เชื่อหรือไม่ ครั้งหนึ่ง
เชื่อหรือไม่ ครั้งหนึ่ง
-
- โพสต์: 626
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ มี.ค. 26, 2007 8:07 pm
- ที่อยู่: bkk
ดีนะนี่ ที่เราไม่เคยรับน้อง 

บางที่รับน้องแรงเกินไปจนถึงชีวิต
แต่ ร.ร.ผมรับน้องมีสาระนะ
แต่ ร.ร.ผมรับน้องมีสาระนะ

เผอิญเป็นคณะครูการรับน้องเลยโดนกรอบหนา
(ห้ามนอกสถานที่ ห้ามเกิน1ทุ่ม บลาๆๆๆๆ)
บวกกลับเป็นสาขาเพิ่งเปิดใหม่
(แถมสถาบันค่อนข้างเพ่งเล็งทุกคณะ)
แต่ผมให้ความสำคัญกับประชุมเชียร์มากกว่ารับน้องนะ ถ้าไม่มีบางทีไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่คนนั้นอยู่สาขาเดียวกันยังไม่รู้จักกันเลย(ยังไม่ต้องพูดกับสาขาใหญ่ๆที่แทบ"ไม่รู้จักฉันไม่รู้จักเธอ"เลย)
รับน้องมีหรือไม่มีดีหรือไม่->ไม่รู้
แต่ผมใช้การเข้าเชียร์นะ(เพราะคณะผมไม่มีการรับน้องที่เป็นรูปแบบเด่นๆมักรวมกับเชียร์)
ข้อดี->รู้จักพี่ รู้จักเพื่อน รู้ธรรมเนียม
ข้อเสีย(สำหรับคนที่ต่อต้านการเข้าหรือขี้เกียจเข้า)->เสียเวลา มันจะเอาอะไรกับฉัน(อาจคิดได้ว่า อตฺตาหิ อตฺตาโน นาโถ ได้)
มุมมองผม->มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ถ้าคุณไปโดยรู้จักแค่เพื่อนหรือพี่บางคน เรียนไปวันๆ หายใจทิ้งไปวันๆ อยู่ได้ก็ไม่ห้าม แต่สำหรับผมมันสำคัญมากเพราะถ้าไม่มีกิจกรรมนี้ ผมอยู่คนเดียวจริงๆ(เพราะไม่ค่อยจะคุยกับใครอย่าว่าแต่พี่เลย เพื่อนจะมีหรือเปล่าไม่รู้ คบในห้องเรียนอย่างเดียวพบว่าคบแค่เปลือกนอกจริงๆ เพราะกิจกรรมสามารถทำให้ผมมีเพื่อนได้)
ลองคิดกลับกัน
ถ้ามาเป็นรุ่นพี่ หลายคนไม่ได้ผานรับน้องตอนเป้นรุ่นน้องแล้วจะมาสนุกตอนมาเป็นรุ่นพี่ ย่อมเป็นการไม่สมควร(ธรรมเนียมหลายที่ย่อมไม่ปล่อยให้กลุ่มนั้นมารับน้อง ดีหน่อยที่รุ่นผมเข้าเชียร์หมด)
ป.ล.คำว่าคุณของผมหมายถึง ทั่วไป เป็นคำนามไม่เจาะจง
ป.ล.2เป็นแค่ความคิดของผมเองอย่าใส่ใจมาก
(ห้ามนอกสถานที่ ห้ามเกิน1ทุ่ม บลาๆๆๆๆ)
บวกกลับเป็นสาขาเพิ่งเปิดใหม่
(แถมสถาบันค่อนข้างเพ่งเล็งทุกคณะ)
แต่ผมให้ความสำคัญกับประชุมเชียร์มากกว่ารับน้องนะ ถ้าไม่มีบางทีไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพี่คนนั้นอยู่สาขาเดียวกันยังไม่รู้จักกันเลย(ยังไม่ต้องพูดกับสาขาใหญ่ๆที่แทบ"ไม่รู้จักฉันไม่รู้จักเธอ"เลย)
รับน้องมีหรือไม่มีดีหรือไม่->ไม่รู้
