<<: ยอแซฟ บิดาบุญธรรมที่ถูกลืม :>>
-
- Defender of lawS
- โพสต์: 3324
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ยอแซฟบิดาบุญธรรมที่ถูกลืม
โดย โปรดปราน ( พีพี )
หลังจากเขียนบทความเกี่ยวกับแม่พระสองครั้ง ผู้อ่านท่านหนึ่ง ถามว่า “ทำไมคุณพีพีไม่เขียนเกี่ยวกับ พ่อพระฝ่ายเนื้อหนังของพระเยซูคริสต์บ้างละ” “นั่นนะสิ” ขอสารภาพว่า คริสตจักรของโปรเตสแตนต์แทบจะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับ ยอแซฟ บิดาบุญธรรมของพระกุมารเยซู ยกเว้นตอนกำเนิดพระกุมาร ที่มักจะแสดงเป็นละครช่วงคริสตมาส ซึ่งผู้ชมจะเห็นบทบาทของยอแซฟ จูงลาที่แม่พระครรภ์แก่ๆนั่งอยู่ แล้วภาพที่โรงวัว พระกุมารนอนในรางหญ้า แม่พระนั่งข้างๆรางหญ้านั้น และพ่อพระยอแซฟยืนข้างๆแม่พระ
...ต่อไปอีกฉากหนึ่ง มีฝูงชนตามดวงดาวไปหยุดหน้าบ้านยอแซฟ ก็เห็นภาพของพระกุมาร แม่พระ นักบุญยอแซฟ ยืนข้างๆ มีนักปราชญ์จากตะวันออกนำของกำนัลมาถวาย ภาพสุดท้ายคือ ยอแซฟ หอบหิ้วพระนางมารีย์ และพระกุมารหนีภัยไปอียิปต์โน่น
๑.ยอแซฟเข้าใจน้ำพระทัยพระเจ้าผ่านความฝัน
วันพ่อของไทย ก็ใกล้วันคริสตมาส ขอใช้บทความนี้เพื่อรำลึกถึงคุณความดีของบิดาบุญธรรมของพระเยซูคริสต์ ขอเชิญผู้อ่านทบทวนบทบาทของนักบุญยอแซฟ พระภัสดาของพระนางพรหมจารีมารีย์ กันสักครั้ง...ฉันไตร่ตรองแล้วถามตัวเองว่า “ใครจะเคยคิดบ้างนะว่า ยอแซฟ หนุ่มช่างไม้ธรรมดาๆ ชาวนาซาเร็ธ และไม่มีใครรู้จัก กลับได้เป็นบิดาบุญธรรมของพระเจ้า” ...ในขณะที่พระนางพรหมจารีมารีย์ มีประสบการณ์ส่วนตัวกับพระเจ้า ด้วยเรื่องพระมหาไถ่นั้น ยอแซฟเองก็ได้รับประสบการณ์แปลกประหลาดนั้นด้วย ทูตของพระเจ้าปรากฏแก่ยอแซฟในฝัน“...ยอแซฟบุตรดาวิด อย่ากลัวที่จะรับมารีย์เป็นภรรยาของเจ้าเลย เพราะผู้ที่ปฏิสนธิในครรภ์ของเธอเป็นโดยเดชพระวิญญาณบริสุทธิ์” ( มัทธิว ๑.๒๐ ) ประสบการณ์ที่ยอแซฟต้องเรียนรู้คือ “ไม่มีสิ่งใดที่พระเจ้าทรงกระทำไม่ได้” พระคัมภีร์บันทึกว่า “ยอแซฟ”คือเขาเป็นคนมีธัมมะ เมื่อทราบว่า คู่หมั้นของเขาตั้งครรภ์กับใครก็ไม่รู้ จึงคิดจะถอนหมั้นอย่างลับๆและไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ พระเจ้าทรงทอดพระเนตรในจิตใจของเขาพระองค์ทรงรู้จักดี ดังนั้นทูตของพระเจ้า ก็ไปหาเขาในฝัน พร้อมทั้งแจ้งเรื่องลึกลับเรื่องการตั้งครรภ์ของมารีย์ ทูตของพระเจ้าบอกเขาว่า ทารกในครรภ์ของมารีย์นั้นเป็นเพศชาย และให้ตั้งชื่อว่า “เยซู”ทารกจะเป็นคนช่วยชนชาติให้รอด ขณะที่ยอแซฟกำลังตกตลึงอยู่ ทูตของพระเจ้ารีบทบทวนพระธรรมของประกาศกอิสยาห์ว่า “ดูเถิด หญิงพรหมจารีย์คนหนึ่งจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชายคนหนึ่ง และเขาจะเรียกนามของท่านว่าอิมมานูเอล (แปลว่าพระเจ้าอยู่กับเรา )” หลังจากนั้นยอแซฟตื่นขึ้นมาและได้ตรึกตรองเชื่อว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในฝันนั้นคือความจริง เขาจึงรับมารีย์เป็นภรรยา และไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางเพศ ( ดูมัทธิว ๑.๑๘-๒๕ ) หน้าที่ของการเป็นบิดาของพระเยซูเจ้านั้นต้องผนวกกับภาระด้วย... ต่อมามีคำสั่งจากจักรพรรดิซีซาร์ออกัสตัสให้ชายทุกคนและครอบครัวของตน ไปจดทะเบียนสำมะโนครัว ณ บ้านเกิดเมืองนอนตามวงศ์ตระกูลของตน การจดทะเบียนนี้เพื่อการเก็บภาษี ยอแซฟมีเชื้อสายดาวิด จึงต้องไปจดทะเบียนที่เมืองเบธเลเฮม ถึงแม้ว่าภรรยาจะครรภ์แก่ยอแซฟก็ต้องพานางลงไปด้วย เพราะคำสั่งของรัฐนั้นสำคัญ ถ้าฝ่าฝืนจะมีโทษหนัก ...เมื่อการเดินทางของยอแซฟและมารีย์มาถึงที่เบธเลเฮม... ยอแซฟ คงคิดได้ว่า ทำไมมารีย์ภรรยาถึงกระตือรือร้นที่จะติดตามเขาไปด้วย เธอคงคิดถึง พระวาจาผ่านประกาศก มีคาร์ว่า “บ้านเบธเลเฮมในแผ่นดินยูเดียจะเป็นบ้านเล็กน้อยที่สุดในสายตาของบรรดา ผู้ครอบครองแผ่นดินยูเดีย ก็หามิได้ เพราะว่าเจ้านายคนหนึ่งจะออกมาจากท่าน ผู้นี้จะครอบครองอิสราเอลชนชาติของเรา” ( มีคาร์ ๕.