ภาพคุณแม่ เทเรซา แห่ง กัลกัตตา ผลงานชิ้นใหม่ครับ

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
ตอบกลับโพส
ภาพประจำตัวสมาชิก
SHANTIRAKSA
โพสต์: 87
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 19, 2005 8:58 pm

อังคาร ต.ค. 09, 2007 2:16 am

เอาไปแสดงที่ห้างแถวสี่พระยามาแล้ว ตอนนี้นำกลับมาที่สตูดิโอเรียบร้อย
โหลดภาพได้ครับ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ยกเว้นเอาไปเพื่อการค้านะจ๊ะ

รูปภาพ
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

อังคาร ต.ค. 09, 2007 9:32 am

ขอบคุณครับ สวยมากเลย : emo027 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

อังคาร ต.ค. 09, 2007 9:47 am

ชีท่านนี้ โด่งดัง และคุ้นหูผมมาก
และไม่รู้ว่าเป็นชีคาทอลิก (คุ้นหูว่าเป็นชีที่มีการอัศจรรย์)

ใครช่วยแนะนำทีครับ ว่าชีเป็นใคร ประวัติ พิเศษยังไง อะไรเงี้ย
ผมสืบหาตั้งนานแหนะ มาเจอที่นี่ นั่นเอง เหอะๆๆๆ
Invy
โพสต์: 137
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ส.ค. 07, 2007 1:00 am
ที่อยู่: ปทุมธานี
ติดต่อ:

อังคาร ต.ค. 09, 2007 11:09 am

ภาพประจำตัวสมาชิก
แบกะดิน
โพสต์: 1085
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 7:49 pm

อังคาร ต.ค. 09, 2007 11:57 am

คุณแม่ เทเรซา แห่ง กัลกัตตา ช่วยวิงวอนเถิด
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

อังคาร ต.ค. 09, 2007 12:30 pm

ขอบคุณครับ
ท่านเป็นแบบอย่างของเรา
แต่ทำไมถึงได้ดังก้องโลกขนาดนี้นะ แปลกใจจัง
ภาพประจำตัวสมาชิก
iBONT
โพสต์: 310
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 06, 2007 1:22 pm
ที่อยู่: ระย๊อง ระยอง
ติดต่อ:

อังคาร ต.ค. 09, 2007 4:08 pm

BOYZ เขียน:
ขอบคุณครับ
ท่านเป็นแบบอย่างของเรา
แต่ทำไมถึงได้ดังก้องโลกขนาดนี้นะ แปลกใจจัง
คงเป็นเรื่องที่ท่านทำงานด้านอุทิศตนอย่างยิ่งยวดมั้งครับ
เคยอ่านหนังสือชีวประวัติท่านที่เป้นการ์ตูนญี่ปุ่นอยู่ นั่นเป็นครั้งแรกที่รู้จักท่าน (ตอน ม.1 ครับ) อ่านแล้วก็แม่ชีท่านนี้ อุทิศตนมากจังเลย ทำงานเพื่อผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อ ผู้ยากจนตามสลัม จำได้ว่าท่านเคยได้พูดคุยกับไดอาน่า(เลดี้ไดอาน่า ; เจ้าฟ้าหญิงแห่งเวลส์​และ​เคานท์​เตสแห่งเชสเตอร์​)ด้วยนี่ครับ สองท่านนี้คล้ายๆกันตรงทำงานเพื่อผู้ยากไร้(คล้ายนางฟ้าพยาบาลฟอเรนท์ ไนติงเกลเลย)
ภาพประจำตัวสมาชิก
iBONT
โพสต์: 310
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 06, 2007 1:22 pm
ที่อยู่: ระย๊อง ระยอง
ติดต่อ:

อังคาร ต.ค. 09, 2007 4:09 pm

ชอบอ่า ชอบๆ http://youtube.com/watch?v=NfRznRR7VBs
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

อังคาร ต.ค. 09, 2007 4:12 pm

iBONT เขียน:
BOYZ เขียน:
ขอบคุณครับ
ท่านเป็นแบบอย่างของเรา
แต่ทำไมถึงได้ดังก้องโลกขนาดนี้นะ แปลกใจจัง
คงเป็นเรื่องที่ท่านทำงานด้านอุทิศตนอย่างยิ่งยวดมั้งครับ
เคยอ่านหนังสือชีวประวัติท่านที่เป้นการ์ตูนญี่ปุ่นอยู่ นั่นเป็นครั้งแรกที่รู้จักท่าน (ตอน ม.1 ครับ) อ่านแล้วก็แม่ชีท่านนี้ อุทิศตนมากจังเลย ทำงานเพื่อผู้ป่วย ผู้ติดเชื้อ ผู้ยากจนตามสลัม จำได้ว่าท่านเคยได้พูดคุยกับไดอาน่า(เลดี้ไดอาน่า ; เจ้าฟ้าหญิงแห่งเวลส์​และ​เคานท์​เตสแห่งเชสเตอร์​)ด้วยนี่ครับ สองท่านนี้คล้ายๆกันตรงทำงานเพื่อผู้ยากไร้(คล้ายนางฟ้าพยาบาลฟอเรนท์ ไนติงเกลเลย)
ขอบคุณครับ ::012::
Rakkypoko!
โพสต์: 960
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 31, 2007 2:35 pm

อังคาร ต.ค. 09, 2007 6:12 pm

ใช่ท่านที่ได้รับรางวัล โนเบล รึป่าวอ่า
Dis volentibus

อังคาร ต.ค. 09, 2007 6:21 pm

สวยมากๆค่ะ
: xemo017 :
Lutheran เขียน: ใช่ท่านที่ได้รับรางวัล โนเบล รึป่าวอ่า
ช่ายเลย...
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร ต.ค. 09, 2007 6:34 pm

