+++วิธีสวดสายประคำอัศจรรย์ สำหรับคริสตชนทุกนิกาย+++
วัตถุประสงค์ และความเป็นมา
สายประคำอัศจรรย์เพื่อคริสตชนทุกนิกายถูกเผยแพร่ครั้งแรกบนระบบเครือข่ายในเดือนกุมภาพันธ์ คศ.1999
สายประคำนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสายประคำศักดิ์สิทธิ์ต้นฉบับ
ซึ่งเป็นการจัดวางบทภาวนาต่างๆและการรำพึงเหตุการณ์สำคัญต่างๆในพันธสัญญาใหม่
บทภาวนาเหล่านี้ จะถูกนับและภาวนาในแต่ละเม็ดประคำ
ขณะที่สวดบทภาวนาและนับเม็ดประคำนั้น เราจะรำพึงในภาพเหตุการณ์สำคัญต่างๆ จากพระคัมภีร์ ซึ่งเรียกว่าธรรมล้ำลึก
สายประคำจะกล่าวเรื่องราวของพระเยซู นับแต่การบังเกิด การสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน ตลอดจนการคืนชีพและสเด็จขึ้นสวรรค์
โดยผู้ที่คิดค้นขึ้นคือ นักบุญโดมินิก ในศตวรรษที่13
ข้าพเจ้าเป็นลูเธอรันที่ได้สมรสกับคาทอลิค จึงได้มีโอกาสเรียนรู้เรื่องสายประคำจาก กลุ่มสมาชิกคู่สรมรสคาทอลิค
ข้าพเจ้าได้ตกตะลึงในอำนาจของการสวดสายประคำ เพราะ การสวดสายประคำทำให้เราสามารถรำพึงถึงธรรมล้ำลึกต่างๆ ขณะที่ท่องบทภาวนา
คริสตชนที่มีประสบการ์สวดสายประคำแล้ว สามารถอธิษฐานวอนขอได้ในขณะที่ท่องบทภาวนาและรำพึงถึงเหตุการณ์อัศจรรย์ต่างๆ
สายประคำคือรูปแบบการภาวนาที่ทรงพลังเพราะ สายประคำได้นำเราหลีกพ้นความน่าเบื่อของการภาวนาที่ไร้รูปแบบ
และยังทำให้คริสตชนสามารถใช้เวลามากขึ้นในการสรรเสริญแสดงความรักค่อพระเจ้า เช่นเดียวกับการอธิษฐานกับพระเจ้าโดยตรง
สายประคำอัศจรรย์นี้ ได้ใช้บทข้าแต่พระบิดาฯและบทภาวนาอื่นๆที่ข้าพเจ้ารู้สึกว่าเป็นประโยชน์มากในประสบการณ์ส่วนตัวด้านศรัทธา
ข้าพเจ้าเรียกสายประคำนี้ว่า "สายประคำเอกสัมพันธ์"
เพราะบทภาวนาและข้อรำพึง"อัศจรรย์"ต่างๆได้ยึด/ดัดแปลงจากพระคัมภีร์โดยตรง
เพื่อที่ทุกคริสตจักรจะสามารถท่องบทภาวนาและรำพึงเหตุการณ์อัศจรรย์ได้อย่างสะดวก
ข้าพเจ้ายังเรียกสายประคำนี้ว่า "สายประคำอัศจรรย์"
เพราะข้อรำพึงทั้งหมดได้กล่าวถึงอัศจรรย์ต่างๆ ที่พระเยซูเจ้าได้ทรงกระทำทั้งก่อนและหลังการเสด็จกลับฟื้นคืนชีพ
ข้าพเจ้าไม่อาจยืนยันแต่ก็เชื่อว่า การภาวนาโดยกิจศรัทธานี้จะนำอัศจรรย์ของพระเจ้า มาสู่ชีวิตของเรายิ่งๆขึ้นไป
ข้าพเจ้าหวังว่าพี่น้องคาทอลิคจะให้ความสนใจสายประคำนี้เช่นเดียวกับกิจศรัทธาที่ใช้สายประคำแบบทั่วไป
เช่นเดียวกับ สายประคำพระเมตตา ซึ่งนักบุญโฟสติน่าได้เผยแพร่
ข้าพเจ้าอยากให้เข้าใจด้วยว่า สายประคำอัศจรรย์มิได้นำมาแทนที่สายประคำศักดิ์สิทธิ์
และนั่นเป็นเหตุผลที่ข้าพเจ้าใช้บทภาวนาและข้อรำพึงที่ต่างออกไป
เพื่อเพ่งพินิจในอัศจรรย์ต่างๆที่พระคริสตเจ้าได้ทรงกระทำขณะดำเนินชีวิตอยู่บนโลกนี้