๒ ) อนิจจายอแซฟและมารีย์พบความจริงว่าที่เมือง “ เบธเลเฮม”ขณะนั้นวุ่นวายไม่มีที่พักเพราะผู้คนจากที่ต่างๆหลั่งไหลกันมาที่เบธเลเฮม เพื่อจดทะเบียนสำมะโนครัวเหมือนยอแซฟ ยอแซฟจึงได้ติดต่อขอที่พักเพื่อภรรยาที่ครรภ์แก่กับเขา ห้องพักเต็ม ยอแซฟได้ตัดสินใจ ขอพักที่โรงสัตว์ของโรงแรมนั้น ในที่สุดทารกน้อย พระมหาไถ่ของมนุษยชาติได้ถือกำเนิดในสถานที่ต่ำต้อยที่สุด นั้นคือที่โรงสัตว์ เปลน้อยของพระกุมารคือ รางหญ้า
ณ เวลานี้ ยอแซฟบิดาบุญธรรมของพระกุมารเยซู เข้าใจกระจ่างแจ้ง ถึงวิธีการของพระเจ้าที่ทรงใช้พระบุตรมาช่วยกู้โลกให้รอด พระองค์ เสด็จเข้ามาอย่างไร เขาเห็นภาพชัดเจนที่ว่าพระเยซูเจ้าเกิดมาเพื่อปรนนิบัติ พระเจ้าทรงประทานพระบุตรเข้ามาช่วยคนบาปด้วยสภาพที่ต่ำต้อย เพื่อว่าจะสามารถช่วยนำคนบาปที่ใจแข็ง กลับไปคืนดีกับพระบิดาเจ้า
โดย โปรดปราน ( พีพี )
หลังจากเขียนบทความเกี่ยวกับแม่พระสองครั้ง ผู้อ่านท่านหนึ่ง ถามว่า “ทำไมคุณพีพีไม่เขียนเกี่ยวกับ พ่อพระฝ่ายเนื้อหนังของพระเยซูคริสต์บ้างละ” “นั่นนะสิ” ขอสารภาพว่า คริสตจักรของโปรเตสแตนต์แทบจะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับ ยอแซฟ บิดาบุญธรรมของพระกุมารเยซู ยกเว้นตอนกำเนิดพระกุมาร ที่มักจะแสดงเป็นละครช่วงคริสตมาส ซึ่งผู้ชมจะเห็นบทบาทของยอแซฟ จูงลาที่แม่พระครรภ์แก่ๆนั่งอยู่ แล้วภาพที่โรงวัว พระกุมารนอนในรางหญ้า แม่พระนั่งข้างๆรางหญ้านั้น และพ่อพระยอแซฟยืนข้างๆแม่พระ
...ต่อไปอีกฉากหนึ่ง มีฝูงชนตามดวงดาวไปหยุดหน้าบ้านยอแซฟ ก็เห็นภาพของพระกุมาร แม่พระ นักบุญยอแซฟ ยืนข้างๆ มีนักปราชญ์จากตะวันออกนำของกำนัลมาถวาย ภาพสุดท้ายคือ ยอแซฟ หอบหิ้วพระนางมารีย์ และพระกุมารหนีภัยไปอียิปต์โน่น
๑.ยอแซฟเข้าใจน้ำพระทัยพระเจ้าผ่านความฝัน
วันพ่อของไทย ก็ใกล้วันคริสตมาส ขอใช้บทความนี้เพื่อรำลึกถึงคุณความดีของบิดาบุญธรรมของพระเยซูคริสต์ ขอเชิญผู้อ่านทบทวนบทบาทของนักบุญยอแซฟ พระภัสดาของพระนางพรหมจารีมารีย์ กันสักครั้ง...ฉันไตร่ตรองแล้วถามตัวเองว่า “ใครจะเคยคิดบ้างนะว่า ยอแซฟ หนุ่มช่างไม้ธรรมดาๆ ชาวนาซาเร็ธ และไม่มีใครรู้จัก กลับได้เป็นบิดาบุญธรรมของพระเจ้า” ...ในขณะที่พระนางพรหมจารีมารีย์ มีประสบการณ์ส่วนตัวกับพระเจ้า ด้วยเรื่องพระมหาไถ่นั้น ยอแซฟเองก็ได้รับประสบการณ์แปลกประหลาดนั้นด้วย ทูตของพระเจ้าปรากฏแก่ยอแซฟในฝัน“...ยอแซฟบุตรดาวิด อย่ากลัวที่จะรับมารีย์เป็นภรรยาของเจ้าเลย เพราะผู้ที่ปฏิสนธิในครรภ์ของเธอเป็นโดยเดชพระวิญญาณบริสุทธิ์” ( มัทธิว ๑.๒๐ ) ประสบการณ์ที่ยอแซฟต้องเรียนรู้คือ “ไม่มีสิ่งใดที่พระเจ้าทรงกระทำไม่ได้” พระคัมภีร์บันทึกว่า “ยอแซฟ”คือเขาเป็นคนมีธัมมะ เมื่อทราบว่า คู่หมั้นของเขาตั้งครรภ์กับใครก็ไม่รู้ จึงคิดจะถอนหมั้นอย่างลับๆและไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ พระเจ้าทรงทอดพระเนตรในจิตใจของเขาพระองค์ทรงรู้จักดี ดังนั้นทูตของพระเจ้า ก็ไปหาเขาในฝัน พร้อมทั้งแจ้งเรื่องลึกลับเรื่องการตั้งครรภ์ของมารีย์ ทูตของพระเจ้าบอกเขาว่า ทารกในครรภ์ของมารีย์นั้นเป็นเพศชาย และให้ตั้งชื่อว่า “เยซู”ทารกจะเป็นคนช่วยชนชาติให้รอด ขณะที่ยอแซฟกำลังตกตลึงอยู่ ทูตของพระเจ้ารีบทบทวนพระธรรมของประกาศกอิสยาห์ว่า “ดูเถิด หญิงพรหมจารีย์คนหนึ่งจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชายคนหนึ่ง และเขาจะเรียกนามของท่านว่าอิมมานูเอล (แปลว่าพระเจ้าอยู่กับเรา )” หลังจากนั้นยอแซฟตื่นขึ้นมาและได้ตรึกตรองเชื่อว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในฝันนั้นคือความจริง เขาจึงรับมารีย์เป็นภรรยา และไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางเพศ ( ดูมัทธิว ๑.