สตรีที่ทรงอำนาจที่สุดในโลก

โรแนล เรแกน ขณะเป็นประธานาธิบดี เคยต่อโทรศัพท์สายตรงถึงเธอเพื่อบอกว่าจะทำทุกอย่างเท่าที่สหรัฐอเมริกาจะทำได้เพื่อช่วยบรรเทาทุกข์ใเอธิโอเปีย หลังจากที่เธอเขียนจดหมายถึงเขา ผู้ว่าการรัฐเบงกอลตะวันตกของอินเดียให้เธอเข้าพบ "ได้ทุกเมื่อ" อินทิรา คานธี และราจีฟ คานธี ยอมพบเธอทุกเวลาที่เธอต้องการ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ เจ้าหญิงไดอานา และผู้นำคนอื่นๆ ของโลกมาเยี่ยมเธอที่กัลกัตตา

                  "ฉันมาหาท่านด้วยน้ำตาและความรักของพระเป็นเจ้าในหัวใจฉัน เพื่อขอร้องท่านให้เห็นแก่คนยากจน และผู้ที่จะยากจนลงไปอีกหากสงครามที่เราทั้งหลายหวาดกลัวเกิดขึ้น ฉันขอร้องท่านด้วยหัวใจทั้งดวง ให้ท่านทำงานเพื่อสันติภาพของพระเจ้า และคืนดีต่อกัน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร ต.ค. 09, 2007 6:36 pm

ชีวิตวัยเยาว์ (Youth)

คุณแม่เทเรซา เป็นธิดาของนายนิโคล บอญักซุย (NiKolle Bojaxhui) กับนาง    ดรานา เบอร์ไน (Drana Bernai) จากเชื้อสายชาวอิตาเลียน เป็นครอบครัวชนชั้นกลาง คุณแม่เทเรซาเกิดวันที่ 26 สิงหาคม 1910 ได้รับพิธีรับศีลล้างบาป (Baptized) ณ วัดดวงพระหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า ที่เมือง สคอปเจ (Skopje) เมืองหลวงของสาธารณรัฐอัลบาเนียนแห่งมาเซโดเนีย ในวันที่ 27 สิงหาคม 1910 และได้รับนามว่า กอนซา (Gonxha) หรือ อักแนส (Agnes) อักแนสเป็นลูกคนที่สามและคนสุดท้อง มีพี่สาวคนโตชื่ออาก้า (Aga) พี่ชายชื่อ ลาซาร์ (Lazar)


หนูน้อยอักแนสในเยาว์วัย ไปโรงเรียนของรัฐพร้อมกับพี่สาวและพี่ชายและเรียนได้ดี แม้ว่าสุขภาพของเธอไม่สู้แข็งแรงนักก็ตาม แต่เธอก็ไปเรียนคริสตศาสนธรรมที่วัด เข้าเป็นสมาชิกของคณะนักขับร้องของวัด และอยู่ในกลุ่มเยาวชนคาทอลิกที่มีชื่อว่า "ธิดามารีย์" (Daughters of Mary) เธอสนใจอ่านเรื่องราวของพวกธรรมทูต และชีวประวัตินักบุญเป็นพิเศษ


คุณแม่เทเรซาสรุปชีวิตครอบครัวในช่วงวัยเด็กและวัยรุ่นไว้ว่า "พวกเราเป็นหนึ่งเดียวกันดีมาก เป็นต้นหลังจากที่คุณพ่อของเราเสียชีวิตไปแล้ว เรามีชีวิตอยู่เพื่อกันและกัน เราพยายามทำให้กันและกันมีความสุข พวกเรามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันดีมาก และเราเป็นครอบครัวที่มีความสุข"


ลาซาร์พี่ชายของคุณแม่เทเรซา ได้กล่าวถึงชีวิตด้านศาสนาของแม่และพี่สาวน้องสาวของตนว่า "เรามีบ้านอยู่ใกล้วัดดวงหฤทัยศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้า บางครั้งดูเหมือนว่าคุณแม่และพี่สาวน้องสาวของผมจะอยู่ในวัดพอ ๆ กับอยู่ที่บ้านทีเดียว พวกเขามักจะเข้าไปร่วมกับพวก  นักขับร้อง กิจกรรมทางศาสนาและสนใจเรื่องเกี่ยวกับงานธรรมทูตต่างๆ"


ลาซาร์ยังพูดถึงความใจกว้างของผู้เป็นมารดาด้วยว่า "คุณแม่ไม่เคยปล่อยให้คนจนที่มาเคาะประตูบ้านของเราต้องกลับไปมือเปล่าเลย เมื่อพวกลูกๆมองคุณแม่แบบแปลก ๆ คุณแม่ก็จะพูดว่า จำไว้นะว่า แม้คนเหล่านั้นจะไม่ใช่ญาติพี่น้องของเรา แม้ว่าเขาจะยากจนก็ตาม เขาก็เป็นพี่น้องของเราด้วย"
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร ต.ค. 09, 2007 6:37 pm

แม่ชีเทเรซ่า-A living Saint
ปิยะชาติ ภิรมย์สวัสดิ์


คงจะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวเท่านั้น ที่ปรากฏการณ์อย่างนี้จะเกิดขึ้นในเมือง กัลกัตตา เมืองแห่งความรุนแรงทางศาสนาการเมือง ที่นักข่าวจากทุกสารทิศทั่วโลก ได้แห่กันมาที่นี่ เพื่อทำข่าวงานศพของหญิงลี้ภัยชาวอัลบาเนียนคนหนึ่งที่มีชื่อว่า "แอกเนส กอนซา โบเจกส์อิว" (Agnes Gonxha Bojaxhiu) ซึ่งได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบ เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 1997

คนทั้งโลกเรียกเธอว่า "แม่ชีเทเรซ่า" (Mother Teresa) เธอเกิดมาเพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ตลอดชีวิตของเธอ แม่ชีอุทิศให้กับคนยากจน คนเจ็บ เด็กๆ ที่น่าสงสาร โดยเฉพาะคนที่กำลังจะตาย ด้วยเหตุนี้ เธอจึงได้ถูกขนานนามอย่างเป็นทางการ ในฐานะของ "นักบุญ" โดยสำนักสงฆ์โรมันคาทอลิก ทั้งที่เมื่อยังมีชีวิตอยู่

