ต่างกันยังไง
- servus_dei
- โพสต์: 26
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร มิ.ย. 19, 2007 11:19 am
- ติดต่อ:
ระหว่างเสื้อจำพวกสีน้ำตาลกับเสื้อจำพวกสีเขียวอ่ะครับ
บางทีเห็นมีสีฟ้าด้วย มันต่างกันยังไง?
ความหมาย? สัญลักษณ์? อยากเข้าใจจัง
แล้วเพื่อนๆมีใครใส่เสื้อจำพวกไปไหนมาไหนกันมั่งไหมครับ?
ส่วนใหญ่จะเห็นแต่สายประคำ..
บางทีเห็นมีสีฟ้าด้วย มันต่างกันยังไง?
ความหมาย? สัญลักษณ์? อยากเข้าใจจัง
แล้วเพื่อนๆมีใครใส่เสื้อจำพวกไปไหนมาไหนกันมั่งไหมครับ?
ส่วนใหญ่จะเห็นแต่สายประคำ..
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
servus_dei เขียน: ระหว่างเสื้อจำพวกสีน้ำตาลกับเสื้อจำพวกสีเขียวอ่ะครับ
บางทีเห็นมีสีฟ้าด้วย มันต่างกันยังไง?
ความหมาย? สัญลักษณ์? อยากเข้าใจจัง
แล้วเพื่อนๆมีใครใส่เสื้อจำพวกไปไหนมาไหนกันมั่งไหมครับ?
ส่วนใหญ่จะเห็นแต่สายประคำ..

http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=6224.0
ตามนี้คะ http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=6224.0Zaliaus เขียน: เสื้อจำพวก คืออะไรหรอ ??
- servus_dei
- โพสต์: 26
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร มิ.ย. 19, 2007 11:19 am
- ติดต่อ:
ขอโทษงับ โดนว่าเลยอ่ะ 

-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
servus_dei เขียน: ขอโทษงับ โดนว่าเลยอ่ะ

-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
วันที่ 16 กรกฎาคม วันฉลองแม่พระคาร์เมล
เสื้อจำพวกแม่พระคาร์เมล
เสื้อจำพวก คือเสื้อของคณะนักบวช ในอดีตเรียกว่า จำพวกนักบวช ต่อมาย่อขนาดให้เล็กลง สำหรับฆราวาสใช้ เสื้อจำพวกนี้ที่จริงมิใช่เครื่องแบบของนักบวช แต่เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องแบบ คือส่วนที่สวมทับลงบนเครื่องแบบของนักบวชขณะที่ทำงาน จะเรียกว่าเสื้อกันเปี้อนคงไม่ผิด รูปร่างเป็นผ้าแคบๆ กว้างขนาดไหล่และยาวเกือบถึงพื้น มีช่องกลมตรงกลางสำหรับสวมลงทางศีรษะ และปล่อยชายทั้งสองให้ตกไปข้างหน้าและข้างหลัง คล้ายกับชุดซิสเตอร์ที่อารามคาร์เมลสวมเวลาเข้าโบสถ์
คาร์เมลเป็นชื่อภูเขาเล็กๆ ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ตอนกลางของประเทศอิสราเอล ระหว่างนาซาเร็ธที่อยู่ทางเหนือและเยรูซาเลมที่ทางใต้ ภูเขาคาร์เมลมีชื่อเสียงมานานตั้งแต่สมัยพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมแล้ว เพราะเป็นที่พำนักของท่านประกาศกเอลียาห์ และทุกวันนี้ยังมีถ้ำเก่าแก่เล็กๆ บนภูเขาคาร์เมลนี้ ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นที่อยู่ของประกาศกเอลียาห์ในสมัยกระโน้น และมีอารามนักบวชคาร์เมลทั้งชายและหญิงใกล้ๆ กับถ้ำนี้ด้วย
ในศตวรรษที่ 13 มีการเริ่มตั้งคณะชั้นสามของคณะฤษีต่างๆ พวกที่อยู่ในคณะนี้คือฆราวาสที่เสื่อมใสในคณะฤษีคณะใดคณะหนึ่ง จึงมารวมกันภายใต้การดูแลขอฤษี มีระเบียบวินัยที่ไม่ขัดกับการเจริญชีวิตของฆราวาส และฤษีก็มักจะอนุญาตให้ฆราวาสพวกนี้สวมเสื้อแบบของคณะของตน แต่เป็นแบบที่ย่อที่สุดจากเสื้อทำงานหรือเสื้อกันเปื้อน โดยทำเป็นแผ่นสี่เหลี่ยม 2 แผ่นต่อกันด้วยเชือก สำหรับสวมเข้าทางศรีษะและปล่อยให้ห้อยลงมา ข้างหน้าแผ่นหนึ่ง ข้างหลังอีกแผ่นหนึ่ง ใช้ผ้าสีเดียวกันกับเสื้อของฤาษี