๑๘-๒๕ ) หน้าที่ของการเป็นบิดาของพระเยซูเจ้านั้นต้องผนวกกับภาระด้วย... ต่อมามีคำสั่งจากจักรพรรดิซีซาร์ออกัสตัสให้ชายทุกคนและครอบครัวของตน ไปจดทะเบียนสำมะโนครัว ณ บ้านเกิดเมืองนอนตามวงศ์ตระกูลของตน การจดทะเบียนนี้เพื่อการเก็บภาษี ยอแซฟมีเชื้อสายดาวิด จึงต้องไปจดทะเบียนที่เมืองเบธเลเฮม ถึงแม้ว่าภรรยาจะครรภ์แก่ยอแซฟก็ต้องพานางลงไปด้วย เพราะคำสั่งของรัฐนั้นสำคัญ ถ้าฝ่าฝืนจะมีโทษหนัก ...เมื่อการเดินทางของยอแซฟและมารีย์มาถึงที่เบธเลเฮม... ยอแซฟ คงคิดได้ว่า ทำไมมารีย์ภรรยาถึงกระตือรือร้นที่จะติดตามเขาไปด้วย เธอคงคิดถึง พระวาจาผ่านประกาศก มีคาร์ว่า “บ้านเบธเลเฮมในแผ่นดินยูเดียจะเป็นบ้านเล็กน้อยที่สุดในสายตาของบรรดา ผู้ครอบครองแผ่นดินยูเดีย ก็หามิได้ เพราะว่าเจ้านายคนหนึ่งจะออกมาจากท่าน ผู้นี้จะครอบครองอิสราเอลชนชาติของเรา” ( มีคาร์ ๕.๒ ) อนิจจายอแซฟและมารีย์พบความจริงว่าที่เมือง “ เบธเลเฮม”ขณะนั้นวุ่นวายไม่มีที่พักเพราะผู้คนจากที่ต่างๆหลั่งไหลกันมาที่เบธเลเฮม เพื่อจดทะเบียนสำมะโนครัวเหมือนยอแซฟ ยอแซฟจึงได้ติดต่อขอที่พักเพื่อภรรยาที่ครรภ์แก่กับเขา ห้องพักเต็ม ยอแซฟได้ตัดสินใจ ขอพักที่โรงสัตว์ของโรงแรมนั้น ในที่สุดทารกน้อย พระมหาไถ่ของมนุษยชาติได้ถือกำเนิดในสถานที่ต่ำต้อยที่สุด นั้นคือที่โรงสัตว์ เปลน้อยของพระกุมารคือ รางหญ้า
ณ เวลานี้ ยอแซฟบิดาบุญธรรมของพระกุมารเยซู เข้าใจกระจ่างแจ้ง ถึงวิธีการของพระเจ้าที่ทรงใช้พระบุตรมาช่วยกู้โลกให้รอด พระองค์ เสด็จเข้ามาอย่างไร เขาเห็นภาพชัดเจนที่ว่าพระเยซูเจ้าเกิดมาเพื่อปรนนิบัติ พระเจ้าทรงประทานพระบุตรเข้ามาช่วยคนบาปด้วยสภาพที่ต่ำต้อย เพื่อว่าจะสามารถช่วยนำคนบาปที่ใจแข็ง กลับไปคืนดีกับพระบิดาเจ้า
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อังคาร พ.ย. 29, 2005 10:06 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
-
- Defender of lawS
- โพสต์: 3324
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:54 pm
- ที่อยู่: Bangkok
๒.ยอแซฟปกป้องครอบครัว
พระวรสารนักบุญมัทธิวบทที่ ๒ บันทึกถึง นักปราชญ์ตะวันออก ไปถวายเคารพและถวายของขวัญพระกุมารถึงบ้านในสมัยเฮโรดปกครอง ยอแซฟต้องทำหน้าที่ที่สำคัญยิ่งคือ หลังจากนักปราชญ์จากทิศตะวันออกกลับไปแล้ว ทูตของพระเจ้าก็ได้ปรากฏต่อหน้ายอแซฟในความฝันบอกว่า “จงลุกขึ้นพากุมารและมารดาหนีไปอียิปต์ และคอยอยู่ที่นั่นจนกว่าเราจะบอกเจ้า เพราะว่าเฮโรดแสวงหากุมารเพื่อจะประหารเสีย” ( มธ.๒.๑๓ )...แล้วเขาก็ลุกขึ้นพากุมารน้อยและมารดาเดินทางไปยังอียิปต์ ภาพในสมองของฉันโยงไปถึงมหาบุรุษยอแซฟที่ถูกพวกพี่น้องขายไปสู่ประเทศอียิปต์ ทั้งนี้เพื่อให้การอพยพครั้งใหม่ได้สำเร็จไปในตัวท่าน และในองค์พระเยซูเจ้าบุตรของท่าน (มธ . ๒.๑๓; ฮชย .๑๑.๑ ; ปฐก.๓๗,๕๐.๒๒-๒๖ )
��ี่เมือง Quebec ประเทศคานาดา ในเดือนมกราคมทุกปีมีแป้งพิเศษที่เขาเรียกว่า Galettes des Rois ได้วางขาย ในตลาดใหญ่ๆ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ ของเวลาแห่งการเฉลิมฉลองของการทรงปรากฏของพระเยซูคริสต์ต่อเหล่านักปราชญ์ จากทิศตะวันออกซึ่ง เป็นวันที่ตั้งไว้ให้เป็นประเพณีเพื่อเป็นการระลึกถึงพวกนักปราชญ์ที่ได้มาถึงเมืองเบธเลเฮม ( ภาษาฮีบรูหมายถึงบ้านขนมปัง และอีกชื่อเรียก “เอฟราธาร์ =Ephrath” ปฐก.๓๕.๑๖,๑๙) ในพิธีการเฉลิมฉลองนั้นจะมีการซ่อนรูปปั้นกษัตริย์ที่ทำด้วยพลาสติกขนาดประมาณ ครึ่งนิ้ว กติกาคือใครที่หาเจอรูปปั้นกษัตริย์ที่ซ่อนไว้ ในวันนั้นเขาจะถูกสวมมงกุฎและแต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครองในงานฉลองในวันนั้น แท้จริงแล้วการเฉลิมฉลองนี้เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่บ่งบอกว่าฤดูแห่งการเฉลิมฉลองวันคริสตมาสเสร็จสิ้นแล้ว
