โธ่...ทำไงดีล้ะ
คือว่าวันจันทร์ที่17กันยายนนี้ เป็นวันเกิดเรา
และแม่บอกว่าให้ไปตักบาตรกับแม่ เรานี้เครียดเลย ทำไงดี
เราเลยบอกแม่ว่า ตื่นเช้าขี้เกียดตื่น
แม่บอกว่า ไม่ได้น้ะ ตักบาตรอยู่ทุกปี ปีนี้ไม่ตักได้ไง
และเราควรทำไงดี ใกล้ถึงและด้วย เราไม่อยากตักเลยอ่ะ T___T
เราอยากคุยกะแม่ให้รู้เรื่อง แต่ถ้าเราบอกแม่ไปตอนนี้เราคงอาจจะไม่ได้เรียนคำสอน
ช่วยให้คำแนะนำกับภาวนาให้ด้วยนะค้ะ เครียดชะมัดเลย เป็นหวัดเลยย
และแม่บอกว่าให้ไปตักบาตรกับแม่ เรานี้เครียดเลย ทำไงดี
เราเลยบอกแม่ว่า ตื่นเช้าขี้เกียดตื่น
แม่บอกว่า ไม่ได้น้ะ ตักบาตรอยู่ทุกปี ปีนี้ไม่ตักได้ไง
และเราควรทำไงดี ใกล้ถึงและด้วย เราไม่อยากตักเลยอ่ะ T___T
เราอยากคุยกะแม่ให้รู้เรื่อง แต่ถ้าเราบอกแม่ไปตอนนี้เราคงอาจจะไม่ได้เรียนคำสอน
ช่วยให้คำแนะนำกับภาวนาให้ด้วยนะค้ะ เครียดชะมัดเลย เป็นหวัดเลยย
ตักไปเถอะครับ เพื่อความสบายใจของแม่ เราก็คิดว่าการตักบาตรของเราคือการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์สิครับ ถ้าเกิดพระสวดให้ก็ไหว้ๆไปครับ(จะสวดบทของคาทอลิกในใจก็ไม่มีใครรู้นี่ครับ อิอิ) แล้วหลังจากนั้นก็ลองคุยกับแม่ดีดี ตอนแรกผมแม่ไม่ให้เรียนคำสอน แต่ว่าผมไปวัดทุกอาทิตย์เลย หลังๆมาแม่เลยเข้าใจ บอกว่าศาสนาอะไรก็ได้ขอให้เป็นคนดีก็พอ ยังไงก็จะเอาใจช่วยนะครับ สู้สู้ ขอพระอวยพร
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ตักไป ถือว่าให้ข้าวคนกิน
แต่เวลากรวดน้ำ ให้แม่กรวด
เวลาฟังอาราถนา ให้สวดข้าแต่พระบิดาในใจ
แต่เวลากรวดน้ำ ให้แม่กรวด
เวลาฟังอาราถนา ให้สวดข้าแต่พระบิดาในใจ
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
ไม่เหมือนผมแฮะ ผมจะยืนยันความเชื่อและการกระทำของผมไปเลยนะ ว่าผมมาทางนี้จริงๆไม่ครึ่งๆกลางๆ ไม่ตักก็คือไม่ตัก แต่ถามว่าช่วยงานกิจกรรมทางศาสนาไหมเช่น ยกถาดข้าว ยกถังสังฆทาน ผมก็ยกนะแต่เวลาเค้าสวดหรือกรวดน้ำผมก็เดินแยกตัวออกมา
-
- .
- โพสต์: 944
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 18, 2005 11:16 pm
เคยเป็นแบบนี้ค่ะ เพราะว่า ตอนเด็กๆคุณยายจะพาไปตักบาตรด้วยตลอด
ตอนที่ยังไม่ได้เรียนคำสอนก็ยังไม่ได้คิดอะไร แต่พอเริ่มรู้เรื่องแล้วก็ไม่อยากไปกับคุณยายค่ะ
แต่ว่านั่นทำให้ คนรอบข้างที่เป็นพุทธ เค้ามองเราว่า เราเป็นตัวแปลกประหลาดค่ะ
ทำให้เค้าต้องยกเว้นไว้
แล้วเค้าจะคิดว่า เราไม่ เคารพในศาสนาอื่น ที่ไม่ใช่ศาสนาของเรา
ซึ่งเราเคารพในศาสนาของพ่อแม่พี่น้องเราได้แต่เรา ไ ม่ นั บ ถื อ ค่ะ
. . . .
ถ้าเราบอกแม่ด้วยเหตุผลว่า ขี้เกียจตื่นเช้า
ใครเป็นแม่ฟังแล้วก็ต้องไม่เข้าหูค่ะ
เพราะว่าวันเกิดลูก แล้วลูกฉันจะไม่ทำบุญเพื่อตัวเองรึไง ทำนองนั้น
เรื่องนี้เราก็ต้องเอาใจแม่มาใส่ใจเราด้วยค่ะ..
เพราะหากว่าเราปฏิเสธ นั่นก็จะเป็นการทำให้เกิดบาปในทางศาสนาคริสเพราะว่า
ถ้าเราบอกว่าเราไม่ไปตักบาตรกับแม่หรอก รับรองล้านเปอร์เซนต์ว่าคุณแม่ต้องโมโหแน่นอนค่ะ
แล้วก็จะทำให้เทลาะกับคุณแม่อีก..
ทางที่ดีคือ ตักบาตรไปเลยค่ะ ไม่ต้องเครียด
เพราะว่าเราตักบาตรเพื่อทำให้แม่สบายใจ
เราไม่ได้เชื่อว่าเราตักบาตรแล้วเราจะได้บุญจากตรงนี้ให้พระรูปนี้อวยพร เปล่าค่ะ
แต่ เราทำไปเพราะความประสงค์ของแม่ ทำเพราะเรา นับถือบิดามารดา
และเราก็สามารถไหว้พระรูปนั้นได้ด้วยค่ะ แต่เราไหว้เค้า
เหมือนว่าเค้าเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง ซึ่ง เค้าปฎิบัติตัวดีเป็นคนดีที่ควรเคารพค่ะ
ทีสำคัญคือห้ามทำตัวแปลกแยกค่ะ เพราะ แม่เค้าจะรู้สึกว่าเราไม่เชื่อฟัง
เราก็ไหว้พระไป ตักบาตรไปตามธรรมดาทำตัวเนียนได้อย่างที่บอกค่ะ
เพราะเราก็มีวิธีการ ถนอมน้ำใจคุณแม่ ในแบบของเรา
แต่ที่สุดแล้ว ตัวเราเองที่รู้ดีว่า ใจเรา รักพระเป็นเจ้าเหนือสิ่งอื่นใด ...