แต่ผมใช้การเข้าเชียร์นะ(เพราะคณะผมไม่มีการรับน้องที่เป็นรูปแบบเด่นๆมักรวมกับเชียร์)
ข้อดี->รู้จักพี่ รู้จักเพื่อน รู้ธรรมเนียม
ข้อเสีย(สำหรับคนที่ต่อต้านการเข้าหรือขี้เกียจเข้า)->เสียเวลา มันจะเอาอะไรกับฉัน(อาจคิดได้ว่า อตฺตาหิ อตฺตาโน นาโถ ได้)
มุมมองผม->มนุษย์เป็นสัตว์สังคม ถ้าคุณไปโดยรู้จักแค่เพื่อนหรือพี่บางคน เรียนไปวันๆ หายใจทิ้งไปวันๆ อยู่ได้ก็ไม่ห้าม แต่สำหรับผมมันสำคัญมากเพราะถ้าไม่มีกิจกรรมนี้ ผมอยู่คนเดียวจริงๆ(เพราะไม่ค่อยจะคุยกับใครอย่าว่าแต่พี่เลย เพื่อนจะมีหรือเปล่าไม่รู้ คบในห้องเรียนอย่างเดียวพบว่าคบแค่เปลือกนอกจริงๆ เพราะกิจกรรมสามารถทำให้ผมมีเพื่อนได้)
ลองคิดกลับกัน
ถ้ามาเป็นรุ่นพี่ หลายคนไม่ได้ผานรับน้องตอนเป้นรุ่นน้องแล้วจะมาสนุกตอนมาเป็นรุ่นพี่ ย่อมเป็นการไม่สมควร(ธรรมเนียมหลายที่ย่อมไม่ปล่อยให้กลุ่มนั้นมารับน้อง ดีหน่อยที่รุ่นผมเข้าเชียร์หมด)
ป.ล.คำว่าคุณของผมหมายถึง ทั่วไป เป็นคำนามไม่เจาะจง
ป.ล.2เป็นแค่ความคิดของผมเองอย่าใส่ใจมาก
ไม่รู้ฮะ
ไม่เคยรับน้องใหม่
เคยแต่รับเพื่อนใหม่ ฮ่าๆ
ทุกวันนี้คณะนิติศาสตร์ มธ. ก็ยังคงประเพณีการรับเพื่อนใหม่ในอดีตเอาไว้ไม่เปลี่ยนแปลง...
ไม่มีระบบ SOTUS ภายในคณะ อยู่ด้วยกันด้วยใจ
ไม่มีห้องเชียร์
ถามว่าแล้วทำยังไงให้น้องๆ ร้องเพลงคณะ เพลงมหาวิทยาลัยเป็น???
เรามีประกวดร้องเพลงระหว่างโต๊ะในคณะ
แล้วเอาไปประกวดในระดับมหาวิทยาลัย
เป็นอุบายอย่างหนึ่งให้น้องๆ อยากร้องเพลงมหาวิทยาลัยเป็น
แล้วก็เปิดกล่อมหูมันในงานต่างๆ ซะ เดี๋ยวมันก็ร้องเป็นเอง เหอๆ
แต่ในระดับโต๊ะก็มีกิจกรรมรับน้องเข้าโต๊ะ
ไปเที่ยวกัน...ย้ำเที่ยวไม่ใช่รับน้องนอกสถานที่ เน้นซื้อน้องด้วยความสบายมากกว่า (แอบไม่ชอบ)
ส่วนรายละเอียดการรับน้องของคณะนี้ก็บอกไปแล้วในกระทู้อีกกระทู้หนึ่ง เหอๆ
โดยส่วนตัวคิดว่าระบบ SOTUS มันดีถ้าใช้อย่างถูกต้อง
แต่ก็นั่นแหละระบบอาวุโส และระบบประเพณี เป็นระบบที่ทำให้สังคมล้าหลัง
เพราะผู้น้องไม่มีปากเสียงเมื่ออยู่กับผู้ใหญ่
ฝากร้อยกรองรับเพื่อนใหม่ของคณะไว้....
ณ แดนธรรมล้ำไทในถิ่นนี้
ชนเสรีรุ่นใหม่ได้มาถึง
เขาแกร่งกร้าวมั่นใจไม่พรั่นพรึง
แม่โดมซึ้งลูกใหม่ในอุรา
ขอต้อนรับเพื่อนเราก้าวมาเถิด
ช่วยกันเทิดผองไทยให้แกร่งกล้า
มวลชนกับ ธรรมศาสตร์ จะยาตรา
เพื่อกู้หน้ากู้ไทด้วยใจทะนง
...............................................