แม่ชีเทเรซ่าเกิดเมื่อ ค.ศ.1910 ในครอบครัวชาวอัลบาเนียน เมื่อเธอมีอายุได้เพียง 11 ปี พ่อของเธอก็ถูกฆ่าตายด้วยสาเหตุทางการเมือง เธอต้องลี้ภัยมาอยู่ที่ไอร์แลนด์ โดยเข้ามาบวชเป็น "ชีทดลอง" ที่สำนัก "โลเรโต" (Loreto)

ในปี 1929 เธอถูกส่งมาอยู่ที่ เบงกอล (Bengal) ประเทศอินเดีย เพื่อทำหน้าที่เป็นครูสอนหนังสือในสำนักชีโลเรโต แห่งหนึ่ง นักเรียนส่วนใหญ่เป็นผู้ที่นับถือศาสนาฮินดู และเป็นลูกผู้ดีมีเงินของสังคม ด้วยเหตุนี้ ประกอบกับการขัดแย้งทางความคิดกับแม่ชีคนอื่นๆ แม่ชีเทเรซ่าจึงตัดสินใจออกจากสำนักชีแห่งนี้ ด้วยการเข้าไปช่วยเหลือคนจนที่ทุกข์ยากในสลัม เธอสอนให้เขาเหล่านั้นรู้จักการมีชีวิตที่ถูกสุขอนามัย เธอรณรงค์ต่อต้านการละทิ้งเด็ก เธอช่วยเหลือเด็กกำพร้าและเด็กข้างถนน

ในปี 1947 แม่ชีเทเรซ่าสามารถรวบรวมแม่ชีได้ถึง 400 คน เพื่อช่วยบริหารงานด้านเด็กกำพร้า คนยากจน และผู้ป่วยโรคเอดส์ ที่มีอยู่ทั่วโลก ในปี 1948 เธอได้เปิดโรงเรียนสำหรับเด็กสลัมแห่งแรกขึ้น ในเมืองกัลกัตตา และในปี 1952 เธอได้ก่อตั้ง "บ้านสำหรับคนที่กำลังจะตาย" (Home for dying) ในตอนแรก แม่ชีได้เก็บผู้หญิงที่กำลังนอนรอความตายอยู่ข้างถนน เข้ามาอยู่ในบ้าน ทำความสะอาดร่างกายให้แก่ผู้ที่กำลังจะตาย ให้การดูแลทางการแพทย์เท่าที่จะทำได้

เธอให้เหตุผลว่า การที่เธอต้องการช่วยเหลือคนที่อยู่ในชั่วโมงสุดท้ายของชีวิต มิใช่เพื่อต่อชีวิตให้แก่คนเหล่านั้นเลย หากแต่ต้องการให้พวกเขาเหล่านั้น ตายอย่างสงบและเป็นสุข ไม่ต้องทุกข์ทรมานมากเกินไป การกระทำของเธอขัดแย้งกับความเชื่อของศาสนาฮินดู ซึ่งเชื่อว่า "การตาย" นั้นเป็นเพียง การละสังขาร เป็นการปลดปล่อยตัวตน เพื่อไปเกิดใหม่ ชาวฮินดูและคนทั่วไป จึงเห็นว่า การกระทำของแม่ชีเป็นเรื่องแปลก

นอกจากนี้ แม่ชีเทเรซ่าได้จัดตั้งกองทุน เพื่อสร้าง "บ้านสำหรับเด็กๆ" (Home for babies) เพื่อเด็กที่ไม่มีพ่อแม่ หรือพ่อแม่ไม่สามารถเลี้ยงดูได้ หรือเด็กที่ถูกทอดทิ้งอยู่ตามถนน

ผู้คนเริ่มเข้าใจแม่ชีมากขึ้นเมื่อเธอตั้ง "นิคมโรคเรื้อน" (Colony for lepers) ขึ้นสำเร็จ เพื่อให้คนเป็นโรคร้ายนี้มีโอกาสมีชีวิตเหมือนคนธรรมดาทั่วไป พวกเขาสามารถมีบ้าน มีงาน และมีชีวิตที่เป็นสุขสงบ ในนิคม โรคเรื้อนแห่งนี้

แม่ชีเชื่อว่าปัญหาสำคัญของคนที่เป็นโรคนี้มิใช่ตัวโรคร้ายเลย แต่อยู่ที่การขาดความรัก การถูกผลักใสอย่างรังเกียจ และความรู้สึกที่ไม่เป็นที่ปรารถนาของสังคม แม่ชีเทเรซ่าต่อต้านการทำแท้งอย่างเปิดเผยโดยเธอกล่าวว่า "ชาติใดที่ปล่อยให้มีการทำลายชีวิตของทารกในครรภ์มารดา ถือว่าเป็นภัยอย่างใหญ่หลวง ทารกเหล่านี้ถูกสร้างให้กำเนิดขึ้นมาเพื่อมีชีวิต เพื่อได้รับความรักในนามของพระเจ้า"

ด้วยผลงานที่อุทิศตนของแม่ชีเทเรซ่า ทำให้เธอได้รับการยอมรับไม่เพียงแต่ในประเทศอินเดีย แต่จากผู้คนทั้งโลก รางวัลที่เธอได้รับนั้นมีมากมาย เช่นในปี 1963 เธอได้รับรางวัลแรกคือ "Pad Mashri award" จากประเทศอินเดีย ในฐานะที่เธอให้ความอนุเคราะห์แก่ชาวอินเดีย และในปีเดียวกัน เธอได้รับรางวัล "รามอน แมกไซไซด์" (Remon Maqsaysay) ในปี ค.ศ.1971 "รางวัลสันติภาพ" (Peace award) และ "รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ" (Nobel Peace Prize) ในปี 1979

ตลอดชีวิต "นักบุญ" ของแม่ชีเทเรซ่า ตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงอายุ 87 ปี เธอได้ใช้ชีวิตอยู่เพื่อคนอื่นมาโดยตลอด ดังนั้น อสัญกรรมของแม่ชี ถือเป็นการสูญเสียอย่างใหญ่หลวง ซึ่งนำความโศกเศร้ามาสู่คนทั้งโลก

สิ่งที่เธอกล่าวไว้ และเป็นที่ประทับใจผู้คนยิ่งนักคือ ความรักของเธอที่มีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

"การพูดว่า"เรารักพระผู้เป็นเจ้า" เท่านั้น คงไม่เพียงพอ ควรจะพูดต่อไปด้วยว่า "เรารักเพื่อนมนุษย์ของเราด้วย"

เซ็นต์จอห์น กล่าวว่า

"ถ้าผู้ใดพูดว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร ต.ค. 09, 2007 6:38 pm

ข้อเขียนของท่านต่อไปนี้เป็นข้อเขียนที่ได้มาจากการรำพึงไตร่ตรองในชีวิตของท่านเองที่จะเป็นบทเรียนให้กับพวกเราได้ดี
คุณแม่เทเรซา บอกว่า 

สำหรับฉันแล้ว พระเยซูเจ้า คือใครกันเล่า?
พระเยซูคริสตเจ้า คือ พระวจนะที่รับเอากาย
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ปังทรงชีวิต
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ผู้ที่อุทิศตนเป็นเหยื่อสำหรับบาปของเราบนกางเขน
พระเยซูคริสตเจ้า คือ เครื่องบูชาอันศักดิ์สิทธิ์ในพิธีบูชามิสซา เพื่อชดใช้บาปของโลกและของฉัน
พระเยซูคริสตเจ้า คือ พระวจนะที่จะต้องเล่าขานต่อไป
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ความจริงที่จะต้องกล่าว
พระเยซูคริสตเจ้า คือ วิถีที่จะต้องก้าวเดินตาม
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ตะเกียงที่จะต้องถูกจุดประกาย
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ชีวิตที่จะต้องดำรงอยู่
พระเยซูคริสตเจ้า คือ องค์ความรักที่จะต้องรัก
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ความชื่นชมยินดีที่จะต้องถูกแบ่งปัน
พระเยซูคริสตเจ้า คือ การสละตัวเองที่จะต้องถูกมอบถวาย
พระเยซูคริสตเจ้า คือ สันติภาพที่จะต้องถูกมอบให้
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ปังแห่งชีวิตที่จะต้องถูกกิน
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ความหิวโหยที่จะต้องเลี้ยงดู
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ความกระหายที่จะต้องเติมเต็ม
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ความเปล่าเปลือยที่จะต้องนุ่งห่มให้
พระเยซูคริสตเจ้า คือ การไร้ที่พักพิงที่จะต้องอยู่อาศัย
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ความเจ็บป่วยที่จะต้องเยียวยา
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ความว้าเหว่ที่จะต้องได้รับความรัก
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ความเมินเฉยที่จะต้องได้รับการยอมรับ
พระเยซูคริสตเจ้า คือ คนโรคเรื้อนที่จะต้องถูกล้างแผลที่เปื่อยเน่า
พระเยซูคริสตเจ้า คือ คนขอทานที่เราจะต้องมอบรอยยิ้มให้พระองค์
พระเยซูคริสตเจ้า คือ คนขี้เมาที่เราจะต้องใส่ใจฟังเขา
พระเยซูคริสตเจ้า คือ คนปัญญาอ่อนที่เราจะต้องปกป้องพระองค์
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ผู้ต่ำต้อยที่เราจะต้องโอบกอดพระองค์
พระเยซูคริสตเจ้า คือ คนตาบอดที่เราจะต้องนำทางแก่พระองค์
พระเยซูคริสตเจ้า คือ คนหูหนวกที่เราจะต้องเป็นกระบอกเสียงแทนพระองค์
พระเยซูคริสตเจ้า คือ คนง่อยเปลี้ยที่เราจะต้องเดินแทนพระองค์
พระเยซูคริสตเจ้า คือ คนติดยาเสพย์ติดที่เราจะต้องเป็นเพื่อนกับพระองค์
พระเยซูคริสตเจ้า คือ โสเภณีที่เราจะต้องพาพระองค์ออกจากอันตรายและเป็นเพื่อนกับพระองค์
พระเยซูคริสตเจ้า คือ คนถูกจองจำที่เราจะต้องถูกเยี่ยมเยียน
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ผู้สูงอายุที่เราจะต้องเอาใจใส่ดูแล

สำหรับข้าพเจ้าแล้ว
พระเยซูคริสตเจ้า คือ พระเจ้าของข้าพเจ้า
พระเยซูคริสตเจ้า คือ เจ้าบ่าวของข้าพเจ้า
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ที่รักเพียงหนึ่งเดียวของข้าพเจ้า
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ที่สุดของที่สุดของข้าพเจ้า
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับข้าพเจ้า


พระเยซูเจ้าข้า ลูกรักพระองค์ด้วยสิ้นสุดจิตใจ ด้วยสิ้นสุดชีวิตของลูก ลูกมอบแด่พระองค์ทั้งครบ แม้แต่ความบาปผิดทั้งหลายของลูก และพระองค์ได้ให้ลูกเป็นเจ้าสาวของพระองค์ด้วยความอ่อนโยนและความรัก บัดนี้และตลอดไป ลูกได้เป็นเจ้าสาวของพระเยซูเจ้าผู้ถูกตรึงกางเขน อาแมน
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร ต.ค. 09, 2007 6:39 pm

ถ้อยคำสั้นๆจากคุณแม่เทเรซ่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อังคาร ต.ค. 09, 2007 6:40 pm

