เล่าเรื่องหลังกลับจาก บ.ดินขาว แม่แจ่ม 15-18 พ.ย. 2012
เช้าวันพฤหัสผมนั่งรถตู้ของทางรพ.ไปกับท่านอธิการิณี (เซอร์อาเดลา) และหน.ฝ่ายบริการทั่วไปของรพ.ไปสนามบินดอนเมืองเพื่อขึ้นเครื่องบินของ Air Asia ที่คุณเลขาแพทย์ได้จองไว้ การเดินทางมีขลุกขลักบ้างเล็กน้อย ราว 10 โมงเช้าเราก็มาถึงสนามบินเชียงใหม่ เซอร์มารีอักแนสท่านอธิการิณีของรร.เซนต์โยเซฟแม่แจ่มมารับด้วยตนเอง พร้อมกับโชเฟอร์เจ้าของพื้นที่ เราได้รับแจ้งว่าคณะของเราที่ประกอบด้วยจนท.รพ.เซนต์เมรี่ โคราช และนศ.พยาบาลปี 4 จากวิทยาลัยเซนต์หลุยส์อีก 8 คนที่มากับรถมินิบัสได้ขนถ่ายของบริจาคและสัมภาระลงรถกระบะอีกคันและได้เดินทางล่วงหน้าไปก่อนแล้ว
คุณแม่อธิการได้ให้เราแวะสะสมเสบียงจากในเวียงเจียงใหม่ก่อน ซื้อของกินไปเต็มคันรถ จากนั้นไปแวะกินมื้อกลางวันที่ อ.จอมทอง จากนั้นก็เดินทางข้ามผ่านดอยอินทนนท์ไปยัง อ.แม่แจ่ม
คุณแม่อธิการได้ให้เราแวะสะสมเสบียงจากในเวียงเจียงใหม่ก่อน ซื้อของกินไปเต็มคันรถ จากนั้นไปแวะกินมื้อกลางวันที่ อ.จอมทอง จากนั้นก็เดินทางข้ามผ่านดอยอินทนนท์ไปยัง อ.แม่แจ่ม
อาการปวดศีรษะไมเกรนเริ่มรบกวนผมหลังจากเดินทางออกจากเวียงเจียงใหม่ เหตุเพราะตื่นมาขึ้นรถแต่เช้ามืด แล้วมาเจออากาศร้อนกลางตลาด หลังมื้อกลางวันที่ อ.จอมทอง เราเดินทางข้ามดอยอินทนนท์ มายัง อ.แม่แจ่ม แล้วขึ้นดอยอีกรอบเพื่อมุ่งไปยัง ต.ปางหินฝน หลังจากผ่านแนวป่าสนมาได้ไม่นานก็เข้าเขต ต.ปางหินฝน เริ่มพบเห็นดอกบัวตองประปรายตาม 2 ข้างทาง เราจอดแวะเก็บรูปและทักทายชาวปกากะญอที่กำลังเก็บมะเขือเทศ ในที่สุดก็มาถึง รร.เซนต์โยเซฟแม่แจ่ม อากาศเย็นสบายบนดอยทำให้อาการไมเกรนหายไป ตอนนี้เราอยู่บนความสูงประมาณ 1,350 เมตรจากระดับน้ำทะเล บนนี้แทบไม่มีหน้าร้อน
จากด้านหน้ารร.รถของเราต้องขับวนไปตามความลาดชันของสภาพพื้นที่ไปถึงบริเวณที่ตั้งของบ้านพักมาเซอร์ หอประชุม และห้องพักของแขก เห็นระดับความสูงเพิ่มขึ้นมาอีกราวๆ 35 ม. ถ้าเดินก็เหนื่อยนิดเลยหละครับแต่อากาศเย็นทำให้ไม่เหนื่อยมากแต่ถ้ามีปัญหาข้อเข่านี่เอาเรื่องอยู่
น้องๆนร.โบกมือทักทายคณะของเราด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสบางคนก็ยกมือไหว้ ท่าทางพวกเค้าจะดีใจมากที่มีแขกมาเยือน
ข้อมูลปัจจุบันรร.แห่งนี้มีนร.ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 2 ถึง ป.6 รวมๆกันก็ประมาณ 360 คน เกือบทั้งหมดเป็นชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง (ปกากะญอ) มีส่วนน้อยเป็นชาวม้ง คุณครูผมไม่แน่ใจน่าจะเป็นชาวปกากะญอทั้งหมด มีนร.ประมาณ 50 คนที่ไม่ได้เป็นนร.ประจำ เพราะเป็นคนหมู่บ้านดินขาวนี่เอง ที่เหลือกว่า 300 คนเป็นเด็กประจำที่มาจากหมู่บ้านอื่นๆ ทั้งหมดนับถือคาทอลิกครับ
น้องๆนร.โบกมือทักทายคณะของเราด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสบางคนก็ยกมือไหว้ ท่าทางพวกเค้าจะดีใจมากที่มีแขกมาเยือน
ข้อมูลปัจจุบันรร.แห่งนี้มีนร.ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาล 2 ถึง ป.6 รวมๆกันก็ประมาณ 360 คน เกือบทั้งหมดเป็นชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง (ปกากะญอ) มีส่วนน้อยเป็นชาวม้ง คุณครูผมไม่แน่ใจน่าจะเป็นชาวปกากะญอทั้งหมด มีนร.ประมาณ 50 คนที่ไม่ได้เป็นนร.ประจำ เพราะเป็นคนหมู่บ้านดินขาวนี่เอง ที่เหลือกว่า 300 คนเป็นเด็กประจำที่มาจากหมู่บ้านอื่นๆ ทั้งหมดนับถือคาทอลิกครับ