มาเถิดเพื่อนคล้องขวัญกันเข้ามา
ทิ้งความเหนื่อยเมื่อยล้าที่ร้อนร่ำ
ยังมีผู้เหนื่อยอ่อนกร่อนระกำ
อยู่ในความมืดดำตำนานคน
ค่อยประจงความรักมาทักร้อย
เพื่อคล้องขวัญน้อย ๆ ให้เพื่อนข้า
ขอขวัญเจ้าจงทรงสิทธิ์อิสรา
พร้อมเบิกทางข้างหน้าฝ่าผองภัย
................................................
มีคำถามว่าทำไมเอาร้อยกรองนี้มาแจกจ่ายพร่ำเพลื่อ ไม่หรอกครับ...เพราะ
เพื่อน........................
คุณมิใช่ผู้มาเยือนมาอยู่ใหม่
นาทีแรกที่คุณเริ่มตัดสินใจ
คุณอยู่ในที่นี่นาทีนั้น
คุณจะเกิดที่ไหนในตอนนี้
แต่ที่นี่คือบ้านเกิดกำเนิดมั่น
คุณจะเคยเป็นใครไม่สำคัญ
เราคือสายสัมพันธ์ของแผ่นดิน
ร้อยกรองชิ้นนี้เป็นการอธิบายได้อย่างดี ว่าทำไมเราไม่มีห้องเชียร์
แต่เราได้รุ่นไปเลย...เพราะเพียงเราตัดสินใจว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่
เราก็ได้รุ่นไปแล้วครับ
เห็นเปล่าครับ รุ่นของสำนักวิชากฎหมายที่อายุยาวนานที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และเป็นคณะที่มีอายุยาวนานที่สุดอันดับ 2 ของประเทศ มีข้อแม้การได้รับรุ่นแค่ "ตัดสินใจ" เอง
(แน่นอนครับ อันดับแรกคือแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล สาขาวิชาแพทยศาสตร์ อันนั้นเค้า 120 ปีแล้ว)
ส่วนนิติ มธ. รุ่นปัจจุบัน 110 ส่วนเอช 109
(โม้ๆ สถาบัน ฮ่าๆๆๆ)
บทร้อยกรองพวกนี้มีประโยชน์คือ...ปลุกจิตสำนึกที่ซ่อนในตัวของเพื่อนใหม่
ให้ศึกษาเล่าเรียนเพื่อไปเป็นข้าประชาชน ไม่ใช่ศึกษาเพื่อไปเป็นนาย...
อาจจะได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง ก็แล้วแต่คนไป ของพรรค์นี้รับรองผล 100% ไม่ได้ฮะ
ปล. หวังว่าจะได้อ่านร้อยกรองพวกนี้ให้น้องบูฟังนะครับ
ตั้งใจอ่านหนังสือมาสอบตรงเน้อ
ไม่เคยรับน้องใหม่
เคยแต่รับเพื่อนใหม่ ฮ่าๆ
ทุกวันนี้คณะนิติศาสตร์ มธ. ก็ยังคงประเพณีการรับเพื่อนใหม่ในอดีตเอาไว้ไม่เปลี่ยนแปลง...
ไม่มีระบบ SOTUS ภายในคณะ อยู่ด้วยกันด้วยใจ
ไม่มีห้องเชียร์
ถามว่าแล้วทำยังไงให้น้องๆ ร้องเพลงคณะ เพลงมหาวิทยาลัยเป็น???
เรามีประกวดร้องเพลงระหว่างโต๊ะในคณะ
แล้วเอาไปประกวดในระดับมหาวิทยาลัย
เป็นอุบายอย่างหนึ่งให้น้องๆ อยากร้องเพลงมหาวิทยาลัยเป็น
แล้วก็เปิดกล่อมหูมันในงานต่างๆ ซะ เดี๋ยวมันก็ร้องเป็นเอง เหอๆ
แต่ในระดับโต๊ะก็มีกิจกรรมรับน้องเข้าโต๊ะ
ไปเที่ยวกัน...ย้ำเที่ยวไม่ใช่รับน้องนอกสถานที่ เน้นซื้อน้องด้วยความสบายมากกว่า (แอบไม่ชอบ)
ส่วนรายละเอียดการรับน้องของคณะนี้ก็บอกไปแล้วในกระทู้อีกกระทู้หนึ่ง เหอๆ
โดยส่วนตัวคิดว่าระบบ SOTUS มันดีถ้าใช้อย่างถูกต้อง
แต่ก็นั่นแหละระบบอาวุโส และระบบประเพณี เป็นระบบที่ทำให้สังคมล้าหลัง
เพราะผู้น้องไม่มีปากเสียงเมื่ออยู่กับผู้ใหญ่
ฝากร้อยกรองรับเพื่อนใหม่ของคณะไว้....