ในศตวรรษที่ 16 เสื้อจำพวกของคณะชั้นสามของคาร์เมลนี้ลดขนาดลงมาอีก จนเหลือเป็นผ้าเล็กๆ 2 แผ่น มีเนื้อที่ประมาณ 2 ตารางนิ้ว มีเชือกต่อให้ติดกัน สำหรับคล้องทางศรีษะได้ แต่เนื่องด้วยการใช้เสื้อจำพวกไม่สะดวกแม้จะเป็นแบบย่อให้เล็กลงแล้วก็ตาม เพราะติดเหงื่อไคลทำให้ดูไม่สะอาด เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 1910 พระสันตะปาปาจึงทรงอนุญาตให้ใช้เหรียญจำพวกแทนเสื้อจำพวกได้ โดยมีเงื่อนไขว่าเหรียญนั้นด้านหนึ่งเป็นรูปแม่พระ และเหรียญแทนจำพวกนี้เหรียญเดียว ใช้แทนเสื้อจำพวกของหลายคณะได้ เพราะเหรียญแทนจำพวกนี้จะต้องได้รับการเสกเหมือนกับเสื้อแทนจำพวกด้วย
การสวมเสื้อแทนจำพวกเป็นเครื่องหมายว่า ได้รับเข้าเป็นส่วนหนึ่งของคณะฤษีหรือนักบวช ทำให้ผู้สวมได้มีส่วนแบ่งในคำภาวนา, กิจกรรมต่างๆ ตลอดจนจิตตารมณ์ของคณะ ตามหลักของสหพันธ์นักบุญ และมีการรับรองเป็นทางการจากพระศาสนจักรด้วย จึงเป็นที่นิยมกันทั่วไปอย่างรวดเร็ว
ในศตวรรษที่ 14 ยอห์น ไวคลิฟ ตำหนิพวกฤษีบางท่านที่โฆษณาอ้างว่า ใครสวมเสื้อของคณะตนแล้วจะไม่มีตกนรก และเรื่องนี้ก็ลามไปถึงเสื้อจำพวก ของฆราวาสด้วย และเป็นต้นเสื้อแทนจำพวกของคณะคาร์เมล ทั้งนี้เพราะมีเรื่องเล่าว่า เมื่อ ค.ศ. 1251 แม่พระได้ทรงประจักษ์แก่นักบุญซีมอน สต็อก ฤษีคณะคาร์เมลชาวอังกฤษ และสัญญาว่า ผู้ถือเสื้อแทนจำพวกนี้จนวันตายจะไม่ตกนรก และในวันเสาร์แรกนับจากวันตาย แม่พระจะนำเขาเข้าสวรรค์. ความจริงเรื่องนี้เป็นเรื่องถกเถียงกันว่าจะเป็นเรื่องที่แท้จริงหรือแต่งขึ้นภายหลัง เพราะดูเหมือนว่าฤษีคณะคาร์เมลจะไม่รู้เรื่องนี้เลย ในศตวรรษที่ 13 เพราะไม่ปรากฏอยู่ในเอกสารของคณะเลย
เกี่ยวกับคำสัญญาของแม่พระ เราก็น่าจะศึกษาพิจารณาตามหลักแห่งความเชื่อ ที่ว่า แม่พระพูดถึงเรื่องสวมเสื้อจำพวกนี้ ก็ต้องเข้าใจให้ดีว่าไม่ใช่สวมเฉยๆ เหมือนเราสวมเสื้อผ้าธรรมดา โดยไม่คำนึงถึงความประพฤติของบุคคลที่สวมนั้น หากคิดเช่นนี้ก็เหมือนเครื่องลาง ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับคริสตชน การที่คนใช้เสื้อแทนจำพวกพ้นจากนรกนั้น ขึ้นอยู่กับความประพฤติของเขาต่างหาก เสื้อจำพวกเป็นเพียงเครื่องแสดงภายนอกเท่านั้น
ส่วนการช่วยให้ขึ้นสวรรค์ในวันเสาร์แรกนั้น เป็นการอ้างถึงเอกสารของพระสันตะปาปายวงที่ 22 ซึ่งในปัจจุบันนักศึกษาเทวศาสตร์ถือว่าเป็นของปลอม ชาวคาทอลิกเชื่อว่า แม่พระผู้มีพระทัยเมตตาเยี่ยงมารดา จะยินดีช่วยวิญญาณซึ่งเคยเป็นข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ขณะชีวิตอยู่ในโลกนี้ ให้เขาขึ้นสวรรค์ในวันเสาร์แรกก็ได้ เพราะวันเสาร์เป็นวันที่เราชาวคริสตชนถวายแด่แม่พระเป็นพิเศษ
จาก...พลมารีสาร กรกฎาคม'93 .
http://www.geocities.com/prakobkit/saintday/cloth.htm
เสื้อจำพวกแม่พระคาร์เมล
เสื้อจำพวก คือเสื้อของคณะนักบวช ในอดีตเรียกว่า จำพวกนักบวช ต่อมาย่อขนาดให้เล็กลง สำหรับฆราวาสใช้ เสื้อจำพวกนี้ที่จริงมิใช่เครื่องแบบของนักบวช แต่เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องแบบ คือส่วนที่สวมทับลงบนเครื่องแบบของนักบวชขณะที่ทำงาน จะเรียกว่าเสื้อกันเปี้อนคงไม่ผิด รูปร่างเป็นผ้าแคบๆ กว้างขนาดไหล่และยาวเกือบถึงพื้น มีช่องกลมตรงกลางสำหรับสวมลงทางศีรษะ และปล่อยชายทั้งสองให้ตกไปข้างหน้าและข้างหลัง คล้ายกับชุดซิสเตอร์ที่อารามคาร์เมลสวมเวลาเข้าโบสถ์
คาร์เมลเป็นชื่อภูเขาเล็กๆ ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ตอนกลางของประเทศอิสราเอล ระหว่างนาซาเร็ธที่อยู่ทางเหนือและเยรูซาเลมที่ทางใต้ ภูเขาคาร์เมลมีชื่อเสียงมานานตั้งแต่สมัยพระคัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิมแล้ว เพราะเป็นที่พำนักของท่านประกาศกเอลียาห์ และทุกวันนี้ยังมีถ้ำเก่าแก่เล็กๆ บนภูเขาคาร์เมลนี้ ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นที่อยู่ของประกาศกเอลียาห์ในสมัยกระโน้น และมีอารามนักบวชคาร์เมลทั้งชายและหญิงใกล้ๆ กับถ้ำนี้ด้วย