ช่วงค่ำของวันพฤหัสที่ 15 พ.ย. มีการทักทายแนะนำทีมที่เดินทางมาที่นี่กับน้องๆนร. เริ่มจากท่านอธิการิณีของรพ.เซนต์เมรี่ก่อน และปิดท้ายเป็นกิจกรรมสันทนาการโดยกลุ่มนศ.พยาบาลปี 4 ทั้ง 8 คนที่เดินทางมากับเรา เด็กๆดูจะสนุกสนานมากเสียงดังลั่นหอประชุม
ผมได้พูดคุยทำความรู้จักกับอาสาสมัครชาวต่างชาติที่มาเป็นครูที่นี่ชั่วคราว หลักๆคงจะสอนภาษาอังกฤษ (แต่ไม่มีสักคนที่พูดอังกฤษเป็นภาษาแม่) หลักๆเป็นอาสาสมัครจากองค์กรณ์ Fidesco International ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่ปารีส ฝรั่งเศส สมาชิกอาสาสมัครที่ผมได้คุยด้วยเป็นสองสาวจากเยอรมนี และโปแลนด์ หลักๆพวกนี้จะมาอยู่วาระละประมาณ 2 ปี ต้องออกค่าใช้จ่ายเองอีกตะหาก แต่กินอยู่ฟรี ไม่รักจริงไม่มีใครมาทำแน่ๆ
วันต่อมาได้เจออีกกลุ่มเป็นชาวฝรั่งเศสสังกัดคณะมิสซังต่างปท.แห่งปารีส (M.E.P.) กลุ่มนี้จะมาอยู่คนละ 5 เดือน
เดี๋ยวจะเล่าต่อเรื่องตรวจคนไข้ครับ
ผมได้พูดคุยทำความรู้จักกับอาสาสมัครชาวต่างชาติที่มาเป็นครูที่นี่ชั่วคราว หลักๆคงจะสอนภาษาอังกฤษ (แต่ไม่มีสักคนที่พูดอังกฤษเป็นภาษาแม่) หลักๆเป็นอาสาสมัครจากองค์กรณ์ Fidesco International ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ที่ปารีส ฝรั่งเศส สมาชิกอาสาสมัครที่ผมได้คุยด้วยเป็นสองสาวจากเยอรมนี และโปแลนด์ หลักๆพวกนี้จะมาอยู่วาระละประมาณ 2 ปี ต้องออกค่าใช้จ่ายเองอีกตะหาก แต่กินอยู่ฟรี ไม่รักจริงไม่มีใครมาทำแน่ๆ
วันต่อมาได้เจออีกกลุ่มเป็นชาวฝรั่งเศสสังกัดคณะมิสซังต่างปท.แห่งปารีส (M.E.P.) กลุ่มนี้จะมาอยู่คนละ 5 เดือน
เดี๋ยวจะเล่าต่อเรื่องตรวจคนไข้ครับ
เช้าวันที่ 16 พ.ย. เป็นวันศุกร์ วันนี้ตื่นแต่เช้ามืดอีกแล้ว เพราะนัดกับมาเซอร์อธิการที่ดูแลรร.ที่นี่ว่าจะไปชมพระอาทิตย์ขึ้นจากยอดดอยที่อยู่ใกล้ๆพร้อมพวกน้องๆนศ. ยอดดอยที่ว่าห่างจากรร.ไม่ไกลนักน่าจะสัก 3 กม.แต่เส้นทางค่อนข้างวิบาก ปีนี้หนาวช้าอย่างที่ทราบ แต่บนยอดดอยตอนเช้ามืดมันก็หนาวหน่อยๆโดยธรรมชาติอยู่แล้วประกอบกับลมแรงทำให้ป่วยได้ง่ายๆเหมือนกัน
หลัง 8 น. ก็เริ่มกิจกรรมตรวจสุขภาพกัน นร.ตั้งแต่ชั้น อนุบาล 2 ไปถึง ป.6 รวมๆกันราว 360 คนทยอยกันมาตามชั้นเรียน และนั่งเป็นแถวอย่างเรียบร้อยให้พวกน้องนศ.พยาบาลตรวจ หากพบปัญหาสุขภาพหรือการเจ็บป่วยก็จะส่งต่อให้ผม (หมอคนเดียวในคณะ) อีกที ตอนแรกเราก็คิดว่าสบายแล้วอย่างนี้นั่งคุมเชิงพอเป็นพิธีแค่นั้นแหละคงไม่มีอะไรมาก ที่ไหนได้มีเด็กป่วยที่น้องนศ.ส่งมาให้ผมตรวจร่วมร้อยคน กว่าจะตรวจเสร็จก็ล่อไป 5 ชม.กว่า แถมเจอเด็กไอใส่ไปหลายคน (วันที่เดินทางกลับผมก็ป่วยไปด้วย แต่ท่านอธิการิณีรพ.ป่วยก่อนผมอีก) อากาศบนนี้เย็นทั้งปีและมีลมแรง ฉะนั้นแม้จะไม่เข้าหน้าหนาวแต่มันก็เย็นพอที่เด็กๆจะต้องสวมเสื้ออย่างน้อย 2 ชั้นมาเรียน เสื้อชุดปกากะญอที่น้องๆใส่มาเรียนผ้ามันหนาใช้ได้แต่มันเปิดตรงคอโล่ง ทำให้รับลมเย็นเต็มๆ
เนื่องจากตื่นแต่มืดมา 2 วันติดอันผิดวิสัยคนขี้เกียจตื่นเช้าแบบเราตอนบ่ายเลยหลบไปงีบซะหน่อย สักพักมาเซอร์อธิการรร.ก็มาตามผม บอกว่าช่วยไปฝังเข็มให้คุณพ่อเจ้าวัดหน่อย (ที่นัดกันไว้เมื่อวันแรกที่มาถึง คุณพ่อบอกว่าท่านมีปัญหากระดูกทับเส้นประสาทที่หลัง)
หลัง 8 น. ก็เริ่มกิจกรรมตรวจสุขภาพกัน นร.ตั้งแต่ชั้น อนุบาล 2 ไปถึง ป.6 รวมๆกันราว 360 คนทยอยกันมาตามชั้นเรียน และนั่งเป็นแถวอย่างเรียบร้อยให้พวกน้องนศ.พยาบาลตรวจ หากพบปัญหาสุขภาพหรือการเจ็บป่วยก็จะส่งต่อให้ผม (หมอคนเดียวในคณะ) อีกที ตอนแรกเราก็คิดว่าสบายแล้วอย่างนี้นั่งคุมเชิงพอเป็นพิธีแค่นั้นแหละคงไม่มีอะไรมาก ที่ไหนได้มีเด็กป่วยที่น้องนศ.ส่งมาให้ผมตรวจร่วมร้อยคน กว่าจะตรวจเสร็จก็ล่อไป 5 ชม.กว่า แถมเจอเด็กไอใส่ไปหลายคน (วันที่เดินทางกลับผมก็ป่วยไปด้วย แต่ท่านอธิการิณีรพ.ป่วยก่อนผมอีก) อากาศบนนี้เย็นทั้งปีและมีลมแรง ฉะนั้นแม้จะไม่เข้าหน้าหนาวแต่มันก็เย็นพอที่เด็กๆจะต้องสวมเสื้ออย่างน้อย 2 ชั้นมาเรียน เสื้อชุดปกากะญอที่น้องๆใส่มาเรียนผ้ามันหนาใช้ได้แต่มันเปิดตรงคอโล่ง ทำให้รับลมเย็นเต็มๆ
