ถามเกี่ยวกับธรรมเนียมบางอย่างของคาทอลิกหน่อยครับ
ว่ากันตามนี้ คาทอลิกห้ามสิ่งต่อไปนี้เปล่าครับ
- วางไบเบิ้ลไว้ตามพื้น
- วางของอื่นทับไบเบื้ล
- หันเท้าใส่สายประคำ
- หันเท้าไปทางรูปปั้นพระเยซู พระแม่ นักบุญ ฯลฯ
- ใส่ชุดดำทั้งตัวเข้าวัดเป็นกิจ
แล้วก็ท่อนนี้แม่ผมถามมาฮะ (แม่ก็เกิดสนใจมาก เพราะ เห็นลูกชายเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ) แต่ดูเหมือนท่านจะติดขัดกับความชินกว่า 40 ปี
- ยังคงกรวดน้ำให้ญาติๆ
- ยังทำบุญตักบาตร
- ทำงานในวันอาทิตย์
- วางไบเบิ้ลไว้ตามพื้น
- วางของอื่นทับไบเบื้ล
- หันเท้าใส่สายประคำ
- หันเท้าไปทางรูปปั้นพระเยซู พระแม่ นักบุญ ฯลฯ
- ใส่ชุดดำทั้งตัวเข้าวัดเป็นกิจ
แล้วก็ท่อนนี้แม่ผมถามมาฮะ (แม่ก็เกิดสนใจมาก เพราะ เห็นลูกชายเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ) แต่ดูเหมือนท่านจะติดขัดกับความชินกว่า 40 ปี
- ยังคงกรวดน้ำให้ญาติๆ
- ยังทำบุญตักบาตร
- ทำงานในวันอาทิตย์
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พฤหัสฯ. ก.ย. 13, 2007 9:00 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ไม่ได้เป้นข้อบังคับนะครับสำหรับข้อต่างๆที่กล่าวมา
แต่ก็ไม่ควรทำเลย สำคัญอยู่ที่ว่าเจตนานั้นคืออะไรครับ :rolleyes:
__________
เรื่องห้ามทำงานในวันอาทิตย์ อันที่พระเยซูก้ได้เคยกล่าวไว้ในพระวรสารว่า
"วันสับบาโตมีไว้เพื่อมนุษย์ มิใช่มนุษย์มีไว้เพื่อวันสับบาโต " มก2:27
คริสตชนมิได้ไปโบสถ์ เพราะถูกบังคับให้ไป
แต่เสมือนหนึ่ง เข้าวิวาห์เรือนหอ กับเจ้าบ่าวของชีวิตฝ่ายจิต
หากมีเหตุผลที่เหมาะสมในการขาดวัด พระเจ้าก็พร้อมจะให้อภัยเสมอ
แต่หากไม่....ก็อาศัยศีลอภัยบาป ขอการยกโทษจากพระเจ้าครับ
แต่ก็ไม่ควรทำเลย สำคัญอยู่ที่ว่าเจตนานั้นคืออะไรครับ :rolleyes:
__________
เรื่องห้ามทำงานในวันอาทิตย์ อันที่พระเยซูก้ได้เคยกล่าวไว้ในพระวรสารว่า
"วันสับบาโตมีไว้เพื่อมนุษย์ มิใช่มนุษย์มีไว้เพื่อวันสับบาโต " มก2:27
คริสตชนมิได้ไปโบสถ์ เพราะถูกบังคับให้ไป
แต่เสมือนหนึ่ง เข้าวิวาห์เรือนหอ กับเจ้าบ่าวของชีวิตฝ่ายจิต
หากมีเหตุผลที่เหมาะสมในการขาดวัด พระเจ้าก็พร้อมจะให้อภัยเสมอ
แต่หากไม่....ก็อาศัยศีลอภัยบาป ขอการยกโทษจากพระเจ้าครับ
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
จริง ๆ แล้ว ไบเบิ้ลเป็นสิ่งสำคัญนะครับ เพราะว่าบรรจุพระวาจาของพระองค์ไว้ เราควรจะให้ความเคารพรักเป็นพิเศษนะครับEPG เขียน: ว่ากันตามนี้ คาทอลิกห้ามสิ่งต่อไปนี้เปล่าครับ
- วางไบเบิ้ลไว้ตามพื้น
- วางของอื่นทับไบเบื้ล
- หันเท้าใส่สายประคำ
- หันเท้าไปทางรูปปั้นพระเยซู พระแม่ นักบุญ ฯลฯ
- ใส่ชุดดำทั้งตัวเข้าวัดเป็นกิจ