ในศตวรรษที่ 13 มีการเริ่มตั้งคณะชั้นสามของคณะฤษีต่างๆ พวกที่อยู่ในคณะนี้คือฆราวาสที่เสื่อมใสในคณะฤษีคณะใดคณะหนึ่ง จึงมารวมกันภายใต้การดูแลขอฤษี มีระเบียบวินัยที่ไม่ขัดกับการเจริญชีวิตของฆราวาส และฤษีก็มักจะอนุญาตให้ฆราวาสพวกนี้สวมเสื้อแบบของคณะของตน แต่เป็นแบบที่ย่อที่สุดจากเสื้อทำงานหรือเสื้อกันเปื้อน โดยทำเป็นแผ่นสี่เหลี่ยม 2 แผ่นต่อกันด้วยเชือก สำหรับสวมเข้าทางศรีษะและปล่อยให้ห้อยลงมา ข้างหน้าแผ่นหนึ่ง ข้างหลังอีกแผ่นหนึ่ง ใช้ผ้าสีเดียวกันกับเสื้อของฤาษี
ในศตวรรษที่ 16 เสื้อจำพวกของคณะชั้นสามของคาร์เมลนี้ลดขนาดลงมาอีก จนเหลือเป็นผ้าเล็กๆ 2 แผ่น มีเนื้อที่ประมาณ 2 ตารางนิ้ว มีเชือกต่อให้ติดกัน สำหรับคล้องทางศรีษะได้ แต่เนื่องด้วยการใช้เสื้อจำพวกไม่สะดวกแม้จะเป็นแบบย่อให้เล็กลงแล้วก็ตาม เพราะติดเหงื่อไคลทำให้ดูไม่สะอาด เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 1910 พระสันตะปาปาจึงทรงอนุญาตให้ใช้เหรียญจำพวกแทนเสื้อจำพวกได้ โดยมีเงื่อนไขว่าเหรียญนั้นด้านหนึ่งเป็นรูปแม่พระ และเหรียญแทนจำพวกนี้เหรียญเดียว ใช้แทนเสื้อจำพวกของหลายคณะได้ เพราะเหรียญแทนจำพวกนี้จะต้องได้รับการเสกเหมือนกับเสื้อแทนจำพวกด้วย
การสวมเสื้อแทนจำพวกเป็นเครื่องหมายว่า ได้รับเข้าเป็นส่วนหนึ่งของคณะฤษีหรือนักบวช ทำให้ผู้สวมได้มีส่วนแบ่งในคำภาวนา, กิจกรรมต่างๆ ตลอดจนจิตตารมณ์ของคณะ ตามหลักของสหพันธ์นักบุญ และมีการรับรองเป็นทางการจากพระศาสนจักรด้วย จึงเป็นที่นิยมกันทั่วไปอย่างรวดเร็ว
ในศตวรรษที่ 14 ยอห์น ไวคลิฟ ตำหนิพวกฤษีบางท่านที่โฆษณาอ้างว่า ใครสวมเสื้อของคณะตนแล้วจะไม่มีตกนรก และเรื่องนี้ก็ลามไปถึงเสื้อจำพวก ของฆราวาสด้วย และเป็นต้นเสื้อแทนจำพวกของคณะคาร์เมล ทั้งนี้เพราะมีเรื่องเล่าว่า เมื่อ ค.ศ. 1251 แม่พระได้ทรงประจักษ์แก่นักบุญซีมอน สต็อก ฤษีคณะคาร์เมลชาวอังกฤษ และสัญญาว่า ผู้ถือเสื้อแทนจำพวกนี้จนวันตายจะไม่ตกนรก และในวันเสาร์แรกนับจากวันตาย แม่พระจะนำเขาเข้าสวรรค์. ความจริงเรื่องนี้เป็นเรื่องถกเถียงกันว่าจะเป็นเรื่องที่แท้จริงหรือแต่งขึ้นภายหลัง เพราะดูเหมือนว่าฤษีคณะคาร์เมลจะไม่รู้เรื่องนี้เลย ในศตวรรษที่ 13 เพราะไม่ปรากฏอยู่ในเอกสารของคณะเลย
เกี่ยวกับคำสัญญาของแม่พระ เราก็น่าจะศึกษาพิจารณาตามหลักแห่งความเชื่อ ที่ว่า แม่พระพูดถึงเรื่องสวมเสื้อจำพวกนี้ ก็ต้องเข้าใจให้ดีว่าไม่ใช่สวมเฉยๆ เหมือนเราสวมเสื้อผ้าธรรมดา โดยไม่คำนึงถึงความประพฤติของบุคคลที่สวมนั้น หากคิดเช่นนี้ก็เหมือนเครื่องลาง ซึ่งเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับคริสตชน การที่คนใช้เสื้อแทนจำพวกพ้นจากนรกนั้น ขึ้นอยู่กับความประพฤติของเขาต่างหาก เสื้อจำพวกเป็นเพียงเครื่องแสดงภายนอกเท่านั้น
ส่วนการช่วยให้ขึ้นสวรรค์ในวันเสาร์แรกนั้น เป็นการอ้างถึงเอกสารของพระสันตะปาปายวงที่ 22 ซึ่งในปัจจุบันนักศึกษาเทวศาสตร์ถือว่าเป็นของปลอม ชาวคาทอลิกเชื่อว่า แม่พระผู้มีพระทัยเมตตาเยี่ยงมารดา จะยินดีช่วยวิญญาณซึ่งเคยเป็นข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ขณะชีวิตอยู่ในโลกนี้ ให้เขาขึ้นสวรรค์ในวันเสาร์แรกก็ได้ เพราะวันเสาร์เป็นวันที่เราชาวคริสตชนถวายแด่แม่พระเป็นพิเศษ
จาก...พลมารีสาร กรกฎาคม'93 .