ข้าพเจ้าหวังว่าพี่น้องโปรแตสแตนท์ จะมองสายประคำนี้เป็น หนทางในการดำลึกในชีวิตการภาวนา
โดยการรำพึงในสิ่งที่พระเยซูได้ทำเพื่อเรา และในความจริงเรื่องการกลับคืนชีพของพระองค์
ข้าพเจ้ามีเป้าหมายที่จะแบ่งปัน สายประคำนี้แก่คริสตชนต่างๆที่มิใช่คาทอลิค
เพื่อสร้างเสริมความเป็นเอกภาพของทุกคริสตจักร
ข้าพเจ้าหวังว่าสายประคำนี้จะถูกใช้ในกลุ่มเอกสัมพันธ์เช่นเดียวกับการตื่นเฝ้าในวันคริสต์มาสและอีสเตอร์ ฯลฯของกลุ่มด้วย
http://www.ecumenicalrosary.org/default.htm
[hr]
1.กางเขน สวด "หลักข้อเชื่อสภานิเชีย" (ข้าพเจ้าเชื่อในพระเจ้าหนึ่งเดียว)
2.เม็ดใหญ่ สวด "บทข้าแต่พระบิดา" (เสริม “+เหตุว่า พระอาณาจักรฯ")
3.เม็ดเล็ก 3 เม็ด แต่ละเม็ดสวด "บัญญัติเอก"
4.เม็ดใหญ่ สวด "บัญชาเอก"
5.สวด 5ข้อรำพึง โดยแต่ละข้อรำพึงสวด 1ทศ คือ:
เม็ดใหญ่ สวด "ข้าแต่พระบิดา" (เสริม “+เหตุว่า พระอาณาจักรฯ")
เม็ดเล็ก 10เม็ด สวด "บัญญัติเอก "10บท
เม็ดใหญ่ สวด "บัญชาเอก" และเริ่มสวดข้อรำพึงต่อไป
6. ประตูสวรรค์ เมื่อครบ5ข้อรำพึง สวด "บทภาวนาพระเยซู"
+++++++++++++++++
หลักข้อเชื่อสภานิเชีย
ข้าพเจ้าเชื่อในพระเจ้าหนึ่งเดียว : พระบิดาผู้ทรงสรรพานุภาพ เนรมิตฟ้าดิน ทั้งสิ่งที่เห็นได้และเห็นไม่ได้
ข้าพเจ้าเชื่อในพระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรหนึ่งเดียวของพระเจ้า: ทรงบังเกิดจากพระบิดาก่อนกาลเวลา
ทรงเป็นพระเจ้าจากพระเจ้า: เป็นองค์ความสว่างจากองค์ความสว่าง
ทรงเป็นพระเจ้าแท้จากพระเจ้าแท้: มิได้ถูกสร้างแต่ทรงบังเกิดร่วมพระธรรมชาติเดียวกับพระบิดา
อาศัยพระบุตรนี้ ทุกสิ่งได้รับการเนรมิตขึ้นมา : เพราะเห็นแก่เรามนุษย์ เพื่อทรงช่วยเราให้รอด พระองค์จึงเสด็จจากสวรรค์
พระองค์ทรงรับสภาพมนุษย์ จากพระนางมารีย์พรหมจารี ด้วยพระอานุภาพของพระจิตเจ้า :และทรงบังเกิดเป็นมนุษย์
สมัยปอนทิอัส ปิลาต พระองค์ทรงถูกตรึงกางเขนเพื่อเรา :พระองค์สิ้นพระชนม์และถูกฝังไว้
ทรงกลับคืนพระชนมชีพในวันที่สาม ตามความในพระคัมภีร์ :เสด็จสู่สวรรค์ประทับเบื้องขวาพระบิดา
พระองค์จะเสด็จมาอีกด้วยพระสิริรุ่งโรจน์เพื่อทรงพิพากษาผู้เป็นและผู้ตาย :รัชสมัยของพระองค์จะไม่สิ้นสุด
ข้าพเจ้าเชื่อในพระจิต พระเจ้าผู้ทรงบันดาลชีวิต :ทรงเนื่องมาจากพระบิดาและพระบุตร
ทรงรับการถวายสักการะและพระสิริรุ่งโรจน์ร่วมกับพระบิดาและพระบุตร :พระองค์ดำรัสทางประกาศก
ข้าพเจ้าเชื่อว่า มีพระศาสนจักร หนึ่งเดียว ศักดิ์สิทธิ์ สากลและสืบเนื่องจากอัครสาวก :ข้าพเจ้าประกาศยืนยันว่า มีศีลล้างบาปหนึ่งเดียวเพื่ออภัยบาป
ข้าพเจ้ารอวันที่ผู้ตายจะกลับคืนชีพ :และคอยชีวิตในโลกหน้า อาแมน
บัญญัติเอก
