
Som
Junior Boarder
บาป โทษบาป ใช้โทษบาป พลีกรรม - 19/07/2007 14:14
--------------------------------------------------------------------------------
คุณพ่อคะ อยากรบกวนคุณพ่อเขียนบทความที่อ่านง่ายๆเรื่องเกี่ยวกับ บาป การไถ่บาป การใช้โทษบาป การพลีกรรม ได้มั้ยคะ
จากกระทู้นี้นะคะพ่อ (รบกวนคุณพ่ออ่านท้ายๆ ต้นๆจะเล่นกันก่อนค่ะ)
http://www.newmana.com/yabb/index.php?topic=6305.0
จะเห็นว่า แต่ละคนจะมีนิยามเป็นของตัวเองหมดเลย และความเข้าใจไม่ค่อยตรงกัน ส่วนนึงจากความเชื่อเืดิมทางพุทธ ส่วนนึงจากทางโปรฯไม่ยอมรับเรื่องการพลีกรรม (รึเปล่า) ส่วนนึงไม่เข้าใจการไถ่บาปของพระเยซูเจ้า ..... ลูกว่า คงไม่ใช่แค่นี้ที่ไม่เข้าใจนะคะ หลายคนคงไม่เข้าใจอย่างแท้จริงเหมือนกัน รวมถึงลูกเองด้วย (ลูกชื่อ Buddy ในบอร์ดนะคะ)
ลูกว่า ถ้ามีบทความดีๆเรื่องนี้ จะเป็นประโยชน์มากเลยค่ะ
ขอบพระคุณมากๆค่ะ
***************************************************************************************
พ่อไพบูลย์
ตอบ:บาป โทษบาป ใช้โทษบาป พลีกรรม - 25/07/2007 04:45
--------------------------------------------------------------------------------
ฺตอบ Buddy
1.) บาปคืออะไร? ถ้าตอบตามคำนิยามของชาวคริสต์คือ การตัดความสัมพันธ์กับพระเจ้า ไม่เชื่อพระ ไม่ยอมรับพระ ไม่ยอมรับความดีของพระองค์ ไม่ยอมรับบัญญัติของพระองค์ มองจากจุดนี้บาปจะเน้นที่ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระ
แต่บาปก็มองจากการผิดต่อบัญญัติได้ด้วยเช่นกัน คนที่ละเมิดบัญญัติต่างๆของพระก็ถือว่าทำบาป นอกนั้นบาปยังเกี่ยวข้องกับมนุษย์ด้วย คือ บาปหมายถึงทำลายหรือทำร้ายมนุษย์ด้วยกันในรูปแบบต่างๆมากมาย แต่สรุปแล้วบาปคือความชั่วร้าย ไร้ศีลธรรม เชิดชูความชั่วเหนือความดี บาปเป็นเรื่องของการทำลาย ฯลฯ
2) บาปกับการใช้โทษบาป? คนเราเมื่อทำบาปแล้วจะรู้สึกผิดโดยธรรมชาติ (คนที่มีมโนธรรมเที่ยงตรง) เมื่อรู้สึกผิดแล้วก็พยายามลบเสียงเตือนของมโนธรรมให้หายไป จะทำอย่างไร? คำตอบคือก็ต้องชดใช้ หรือชดเชยความเสียหายนั้น นี้คือที่มาของคำว่าใช้โทษบาป หรือการชดเชยบาปในธรรมเนียมของชาวคริสต์ (ชาวคริสต์เชื่อว่าบาปชดเชยได้ และได้รับการอภัยจากพระเจ้าได้ แต่พี่น้องชาวพุทธไม่ได้คิดอย่างเรา) โดยจริยธรรมที่มีตามธรรมชาติ เมื่อทำผิดและชดใช้ความผิด