แล้วก็ท่อนนี้แม่ผมถามมาฮะ (แม่ก็เกิดสนใจมาก เพราะ เห็นลูกชายเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ) แต่ดูเหมือนท่านจะติดขัดกับความชินกว่า 40 ปี
- ยังคงกรวดน้ำให้ญาติๆ
- ยังทำบุญตักบาตร
- ทำงานในวันอาทิตย์
สายประคำ รูปปั้น ก็เช่นกัน เป็นของที่ได้รับการเสกจากพระสงฆ์แล้ว ก็ควรเก็บไว้ในที่ที่สมควรนะครับ
แต่เท่าที่ผมรู้มาการหันเท้าเข้าหารูปปั้นนั้น ไม่ไปด้ผิดบาปอะไรครับ
การใส่ชุดดำเข้าวัดก็สามารถทำได้ครับไม่แปลกอะไร ๆ ถ้าไม่กลัวร้อนนะครับ
การกรวดน้ำให้ญาติ ในความเห็นผมเราทำไม่ได้ครับ แต่ก็แตะเอากะคนที่เค้ากรวดน้ำ (อย่างที่พุทธศาสนิกชนทำ)
ผมเอง ตอนที่ไปช่วยงานทำบุญ 100 วันของยายผม
ผมก็ไม่ได้กรวดน้ำ แต่ก็แตะ ๆ กันไปแหละครับ
การทำบุญตักบาตร เราไม่สามารถทำได้ครับ ไม่ใช่ของศาสนาคริสต์โดยตรงครับ
ส่วนการทำงานในวันอาทิตย์ พระศาสนจักรรับทราบครับ จึงยอมให้มีมิสซาวันเสาร์เย็น ซึ่งเป็นบทอ่านเดียวกันกับวันอาทิตย์
ดังนั้น ถ้าเราเข้าวัดในวันเสาร์เย็นแล้ว เรามีงานต้องทำในวันอาทิตย์ ก็ทำได้ครับ
ขอพระเจ้าอวยพรนะครับ
ผมคิดว่าการกระทำที่กล่าวมาถ้าไม่ได้ตั้งใจก็ไม่เป็นไรครับEPG เขียน: ว่ากันตามนี้ คาทอลิกห้ามสิ่งต่อไปนี้เปล่าครับ
- วางไบเบิ้ลไว้ตามพื้น
- วางของอื่นทับไบเบื้ล
- หันเท้าใส่สายประคำ
- หันเท้าไปทางรูปปั้นพระเยซู พระแม่ นักบุญ ฯลฯ
- ใส่ชุดดำทั้งตัวเข้าวัดเป็นกิจ
แล้วก็ท่อนนี้แม่ผมถามมาฮะ (แม่ก็เกิดสนใจมาก เพราะ เห็นลูกชายเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ) แต่ดูเหมือนท่านจะติดขัดกับความชินกว่า 40 ปี
- ยังคงกรวดน้ำให้ญาติๆ
- ยังทำบุญตักบาตร
- ทำงานในวันอาทิตย์
อย่างการหันเท้าไปยังรูปปั้นเนี่ย ตอนเราไหว้เท้าเราก็ชี้พระรูปอยู่แล้วไม่ใช่หรือ?? หรือถ้าจะนอนก็ไม่ถึงกับขนาดต้องหันศรีษะไปยังทิศที่พระรูปอยู่หรอกนะ ผมว่า
วางของอื่นทับไบเบิ้ลได้ เช่นเวลาเราจัดหนังสือที่บ้าน ไบเบิ้ลมักจะเป็นเล่มใหญ่สุด หนาสุด ผมจึงชอบเอาไว้ล่างๆ เพื่อความสมดุลของตั้งหนังสือ
พวกกรวดน้ำอะไรแบบนี้ผมไม่เคยทำอ่ะ ไม่รู้กรวดไปแล้วถึงหรือเปล่า อิอิ
ทำบุญตักบาตรนี่ผมไม่รู้ว่าพระคัมภีร์ห้ามไว้มั้ย แต่ตามความเชื่อแล้ว ทำไปจะได้อะไรหรือ? แต่ผมก็เคยทำนะ แต่ไม่เรียกว่าตักบาตรหรือเปล่า ตอนนั้นไปส่งเพื่อนตักบาตรงานอะไรสักอย่างที่พระเดินเรียงแถวมาเยอะๆ พอใกล้จะถึงพระองค์สุดท้ายแล้ว ปรากฏว่าของของเพื่อนมันเหลือเต็มเลยอ่ะ เพราะมันละเมียดละมัยใส่ทีละน้อย ไม่ทันแน่ๆ ไหนๆแล้วเพราะสงสารเพื่อน ผมก็เลยช่วยมันใส่บาตรอย่างเมามัน อิอิ