ณ แดนธรรมล้ำไทในถิ่นนี้
ชนเสรีรุ่นใหม่ได้มาถึง
เขาแกร่งกร้าวมั่นใจไม่พรั่นพรึง
แม่โดมซึ้งลูกใหม่ในอุรา
ขอต้อนรับเพื่อนเราก้าวมาเถิด
ช่วยกันเทิดผองไทยให้แกร่งกล้า
มวลชนกับ ธรรมศาสตร์ จะยาตรา
เพื่อกู้หน้ากู้ไทด้วยใจทะนง
...............................................
มาเถิดเพื่อนคล้องขวัญกันเข้ามา
ทิ้งความเหนื่อยเมื่อยล้าที่ร้อนร่ำ
ยังมีผู้เหนื่อยอ่อนกร่อนระกำ
อยู่ในความมืดดำตำนานคน
ค่อยประจงความรักมาทักร้อย
เพื่อคล้องขวัญน้อย ๆ ให้เพื่อนข้า
ขอขวัญเจ้าจงทรงสิทธิ์อิสรา
พร้อมเบิกทางข้างหน้าฝ่าผองภัย
................................................
มีคำถามว่าทำไมเอาร้อยกรองนี้มาแจกจ่ายพร่ำเพลื่อ ไม่หรอกครับ...เพราะ
เพื่อน........................
คุณมิใช่ผู้มาเยือนมาอยู่ใหม่
นาทีแรกที่คุณเริ่มตัดสินใจ
คุณอยู่ในที่นี่นาทีนั้น
คุณจะเกิดที่ไหนในตอนนี้
แต่ที่นี่คือบ้านเกิดกำเนิดมั่น
คุณจะเคยเป็นใครไม่สำคัญ
เราคือสายสัมพันธ์ของแผ่นดิน
ร้อยกรองชิ้นนี้เป็นการอธิบายได้อย่างดี ว่าทำไมเราไม่มีห้องเชียร์
แต่เราได้รุ่นไปเลย...เพราะเพียงเราตัดสินใจว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่
เราก็ได้รุ่นไปแล้วครับ

เห็นเปล่าครับ รุ่นของสำนักวิชากฎหมายที่อายุยาวนานที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และเป็นคณะที่มีอายุยาวนานที่สุดอันดับ 2 ของประเทศ มีข้อแม้การได้รับรุ่นแค่ "ตัดสินใจ" เอง
(แน่นอนครับ อันดับแรกคือแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล สาขาวิชาแพทยศาสตร์ อันนั้นเค้า 120 ปีแล้ว)
ส่วนนิติ มธ. รุ่นปัจจุบัน 110 ส่วนเอช 109
(โม้ๆ สถาบัน ฮ่าๆๆๆ)
บทร้อยกรองพวกนี้มีประโยชน์คือ...ปลุกจิตสำนึกที่ซ่อนในตัวของเพื่อนใหม่
ให้ศึกษาเล่าเรียนเพื่อไปเป็นข้าประชาชน ไม่ใช่ศึกษาเพื่อไปเป็นนาย...
อาจจะได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง ก็แล้วแต่คนไป ของพรรค์นี้รับรองผล 100% ไม่ได้ฮะ
ปล. หวังว่าจะได้อ่านร้อยกรองพวกนี้ให้น้องบูฟังนะครับ
ตั้งใจอ่านหนังสือมาสอบตรงเน้อ
แก้ไขล่าสุดโดย Alphonse เมื่อ จันทร์ ต.ค. 29, 2007 9:14 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- โพสต์: 960
- ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 31, 2007 2:35 pm
ใครยังไม่เคย แนะนำให้มา มคต นี่ เจอพี่รักษ์บอกว่า มาจากนิวมานา รับรอง จัดให้เฉพาะเลย โปรโมชั่นพิเศษเลย อิอิอิอิอิ
necromancer เขียน: ไม่รู้ฮะ
ไม่เคยรับน้องใหม่
เคยแต่รับเพื่อนใหม่ ฮ่าๆ
ทุกวันนี้คณะนิติศาสตร์ มธ. ก็ยังคงประเพณีการรับเพื่อนใหม่ในอดีตเอาไว้ไม่เปลี่ยนแปลง...