ปล. หากเราเป็นลูกที่ดีเชื่อฟังพ่อแม่กิจการดีที่เรากระทำนั้น
อ า จ จ ะ ทำ ใ ห้ แ ม่ เ ห็ น พ ร ะ เ ป็ น เ จ้ า ใ น เ ร า
ตอนที่ยังไม่ได้เรียนคำสอนก็ยังไม่ได้คิดอะไร แต่พอเริ่มรู้เรื่องแล้วก็ไม่อยากไปกับคุณยายค่ะ
แต่ว่านั่นทำให้ คนรอบข้างที่เป็นพุทธ เค้ามองเราว่า เราเป็นตัวแปลกประหลาดค่ะ
ทำให้เค้าต้องยกเว้นไว้
แล้วเค้าจะคิดว่า เราไม่ เคารพในศาสนาอื่น ที่ไม่ใช่ศาสนาของเรา
ซึ่งเราเคารพในศาสนาของพ่อแม่พี่น้องเราได้แต่เรา ไ ม่ นั บ ถื อ ค่ะ
. . . .
ถ้าเราบอกแม่ด้วยเหตุผลว่า ขี้เกียจตื่นเช้า
ใครเป็นแม่ฟังแล้วก็ต้องไม่เข้าหูค่ะ
เพราะว่าวันเกิดลูก แล้วลูกฉันจะไม่ทำบุญเพื่อตัวเองรึไง ทำนองนั้น
เรื่องนี้เราก็ต้องเอาใจแม่มาใส่ใจเราด้วยค่ะ..
เพราะหากว่าเราปฏิเสธ นั่นก็จะเป็นการทำให้เกิดบาปในทางศาสนาคริสเพราะว่า
ถ้าเราบอกว่าเราไม่ไปตักบาตรกับแม่หรอก รับรองล้านเปอร์เซนต์ว่าคุณแม่ต้องโมโหแน่นอนค่ะ
แล้วก็จะทำให้เทลาะกับคุณแม่อีก..
ทางที่ดีคือ ตักบาตรไปเลยค่ะ ไม่ต้องเครียด
เพราะว่าเราตักบาตรเพื่อทำให้แม่สบายใจ
เราไม่ได้เชื่อว่าเราตักบาตรแล้วเราจะได้บุญจากตรงนี้ให้พระรูปนี้อวยพร เปล่าค่ะ
แต่ เราทำไปเพราะความประสงค์ของแม่ ทำเพราะเรา นับถือบิดามารดา
และเราก็สามารถไหว้พระรูปนั้นได้ด้วยค่ะ แต่เราไหว้เค้า
เหมือนว่าเค้าเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง ซึ่ง เค้าปฎิบัติตัวดีเป็นคนดีที่ควรเคารพค่ะ
ทีสำคัญคือห้ามทำตัวแปลกแยกค่ะ เพราะ แม่เค้าจะรู้สึกว่าเราไม่เชื่อฟัง
เราก็ไหว้พระไป ตักบาตรไปตามธรรมดาทำตัวเนียนได้อย่างที่บอกค่ะ
เพราะเราก็มีวิธีการ ถนอมน้ำใจคุณแม่ ในแบบของเรา
แต่ที่สุดแล้ว ตัวเราเองที่รู้ดีว่า ใจเรา รักพระเป็นเจ้าเหนือสิ่งอื่นใด ...
ปล. หากเราเป็นลูกที่ดีเชื่อฟังพ่อแม่กิจการดีที่เรากระทำนั้น
อ า จ จ ะ ทำ ใ ห้ แ ม่ เ ห็ น พ ร ะ เ ป็ น เ จ้ า ใ น เ ร า
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ เสาร์ ก.ย. 15, 2007 5:35 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
สำเนาถูกต้อง:+:Regina Pacis:+: เขียน: เคยเป็นแบบนี้ค่ะ เพราะว่า ตอนเด็กๆคุณยายจะพาไปตักบาตรด้วยตลอด
ตอนที่ยังไม่ได้เรียนคำสอนก็ยังไม่ได้คิดอะไร แต่พอเริ่มรู้เรื่องแล้วก็ไม่อยากไปกับคุณยายค่ะ
แต่ว่านั่นทำให้ คนรอบข้างที่เป็นพุทธ เค้ามองเราว่า เราเป็นตัวแปลกประหลาดค่ะ
ทำให้เค้าต้องยกเว้นไว้
แล้วเค้าจะคิดว่า เราไม่ เคารพในศาสนาอื่น ที่ไม่ใช่ศาสนาของเรา
ซึ่งเราเคารพในศาสนาของพ่อแม่พี่น้องเราได้แต่เรา ไ ม่ นั บ ถื อ ค่ะ
. . . .
ถ้าเราบอกแม่ด้วยเหตุผลว่า ขี้เกียจตื่นเช้า
ใครเป็นแม่ฟังแล้วก็ต้องไม่เข้าหูค่ะ
เพราะว่าวันเกิดลูก แล้วลูกฉันจะไม่ทำบุญเพื่อตัวเองรึไง ทำนองนั้น
เรื่องนี้เราก็ต้องเอาใจแม่มาใส่ใจเราด้วยค่ะ..
เพราะหากว่าเราปฏิเสธ นั่นก็จะเป็นการทำให้เกิดบาปในทางศาสนาคริสเพราะว่า
ถ้าเราบอกว่าเราไม่ไปตักบาตรกับแม่หรอก รับรองล้านเปอร์เซนต์ว่าคุณแม่ต้องโมโหแน่นอนค่ะ
แล้วก็จะทำให้เทลาะกับคุณแม่อีก..
ทางที่ดีคือ ตักบาตรไปเลยค่ะ ไม่ต้องเครียด
เพราะว่าเราตักบาตรเพื่อทำให้แม่สบายใจ
เราไม่ได้เชื่อว่าเราตักบาตรแล้วเราจะได้บุญจากตรงนี้ให้พระรูปนี้อวยพร เปล่าค่ะ
แต่ เราทำไปเพราะความประสงค์ของแม่ ทำเพราะเรา นับถือบิดามารดา
และเราก็สามารถไหว้พระรูปนั้นได้ด้วยค่ะ แต่เราไหว้เค้า
เหมือนว่าเค้าเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง ซึ่ง เค้าปฎิบัติตัวดีเป็นคนดีที่ควรเคารพค่ะ
ทีสำคัญคือห้ามทำตัวแปลกแยกค่ะ เพราะ แม่เค้าจะรู้สึกว่าเราไม่เชื่อฟัง
เราก็ไหว้พระไป ตักบาตรไปตามธรรมดาทำตัวเนียนได้อย่างที่บอกค่ะ
เพราะเราก็มีวิธีการ ถนอมน้ำใจคุณแม่ ในแบบของเรา
แต่ที่สุดแล้ว ตัวเราเองที่รู้ดีว่า ใจเรา รักพระเป็นเจ้าเหนือสิ่งอื่นใด ...