http://www.geocities.com/prakobkit/saintday/cloth.htm
- ~KaThaRoS~
- โพสต์: 792
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ก.ค. 06, 2007 12:07 am
- ที่อยู่: Bkk
- ติดต่อ:
15 บาทค่ะtaiyo เขียน: ที่อัสสัมชัญ มีขายราคาเท่าไรบ้างครับ
-
- โพสต์: 548
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 07, 2007 8:07 pm
ทำไมเรียกว่าเสื้อ ทำไมไม่เรียกว่าสายครับ
ไฟชั่วนิรันดร = นรกใช่ไหม
แล้วราคาเท่าไรครับ (สายจำพวก กับ สายจำพวก)
แนะนำ
http://www.geocities.com/prakobkit/new1/28.html
ไฟชั่วนิรันดร = นรกใช่ไหม
แล้วราคาเท่าไรครับ (สายจำพวก กับ สายจำพวก)
แนะนำ
http://www.geocities.com/prakobkit/new1/28.html
แก้ไขล่าสุดโดย holy holy holy เมื่อ ศุกร์ ก.ค. 13, 2007 3:49 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ของนักบวชนี่ เป็นเสื้อเลยนะครับ ไม่ได้เป็นแค่สายเล็กๆเท่านั้นholy holy holy เขียน: ทำไมเรียกว่าเสื้อ ทำไมไม่เรียกว่าสายครับ
ไฟชั่วนิรันดร = นรกใช่ไหม
แล้วราคาเท่าไรครับ (สายจำพวก กับ สายจำพวก)
แนะนำ
http://www.geocities.com/prakobkit/new1/28.html


เสื้อจำพวกที่ซิสเตอร์คาร์เมไลท์สวม เป็นผ้าสี่เหลี่ยมที่สวมทับชุดยาว

ของภราดาก็เช่นเดียวกัน
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ตามที่พี่เพชรโพสต์รูปให้ดู
ดูแล้ว ถ้าเป็นเมืองร้อนจะเพิ่มความร้อนให้นะ ถ้าเป็นเมืองฤดูหนาวอุ่นดี
มองแบบไม่สร้างสรรค์ เหมือนผ้ากันเปื้อน เวลาทำงาน นะ
ดูแล้ว ถ้าเป็นเมืองร้อนจะเพิ่มความร้อนให้นะ ถ้าเป็นเมืองฤดูหนาวอุ่นดี
มองแบบไม่สร้างสรรค์ เหมือนผ้ากันเปื้อน เวลาทำงาน นะ
ผมก็ยังไม่เคยใส่ ไม่รู้ว่าร้อนหรือเปล่านะครับ
จะให้ดูชุดแบบเต็มยศ ก็เจอของคณะคาร์เมไลท์ดั้งเดิม ซึ่งน่าจะหนารุ่มร่ามกว่าคณะคาร์เมไลท์ปฏิรูป


จะให้ดูชุดแบบเต็มยศ ก็เจอของคณะคาร์เมไลท์ดั้งเดิม ซึ่งน่าจะหนารุ่มร่ามกว่าคณะคาร์เมไลท์ปฏิรูป



-
- โพสต์: 548
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 07, 2007 8:07 pm
คนธรรมดาใส่ได้ไหมครับ
แล้วราคาครับเท่าไร
แล้วราคาครับเท่าไร
คนธรรมดา ก็ห้อยสายจำพวกได้ครับ สวมเสื้อจำพวกสำหรับนักบวชบางคณะสวมครับholy holy holy เขียน: คนธรรมดาใส่ได้ไหมครับ
แล้วราคาครับเท่าไร
-
- โพสต์: 548
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 07, 2007 8:07 pm
อยากใส่เพราะพระแม่บอกว่า คนที่ตายแล้วใส่เสื้อจะไม่ทรมานในไฟชั่วนิรันดร์
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
เอ่ ... เป็นความเชื่อถูก หรือเปล่า คนที่ต้องทรมานในไฟ/บึงไฟชั่วนิรันดร์ คือคนที่ไม่ได้รับความรอด ไม่วางใจเชื่อในพระบุตร ความรอดนั้น รอดด้วยholy holy holy เขียน: อยากใส่เพราะพระแม่บอกว่า คนที่ตายแล้วใส่เสื้อจะไม่ทรมานในไฟชั่วนิรันดร์
พระหรรษทาน (พระคุณ ) มิใช่หรือ นี่คือพื้นฐาน ของคริสตชน แต่ในเรื่องเสริมเพิ่ม ขึ้นมาของแต่ล่ะ นิกาย หรือคณะ นั้นคนละเรื่องกัน

-
- โพสต์: 548
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 07, 2007 8:07 pm



ถ้าท่านสวมเสื้อจำพวกสีน้ำตาลของพระนางมารีอา ขอแนะนำท่านให้รู้จักกับนักบุญไซมอนสต๊อก ท่านอาจเคยเห็นภาพนักบุญบนเสื้อจำพวก ความจริง นักบุญไซมอนเป็นเพื่อนที่คุ้นหน้าคุ้นตาทีเดียว เพราะพระมารดาผู้ศักดิ์สิทธิ์ของเราได้ประทานเสื้อจำพวกสีน้ำตาลแก่ท่านในปี 1251 พระนางทรงตรัสว่า "ใครก็ตามที่ตายสวมเสื้อจำพวกนี้จะไม่ทรมานในไฟชั่วนิรันดร"