ไม่มีระบบ SOTUS ภายในคณะ อยู่ด้วยกันด้วยใจ
ไม่มีห้องเชียร์
ถามว่าแล้วทำยังไงให้น้องๆ ร้องเพลงคณะ เพลงมหาวิทยาลัยเป็น???
เรามีประกวดร้องเพลงระหว่างโต๊ะในคณะ
แล้วเอาไปประกวดในระดับมหาวิทยาลัย
เป็นอุบายอย่างหนึ่งให้น้องๆ อยากร้องเพลงมหาวิทยาลัยเป็น
แล้วก็เปิดกล่อมหูมันในงานต่างๆ ซะ เดี๋ยวมันก็ร้องเป็นเอง เหอๆ
แต่ในระดับโต๊ะก็มีกิจกรรมรับน้องเข้าโต๊ะ
ไปเที่ยวกัน...ย้ำเที่ยวไม่ใช่รับน้องนอกสถานที่ เน้นซื้อน้องด้วยความสบายมากกว่า (แอบไม่ชอบ)
ส่วนรายละเอียดการรับน้องของคณะนี้ก็บอกไปแล้วในกระทู้อีกกระทู้หนึ่ง เหอๆ
โดยส่วนตัวคิดว่าระบบ SOTUS มันดีถ้าใช้อย่างถูกต้อง
แต่ก็นั่นแหละระบบอาวุโส และระบบประเพณี เป็นระบบที่ทำให้สังคมล้าหลัง
เพราะผู้น้องไม่มีปากเสียงเมื่ออยู่กับผู้ใหญ่
ฝากร้อยกรองรับเพื่อนใหม่ของคณะไว้....
ณ แดนธรรมล้ำไทในถิ่นนี้
ชนเสรีรุ่นใหม่ได้มาถึง
เขาแกร่งกร้าวมั่นใจไม่พรั่นพรึง
แม่โดมซึ้งลูกใหม่ในอุรา
ขอต้อนรับเพื่อนเราก้าวมาเถิด
ช่วยกันเทิดผองไทยให้แกร่งกล้า
มวลชนกับ ธรรมศาสตร์ จะยาตรา
เพื่อกู้หน้ากู้ไทด้วยใจทะนง
...............................................
มาเถิดเพื่อนคล้องขวัญกันเข้ามา
ทิ้งความเหนื่อยเมื่อยล้าที่ร้อนร่ำ
ยังมีผู้เหนื่อยอ่อนกร่อนระกำ
อยู่ในความมืดดำตำนานคน
ค่อยประจงความรักมาทักร้อย
เพื่อคล้องขวัญน้อย ๆ ให้เพื่อนข้า
ขอขวัญเจ้าจงทรงสิทธิ์อิสรา
พร้อมเบิกทางข้างหน้าฝ่าผองภัย
................................................
มีคำถามว่าทำไมเอาร้อยกรองนี้มาแจกจ่ายพร่ำเพลื่อ ไม่หรอกครับ...เพราะ
เพื่อน........................
คุณมิใช่ผู้มาเยือนมาอยู่ใหม่
นาทีแรกที่คุณเริ่มตัดสินใจ
คุณอยู่ในที่นี่นาทีนั้น
คุณจะเกิดที่ไหนในตอนนี้
แต่ที่นี่คือบ้านเกิดกำเนิดมั่น
คุณจะเคยเป็นใครไม่สำคัญ
เราคือสายสัมพันธ์ของแผ่นดิน
ร้อยกรองชิ้นนี้เป็นการอธิบายได้อย่างดี ว่าทำไมเราไม่มีห้องเชียร์
แต่เราได้รุ่นไปเลย...เพราะเพียงเราตัดสินใจว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของที่นี่
เราก็ได้รุ่นไปแล้วครับ
เห็นเปล่าครับ รุ่นของสำนักวิชากฎหมายที่อายุยาวนานที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
และเป็นคณะที่มีอายุยาวนานที่สุดอันดับ 2 ของประเทศ มีข้อแม้การได้รับรุ่นแค่ "ตัดสินใจ" เอง
(แน่นอนครับ อันดับแรกคือแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล สาขาวิชาแพทยศาสตร์ อันนั้นเค้า 120 ปีแล้ว)
ส่วนนิติ มธ. รุ่นปัจจุบัน 110 ส่วนเอช 109
(โม้ๆ สถาบัน ฮ่าๆๆๆ)
บทร้อยกรองพวกนี้มีประโยชน์คือ...ปลุกจิตสำนึกที่ซ่อนในตัวของเพื่อนใหม่
ให้ศึกษาเล่าเรียนเพื่อไปเป็นข้าประชาชน ไม่ใช่ศึกษาเพื่อไปเป็นนาย...