ปล. หากเราเป็นลูกที่ดีเชื่อฟังพ่อแม่กิจการดีที่เรากระทำนั้น
อ า จ จ ะ ทำ ใ ห้ แ ม่ เ ห็ น พ ร ะ เ ป็ น เ จ้ า ใ น เ ร า![]()
((อีกแระ))
ขอแนะนำว่าไม่ควรตักค่ะ เพราะการทำสิ่งที่นอกเหนือพระคัมภีร์ถือว่ากระทำสิ่งนอกรีต การกระทำนอกรีตอาจทำให้เราถูกสิ่งเหล่านั้นครอบงำจิตใจเราก็ได้ค่ะ แต่เรื่องนี้ต้องแล้วแต่กฎของทางคาทอลิกค่ะ แนะนำให้ถามคุณพ่อที่รู้จักค่ะการตักบาตร คือประเพณีอย่างหนึ่งที่ชาวพุทธปฏิบัติกันมาแต่สมัยพุทธกาล พระภิกษุจะถือบาตรออกบิณฑบาตเพื่อรับอาหารหรือทานอื่นๆ ตามหมู่บ้านในเวลาเช้า ผู้คนที่ออกมาตักบาตรจะนำของทำทานต่างๆ เช่น ข้าว อาหารแห้ง มาถวายพระ
ประเพณีนี้ชาวพุทธถือกันว่าเป็นการสร้างกุศล และถือว่าเป็นการแผ่ส่วนกุศลให้กับญาติผู้ล่วงลับไปแล้วด้วย โดยเชื่อกันว่าอาหารที่ถวายไปนั้นจะส่งถึงญาติผู้ล่วงลับด้วยเช่นกัน
อย่าคิดมากครับ เรื่องนี้สรุปง่ายๆได้2ทาง
1.ทำไปโดยมีสติรู้ว่าเราไม่ได้เชื่อ และคิดว่าเราให้ข้าวคนกินนะ แค่นั้น แต่นั่นต้องถามตัวเองต่อมาว่า คุณมีความรู้สึกเช่นนั้น100%โดยไม่มารู้สึกผิดทีหลังหรือเปล่า
2.ไม่ทำโดยบอกแม่ไปตามความจริง นั่นจะทำให้คุณสบายใจเต็มที่จากการที่จะไม่รู้สึกผิดต่อพระเจ้า แต่จะเกิดการเบียดเบียนทันทีขึ้นได้ในบ้านของคุณ คุณคิดว่าพร้อมจะรับมันหรือยัง เพราะอย่างไร สิ่งนี้วันหนึ่ง แม่ก็ต้องรู้
ดังนั้นอย่าเครียดครับ มันเป็นแค่ทางแยกที่พระเจ้าให้คุณเลือก ผลมีแค่2อย่างง่ายๆแบบนี้ เลือกอะไรแล้ว เราเตรียมรับผลที่ตามมาอย่างดีด้วยเท่านั้นเอง
1.ทำไปโดยมีสติรู้ว่าเราไม่ได้เชื่อ และคิดว่าเราให้ข้าวคนกินนะ แค่นั้น แต่นั่นต้องถามตัวเองต่อมาว่า คุณมีความรู้สึกเช่นนั้น100%โดยไม่มารู้สึกผิดทีหลังหรือเปล่า
2.ไม่ทำโดยบอกแม่ไปตามความจริง นั่นจะทำให้คุณสบายใจเต็มที่จากการที่จะไม่รู้สึกผิดต่อพระเจ้า แต่จะเกิดการเบียดเบียนทันทีขึ้นได้ในบ้านของคุณ คุณคิดว่าพร้อมจะรับมันหรือยัง เพราะอย่างไร สิ่งนี้วันหนึ่ง แม่ก็ต้องรู้
ดังนั้นอย่าเครียดครับ มันเป็นแค่ทางแยกที่พระเจ้าให้คุณเลือก ผลมีแค่2อย่างง่ายๆแบบนี้ เลือกอะไรแล้ว เราเตรียมรับผลที่ตามมาอย่างดีด้วยเท่านั้นเอง
Holy เขียน: อย่าคิดมากครับ เรื่องนี้สรุปง่ายๆได้2ทาง
1.ทำไปโดยมีสติรู้ว่าเราไม่ได้เชื่อ และคิดว่าเราให้ข้าวคนกินนะ แค่นั้น แต่นั่นต้องถามตัวเองต่อมาว่า คุณมีความรู้สึกเช่นนั้น100%โดยไม่มารู้สึกผิดทีหลังหรือเปล่า
2.ไม่ทำโดยบอกแม่ไปตามความจริง นั่นจะทำให้คุณสบายใจเต็มที่จากการที่จะไม่รู้สึกผิดต่อพระเจ้า แต่จะเกิดการเบียดเบียนทันทีขึ้นได้ในบ้านของคุณ คุณคิดว่าพร้อมจะรับมันหรือยัง เพราะอย่างไร สิ่งนี้วันหนึ่ง แม่ก็ต้องรู้
ดังนั้นอย่าเครียดครับ มันเป็นแค่ทางแยกที่พระเจ้าให้คุณเลือก ผลมีแค่2อย่างง่ายๆแบบนี้ เลือกอะไรแล้ว เราเตรียมรับผลที่ตามมาอย่างดีด้วยเท่านั้นเอง
อยากทำให้พ่อแม่สบายใจอ่ะ แต่ถ้าไม่ทำพ่อแม่ก็จะคิดมาก ทีนี้ไปกันใหญ่เลย อาจไม่ให้ไปโบสเลยก็ได้
แต่เรื่องที่จะมาเป็นคริสเต็มตัวเนี้ย เรากะจะบอกก่อนรับศีลล้างบาปซัก1อาทิดย์
เครียดชะมัดเลยยยย
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ไม่ต้องเครียดแล้วครับ ตักไปเลยครับ เราทำเพราะว่าแม่ขอร้องครับ
แค่นั้นแหละ
แค่นั้นแหละ
Holy เขียน: อย่าคิดมากครับ เรื่องนี้สรุปง่ายๆได้2ทาง
1.ทำไปโดยมีสติรู้ว่าเราไม่ได้เชื่อ และคิดว่าเราให้ข้าวคนกินนะ แค่นั้น แต่นั่นต้องถามตัวเองต่อมาว่า คุณมีความรู้สึกเช่นนั้น100%โดยไม่มารู้สึกผิดทีหลังหรือเปล่า
2.ไม่ทำโดยบอกแม่ไปตามความจริง นั่นจะทำให้คุณสบายใจเต็มที่จากการที่จะไม่รู้สึกผิดต่อพระเจ้า แต่จะเกิดการเบียดเบียนทันทีขึ้นได้ในบ้านของคุณ คุณคิดว่าพร้อมจะรับมันหรือยัง เพราะอย่างไร สิ่งนี้วันหนึ่ง แม่ก็ต้องรู้
ดังนั้นอย่าเครียดครับ มันเป็นแค่ทางแยกที่พระเจ้าให้คุณเลือก ผลมีแค่2อย่างง่ายๆแบบนี้ เลือกอะไรแล้ว เราเตรียมรับผลที่ตามมาอย่างดีด้วยเท่านั้นเอง