��พระวรสารได้บันทึกเรื่องเกี่ยวกับ ยอแซฟชาวนาซาเรธน้อยมาก เท่าที่เราทราบจากพระวรสาร เขาไม่ได้ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าเหมือนพระนางมารีย์ หรือ เศคาริยาห์ ถ้าหากเราจะเปรียบเทียบระหว่าง พระนางมารีย์ เศคาริยาห์และเหล่านักปราชญ์ ที่ทุกๆคนระลึกถึงพวกเขา... ในการเฉลิมฉลองคริสตมาสแต่ละปี บางโบสถ์ก็มีการพูดถึง นักบุญยอแซฟ บ้างแต่ประเดี๋ยวเดียวก็ลืมไปหมดไม่ค่อยให้ความสนใจบุรุษคนนี้ หรืออาจจะลืมไปเลยว่าเขาเป็นใคร
��ลับมาที่พระวรสารบันทึก ...แม้แต่ในวิหารเองก็ตามเมื่อยอแซฟ กับมารีย์ ได้นำพระกุมารเยซูอายุแปดวันไปถวายที่พระวิหาร สิเมโอน ผู้ชอบธรรมที่กำลังรอคอยพระเมสสิยาห์ ได้อุ้มพระกุมารและสรรเสริญพระเจ้า เขาได้ยกย่อง และอวยพรพระนาง มารีย์ สิเมโอนได้บอก ถึงคำทำนายเกี่ยวกับพระกุมาร แก่มารีย์ และบอกว่า “....พระกุมารเป็นเหตุให้หลายคนในอิสราเอลล้มลงหรือยกตั้งขึ้น ....และถึงหัวใจของท่านเองก็ยังจะถูกดาบแทงทะลุด้วย” ( ดู ลก 2.34-35 )
��ป็นคำถาม หรือว่า สิเมโอน กำลังบอกถึงว่า ยอแซฟจะต้องสูญเสียด้วยดาบอย่างนั้น? หรือเป็นการทำนายถึงชีวิตของยอแซฟก่อนที่เขาจะตายหรือเปล่า? หรือสิเมโอนรู้ว่ายอแซฟมีใจที่เขวเพราะพฤติกรรมการตั้งครรภ์ของภรรยา ความจริงเรื่องของยอแซฟกับมารีย์ไม่จำเป็นต้องคิดมาก เพราะว่าเป็นเรื่องที่ทูตสวรรค์ได้บอกกับ ยอแซฟ ว่า “อย่ากลัวที่จะรับมารีย์เป็นภรรยาของเจ้า เลยเพราะว่าผู้ปฏิสนธิในครรภ์ของเธอเป็นโดยเดชพระจิต” ( มธ. 1.20 )
ยอแซฟไม่ได้ปฏิเสธ หรืออิดออดต่อรองสักนิด แต่กลับยินดีรับดาบเล่มนี้ เพราะการสมรสของ ท่านคือการร่วมพันธกิจการทรงไถ่ของพระเจ้านั่นคือช่วยปกป้อง มารีย์ และพระกุมาร ต่อมาท่านก็ถูกส่งไปยังอียิปต์เพื่อรักษาชีวิตของพระกุมารเยซู จาก ความอิจฉาของเฮโรด ขณะอยู่ที่อียิปต์ ในฐานะคนต่างด้าว ยอแซฟต้องสละทุกอย่าง ไม่มีแผนว่าจะ การกลับบ้านเกิด เมืองนอนเมื่อไหร่ ต้องอดทน เขาขาดเพื่อนฝูง ขาด ความสะดวกสบาย เขาต้องรอคอยเวลาที่พระเจ้าจะบอกเขา ว่าจะกลับบ้านเกิดเมื่อไหร่ ��
ในพระวรสาร ไม่มีบันทึกคำพูดของ ยอแซฟไว้สักคำ การที่ท่านเป็นคนพูดน้อย แล้วจะต่อสู้กับคนที่ ดูถูกเหยียดหยาม เยาะเย้ย ซุบซิบนินทา เกี่ยวกับเรื่องของเขาได้อย่างไร? เขาจะต้องทำตัวแบบไม่รู้ไม้ชี้หรือ? พระคัมภีร์ได้บันทึกเกี่ยว ยอแซฟไ ว้น้อยมาก อย่างไรก็ตามฉันพยายามตัดความช่างคิดช่างสงสัยออกไป และมาทำความเข้าใจเรื่อง “การเชื่อฟังและวางใจในพระเจ้า” ยอแซฟ เชื่อและวางใจพระเจ้า เขาเชื่อสิ่งที่พระเจ้าตรัสกับเขาผ่านทูตของพระองค์ยามหลับ เขามั่นใจว่า ทารกน้อยนั้นมาจากพระเจ้าตามแผนการไถ่ของพระองค์ ยอแซฟ จึงเข้าร่วมแผนการไถ่โดยการ ปกป้อง เลี้ยงดู พระนางมารีย์และพระกุมาร ที่พระเจ้าทรงมอบหมายหน้าที่แก่เขา
�� ฉันจินตนาการต่อว่าถึงแม้พ่อพระยอแซฟ จะพูดน้อยมากแต่ท่านคงได้ภาวนาอย่างหนัก เป็นไปได้ไหมที่ท่าน อธิษฐานภาวนาดังนี้ “พระบิดาเจ้าข้า หากเป็นได้ขอให้ถ้วยนี้เลื่อนไปจากข้าพระองค์เถิด ขออย่าให้เป็นไปตามใจปรารถนาของข้าพระองค์เอง แต่ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์เถิด” เมื่อคิดเช่นนี้ฉันคิดถึงพระเยซูคริสต์ทรงภาวนาที่สวนเกทเสมนี เมื่อเข้าสู่ความทุกข์ยากลำบากและเหน็ดเหนื่อยมากมาย อย่างไรก็ตามเราได้เห็นถึงการเชื่อฟังของพระองค์จนถึงที่สุด ฉันเองได้เรียนรู้ว่าการภาวนาลักษณะนี้ไม่ใช่จะเกิดขึ้นง่ายได้ ในฮีบรู 5.8 “ถึงแม้ว่าพระองค์ทรงเป็นพระบุตร พระองค์ ก็ทรงเรียนรู้ที่จะนอบน้อมยอมเชื่อฟังโดยความทุกข์ลำบากที่พระองค์ได้ทรงทน”��
