็นอิสระ เขาไม่ต้องการอุปกรณ์เหล่านั้นอีก ... อัศจรรย์ ! เราได้เห็นชายผู้หนึ่ง ที่ใช้ชีวิตเป็นร่างทรง ของเจ้าพ่อเจ้าแม่หลายองค์ มานับสิบๆ ปี และต้องการเลิกชีวิต ที่อยู่ใต้การบังคับของวิญญาณเหล่านั้น เขาได้เข้ามาในงานกับญาติของเขา เราได้เห็นเขาร้องเสียงดัง และดิ้นรนอย่างกับว่าร่างกายของเขา เป็นสมรภูมิของการทำสงคราม ระหว่างวิญญาณ เขาดิ้นและร้องคำราม และด้วยการที่คริสเตียนหลายคน ได้ช่วยกันยึดจับ และขับไล่สิ่งชั่วร้ายในตัวเขา โดยพระนามของพระเยซู ในที่สุดเขาก็สงบลง และได้รับการปลดปล่อยโดยสมบูรณ์ แน่นอนว่า เขาผู้นี้มิได้เป็นคริสเตียนมาก่อน... ในคืนที่สองนี้ เรายังได้เห็นพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนา ขึ้นไปนั่งฟัง การประกาศข่าวประเสริฐ อยู่บนอัฒจันทร์ด้วย ขอบคุณพระเจ้า ที่พระสงฆ์รูปนี้ ได้ให้โอกาสตนเอง เข้ามารับรู้ว่า พระเยซูคือใคร และรับรู้ว่า การยอมรับพระเยซู เป็นพระผู้ช่วยให้รอดไม่ใช่ศาสนาแห่งพิธีกรรม อย่างที่ใครๆ เข้าใจกัน ไม่ใช่เรื่องของบาทหลวง คุณพ่อเจ้าวัด บราเดอร์และซิสเตอร์ที่ดูทรงศีลในวัดคริสต์ แต่เป็นการเชื่อและวางใจ ในผู้ที่พระเจ้าทรงใช้ ให้นำเอาความรอด มาสู่โลกมนุษย์ ... เป็นทางเดียวที่พระเจ้าทรงจัดเตรียมไว้ ไม่มีทางอื่นอีก
ในคืนวันสุดท้าย (2 พ.ย.) ผู้คนมากันมากมาย กิตติศัพท์ในสองคืนแรกได้รับการบอกต่อกันไป ปากต่อปาก โดยไม่มีสื่อสารมวลชนใด มีส่วนโฆษณาแม้แต่น้อย เป็นการฟื้นฟูพระกิตติคุณ (Gospel) ของพระเยซูคริสต์ ครั้งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย คนร่วมหมื่น ชุมนุมกันแน่นสนามฟุตบอล!! หลายคนที่เรียกตนเองว่าเป็นคริสเตียน ได้กลับใจอย่างแท้จริง หญิงสาวคนหนึ่ง ที่คอของเธอมีจี้ไม้กางเขน เธอได้ทรุดตัวลงนั่งกับพื้นดิน ร้องไห้ด้วยความสำนึก ในชีวิตเดิม เธอได้รับชีวิตที่แท้จริงในคืนนั้น เธอได้เข้าใจโดยการสอนพระคัมภีร์ ของอาจารย์ออสบอร์นว่า ศาสนพิธี และการร้องเพลงในโบสถ์ ไม่ได้ช่วยเธอเลย แต่การเปิดใจรับพระเยซู อย่างหมดหัวใจนั้นต่างหาก คือชีวิตคริสเตียนที่แท้จริง ... ผู้ที่จะเข้าในแผ่นดินของพระเจ้า จะต้องเกิดใหม่ด้วยความเชื่อ ในพระเยซูคริสต์ เหมือนอย่างเด็กๆ ที่วางใจพ่อแม่ วางใจโดยสิ้นเชิง
ในคืนสุดท้ายนี้ หลังจากการเทศนาพระกิตติคุณ และการอธิษฐานขอการรักษาโรค เราได้เห็นเด็กชายอายุประมาณ 3-4 ขวบ ที่พ่อแม่พานั่งมาในเก้าอี้ล้อ เพราะเขาเดินไม่ได้มาตั้งแต่เกิด ได้ลุกขึ้นเดินเตาะแตะเป็นครั้งแรก และในที่สุดเด็กก็เดินเร็วขึ้น จนเกือบจะเรียกว่าวิ่ง! ไม่ต้องสงสัยเลยว่า พ่อแม่ของเขาจะดีใจเพียงใด พ่อแม่พาเขาขึ้นไปบนเวที เราทุกคนดีใจแทนเขา จนอดร้องไห้ไม่ได้
เราได้เห็นหญิงวัยกลางคน ที่ป่วยเป็นเบาหวาน จนต้องถูกตัดขาเหลือเพียงเข่าทั้งสองข้าง และเธอต้องตาบอด เพราะเบาหวาน เธอมิได้เป็นคริสเตียนมาก่อน แต่เมื่อเธอได้ฟังเทศนาแล้ว เธอเชื่อ ในพระนามพระเยซูคริสต์ว่า พระองค์สามารถช่วยเธอได้ แล้วจู่ๆ ในงานนี้เธอก็กลับเห็นได้อีก เธอคลานด้วยหัวเข่า ขึ้นไปบนเวทีเพื่อเป็น พยานพระเจ้า เธอร้องว่า "เห็นแล้ว เห็นทุกอย่างมีสีด้วย ขอบคุณพระเจ้า" ! ... เราได้เห็นเก้าอี้ล้ออีกหลายคัน ที่ถูกยกขึ้นแล้ว เจ้าของเก้าอี้ที่นั่งมาในงานได้เดินด้วยขาของตนเองขึ้นไปเป็นพยาน .... หนึ่งในนั้น เป็นคุณป้าคนหนึ่ง นั่งเก้าอี้ล้อที่มีผ้าบุ เก้าอี้สีแดงสะดุดตา เธอกล่าวว่า เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้นี้ มาสิบปีพอดี เธอลุกขึ้นยืนเองก็ไม่ได้ อย่าว่าแต่จะเดินเลย แต่ที่เราเป็น คือ เธอยืนอยู่กลางเวทีกับพยานคนอื่นๆ และเธอก้าวเดินช้าๆ อย่างกับคนที่เพิ่งหัดเดิน!!