ขอยืนยันและนอนยันครับ ว่าข้อ2นั้นเป็นจริงทุกประการ คนพุทธส่วนใหญ่ที่เปลี่ยนมาเป็นคริสต์ มักโดนแบบข้อ2เสมอ
ผมก็เป็น1ในนั้น ขอบอกเลยว่า ตอนแรก ในบ้านไม่ใช่รู้สึกถูกเบียดเบียนเท่านั้น ถูกว่าเป็นลูกนอกคอก อกตัญญู ลืมกำพืชตัวเอง และอีกหลายคำสารพัดที่จะหามาต่อว่าเราเพื่อจะทำให้เราเลิกเปลี่ยนศาสนา แต่ผมก็ยืนหยัด นอนยัน จนแม่เลิกที่จะว่าอีกต่อไป(คงจะเหนื่อย) ทั้งบอกเหตุผลไปว่า ขืนแม่จะบังคับให้นับถือ ให้ใส่บาตร แต่ถ้าผมไม่ศรัทธา แม่จะบังคับให้ทำโน้นทำนี่มันก็เปล่าประโยชน์ จะมีประโยชน์อะไรที่จะบังคับ ในเมื่อใจเราไปอีกทางหนึ่งแล้ว
In case, อยากทราบว่า
ปกตินี่คุณเจ้าของกระทู้ทำยังไงครับ
เวลาที่ต้องไปงาน semi-buddhism
เช่น งานศพ งานบวช งานขึ้นบ้านใหม่ ฯลฯ
เพราะบางงานเนี่ย มันอยู่ใกล้กันตลอดเวลา
ผมว่า เพื่อความปลอดภัยของจิตใจในระยะยาว
บอกท่านไปเถอะครับ
ปกตินี่คุณเจ้าของกระทู้ทำยังไงครับ
เวลาที่ต้องไปงาน semi-buddhism
เช่น งานศพ งานบวช งานขึ้นบ้านใหม่ ฯลฯ
เพราะบางงานเนี่ย มันอยู่ใกล้กันตลอดเวลา
ผมว่า เพื่อความปลอดภัยของจิตใจในระยะยาว
บอกท่านไปเถอะครับ
ปกติแล้วไม่ค่อยได้ไปงานพวกนี้ซักเท่าไหร่นะค่ะ
ยิ่งงานศพเนี้ย ไม่เคยเลย แม่ไม่ให้ไป
ส่วนงานบวชเคยไปแต่งานบวชของคุณพ่อ
งานขึ้นบ้านใหม่ก็ไม่ค่อยได้ไปมานานมากกกแล้วค้ะ
แต่วันอังคารที่ผ่านมาครูบอกให้จัดงานเลี้ยงพระ
โหยย อยากจะออกมานั่งข้างนอกแต่ก็ไม่ได้
ตอนพระพรมน้ำมนต์นี้หลบใหญ่เลย 55
ยิ่งงานศพเนี้ย ไม่เคยเลย แม่ไม่ให้ไป
ส่วนงานบวชเคยไปแต่งานบวชของคุณพ่อ
งานขึ้นบ้านใหม่ก็ไม่ค่อยได้ไปมานานมากกกแล้วค้ะ
แต่วันอังคารที่ผ่านมาครูบอกให้จัดงานเลี้ยงพระ
โหยย อยากจะออกมานั่งข้างนอกแต่ก็ไม่ได้
ตอนพระพรมน้ำมนต์นี้หลบใหญ่เลย 55
แบกะดิน เขียน: ปกติแล้วไม่ค่อยได้ไปงานพวกนี้ซักเท่าไหร่นะค่ะ
ยิ่งงานศพเนี้ย ไม่เคยเลย แม่ไม่ให้ไป
ส่วนงานบวชเคยไปแต่งานบวชของคุณพ่อ
งานขึ้นบ้านใหม่ก็ไม่ค่อยได้ไปมานานมากกกแล้วค้ะ
แต่วันอังคารที่ผ่านมาครูบอกให้จัดงานเลี้ยงพระ
โหยย อยากจะออกมานั่งข้างนอกแต่ก็ไม่ได้
ตอนพระพรมน้ำมนต์นี้หลบใหญ่เลย 55
หากเป็นกรณีสถานศึกษา ไม่ว่าโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย เราสามารถบอกอาจารย์หรือคุณครูได้ครับ ว่าเราไม่ประสงค์จะร่วมพิธีทางศาสนาพุทธของโรงเรียน เนื่องจากเรานับถือศาสนาคริสต์ จากนั้น เขาก็จะให้เราไปทำกิจกรรมอื่นแทน ยกตัวอย่าง สมัยตนเองเรียนอยู่ในระดับมัธยมปลายนั้น มีการหล่อเทียนพรรษาของโรงเรียน ก็มีนักเรียนในโรงเรียนที่ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ(คริสต์ และอิสลาม) และมีความประสงค์ที่ไม่อยากจะร่วมพิธีดังกล่าว อาจารย์ก็สั่งการให้นักเรียนคริสเตียนและมุลสิม ไปทำกิจกรรมอื่นแทนในเวลาดังกล่าว(กล่าวคือให้ไปตัดหญ้าและเก็บขยะสนามฟุตบอลของโรงเรียนแทน)
และอีกกรณีหนึ่ง สมัยผมเรียน รด ปีหนึ่ง ถึง รด ปีห้า ก่อนเข้านอน ครูฝึกจะสั่งให้รวมพลก่อนเข้านอน เพื่อให้โอวาสแก่นักศึกษาวิชาทหารในกองร้อยก่อนเข้านอน และตามาด้วยการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และสวดมนต์แผ่เมตตา ในส่วนของกิจกรรมสุดท้ายที่เป็นศาสนาพุทธ ครูฝึกบอกว่าหากใครนับถือศาสนาอื่น ก็ให้ยืนตรงทำความเคารพอย่างสงบ ไม่มีปัญหาหรอกครับ อีกอย่างสมัยเรียน รด.ปี1ถึงปี5 ผมเองก็ไม่เคยจุดธูปไหว้เจ้าพ่อเขาชนไก่หมือนนักศึกษาวิชาทหารและครูฝึกด้วย เพราะว่าเรานับถือพระเจ้า ไม่นับถือผีสาง แต่......ทำความเคารพด้วยการวันทายาหัตถ์ต่อพระบรมรูป ร.6 ที่เขาชนไก่เสมอเวลาเดินแถวผ่านพระรูป(ท่านถือเป็นบิดากองเสือป่า และอันเป็นจุดเริ่มต้นที่พัฒนาเป็นยุวชนทหาร จากนั้นก็พัฒนาเป็นนักศึกษาวิชาทหาร) พูดแล้วอยากกลับไปฝึกอีกครั้งหนึ่ง อยากเป็น รด.ปีสี ปีห้าอีกครั้ง เสียดายตัวไม่อยู่เมืองไทย ครูฝึกที่เคยฝึกเราคงย้ายไปหน่วยอื่นหมดแล้ว ไม่งั้นกลับไปเมืองไทย หากเป็นไปได้ ไปขอร่วมรับการฝึกกับกองร้อยปีสี่ ปีห้า ที่กำลังรับการฝึกในตอนนี้ดีกว่า