ทำงานอ่ะ ถ้าจำเป็นนะครับก็ทำไปเหอะ อย่างเช่น อยู่เวร ฯลฯ แต่ถ้าเราสามารถเลือกเวลาทำงานได้แต่ต้น เราก็ควรหาเวลาที่เว้นวันอาทิตย์ไว้ แต่ถ้าไม่ได้จริง พระเจ้าก็ไม่ซีเรียสหรอกครับ แค่คุณพยายามตั้งใจที่จะเลือกไม่ทำงานในวันอาทิดเนี่ย พระองค์เป็นปลื้ม
ปล.ซักผ้า ถูบ้าน ทำได้ใช่มั้ยครับ ในวันอาทิตย์
ทำบุญตักบาตร กรวดน้ำสมัยนู้น ผมก็นั่งเซงครับ กรวดไปแล้วได้อะไรวะ :afro:
เรื่องถูบ้าน ซักผ้า ผมคิดว่าได้นะครับ หากเป็นงานที่จำเป็น งานต้องห้ามมักเป็นพวกงานหนักๆ
ไบเบิ้ลไม่ได้มีเจตนาอะไรนะ แต่นิสัยมักง่ายผมนะสิ *-* ส่วนสายประคำเมื่อวานผมวางไว้ปลายเตียงตอนอ่านไบเบิ้ลแล้วลืมไว้ แล้วแม่นอนทับเลย :lipsrsealed:
เรื่องถูบ้าน ซักผ้า ผมคิดว่าได้นะครับ หากเป็นงานที่จำเป็น งานต้องห้ามมักเป็นพวกงานหนักๆ
ไบเบิ้ลไม่ได้มีเจตนาอะไรนะ แต่นิสัยมักง่ายผมนะสิ *-* ส่วนสายประคำเมื่อวานผมวางไว้ปลายเตียงตอนอ่านไบเบิ้ลแล้วลืมไว้ แล้วแม่นอนทับเลย :lipsrsealed:
1. ประเด็นแนวคิดแบบแนวดิ่ง (Top Down Perspective) เป็นวิธีคิดของคนเอเชียครับ ถือว่าสิ่งที่อยู่ต่ำกว่าไม่ควรไปอยู่ที่สูง สิ่งที่อยู่ที่สูงไม่ควรไปอยู่ที่ต่ำ
แต่สังเกตว่า วัฒนธรรมตะวันตกไม่มีเรื่องนี้ นอกจากประเด็นของ "เท้า" ที่สกปรกแล้วต้องล้างครับ
ร่างกายโดยรวมตามเทววิทยาถือว่าเป็นหนึ่งเดียว มีหน้าที่ต่างกันไป ความสำคัญถือว่าเป็น 0 ถึง + ไม่มีลบ
การทีจะวางพระวจนะไว้บนพื้น ไม่ถือเป็นเรื่องแปลกอย่างใด แต่อยู่ที่เจตนาของการวาง
เท่ากับว่าหากพระวจนะอยู่บนพื้นแล้วใช้เท้าเขี่ยก็ไม่ผิด อยู่ที่เจตนาครับ ถ้าเจตนาว่าเขี่ยออกมา หรือเขี่ยให้คนอื่นคงไม่มีอะไร
แต่ถ้าเจตนา หรือไม่เจตนาก็แล้วแต่ทำให้ผู้อื่นรู้สึกไม่ดี หรือสะดุด ก็อย่าทำครับ
สรุปว่า การวาง และการ point เท้าไม่ได้ผิดบาปแต่อย่างใด แต่ไม่สมควรกระทำถ้าเป็นการสะดุดแก่ผู้อื่น
2. กรณีวางของทับ bible ก็อยู่ที่เจตนาครับ
อย่างวางหนังสือทับๆ กัน ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ "ไม่ควร" วางของที่ไม่สมควรทับลงไป
เช่น เสื้อผ้าที่ใส่แล้ว กางเกงใน (เออนะ) ฯลฯ ไม่ใช่บาปผิด แต่เป็นประมาณความไม่เหมาะสม เช่นข้อ 1
3. การแต่งดำ จริงๆ แล้วแต่งดำปกติ ถือเป็น casual เพื่อความสุภาพ
การแต่งดำในผู้ชายจะไม่แปลกเท่าผู้หญิง เพราะ ชุดสากลผู้ชายค่อนข้างเหมือนกัน
กรณีการใส่สูทผูกไท การแต่งดำก็พิจารณาจากไทครับ สีไทจะบอกเองว่า ดำไม่ดำ
ส่วนผู้หญิงตามธรรมเนียมฝรั่งถือว่า การคุมหน้าผ้าดำ (แบบในหนังไว้ทุกข์) เป็นการแต่งดำ
ถ้าเป็นปกติ ไม่มีปัญหาครับ
แต่สังเกตว่า วัฒนธรรมตะวันตกไม่มีเรื่องนี้ นอกจากประเด็นของ "เท้า" ที่สกปรกแล้วต้องล้างครับ
ร่างกายโดยรวมตามเทววิทยาถือว่าเป็นหนึ่งเดียว มีหน้าที่ต่างกันไป ความสำคัญถือว่าเป็น 0 ถึง + ไม่มีลบ
