+++ จริงหรือ ที่เราคิดว่าเรากำลังเป็นทุกข์ +++

ปรับทุกข์ หนุนใจ ขอคำภาวนา
ตอบกลับโพส
Cho
โพสต์: 744
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ เม.ย. 15, 2005 6:27 pm
ที่อยู่: Rayong

พุธ ก.ย. 30, 2009 10:04 pm

ในบางครั้ง เราอาจจะเคยคิดว่า เราเป็นคนที่มีความทุกข์ที่สุดในโลก

แต่ในอีกมุมนึงของโลก ยังมีพวกเขาเหล่านี้อยู่...

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

รูปภาพ

(ภาพสุดท้าย ช่างภาพคนหนึ่งได้ถ่ายภาพเด็กคนนี้ กำลังคลานไปที่ศูนย์บรรเทาซึ่งมีอาหารอยู่

ซึ่งอยู่ห่างจากจุดนี้ เพียงแค่ 1 กม.  โดยที่แร้งตัวหนึ่งกำลังรอกินเด็ก ทันทีที่น้องเค้าตาย

ไม่ทราบว่าหลังจากนี้ เด็กคนนี้เป็นอย่างไร เพราะหลังจากถ่ายภาพนี้ ช่างภาพคนนั้นก็ขับรถกลับทันที

สุดท้าย ช่างภาพคนนั้นก็ฆ่าตัวตายในที่สุด)

++++++++++++++++++++++++++++

สุดท้ายนี้ ขอเป็นกำลังใจให้สำหรับคนกำลังเป็นทุกข์ ทุกคนครับ
แก้ไขล่าสุดโดย Cho เมื่อ พฤหัสฯ. ต.ค. 01, 2009 12:19 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
ต้นไม้แห่งเจสซี
โพสต์: 343
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ ส.ค. 21, 2009 3:33 pm
ที่อยู่: หลุมที่4 สุสานวัดพระราชินีแห่งสันติภาพ อรัญประเทศ
ติดต่อ:

พุธ ก.ย. 30, 2009 11:00 pm

ผมขอมอบบทข้าแต่พระบิดา 1 บทให้กับพวกเขาครับ

" ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลายพระองค์สถิตในสวรรค์
พระนามพระองค์จงเป็นที่สักการะ
พระอาณาจักรจงมาถึง
พระประสงค์จงสำเร็จไป
ในแผ่นดินเหมือนในสวรรค์

ขอประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพเจ้าทั้งหลายในวันนี้.
โปรดประทานอภัยแก่ข้าพเจ้า
เหมือนข้าพเจ้าให้อภัยแก่ผู้อื่น

อย่าปล่อยให้ข้าพเจ้าแพ้การผจญ
แต่โปรดช่วยให้พ้นจากความชั่วร้ายเทอญ อาแมน "

ผมเห็นแล้วรู้สึกเห็นใจ หดหู่ ว่าในขณะที่เรามีความฟุ้งเฟ้อ กินทิ้งกินขว้าง แต่ในอีกมุมหนึ่งของโลกใบนี้

ยังมีเพื่อนมนุษย์ที่อดอยาก ยังมีเพื่อนมนุษย์ที่ต้องการความช่วยเหลืออยู่ .............  : xemo023 :

มันเตือนสติว่า เราต้องหมั่นทำความดี และเห็นอกเห็นใจผู้ที่ด้อยกว่าให้มากขึ้น

ขอพระเป็นเจ้าทรงโปรดเมตตาพวกเขาด้วยครับ

ขอท่านนักบุญเทเรซา แห่งพระกุมารเยซู ช่วยวิงวอนเทอญ
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ พุธ ก.ย. 30, 2009 11:02 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

พฤหัสฯ. ต.ค. 01, 2009 12:36 am

จริงๆแล้วรู้มาว่าภาพพวกนี้เก่ามากแล้ว  ปัจจุบันมีองกรที่คอยช่วยเหลือพวกเค้ามากมายแล้วครับ ^^

ขอขอบพระคุณพระเจ้า




ตอนนี้น่าเป็นห่วงพวกเด็กที่เป็นเหยื่อสงครามมากกว่า
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

พฤหัสฯ. ต.ค. 01, 2009 12:39 am

ภาพที่ 3 นี่คือ กินฉี่ของสัตว์ หรือ ทำอะไรอ่ะ  : emo036 :