คุณแม่เทเรซา นักบุญของคนยาก
จากหนังสือพิมพ์ AJC

นายอิ๊ด สระ

ทุก ๆ วันจันทร์ เทอร์เรนซ์ โธมัส จะไปสวดภาวนาอยู่เบื้องหน้าหลุมศพของคุณแม่เทเรซา ซึ่งนับเป็นสถานที่ศํกดิ์สิทธิ์ในท่ามกลางเสียงอีกทึกจอแจในใจกลางเมืองกัลกัตตา
สถานที่พำนักแห่งสุดท้ายของคุณแม่เทเรซาก็เรียบง่าย สมถะ เช่นเดียวกับทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของท่าน สถานที่ฝังศพของท่าน เป็นเพียงห้องโถงที่มีพื้นราดคอนกรีตสีขาวธรรมดา และมีหินอ่อนสีขาวแผ่นเล็ก ๆ อยู่ด้านบน มีเทียนเล่มน้อยจุดไฟอยู่เหนือหินอ่อน ซึ่งอยู่ติดกับพระคัมภีร์ของท่าน และช่อกุหลาบสีแดง บนพื้นหินอ่อนนั้น มีข้อความเขียนด้วยลายมือเกี่ยวกับชีวิตของคุณแม่เทเรซา พร้อมกับมีภาพประกอบอยู่สองสามภาพ มิได้มีเครื่องหมายอื่นใด ที่แสดงถึงรางวัลโนเบลไพรซ์ปี 1979, ความมีชื่อเสียงหรือความเป็นนักบุญของท่าน มันเป็นเพียงที่ฝังศพสำหรับผู้หญิงธรรมดา ๆ เท่านั้น


โธมัส ชายหนุ่มอายุ 28 ปีกล่าวว่า เขาได้รับความบรรเทาใจจากที่นี่ เขาพูดขณะที่ผู้มาเยือน และนักท่องเที่ยวรอบ ๆ ต่างมาที่นี่เพื่อสวดภาวนา "คุณแม่เทเรซาควรได้เป็นนักบุญ" เขาบอก

แน่นอน การแต่งตั้งนี้ขึ้นอยู่กับทางสำนักวาติกัน แต่ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ขั้นแรกของกระบวนการแต่งตั้งนักบุญได้เริ่มขึ้นแล้ว เพื่อรวบรวมหลักฐานความศักดิ์สิทธิ์ของคุณแม่เทเรซา

"เราพึ่งเริ่มต้นได้เพียงไม่กี่เดือน และคงต้องใช้เวลาอีกนาน อย่างน้อยที่สุดก็หนึ่งปีหรือสองปี หรืออาจกว่านั้น" คุณพ่อไบรอัน โคโลดีชัคกล่าว ท่านเป็นพระสงฆ์ชาวคานาดาที่มารับหน้าที่ดูแลกระบวนการแต่งตั้งของสังมณฑล คุณแม่เทเรซาเสียชีวิตเมื่อสองปีที่แล้ว ในขณะที่ท่านมีอายุได้ 87 ปี หลังจากที่ท่านได้ใช้เวลาชั่วชีวิตในการช่วยเหลือคนยากจน และผู้ถูกทอดทิ้ง พระสันตะปาปา จอห์น ปอล ที่สอง ได้ทรงอนุญาตเป็นพิเศษให้ยกเลิกช่วงเวลาคอย เพราะปกติการแต่งตั้งบุคคลใดบุคคลหนึ่งขึ้นมาเป็นนักบุญ ต้องรออย่างน้อยห้าปี

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะมีการประกาศแต่งตั้งให้เป็นนักบุญ ต้องมีการยืนยันเหตุอัศจรรย์สองอย่าง โดยอาศัยความศักดิ์สิทธิ์ของคุณแม่เทเรซา คุณพ่อไบรอันกล่าวว่า คณะกรรมการกำลังสืบหาอัศจรรย์ของคุณแม่เทเรซา ซึ่ง 99 เปอร์เซนต์เป็นการรักษาให้หายจากโรค

"เราหมายถึงว่า การเยียวยารักษาในสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยเหตุการณ์ทางวิทยาศาสตร์" คุณพ่อไบรอันกล่าว "มันค่อนข้างยาก เพราะท่านเป็นบุคคลมีชื่อเสียงระดับประเทศ แต่สำหรับพ่อ ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาทำหน้าที่นี้ พ่อรู้จักท่านมากขึ้นเรื่อย ๆ"

พระสังฆราชเฮนรี เดอ โซซา พระอัครสังฆราชแห่งเมืองกัลกัตตา ได้เล่าถึงคนป่วยในเมืองไรกันจ์แถวเบงกอลตะวันตก ซึ่งอ้างว่าเนื้องอกได้หายไป หลังจากได้รับการอวยพรจากคุณแม่เทเรซา กรณีนี้ได้รับการยืนยันตรวจสอบจากนายแพทย์แล้ว

เหตุการณ์อัศจรรย์อีกสองอย่างได้ถูกส่งไปยังสำนักวาติกันเพื่อตรวจสอบแล้ว กรณีแรกคือ หญิงฝรั่งเศสคนหนึ่งซึ่งประสบอุบัติเหตุรถยนต์ในสหรัฐ กล่าวว่าเธอหายเป็นปกติ หลังจากเธอห้อยเหรียญของคุณแม่เทเรซาไว้ที่คอ ส่วนอีกกรณีหนึ่งก็คือ เด็กหญิงชาวปาเลสไตน์ซึ่งทนทรมานจากโรคมะเร็ง กล่าวว่าเธอหายดี หลังจากคุณแม่เทเรซาได้ปรากฏมาในความฝัน และกล่าวว่า "ลูกเอ่ย จงหายเป็นปกติเถิด"

คณะกรรมการตรวจสอบได้สาบานที่จะปกปิดความลับ ดังนั้นคุณพ่อไบรอันจึงไม่อาจกล่าวในรายละเอียดเกี่ยวกับตรวจสอบได้ แต่คณะกรรมการจะศึกษาเหตุการณ์อัศจรรย์อีก 60 อย่างในเมืองกัลกัตตา และอีก 40 อย่างทั่วโลก รวมทั้งในกรุงโรม ลอนดอน นิวยอร์ค และชิคาโก "ในขั้นนี้ เราใช้แหล่งข้อมูลหลักสองแห่ง คือ จากปากคำหรือพยานผู้เห็นเหตุการณ์ และเอกสารที่รวบรวมโดยคณะกรรมการทางประวัติศาสตร์" คุณพ่อไบรอันบอก