อาจจะได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง ก็แล้วแต่คนไป ของพรรค์นี้รับรองผล 100% ไม่ได้ฮะ
ปล. หวังว่าจะได้อ่านร้อยกรองพวกนี้ให้น้องบูฟังนะครับ
ตั้งใจอ่านหนังสือมาสอบตรงเน้อ
พี่พลายแก้วขอบอกสิ่งจากใจเลยนะ พี่ชอบน้องสุดหล่อแห่งรั้วธรรมศาสตร์มากเลย ชอบอุดมการณ์น้อง และหลายๆสิ่ง บ่งบอกว่ามหาวิทยาลัยน้องและตัวน้องยังไม่ Lost the sprit of warrior of peole who always fight for freedom of people. ดีใจจริงๆครับ เหมือนได้เจอเด็กธรรมศาสตร์ ในยุคบุบฝาชนเบ่งบาน
สำหรับน้องแล้ว พี่ชอบมากครับ เพราะสมัยอยู่เมืองไทย พี่เป็นคนเข้ากับมนุษยพันธ์ใหม่ไม่ค่อยได้(เหมือนที่พี่เคยบ่นไปในกระทู้อื่นๆ) หากวัยรุ่นไทยส่วนใหญ่เป็นแบบน้อง พี่คิดว่ากลับไป พี่คงไม่เหงาและมีเพื่อนกินเหล้ากัน(ไม่สิ เราเลิกแล้ว เป็นเพื่อนกินหมูกะทะดีกว่า)
พี่ดีใจ และปลึ้มใจ กับน้องและมหาวิทยาลัยของน้องมาก ผ่านตัวน้องนิแหละ ทุกอย่างมาจากใจหมดนะครับ ต่อให้น้องอุดมการณ์รุนแรงกว่านี้ หรือเป็น ผกค.ไปซะเลย น้องก็ยังดีกว่าพวกแอบแป๊ว หรือพวกมนุษยพันธใหม่ และฯลฯที่เราคุยบ่นกันให้กระทู้อื่นๆ
คนเราต้องมีอุดมการณ์และความเป็นตัวเองครับ คนไร้อุดมการณ์คือคนที่ตายไปแล้ว พี่เชื่อว่าต่อให้น้องเป็นบุปผาชนเต็มตัว หรือเป็น ผกค. และคอมมิวนิสต์เต็มตัวไปเลย พี่ก็ยังรักและปลึ้มเราเสมอครับ น้องยังดีกว่าพวกมนุษยพันธใหม่ ที่พี่ไม่สามารถเข้ากันเลยได้สักนิดเดียว แม้กระทั่งความเป็นคนเหมือนกัน
ขอพระอวยพรน้องครับผม
พี่ยังไม่รู้จักเอชดีฮะPry-Kaew เขียน:
บ่งบอกว่ามหาวิทยาลัยน้องและตัวน้องยังไม่
ฮ่าๆๆๆๆๆ
เอชเป็นคนฟังเพลงเพื่อชีวิต เพลงป่า
แต่งตัว 5 ย. (กางเกงยีนส์ เสื้อยืด รองเท้าแตะยาง ผมยาว สะพายย่าม)
แต่ชอบเดินพารากอน ใส่คอนแทคบิ๊กอาย ทำหน้าแอ๊บแบ๊ว และชอบทำจริตตะวันตก
ไม่กินเหล้าไทย 555+
เป็นบุคคล paradox แห่งปีครับ
ส่วนมหาวิทยาลัย ไม่ได้เป็นอย่างนี้ทุกคนฮะ
บอกแล้วว่าของพวกนี้มันไม่มี 100% หรอก 10% ก็หรูแล้วแต่ละรุ่นนะ
พวกเอชเป็นคนกลุ่มเล็กๆ ของคณะ ของมหาวิทยาลัยครับ
ฮ่าๆๆๆๆๆ
มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเงิน
ธรรมศาสตร์ประกาศนามในยามนั้น
เป็นสีสันปัญญาที่กล้าหาญ
ชนเชื่อถือลือร่ำเป็นตำนาน
เป็นสถานพิทักษ์ธรรมนำปวงชน
ธรรมศาสตร์ประกาศนามในยามนี้
เห็นแต่มีสีสันอันฉ้อฉล