ขณะนั่งไตร่ตรองเข้าไปในจิตใจของ ยอแซฟ ฉันคิดว่าเขาคงจะมีความสุขและอิ่มเอมใจมากที่สุด เพราะพระเจ้าทรงให้เกียรติ และไว้วางใจเลือกเขาให้ทำหน้าที่พ่อ ซึ่งเขาเป็นผู้เลี้ยงดูอุ้มชู พระกุมารเยซู อาจจะเป็นผู้ช่วยแม่พระในการเลี้ยงดูพระกุมาร คง ช่วยป้อนอาหาร, ช่วยอาบน้ำ เป็นเพื่อนเล่น, เล่านิทานก่อนนอน หรือ อาจจะเป็นคนคอยตอบคำถาม“ทำไม...ทำไม”ของลูกชาย พ่อยอแซฟ คงคอยปลอบใจเมื่อลูกชายเจ็บปวด หรือเหมารวมว่ายอแซฟและพระกุมารเยซูได้มีโอกาสทำกิจกรรมของพ่อ กับลูกชาย
ฉันถามตัวเองว่า พระเยซูคริสต์ได้เรียนรู้จากบิดาฝ่ายเนื้อหนังของพระองค์บ้าง แน่นอนวิชาชีพงานช่างไม้ แล้วพ่อยอแซฟสอนอะไรอีกล่ะ?? แต่เรื่องของธรรมเนียมความเชื่อของชาวยิว และเรื่องของพระเจ้าไม่น่าจะสอน ในทางกลับกันทั้ง แม่พระและพ่อยอแซฟคงได้เรียนรู้เรื่องพระเจ้าจากพระเยซูคริสต์ เอาเถิดฉันบอกตัวเองว่าหลายๆเรื่องที่มนุษย์ตั้งคำถามนั้น เกินความเข้าใจของมนุษย์ และอย่าสงสัยเลย แต่ขอให้ระลึกถึงคุณพ่อยอแซฟบ้าง และเรียนรู้เรื่องการเชื่อฟังและวางใจพระเจ้าอย่างสุดจิตสุดใจแบบยอแซฟบิดาบุญธรรมของพระเยซูคริสต์เจ้าก็เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าแน่นอน
��บทสรุปของฉัน:
สิ่งที่ยิ่งใหญ่จากการไตร่ตรองของฉันเกี่ยวกับนักบุญยอแซฟบิดาบุญธรรมพระเยซูเจ้า คือพระเจ้าทรงใช้สถานการณ์ ที่น่าอับอายมากในการทรงเรียกยอแซฟ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเหมือนหนามที่ทิ่มแทงหัวใจ เป็นเหมือนตุ้มที่ถ่วงชีวิต แต่เปล่าเลยฉันไม่เคยฟัง ยอแซฟ ต่อว่า หรือตำหนิพระเจ้าเลย กลับกระตือรือร้นเชื่อฟัง และปฏิบัติตาม
ย้อนมาคิดถึงตัวเอง ในการดำเนินชีวิตเพื่อตอบสนองกระแสเรียกของพระเจ้า บ่อยครั้ง ฉันจะพูดมาก และชอบบ่น งอแง ต่อว่า จู้จี้จุกจุก กับพระองค์ หรือบางครั้ง ทำตัวเหมือนคนไม่มีพระเจ้า ...โอ้พระเจ้าข้าลูกขอการเริ่มต้นใหม่ ถึงแม้งานที่ทำยังไม่ประสบความสำเร็จอะไรมากมาย แต่ ลูกจะเชื่อเสมอว่าพระองค์คือพระเจ้า ผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด และพระองค์มีแผนการที่ดีต่อลูกเสมอ ...อาเมน
( ตีพิมพ์ อิสระรายปักษ์ ลำดับที่ ๓๓ ปีที่ ๒ ฉบับที่ ๙ 2004 )
พระวรสารนักบุญมัทธิวบทที่ ๒ บันทึกถึง นักปราชญ์ตะวันออก ไปถวายเคารพและถวายของขวัญพระกุมารถึงบ้านในสมัยเฮโรดปกครอง ยอแซฟต้องทำหน้าที่ที่สำคัญยิ่งคือ หลังจากนักปราชญ์จากทิศตะวันออกกลับไปแล้ว ทูตของพระเจ้าก็ได้ปรากฏต่อหน้ายอแซฟในความฝันบอกว่า “จงลุกขึ้นพากุมารและมารดาหนีไปอียิปต์ และคอยอยู่ที่นั่นจนกว่าเราจะบอกเจ้า เพราะว่าเฮโรดแสวงหากุมารเพื่อจะประหารเสีย” ( มธ.๒.๑๓ )...แล้วเขาก็ลุกขึ้นพากุมารน้อยและมารดาเดินทางไปยังอียิปต์ ภาพในสมองของฉันโยงไปถึงมหาบุรุษยอแซฟที่ถูกพวกพี่น้องขายไปสู่ประเทศอียิปต์ ทั้งนี้เพื่อให้การอพยพครั้งใหม่ได้สำเร็จไปในตัวท่าน และในองค์พระเยซูเจ้าบุตรของท่าน (มธ . ๒.๑๓; ฮชย .๑๑.๑ ; ปฐก.๓๗,๕๐.๒๒-๒๖ )
��ี่เมือง Quebec ประเทศคานาดา ในเดือนมกราคมทุกปีมีแป้งพิเศษที่เขาเรียกว่า Galettes des Rois ได้วางขาย ในตลาดใหญ่ๆ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ ของเวลาแห่งการเฉลิมฉลองของการทรงปรากฏของพระเยซูคริสต์ต่อเหล่านักปราชญ์ จากทิศตะวันออกซึ่ง เป็นวันที่ตั้งไว้ให้เป็นประเพณีเพื่อเป็นการระลึกถึงพวกนักปราชญ์ที่ได้มาถึงเมืองเบธเลเฮม ( ภาษาฮีบรูหมายถึงบ้านขนมปัง และอีกชื่อเรียก “เอฟราธาร์ =Ephrath” ปฐก.๓๕.๑๖,๑๙) ในพิธีการเฉลิมฉลองนั้นจะมีการซ่อนรูปปั้นกษัตริย์ที่ทำด้วยพลาสติกขนาดประมาณ ครึ่งนิ้ว กติกาคือใครที่หาเจอรูปปั้นกษัตริย์ที่ซ่อนไว้ ในวันนั้นเขาจะถูกสวมมงกุฎและแต่งตั้งให้เป็นผู้ปกครองในงานฉลองในวันนั้น แท้จริงแล้วการเฉลิมฉลองนี้เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่บ่งบอกว่าฤดูแห่งการเฉลิมฉลองวันคริสตมาสเสร็จสิ้นแล้ว