ข้าแต่พระเยซูผู้อ่อนหวาน ข้าพเจ้ารักพระองค์สุดดวงใจและวิญญาณ
โปรดช่วยข้าพเจ้าให้ปรนนิบัติรับใช้พี่น้องเพื่อนมนุษย์ ที่ข้าพเจ้าได้พบในวันนี้เทอญ (มัทธิว 22:34-40)
บัญชาเอก
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้ารู้ว่าพระองค์ทรงอยู่กับข้าพเจ้า โปรดช่วยข้าพเจ้าให้ปฎิบัติตามคำสอนของพระองค์
และนำไปแบ่งปันแก่ผู้อื่น เพื่อเขาจะได้รู้จักและรักพระองค์เช่นกันเทอญ (มัทธิว28:16-20)
บทภาวนาพระเยซู
ข้าแต่พระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้า โปรดทรงเมตตาเราคนบาปเทอญ
สายประคำอัศจรรย์เพื่อคริสตชนทุกนิกายถูกเผยแพร่ครั้งแรกบนระบบเครือข่ายในเดือนกุมภาพันธ์ คศ.1999
สายประคำนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสายประคำศักดิ์สิทธิ์ต้นฉบับ
ซึ่งเป็นการจัดวางบทภาวนาต่างๆและการรำพึงเหตุการณ์สำคัญต่างๆในพันธสัญญาใหม่
บทภาวนาเหล่านี้ จะถูกนับและภาวนาในแต่ละเม็ดประคำ
ขณะที่สวดบทภาวนาและนับเม็ดประคำนั้น เราจะรำพึงในภาพเหตุการณ์สำคัญต่างๆ จากพระคัมภีร์ ซึ่งเรียกว่าธรรมล้ำลึก
สายประคำจะกล่าวเรื่องราวของพระเยซู นับแต่การบังเกิด การสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน ตลอดจนการคืนชีพและสเด็จขึ้นสวรรค์
โดยผู้ที่คิดค้นขึ้นคือ นักบุญโดมินิก ในศตวรรษที่13
ข้าพเจ้าเป็นลูเธอรันที่ได้สมรสกับคาทอลิค จึงได้มีโอกาสเรียนรู้เรื่องสายประคำจาก กลุ่มสมาชิกคู่สรมรสคาทอลิค
ข้าพเจ้าได้ตกตะลึงในอำนาจของการสวดสายประคำ เพราะ การสวดสายประคำทำให้เราสามารถรำพึงถึงธรรมล้ำลึกต่างๆ ขณะที่ท่องบทภาวนา
คริสตชนที่มีประสบการ์สวดสายประคำแล้ว สามารถอธิษฐานวอนขอได้ในขณะที่ท่องบทภาวนาและรำพึงถึงเหตุการณ์อัศจรรย์ต่างๆ
สายประคำคือรูปแบบการภาวนาที่ทรงพลังเพราะ สายประคำได้นำเราหลีกพ้นความน่าเบื่อของการภาวนาที่ไร้รูปแบบ
และยังทำให้คริสตชนสามารถใช้เวลามากขึ้นในการสรรเสริญแสดงความรักค่อพระเจ้า เช่นเดียวกับการอธิษฐานกับพระเจ้าโดยตรง
สายประคำอัศจรรย์นี้ ได้ใช้บทข้าแต่พระบิดาฯและบทภาวนาอื่นๆที่ข้าพเจ้ารู้สึกว่าเป็นประโยชน์มากในประสบการณ์ส่วนตัวด้านศรัทธา
ข้าพเจ้าเรียกสายประคำนี้ว่า "สายประคำเอกสัมพันธ์"
เพราะบทภาวนาและข้อรำพึง"อัศจรรย์"ต่างๆได้ยึด/ดัดแปลงจากพระคัมภีร์โดยตรง
เพื่อที่ทุกคริสตจักรจะสามารถท่องบทภาวนาและรำพึงเหตุการณ์อัศจรรย์ได้อย่างสะดวก
ข้าพเจ้ายังเรียกสายประคำนี้ว่า "สายประคำอัศจรรย์"
เพราะข้อรำพึงทั้งหมดได้กล่าวถึงอัศจรรย์ต่างๆ ที่พระเยซูเจ้าได้ทรงกระทำทั้งก่อนและหลังการเสด็จกลับฟื้นคืนชีพ
ข้าพเจ้าไม่อาจยืนยันแต่ก็เชื่อว่า การภาวนาโดยกิจศรัทธานี้จะนำอัศจรรย์ของพระเจ้า มาสู่ชีวิตของเรายิ่งๆขึ้นไป