เป็นบริษัทอ้างศรัทธาประชาชน
ลวงผู้คนจนสูญค่าจรรยาบรรณ
นโยบายย้ายไกลไปรังสิต
สิงสถิตสี่ปีอยู่ที่นั่น
หากขาดโดมเจ้าพระยาท่าพระจันทร์
ไม่สำคัญเท่าขาดผับขับกล่อมใจ
ท่าพระจันทร์นั้นมีไว้ให้อินเตอร์
กำลังเห่อเวอร์ชั่นทันสมัย
ตามกระแสทุนนิยมสังคมไทย
เพิ่มรายได้ขายธรรมจักรอ้างหลักการ
ฤาจะไร้ร่มยูงที่สูงแล้ว
คงไม่แคล้วเป็นเรื่องเก่าให้เล่าขาน
ว่าแดนโดมประโคมธรรมในตำนาน
แทบสูญสิ้นวิญญาณในวารวัน
โดย....เถ้าธรรมจักร นิติ มธ. รหัส 49
แก้ไขล่าสุดโดย Alphonse เมื่อ อังคาร ต.ค. 30, 2007 7:16 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ตอบPry-Kaew เขียน:
- พี่ชอบน้องสุดหล่อแห่งรั้วธรรมศาสตร์มากเลย ชอบอุดมการณ์น้อง
- ยังไม่ Lost the sprit of warrior of peole who always fight for freedom of people.
- ดีใจจริงๆครับ เหมือนได้เจอเด็กธรรมศาสตร์ ในยุคบุบฝาชนเบ่งบาน
- พี่คงไม่เหงาและมีเพื่อนกินเหล้ากัน(ไม่สิ เราเลิกแล้ว เป็นเพื่อนกินหมูกะทะดีกว่า)
- ต่อให้น้องอุดมการณ์รุนแรงกว่านี้ หรือเป็น ผกค.ไปซะเลย น้องก็ยังดีกว่าพวกแอบแป๊ว หรือพวกมนุษยพันธใหม่ และฯลฯ
- คนเราต้องมีอุดมการณ์และความเป็นตัวเองครับ คนไร้อุดมการณ์คือคนที่ตายไปแล้ว
- แม้กระทั่งความเป็นคนเหมือนกัน
- ขอพระอวยพรน้องครับผม
-หล่อแต่เกิดครับ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ กร๊ากกกกกกกกกก แต่เอชว่าชอบแต่อุดมการณ์พอนะฮะ ชอบเอชด้วยนี่มันยังไงๆ แฮะๆ
-ไม่แน่หรอกครับ ให้เรียนจบก่อน พอเข้าไปในมหาสมุทรทุนนิยม เอชอาจจะกลายเป็นนายทุนก็ได้ ฮ่าๆ
-อืม...ยังมีอีกเยอะครับ เพียงแต่หายากหน่อย แต่คนเหมือนกันจะหากันเจอเอง
-ถ้าเป็น ผกค. แอ๊บแบ๊ว ล่ะครับ ฮ่าๆๆ
-เห็นชอบครับ
-ทุกคนเกิดมาเป็นคนครับ มีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษยชนเท่ากันทุกประการ ไม่ว่าจะต่างกันในด้านใดๆ (สิทธิมนุษยชน ฮ่าๆๆ)
-เช่นกันครับ
ยืนยันความเห็นเหมือนเมื่อก่อนครับ SOTUS คืออะไรที่งี่เง่าที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ยังคงยืนยันครับว่า ระบบSotusนั่นงี่เง่าสุดๆ และเป็นเครื่องมือของพวกหัวเก่าในการกดขี่ล้างสมองรุ่นน้องให้จงรักภักดีต่อระบบอย่างไร้คำถามและข้อโต้แย้ง
ขึ้นปี2ผมต้องปลดแอกรุ่นน้องให้ได้! Sons of Liberty!
ขึ้นปี2ผมต้องปลดแอกรุ่นน้องให้ได้! Sons of Liberty!