การทีจะวางพระวจนะไว้บนพื้น ไม่ถือเป็นเรื่องแปลกอย่างใด แต่อยู่ที่เจตนาของการวาง
เท่ากับว่าหากพระวจนะอยู่บนพื้นแล้วใช้เท้าเขี่ยก็ไม่ผิด อยู่ที่เจตนาครับ ถ้าเจตนาว่าเขี่ยออกมา หรือเขี่ยให้คนอื่นคงไม่มีอะไร
แต่ถ้าเจตนา หรือไม่เจตนาก็แล้วแต่ทำให้ผู้อื่นรู้สึกไม่ดี หรือสะดุด ก็อย่าทำครับ
สรุปว่า การวาง และการ point เท้าไม่ได้ผิดบาปแต่อย่างใด แต่ไม่สมควรกระทำถ้าเป็นการสะดุดแก่ผู้อื่น
2. กรณีวางของทับ bible ก็อยู่ที่เจตนาครับ
อย่างวางหนังสือทับๆ กัน ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ "ไม่ควร" วางของที่ไม่สมควรทับลงไป
เช่น เสื้อผ้าที่ใส่แล้ว กางเกงใน (เออนะ) ฯลฯ ไม่ใช่บาปผิด แต่เป็นประมาณความไม่เหมาะสม เช่นข้อ 1
3. การแต่งดำ จริงๆ แล้วแต่งดำปกติ ถือเป็น casual เพื่อความสุภาพ
การแต่งดำในผู้ชายจะไม่แปลกเท่าผู้หญิง เพราะ ชุดสากลผู้ชายค่อนข้างเหมือนกัน
กรณีการใส่สูทผูกไท การแต่งดำก็พิจารณาจากไทครับ สีไทจะบอกเองว่า ดำไม่ดำ
ส่วนผู้หญิงตามธรรมเนียมฝรั่งถือว่า การคุมหน้าผ้าดำ (แบบในหนังไว้ทุกข์) เป็นการแต่งดำ
ถ้าเป็นปกติ ไม่มีปัญหาครับ
ใช่ครับ สีดำแสดงความถ่อมตน เหมือนจะเคยได้ยินมาว่า แม้ทุกวันนี้คริสตชนหญิง ไม่จำเป็นต้องโพกหัว แบบสมัยก่อนแล้วก็จริง แต่สตรีที่เข้าเฝ้า พระสันตะปาปา ยังต้องแต่งชุดดำและโพกหัว(เก็บผม หรือใส่หมวก)ทุกครั้งเคย(เห็นรูปที่พระนางเจ้าอลิซาเบธเข้าเฝ้าด้วยครับ)Edwardius เขียน:
3. การแต่งดำ จริงๆ แล้วแต่งดำปกติ ถือเป็น casual เพื่อความสุภาพ
การแต่งดำในผู้ชายจะไม่แปลกเท่าผู้หญิง เพราะ ชุดสากลผู้ชายค่อนข้างเหมือนกัน
กรณีการใส่สูทผูกไท การแต่งดำก็พิจารณาจากไทครับ สีไทจะบอกเองว่า ดำไม่ดำ
ส่วนผู้หญิงตามธรรมเนียมฝรั่งถือว่า การคุมหน้าผ้าดำ (แบบในหนังไว้ทุกข์) เป็นการแต่งดำ
ถ้าเป็นปกติ ไม่มีปัญหาครับ
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ครึ่งบน คนอื่น ๆ ตอบไปเยอะแล้ว น่าจะได้ไอเดียนะคะแล้วก็ท่อนนี้แม่ผมถามมาฮะ (แม่ก็เกิดสนใจมาก เพราะ เห็นลูกชายเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ) แต่ดูเหมือนท่านจะติดขัดกับความชินกว่า 40 ปี
- ยังคงกรวดน้ำให้ญาติๆ
- ยังทำบุญตักบาตร
- ทำงานในวันอาทิตย์
ส่วนครึ่งล่าง
การกรวดน้ำ / ตักบาตร
จริง ๆ แล้ว เราเชื่อว่า...ทำแบบของเรา.... คนต่างศาสนาก็ได้รับเหมือนกันค่ะ
เพราะเราเชื่อว่าพระเจ้าของเรายิ่งใหญ่ สร้างทุกอย่าง พระองค์อยู่เหมือนกฏเกณท์
ดังนั้น ทำบุญ สวดอุทิศ และ ขอมิสซาให้ญาติต่างศาสนา พวกเขาก็ได้รับเหมือนกัน
วิญญาณน่ะ ไม่มีตัวตนแล้วค่ะ จะรู้สึกหิว ได้ยังงัย
อาหารที่จับต้องได้ จะลงไปสู่ร่างกายที่จับต้องไม่ได้ ยังงัย.... วิญญาณยังผลิตน้ำย่อยอยู่หรือคะ?