เราได้เห็นหญิงกลางคนอีกคนหนึ่งที่เป็นมะเร็งที่กระดูกสันหลัง มีอาการเจ็บปวดมาก เธอผู้นี้มาร่วมงาน เพราะมีคนโทรศัพท์ไปบอกเธอให้มา เผื่อว่าเธอจะหาย และเธอก็ได้รับการรักษา ในคืนสุดท้ายนี้ เธอขึ้นไปบนเวที และกล่าวว่าเมื่อนั่งรถมา เธอยังมีอาการปวดมาก และเธอคิดว่าเธอจะต้องตายในไม่ช้า แต่หลังจากฟังพระกิติคุณ แล้วเธออธิษฐานตามที่ได้ยิน ขอให้พระเจ้ารักษาเธอ อาการปวดรุนแรงในกระดูก และแผ่นหลังของเธอ หายเป็นปลิดทิ้ง เธอเชื่อว่าพระเจ้า ทรงกำราบเซลล์มะเร็งให้แก่เธอ เป็นครั้งแรกที่เธอ ไม่มีความเจ็บปวดในร่างกาย ตั้งแต่ล้มป่วยมา และหลังจากนี้เธอจะไปให้หมอตรวจยืนยันอีกทีหนึ่ง เรารู้ว่าเธอได้รับการรักษาอย่างแน่นอน ของที่มาจากพระเจ้า ย่อมมีคุณภาพดีเลิศสูงสุดเสมอ ไม่ใช่ครึ่งๆกลางๆ ...
เราได้เห็นชายหนุ่มหน้าตาดีดูมีอนาคต แต่ต้องมีปัญหาเรื่องกระดูกหัวเข่า ทำให้เดินเองไม่ได้ และต้องใช้ไม้ค้ำยันรักแร้ และต้องใส่เฝือก (เฝือกอ่อน เพื่อพยุงกระดูกและกล้ามเนื้อหัวเข่า) ไว้ตลอดเวลา ในคืนนี้ เขาได้ทดลองเดิน โดยมีพี่สาวพยุงให้ลุกขึ้น และหัดเดินโดยไม่ใช้ไม้ค้ำยัน และในชั่วขณะเดียว ด้วยความเชื่อ เขาถอดเฝือกออกและเดิน!! เขาเดินได้ !! เดินตัวปลิวทีเดียว เขาเดินแหวกฝูงชนมากมาย ก้าวขึ้นไปบนเวที เพื่อสวมกอดอาจารย์ออสบอร์น ผู้เทศนาข่าวประเสริฐ เราได้เห็นไม้เท้าและเครื่องพยุงตัว (walker) หลายอัน ถูกยกชูขึ้นทึ่นั่นบ้าง ที่โน่นบ้างท่ามกลางฝูงชนและเสียงปรบมือกับเสียงตะโกนขอบคุณพระเจ้า เขาทำเช่นนั้น เพื่อเป็นพยานว่า เขาได้รับการรักษา และเวทีชั่วคราวก็เล็กเกินกว่าทุกคนจะขึ้นไปเป็นพยานได้ครบ พระเจ้าทรงเทฤทธิ์เดชแห่งการรักษาลงมายังคนป่วยเจ็บ ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร
ขอบคุณพระเยซูคริสต์ พระเจ้าผู้ยังทรงพระชนม์อยู่ เหตุการณ์เมื่อสองพันปีที่แล้ว ที่พระเยซูได้เสด็จไป ตามที่ต่างๆ เพื่อรักษาโรค และขับผีให้แก่ประชาชน ยังคงเกิดอยู่ในทุกวันนี้ และครั้งนี้เกิดขึ้นที่นี่ กรุงเทพมหานคร ประเทศไทยของเรา ... ขอบคุณพระเจ้า สรรเสริญพระเจ้า ... พระเจ้ากำลังกระทำการ กับทวีปเอเชีย อย่างไม่เคย ทรงกระทำมาก่อน พระกิตติคุณเริ่มในตะวันออกกลาง อ้อมไปทางตะวันตก อเมริกา ยุโรป และกำลังมายังเอเชีย ไม่มีสิ่งใดที่ยากสำหรับพระเจ้า แผนการณ์ของพระองค์ จะเป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์ พระคำของพระองค์ ที่ตรัสไว้ในพระคัมภีร์ไม่เป็นหมัน .... ฮาเลลูยา อาเมน.
พระเจ้าตรัสว่า "ถ้าเจ้าทั้งหลายฟังพระสุรเสียงของพระเจ้าของเจ้า
และกระทำสิ่งที่ชอบ ในสายพระเนตรของพระองค์ เงี่ยหูฟังพระบัญญัติของพระองค์
และปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของพระองค์ ทุกประการแล้ว โรคต่างๆ ซึ่งเราบันดาลให้เกิด...นั้น
เราจะไม่ให้บังเกิดแก่พวกเจ้าเลย เพราะเราคือพระเจ้า แพทย์ของเจ้า" [อพยพ 15:26]
http://webinspirer.com/godwithus/testim ... no=0000017
ดูเพิ่ม
http://www.jaisamarn.org/1/talk2u/defau ... 0&PageNo=1