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
Pry-Kaew เขียน:แบกะดิน เขียน: ปกติแล้วไม่ค่อยได้ไปงานพวกนี้ซักเท่าไหร่นะค่ะ
ยิ่งงานศพเนี้ย ไม่เคยเลย แม่ไม่ให้ไป
ส่วนงานบวชเคยไปแต่งานบวชของคุณพ่อ
งานขึ้นบ้านใหม่ก็ไม่ค่อยได้ไปมานานมากกกแล้วค้ะ
แต่วันอังคารที่ผ่านมาครูบอกให้จัดงานเลี้ยงพระ
โหยย อยากจะออกมานั่งข้างนอกแต่ก็ไม่ได้
ตอนพระพรมน้ำมนต์นี้หลบใหญ่เลย 55
หากเป็นกรณีสถานศึกษา ไม่ว่าโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย เราสามารถบอกอาจารย์หรือคุณครูได้ครับ ว่าเราไม่ประสงค์จะร่วมพิธีทางศาสนาพุทธของโรงเรียน เนื่องจากเรานับถือศาสนาคริสต์ จากนั้น เขาก็จะให้เราไปทำกิจกรรมอื่นแทน ยกตัวอย่าง สมัยตนเองเรียนอยู่ในระดับมัธยมปลายนั้น มีการหล่อเทียนพรรษาของโรงเรียน ก็มีนักเรียนในโรงเรียนที่ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ(คริสต์ และอิสลาม) และมีความประสงค์ที่ไม่อยากจะร่วมพิธีดังกล่าว อาจารย์ก็สั่งการให้นักเรียนคริสเตียนและมุลสิม ไปทำกิจกรรมอื่นแทนในเวลาดังกล่าว(กล่าวคือให้ไปตัดหญ้าและเก็บขยะสนามฟุตบอลของโรงเรียนแทน)
และอีกกรณีหนึ่ง สมัยผมเรียน รด ปีหนึ่ง ถึง รด ปีห้า ก่อนเข้านอน ครูฝึกจะสั่งให้รวมพลก่อนเข้านอน เพื่อให้โอวาสแก่นักศึกษาวิชาทหารในกองร้อยก่อนเข้านอน และตามาด้วยการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และสวดมนต์แผ่เมตตา ในส่วนของกิจกรรมสุดท้ายที่เป็นศาสนาพุทธ ครูฝึกบอกว่าหากใครนับถือศาสนาอื่น ก็ให้ยืนตรงทำความเคารพอย่างสงบ ไม่มีปัญหาหรอกครับ อีกอย่างสมัยเรียน รด.ปี1ถึงปี5 ผมเองก็ไม่เคยจุดธูปไหว้เจ้าพ่อเขาชนไก่หมือนนักศึกษาวิชาทหารและครูฝึกด้วย เพราะว่าเรานับถือพระเจ้า ไม่นับถือผีสาง แต่......ทำความเคารพด้วยการวันทายาหัตถ์ต่อพระบรมรูป ร.6 ที่เขาชนไก่เสมอเวลาเดินแถวผ่านพระรูป(ท่านถือเป็นบิดากองเสือป่า และอันเป็นจุดเริ่มต้นที่พัฒนาเป็นยุวชนทหาร จากนั้นก็พัฒนาเป็นนักศึกษาวิชาทหาร) พูดแล้วอยากกลับไปฝึกอีกครั้งหนึ่ง อยากเป็น รด.ปีสี ปีห้าอีกครั้ง เสียดายตัวไม่อยู่เมืองไทย ครูฝึกที่เคยฝึกเราคงย้ายไปหน่วยอื่นหมดแล้ว ไม่งั้นกลับไปเมืองไทย หากเป็นไปได้ ไปขอร่วมรับการฝึกกับกองร้อยปีสี่ ปีห้า ที่กำลังรับการฝึกในตอนนี้ดีกว่า
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
ก็แม่เราอ่ะดิ ไปบอกครูว่าเนี้ยไปโบสทุกอาทิตย์เลย แบบเหมือนอยู่รร.คริสต์มาก่อนเลยทำให้เราเป็นแบบนี้ไรเงี้ย
ครูก็เลยบอกว่าดีและ งั้นเด๋วเวลามีงานทางศาสนาจะให่เราไปสวดมนต์ด้วย
เรานี้แบบ....โธ่ แย่ชะมัดเลยยย
- antoinetty*
- โพสต์: 451
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 04, 2007 9:39 pm
ก็แม่เราอ่ะดิ ไปบอกครูว่าเนี้ยไปโบสทุกอาทิตย์เลย แบบเหมือนอยู่รร.คริสต์มาก่อนเลยทำให้เราเป็นแบบนี้ไรเงี้ย
ครูก็เลยบอกว่าดีและ งั้นเด๋วเวลามีงานทางศาสนาจะให่เราไปสวดมนต์ด้วย
เรานี้แบบ....โธ่ แย่ชะมัดเลยยย
^
น่าสงสาร = =
เราก็เรียน รร. รัฐ อะ
เวลาเค้าสวด ก้ไม่สวดตามเค้า
แต่จะมีอาจารย์คนนึง เข้ามาด่า ๆ
บอกว่าเปนคาทอลิก
ก้ยังด่า = = ที่เสียดินแดนซ้ายขวา แม่น้ำโขงให้พวกตะวันตก
เกี่ยวกันมากกกกกกกกกกกก
ครูก็เลยบอกว่าดีและ งั้นเด๋วเวลามีงานทางศาสนาจะให่เราไปสวดมนต์ด้วย
เรานี้แบบ....โธ่ แย่ชะมัดเลยยย
^
น่าสงสาร = =
เราก็เรียน รร. รัฐ อะ
เวลาเค้าสวด ก้ไม่สวดตามเค้า
แต่จะมีอาจารย์คนนึง เข้ามาด่า ๆ
บอกว่าเปนคาทอลิก
ก้ยังด่า = = ที่เสียดินแดนซ้ายขวา แม่น้ำโขงให้พวกตะวันตก
เกี่ยวกันมากกกกกกกกกกกก