เราเชื่อว่าสิ่งที่จะทำให้วิญญาณได้รับการบรรเทา หรือ ความรอด
มาจากคำภาวนา และ การขอมิสซา อุทิศให้เขาค่ะ ขอพระเจ้าทรงเมตตาเขา
ดังนั้น ประเด็นนี้จึงสามารถตอบคุณแม่ได้ว่า.... ทำแบบของคริสต์ก็ถึงเหมือนกันคะแม่
ทำงานในวันอาทิตย์
จุดประสงค์ที่ห้ามทำงานในวันอาทิตย์ จริง ๆ แล้วก็คือ ไม่อยากให้คุณขาดวัดนั้นแหละคะ
ร่างกายได้กินอาหารทุกวัน แต่วิญญาณของคุณได้กินอาหารคือพระวาจาหล่อเลี้ยงชีวิตแค่วันอาทิตย์
ถ้าเราเอาแต่แสวงหาเงิน แสวงหาความสุขทางโลก วัดวาไม่ไป
ก้เหมือนกับสังคมยุคนี้แหละค่ะ ที่คนไม่เชื่อบาปบุญคุณโทษแล้ว
เหมือนถ้าคุณบอกว่ารักพระเจ้า แต่อาทิตย์ทั้งอาทิตย์ไม่เคยโผล่หน้าไปหาพระองค์
ก็ไม่รู้ว่าเรียกว่ารักพระเจ้าได้ยังงัย ดังนั้น พระศาสนจักรจึงอยากให้เราสงวนวันอาทิตย์ไว้เพื่อพระองค์
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าให้นอนแบอยู่แต่ในวัด หรือ ในบ้านทั้งวัน
ถ้าคุณจะทำงานในวันอาทิตย์ ก็แบ่งเวลาครึ่งวันเช้าไว้ไปร่วมมิสซา เพื่อให้จิตวิญญาณแข็งแรง
และเป็นการชิดสนิทกับพระเจ้ามากขึ้น
วันอาทิตย์ไม่ทำงาน ไม่ได้หมายความว่าให้นอนเฉย ๆ อยู่กะบ้านนะคะ
อย่าเข้าใจผิด ......... :cheesy:
พระราชินีของเราก็โพกนะ เคยเห็นiBONT เขียน:ใช่ครับ สีดำแสดงความถ่อมตน เหมือนจะเคยได้ยินมาว่า แม้ทุกวันนี้คริสตชนหญิง ไม่จำเป็นต้องโพกหัว แบบสมัยก่อนแล้วก็จริง แต่สตรีที่เข้าเฝ้า พระสันตะปาปา ยังต้องแต่งชุดดำและโพกหัว(เก็บผม หรือใส่หมวก)ทุกครั้งเคย(เห็นรูปที่พระนางเจ้าอลิซาเบธเข้าเฝ้าด้วยครับ)Edwardius เขียน:
3. การแต่งดำ จริงๆ แล้วแต่งดำปกติ ถือเป็น casual เพื่อความสุภาพ
การแต่งดำในผู้ชายจะไม่แปลกเท่าผู้หญิง เพราะ ชุดสากลผู้ชายค่อนข้างเหมือนกัน
กรณีการใส่สูทผูกไท การแต่งดำก็พิจารณาจากไทครับ สีไทจะบอกเองว่า ดำไม่ดำ
ส่วนผู้หญิงตามธรรมเนียมฝรั่งถือว่า การคุมหน้าผ้าดำ (แบบในหนังไว้ทุกข์) เป็นการแต่งดำ
ถ้าเป็นปกติ ไม่มีปัญหาครับ
ขอบคุณสำหรับคำตอบฮะ
ของผมไม่มีปัญหาอะไร จะพยายามลดนิสัยมักง่าย :police: ชุดดำ เอ่อ พึ่งนึกได้ ซิสเตอร์ชุดดำก็มีด้วย ทีแรกผมเข้าใจว่าสีดำคือสีซาตานครับ เลยมองแบบนั้น + ความคิดถึงนู่นนี่แบบไทยด้วย (ทีจริงต้องพูดว่าไทยพุทธ) มีความคิดห้ามเอาโลงศพเข้าบ้านด้วย
สำหรับแม่ ผมก็ให้คำตอบทำนองนี้กับแม่ไว้อยู่แล้ว แต่ผมค่อนข้่างจะพูดแรงกว่านี้ด้วยความเคร่ง และได้บอกคำตอบที่ืทุกท่านให้แล้ว ทุกอย่างก็เป็นเช่นเดิมครับ ถึงจะมีคำตอบที่ดีแค่ไหน แต่คงจะบังคับท่านไม่ได้ :lipsrsealed:
ของผมไม่มีปัญหาอะไร จะพยายามลดนิสัยมักง่าย :police: ชุดดำ เอ่อ พึ่งนึกได้ ซิสเตอร์ชุดดำก็มีด้วย ทีแรกผมเข้าใจว่าสีดำคือสีซาตานครับ เลยมองแบบนั้น + ความคิดถึงนู่นนี่แบบไทยด้วย (ทีจริงต้องพูดว่าไทยพุทธ) มีความคิดห้ามเอาโลงศพเข้าบ้านด้วย
สำหรับแม่ ผมก็ให้คำตอบทำนองนี้กับแม่ไว้อยู่แล้ว แต่ผมค่อนข้่างจะพูดแรงกว่านี้ด้วยความเคร่ง และได้บอกคำตอบที่ืทุกท่านให้แล้ว ทุกอย่างก็เป็นเช่นเดิมครับ ถึงจะมีคำตอบที่ดีแค่ไหน แต่คงจะบังคับท่านไม่ได้ :lipsrsealed:
เมื่อคืนแอบแว๊บๆ คิดว่า อยากเอาโลงศพมาทำโต๊ะทำงานEPG เขียน: ขอบคุณสำหรับคำตอบฮะ
ของผมไม่มีปัญหาอะไร จะพยายามลดนิสัยมักง่าย :police: ชุดดำ เอ่อ พึ่งนึกได้ ซิสเตอร์ชุดดำก็มีด้วย ทีแรกผมเข้าใจว่าสีดำคือสีซาตานครับ เลยมองแบบนั้น + ความคิดถึงนู่นนี่แบบไทยด้วย (ทีจริงต้องพูดว่าไทยพุทธ) มีความคิดห้ามเอาโลงศพเข้าบ้านด้วย
สำหรับแม่ ผมก็ให้คำตอบทำนองนี้กับแม่ไว้อยู่แล้ว แต่ผมค่อนข้่างจะพูดแรงกว่านี้ด้วยความเคร่ง และได้บอกคำตอบที่ืทุกท่านให้แล้ว ทุกอย่างก็เป็นเช่นเดิมครับ ถึงจะมีคำตอบที่ดีแค่ไหน แต่คงจะบังคับท่านไม่ได้ :lipsrsealed:
ตายปุ๊บแกะโต๊ะห่อเจ้าของเลย แต่เสียดาย มันไม่มีช่องสอดขาเวลาทำงาน...