เนื่องจากตื่นแต่มืดมา 2 วันติดอันผิดวิสัยคนขี้เกียจตื่นเช้าแบบเราตอนบ่ายเลยหลบไปงีบซะหน่อย สักพักมาเซอร์อธิการรร.ก็มาตามผม บอกว่าช่วยไปฝังเข็มให้คุณพ่อเจ้าวัดหน่อย (ที่นัดกันไว้เมื่อวันแรกที่มาถึง คุณพ่อบอกว่าท่านมีปัญหากระดูกทับเส้นประสาทที่หลัง)
ระหว่างทำการฝังเข็มให้คุณพ่อเจ้าวัดผมก็ถือโอกาสพูดคุยกับคุณพ่อ ก็ทำให้ได้ทราบข้อมูลคร่าวๆของพื้นที่แถบนี้ อ.แม่แจ่ม มีประชากรไม่ถึง 6 หมื่นคน มีชาวคาทอลิกประมาณ 4 พันคน ส่วนมากเป็นชาวปกากะญอ (กะเหรี่ยง) มีชาวเขาเผ่าอื่นๆบ้างแต่น้อย คริสตชนโปรเตสแตนท์ก็มีพอสมควรจำนวนใกล้ๆกัน
มิสซังเชียงใหม่มีจำนวนพี่น้องคาทอลิกมากกว่ามิสซังโคราชที่ผมอยู่เกือบ 10 เท่า เกือบทั้งหมดเป็นชนเผ่าชาวเขา ที่เป็นคนไทยกลาง คนเหนือล้านนา หรือคนไทยเชื้อจีน นี่น้อยมากๆ อาจจะแค่ 3% เท่านั้นเองครับ
ปัญหาสำคัญเรื่องหนึ่งคือเรื่องภาษา คนรุ่นผู้ใหญ่วัยกลางคนขึ้นไปหรือแม้แต่หนุ่มสาวบางคนพูดภาษาไทยไม่ได้ ภาษาเหนือก็ไม่ได้ เวลาไปหาหมอที่รพ.หลายๆครั้งคุณพ่อเองก็พาไปและต้องเป็นล่ามให้ ตัวคพ.เองเป็นชาวปกากะญอเช่นกันแต่เป็นคนอำเภออื่น
ถ้ามาเป็นแพทย์ประจำรพ.ที่แม่แจ่มนี่ต่อให้คนป่วยไม่เยอะ แต่แค่การสื่อสารกับคนป่วยและญาติอย่างเดียวก็เหนื่อยแล้ว
วัดคาทอลิกประจำบ้านดินขาวนี่ชื่อวัดแม่พระนิจจานุเคราะห์ เป็นอาคารโบสถ์แบบโกธิค ปูพื้นด้วยหินอ่อน เวลาไปฟังมิสซาจะต้องนั่งกับพื้นเย็นๆแต่มีพรมผืนเล็กๆให้รองนั่ง ตัววัดอยู่สูงจากรร.เซนตโยเซฟประมาณ 20 เมตร (ผมใช้นาฬิกา Casio Protrek คำนวณเอา) เวลาเดินขึ้นนี่เมื่อยน่องเอาการเลย ถ้าคนไม่ค่อยได้ออกกำลังมานี่เสร็จ ถ้าคนที่มีปัญหาข้อเข่านี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ได้พลีกรรมกันก่อนถึงหน้าวัดเลยแหละครับ
มิสซังเชียงใหม่มีจำนวนพี่น้องคาทอลิกมากกว่ามิสซังโคราชที่ผมอยู่เกือบ 10 เท่า เกือบทั้งหมดเป็นชนเผ่าชาวเขา ที่เป็นคนไทยกลาง คนเหนือล้านนา หรือคนไทยเชื้อจีน นี่น้อยมากๆ อาจจะแค่ 3% เท่านั้นเองครับ
ปัญหาสำคัญเรื่องหนึ่งคือเรื่องภาษา คนรุ่นผู้ใหญ่วัยกลางคนขึ้นไปหรือแม้แต่หนุ่มสาวบางคนพูดภาษาไทยไม่ได้ ภาษาเหนือก็ไม่ได้ เวลาไปหาหมอที่รพ.หลายๆครั้งคุณพ่อเองก็พาไปและต้องเป็นล่ามให้ ตัวคพ.เองเป็นชาวปกากะญอเช่นกันแต่เป็นคนอำเภออื่น
ถ้ามาเป็นแพทย์ประจำรพ.ที่แม่แจ่มนี่ต่อให้คนป่วยไม่เยอะ แต่แค่การสื่อสารกับคนป่วยและญาติอย่างเดียวก็เหนื่อยแล้ว
วัดคาทอลิกประจำบ้านดินขาวนี่ชื่อวัดแม่พระนิจจานุเคราะห์ เป็นอาคารโบสถ์แบบโกธิค ปูพื้นด้วยหินอ่อน เวลาไปฟังมิสซาจะต้องนั่งกับพื้นเย็นๆแต่มีพรมผืนเล็กๆให้รองนั่ง ตัววัดอยู่สูงจากรร.เซนตโยเซฟประมาณ 20 เมตร (ผมใช้นาฬิกา Casio Protrek คำนวณเอา) เวลาเดินขึ้นนี่เมื่อยน่องเอาการเลย ถ้าคนไม่ค่อยได้ออกกำลังมานี่เสร็จ ถ้าคนที่มีปัญหาข้อเข่านี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ได้พลีกรรมกันก่อนถึงหน้าวัดเลยแหละครับ
น้องๆนร.รร.เซนต์โยเซฟแม่แจ่มนี่เค้าจะต้องเดินจากรร.ขึ้นไปยังวัดวันละ 2 รอบ ครั้งหนึ่งเพื่อสวด และอีกครั้งเพื่อไปฟังมิสซาประจำวัน ซึ่งไม่แน่ว่าคุณพ่อของเราจะทำมิสซาเย็นหรือเช้า ถ้ามิสซาเช้าก็สวดเย็น