��พระวรสารได้บันทึกเรื่องเกี่ยวกับ ยอแซฟชาวนาซาเรธน้อยมาก เท่าที่เราทราบจากพระวรสาร เขาไม่ได้ร้องเพลงสรรเสริญพระเจ้าเหมือนพระนางมารีย์ หรือ เศคาริยาห์ ถ้าหากเราจะเปรียบเทียบระหว่าง พระนางมารีย์ เศคาริยาห์และเหล่านักปราชญ์ ที่ทุกๆคนระลึกถึงพวกเขา... ในการเฉลิมฉลองคริสตมาสแต่ละปี บางโบสถ์ก็มีการพูดถึง นักบุญยอแซฟ บ้างแต่ประเดี๋ยวเดียวก็ลืมไปหมดไม่ค่อยให้ความสนใจบุรุษคนนี้ หรืออาจจะลืมไปเลยว่าเขาเป็นใคร
��ลับมาที่พระวรสารบันทึก ...แม้แต่ในวิหารเองก็ตามเมื่อยอแซฟ กับมารีย์ ได้นำพระกุมารเยซูอายุแปดวันไปถวายที่พระวิหาร สิเมโอน ผู้ชอบธรรมที่กำลังรอคอยพระเมสสิยาห์ ได้อุ้มพระกุมารและสรรเสริญพระเจ้า เขาได้ยกย่อง และอวยพรพระนาง มารีย์ สิเมโอนได้บอก ถึงคำทำนายเกี่ยวกับพระกุมาร แก่มารีย์ และบอกว่า “....พระกุมารเป็นเหตุให้หลายคนในอิสราเอลล้มลงหรือยกตั้งขึ้น ....และถึงหัวใจของท่านเองก็ยังจะถูกดาบแทงทะลุด้วย” ( ดู ลก 2.34-35 )
��ป็นคำถาม หรือว่า สิเมโอน กำลังบอกถึงว่า ยอแซฟจะต้องสูญเสียด้วยดาบอย่างนั้น? หรือเป็นการทำนายถึงชีวิตของยอแซฟก่อนที่เขาจะตายหรือเปล่า? หรือสิเมโอนรู้ว่ายอแซฟมีใจที่เขวเพราะพฤติกรรมการตั้งครรภ์ของภรรยา ความจริงเรื่องของยอแซฟกับมารีย์ไม่จำเป็นต้องคิดมาก เพราะว่าเป็นเรื่องที่ทูตสวรรค์ได้บอกกับ ยอแซฟ ว่า “อย่ากลัวที่จะรับมารีย์เป็นภรรยาของเจ้า เลยเพราะว่าผู้ปฏิสนธิในครรภ์ของเธอเป็นโดยเดชพระจิต” ( มธ. 1.20 )
ยอแซฟไม่ได้ปฏิเสธ หรืออิดออดต่อรองสักนิด แต่กลับยินดีรับดาบเล่มนี้ เพราะการสมรสของ ท่านคือการร่วมพันธกิจการทรงไถ่ของพระเจ้านั่นคือช่วยปกป้อง มารีย์ และพระกุมาร ต่อมาท่านก็ถูกส่งไปยังอียิปต์เพื่อรักษาชีวิตของพระกุมารเยซู จาก ความอิจฉาของเฮโรด ขณะอยู่ที่อียิปต์ ในฐานะคนต่างด้าว ยอแซฟต้องสละทุกอย่าง ไม่มีแผนว่าจะ การกลับบ้านเกิด เมืองนอนเมื่อไหร่ ต้องอดทน เขาขาดเพื่อนฝูง ขาด ความสะดวกสบาย เขาต้องรอคอยเวลาที่พระเจ้าจะบอกเขา ว่าจะกลับบ้านเกิดเมื่อไหร่ ��
ในพระวรสาร ไม่มีบันทึกคำพูดของ ยอแซฟไว้สักคำ การที่ท่านเป็นคนพูดน้อย แล้วจะต่อสู้กับคนที่ ดูถูกเหยียดหยาม เยาะเย้ย ซุบซิบนินทา เกี่ยวกับเรื่องของเขาได้อย่างไร? เขาจะต้องทำตัวแบบไม่รู้ไม้ชี้หรือ? พระคัมภีร์ได้บันทึกเกี่ยว ยอแซฟไ ว้น้อยมาก อย่างไรก็ตามฉันพยายามตัดความช่างคิดช่างสงสัยออกไป และมาทำความเข้าใจเรื่อง “การเชื่อฟังและวางใจในพระเจ้า” ยอแซฟ เชื่อและวางใจพระเจ้า เขาเชื่อสิ่งที่พระเจ้าตรัสกับเขาผ่านทูตของพระองค์ยามหลับ เขามั่นใจว่า ทารกน้อยนั้นมาจากพระเจ้าตามแผนการไถ่ของพระองค์ ยอแซฟ จึงเข้าร่วมแผนการไถ่โดยการ ปกป้อง เลี้ยงดู พระนางมารีย์และพระกุมาร ที่พระเจ้าทรงมอบหมายหน้าที่แก่เขา
�� ฉันจินตนาการต่อว่าถึงแม้พ่อพระยอแซฟ จะพูดน้อยมากแต่ท่านคงได้ภาวนาอย่างหนัก เป็นไปได้ไหมที่ท่าน อธิษฐานภาวนาดังนี้ “พระบิดาเจ้าข้า หากเป็นได้ขอให้ถ้วยนี้เลื่อนไปจากข้าพระองค์เถิด ขออย่าให้เป็นไปตามใจปรารถนาของข้าพระองค์เอง แต่ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์เถิด” เมื่อคิดเช่นนี้ฉันคิดถึงพระเยซูคริสต์ทรงภาวนาที่สวนเกทเสมนี เมื่อเข้าสู่ความทุกข์ยากลำบากและเหน็ดเหนื่อยมากมาย อย่างไรก็ตามเราได้เห็นถึงการเชื่อฟังของพระองค์จนถึงที่สุด ฉันเองได้เรียนรู้ว่าการภาวนาลักษณะนี้ไม่ใช่จะเกิดขึ้นง่ายได้ ในฮีบรู 5.8 “ถึงแม้ว่าพระองค์ทรงเป็นพระบุตร พระองค์ ก็ทรงเรียนรู้ที่จะนอบน้อมยอมเชื่อฟังโดยความทุกข์ลำบากที่พระองค์ได้ทรงทน”��
ขณะนั่งไตร่ตรองเข้าไปในจิตใจของ ยอแซฟ ฉันคิดว่าเขาคงจะมีความสุขและอิ่มเอมใจมากที่สุด เพราะพระเจ้าทรงให้เกียรติ และไว้วางใจเลือกเขาให้ทำหน้าที่พ่อ ซึ่งเขาเป็นผู้เลี้ยงดูอุ้มชู พระกุมารเยซู อาจจะเป็นผู้ช่วยแม่พระในการเลี้ยงดูพระกุมาร คง ช่วยป้อนอาหาร, ช่วยอาบน้ำ เป็นเพื่อนเล่น, เล่านิทานก่อนนอน หรือ อาจจะเป็นคนคอยตอบคำถาม“ทำไม...ทำไม”ของลูกชาย พ่อยอแซฟ คงคอยปลอบใจเมื่อลูกชายเจ็บปวด หรือเหมารวมว่ายอแซฟและพระกุมารเยซูได้มีโอกาสทำกิจกรรมของพ่อ กับลูกชาย