อ้อ ของผม ผมกะเอาโลงศพมานอนเลยนะ 
ตอนนี้แก้ขัดนอนใต้เตียงไปก่อน รู้สึกคล้ายๆกัน แต่ฝุ่นมันเยอะ แถมเตี้ยไปด้วย เวลาลุกขึ้นก็ลำบาก
ปล. ใครทำแบบผม อย่าลืมเจาะรูหายใจ ไม่งั้นละก็มีหวังได้ใช้โลงนั้นแหง
ตอนนี้แก้ขัดนอนใต้เตียงไปก่อน รู้สึกคล้ายๆกัน แต่ฝุ่นมันเยอะ แถมเตี้ยไปด้วย เวลาลุกขึ้นก็ลำบาก
ปล. ใครทำแบบผม อย่าลืมเจาะรูหายใจ ไม่งั้นละก็มีหวังได้ใช้โลงนั้นแหง
มันเป็นเพียงแค่วัตถุครับ อย่าคิดมาก สำคัญที่เจตนาและความตั้งใจมากกว่า ถึงแม่ว่าเราจะเหยียบสายประคำโดยเราไม่ได้รู้สึกแบบว่าจงใจทำประชดพระเจ้ามันก็ไม่บาป ถ้าทำจงใจประชดพระเจ้า ผมคิดว่าบาปครับ แต่คงจะไม่ใช่บาปที่เหยียบวัตถุ แต่เป็นบาปทางจิตใจครับInvy เขียน: ว่ากันตามนี้ คาทอลิกห้ามสิ่งต่อไปนี้เปล่าครับ
- วางไบเบิ้ลไว้ตามพื้น
- วางของอื่นทับไบเบื้ล
- หันเท้าใส่สายประคำ
- หันเท้าไปทางรูปปั้นพระเยซู พระแม่ นักบุญ ฯลฯ
- ใส่ชุดดำทั้งตัวเข้าวัดเป็นกิจ
แล้วก็ท่อนนี้แม่ผมถามมาฮะ (แม่ก็เกิดสนใจมาก เพราะ เห็นลูกชายเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ) แต่ดูเหมือนท่านจะติดขัดกับความชินกว่า 40 ปี
- ยังคงกรวดน้ำให้ญาติๆ
- ยังทำบุญตักบาตร
- ทำงานในวันอาทิตย์
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
Invy เขียน: อ้อ ของผม ผมกะเอาโลงศพมานอนเลยนะ
ตอนนี้แก้ขัดนอนใต้เตียงไปก่อน รู้สึกคล้ายๆกัน แต่ฝุ่นมันเยอะ แถมเตี้ยไปด้วย เวลาลุกขึ้นก็ลำบาก
ปล. ใครทำแบบผม อย่าลืมเจาะรูหายใจ ไม่งั้นละก็มีหวังได้ใช้โลงนั้นแหง
อย่าให้ถึงขนาดนั้นเลยค่ะ
เดี่ยวคุณแม่จะมองว่าเพี้ยนไปแทน นอนธรรมดาก็ได้
ปล. เรื่องความเชื่อ บังคับกันไม่ได้ค่ะ
ถ้าคุณอยากให้ท่านกลับใจ ก็อธิบายอย่างสุภาพ
และสวดของพระเจ้าให้เมตตา ดลใจให้ท่านเป็นรับพระองค์
พระเจ้าไม่ได้ต้องการคนมาเชื่อเพราะถูกบังคับ หรือเพราะกลัวจะตกนรก หรือ ไม่รอด
แต่พระเจ้าต้องการคนที่กลับมา เพราะรักพระองค์ค่ะ
ขอพระเจ้าอวยพร
ติดเครื่องกรองอากาศด้วยครับ เป็นภูมิแพ้Invy เขียน: อ้อ ของผม ผมกะเอาโลงศพมานอนเลยนะ
ตอนนี้แก้ขัดนอนใต้เตียงไปก่อน รู้สึกคล้ายๆกัน แต่ฝุ่นมันเยอะ แถมเตี้ยไปด้วย เวลาลุกขึ้นก็ลำบาก
ปล. ใครทำแบบผม อย่าลืมเจาะรูหายใจ ไม่งั้นละก็มีหวังได้ใช้โลงนั้นแหง
สำหรับในศาสนาคาทอลิกเราจะผิดต่อความเชื่อเมื่อ?