ผมไม่แน่ใจนักครับว่า ผู้ที่ไม่มีกิน อดอยาก เป็นพวกที่ไม่สู้งานหรือเปล่า : xemo026 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
sasuke
~@
โพสต์: 1120
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ ธ.ค. 06, 2006 12:00 am
ที่อยู่: ใต้เสื้อคลุมของแม่

พฤหัสฯ. ต.ค. 01, 2009 4:40 am

คนละคนแล้วครับ เขียน: ภาพที่ 3 นี่คือ กินฉี่ของสัตว์ หรือ ทำอะไรอ่ะ  : emo036 :

ผมไม่แน่ใจนักครับว่า ผู้ที่ไม่มีกิน อดอยาก เป็นพวกที่ไม่สู้งานหรือเปล่า : xemo026 :
รองปัสสาวะถูกแล้วครับ ที่ซูดานแห้งแล้งมาก น้ำแม้จะสกปรกแค่ไหนก็ต้องกินครับ

คนเราก็อดอยากด้วยเหตุผลหลายประการ ขี้เกียจก็นับเป็นสาเหตุหนึ่ง
แต่ก็มีกรณีของคนที่ไม่มีงานทำเพราะไม่มีการศึกษา แก่ตัวมาก หรือว่าพิการช่วยตัวเองไม่ได้
คนจนอดอยากไม่มีจะกินลักษณะนี้ในเมืองไทยก็มีให้เห็นเยอะแยะ ไม่ต้องไปดูถึงซูดานเลย
จะโทษเขาก็ไม่ได้ที่เขาไม่มีการศึกษาหรือพิการ เพราะเขาก็ไม่ได้อยากเป็นแบบนั้น  : xemo017 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

พฤหัสฯ. ต.ค. 01, 2009 7:54 am

sasuke เขียน:
คนละคนแล้วครับ เขียน: ภาพที่ 3 นี่คือ กินฉี่ของสัตว์ หรือ ทำอะไรอ่ะ  : emo036 :

ผมไม่แน่ใจนักครับว่า ผู้ที่ไม่มีกิน อดอยาก เป็นพวกที่ไม่สู้งานหรือเปล่า : xemo026 :
รองปัสสาวะถูกแล้วครับ ที่ซูดานแห้งแล้งมาก น้ำแม้จะสกปรกแค่ไหนก็ต้องกินครับ

คนเราก็อดอยากด้วยเหตุผลหลายประการ ขี้เกียจก็นับเป็นสาเหตุหนึ่ง
แต่ก็มีกรณีของคนที่ไม่มีงานทำเพราะไม่มีการศึกษา แก่ตัวมาก หรือว่าพิการช่วยตัวเองไม่ได้
คนจนอดอยากไม่มีจะกินลักษณะนี้ในเมืองไทยก็มีให้เห็นเยอะแยะ ไม่ต้องไปดูถึงซูดานเลย
จะโทษเขาก็ไม่ได้ที่เขาไม่มีการศึกษาหรือพิการ เพราะเขาก็ไม่ได้อยากเป็นแบบนั้น  : xemo017 :
อื่ม สำหรับคนที่พิการ  คนเจ็บป่วยด้วยโรคร้าย  กับ คนชราที่ถูกทอดทิ้ง นี่ น่าเห็นใจจริงๆเลย
คนที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร  : xemo017 :
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

พฤหัสฯ. ต.ค. 01, 2009 8:43 am

แต่..

สาเหตุมันมี

เมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้ว ข่าวเรื่องรัฐบาล ต้องการซื้อสโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล และเรื่องสถานการณ์ทางภาคใต้ บดบังข่าวใหญ่ข่าวหนึ่ง ซึ่งมีกำเนิด ที่ความขัดแย้ง ระหว่างภาคเหนือ กับภาคใต้เช่นกัน นั่นคือ ข่าวการลงนาม ยุติสงครามกลางเมือง ในประเทศซูดาน ระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับฝ่ายขบถ ซึ่งต้องการแบ่งแยกดินแดน ทางภาคใต้ของประเทศนั้น ออกเป็นเอกราช