ฉันถามตัวเองว่า พระเยซูคริสต์ได้เรียนรู้จากบิดาฝ่ายเนื้อหนังของพระองค์บ้าง แน่นอนวิชาชีพงานช่างไม้ แล้วพ่อยอแซฟสอนอะไรอีกล่ะ?? แต่เรื่องของธรรมเนียมความเชื่อของชาวยิว และเรื่องของพระเจ้าไม่น่าจะสอน ในทางกลับกันทั้ง แม่พระและพ่อยอแซฟคงได้เรียนรู้เรื่องพระเจ้าจากพระเยซูคริสต์ เอาเถิดฉันบอกตัวเองว่าหลายๆเรื่องที่มนุษย์ตั้งคำถามนั้น เกินความเข้าใจของมนุษย์ และอย่าสงสัยเลย แต่ขอให้ระลึกถึงคุณพ่อยอแซฟบ้าง และเรียนรู้เรื่องการเชื่อฟังและวางใจพระเจ้าอย่างสุดจิตสุดใจแบบยอแซฟบิดาบุญธรรมของพระเยซูคริสต์เจ้าก็เป็นที่พอพระทัยของพระเจ้าแน่นอน
��บทสรุปของฉัน:
สิ่งที่ยิ่งใหญ่จากการไตร่ตรองของฉันเกี่ยวกับนักบุญยอแซฟบิดาบุญธรรมพระเยซูเจ้า คือพระเจ้าทรงใช้สถานการณ์ ที่น่าอับอายมากในการทรงเรียกยอแซฟ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเหมือนหนามที่ทิ่มแทงหัวใจ เป็นเหมือนตุ้มที่ถ่วงชีวิต แต่เปล่าเลยฉันไม่เคยฟัง ยอแซฟ ต่อว่า หรือตำหนิพระเจ้าเลย กลับกระตือรือร้นเชื่อฟัง และปฏิบัติตาม
ย้อนมาคิดถึงตัวเอง ในการดำเนินชีวิตเพื่อตอบสนองกระแสเรียกของพระเจ้า บ่อยครั้ง ฉันจะพูดมาก และชอบบ่น งอแง ต่อว่า จู้จี้จุกจุก กับพระองค์ หรือบางครั้ง ทำตัวเหมือนคนไม่มีพระเจ้า ...โอ้พระเจ้าข้าลูกขอการเริ่มต้นใหม่ ถึงแม้งานที่ทำยังไม่ประสบความสำเร็จอะไรมากมาย แต่ ลูกจะเชื่อเสมอว่าพระองค์คือพระเจ้า ผู้ยิ่งใหญ่สูงสุด และพระองค์มีแผนการที่ดีต่อลูกเสมอ ...อาเมน
( ตีพิมพ์ อิสระรายปักษ์ ลำดับที่ ๓๓ ปีที่ ๒ ฉบับที่ ๙ 2004 )
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ อังคาร พ.ย. 29, 2005 10:12 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ขอสรรเสริญความเสียสละ ความสุภาพ ของท่านนักบุญผู้ยิ่งใหญ่
บิดาเลี้ยงแห่งพระบุตร ภัสดาผู้บริสุทธิ์แห่งพรหมจารีมารีย์
นามของท่านเมื่อได้ยิน สัมผัสถึงความปลอดภัย "โอ้...ยอแซฟ ช่วยวิงวอนเทอญ"
บิดาเลี้ยงแห่งพระบุตร ภัสดาผู้บริสุทธิ์แห่งพรหมจารีมารีย์
นามของท่านเมื่อได้ยิน สัมผัสถึงความปลอดภัย "โอ้...ยอแซฟ ช่วยวิงวอนเทอญ"
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
พี่โฮลี่ ฮะ ใส่รูปสวยมากๆ และประทับใจ พ่อพระฝ่ายเนื้อหนังของพระเยซูคริสต์ ฮะ
พี่ฮะ ถ้าเราสวดว่า เยซู ยอแซฟ และมารีอา xxxxxxxxxxxxxxxxx ได้ไหมฮะ ;)
พี่ฮะ ถ้าเราสวดว่า เยซู ยอแซฟ และมารีอา xxxxxxxxxxxxxxxxx ได้ไหมฮะ ;)
อ่านแล้วซาบซึ้งมากๆค่ะ TT
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
Jeab Agape เขียน:
พี่โฮลี่ ฮะ ใส่รูปสวยมากๆ และประทับใจ พ่อพระฝ่ายเนื้อหนังของพระเยซูคริสต์ ฮะ
พี่ฮะ ถ้าเราสวดว่า เยซู ยอแซฟ และมารีอา xxxxxxxxxxxxxxxxx ได้ไหมฮะ ;)
:P :P มีมายังไงก็สวดแบบนั้นเถอะน้องเจี๊ยบ ไม่ต้องเปลี่ยนเดี๋ยวมันจะป่วนซะหมด >:( >:(
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
บางทีภาวนาแบบนี้จะขลังกว่า ก้อได้นะเจ๊ 8)seraphim เขียน:Jeab Agape เขียน:
พี่โฮลี่ ฮะ ใส่รูปสวยมากๆ และประทับใจ พ่อพระฝ่ายเนื้อหนังของพระเยซูคริสต์ ฮะ
พี่ฮะ ถ้าเราสวดว่า เยซู ยอแซฟ และมารีอา xxxxxxxxxxxxxxxxx ได้ไหมฮะ ;)
:P :P มีมายังไงก็สวดแบบนั้นเถอะน้องเจี๊ยบ ไม่ต้องเปลี่ยนเดี๋ยวมันจะป่วนซะหมด >:( >:(
สำหรับโลกที่โหดร้าย และเปี่ยมล้นคนบาป
ท่านยอแซฟ ก็เป็นคนที่น่ายกย่องมาก เพราะปฏิบัติตามพระดำรัสของพระบิดาทุกระเบียดนิ้ว และพาพระบุตรพ้นอันตรายต่างๆได้
ท่านยอแซฟ ก็เป็นคนที่น่ายกย่องมาก เพราะปฏิบัติตามพระดำรัสของพระบิดาทุกระเบียดนิ้ว และพาพระบุตรพ้นอันตรายต่างๆได้
-
- โพสต์: 659
- ลงทะเบียนเมื่อ: เสาร์ ก.ย. 10, 2005 2:01 pm
- ที่อยู่: I believe in God...