ข้าพเจ้าหวังว่าพี่น้องคาทอลิคจะให้ความสนใจสายประคำนี้เช่นเดียวกับกิจศรัทธาที่ใช้สายประคำแบบทั่วไป
เช่นเดียวกับ สายประคำพระเมตตา ซึ่งนักบุญโฟสติน่าได้เผยแพร่
ข้าพเจ้าอยากให้เข้าใจด้วยว่า สายประคำอัศจรรย์มิได้นำมาแทนที่สายประคำศักดิ์สิทธิ์
และนั่นเป็นเหตุผลที่ข้าพเจ้าใช้บทภาวนาและข้อรำพึงที่ต่างออกไป
เพื่อเพ่งพินิจในอัศจรรย์ต่างๆที่พระคริสตเจ้าได้ทรงกระทำขณะดำเนินชีวิตอยู่บนโลกนี้
ข้าพเจ้าหวังว่าพี่น้องโปรแตสแตนท์ จะมองสายประคำนี้เป็น หนทางในการดำลึกในชีวิตการภาวนา
โดยการรำพึงในสิ่งที่พระเยซูได้ทำเพื่อเรา และในความจริงเรื่องการกลับคืนชีพของพระองค์
ข้าพเจ้ามีเป้าหมายที่จะแบ่งปัน สายประคำนี้แก่คริสตชนต่างๆที่มิใช่คาทอลิค
เพื่อสร้างเสริมความเป็นเอกภาพของทุกคริสตจักร
ข้าพเจ้าหวังว่าสายประคำนี้จะถูกใช้ในกลุ่มเอกสัมพันธ์เช่นเดียวกับการตื่นเฝ้าในวันคริสต์มาสและอีสเตอร์ ฯลฯของกลุ่มด้วย
http://www.ecumenicalrosary.org/default.htm
[hr]
1.กางเขน สวด "หลักข้อเชื่อสภานิเชีย" (ข้าพเจ้าเชื่อในพระเจ้าหนึ่งเดียว)
2.เม็ดใหญ่ สวด "บทข้าแต่พระบิดา" (เสริม “+เหตุว่า พระอาณาจักรฯ")
3.เม็ดเล็ก 3 เม็ด แต่ละเม็ดสวด "บัญญัติเอก"
4.เม็ดใหญ่ สวด "บัญชาเอก"
5.สวด 5ข้อรำพึง โดยแต่ละข้อรำพึงสวด 1ทศ คือ:
เม็ดใหญ่ สวด "ข้าแต่พระบิดา" (เสริม “+เหตุว่า พระอาณาจักรฯ")
เม็ดเล็ก 10เม็ด สวด "บัญญัติเอก "10บท
เม็ดใหญ่ สวด "บัญชาเอก" และเริ่มสวดข้อรำพึงต่อไป
6. ประตูสวรรค์ เมื่อครบ5ข้อรำพึง สวด "บทภาวนาพระเยซู"
+++++++++++++++++
หลักข้อเชื่อสภานิเชีย
ข้าพเจ้าเชื่อในพระเจ้าหนึ่งเดียว : พระบิดาผู้ทรงสรรพานุภาพ เนรมิตฟ้าดิน ทั้งสิ่งที่เห็นได้และเห็นไม่ได้
ข้าพเจ้าเชื่อในพระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรหนึ่งเดียวของพระเจ้า: ทรงบังเกิดจากพระบิดาก่อนกาลเวลา
ทรงเป็นพระเจ้าจากพระเจ้า: เป็นองค์ความสว่างจากองค์ความสว่าง
ทรงเป็นพระเจ้าแท้จากพระเจ้าแท้: มิได้ถูกสร้างแต่ทรงบังเกิดร่วมพระธรรมชาติเดียวกับพระบิดา
อาศัยพระบุตรนี้ ทุกสิ่งได้รับการเนรมิตขึ้นมา : เพราะเห็นแก่เรามนุษย์ เพื่อทรงช่วยเราให้รอด พระองค์จึงเสด็จจากสวรรค์
พระองค์ทรงรับสภาพมนุษย์ จากพระนางมารีย์พรหมจารี ด้วยพระอานุภาพของพระจิตเจ้า :และทรงบังเกิดเป็นมนุษย์
สมัยปอนทิอัส ปิลาต พระองค์ทรงถูกตรึงกางเขนเพื่อเรา :พระองค์สิ้นพระชนม์และถูกฝังไว้
ทรงกลับคืนพระชนมชีพในวันที่สาม ตามความในพระคัมภีร์ :เสด็จสู่สวรรค์ประทับเบื้องขวาพระบิดา
พระองค์จะเสด็จมาอีกด้วยพระสิริรุ่งโรจน์เพื่อทรงพิพากษาผู้เป็นและผู้ตาย :รัชสมัยของพระองค์จะไม่สิ้นสุด