วันศุกร์ที่ 16 พ.ย.ตอนเย็นผมก็ได้ไปร่วมมิสซากับเค้าด้วย น้องๆสัตบุรุษร้องเพลงกันเพราะมากแต่ผมฟังไม่ออกเลยเพราะเป็นภาษากะเหรี่ยงล้วนๆ จริงๆก็คือมิสซาภาษาปกากะญอนั่นแหละครับ เพลงที่ใช้ก็เป็นทำนองเพลงวัดคาทอลิกไทยๆเรานี่แหละแต่ภาษาไม่ใช่ คุณพ่อบอกว่าสัตบุรุษทั้งหมดที่นี่เป็นชาวปกากะญอ ที่เป็นชาวม้งมีน้อย มาเซอร์ที่ประจำที่นี่ก็อยู่นานแล้วพอฟังภาษาออก แต่จะมีการทำมิสซาภาษาไทยเป็นบางวันเพื่อฝึกภาษาให้กับเด็กๆ (นับเป็นรร.คาทอลิก 2 ภาษาอีกแบบหนึ่งครับ) บางมิสซาคพ.จะแปลเป็นภาษาอังกฤษสั้นๆให้พวกอาสาสมัครฝรั่งฟังด้วยครับ
แม้ปีนี้จะหนาวช้า แต่การอาบน้ำบนดอยสูงตอนกลางคืน โดยไม่มีน้ำอุ่นก็อาจจะเป็นปัญหากับบางท่านได้ มาที่นี่ควรอาบน้ำกลางวันจะดีกว่าครับ ถ้าคุณเลือกได้
ส่วนพวกนร.เค้าอาบน้ำรวมๆกัน ดูไปก็ความรู้สึกคล้ายๆในค่ายทหาร สมัยผมเรียนรด.ไปเข้าค่ายที่เขาชนไก่ก็แบบนี้
วันศุกร์ที่ 16 พ.ย.ตอนเย็นผมก็ได้ไปร่วมมิสซากับเค้าด้วย น้องๆสัตบุรุษร้องเพลงกันเพราะมากแต่ผมฟังไม่ออกเลยเพราะเป็นภาษากะเหรี่ยงล้วนๆ จริงๆก็คือมิสซาภาษาปกากะญอนั่นแหละครับ เพลงที่ใช้ก็เป็นทำนองเพลงวัดคาทอลิกไทยๆเรานี่แหละแต่ภาษาไม่ใช่ คุณพ่อบอกว่าสัตบุรุษทั้งหมดที่นี่เป็นชาวปกากะญอ ที่เป็นชาวม้งมีน้อย มาเซอร์ที่ประจำที่นี่ก็อยู่นานแล้วพอฟังภาษาออก แต่จะมีการทำมิสซาภาษาไทยเป็นบางวันเพื่อฝึกภาษาให้กับเด็กๆ (นับเป็นรร.คาทอลิก 2 ภาษาอีกแบบหนึ่งครับ) บางมิสซาคพ.จะแปลเป็นภาษาอังกฤษสั้นๆให้พวกอาสาสมัครฝรั่งฟังด้วยครับ
แม้ปีนี้จะหนาวช้า แต่การอาบน้ำบนดอยสูงตอนกลางคืน โดยไม่มีน้ำอุ่นก็อาจจะเป็นปัญหากับบางท่านได้ มาที่นี่ควรอาบน้ำกลางวันจะดีกว่าครับ ถ้าคุณเลือกได้
ส่วนพวกนร.เค้าอาบน้ำรวมๆกัน ดูไปก็ความรู้สึกคล้ายๆในค่ายทหาร สมัยผมเรียนรด.ไปเข้าค่ายที่เขาชนไก่ก็แบบนี้
ระบบไฟฟ้าที่ใช้ในรร.กับวัดที่นี่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์โดยมีแผงเซลล์สุริยะอยู่หน้ารร.ให้เห็นเลยครับ หมู่บ้านอื่นๆในตำบลเดียวกันเท่าที่นั่งรถผ่านผมก็เห็นเค้าใช้แบบนี้ ฟังดูทันสมัยประหยัดพลังงานแต่ในความเป็นจริงมันไม่พอใช้หรอกครับ ถ้ามีกิจกรรมอะไรหน่อยนี่ค่ำๆไฟก็ดับหมดแล้ว ถ้าไม่มีอะไรพิเศษก็ใช้ได้ถึงกลางดึก ที่บ้านพักมาเซอร์มีตู้เย็นกับเครื่องทำน้ำอุ่นแต่ไม่ได้ใช้เพราะไฟไม่พอครับ
ระหว่างทางที่นั่งรถขึ้นดอยมาผมเห็นมีการสร้างเสาไฟฟ้าตามถนน มาเซอร์บอกว่ากลางปี 2013 หรือไม่ก็ปลายปีจะได้ใช้ แต่เรามีปัญหาว่าไม่รู้จะเอาตังค์ที่ไหนมาจ่ายค่าไฟ
ระหว่างทางที่นั่งรถขึ้นดอยมาผมเห็นมีการสร้างเสาไฟฟ้าตามถนน มาเซอร์บอกว่ากลางปี 2013 หรือไม่ก็ปลายปีจะได้ใช้ แต่เรามีปัญหาว่าไม่รู้จะเอาตังค์ที่ไหนมาจ่ายค่าไฟ
ผมเองก็งงๆว่ารร.กับวัดที่นี่สร้างอย่างดีขนาดนี้ทำไมแค่ค่าไฟฟ้าจะจ่ายไม่ไหวเชียวหรือ ก็ได้รับคำตอบจากมาเซอร์ว่าเราได้งบก้อนใหญ่มาสร้างอย่างเดียว แต่การจะอยู่ต่อไปเราต้องหาสตางค์เองครับ และนร.ที่นี่ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นนร.ประจำเสียด้วยเรียนฟรีและอยู่ฟรีครับ
มาเซอร์บอกว่าเรามีที่ดินรอบๆอยู่บ้างคงจะต้องให้พวกนร.ปลูกผักขาย ผมก็ว่าปลูกผักมันจะได้สักกี่ตังค์เชียว ต่อให้พืชเมืองหนาวราคาแพงก็เหอะ แต่ถ้าปลูกกาแฟอาราบิก้าผมอาจจะขอความช่วยเหลือด้านคำปรึกษาจากคุณลุงปรารภแห่งชมรมอาราบิก้าไทย ลุงแกอยู่ที่ อ.สันป่าตองไม่ไกลจากที่นี่นัก แต่ถ้าเปิดที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ก็น่าจะเป็นอีกทางเลือก ลองคิดดูว่าที่นี่ตั้งอยู่บนดอยสูงอากาศเย็นสบายทั้งปี (แต่เที่ยวหน้าฝนคงลำบากเรื่องการเดินทาง ยกเว้นพวกชอบ off road) เดือนนี้มีดอกบัวตองให้ดูถึงข้างวัดและหน้ารร.ไม่ต้องไปไกลถึง จ.แม่ฮ่องสอน มีจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตก ที่สวยสูสีกับภูดอยดังๆอีกหลายที่ ลองคิดดูว่าถ้ามาเที่ยวที่แบบนี้ นอนรีสอร์ทสวยๆที่ อ.ปาย ก็คงหมดหลายอยู่ แต่งานนี้เรามางานบุญเลยได้เที่ยวฟรี