เรื่องหนึ่งที่ทางคณะกรรมการกำลังตรวจสอบ เกี่ยวข้องกับนักธุรกิจชาวฮินดูซึ่งครั้งหนึ่งมายังบ้านของคุณแม่เทเรซา และให้ท่านขึ้นมานั่งในรถ ท่านกล่าวว่า "ฉันลืมบอกพระองค์ว่า ฉันกำลังจะออกไป เธอกลับเข้าไปในบ้าน และอีกสองสามนาทีเธอก็ออกมา" แน่นอนคุณแม่เทเรซาหมายถึงพระเยซูเจ้า คุณพ่อไบรอันกล่าวว่านี่เป็นตัวอย่างที่แสดงถึงประสบการณ์ส่วนตัวที่ใกล้ชิดกับพระคริสตเจ้า

คุณแม่เทเรซา เป็นชาวอัลบาเนียในเมืองสกอร์ปจ์ ที่มาเซโดเนีย และเป็นคาทอลิกที่ศรัทธาอย่างยิ่ง มีคริสตชนเพียงร้อยละสามของประชากรอินเดียหนึ่งพันล้านคน แต่ชาวกัลกัตตาไม่ว่านับถือศาสนาใด ต่างก็สนับสนุนการแต่งตั้งท่านเป็นนักบุญ เสียงสนับสนุนยิ่งมีมากขึ่นตามถนนสายแคบ ๆ ที่ไปยังบ้านของคณะแพร่ธรรมแห่งความรัก คณะซิสเตอร์ที่คุณแม่เทเรซาเป็นผู้ตั้งขึ้น

"ท่านควรได้เป็นนักบุญ" อับดุล ฮาลิม ชายอายุ 48 ปีซึ่งเป็นเจ้าบริษัทอีเกิ้ลมอเตอร์ ที่อยู่ใกล้ ๆ กล่าว "ท่านไม่ได้ทำอะไรเพื่อตัวเองเลย ท่านอุทิศทั้งชีวิตให้กับคนยากจน" ฮาลิมกล่าวว่า เขารู้เมื่อคุณแม่เทเรซาไม่มีอะไร จะให้ แต่ก็ให้ท่านโดยสารมาในรถคันหนึ่งจากอู่รถของเขา ตอนนี้เขาพกกระดาษสีเหลืองแผ่นเล็ก ๆ ที่หน้าหนึ่งมีบทภาวนาโดยคุณแม่เทเรซา หลังจากมรณภาพของคุณแม่เทเรซา พื้นที่นี้ถูกปิดเพื่อประชาชน และมีการแจกแผ่นการ์ดนี้แก่คนที่เข้ามา "มันเป็นของที่ระลึกของผม" เขากล่าว พร้อมกับเสียบการ์ดเข้าไปสมุดบันทึกของเขา

มูฮัมหมัด มอฮิอัดดิน อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงานหลอดไฟฟ้าที่อยู่ตรงข้ามกับบ้านของคณะคุณแม่เทเรซา เขาบอกว่าเมื่อพ่อตาของเขาล้มป่วย คุณแม่เทเรซาได้นำยามาให้เขา เมื่อมอฮิอุดดินประสบอุบัติเหตุจากมอเตอร์ไซค์ ท่านก็ได้จัดรถนำเขาไปส่งโรงพยาบาล

"สองสามวันก่อนที่ท่านจะเสียชีวิต ท่านถ่ายรูปกับพวกเราที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง ในโอกาสวันเกิดของท่าน" มูฮิอัดดินกล่าว "ท่านทำให้กับพวกเรามากมาย ท่านควรได้เป็นนักบุญ"

ในขณะที่เขายังเด็ก ซูเรช เชาดารี ได้รับการอบรมโดยซิสเตอร์คณะของคุณแม่เทเรซา ปัจจุบันเขาทำงานรีดผ้าได้ค่าจ้างเพียงไม่กี่รูปี เขากล่าวว่าถ้าเขาไม่ได้รับการช่วยเหลือจากคุณแม่เทเรซา เขาจะเป็นอย่างไร "บางทีเราอาจจะเอาตัวรอดได้ แต่ก็คงจะต่างกันมาก" เขาบอก ตอนนี้ครอบครัวของเขาก็ยังคงได้รับอาหารและความช่วยเหลือจากบรรดาซิสเตอร์

"ถึงผมไม่ได้เป็นคาทอลิก แต่ผมก็ไม่เคยมองคุณแม่เทเรซาเป็นอย่างอื่น ท่านเอาใส่คนไม่มีที่อยู่และเด็ก ๆ ผมเห็นท่านเป็นเหมือนพระ" ซูเรช เชาดารี เงียบไปครู่หนึ่ง และยกแขนขึ้นข้างหน้า "ครับ ผมเคยถือว่าท่านเป็นพระ ตอนนี้ผมก็ยังเชื่อเช่นนั้น"

http://www.issara.com/article/teresa.html
ภาพประจำตัวสมาชิก
SHANTIRAKSA
โพสต์: 87
ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ มี.ค. 19, 2005 8:58 pm

อังคาร ต.ค. 09, 2007 7:33 pm

ความรักและความเมตตาของท่านเป็นสากลครับ ไม่เลือกวรรณะ ไม่เลือกศาสนา
ดังนั้นในอินเดีย รูปของท่านจะถูกวางคู่กับรูปเทวดาในศาสนาฮินดู ตามห้างร้านด้วย
สำหรับการแต่งตั้งเป็นนักบุญนั้น ต้องอาศัยกระบวนการอย่างเป็นขั้นตอน
แต่สำหรับคนอินเดียมากมาย ท่านเป็นนักบุญตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่แล้วครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

อังคาร ต.ค. 09, 2007 9:06 pm

ยอดๆๆๆ  : emo045 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ ต.ค. 10, 2007 12:53 am