ในยุคเรา สิ่งที่น่าสลดใจยิ่ง คือ คาทอลิกส่วนมากไม่รู้จักหรือลืมคำมั่นสัญญาของพระนางพรหมจารีมารีอา พระนางทรงตรัสต่อว่า "จงสวมเสื้อจำพวกอย่างศรัทธาและด้วยความเพียรพยายามจนถึงที่สุด นี่คือเสื้อของแม่ การสวมเสื้อนี้หมายความว่าลูกจะคิดถึงแม่ทุกเวลา และแม่ก็จะคิดถึงลูกเสมอๆและช่วยลูกบรรลุชีวิตนิรันดร"
นักบุญคล๊อดเดอลาโคลัมเบีย พระสงฆ์เยซูอิท จิตตาธิการของนักบุญมาร์กาเรตแมรี่ให้ข้อคิดว่า "เราได้พยายามทุกวิถีทางที่จะรักพระนางพรหมจารีมารีอา แต่ก็ยังไม่เป็นที่พอพระทัยของพระนาง เพราะทุกสิ่งที่เราได้ทำไม่อาจพาเราไปสวรรค์ ข้าพเจ้าขอพูดอย่างไม่ลังเลใจว่า เสื้อจำพวกสีน้ำตาลเป็นเครื่องมือที่ทรงพระฤทธานุภาพยิ่งนัก" ท่านพูดเสริมว่า "ไม่มีกิจศรัทธาอันใดที่ได้ก่อให้เกิดมหัศจรรย์มากมายเท่ากับเสื้อจำพวกสีน้ำตาล"
แล้วเชื่อใครดีล่ะ
แก้ไขล่าสุดโดย holy holy holy เมื่อ อาทิตย์ ก.ค. 15, 2007 8:42 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 548
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 07, 2007 8:07 pm
เสื้อจำพวกเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความรอดชั่วนิรันดร
ในปี 1930 ระหว่างสงครามกลางเมืองสเปน ศาลได้ตัดสินประหารชีวิตนักนิยมลัทธิคอมมิวนิสท์ 7 คน พระสงฆ์คณะคาร์เมลได้พยายามเตรียมเขาทั้งหลายเผชิญความตาย แต่ท่านถูกปฏิเสธ เหลือหนทางสุดท้าย ท่านได้นำบุหรี่ อาหาร และเหล้าองุ่นมาให้เขาทั้งหลายรับประทาน และสัญญาว่าท่านจะไม่พูดถึงเรื่องศาสนาอีก หลังจากนั้นสักครู่เขาทั้งหลายได้กลายเป็นมิตรของท่าน ดังนั้นท่านจึงขอร้องเขาทั้งหลายทำสิ่งหนึ่งเพื่อท่าน "อนุญาตข้าพเจ้าสวมเสื้อจำพวกให้ท่านทุกคนได้ไหม?" 6 คนตกลง คนเดียวเท่านั้นปฏิเสธ ในไม่ช้าคนที่ได้สวมเสื้อจำพวกได้ขอท่านโปรดศีลอภัยบาป คนที่ไม่ยอมสวมเสื้อจำพวกก็ยังคงปฏิเสธต่อไป เพื่อเอาใจเพื่อนฝูง เขายอมสวมเสื้อจำพวกและไม่ทำอะไรนอกเหนือจากนั้น เช้าวันรุ่งขึ้น เวลาประหารชีวิตใกล้เข้ามาทุกวินาที เขาแสดงเจตนาอย่างโปร่งใสว่าเขาจะไม่เรียกหาพระสงฆ์เด็ดขาด ถึงแม้เขาสวมเสื้อจำพวก เขาตัดสินใจเดินไปสู่ความตายเป็นศัตรูกับพระเป็นเจ้า กลุ่มทหารได้ยิงเป้าทั้ง 7 คน เขาทั้งหลายได้ล้มตายบนพื้นดิน แปลกประหลาดมาก เสื้อจำพวกอันหนึ่งถูกพบห่างจากร่างคนตายประมาณ 50 ก้าว 6 คนได้ตายสวมเสื้อจำพวกของพระนางพรหมจารีมารีอา ส่วนคนที่ 7 ตายไม่ได้สวมเสื้อจำพวก นักบุญคล๊อดอธิบายว่า "ถ้าท่านต้องการตายในบาปท่านก็จะตายในบาปโดยไม่ได้สวมเสื้อจำพวก" นักบุญคล๊อดเล่าว่า ชายคนหนึ่งพยายามโดดน้ำตาย 3 ครั้ง คนได้ช่วยเขารอดตายขัดต่อความปรารถนาของเขา ในที่สุดเขาพบว่าเสื้อจำพวกของเขาเป็นต้นเหตุให้เขาไม่ตาย เขาได้จบชีวิตโดยดึงเสื้อจำพวกที่คล้องคอออกและโดดลงน้ำ เขาก็จมน้ำตายในบาปปราศจากเสื้อป้องกันภัยอันตรายชั่วนิรันดร

ในปี 1930 ระหว่างสงครามกลางเมืองสเปน ศาลได้ตัดสินประหารชีวิตนักนิยมลัทธิคอมมิวนิสท์ 7 คน พระสงฆ์คณะคาร์เมลได้พยายามเตรียมเขาทั้งหลายเผชิญความตาย แต่ท่านถูกปฏิเสธ เหลือหนทางสุดท้าย ท่านได้นำบุหรี่ อาหาร และเหล้าองุ่นมาให้เขาทั้งหลายรับประทาน และสัญญาว่าท่านจะไม่พูดถึงเรื่องศาสนาอีก หลังจากนั้นสักครู่เขาทั้งหลายได้กลายเป็นมิตรของท่าน ดังนั้นท่านจึงขอร้องเขาทั้งหลายทำสิ่งหนึ่งเพื่อท่าน "อนุญาตข้าพเจ้าสวมเสื้อจำพวกให้ท่านทุกคนได้ไหม?" 6 คนตกลง คนเดียวเท่านั้นปฏิเสธ ในไม่ช้าคนที่ได้สวมเสื้อจำพวกได้ขอท่านโปรดศีลอภัยบาป คนที่ไม่ยอมสวมเสื้อจำพวกก็ยังคงปฏิเสธต่อไป เพื่อเอาใจเพื่อนฝูง เขายอมสวมเสื้อจำพวกและไม่ทำอะไรนอกเหนือจากนั้น เช้าวันรุ่งขึ้น เวลาประหารชีวิตใกล้เข้ามาทุกวินาที เขาแสดงเจตนาอย่างโปร่งใสว่าเขาจะไม่เรียกหาพระสงฆ์เด็ดขาด ถึงแม้เขาสวมเสื้อจำพวก เขาตัดสินใจเดินไปสู่ความตายเป็นศัตรูกับพระเป็นเจ้า กลุ่มทหารได้ยิงเป้าทั้ง 7 คน เขาทั้งหลายได้ล้มตายบนพื้นดิน แปลกประหลาดมาก เสื้อจำพวกอันหนึ่งถูกพบห่างจากร่างคนตายประมาณ 50 ก้าว 6 คนได้ตายสวมเสื้อจำพวกของพระนางพรหมจารีมารีอา ส่วนคนที่ 7 ตายไม่ได้สวมเสื้อจำพวก นักบุญคล๊อดอธิบายว่า "ถ้าท่านต้องการตายในบาปท่านก็จะตายในบาปโดยไม่ได้สวมเสื้อจำพวก" นักบุญคล๊อดเล่าว่า ชายคนหนึ่งพยายามโดดน้ำตาย 3 ครั้ง คนได้ช่วยเขารอดตายขัดต่อความปรารถนาของเขา ในที่สุดเขาพบว่าเสื้อจำพวกของเขาเป็นต้นเหตุให้เขาไม่ตาย เขาได้จบชีวิตโดยดึงเสื้อจำพวกที่คล้องคอออกและโดดลงน้ำ เขาก็จมน้ำตายในบาปปราศจากเสื้อป้องกันภัยอันตรายชั่วนิรันดร

-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
อาจจะเป็นเพราะว่าคุณ holy holy holy ศรัทธาจากเรื่องที่อ่านมาหน่ะครับ
แต่แม่พระเองก็ประจักษ์หลาย ๆ ครั้ง หลาย ๆ สถานที่ ให้เราสวดภาวนา ทำพลีกรรมใช้โทษบาปนะครับ
แต่ละครั้งการประจักษ์ แม่พระก็ประทานเครื่องมือที่ช่วยให้เรารอดได้ต่างกัน
เช่น สายประคำ สาย/เสื้อจำพวก อะไรแบบนี้อ่ะครับ
ลองอ่านคำสัญญาของแม่พระ 15 ประการของการสวดสายประคำ ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่กับการสวม สาย/เสื้อจำพวกหรอกครับ
แต่แม่พระเองก็ประจักษ์หลาย ๆ ครั้ง หลาย ๆ สถานที่ ให้เราสวดภาวนา ทำพลีกรรมใช้โทษบาปนะครับ
แต่ละครั้งการประจักษ์ แม่พระก็ประทานเครื่องมือที่ช่วยให้เรารอดได้ต่างกัน
เช่น สายประคำ สาย/เสื้อจำพวก อะไรแบบนี้อ่ะครับ
ลองอ่านคำสัญญาของแม่พระ 15 ประการของการสวดสายประคำ ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่กับการสวม สาย/เสื้อจำพวกหรอกครับ

-
- โพสต์: 548
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 07, 2007 8:07 pm
คำสัญญา 15 ข้อของแม่พระ
แม่พระประทานสัญญา 15 ข้อ แก่ผู้ที่สวดสายประคำ ด้วยใจศรัทธาว่า
1. ความศรัทธาต่อสายประคำเป็นเครี่องกำหนดความรอด
2. ผู้ใดสวดสายประคำอย่างศรัทธา และพากเพียรจะได้รับผลตามคำวิงวอน
3. ผู้เผยแพร่การสวดสายประคำ จะได้รับการข่วยให้พ้นภัย
4. จงยึดมั่นในการสวดสายประคำเสมอ แล้วท่านจะได้รับการคุ้มครองทั้งฝ่ายกายและฝ่ายวิญญาณ
5. ผู้ที่สวดสายประคำอย่างศรัทธา และรำพึงตามที่กำหนดไว้จะกลับใจ ถ้าเป็นคนบาป
6. ผู้ที่สวดสายประคำ จะได้รับความสว่างและพละกำลังตลอดขีวิตโดยเฉพาะเมื่อจะตาย
7. ผู้ที่มอบตัวแก่แม่พระด้วยการสวดสายประคำจะไม่พินาศ
8. แม่พระสัญญาจะคุ้มครองเป็นพิเศษแก่ผู้ที่สวดสายประคำ
9. จงประกาศการสวดสายประคำ เพราะสายประคำเป็นอาวุธสู้กับบาปและเป็นโล่ห์ป้องกันศัตรู
10. คนชอบธรรมที่สวดสายประคำ ก็จะได้รับพระหรรษทานทวีขึ้นและสมที่จะได้รับชิวิตนิรันดร
11. แม่พระสัญญาจะประทานพระหรรษทานเป็นพิเศษแก่ผู้ที่ศรัทธาต่อสายประคำ
12. แม่พระพอพระทัยที่จะให้ผู้สวดสายประคำได้รับความสว่าง และเต็มไปด้วยพระหรรษทาน
13. ผู้ที่ศรัทธาในสายประคำ เขาจะได้รับศีลศักดิ์สิทธิ์ก่อนสิ้นใจในศีลในพระพรของพระเป็นเจ้า
14. แม่พระจะช่วยวิญญาณของผู้ที่สวดสายประคำเป็นประจำให้พ้นไฟชำระโดยเร็ว