ข้าพเจ้าเชื่อในพระจิต พระเจ้าผู้ทรงบันดาลชีวิต :ทรงเนื่องมาจากพระบิดาและพระบุตร
ทรงรับการถวายสักการะและพระสิริรุ่งโรจน์ร่วมกับพระบิดาและพระบุตร :พระองค์ดำรัสทางประกาศก
ข้าพเจ้าเชื่อว่า มีพระศาสนจักร หนึ่งเดียว ศักดิ์สิทธิ์ สากลและสืบเนื่องจากอัครสาวก :ข้าพเจ้าประกาศยืนยันว่า มีศีลล้างบาปหนึ่งเดียวเพื่ออภัยบาป
ข้าพเจ้ารอวันที่ผู้ตายจะกลับคืนชีพ :และคอยชีวิตในโลกหน้า อาแมน
บัญญัติเอก
ข้าแต่พระเยซูผู้อ่อนหวาน ข้าพเจ้ารักพระองค์สุดดวงใจและวิญญาณ
โปรดช่วยข้าพเจ้าให้ปรนนิบัติรับใช้พี่น้องเพื่อนมนุษย์ ที่ข้าพเจ้าได้พบในวันนี้เทอญ (มัทธิว 22:34-40)
บัญชาเอก
ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้ารู้ว่าพระองค์ทรงอยู่กับข้าพเจ้า โปรดช่วยข้าพเจ้าให้ปฎิบัติตามคำสอนของพระองค์
และนำไปแบ่งปันแก่ผู้อื่น เพื่อเขาจะได้รู้จักและรักพระองค์เช่นกันเทอญ (มัทธิว28:16-20)
บทภาวนาพระเยซู
ข้าแต่พระเยซูคริสตเจ้า พระบุตรของพระเจ้า โปรดทรงเมตตาเราคนบาปเทอญ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อังคาร ม.ค. 08, 2008 7:08 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ชุดข้อรำพึง
อัศจรรย์การรักษา (วันจันทร์ และพฤหัสบดี)
1.พระเยซูทรงรักษาผู้รับใช้ของนายร้อย
นายร้อยคนหนึ่งเข้ามาเฝ้าพระองค์ ทูลว่า
"พระองค์เจ้าข้า ผู้รับใช้ของข้าพเจ้าเป็นอัมพาตนอนอยู่ที่บ้าน ขอพระองค์ตรัสเพียงคำเดียว ผู้รับใช้ของข้าพเจ้าก็จะหาย"
พระเยซูเจ้าทรงประหลาดพระทัยและตรัสว่า
"เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า เรายังไม่เคยพบใครมีความเชื่อมากเช่นนี้ในอิสราเอลเลยจงเป็นไปตามที่ท่านเชื่อนั้นเถิด"
(ลก7:1-10, มธ8:5-13)
2.หญิงตกโลหิตสัมผัสฉลองพระองค์ของพระเยซู
ขณะนั้น หญิงคนหนึ่งเป็นโรคตกโลหิตมาสิบสองปีแล้ว
นางได้เข้าปะปนกับประชาชน และสัมผัสฉลองพระองค์ นางคิดว่า "ถ้าฉันได้เพียงสัมผัสฉลองพระองค์ ฉันก็จะหายจากโรค"
ทันใดนั้นโลหิตที่ตกก็หยุดแห้งไป พระองค์จึงตรัสว่า "ลูกเอ๋ย ความเชื่อของเจ้าช่วยเจ้าให้รอดพ้นแล้ว จงไปเป็นสุข หายจากโรคเถิด"
(ลก8:43-48, มก5:25-34, มธ9:20-22)
3.พระเยซูทรงรักษาคนตาบอดที่เมืองเบธไซดา
พระองค์ทรงจูงคนตาบอดพาออกไปนอกหมู่บ้าน ทรงเอาพระเขฬะแตะตาของเขา ทรงปกพระหัตถ์เหนือเขา เขาเห็นผู้คนเหมือนกับต้นไม้เดินไปมา
พระองค์ทรงวางพระหัตถ์แตะตาของเขาอีก เขาก็หายเป็นปกติ มองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน
(มก8:22-26)
4.พระเยซูทรงรักษาคนโรคเรื้อน10คน
(ลก17:11-21)
4.พระเยซูทรงปลุกลาซารัสฟื้นขึ้นจากความตาย
เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จกลับมาเบธานี ก็ทรงพบว่า ลาซารัสถูกฝังมาสี่วันแล้ว ทรงบอกให้คนเปิดคูหาฝังศพออก