มาเซอร์บอกว่าเรามีที่ดินรอบๆอยู่บ้างคงจะต้องให้พวกนร.ปลูกผักขาย ผมก็ว่าปลูกผักมันจะได้สักกี่ตังค์เชียว ต่อให้พืชเมืองหนาวราคาแพงก็เหอะ แต่ถ้าปลูกกาแฟอาราบิก้าผมอาจจะขอความช่วยเหลือด้านคำปรึกษาจากคุณลุงปรารภแห่งชมรมอาราบิก้าไทย ลุงแกอยู่ที่ อ.สันป่าตองไม่ไกลจากที่นี่นัก แต่ถ้าเปิดที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ก็น่าจะเป็นอีกทางเลือก ลองคิดดูว่าที่นี่ตั้งอยู่บนดอยสูงอากาศเย็นสบายทั้งปี (แต่เที่ยวหน้าฝนคงลำบากเรื่องการเดินทาง ยกเว้นพวกชอบ off road) เดือนนี้มีดอกบัวตองให้ดูถึงข้างวัดและหน้ารร.ไม่ต้องไปไกลถึง จ.แม่ฮ่องสอน มีจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตก ที่สวยสูสีกับภูดอยดังๆอีกหลายที่ ลองคิดดูว่าถ้ามาเที่ยวที่แบบนี้ นอนรีสอร์ทสวยๆที่ อ.ปาย ก็คงหมดหลายอยู่ แต่งานนี้เรามางานบุญเลยได้เที่ยวฟรี
เย็นวันศุกร์หลังอาหารเย็นมีคุณครูทั้งมิสและมาสเตอร์ชาวปกากะญอที่ทำงานที่รร.แห่งนี้นำผลตรวจสุขภาพมาปรึกษาผม ปกติเวลาผมออกตรวจที่รพ.จะคุยกับผู้ป่วยหรือผู้รับบริการพร้อมญาติสนิทผู้ป่วยยินยอมให้เข้ามาฟังด้วยเท่านั้น แต่วันนี้กรณีพิเศษเข้ามานั่งล้อมวงรอบโต๊ะเลย พวกคุณครูพูดไทยชัดฟังไทยออกทุกคนเลยไม่มีปัญหาอะไรนัก บรรยากาศเป็นกันเอง ดูจากเอกสารผลตรวจเลือดที่เอามาให้ดูก็มาจาก รพ.ประจำอำเภอในละแวกนี้มีทั้งแม่สะเรียง จอมทอง สันป่าตอง แต่ไม่ยักมีรพ.แม่แจ่ม ทั้งที่อยู่ใกล้ที่สุด
พอผมให้คำปรึกษาเสร็จกำลังจะกลับไปพักก็ปรากฏว่ามีชาวบ้านละแวกใกล้เคียงเข้ามาหาเพื่อขอรับบริการตรวจโรค อุ้มเด็กเล็กๆมาก็มี ผมตรวจดูก็พบว่าส่วนใหญ่จะมีปัญหาปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ เนื่องจากการทำงานใช้แรงงานหนักเกินไป บางคนก็มีปัญหาหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนกดเส้นประสาททำให้ปวดหลังปวดสะโพกร้าวลงไปถึงเท้าเลย วันนี้ดึกแล้วผมเลยนัดให้มาหาผมพรุ่งนี้ตอนเย็นจะฝังเข็มรักษาให้
พอผมให้คำปรึกษาเสร็จกำลังจะกลับไปพักก็ปรากฏว่ามีชาวบ้านละแวกใกล้เคียงเข้ามาหาเพื่อขอรับบริการตรวจโรค อุ้มเด็กเล็กๆมาก็มี ผมตรวจดูก็พบว่าส่วนใหญ่จะมีปัญหาปวดหลัง ปวดกล้ามเนื้อ เนื่องจากการทำงานใช้แรงงานหนักเกินไป บางคนก็มีปัญหาหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนกดเส้นประสาททำให้ปวดหลังปวดสะโพกร้าวลงไปถึงเท้าเลย วันนี้ดึกแล้วผมเลยนัดให้มาหาผมพรุ่งนี้ตอนเย็นจะฝังเข็มรักษาให้
เช้าวันเสาร์ที่ 17 พ.ย. เช้านี้ตื่นแล้วขี้เกียจลุกเป็นที่สุดอากาศเย็นสบายโดยไม่ต้องใช้แอร์ ตื่นเช้ามืดติดกันมา 2 วันแล้วนี่ ปรากฏว่าแต่งตัวเสร็จเค้าจะออกเดินทางไปเยี่ยมชาวบ้านกันแล้ว เลยต้องกินมื้อเช้าอย่างเร็วที่สุด แล้วรีบมาขึ้นรถกระบะออกเดินทางไปยังหมู่บ้านบลอเดที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 30 กม.เศษๆ ใช้เส้นทางหลวงชนบทที่ผ่านหน้ารร.นี่แหละครับเดินทางต่อผ่านป่าสนลัดเลาะลดระดับความสูงลงมาเรื่อยๆจากนั้นก็ไต่ขึ้นมาอีกรอบใช้เวลาร่วมๆ 1 ชม.ก็มาถึง บ.บลอเด มีวัดคาทอลิกขนาดเล็กตั้งอยู่ (เป็นวัดที่เล็กที่สุดที่ผมเคยเห็นเลยครับ เล็กกว่าวัดบ้านนอกหลายๆวัดที่ผมเคยไป) ชื่อวัดนักบุญนิโคลาส ปรากฏว่าเราจะใช้วัดน้อยแห่งนี้แหละเป็นสถานที่ให้บริการตรวจรักษาชาวบ้านที่เจ็บป่วยกัน