15. ผู้ที่สวดสายประคำด้วยดีจะได้รับสิริมงคลในสวรรค์
แม่พระประทานสัญญา 15 ข้อ แก่ผู้ที่สวดสายประคำ ด้วยใจศรัทธาว่า
1. ความศรัทธาต่อสายประคำเป็นเครี่องกำหนดความรอด
2. ผู้ใดสวดสายประคำอย่างศรัทธา และพากเพียรจะได้รับผลตามคำวิงวอน
3. ผู้เผยแพร่การสวดสายประคำ จะได้รับการข่วยให้พ้นภัย
4. จงยึดมั่นในการสวดสายประคำเสมอ แล้วท่านจะได้รับการคุ้มครองทั้งฝ่ายกายและฝ่ายวิญญาณ
5. ผู้ที่สวดสายประคำอย่างศรัทธา และรำพึงตามที่กำหนดไว้จะกลับใจ ถ้าเป็นคนบาป
6. ผู้ที่สวดสายประคำ จะได้รับความสว่างและพละกำลังตลอดขีวิตโดยเฉพาะเมื่อจะตาย
7. ผู้ที่มอบตัวแก่แม่พระด้วยการสวดสายประคำจะไม่พินาศ
8. แม่พระสัญญาจะคุ้มครองเป็นพิเศษแก่ผู้ที่สวดสายประคำ
9. จงประกาศการสวดสายประคำ เพราะสายประคำเป็นอาวุธสู้กับบาปและเป็นโล่ห์ป้องกันศัตรู
10. คนชอบธรรมที่สวดสายประคำ ก็จะได้รับพระหรรษทานทวีขึ้นและสมที่จะได้รับชิวิตนิรันดร
11. แม่พระสัญญาจะประทานพระหรรษทานเป็นพิเศษแก่ผู้ที่ศรัทธาต่อสายประคำ
12. แม่พระพอพระทัยที่จะให้ผู้สวดสายประคำได้รับความสว่าง และเต็มไปด้วยพระหรรษทาน
13. ผู้ที่ศรัทธาในสายประคำ เขาจะได้รับศีลศักดิ์สิทธิ์ก่อนสิ้นใจในศีลในพระพรของพระเป็นเจ้า
14. แม่พระจะช่วยวิญญาณของผู้ที่สวดสายประคำเป็นประจำให้พ้นไฟชำระโดยเร็ว
15. ผู้ที่สวดสายประคำด้วยดีจะได้รับสิริมงคลในสวรรค์
-
- โพสต์: 548
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 07, 2007 8:07 pm
พระเยซูเจ้าทรงสัญญากับผู้มีความศรัทธาต่อการเดินรูป 14 ภาค
1. เราจะประทานทุกสิ่งที่ผู้เดินรูปสวดขอด้วยความเชี่อ
2. เราจะประทานชีวิตนิรันดรแก่ผู้เดินรูปอย่างเสมอต้นเสมอปลาย
3. เราจะติดตามผู้เดินรูปไปทุกหนทุกแห่งในชีวิต และจะช่วยเขาโดยเฉพาะในเวลาเข้าตรีทูต
4. ถึงแม้ผู้เดินรูปได้ทำบาปมากกว่าใบหญ้าในทุ่งนาหรือเม็ดทรายในทะเล การเดินรูปจะลบล้างบาปของเขาทั้งหมด (อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องสารภาพบาปหนักทุกข้อในที่แก้บาปก่อนรับศีลมหาสนิท)
5. ผู้ที่ชอบเดินรูปบ่อยๆจะได้รับสิริมงคลพิเศษในสวรรค์
6. เราจะปลดปล่อยผู้เดินรูปออกจากไฟชำระในวันอังคารแรกหรือวันศุกร์แรกหลังจากเขาสิ้นชีวิตแล้ว
7. เราจะอวยพระพรผู้เดินรูปทุกสถาน พระพรของเราจะติดตามเขาไปทุกหนทุกแห่งบนแผ่นดินนี้ และหลังจากสิ้นใจแล้ว ไปในสวรรค์ตลอดกาล
8. เราจะทำลายอำนาจทั้งหมดของปิศาจ และไม่อนุญาตมันล่อลวงผู้เดินรูปขณะเข้าตรีทูต เขาจะได้หมดลมหายใจอย่างสงบในอ้อมแขนของเรา
9. ถ้าผู้เดินรูปสวดด้วยความรักอย่างแท้จริง เราจะให้เขาเป็นเหมือนพระอบศีล ซึ่งเราจะใช้สำหรับแจกจ่ายพระหรรษทานของเรา
10. ผู้ที่เดินรูปเป็นประจำจะได้รับการพิทักษ์รักษาและการคุ้มครองจากเราเป็นพิเศษ
11. เราจะอยู่ใกล้ชิดสนิทกับผู้เดินรูปอย่างสม่ำเสมอเป็นเกียรติแก่เรา
12. ผู้เดินรูปจะไม่มีวันพลัดพรากจากเรา เราจะประทานพระหรรษทานแก่เขา เขาจะได้ไม่ทำบาปหนัก
13. เราจะมาบรรเทาใจ ขณะเข้าตรีทูต ผู้ที่เดินรูปเป็นเกียรติแก่เราตลอดชีวิตและจะพาเขาเข้าสวรรค์ ความตายของเขาจะไม่ขมขื่น แต่จะหวานชื่น
14. วิญญาณของเราจะเป็นโล่คอยคุ้มกันผู้เดินรูป และจะช่วยเขาในเวลาที่เขาต้องการความช่วยเหลือ
1. เราจะประทานทุกสิ่งที่ผู้เดินรูปสวดขอด้วยความเชี่อ
2. เราจะประทานชีวิตนิรันดรแก่ผู้เดินรูปอย่างเสมอต้นเสมอปลาย
3. เราจะติดตามผู้เดินรูปไปทุกหนทุกแห่งในชีวิต และจะช่วยเขาโดยเฉพาะในเวลาเข้าตรีทูต