ทรงเปล่งเสียงดังว่า "ลาซารัสเอ๋ย จงออกมาเถิด!" ผู้ตายก็ออกมา มีผ้าพันมือพันเท้า และผ้าคลุมใบหน้าด้วย
(ยน11:17-44)
อัศจรรย์การรักษา (วันจันทร์ และพฤหัสบดี)
1.พระเยซูทรงรักษาผู้รับใช้ของนายร้อย
นายร้อยคนหนึ่งเข้ามาเฝ้าพระองค์ ทูลว่า
"พระองค์เจ้าข้า ผู้รับใช้ของข้าพเจ้าเป็นอัมพาตนอนอยู่ที่บ้าน ขอพระองค์ตรัสเพียงคำเดียว ผู้รับใช้ของข้าพเจ้าก็จะหาย"
พระเยซูเจ้าทรงประหลาดพระทัยและตรัสว่า
"เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า เรายังไม่เคยพบใครมีความเชื่อมากเช่นนี้ในอิสราเอลเลยจงเป็นไปตามที่ท่านเชื่อนั้นเถิด"
(ลก7:1-10, มธ8:5-13)
2.หญิงตกโลหิตสัมผัสฉลองพระองค์ของพระเยซู
ขณะนั้น หญิงคนหนึ่งเป็นโรคตกโลหิตมาสิบสองปีแล้ว
นางได้เข้าปะปนกับประชาชน และสัมผัสฉลองพระองค์ นางคิดว่า "ถ้าฉันได้เพียงสัมผัสฉลองพระองค์ ฉันก็จะหายจากโรค"
ทันใดนั้นโลหิตที่ตกก็หยุดแห้งไป พระองค์จึงตรัสว่า "ลูกเอ๋ย ความเชื่อของเจ้าช่วยเจ้าให้รอดพ้นแล้ว จงไปเป็นสุข หายจากโรคเถิด"
(ลก8:43-48, มก5:25-34, มธ9:20-22)
3.พระเยซูทรงรักษาคนตาบอดที่เมืองเบธไซดา
พระองค์ทรงจูงคนตาบอดพาออกไปนอกหมู่บ้าน ทรงเอาพระเขฬะแตะตาของเขา ทรงปกพระหัตถ์เหนือเขา เขาเห็นผู้คนเหมือนกับต้นไม้เดินไปมา
พระองค์ทรงวางพระหัตถ์แตะตาของเขาอีก เขาก็หายเป็นปกติ มองเห็นทุกอย่างได้ชัดเจน
(มก8:22-26)
4.พระเยซูทรงรักษาคนโรคเรื้อน10คน
(ลก17:11-21)
4.พระเยซูทรงปลุกลาซารัสฟื้นขึ้นจากความตาย
เมื่อพระเยซูเจ้าเสด็จกลับมาเบธานี ก็ทรงพบว่า ลาซารัสถูกฝังมาสี่วันแล้ว ทรงบอกให้คนเปิดคูหาฝังศพออก
ทรงเปล่งเสียงดังว่า "ลาซารัสเอ๋ย จงออกมาเถิด!" ผู้ตายก็ออกมา มีผ้าพันมือพันเท้า และผ้าคลุมใบหน้าด้วย
(ยน11:17-44)
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อาทิตย์ พ.ย. 11, 2007 10:00 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
อัศจรรย์ภารกิจ(วันอังคาร และศุกร์)
1.พระเยซูทรงเปลี่ยนน้ำเป็นเหล้าองุ่น ที่เมืองคานา(ยน2:1-11)
2.พระเยซูทรงสงบพายุ (มธ8:18,23-27, มก4:35-41, ลก8:22-25)
3.พระเยซูทรงเลี้ยงอาหารคนห้าพันคน (มธ14:15-21, ลก9:12-17, ยน6:4-13, มก6:35-44)
4.พระเยซูทรงเดินบนน้ำ (มก6:47-52, มธ14:24-33, ยน6:16-21)
5.พระเยซูทรงสาปต้นมะเดื่อไร้ผล (มก11:19-25, มธ21:19-22)
1.พระเยซูทรงเปลี่ยนน้ำเป็นเหล้าองุ่น ที่เมืองคานา(ยน2:1-11)
2.พระเยซูทรงสงบพายุ (มธ8:18,23-27, มก4:35-41, ลก8:22-25)
3.พระเยซูทรงเลี้ยงอาหารคนห้าพันคน (มธ14:15-21, ลก9:12-17, ยน6:4-13, มก6:35-44)
4.พระเยซูทรงเดินบนน้ำ (มก6:47-52, มธ14:24-33, ยน6:16-21)