1.ปฏเสธความเชื่อ : เช่นไม่เชื่อถือในพระวาจาไม่เชื่อในคำสอน
2.เต็มใจสงสัย: เราสงสัยในพระวาจาของพระเจ้าหรือประวัติของพระองค์อย่างเต็มใจหรือไม่เช่นหนังดาวินชี่โค้ดเราปักใจสงสัยจนทำให้ความเชื่อเราลดลงหรือไม่
3.เลินเล่อที่จะเรียนคำสอน:สิ่งนี้สงสัยจะเกิดกับเด็กๆซะมากกว่า ผู้ใหญคงไม่มี
4.อายที่จะแสดงตนเป็นคริสตรัง:ปัจุบันการเบียดเบียนทางศาสนามีน้อยลงข้อนี้คงเบาใจได้ เช่นการสวดมนต์ก่อนรับประทานอาหารเป็นสิ่งที่ไม่น่าอายสำหรับชาวคาทอลิกไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
5.ฟังเทศน์ อ่านหรือแจกหนังสือศาสนาอื่น:ถามว่าคริสตรังทำบุญในแบบของพุทธเช่นตักบาตรได้มั้ย?เป็นข้อถกเถียงกันมานานขอบอกเลยว่าไม่ได้เราจะแสดงตนให้คนคิดว่าเรานับถือในศาสนาอื่นมิได้โดยเด็ดขาด
6.ช่วยงานศานนาอื่น:คริสตรังสามารถทำบุญบริจาคให้คนต่างศาสนาได้โดยเราถือว่าเป็นศาสนาสัมพันธ์แต่ไม่ควรเข้าร่วมหรือแสดงตนในพิธีกรรมศาสนาอื่น
เชื่อแต่ในใจเท่านั้นไม่พอ ต้องแสดงความเชื่อภายนอกโดยธรรมเนียมคริสตรังด้วย
ปล.ที่สำคัญที่สุดคือต้องรักพระเจ้าจนสุดชีวิตจิตใจและวิญญาณของเรา
1.ปฏเสธความเชื่อ : เช่นไม่เชื่อถือในพระวาจาไม่เชื่อในคำสอน
2.เต็มใจสงสัย: เราสงสัยในพระวาจาของพระเจ้าหรือประวัติของพระองค์อย่างเต็มใจหรือไม่เช่นหนังดาวินชี่โค้ดเราปักใจสงสัยจนทำให้ความเชื่อเราลดลงหรือไม่
3.เลินเล่อที่จะเรียนคำสอน:สิ่งนี้สงสัยจะเกิดกับเด็กๆซะมากกว่า ผู้ใหญคงไม่มี
4.อายที่จะแสดงตนเป็นคริสตรัง:ปัจุบันการเบียดเบียนทางศาสนามีน้อยลงข้อนี้คงเบาใจได้ เช่นการสวดมนต์ก่อนรับประทานอาหารเป็นสิ่งที่ไม่น่าอายสำหรับชาวคาทอลิกไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
5.ฟังเทศน์ อ่านหรือแจกหนังสือศาสนาอื่น:ถามว่าคริสตรังทำบุญในแบบของพุทธเช่นตักบาตรได้มั้ย?เป็นข้อถกเถียงกันมานานขอบอกเลยว่าไม่ได้เราจะแสดงตนให้คนคิดว่าเรานับถือในศาสนาอื่นมิได้โดยเด็ดขาด
6.ช่วยงานศานนาอื่น:คริสตรังสามารถทำบุญบริจาคให้คนต่างศาสนาได้โดยเราถือว่าเป็นศาสนาสัมพันธ์แต่ไม่ควรเข้าร่วมหรือแสดงตนในพิธีกรรมศาสนาอื่น
เชื่อแต่ในใจเท่านั้นไม่พอ ต้องแสดงความเชื่อภายนอกโดยธรรมเนียมคริสตรังด้วย
ปล.ที่สำคัญที่สุดคือต้องรักพระเจ้าจนสุดชีวิตจิตใจและวิญญาณของเรา
แก้ไขล่าสุดโดย 13PM. เมื่อ จันทร์ ก.ย. 17, 2007 2:04 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
อุ๊ย ช้อนตก... เดชะ พระบิดา พระบุตร และ พระจิต อาแมน......joruno เขียน:
4.อายที่จะแสดงตนเป็นคริสตรัง:ปัจุบันการเบียดเบียนทางศาสนามีน้อยลงข้อนี้คงเบาใจได้ เช่นการสวดมนต์ก่อนรับประทานอาหารเป็นสิ่งที่ไม่น่าอายสำหรับชาวคาทอลิกไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
เหตุที่ไม่พอ เพราะเมื่อเราทำเช่นนั้น จะทำให้พี่น้องคริสตชนของเรา สูญเสียความศรัทธาjoruno เขียน: สำหรับในศาสนาคาทอลิกเราจะผิดต่อความเชื่อเมื่อ?