เสียงของมโนธรรมก็จะสงบลง ชาวคริสต์เมื่อทำบาปแล้วจึงมีการขออภัย พร้อมกับชดเชยบาปในรูปแบบต่างๆ ในประวัติศาสตร์ของคริสตศาสนาได้มีการชดเชยบาปผิดในรูปแบบตั้งแต่พื้นๆไปจนถึงเคร่งครัด ขึ้นอยู่กับความหนักเบาของบาปหรือความผิดนั้นๆ และร้ายไปกว่านั้นพระไม่ดีบางคนก็ใช้การชดเชยบาปเพื่อหาผลประโยชน์กับจำเลยด้วยก็มีเหมือนกัน แต่นั่นก็เป็นเรื่องของประวัติศาสตร์ในยุคมืด ที่สำคัญในเรื่องการชดเชยบาปคือ เมื่อทำผิดก็ต้องชดเชย นี่เป็นหลักจริยธรรมพื้นฐานตามธรรมชาติ เมื่อมีการชดเชย มโนธรรมก็จะสงบ และเพื่อให้การชดเชยบาปอยู่ในร่องรอยของจิตวิญญาณเท่านั้น ไม่เลยเถิดไปสู่ปัญหาอื่น คริสตศาสนาจึงแนะนำให้ชดเชยบาปในรูปแบบของการภาวนา การพลีกรรม การตัดใจ การฝึกจิต ฯลฯ ไม่แนะนำให้มีการชดเชยบาปเป็นเงินหรือวัตถุสิ่งของเพราะมันจะกลายเป็นการติดสินบนพระไป สรุปแล้ว บาปได้รับการอภัยไม่ใช่เพราะจำนวนของกิจใช้โทษบาป แต่ได้รับการอภัยเพราะการเป็นทุกข์เสียใจของคนบาปและเพราะพระเมตตาของพระเจ้า
3) การพลีกรรมคืออะไร? การพลีกรรมในธรรมเนียมชาวคริสต์นั้นถือเป็นกิจการกุศลอย่างหนึ่ง เป็นการฝึกจิตของตนเองให้เข้มแข็งเหนืออารมณ์ความอยากต่างๆ การพลีกรรมจะมีผลอะไร? มีผลต่อจิตใจของผู้ฝึกเอง คนที่มีจิตใจเข้มแข็งก็จะไม่พ่ายแพ้กับความโน้มเอียงฝ่ายต่ำหรือการล่อลวงของสิ่งไม่ดีต่างๆได้ เหมือนคนใจแข็งนั่นแหล่ะครับ เขาจะปฏิเสธความชั่วได้ทันที เมื่อเปรียบเทียบกับคนใจอ่อนแอ ดังนั้นการพลีกรรมจึงเป็นการฝึกจิต แต่การพลีกรรมก็ต้องระวังด้วยเช่นกัน อาจจะกลายเป็นความผิดหลงได้ด้วยหากสุดโต่งจนเกินไป เช่น ไม่ยอมทานข้าวปลาเลย จนผอมแห้ง หรือเฆี่ยนตัวทำร้ายตัวเองให้เจ็บ จนกลายเป็นการมองร่างกายเป็นสิ่งชั่วร้าย ฯลฯ การพลีกรรมจึงต้องเดินสายกลางและทำในสิ่งที่เหมาะสม เป้าหมายคือเพื่อเตือนใจตัวเอง เอาชนะใจตัวเอง อีกประการหนึงชาวคริสต์ทั่วไปจะพลีกรรมหรือทรมานกายร่วมกับพระเยซูเจ้าผู้ถูกทรมาน เรื่องความทุกข์ทรมานนั้นคงพูดได้อีกยาวทีเดียว เรารู้ว่าชาวไทยหลายคนมองความทุกข์ในด้านลบ แต่ชาวคริสต์จะมองในด้านบวก บนพื้นฐานที่ว่า อาศัยความเจ็บปวดและความตายของพระเยซูเจ้านั้น เราได้รับการยกบาปและมีชีวิตนิรันดร์ร่วมกับพระองค์ ความทุกข์จึงไม่ใช่สิ่งทั่วร้ายเสมอไป
ตอบมาถึงตรงนี้แล้วไม่รู้จะเข้าใจหรือเปล่านะครับ
พ่อ