4. ถึงแม้ผู้เดินรูปได้ทำบาปมากกว่าใบหญ้าในทุ่งนาหรือเม็ดทรายในทะเล การเดินรูปจะลบล้างบาปของเขาทั้งหมด (อย่างไรก็ตาม จำเป็นต้องสารภาพบาปหนักทุกข้อในที่แก้บาปก่อนรับศีลมหาสนิท)
5. ผู้ที่ชอบเดินรูปบ่อยๆจะได้รับสิริมงคลพิเศษในสวรรค์
6. เราจะปลดปล่อยผู้เดินรูปออกจากไฟชำระในวันอังคารแรกหรือวันศุกร์แรกหลังจากเขาสิ้นชีวิตแล้ว
7. เราจะอวยพระพรผู้เดินรูปทุกสถาน พระพรของเราจะติดตามเขาไปทุกหนทุกแห่งบนแผ่นดินนี้ และหลังจากสิ้นใจแล้ว ไปในสวรรค์ตลอดกาล
8. เราจะทำลายอำนาจทั้งหมดของปิศาจ และไม่อนุญาตมันล่อลวงผู้เดินรูปขณะเข้าตรีทูต เขาจะได้หมดลมหายใจอย่างสงบในอ้อมแขนของเรา
9. ถ้าผู้เดินรูปสวดด้วยความรักอย่างแท้จริง เราจะให้เขาเป็นเหมือนพระอบศีล ซึ่งเราจะใช้สำหรับแจกจ่ายพระหรรษทานของเรา
10. ผู้ที่เดินรูปเป็นประจำจะได้รับการพิทักษ์รักษาและการคุ้มครองจากเราเป็นพิเศษ
11. เราจะอยู่ใกล้ชิดสนิทกับผู้เดินรูปอย่างสม่ำเสมอเป็นเกียรติแก่เรา
12. ผู้เดินรูปจะไม่มีวันพลัดพรากจากเรา เราจะประทานพระหรรษทานแก่เขา เขาจะได้ไม่ทำบาปหนัก
13. เราจะมาบรรเทาใจ ขณะเข้าตรีทูต ผู้ที่เดินรูปเป็นเกียรติแก่เราตลอดชีวิตและจะพาเขาเข้าสวรรค์ ความตายของเขาจะไม่ขมขื่น แต่จะหวานชื่น
14. วิญญาณของเราจะเป็นโล่คอยคุ้มกันผู้เดินรูป และจะช่วยเขาในเวลาที่เขาต้องการความช่วยเหลือ
-
- โพสต์: 548
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 07, 2007 8:07 pm
พระนางพรหมจารีมารีอาทรงประทานพระหรรษทานเจ็ดประการแก่คริสตชนผู้ถวายเกียรติแด่พระนางทุกวันโดยสวดบทวันทามารีอา
และรำพึงถึงมหาทุกข์ของพระนาง นักบุญบริดยิทเป็นคนแรกเผยแพร่ความศรัทธานี้
พระนางมารีอาสัญญาว่า:
1. แม่จะประทานสันติสุขแก่ครอบครัวของผู้มีความศรัทธาต่อมหาทุกข์เจ็ดประการ
2. เขาจะได้รับความสว่างสามารถเข้าใจรหัสธรรมลึกล้ำต่างๆ
3. แม่จะมาบรรเทาทุกข์เขาในยามเจ็บป่วยและเป็นเพื่อนเขาในเวลาทำงาน
4. แม่จะประทานสิ่งที่เขาขอจากแม่ ถ้าสิ่งนั้นไม่ขัดต่อน้ำพระทัยของพระบุตรและความศักดิ์สิทธิ์ของวิญญาณ
5. แม่จะพิทักษ์เขาในการต่อสู้กับฤทธิ์อำนาจของเจ้าแห่งความมืด และปกป้องคุ้มครองเขาทุกเวลาในระหว่างยังมีชีวิตอยู่
6. เขาจะได้เห็นแม่มาช่วยเขาในวาระสุดท้าย
7. แม่ได้ขอพระหรรษทานนี้จากองค์พระบุตรสำหรับคนที่เผยแพร่ความศรัทธาต่อมหา ทุกข์เจ็ดประการ หลังจากความตายในโลกนี้เขาจะได้เข้าสวรรค์โดยตรง เพราะพระบุตรจะให้อภัยบาปทั้งหมด และพระองค์จะเป็นความบรรเทาใจและความชื่นชมยินดีของเขาชั่วนิรันดร
และรำพึงถึงมหาทุกข์ของพระนาง นักบุญบริดยิทเป็นคนแรกเผยแพร่ความศรัทธานี้
พระนางมารีอาสัญญาว่า:
1. แม่จะประทานสันติสุขแก่ครอบครัวของผู้มีความศรัทธาต่อมหาทุกข์เจ็ดประการ
2. เขาจะได้รับความสว่างสามารถเข้าใจรหัสธรรมลึกล้ำต่างๆ
3. แม่จะมาบรรเทาทุกข์เขาในยามเจ็บป่วยและเป็นเพื่อนเขาในเวลาทำงาน
4. แม่จะประทานสิ่งที่เขาขอจากแม่ ถ้าสิ่งนั้นไม่ขัดต่อน้ำพระทัยของพระบุตรและความศักดิ์สิทธิ์ของวิญญาณ
5. แม่จะพิทักษ์เขาในการต่อสู้กับฤทธิ์อำนาจของเจ้าแห่งความมืด และปกป้องคุ้มครองเขาทุกเวลาในระหว่างยังมีชีวิตอยู่
6. เขาจะได้เห็นแม่มาช่วยเขาในวาระสุดท้าย
7. แม่ได้ขอพระหรรษทานนี้จากองค์พระบุตรสำหรับคนที่เผยแพร่ความศรัทธาต่อมหา ทุกข์เจ็ดประการ หลังจากความตายในโลกนี้เขาจะได้เข้าสวรรค์โดยตรง เพราะพระบุตรจะให้อภัยบาปทั้งหมด และพระองค์จะเป็นความบรรเทาใจและความชื่นชมยินดีของเขาชั่วนิรันดร