ผมติดตามความเป็นไปในประเทศซูดานมานาน เพราะซูดาน เป็นประเทศหนึ่ง ซึ่งคิดว่า จะสามารถต้านความเชี่ยว ของกระแสโลกได้ โดยการไม่ยอมจ่ายเงินชำระหนี้ ที่มีต่อกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ชาวซูดานได้บทเรียนอันแพงลิ่วเมื่อประเทศถูกคว่ำบาตรจากสถาบันการเงินของมหาอำนาจผู้คุมกระแสโลก การคว่ำบาตร ซึ่งทำให้ซูดาน ไม่สามารถค้าขายกับต่างประเทศ ได้อย่างสะดวก และสงครามกลางเมือง เป็นสาเหตุใหญ่ ที่ก่อให้เกิดความอดอยากทั่วไป ในประเทศนั้น

ย้อนไปเมื่อหลายปีก่อน นักถ่ายภาพข่าวชาวออสเตรเลียคนหนึ่ง จับภาพความอดอยาก อันแสนโหดร้ายนั้นได้อย่างแจ้งชัด ภาพนั้น ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ และแพร่กระจายไปทั่วโลก รวมทั้งบนหน้าหนังสือพิมพ์บางฉบับในเมืองไทยด้วย ผมยังจำภาพนั้นติดตามาจนทุกวันนี้ เป็นภาพของเด็กผอมโซคนหนึ่งซึ่งอายุคงราว 3-4 ขวบ ฟุบหน้าอยู่ในท่ากึ่งโก้งโค้งลงบนพื้นดินโล่งๆ ที่ไหนสักแห่ง ความหิวโหยคงทำให้แกหมดแรง ไม่สามารถพยุงร่างกายเดินต่อไปได้อีก

แต่แกไม่ได้ฟุบอยู่เพียงผู้เดียว หากมีแร้งตัวหนึ่งซึ่งคงคาดว่าอีกไม่ช้าจะได้กินอาหารอันโอชะลงมาจับอยู่ใกล้ๆ ด้วย เกิดอะไรกับเด็กคนนั้นในกาลต่อไปไม่เป็นที่ปรากฏ แต่ต่อมามีข่าวว่าการถ่ายภาพทำนองนั้น สร้างความรันทดหดหู่ใจให้กับช่างภาพจนเขาทนไม่ไหว จึงลาโลกไปด้วยน้ำมือของตัวเอง

ซูดานอยู่ค่อนไปทางตะวันออกของทวีปแอฟริกา มีเนื้อที่มากที่สุดในทวีปนั้น หรือประมาณ 5 เท่าของเมืองไทย แต่มีประชากรราวครึ่งหนึ่งของเราเท่านั้น ประชากรทางตอนเหนือเป็นชนเชื้อชาติอาหรับ และนับถือศาสนาอิสลามเป็นส่วนใหญ่ ส่วนประชากรทางตอนใต้เป็นชนชาติผิวดำของแอฟริกา ซึ่งนับถือศาสนาคริสต์ส่วนหนึ่งและนับถือภูติผีปิศาจอีกส่วนหนึ่ง

กลุ่มเชื้อชาติอาหรับเป็นผู้คุมรัฐบาลและต้องการใช้หลักศาสนาอิสลามเป็นกฎหมายปกครองประเทศ แต่ฝ่ายแอฟริกันมักไม่ยอม นำไปสู่ความขัดแย้ง และเป็นหนึ่งในสาเหตุของสงครามกลางเมืองซึ่งเริ่มเมื่อปี 2526 และคร่าชีวิตชาวซูดานไปประมาณ 2 ล้านคน

ภูมิประเทศทางตอนเหนือเป็นทะเลทราย ส่วนทางตอนใต้เป็นป่า สาขาทั้ง 2 ของแม่น้ำไนล์ไหลมาบรรจบกันที่นครคาร์ทูม เมืองหลวงของซูดาน ก่อนที่จะไหลผ่านอียิปต์ไปลงทะเลเมดิเตอร์เรเนียน น้ำและภูมิอากาศอันหลากหลาย ทำให้ซูดานทำการเกษตรได้ดี และมีประวัติยาวนานในการผลิตฝ้าย ยางสีเสียดแอฟริกา และเมล็ดงาชั้นเยี่ยม นอกจากนั้นซูดานยังมีทุ่งเลี้ยงสัตว์กว้างใหญ่ไพศาลและน้ำมันปิโตรเลียม