ผมจำไม่ได้ว่าตรวจคนป่วยไปเท่าไหร่น่าจะประมาณสัก 20 คนเห็นจะได้ ปรากฏว่ามี 10 คนต้องการรักษาโดยการฝังเข็มด้วย ทีนี้ในวัดแห่งนี้ไม่มีเก้าอีกสักตัว เตียงไม่ต้องพูดถึง ผมเลยต้องให้เค้านั่งหรือนอนกับพื้นตามอัตภาพ ใช้เวลาเกือบ 2 ชม.ฝังเข็มไป 9 คน มีคนหนึ่งเกิดกลัวเข็มขึ้นมาเลยขอสละสิทธิ์ ตัวผมเองเมื่อยไปหมดเพราะต้องนั่งทำกับพื้นถ้ามีเตียงแบบที่รพ.ก็คงไม่เท่าไหร่
ผมจำไม่ได้ว่าตรวจคนป่วยไปเท่าไหร่น่าจะประมาณสัก 20 คนเห็นจะได้ ปรากฏว่ามี 10 คนต้องการรักษาโดยการฝังเข็มด้วย ทีนี้ในวัดแห่งนี้ไม่มีเก้าอีกสักตัว เตียงไม่ต้องพูดถึง ผมเลยต้องให้เค้านั่งหรือนอนกับพื้นตามอัตภาพ ใช้เวลาเกือบ 2 ชม.ฝังเข็มไป 9 คน มีคนหนึ่งเกิดกลัวเข็มขึ้นมาเลยขอสละสิทธิ์ ตัวผมเองเมื่อยไปหมดเพราะต้องนั่งทำกับพื้นถ้ามีเตียงแบบที่รพ.ก็คงไม่เท่าไหร่
...เป็นกิจกรรมที่ดีมากๆ อ่านแล้วเหมือนอยู่ร่วมในกิจกรรมนี้อ่านไปขอบคุณพระเจ้าไป
ทีมีคนน้ำใจดี และยังมีอีกมากๆเป็นต้นองค์กรทางศาสนา กลุ่มมิสชันนารี
คริสตชนที่มีน้ำใจดีที่ยังคิดถึงเพื่อนมนุษย์ ไปช่วยชาวเขาชาวดอย ซึ่งเป็นคนยากจน ซี่อๆ
และก็เป็นคริสตชน เหมือนพวกเรา ไปเป็นกำลังใจให้กับพวกเขา ในโลกนี้เต็มไปด้วย
ความรักของพระองค์ โดยผ่านทางท่านเหล่านี้ ขอพระอวยพรมากๆค่ะ
...รออ่านต่อค่ะ

ทีมีคนน้ำใจดี และยังมีอีกมากๆเป็นต้นองค์กรทางศาสนา กลุ่มมิสชันนารี
คริสตชนที่มีน้ำใจดีที่ยังคิดถึงเพื่อนมนุษย์ ไปช่วยชาวเขาชาวดอย ซึ่งเป็นคนยากจน ซี่อๆ
และก็เป็นคริสตชน เหมือนพวกเรา ไปเป็นกำลังใจให้กับพวกเขา ในโลกนี้เต็มไปด้วย
ความรักของพระองค์ โดยผ่านทางท่านเหล่านี้ ขอพระอวยพรมากๆค่ะ
...รออ่านต่อค่ะ

ขอขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ทรงส่งคุณsansreposและเพื่อนๆ
ไปช่วยเหลือเพื่อนๆมนุษย์ที่ขาดโอกาสหลายๆอย่าง
ไม่เหมือนคนที่อยู่ในชุมชนเมืองที่มีครบทุกอย่างครับ
ขอบคุณที่นำเรื่องราวประสบการณ์ที่เป็นตัวอย่างที่ดีมาให้ฟังกันครับ
เรื่องราวของคุณอาจจะจุดประกายให้หนุ่มสาวหลายๆคนไปทำงานด้านนี้เพิ่มขึ้นครับ
ไปช่วยเหลือเพื่อนๆมนุษย์ที่ขาดโอกาสหลายๆอย่าง
ไม่เหมือนคนที่อยู่ในชุมชนเมืองที่มีครบทุกอย่างครับ
ขอบคุณที่นำเรื่องราวประสบการณ์ที่เป็นตัวอย่างที่ดีมาให้ฟังกันครับ
เรื่องราวของคุณอาจจะจุดประกายให้หนุ่มสาวหลายๆคนไปทำงานด้านนี้เพิ่มขึ้นครับ
เย็นวันเสาร์มีกิจกรรมการแสดงของน้องๆนร.ที่นี่ และมีการกล่าวขอบคุณโดยตัวแทนนร. ผมไม่ได้มาร่วมงานแต่แรกเพราะติดคนไข้ฝังเข็ม ตอนแรกนัดไว้ 2 คน แต่มาจริงกลายเป็น 5 คน คุยกันก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ แต่มีคนหนึ่งพูดภาษาไทยได้บ้างเค้าก็ช่วยแปลให้ ลงท้ายไปตามคุณครูที่อยู่ในงานมาช่วยอีกแรง
ค่ำแล้วผมรีบตามไปร่วมงานที่หอประชุมที่อยู่ข้างๆกับบ้านพักมาเซอร์นี่เอง น้องๆเค้าแสดงเกือบเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลากล่าวขอบคุณทีมงานทั้งมาเซอร์ จนท.รพ.เซนต์เมรี่ น้องนศ.พยาบาล และผม ได้รับเชิญให้ขึ้นไปนั่งบนเวที แล้วพวกเด็กๆก็มาผูกข้อมือให้เรา พร้อมมอบของที่ระลึกให้ เป็นกระเป๋ายามแบบเด็กดอย มี จม.ขอบคุณ ฉบับของผมนี่ผมชอบมาก ไม่ใช่เพราะซาบซึ้งแต่เพราะน้องเค้าวาดรูปผมเป็นคนผอมเหมือนกับสมัยยังเรียนมหาลัยปีแรกๆต่างหาก จากนั้นก็ถึงเวลามอบของขวัญให้น้องๆ ซึ่งก่อนจะเดินทางมาที่นี่ผมนึกว่าเป็นชุดเครื่องเขียน อุปกรณ์การศึกษา แต่ปรากฏว่าเป็นที่นอนครับ ได้ทราบมาว่าราคาอยู่ที่ชุดละ 250 บาท ฉะนั้นที่เราเรี่ยไรตอนแรกบอกว่าคนละ 200 บาทนี่ไม่ใช่ซะแล้ว ไหนจะค่าเดินทางที่จ่ายไปสำหรับทีมของเรา ค่ากินอีก สรุปว่ายังขาดทุนอยู่พอสมควร (ไม่ทราบกี่หมื่นอิอิ)
