เห็นด้วยเห็นด้วยครับ แล้วเรื่องที่ว่าแขวะแม่พระผมว่าแปลกๆนะ รู้จักลูกไม่รู้จักแม่ ชอบลูกไม่ชอบแม่Holy เขียน: นอกจากเคยเจอใบปลิวเรื่องนรกๆนี้ ยังเคยเจอการ์ตูนที่เขาเอามาลิงค์ทั่วเนตในไทย แล้วผลคือคนแห่กันมาด่าศาสนาคริสต์ เพราะการ์ตูนนั้นเจาะจงกันเลยว่า ศาสนาที่คนนับถือมากของประเทศนี้ ไปนรก แถมแอบมาแขวะอิสลาม กับแม่พระอีก
รม 10:2
ข้าพเจ้ายืนยันได้ว่าพวกเขามีความกระตือรือร้นเพื่อพระเจ้า แต่เป็นความกระตือรือร้นที่ขาดความรู้
ดังนั้นถ้าคำพูดหรือข้อความใดที่ส่งไปให้คน10คนอ่าน 9คนจากเฉยๆกลายเป็นเกลียด 1คนกลัวเลยมาเชื่อ นี่คือการล้มเหลวในการประกาศนะครับ และถ้าคุณได้คนที่เชื่อเพราะกลัวตกนรก คุณก็ได้ผู้เชื่อไม่สมบูรณ์
1ยน 4:18
ไม่มีความกลัวในความรัก ความรักที่สมบูรณ์ย่อมขจัดความกลัว เพราะความกลัว คือความคาดหมายว่าจะถูกลงโทษ ความรักของผู้มีความกลัวจึงยังไม่สมบูรณ์
กับข้อความที่ส่งอออกไป ให้10คนอ่าน มีคนสนใจสัก4-5คน เชื่อเลยสักคนสองคน ที่เหลือไม่สนใจ หรือบางคนหมั่นไส้อยู่แล้วหาว่าบ้า นี่ต่างหากที่ยังถือว่าโอเค
ดังนั้นมันไม่ใช่ปัญหาว่าประกาศหรือเปล่าเท่านั้น แต่อยู่ที่ประกาศอย่างไรด้วย พระเจ้าบอกว่า ผลที่ดีเกิดจากต้นที่ดี ถ้าคิดว่าจะสร้างผลดี และแน่ใจว่ารากดี แต่ดันเกิดผลเน่า ต้องรีบสำรวจอย่างเร่งด่วนว่า ปล่อยให้มีการกลายพันธุ์ หรือมีเชื่อโรคหรือหนอนแมลงมาแอบแฝงตรงไหน ไม่ใช่ดื้อทำต่อไป
เอาอย่างง่ายที่สุดนะครับ พระเยซูเจ้าเอง ไม่เคยพูดว่าไม่เชื่อจะตกนรก แต่พูดว่า ถ้าท่านไม่เชื่อท่านจะถูกตัดสินเพราะบาปของท่าน และพูดแบบนี้แค่ไม่กี่ครั้ง แต่ตรัสแต่ว่า เรามาช่วย เราเป็นหนทาง ความจริง และชีวิต ดังนั้นนี่คือรูปแบบการพูดเชิงบวก ไม่ได้เน้นการลงโทษ แต่เน้นที่รางวัล แต่ทำไมมีบางคริสตจักร ไม่ทำแบบที่พระเยซูทำ ดันไปทำแบบตัวเองใช่ไหม มันถึงเกิดปัญหา
เอาง่ายๆ ถ้าคุณมีพ่อ ที่เข้ามาบอกแต่ว่า มาเถอะ พ่อจะรักลูกนะ พ่อจะให้ของขวัญลูกนะ ถ้าลูกทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ พ่อจะอยู่กับลูกตลอดนะ จะคอยช่วยลูกเสมอนะ กับ พ่ออีกคน เอาแต่พูดว่า ถ้าไม่ทำนะ พ่อจะเฆี่ยนแก จะกระทืบแก จะฆ่าแก จะลงโทษแก คุณคิดว่าเด็กจะรู้สึกรักพ่อคนไหนมากกว่ากัน
ร้อยละร้อยเด็กจะอยากเข้าหาพ่อคนแรกมากกว่า และนี่คือสิ่งที่พระเยซูทำตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์
ดังนั้น ถ้ารู้จักเลียนแบบอย่าง หนทางที่พระอาจารย์ของเราทำไว้ให้ดู ก็จะไม่ออกนอกทางแน่นอนครับ
แต่ทำไมยังมีการทำอะไรแบบนี้อยู่ เพราะคอมม่อนเซนส์อีกแหละ การที่พ่อแม่คนไหนโน้มน้าวลูกพูดดีๆกะลูกให้ทำดี มันมักใช้เวลานาน ต้องใช้ความอดทนสูง และบางทีลูกก็งอแง มันเสียเวลา และบางทีมันไม่ทันใจ เราจึงมักเห็นพ่อแม่ที่ชอบใช้อารมณ์ไม่น้อยที่ชอบขู่ให้ลูกทำตาม เช่น ถ้าดื้อเดี๋ยวผีมาหลอกนะ ถ้าไม่เชื่อเดี๋ยวตำรวจมาจับนะ บางทีการข่มขู่มันได้ผลไวกว่า ความกลัวทำให้คนอื่นทำตามใจเราง่ายกว่า แต่คุณภาพและความสัมพันธ์ของพ่อลูกพวกนี้ต่างกันคนละเรื่องนะครับ
ที่หนักกว่านั้น คนอื่นเขาไม่ใช่ลูก แต่เป็นพี่น้อง การอ้างชื่อพ่อ ก็เลยมี2แบบเหมือนกัน อาจบอกว่าพ่อรักเรานะถ้าทำจะมีแต่สิ่งที่ดี หรืออาจขู่ว่าถ้าไม่ทำพ่อจะมาตีนะ
ดังนั้นผมมองว่าข่าวดีมาจากพระเจ้า แต่พฤติกรรมแบบนี้ อาจมาจากบาดแผลในวัยเด็กที่ถูกเลี้ยงดูมาด้วยการข่มขู่ เลยติดนิสัย และเผยแพร่วิธีการแบบเดียวกันออกมา ซึ่งอันนี้ไม่น่าจะมาจากพระเจ้าครับ
ผมยังคิดภาพไม่ค่อยออกเลย ถ้าผมพูดผิดพลาดอะไรไปก็ขอโทษด้วยนะครับ แค่อยากให้ความคิดเห็นนิดนึงน่ะครับ