สิ่งที่น่าสนใจมากคือ คุณแม่ไม่เคยบังคับจับใครล้างบาป ความจริงถ้าใครอ่านประวัติคุณแม่ จะทราบว่าเมื่อเริ่มแรก ท่านประสบปัญหาจากการเข้าใจผิดจากชาวอินเดียอย่างมาก เพราะคนคิดว่าที่ท่านทำทั้งหมดเพื่อให้คนอินเดียเปลี่ยนเป้นคริสต์ และหาว่าการทำดีของท่านไม่ได้บริสุทธิ์ใจ แต่สิ่งที่คุณแม่ยืนหยัดเสมอมาคือ ใครศาสนาไหนตายส่งศพไปทำพิธีตามศาสนาของเขา และคุณแม่ไม่เคยชวนใครเข้าล้างบาป สิ่งเดียวที่คุณแม่ทำคือ บอกทุกคนว่า พระเจ้ารักเขา และ ที่คุณแม่ทำทุกอย่างเพื่อเขานี้ เพราะเห็นพระเยซูเจ้าในตัวเขา

ดังนั้นการพิสูจน์พระวาจาของพระเยซูเจ้าด้วยความพากเพียร ของการกระทำ ไม่ใช่พูดอย่างทำอย่าง ไม่เคยลบหลู่ศาสนาอื่น แต่สร้างสันติ

จนเอาชนะใจคนอินเดียและคนทั้งโลก(แม้ต้องใช้เวลาพิสูจน์หลายสิบปี) พวกเขาได้ยอมรับว่า ที่คุณแม่มีความรักอย่างมากมายเช่นนี้ เพราะทำตามที่พระเยซูเจ้าสอน และมีจุดประสงค์คือ เพราะ รักเพื่อนมนุษย์ จริงๆ

ส่วนการแพร่ธรรมนั้นคุณแม่เคยบอกว่า คุณแม่เคารพศักดิ์ศรีของมนุษย์ทุกคนแม้ว่าศาสนาเขาจะต่างกัน และคุณแม่ขอแสดงแบบอย่างความรักพระเยซูให้เขาเห็น ส่วนหน้าที่ในการทำให้คนกลับใจนั้น เป็นของพระเยซูเจ้าเอง เพราะที่ผ่านมาเขาไม่กลับใจเพราะไม่เคยเห็นและรู้จักพระเยซูเจ้าเท่านั้น ดังนั้นเมื่อเขาได้ "พบ" พระองค์แล้ว ก็เป็นเรื่องระหว่างเขากับพระองค์ พระองค์จะทำหน้าที่ของพระองค์เอง

ปรากฏสถิติที่น่าตกใจครับ คือในช่วงปลายชีวิตของคุณแม่ มีคนอินเดียกลับใจเป็นคาทอลิคเพิ่มขึ้นถึง14% ซึ่งได้ผลดีกว่าที่บรรดามิชชันนารีหลายคนเคยทำกันมาหลายปีในดินแดนนี้ซะอีก เชื่อกันว่า การกลับใจนี้ มาจากอิทธิพลของคุณแม่เทเรซา แห่ง กัลกัตตา นั่นเอง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

พุธ ต.ค. 10, 2007 1:03 am

Holy เขียน: สิ่งที่น่าสนใจมากคือ คุณแม่ไม่เคยบังคับจับใครล้างบาป ความจริงถ้าใครอ่านประวัติคุณแม่ จะทราบว่าเมื่อเริ่มแรก ท่านประสบปัญหาจากการเข้าใจผิดจากชาวอินเดียอย่างมาก เพราะคนคิดว่าที่ท่านทำทั้งหมดเพื่อให้คนอินเดียเปลี่ยนเป้นคริสต์ และหาว่าการทำดีของท่านไม่ได้บริสุทธิ์ใจ แต่สิ่งที่คุณแม่ยืนหยัดเสมอมาคือ ใครศาสนาไหนตายส่งศพไปทำพิธีตามศาสนาของเขา และคุณแม่ไม่เคยชวนใครเข้าล้างบาป สิ่งเดียวที่คุณแม่ทำคือ บอกทุกคนว่า พระเจ้ารักเขา และ ที่คุณแม่ทำทุกอย่างเพื่อเขานี้ เพราะเห็นพระเยซูเจ้าในตัวเขา

ดังนั้นการพิสูจน์พระวาจาของพระเยซูเจ้าด้วยความพากเพียร ของการกระทำ ไม่ใช่พูดอย่างทำอย่าง ไม่เคยลบหลู่ศาสนาอื่น แต่สร้างสันติ

จนเอาชนะใจคนอินเดียและคนทั้งโลก(แม้ต้องใช้เวลาพิสูจน์หลายสิบปี) พวกเขาได้ยอมรับว่า ที่คุณแม่มีความรักอย่างมากมายเช่นนี้ เพราะทำตามที่พระเยซูเจ้าสอน และมีจุดประสงค์คือ เพราะ รักเพื่อนมนุษย์ จริงๆ

ส่วนการแพร่ธรรมนั้นคุณแม่เคยบอกว่า คุณแม่เคารพศักดิ์ศรีของมนุษย์ทุกคนแม้ว่าศาสนาเขาจะต่างกัน และคุณแม่ขอแสดงแบบอย่างความรักพระเยซูให้เขาเห็น ส่วนหน้าที่ในการทำให้คนกลับใจนั้น เป็นของพระเยซูเจ้าเอง เพราะที่ผ่านมาเขาไม่กลับใจเพราะไม่เคยเห็นและรู้จักพระเยซูเจ้าเท่านั้น ดังนั้นเมื่อเขาได้ "พบ" พระองค์แล้ว ก็เป็นเรื่องระหว่างเขากับพระองค์ พระองค์จะทำหน้าที่ของพระองค์เอง

ปรากฏสถิติที่น่าตกใจครับ คือในช่วงปลายชีวิตของคุณแม่ มีคนอินเดียกลับใจเป็นคาทอลิคเพิ่มขึ้นถึง14% ซึ่งได้ผลดีกว่าที่บรรดามิชชันนารีหลายคนเคยทำกันมาหลายปีในดินแดนนี้ซะอีก เชื่อกันว่า การกลับใจนี้ มาจากอิทธิพลของคุณแม่เทเรซา แห่ง กัลกัตตา นั่นเอง
นี่แหละครับ ที่ทำให้ผมประทับใจในการประกาศของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก
พ่อแม่ ก็ประทับใจด้วย
เท่าที่ผมได้ยิน ก็มีแค่ช่วงแรกๆเท่านั้น ที่ คาทอลิก ใช้คำว่าวัด เหมือน ของพุทธ จนคนบางคนคิดไปต่างๆนาๆ ผนวกกับการเมืองในตอนนั้นด้วยมั้งนะ