น้องเรียนระดับไหนครับ มัธยมต้น หรือมัธยมปลาย ครูเขาคงพูดแหย่ๆเล่นมั๊งครับ เพราะตั้งแต่ผมเรียนหนังสือมา(ประถม มัธยม มหาวิทยาลัย) หากเราไม่ประสงค์จะร่วมกิจกรรมทางศาสนาของโรงเรียน เราสามารถชี้แจ้งเหตุผลได้นี้ครับ หากจะว่าไปแล้วจริงๆ รัฐธรรมนูญทุกฉบับของประเทศไทย ไม่ว่าจะฉบับใดก็ตาม คนเรามีเสรีภาพและอิสระภาพในการนับถือศาสนาของตนเอง ไม่มีใครมาบังคับได้นะครับ อ้อ รัฐธรรมนูญคือกฎหมายสูงสุดของประเทศนะครับ หากกฎหมายลูกหรือกฎบ้าบออะไรขัดกับกฎหมายทีระบุไว้ในรัฐธรรมนูญ ถือว่ากฎหมายลูกตกไป บังคับเจ้าตัวที่เขาไม่ได้เต็มใจร่วมกิจกรรมศาสนาอื่นเนี้ย ผิดกฏหมายแน่ๆครับ หากจะเล่นกันจริงๆแบกะดิน เขียน:Pry-Kaew เขียน:แบกะดิน เขียน: ปกติแล้วไม่ค่อยได้ไปงานพวกนี้ซักเท่าไหร่นะค่ะ
ยิ่งงานศพเนี้ย ไม่เคยเลย แม่ไม่ให้ไป
ส่วนงานบวชเคยไปแต่งานบวชของคุณพ่อ
งานขึ้นบ้านใหม่ก็ไม่ค่อยได้ไปมานานมากกกแล้วค้ะ
แต่วันอังคารที่ผ่านมาครูบอกให้จัดงานเลี้ยงพระ
โหยย อยากจะออกมานั่งข้างนอกแต่ก็ไม่ได้
ตอนพระพรมน้ำมนต์นี้หลบใหญ่เลย 55
หากเป็นกรณีสถานศึกษา ไม่ว่าโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย เราสามารถบอกอาจารย์หรือคุณครูได้ครับ ว่าเราไม่ประสงค์จะร่วมพิธีทางศาสนาพุทธของโรงเรียน เนื่องจากเรานับถือศาสนาคริสต์ จากนั้น เขาก็จะให้เราไปทำกิจกรรมอื่นแทน ยกตัวอย่าง สมัยตนเองเรียนอยู่ในระดับมัธยมปลายนั้น มีการหล่อเทียนพรรษาของโรงเรียน ก็มีนักเรียนในโรงเรียนที่ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ(คริสต์ และอิสลาม) และมีความประสงค์ที่ไม่อยากจะร่วมพิธีดังกล่าว อาจารย์ก็สั่งการให้นักเรียนคริสเตียนและมุลสิม ไปทำกิจกรรมอื่นแทนในเวลาดังกล่าว(กล่าวคือให้ไปตัดหญ้าและเก็บขยะสนามฟุตบอลของโรงเรียนแทน)
และอีกกรณีหนึ่ง สมัยผมเรียน รด ปีหนึ่ง ถึง รด ปีห้า ก่อนเข้านอน ครูฝึกจะสั่งให้รวมพลก่อนเข้านอน เพื่อให้โอวาสแก่นักศึกษาวิชาทหารในกองร้อยก่อนเข้านอน และตามาด้วยการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และสวดมนต์แผ่เมตตา ในส่วนของกิจกรรมสุดท้ายที่เป็นศาสนาพุทธ ครูฝึกบอกว่าหากใครนับถือศาสนาอื่น ก็ให้ยืนตรงทำความเคารพอย่างสงบ ไม่มีปัญหาหรอกครับ อีกอย่างสมัยเรียน รด.ปี1ถึงปี5 ผมเองก็ไม่เคยจุดธูปไหว้เจ้าพ่อเขาชนไก่หมือนนักศึกษาวิชาทหารและครูฝึกด้วย เพราะว่าเรานับถือพระเจ้า ไม่นับถือผีสาง แต่......ทำความเคารพด้วยการวันทายาหัตถ์ต่อพระบรมรูป ร.6 ที่เขาชนไก่เสมอเวลาเดินแถวผ่านพระรูป(ท่านถือเป็นบิดากองเสือป่า และอันเป็นจุดเริ่มต้นที่พัฒนาเป็นยุวชนทหาร จากนั้นก็พัฒนาเป็นนักศึกษาวิชาทหาร) พูดแล้วอยากกลับไปฝึกอีกครั้งหนึ่ง อยากเป็น รด.ปีสี ปีห้าอีกครั้ง เสียดายตัวไม่อยู่เมืองไทย ครูฝึกที่เคยฝึกเราคงย้ายไปหน่วยอื่นหมดแล้ว ไม่งั้นกลับไปเมืองไทย หากเป็นไปได้ ไปขอร่วมรับการฝึกกับกองร้อยปีสี่ ปีห้า ที่กำลังรับการฝึกในตอนนี้ดีกว่า
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
ก็แม่เราอ่ะดิ ไปบอกครูว่าเนี้ยไปโบสทุกอาทิตย์เลย แบบเหมือนอยู่รร.คริสต์มาก่อนเลยทำให้เราเป็นแบบนี้ไรเงี้ย
ครูก็เลยบอกว่าดีและ งั้นเด๋วเวลามีงานทางศาสนาจะให่เราไปสวดมนต์ด้วย
เรานี้แบบ....โธ่ แย่ชะมัดเลยยย
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
ตอนนี้ผมเรียนภาษาอังกฤษอยู่ที่Community College(เป็นโรงเรียนของรัฐบาลท้องถิ่น) ในเมืองที่ผมอยู่บนแผ่นดินเมกา อาจารย์ท่านบอกว่า หากเป็นโรงเรียนของรัฐนั้น ต้องไม่มีการโปรศาสนาใด ศาสนาหนึ่งเป็นอันขาด และอาจารย์ห้ามพูดเรื่องการเผยแพร่ศาสนากับนักเรียน เพราะผิดกฎหมาย และนักเรียนมีเสรีภาพในการประกอบกิจศาสนาตามแบบของตนเองได้อย่างเสรี หากมีการขัดขวางจากเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนและอาจารย์ สามารถแจ้งตำรวจจับอาจารย์คนดังกล่าวเข้าคุกได้ทันทีครับ เมกาอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นการขัดกับเสรีภาพและอิสระภาพในการความคิด ความเชื่อ และละเมิดสิทธิส่วนบุคคล แจ้งตำรวจจับเข้าคุกได้หมดครับ ผมก็ได้แต่ภาวนาวันละล้านรอบ ให้เมืองไทยเป็นเหมือนเมกาสักที อาเมน อาเมน-AnToiNetty- เขียน: ก็แม่เราอ่ะดิ ไปบอกครูว่าเนี้ยไปโบสทุกอาทิตย์เลย แบบเหมือนอยู่รร.คริสต์มาก่อนเลยทำให้เราเป็นแบบนี้ไรเงี้ย