น้ำมันเริ่มเป็นสินค้าออกสำคัญของประเทศเมื่อราว 5 ปีที่ผ่านมา แต่ในช่วงเวลาเพียงสั้นๆ น้ำมันได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งหนึ่งว่า มันเป็นทั้งพรสวรรค์และคำสาป

ทางด้านการเป็นพรสวรรค์นั้นมองเห็นได้ไม่ยาก เพราะน้ำมันให้พลังงานต่อกิจการสารพัด และทำรายได้ ในรูปของเงินตราต่างประเทศ ให้แก่รัฐบาลทันทีเมื่อเริ่มเป็นสินค้าออก นอกจากนั้นธุรกิจเกี่ยวกับการผลิตน้ำมัน ยังจ้างคนงานจำนวนหนึ่งอีกด้วย

ส่วนคำสาปเห็นได้ยากกว่าและออกมาในหลายรูปแบบ เนื่องจากพื้นที่ซึ่งมีน้ำมันอยู่ค่อนไปทางตอนใต้ของประเทศ การสู้รบระหว่างรัฐบาลและฝ่ายต้องการแยกแผ่นดินมีจุดหมายหนึ่งเพื่อครองพื้นที่ส่วนนั้นพร้อมกับน้ำมันซึ่งอยู่ใต้ดิน เมื่อรัฐบาลเข้าควบคุมพื้นที่นั้นได้และขายน้ำมันเป็นเงินตราต่างประเทศจำนวนมาก แทนที่จะใช้เงินนั้นเพื่อการพัฒนา กลับนำไปใช้ซื้ออาวุธเพื่อปราบขบถและกดขี่ขมเหงชนเผ่าอื่นเพิ่มขึ้นอีก

ข่าวที่ออกมามักอ้างว่า สงครามกลางเมืองเป็นเรื่องของความขัดแย้งทางศาสนา เรื่องนี้มีมูลความจริงอยู่บ้าง เพราะรัฐบาลต้องการใช้หลักศาสนาอิสลาม เป็นกฎหมายของประเทศ และได้รับการสนับสนุน จากกลุ่มมุสลิมแนวตกขอบเช่น โอซามา บิน ลาเดน หัวหน้าองค์การอัลกออีดะห์ ซึ่งอาศัยอยู่ในซูดานระหว่างปี 2534-2539

แต่นั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งของปัญหา ลึกลงไปได้แก่ความแตกแยกในสังคม ซึ่งมีมาตั้งแต่ซูดานได้เอกราชจากอังกฤษ และอียิปต์ เมื่อปี 2499 พวกเชื้อชาติอาหรับบริหารประเทศ มาตั้งแต่เป็นเอกราช แต่ก็ช่วงชิงอำนาจกันเองมาตลอด เมื่อได้อำนาจก็ฉ้อฉล มุ่งสร้างความร่ำรวยให้แก่เฉพาะพรรคพวกของตนเท่านั้น และกดขี่ข่มเหงพวกเชื้อชาติแอฟริกัน การกดขี่ข่มเหงนั้นรวมถึงการไล่จับพวกแอฟริกันไปทำทาสด้วย ส่วนพวกแอฟริกันเองก็แตกแยกกันเป็นหลายกลุ่ม เพราะพวกเขามีหลายเผ่าพันธุ์และพูดภาษาต่างกันถึงกว่าร้อยภาษา

ความแตกแยกในสังคม การกดขี่ของพวกที่มีอำนาจ ความฉ้อฉลและความหลงผิด คิดว่าตนจะต้านกระแสโลกได้ ทำให้เกิดความยากจนอย่างแพร่หลาย ทั้งที่ซูดานมีฐานทางเศรษฐกิจค่อนข้างแข็งแกร่งเมื่อได้เอกราช

ฉะนั้นปัญหาของซูดานไม่น่าจะยุติง่ายนักแม้ข้อตกลงระหว่างรัฐบาลกับฝ่ายขบถจะแบ่งปันทรัพยากร และอำนาจกันอย่างชัดเจน และเปิดโอกาสให้ฝ่ายใต้สำรวจประชามติว่า จะร่วมอยู่กับฝ่ายเหนือ หรือแยกตัวเป็นเอกราชในปี 2553 ทั้งนี้เพราะทั้งฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้ยังแตกแยกกันภายในเหมือนเดิม นอกจากนั้นระบบสังคมและการเมืองของเขาไม่มีหลักประกันว่าผู้มีอำนาจจะไม่ฉ้อฉลเพื่อประโยชน์ของพวกตนเท่านั้น ความไม่เป็นธรรมในสังคมประกอบกับความยากจนจะมีต่อไป และเป็นชนวนให้เกิดความแตกแยกรุนแรงขึ้นอีก