เด็กๆดูจะมีความสุขกับที่นอนใหม่ของพวกเค้ามากครับ ระหว่างนั้นเองไฟก็ได้ดับลง กิจกรรมแจกขนมเลยทำได้ด้วยความทุลักทุเล แต่เด็กดอยเราก็กินกันเอร็ดอร่อย
หลักจากปล่อยเด็กๆกลับไปพักผ่อนแล้ว มาเซอร์เจ้าถิ่นเราก็ให้คณะเราทำการจุดประทีปลอยขึ้นฟ้า ไหนๆก็มาเชียงใหม่ทั้งที ลอยมันก่อนวันลอยกระทงยี่เป็งก็คงไม่เป็นไร
ค่ำแล้วผมรีบตามไปร่วมงานที่หอประชุมที่อยู่ข้างๆกับบ้านพักมาเซอร์นี่เอง น้องๆเค้าแสดงเกือบเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลากล่าวขอบคุณทีมงานทั้งมาเซอร์ จนท.รพ.เซนต์เมรี่ น้องนศ.พยาบาล และผม ได้รับเชิญให้ขึ้นไปนั่งบนเวที แล้วพวกเด็กๆก็มาผูกข้อมือให้เรา พร้อมมอบของที่ระลึกให้ เป็นกระเป๋ายามแบบเด็กดอย มี จม.ขอบคุณ ฉบับของผมนี่ผมชอบมาก ไม่ใช่เพราะซาบซึ้งแต่เพราะน้องเค้าวาดรูปผมเป็นคนผอมเหมือนกับสมัยยังเรียนมหาลัยปีแรกๆต่างหาก จากนั้นก็ถึงเวลามอบของขวัญให้น้องๆ ซึ่งก่อนจะเดินทางมาที่นี่ผมนึกว่าเป็นชุดเครื่องเขียน อุปกรณ์การศึกษา แต่ปรากฏว่าเป็นที่นอนครับ ได้ทราบมาว่าราคาอยู่ที่ชุดละ 250 บาท ฉะนั้นที่เราเรี่ยไรตอนแรกบอกว่าคนละ 200 บาทนี่ไม่ใช่ซะแล้ว ไหนจะค่าเดินทางที่จ่ายไปสำหรับทีมของเรา ค่ากินอีก สรุปว่ายังขาดทุนอยู่พอสมควร (ไม่ทราบกี่หมื่นอิอิ)
เด็กๆดูจะมีความสุขกับที่นอนใหม่ของพวกเค้ามากครับ ระหว่างนั้นเองไฟก็ได้ดับลง กิจกรรมแจกขนมเลยทำได้ด้วยความทุลักทุเล แต่เด็กดอยเราก็กินกันเอร็ดอร่อย
หลักจากปล่อยเด็กๆกลับไปพักผ่อนแล้ว มาเซอร์เจ้าถิ่นเราก็ให้คณะเราทำการจุดประทีปลอยขึ้นฟ้า ไหนๆก็มาเชียงใหม่ทั้งที ลอยมันก่อนวันลอยกระทงยี่เป็งก็คงไม่เป็นไร
เย็นวันเสาร์รู้สึกเจ็บคอเล็กน้อย สงสัยโรคเก่ากรดไหลย้อนท่าจะกำเริบหรือเปล่า แวบไปนอนกลางวันทั้งยังอิ่ม แต่ตอนเช้ามืดรู้สึกปวดเมื่อยตามตัวจนต้องตื่น จะว่าปวดเมื่อยเพราะต้องลุกๆนั่งๆตอนฝังเข็มก็ไม่น่าจะปวดขนาดนี้ ท่าจะโดนคออักเสบเล่นงานแหงๆ ก็ 2 วันก่อนเจอเด็กดอยไอใส่ตั้งไม่รู้กี่คน ตอนเช้าเลยไปขอยาที่ขนมาบริจาคกินไปค่อยดีขึ้นหน่อย
หลังมิสซาเช้าวันอาทิตย์ผมเดินลงเนินกลับมากินอาหารมื้อสุดท้ายที่นี่ได้เวลาเดินทางกลับกัน
ขากลับเราแวะทักทายซิสเตอร์พื้นเมืองที่ศูนย์คาทอลิกเล็กๆใน อ.แม่แจ่ม แล้วแวะไปร้านขายผ้าตีนจก (คล้ายๆที่ อ.ลอง จ.แพร่) เสร็จแล้วแวะเที่ยวดอยอินทนนท์ ก่อนจะไปกินมื้อกลางวันที่ร้านกาแฟอินทนิลในปั๊มบางจากที่ อ.จอมทอง ร้านเดียวกันกับขามา
หลังมิสซาเช้าวันอาทิตย์ผมเดินลงเนินกลับมากินอาหารมื้อสุดท้ายที่นี่ได้เวลาเดินทางกลับกัน
ขากลับเราแวะทักทายซิสเตอร์พื้นเมืองที่ศูนย์คาทอลิกเล็กๆใน อ.แม่แจ่ม แล้วแวะไปร้านขายผ้าตีนจก (คล้ายๆที่ อ.ลอง จ.แพร่) เสร็จแล้วแวะเที่ยวดอยอินทนนท์ ก่อนจะไปกินมื้อกลางวันที่ร้านกาแฟอินทนิลในปั๊มบางจากที่ อ.จอมทอง ร้านเดียวกันกับขามา
ใกล้จบละครับ
ขากลับนี่ผมกับคุณแม่อธิการิณีรพ. มาเซอร์ที่สอนนศ. และพี่หน.ฝ่ายบริการทั่วไปของรพ.รวม 4 คนจะกลับทางเครื่องบิน เพราะมีภารกิจ ผมต้องกลับมาทำงานวันจันทร์ลาต่อไม่ได้เพราะมีหมอบางท่านลาพักช่วงนี้
ส่วนจนท.คนอื่นๆและน้องๆนศ.พยาบาลจะกลับช้า 1 วันโดยวันอาทิตย์หลังลงดอยอินทนนท์จะแวะไปชมน้ำตกแม่ยะ เที่ยวถนนคนเดินและพักค้างคืนที่บ้านพักของคณะพระมหาไถ่ และจะกลับโคราชกันวันจันทร์ที่ 19 พ.ย.