1.ปฏเสธความเชื่อ : เช่นไม่เชื่อถือในพระวาจาไม่เชื่อในคำสอน
2.เต็มใจสงสัย: เราสงสัยในพระวาจาของพระเจ้าหรือประวัติของพระองค์อย่างเต็มใจหรือไม่เช่นหนังดาวินชี่โค้ดเราปักใจสงสัยจนทำให้ความเชื่อเราลดลงหรือไม่
3.เลินเล่อที่จะเรียนคำสอน:สิ่งนี้สงสัยจะเกิดกับเด็กๆซะมากกว่า ผู้ใหญคงไม่มี
4.อายที่จะแสดงตนเป็นคริสตรัง:ปัจุบันการเบียดเบียนทางศาสนามีน้อยลงข้อนี้คงเบาใจได้ เช่นการสวดมนต์ก่อนรับประทานอาหารเป็นสิ่งที่ไม่น่าอายสำหรับชาวคาทอลิกไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
5.ฟังเทศน์ อ่านหรือแจกหนังสือศาสนาอื่น:ถามว่าคริสตรังทำบุญในแบบของพุทธเช่นตักบาตรได้มั้ย?เป็นข้อถกเถียงกันมานานขอบอกเลยว่าไม่ได้เราจะแสดงตนให้คนคิดว่าเรานับถือในศาสนาอื่นมิได้โดยเด็ดขาด
6.ช่วยงานศานนาอื่น:คริสตรังสามารถทำบุญบริจาคให้คนต่างศาสนาได้โดยเราถือว่าเป็นศาสนาสัมพันธ์แต่ไม่ควรเข้าร่วมหรือแสดงตนในพิธีกรรมศาสนาอื่น
เชื่อแต่ในใจเท่านั้นไม่พอ ต้องแสดงความเชื่อภายนอกโดยธรรมเนียมคริสตรังด้วย
ปล.ที่สำคัญที่สุดคือต้องรักพระเจ้าจนสุดชีวิตจิตใจและวิญญาณของเรา
โดยเฉพาะเยาวชนทั้งหลายที่รับพระกายอย่างไม่รู้คุณค่า พี่น้อง ให้เราภาวนา
ไป...แ_กวีต้า....แล้วไปต_ยซะ -*-Invy เขียน:อุ๊ย ช้อนตก... เดชะ พระบิดา พระบุตร และ พระจิต อาแมน......joruno เขียน:
4.อายที่จะแสดงตนเป็นคริสตรัง:ปัจุบันการเบียดเบียนทางศาสนามีน้อยลงข้อนี้คงเบาใจได้ เช่นการสวดมนต์ก่อนรับประทานอาหารเป็นสิ่งที่ไม่น่าอายสำหรับชาวคาทอลิกไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน![]()
Oops!necromancer เขียน:ไป...แ_กวีต้า....แล้วไปต_ยซะ -*-Invy เขียน:อุ๊ย ช้อนตก... เดชะ พระบิดา พระบุตร และ พระจิต อาแมน......joruno เขียน:
4.อายที่จะแสดงตนเป็นคริสตรัง:ปัจุบันการเบียดเบียนทางศาสนามีน้อยลงข้อนี้คงเบาใจได้ เช่นการสวดมนต์ก่อนรับประทานอาหารเป็นสิ่งที่ไม่น่าอายสำหรับชาวคาทอลิกไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน![]()
-
- .
- โพสต์: 944
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 18, 2005 11:16 pm
necromancer เขียน:ไป...แ_กวีต้า....แล้วไปต_ยซะ -*-Invy เขียน:อุ๊ย ช้อนตก... เดชะ พระบิดา พระบุตร และ พระจิต อาแมน......joruno เขียน:
4.อายที่จะแสดงตนเป็นคริสตรัง:ปัจุบันการเบียดเบียนทางศาสนามีน้อยลงข้อนี้คงเบาใจได้ เช่นการสวดมนต์ก่อนรับประทานอาหารเป็นสิ่งที่ไม่น่าอายสำหรับชาวคาทอลิกไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน![]()
เจ้า เอช ...จะดีเหรอ??
เดี๋ยวน้องๆผ่านมาเห็นเข้ามันไม่น่ารักนะจ๊ะ
ดื่ม XP ดีกว่าnecromancer เขียน:ไป...แ_กวีต้า....แล้วไปต_ยซะ -*-Invy เขียน:อุ๊ย ช้อนตก... เดชะ พระบิดา พระบุตร และ พระจิต อาแมน......joruno เขียน:
4.อายที่จะแสดงตนเป็นคริสตรัง:ปัจุบันการเบียดเบียนทางศาสนามีน้อยลงข้อนี้คงเบาใจได้ เช่นการสวดมนต์ก่อนรับประทานอาหารเป็นสิ่งที่ไม่น่าอายสำหรับชาวคาทอลิกไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน![]()
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
ใจเย็น ๆ นะครับ ไม่มีอะไรหรอกครับ :embarrassed:joruno เขียน: นึกว่าพี่น้องจะมีแต่สุภาพชนซะอีก