อืม นี่แหละ พระศาสนจักรแตกต่าง และเป็นสิ่งที่คริสตชนควรเลียนแบบเป็นที่สุดเลย  :wink:
AVE MARIA
โพสต์: 52
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ พ.ค. 04, 2007 10:20 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

พุธ ต.ค. 10, 2007 1:29 am

ขอร่วมแบ่งปันหน่อยครับ ไหนๆ สัปดาห์นี้ ผมก็เขียนเรื่อง ซ.เทเรซา ลงฟาติมาสารพอดี
------------------------

ฟาติมาสาร : อัศจรรย์ที่อาจทำให้ ซ.เทเรซา เป็นนักบุญ !!

              ผมเคยเขียนถึง
Joseph
โพสต์: 2182
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 27, 2005 6:31 am

พุธ ต.ค. 10, 2007 3:54 am

สำหรับฉันแล้ว พระเยซูเจ้า คือใครกันเล่า?
พระเยซูคริสตเจ้า คือ พระวจนะที่รับเอากาย
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ปังทรงชีวิต
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ผู้ที่อุทิศตนเป็นเหยื่อสำหรับบาปของเราบนกางเขน
พระเยซูคริสตเจ้า คือ เครื่องบูชาอันศักดิ์สิทธิ์ในพิธีบูชามิสซา เพื่อชดใช้บาปของโลกและของฉัน
พระเยซูคริสตเจ้า คือ พระวจนะที่จะต้องเล่าขานต่อไป
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ความจริงที่จะต้องกล่าว
พระเยซูคริสตเจ้า คือ วิถีที่จะต้องก้าวเดินตาม
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ตะเกียงที่จะต้องถูกจุดประกาย
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ชีวิตที่จะต้องดำรงอยู่
พระเยซูคริสตเจ้า คือ องค์ความรักที่จะต้องรัก
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ความชื่นชมยินดีที่จะต้องถูกแบ่งปัน
พระเยซูคริสตเจ้า คือ การสละตัวเองที่จะต้องถูกมอบถวาย
พระเยซูคริสตเจ้า คือ สันติภาพที่จะต้องถูกมอบให้
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ปังแห่งชีวิตที่จะต้องถูกกิน
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ความหิวโหยที่จะต้องเลี้ยงดู
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ความกระหายที่จะต้องเติมเต็ม
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ความเปล่าเปลือยที่จะต้องนุ่งห่มให้
พระเยซูคริสตเจ้า คือ การไร้ที่พักพิงที่จะต้องอยู่อาศัย
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ความเจ็บป่วยที่จะต้องเยียวยา
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ความว้าเหว่ที่จะต้องได้รับความรัก
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ความเมินเฉยที่จะต้องได้รับการยอมรับ
พระเยซูคริสตเจ้า คือ คนโรคเรื้อนที่จะต้องถูกล้างแผลที่เปื่อยเน่า
พระเยซูคริสตเจ้า คือ คนขอทานที่เราจะต้องมอบรอยยิ้มให้พระองค์
พระเยซูคริสตเจ้า คือ คนขี้เมาที่เราจะต้องใส่ใจฟังเขา
พระเยซูคริสตเจ้า คือ คนปัญญาอ่อนที่เราจะต้องปกป้องพระองค์
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ผู้ต่ำต้อยที่เราจะต้องโอบกอดพระองค์
พระเยซูคริสตเจ้า คือ คนตาบอดที่เราจะต้องนำทางแก่พระองค์
พระเยซูคริสตเจ้า คือ คนหูหนวกที่เราจะต้องเป็นกระบอกเสียงแทนพระองค์
พระเยซูคริสตเจ้า คือ คนง่อยเปลี้ยที่เราจะต้องเดินแทนพระองค์
พระเยซูคริสตเจ้า คือ คนติดยาเสพย์ติดที่เราจะต้องเป็นเพื่อนกับพระองค์
พระเยซูคริสตเจ้า คือ โสเภณีที่เราจะต้องพาพระองค์ออกจากอันตรายและเป็นเพื่อนกับพระองค์
พระเยซูคริสตเจ้า คือ คนถูกจองจำที่เราจะต้องถูกเยี่ยมเยียน
พระเยซูคริสตเจ้า คือ ผู้สูงอายุที่เราจะต้องเอาใจใส่ดูแล
อันนี้ดีนะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

พุธ ต.ค. 10, 2007 5:39 am

ยก 5:15
คำอธิษฐานภาวนาด้วยความเชื่อจะช่วยผู้ป่วยให้รอดชีวิต องค์พระผู้เป็นเจ้าจะทรงโปรดให้ผู้ป่วยลุกขึ้น และถ้าเขาเคยกระทำบาป เขาก็จะได้รับการอภัย  ดังนั้น จงสารภาพบาปแก่กัน และจงอธิษฐานให้กันเพื่อท่านจะหายจากโรค คำอ้อนวอนของผู้ชอบธรรมมีพลังทำให้เกิดผลมากมาย
ภาพประจำตัวสมาชิก
iBONT
โพสต์: 310
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 06, 2007 1:22 pm
ที่อยู่: ระย๊อง ระยอง
ติดต่อ:

พุธ ต.ค. 10, 2007 3:47 pm

..
พูดถึงเรื่องวันแต่งตั้งนักบุญ ไม่เคยเห็นเลย อยากเห็นจังเลยครับ

edit.เข้าใจผิดนิดส์นึง
แก้ไขล่าสุดโดย iBONT เมื่อ พฤหัสฯ. ต.ค. 11, 2007 5:57 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

พุธ ต.ค. 10, 2007 5:00 pm

ผมว่าจากที่คุณ AVE MARIA เล่าเรื่องอัศจรรย์ให้ฟัง อีกไม่นานก็ได้เป็นนักบุญแล้วหล่ะครับ ::001::
ตอบกลับโพส