อืม...เป็นเรื่องที่น่าสนใจมากครับ ขอบคุณครับ
สดุดีนักบุญยอแซฟ
1. เราขอสดุดีนักบุญองค์หนึ่ง ที่เรียนรู้ซึ้งถึงความรักของพระเจ้า
ถือธรรมบัญญัติเชื่อตามพระทรงสั่ง ตรัสทางท่านผู้ทำนายก่อนนั้น
ด้วยเหตุนี้ไซร้ท่านจึงเป็นผู้ชอบธรรม
(รับ) ยอแซฟท่านนักบุญที่โปรดปรานของพระเจ้า
ฟังเราเฝ้าวิงวอนโปรดเสนอเพื่อเรา
ยอแซฟท่านเพียบพร้อมด้วยคุณธรรมอันสูงเด่น
โปรดเป็นผู้เสนอวิงวอนเพื่อเราเทอญ
2. เราขอสดุดีนักบุญยิ่งใหญ่ จิตลึกซึ้งเชื่อในพระองค์ทรงศักดิ์
ยอมรับสมัครอุ้มชูพระปิยบุตร หมดความสงสัยเชื่อฟังเทวทูตนั้น
ด้วยเหตุนี้ไซร้ท่านจึงเป็นผู้ชอบธรรม
1. เราขอสดุดีนักบุญองค์หนึ่ง ที่เรียนรู้ซึ้งถึงความรักของพระเจ้า
ถือธรรมบัญญัติเชื่อตามพระทรงสั่ง ตรัสทางท่านผู้ทำนายก่อนนั้น
ด้วยเหตุนี้ไซร้ท่านจึงเป็นผู้ชอบธรรม
(รับ) ยอแซฟท่านนักบุญที่โปรดปรานของพระเจ้า
ฟังเราเฝ้าวิงวอนโปรดเสนอเพื่อเรา
ยอแซฟท่านเพียบพร้อมด้วยคุณธรรมอันสูงเด่น
โปรดเป็นผู้เสนอวิงวอนเพื่อเราเทอญ
2. เราขอสดุดีนักบุญยิ่งใหญ่ จิตลึกซึ้งเชื่อในพระองค์ทรงศักดิ์
ยอมรับสมัครอุ้มชูพระปิยบุตร หมดความสงสัยเชื่อฟังเทวทูตนั้น
ด้วยเหตุนี้ไซร้ท่านจึงเป็นผู้ชอบธรรม
บทสวดบทนี้เรียงตามลำดับบทบาทความสำคัญ เพราะต่อจากพระเยซูเจ้าแล้ว พระแม่มารีย์เป็นบุคคลที่ได้รับยกย่องสูงกว่านักบุญและเทวดาทั้งหลายบนสวรรค์ครับJeab Agape เขียน:
พี่โฮลี่ ฮะ ใส่รูปสวยมากๆ และประทับใจ พ่อพระฝ่ายเนื้อหนังของพระเยซูคริสต์ ฮะ
พี่ฮะ ถ้าเราสวดว่า เยซู ยอแซฟ และมารีอา xxxxxxxxxxxxxxxxx ได้ไหมฮะ ;)
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
กั๊บ พี่ดีไวท์ ขอบคุณมากๆ
พี่เพชร บทสดุดีนี่ ใช้ร้องตอนมิสซา หรือเปล่าล่ะ 8)
พี่เพชร บทสดุดีนี่ ใช้ร้องตอนมิสซา หรือเปล่าล่ะ 8)
นี้เป็นเพลงที่ใช้ขับร้องเวลาฉลองนักบุญยอแซฟครับ เป็นเพลงที่ทำนองไพเราะครับ รู้สึกว่าจะมีซีดีเพลงด้วยพอดีวัดนักบุญยอฉซฟอยุธยาทำขึ้นโอกาสบูรณะวัดใหม่ครับJeab Agape เขียน:
กั๊บ พี่ดีไวท์ ขอบคุณมากๆ
พี่เพชร บทสดุดีนี่ ใช้ร้องตอนมิสซา หรือเปล่าล่ะ 8)
บทภาวนาวิงวอนนักบุญยอแซฟ
ข้าแต่นักบุญยอแซฟ องค์อุปถัมภ์และบิดาของผู้ถือพรหหมจรรย์ทั้งหลาย
พระเป็นเจ้าทรงมอบหมายให้ท่านเป็นผู้พิทักษ์พระเยซูเจ้าองค์ความศักดิ์สิทธิ์
และพระแม่มารีอาพรหมจารีแห่งพรหมจารีทั้งหลาย
เดชะของฝากอันเป็นที่รักหวงแหนของท่าน คือองค์พระเยซูเจ้าและพระแม่มารีอา
ข้าพเจ้าวิงวอนรบเร้า ขอท่านช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากความโสมมชั่วช้า
ให้ข้าพเจ้าวิมลในความคิด บริสทธิ์ในดวงใจ หมดจดในร่างกาย
เพื่อสามารถปรนนิบัติพระเยซูเจ้าและพระแม่มารีอา
ด้วยใจผ่องใสตลอดไปด้วยเถิด อาแมน
แก้ไขล่าสุดโดย Divine Mercy เมื่อ พฤหัสฯ. ธ.ค. 08, 2005 2:33 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
เราไม่ได้ลืมท่านนะคะ
ดิฉันจำได้ คนโบราณจะสอนเสมอว่า ท่านเป็นช่างไม้ ท่านเก่ง ฉะนั้น เวลามีงานการอะไรที่ยากๆในชีวิตเรา เราก็จะสวดขอนักบุญยอแซฟเสมอๆ สิ่งที่ยากก็จะเป็นง่าย หนักก็เป็นเบา และก่อนนอน ผู้ใหญ่ในบ้านจะให้สวด "เยซู มารีอา ยอแซฟ... " เสมอค่ะ
ดิฉันจำได้ คนโบราณจะสอนเสมอว่า ท่านเป็นช่างไม้ ท่านเก่ง ฉะนั้น เวลามีงานการอะไรที่ยากๆในชีวิตเรา เราก็จะสวดขอนักบุญยอแซฟเสมอๆ สิ่งที่ยากก็จะเป็นง่าย หนักก็เป็นเบา และก่อนนอน ผู้ใหญ่ในบ้านจะให้สวด "เยซู มารีอา ยอแซฟ... " เสมอค่ะ
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
เมื่อเช้า อ่านเรื่องครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ และเราเรียนรู้ถึง ชีวิตของ โยเซฟ บิดา บุญธรรมของพระเยซูเจ้า
จึงขอรื้อมาอ่านกันอีกครั้ง ฮะ
จึงขอรื้อมาอ่านกันอีกครั้ง ฮะ
เห็น คนที่ไป หนังthe Nativity Story
มาบอกว่า บทเด่นที่สุดของเรื่อง คือโยเซฟครับ
ดีใจที่หลายๆคน เห็นความสำคัญ ของพ่อบุญธรรมพระเยซูมากยิ่งขึ้น
มาบอกว่า บทเด่นที่สุดของเรื่อง คือโยเซฟครับ
ดีใจที่หลายๆคน เห็นความสำคัญ ของพ่อบุญธรรมพระเยซูมากยิ่งขึ้น
ท่านนักบุญยอแซฟไม่มีคำพูดใน Bible
แต่การกระทำของท่านที่อุทิศทั้งชีวิต
ท่านให้ชีวิตแก่พระ
ทำหน้าที่ ละความสุขฝ่ายเนื้อหนัง
เพื่อความสุขที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับพระ
ท่านเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับทุกคน
โดยเฉพาะผู้ที่เป็นสงฆ์
ที่จะเลียนแบบท่าน
แต่การกระทำของท่านที่อุทิศทั้งชีวิต
ท่านให้ชีวิตแก่พระ
ทำหน้าที่ ละความสุขฝ่ายเนื้อหนัง
เพื่อความสุขที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับพระ
ท่านเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับทุกคน
โดยเฉพาะผู้ที่เป็นสงฆ์
ที่จะเลียนแบบท่าน
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
นำกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อ ชวนกันพิจารณาถึง พ่อพระของพระกุมารเยซู ฮะ
ขอบคุณมากครับ สำหรับบทความดีๆ