5.พระเยซูทรงสาปต้นมะเดื่อไร้ผล (มก11:19-25, มธ21:19-22)
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ จันทร์ ต.ค. 08, 2007 8:08 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
อัศจรรย์การประจักษ์ (วันพุธ และ เสาร์)
1.พระเยซูเจ้าทรงรับสภาพมนุษย์ ผ่านพระนางมารีย์ โดยอานุภาพของพระจิตเจ้า(ลก1:26-56)
2.พระเยซูเจ้าทรงสำแดงพระกายอย่างรุ่งโรจน์ ที่ภูเขาทาบอร์ (มธ17:1-8, ลก9:28-36, มก9:2-8)
3.พระเยซูเจ้าทรงประจักษ์แก่นางมารีย์ ชาวมักดาลา หลังเสด็จกลับฟื้นคืนชีพ (ยน20:11-18, มก16:9-11)
4.พระเยซูเจ้าทรงประจักษ์แก่โทมัสผู้สงสัย (ยน20:26-31)
5.พระเยซูเจ้าทรงประจักษ์แก่เซาโล (กจ9:1-19)
****สำหรับวันอาทิตย์
-อาทิตย์แรกเตรียมรับเสด็จจนถึงพุธรับเถ้า: อัศจรรย์การรักษา
-เทศกาลมหาพรตจนถึงอาทิตย์ใบลาน: อัศจรรย์ภารกิจ
-อาทิตย์ปาสกาจนถึงอาทิตย์แรกเตรียมรับเสด็จ: อัศจรรย์การประจักษ์
_________________
แปลจาก
http://www.ecumenicalrosary.org/how_to_pray.htm
1.พระเยซูเจ้าทรงรับสภาพมนุษย์ ผ่านพระนางมารีย์ โดยอานุภาพของพระจิตเจ้า(ลก1:26-56)
2.พระเยซูเจ้าทรงสำแดงพระกายอย่างรุ่งโรจน์ ที่ภูเขาทาบอร์ (มธ17:1-8, ลก9:28-36, มก9:2-8)
3.พระเยซูเจ้าทรงประจักษ์แก่นางมารีย์ ชาวมักดาลา หลังเสด็จกลับฟื้นคืนชีพ (ยน20:11-18, มก16:9-11)
4.พระเยซูเจ้าทรงประจักษ์แก่โทมัสผู้สงสัย (ยน20:26-31)
5.พระเยซูเจ้าทรงประจักษ์แก่เซาโล (กจ9:1-19)
****สำหรับวันอาทิตย์
-อาทิตย์แรกเตรียมรับเสด็จจนถึงพุธรับเถ้า: อัศจรรย์การรักษา
-เทศกาลมหาพรตจนถึงอาทิตย์ใบลาน: อัศจรรย์ภารกิจ
-อาทิตย์ปาสกาจนถึงอาทิตย์แรกเตรียมรับเสด็จ: อัศจรรย์การประจักษ์
_________________
แปลจาก
http://www.ecumenicalrosary.org/how_to_pray.htm
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ จันทร์ ต.ค. 08, 2007 8:08 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 137
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 07, 2005 1:38 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ช่างหาน่ะ
เก่งจริง ๆ แล้วที่มา มาจากไหนเหรอ ครับ
แล้วมีภาพของสายประคำนี้เปล่า
:shocked:
เก่งจริง ๆ แล้วที่มา มาจากไหนเหรอ ครับ
แล้วมีภาพของสายประคำนี้เปล่า
:shocked:
รูปแบบเหมือนสายประคำแม่พระ ละครับminirosary เขียน: แล้วมีภาพของสายประคำนี้เปล่า
:shocked:
http://www.ecumenicalrosary.org/images/Rosary1.jpg
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ ศุกร์ ก.ย. 21, 2007 8:20 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 548