ณ วันนี้มีข่าวสะพัดออกมาทุกวันแล้วว่า รัฐบาลได้หันไปปราบปรามผู้ที่อยู่ทางฝั่งตะวันตกของประเทศอย่างโหดร้าย เพราะพวกเขาต่อต้านข้อตกลงกับฝ่ายใต้ซึ่งไม่แบ่งผลประโยชน์ให้พวกเขาด้วย การปราบปรามนั้นแพร่หลายจนกำลังกลายเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ในภาวะเช่นนี้โอกาสที่พื้นที่แถบนั้นจะสงบและพัฒนาให้ก้าวไปอย่างมั่นคงมีน้อยมาก

เรื่องของซูดานไม่ต่างกับเรื่องของไนจีเรีย ซึ่งปรากฏในคอลัมน์นี้เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมที่ผ่านมามากนัก สาเหตุของความขัดแย้งมักสลับซับซ้อนเกินกว่าจะเป็นเรื่องของศาสนาหรืออะไรเพียงอย่างเดียว ความไม่เป็นธรรมในการกระจายทรัพยากรและรายได้ประชาชาติ และการใช้อำนาจรัฐอย่างไม่เหมาะสม ของเจ้าหน้าที่มีส่วนทำให้ความขัดแย้งรุนแรงยิ่งขึ้น

ฉะนั้นการแก้ปัญหาจะต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ไม่เพียงทุ่มเงินเข้าไปหรือใช้อำนาจ หากต้องใช้หลักวิทยาศาสตร์และปรัชญา หรือหลักอริยสัจ 4 หากนั่นเป็นหลักของการแก้ปัญหาทางภาคใต้ของไทย ปัญหาน่าจะค่อยๆ คลี่คลายลง หากไม่มีความเข้าใจ ไม่จริงใจและมุ่งใช้เงิน อำนาจและการสร้างภาพ ไม่มีวันที่ปัญหาจะหมดไป ไม่ว่าจะเป็นใน 1 เดือน 1 ปีหรืออีกกี่ชั่วคนก็ตาม

http://www.nidambe11.net/ekonomiz/2004q ... ne25p4.htm
(รัฐบาลมุสลิมห่วยนั่นเอง ประเทศชาติแตกแยก ใช้เงินในทางที่ผิด)
หมายเหตุ ไม่ได้บอกว่ามุสลิมห่วย
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ministry Of Men
โพสต์: 3972
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 18, 2007 3:09 pm

พฤหัสฯ. ต.ค. 01, 2009 8:48 am

นำพาไปสู่การเบียดเบียน ผู้ใส่กางเกง

เอเอฟพี - นักข่าวสาวสาวชาวซูดาน ถูกศาลตัดสินว่า มีความผิดข้อหาหยาบคายเพียงเพราะเธอสวมกางเกง ซึ่งกลายเป็นคดีความที่ทั่วโลกต่างให้ความสนใจ

ผู้เห็นเหตุการณ์ในวันนี้ (7) เผยว่า ศาลไม่ได้สั่งเฆี่ยน ลับนา อะห์เหม็ด อัล-ฮุสเซน แต่สั่งปรับเธอเป็นเงิน 500 ปอนด์ซูดาน (ประมาณ 7,000 บาท) จากข้อหาหยาบคาย เพราะเธอสวมกางเกง อย่างไรก็ตาม ฮุสเซน บอกว่า เธอจะไม่จ่ายค่าปรับ และท้าท้ายว่า เธออยากจะติดคุกแทนมากกว่า

ผู้เห็นเหตุการณ์ เข้าฟังการพิจารณาคดีของศาลซูดาน ซึ่งไม่อนุญาตให้สื่อเข้าร่วมรับฟัง กล่าวว่า ศาลตัดสินว่า หาก ฮุสเซน ไม่ยอมจ่ายค่าปรับก็จะต้องติดคุกนาน 1 เดือน