ครูก็เลยบอกว่าดีและ งั้นเด๋วเวลามีงานทางศาสนาจะให่เราไปสวดมนต์ด้วย
เรานี้แบบ....โธ่ แย่ชะมัดเลยยย
^
น่าสงสาร = =
เราก็เรียน รร. รัฐ อะ
เวลาเค้าสวด ก้ไม่สวดตามเค้า
แต่จะมีอาจารย์คนนึง เข้ามาด่า ๆ
บอกว่าเปนคาทอลิก
ก้ยังด่า = = ที่เสียดินแดนซ้ายขวา แม่น้ำโขงให้พวกตะวันตก
เกี่ยวกันมากกกกกกกกกกกก
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หากเป็นโรงเรียนเอกชน ยกตัวอย่างเช่น โรงเรียนคาทอลิก หรือโรงเรียนทางศาสนาอื่นๆ อยู่นอกเหนือข้อบังคับนี้นะครับ แต่ก็ยังไม่มีสิทธิที่จะบังคับนักเรียนให้ประกอบกิจทางศาสนาของโรงเรียน หากนักเรียกไม่เต็มใจ
หากผมเป็นจอช บุช นะ จะเปลี่ยนเมืองไทยให้เป็นเมกาให้มากที่สุดเลย จะได้เป็นสวรรค์บนดินบนบ้านเกิดสักที
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
- antoinetty*
- โพสต์: 451
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ก.ย. 04, 2007 9:39 pm
หากผมเป็นจอช บุช นะ จะเปลี่ยนเมืองไทยให้เป็นเมกาให้มากที่สุดเลย จะได้เป็นสวรรค์บนดินบนบ้านเกิดสักที
^
จอช บุช เปลี่ยนเมืองไทยได้ด้วยอ่อพี่
หุ ๆ
^
จอช บุช เปลี่ยนเมืองไทยได้ด้วยอ่อพี่
หุ ๆ
-AnToiNetty- เขียน: หากผมเป็นจอช บุช นะ จะเปลี่ยนเมืองไทยให้เป็นเมกาให้มากที่สุดเลย จะได้เป็นสวรรค์บนดินบนบ้านเกิดสักที
^
จอช บุช เปลี่ยนเมืองไทยได้ด้วยอ่อพี่
หุ ๆ
ลำพังจอช บุช เปลี่ยนเมืองไทยไม่ได้หรอก ต้องมีพี่พลายแก้วให้ความร่วมมือด้วย 55555555555555555 ไม่ยอมKu Ku จะฟ้องท่านบุชให้ช่วย
อย่าฟังพี่พูดมากเลย พี่ก็เพ้อเจ้อไปวันๆเท่านั้นแหละ
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
เป็นผมนะ ผมไม่ทำหรอก เพราะผมรักพระเจ้ามากกว่าครูครับแบกะดิน เขียน:Pry-Kaew เขียน:แบกะดิน เขียน: ปกติแล้วไม่ค่อยได้ไปงานพวกนี้ซักเท่าไหร่นะค่ะ
ยิ่งงานศพเนี้ย ไม่เคยเลย แม่ไม่ให้ไป
ส่วนงานบวชเคยไปแต่งานบวชของคุณพ่อ
งานขึ้นบ้านใหม่ก็ไม่ค่อยได้ไปมานานมากกกแล้วค้ะ
แต่วันอังคารที่ผ่านมาครูบอกให้จัดงานเลี้ยงพระ
โหยย อยากจะออกมานั่งข้างนอกแต่ก็ไม่ได้
ตอนพระพรมน้ำมนต์นี้หลบใหญ่เลย 55
หากเป็นกรณีสถานศึกษา ไม่ว่าโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย เราสามารถบอกอาจารย์หรือคุณครูได้ครับ ว่าเราไม่ประสงค์จะร่วมพิธีทางศาสนาพุทธของโรงเรียน เนื่องจากเรานับถือศาสนาคริสต์ จากนั้น เขาก็จะให้เราไปทำกิจกรรมอื่นแทน ยกตัวอย่าง สมัยตนเองเรียนอยู่ในระดับมัธยมปลายนั้น มีการหล่อเทียนพรรษาของโรงเรียน ก็มีนักเรียนในโรงเรียนที่ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ(คริสต์ และอิสลาม) และมีความประสงค์ที่ไม่อยากจะร่วมพิธีดังกล่าว อาจารย์ก็สั่งการให้นักเรียนคริสเตียนและมุลสิม ไปทำกิจกรรมอื่นแทนในเวลาดังกล่าว(กล่าวคือให้ไปตัดหญ้าและเก็บขยะสนามฟุตบอลของโรงเรียนแทน)
และอีกกรณีหนึ่ง สมัยผมเรียน รด ปีหนึ่ง ถึง รด ปีห้า ก่อนเข้านอน ครูฝึกจะสั่งให้รวมพลก่อนเข้านอน เพื่อให้โอวาสแก่นักศึกษาวิชาทหารในกองร้อยก่อนเข้านอน และตามาด้วยการร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และสวดมนต์แผ่เมตตา ในส่วนของกิจกรรมสุดท้ายที่เป็นศาสนาพุทธ ครูฝึกบอกว่าหากใครนับถือศาสนาอื่น ก็ให้ยืนตรงทำความเคารพอย่างสงบ ไม่มีปัญหาหรอกครับ อีกอย่างสมัยเรียน รด.ปี1ถึงปี5 ผมเองก็ไม่เคยจุดธูปไหว้เจ้าพ่อเขาชนไก่หมือนนักศึกษาวิชาทหารและครูฝึกด้วย เพราะว่าเรานับถือพระเจ้า ไม่นับถือผีสาง แต่......ทำความเคารพด้วยการวันทายาหัตถ์ต่อพระบรมรูป ร.6 ที่เขาชนไก่เสมอเวลาเดินแถวผ่านพระรูป(ท่านถือเป็นบิดากองเสือป่า และอันเป็นจุดเริ่มต้นที่พัฒนาเป็นยุวชนทหาร จากนั้นก็พัฒนาเป็นนักศึกษาวิชาทหาร) พูดแล้วอยากกลับไปฝึกอีกครั้งหนึ่ง อยากเป็น รด.ปีสี ปีห้าอีกครั้ง เสียดายตัวไม่อยู่เมืองไทย ครูฝึกที่เคยฝึกเราคงย้ายไปหน่วยอื่นหมดแล้ว ไม่งั้นกลับไปเมืองไทย หากเป็นไปได้ ไปขอร่วมรับการฝึกกับกองร้อยปีสี่ ปีห้า ที่กำลังรับการฝึกในตอนนี้ดีกว่า
ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม
ก็แม่เราอ่ะดิ ไปบอกครูว่าเนี้ยไปโบสทุกอาทิตย์เลย แบบเหมือนอยู่รร.คริสต์มาก่อนเลยทำให้เราเป็นแบบนี้ไรเงี้ย
ครูก็เลยบอกว่าดีและ งั้นเด๋วเวลามีงานทางศาสนาจะให่เราไปสวดมนต์ด้วย
เรานี้แบบ....โธ่ แย่ชะมัดเลยยย
อืม case นี้น่าสนใจ อยากสอบถามถ้าผมทำงานวิจัยครับ-AnToiNetty- เขียน: ก็แม่เราอ่ะดิ ไปบอกครูว่าเนี้ยไปโบสทุกอาทิตย์เลย แบบเหมือนอยู่รร.คริสต์มาก่อนเลยทำให้เราเป็นแบบนี้ไรเงี้ย
ครูก็เลยบอกว่าดีและ งั้นเด๋วเวลามีงานทางศาสนาจะให่เราไปสวดมนต์ด้วย
เรานี้แบบ....โธ่ แย่ชะมัดเลยยย
^
น่าสงสาร = =
เราก็เรียน รร. รัฐ อะ
เวลาเค้าสวด ก้ไม่สวดตามเค้า
แต่จะมีอาจารย์คนนึง เข้ามาด่า ๆ
บอกว่าเปนคาทอลิก
ก้ยังด่า = = ที่เสียดินแดนซ้ายขวา แม่น้ำโขงให้พวกตะวันตก
เกี่ยวกันมากกกกกกกกกกกก
เพราะเป็นแนวคิดเดียวกับผู้ที่สังหาร มรณสักขี เลย
กำลังจะทำวิจัย สงสัยต้องไปทัวร์ 3พราน 2คอน
ปล. หาอำเภอที่ชื่อ 1 เจอแล้ว อาจเจอนักบุญ (ก๊าก!)
และแล้วช่วงเช้าของวันเกิดก็ผ่านไปด้วยดี .. รึเปล่า
พอตื่นมา แม่เดินมาในห้องบอกว่า จบของที่จะไปตักบาตร(อธิษฐานมั้งน้ะ) เราก็สวดบนวันทามารีอาไป
และแม่บอกว่าเนี้ย เด๋วแม่ไปตักบาตรให้ละกัน^^ ทั้งๆๆที่ก่อนนอนคืนนั้น แม่บอกว่าพรุ้งนี้ต้องรีบตื่นมาใส่บาตรน้ะ!
และพอซักพัก ทุกวันจะมีพระหนึ่งรูปมาที่บ้านตอนเช้ามากรวดน้ำทุกวัน (แต่เราไม่เคยไปร่วมกรวดน้ำนะ)
พอเราแต่งตัวเสร็จจะไปโรงเรียน แม่บอกว่าให้มากรวดน้ำ T__T แม่บอกว่าวันเกิดทั้งทีกรวดหน่อยจะเป็นไร
เราก็แบบจะกรวดดีไม่กรวดดี สุดท้ายก็ต้องทำ..
พระรูปนี้จะแผ่เมตตานานนนนนนนมากกก ขอบอกเลย 55 ระหว่างที่พระแผ่เมตตานั้น..
เราก็สวดข้าแต่พระบิดา วันทามารีอา สิริพึงมี วกไปวนมา สวดแบบต้องตั้งใจมากจริงๆๆเลยอ่ะ
ไม่งั้นน้ะ อาจสวดไปแผ่เมตตาไป 55 เราสวดในใจ พระสวดออกเสียง โหยย ตีกันใหญ่
แบบต้องหลับตาสวด 55 ตั้งใจมากๆๆ
แต่ก็ต้องขอขอบคุณพระมากๆๆ ที่ทำให้ลูกมีสติ *
พระเจ้าคือความรักและพระองค์ทรงรักเรา
พอตื่นมา แม่เดินมาในห้องบอกว่า จบของที่จะไปตักบาตร(อธิษฐานมั้งน้ะ) เราก็สวดบนวันทามารีอาไป
และแม่บอกว่าเนี้ย เด๋วแม่ไปตักบาตรให้ละกัน^^ ทั้งๆๆที่ก่อนนอนคืนนั้น แม่บอกว่าพรุ้งนี้ต้องรีบตื่นมาใส่บาตรน้ะ!
และพอซักพัก ทุกวันจะมีพระหนึ่งรูปมาที่บ้านตอนเช้ามากรวดน้ำทุกวัน (แต่เราไม่เคยไปร่วมกรวดน้ำนะ)
พอเราแต่งตัวเสร็จจะไปโรงเรียน แม่บอกว่าให้มากรวดน้ำ T__T แม่บอกว่าวันเกิดทั้งทีกรวดหน่อยจะเป็นไร
เราก็แบบจะกรวดดีไม่กรวดดี สุดท้ายก็ต้องทำ..
พระรูปนี้จะแผ่เมตตานานนนนนนนมากกก ขอบอกเลย 55 ระหว่างที่พระแผ่เมตตานั้น..
เราก็สวดข้าแต่พระบิดา วันทามารีอา สิริพึงมี วกไปวนมา สวดแบบต้องตั้งใจมากจริงๆๆเลยอ่ะ
ไม่งั้นน้ะ อาจสวดไปแผ่เมตตาไป 55 เราสวดในใจ พระสวดออกเสียง โหยย ตีกันใหญ่
แบบต้องหลับตาสวด 55 ตั้งใจมากๆๆ
แต่ก็ต้องขอขอบคุณพระมากๆๆ ที่ทำให้ลูกมีสติ *
พระเจ้าคือความรักและพระองค์ทรงรักเรา
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ จันทร์ ก.ย. 17, 2007 9:56 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ความรักพระเจ้ายิ่งใหญ่ไม่เคยสิ้นสุด ความรักพระเจ้าไม่เสื่อมคลายแบกะดิน เขียน: พระเจ้าคือความรักและพระองค์ทรงรักเรา
พระรูปที่ได้ฉันอาหารคงจะอร่อยน่าดูเลยเนอะ...
เราก็แผ่เมตตาแบบเราซิครับ...จากเหวลึกข้าพเจ้าร้องหาพระองค์...