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 07, 2007 8:07 pm
ขอบคุณครับ
แล้วอะไรคือเอกสัมพันธ์ ครับ
แล้วอะไรคือเอกสัมพันธ์ ครับ
เอกสัมพันธ์ คือการกระชับความสัมพันธ์ของคริสต์นิกายต่างๆ ให้เป็นเอกภาพหนึ่งเดียวกันholy holy holy เขียน: ขอบคุณครับ
แล้วอะไรคือเอกสัมพันธ์ ครับ
- Deo Gratias
- โพสต์: 1100
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 16, 2006 11:53 pm
น่าสนใจมาก
ชุดนี้ไม่ว่าคริสต์สายไหนๆ ถ้าเปิดใจก็ภาวนาได้ทุกคนเลยเนอะ
ชุดนี้ไม่ว่าคริสต์สายไหนๆ ถ้าเปิดใจก็ภาวนาได้ทุกคนเลยเนอะ
ความจริงการสวดแบบนี้มีเป็นสิบๆ หรืออาจจะเป็นร้อยๆแบบเลยนะครับ
และบางแบบ พระศาสนจักรก็ไม่ได้รับรอง แต่ก็ไม่ได้ห้ามอะไร เพราะฉะนั้น ก็สวดไปเถอะครับ
ปล.ที่ผมสวดทุกวันนี้ก็ไม่ใช่สายประคำแบบปกตินะครับ แต่เป็นแบบcrown
สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม จิ้ม
และบางแบบ พระศาสนจักรก็ไม่ได้รับรอง แต่ก็ไม่ได้ห้ามอะไร เพราะฉะนั้น ก็สวดไปเถอะครับ
ปล.ที่ผมสวดทุกวันนี้ก็ไม่ใช่สายประคำแบบปกตินะครับ แต่เป็นแบบcrown
สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม จิ้ม
- Deo Gratias
- โพสต์: 1100
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 16, 2006 11:53 pm
พอดีมาเสริทหาไปสวด
เลยถือโอกาสเนื่องในเดือนเอกสัมพันธ์
ขอขุด! และสนับสนุนให้พี่น้อง!! ร่วมกันสวดเด้อ
เลยถือโอกาสเนื่องในเดือนเอกสัมพันธ์
ขอขุด! และสนับสนุนให้พี่น้อง!! ร่วมกันสวดเด้อ
ปีนี้ การภาวนาเพื่อเอกภาพ
จัดที่ไหน?เมื่อไหร่เอ่ย?
จัดที่ไหน?เมื่อไหร่เอ่ย?
- Deo Gratias
- โพสต์: 1100
- ลงทะเบียนเมื่อ: พฤหัสฯ. มี.ค. 16, 2006 11:53 pm
นั่นดิ ถามอยู่เหมือนกัน ยังไม่มีครายตอบเยยยศิโยน:ผู้ยำเกรงพระเจ้า เขียน: ปีนี้ การภาวนาเพื่อเอกภาพ
จัดที่ไหน?เมื่อไหร่เอ่ย?
วิธีสวดสำหรับคาทอลิคแบกะดิน เขียน: งงอ่ะ สวดไม่เปน 55
สายประคำอัศจรรย์นี้สวดเหมือนสายประคำแม่พระ
แต่เปลี่ยนข้อรำพึงและ
1.บทข้าพเจ้าเชื่อที่กางเขน: สวดบทข้าพเจ้าเชื่อ แบบที่พระสงฆ์ก่อรับกับสัตบุรุษหลังเทศน์ในมิซซา
2.บทข้าแต่พระบิดา: เพิ่ม "เหตุว่าพระอาณาจักรฯ" (ที่จะสวดในมิซซาเหมือนกัน)
3.วันทามารีอา:สวด "บัญญัติเอก"
4.สิริพึงมี: สวด"บัญชาเอก"
5.ประตูสวรรค์:"บทภาวนาพระเยซู"
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ อังคาร ม.ค. 08, 2008 7:13 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- .
- โพสต์: 944
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ต.ค. 18, 2005 11:16 pm
ขอบคุณน้องยศมากนะจ๊ะ
อะไรยากเหรอครับ :huh:jimseason เขียน: ผมคิดว่าคงยากนะคุณยศ เหอๆ