ทั้งนี้ ตามกฎหมายของซูดาน ฮุสเซน อาจถูกกเฆี่ยน 40 ครั้ง ในข้อหาหยาบคาย หลังจากเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เธอแ ละผู้หญิงอีก 12 คนสวมกางเกงไปร้านอาหารในกรุงคาทูม

การพิจารณาคดีนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความโกลาหล ผู้สนับสนุนราว 100 คน มาให้กำลังใจฮุสเซน และถือป้ายเรียกร้องและต่อต้านการเฆี่ยนตีด้านนอกของศาล ขณะที่ฮุสเซนเดินทางมาขึ้นศาลในชุดคลุมใบหน้าตามประเพณีซูดาน ผู้หญิงคนหนึ่งถูกตำรวจตี และอีก 40 คน ถูกจับตัว ก่อนที่ตำรวจจะสลายฝูงชนท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดโดยรอบ

ในเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา มีผู้หญิง 10 คน ถูกจับตัว รวมถึงชาวคริสต์ จากนั้นก็ถูกส่งตัวไปให้ตำรวจเฆี่ยนคนละ 10 ที ในข้อหาหยาบคาย เพราะใส่กางเกง ฮุสเซนจะได้รับโทษเช่นเดียวกัน แต่เธอกลับท้าท้ายให้จำคุกเธอแทน และเริ่มการณรงค์ให้ซูดานเปลี่ยนแปลงกฎหมายจนกลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลก

ด้านองค์การนิรโทษกรรมสากลที่มีฐานในกรุงลอนดอน อังกฤษ เมื่อวันศุกร์ ได้ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลซูดานถอนฟ้องฮุสเซน และเรียกร้องให้ซูดานยกเลิกกฎหมายที่อนุญาตให้ทางการเฆี่ยนผู้หญิงที่แต่งกายไม่เหมาะสมได้ถึง 40 ครั้ง ขณะที่ ฮุสเซน พยายามขอความคุ้มครองทางกฤหมายที่เธอสามารถทำได้ ในฐานะที่เธอเป็นสื่อจากสหประชาชาติประจำอยู่ในซูดาน เธอยังเป็นนักข่าวให้กับหนังสือพิมพ์ อัล ซาฮาฟา หนังสือพิมพ์ฝ่ายซ้ายด้วย

ก่อนหน้านี้ เธอกล่าวว่า เธอพร้อมเผชิญกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น และไม่กลัวกับคำพิพากษา

หากฉันถูกตัดสินให้เฆี่ยน หรืออะไรก็ตาม ฉันจะยื่นอุทธรณ์ ฉันจะรอดูมันต่อไปจนถึงที่สุด หากศาลรัฐธรรมนูญ ระบุว่า มันถูกต้องตามรัฐธรรมนูญแล้วละก็ ฉันก็พร้อมที่จะถูกเฆี่ยน ไม่ใช่แค่ 40 ครั้ง แต่ 40,000 ครั้งก็ยังได้ ฮุสเซน กล่าว

จบ -*-
นี่คือ กฏหมายมุสลิม และการปกครองแบบมุสลิมหรือป่าวครับ (ถามเฉยๆๆนะ)
sinner
โพสต์: 2246
ลงทะเบียนเมื่อ: อาทิตย์ มี.ค. 08, 2009 1:24 pm

ศุกร์ ต.ค. 02, 2009 2:22 pm

เคยดูที่ห้องคำสอนที่อัสสัมอ่ะ  ทำให้เห็นว่า เรามีชีวิตที่โชคดีกว่ามากมายนัก

บางทีเด็กเค้าเอาขวดน้ำใสๆ มาทำให้แบนๆ ร้อยเชือกใส่เป็นรองเท้า

แต่พวกเราเองกลับมีรองเท้าหลายๆ คู่ ก็ยังไม่รู้สึกพออยู่ดี

การที่เราดูรูปเหล่านี้แล้วกลับมาพิจารณาดูความทุกข์ที่เรามี

บางทีเราจะเห็นว่าความทุกข์ของเราจิ๊ดเดียวเอง

คนมากมายในโลก ยังมีความทุกข์มากกว่านี้เยอะ

ก็ทำให้เกิดกำลังใจมากมาย ว่าเราไม่ได้เป็นคนที่ทุกข์ที่สุดในโลกค่ะ ::030::
ตอบกลับโพส