ขากลับมาที่สนามบินเชียงใหม่ผมว่าจะชวนคุณแม่อธิการท่านแวะซื้อของกินที่กาดต้นพยอม (ตลาดสุเทพ) ซะหน่อย ปรากฏว่าระหว่างกินมื้อกลางวันที่ อ.จอมทอง คุณแม่อธิการได้รับโทรศัพท์แจ้งว่ามีคุณแม่ของมาเซอร์ท่านหนึ่งจากบ้านหลุยส์โชเวต์สามพรานป่วยเป็นอัมพฤกษ์กระทันหันที่เชียงใหม่และพักที่รพ.ประสาท (ใกล้ๆรพ.สวนดอกของคณะแพทยศาสตร์ มช.นั่นแหละครับ) เลยอดช้อปได้มาเยี่ยมไข้แทน คณะของเราได้ไปสวดภาวนารอบๆเตียงผู้ป่วย ผมขอคำภาวนาเผื่อคุณแม่ของมาเซอร์มา ณ ที่นี่ด้วยละกันนะครับ
จริงๆไม่ได้ซื้อของกินก็ดีเหมือนกันครับ เพราะว่าเป้ของผมก็แทบไม่เหลือที่ใส่ของแล้ว
กลับมาถึงดอนเมืองก็มีรถตู้ของทางรพ.มารับพวกเรากลับถึงโคราชเกือบห้าทุ่มครับ เป็นอันเสร็จภารกิจแห่งความรักในครั้งนี้ กลับมาถึงโคราชรู้สึกอาการป่วยตอนเช้าดีขึ้นมากแล้วบางทีอาจจะได้รับพระพรผ่านทางคำภาวนาของน้องๆบนดอยก็ได้นะครับ
เป็นทริปที่น่าประทับใจและได้ประสบการณ์ใหม่ๆเปิดหูเปิดตามากครับ ผมเคยผ่าน อ.แม่แจ่ม อย่างน้อยก็ 2 ครั้ง แต่ไม่เคยไป รร.เซนต์โยเซฟ แม่แจ่ม มาก่อน คนไม่รู้ใครจะไปคิดว่ามันไม่ได้อยู่ในตัวอำเภอแต่ต้องขึ้นดอยด้วยรถกระบะโฟร์วีลอีกชม.
ถ้ามีเวลาผมจะเอารูปมาลงให้ชมกันนะครับ
ขากลับนี่ผมกับคุณแม่อธิการิณีรพ. มาเซอร์ที่สอนนศ. และพี่หน.ฝ่ายบริการทั่วไปของรพ.รวม 4 คนจะกลับทางเครื่องบิน เพราะมีภารกิจ ผมต้องกลับมาทำงานวันจันทร์ลาต่อไม่ได้เพราะมีหมอบางท่านลาพักช่วงนี้
ส่วนจนท.คนอื่นๆและน้องๆนศ.พยาบาลจะกลับช้า 1 วันโดยวันอาทิตย์หลังลงดอยอินทนนท์จะแวะไปชมน้ำตกแม่ยะ เที่ยวถนนคนเดินและพักค้างคืนที่บ้านพักของคณะพระมหาไถ่ และจะกลับโคราชกันวันจันทร์ที่ 19 พ.ย.
ขากลับมาที่สนามบินเชียงใหม่ผมว่าจะชวนคุณแม่อธิการท่านแวะซื้อของกินที่กาดต้นพยอม (ตลาดสุเทพ) ซะหน่อย ปรากฏว่าระหว่างกินมื้อกลางวันที่ อ.จอมทอง คุณแม่อธิการได้รับโทรศัพท์แจ้งว่ามีคุณแม่ของมาเซอร์ท่านหนึ่งจากบ้านหลุยส์โชเวต์สามพรานป่วยเป็นอัมพฤกษ์กระทันหันที่เชียงใหม่และพักที่รพ.ประสาท (ใกล้ๆรพ.สวนดอกของคณะแพทยศาสตร์ มช.นั่นแหละครับ) เลยอดช้อปได้มาเยี่ยมไข้แทน คณะของเราได้ไปสวดภาวนารอบๆเตียงผู้ป่วย ผมขอคำภาวนาเผื่อคุณแม่ของมาเซอร์มา ณ ที่นี่ด้วยละกันนะครับ
จริงๆไม่ได้ซื้อของกินก็ดีเหมือนกันครับ เพราะว่าเป้ของผมก็แทบไม่เหลือที่ใส่ของแล้ว
กลับมาถึงดอนเมืองก็มีรถตู้ของทางรพ.มารับพวกเรากลับถึงโคราชเกือบห้าทุ่มครับ เป็นอันเสร็จภารกิจแห่งความรักในครั้งนี้ กลับมาถึงโคราชรู้สึกอาการป่วยตอนเช้าดีขึ้นมากแล้วบางทีอาจจะได้รับพระพรผ่านทางคำภาวนาของน้องๆบนดอยก็ได้นะครับ
เป็นทริปที่น่าประทับใจและได้ประสบการณ์ใหม่ๆเปิดหูเปิดตามากครับ ผมเคยผ่าน อ.แม่แจ่ม อย่างน้อยก็ 2 ครั้ง แต่ไม่เคยไป รร.เซนต์โยเซฟ แม่แจ่ม มาก่อน คนไม่รู้ใครจะไปคิดว่ามันไม่ได้อยู่ในตัวอำเภอแต่ต้องขึ้นดอยด้วยรถกระบะโฟร์วีลอีกชม.
ถ้ามีเวลาผมจะเอารูปมาลงให้ชมกันนะครับ