โดย โปรดปราน ( พีพี )
หลังจากเขียนบทความเกี่ยวกับแม่พระสองครั้ง ผู้อ่านท่านหนึ่ง ถามว่า “ทำไมคุณพีพีไม่เขียนเกี่ยวกับ พ่อพระฝ่ายเนื้อหนังของพระเยซูคริสต์บ้างละ” “นั่นนะสิ” ขอสารภาพว่า คริสตจักรของโปรเตสแตนต์แทบจะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับ ยอแซฟ บิดาบุญธรรมของพระกุมารเยซู ยกเว้นตอนกำเนิดพระกุมาร ที่มักจะแสดงเป็นละครช่วงคริสตมาส ซึ่งผู้ชมจะเห็นบทบาทของยอแซฟ จูงลาที่แม่พระครรภ์แก่ๆนั่งอยู่ แล้วภาพที่โรงวัว พระกุมารนอนในรางหญ้า แม่พระนั่งข้างๆรางหญ้านั้น และพ่อพระยอแซฟยืนข้างๆแม่พระ

...ต่อไปอีกฉากหนึ่ง มีฝูงชนตามดวงดาวไปหยุดหน้าบ้านยอแซฟ ก็เห็นภาพของพระกุมาร แม่พระ นักบุญยอแซฟ ยืนข้างๆ มีนักปราชญ์จากตะวันออกนำของกำนัลมาถวาย ภาพสุดท้ายคือ ยอแซฟ หอบหิ้วพระนางมารีย์ และพระกุมารหนีภัยไปอียิปต์โน่น

๑.ยอแซฟเข้าใจน้ำพระทัยพระเจ้าผ่านความฝัน
วันพ่อของไทย ก็ใกล้วันคริสตมาส ขอใช้บทความนี้เพื่อรำลึกถึงคุณความดีของบิดาบุญธรรมของพระเยซูคริสต์ ขอเชิญผู้อ่านทบทวนบทบาทของนักบุญยอแซฟ พระภัสดาของพระนางพรหมจารีมารีย์ กันสักครั้ง...ฉันไตร่ตรองแล้วถามตัวเองว่า “ใครจะเคยคิดบ้างนะว่า ยอแซฟ หนุ่มช่างไม้ธรรมดาๆ ชาวนาซาเร็ธ และไม่มีใครรู้จัก กลับได้เป็นบิดาบุญธรรมของพระเจ้า” ...ในขณะที่พระนางพรหมจารีมารีย์ มีประสบการณ์ส่วนตัวกับพระเจ้า ด้วยเรื่องพระมหาไถ่นั้น ยอแซฟเองก็ได้รับประสบการณ์แปลกประหลาดนั้นด้วย ทูตของพระเจ้าปรากฏแก่ยอแซฟในฝัน“...ยอแซฟบุตรดาวิด อย่ากลัวที่จะรับมารีย์เป็นภรรยาของเจ้าเลย เพราะผู้ที่ปฏิสนธิในครรภ์ของเธอเป็นโดยเดชพระวิญญาณบริสุทธิ์” ( มัทธิว ๑.๒๐ ) ประสบการณ์ที่ยอแซฟต้องเรียนรู้คือ “ไม่มีสิ่งใดที่พระเจ้าทรงกระทำไม่ได้” พระคัมภีร์บันทึกว่า “ยอแซฟ”คือเขาเป็นคนมีธัมมะ เมื่อทราบว่า คู่หมั้นของเขาตั้งครรภ์กับใครก็ไม่รู้ จึงคิดจะถอนหมั้นอย่างลับๆและไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ พระเจ้าทรงทอดพระเนตรในจิตใจของเขาพระองค์ทรงรู้จักดี ดังนั้นทูตของพระเจ้า ก็ไปหาเขาในฝัน พร้อมทั้งแจ้งเรื่องลึกลับเรื่องการตั้งครรภ์ของมารีย์ ทูตของพระเจ้าบอกเขาว่า ทารกในครรภ์ของมารีย์นั้นเป็นเพศชาย และให้ตั้งชื่อว่า “เยซู”ทารกจะเป็นคนช่วยชนชาติให้รอด ขณะที่ยอแซฟกำลังตกตลึงอยู่ ทูตของพระเจ้ารีบทบทวนพระธรรมของประกาศกอิสยาห์ว่า “ดูเถิด หญิงพรหมจารีย์คนหนึ่งจะตั้งครรภ์และคลอดบุตรชายคนหนึ่ง และเขาจะเรียกนามของท่านว่าอิมมานูเอล (แปลว่าพระเจ้าอยู่กับเรา )” หลังจากนั้นยอแซฟตื่นขึ้นมาและได้ตรึกตรองเชื่อว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในฝันนั้นคือความจริง เขาจึงรับมารีย์เป็นภรรยา และไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางเพศ ( ดูมัทธิว ๑.๑๘-๒๕ ) หน้าที่ของการเป็นบิดาของพระเยซูเจ้านั้นต้องผนวกกับภาระด้วย... ต่อมามีคำสั่งจากจักรพรรดิซีซาร์ออกัสตัสให้ชายทุกคนและครอบครัวของตน ไปจดทะเบียนสำมะโนครัว ณ บ้านเกิดเมืองนอนตามวงศ์ตระกูลของตน การจดทะเบียนนี้เพื่อการเก็บภาษี ยอแซฟมีเชื้อสายดาวิด จึงต้องไปจดทะเบียนที่เมืองเบธเลเฮม ถึงแม้ว่าภรรยาจะครรภ์แก่ยอแซฟก็ต้องพานางลงไปด้วย เพราะคำสั่งของรัฐนั้นสำคัญ ถ้าฝ่าฝืนจะมีโทษหนัก ...เมื่อการเดินทางของยอแซฟและมารีย์มาถึงที่เบธเลเฮม... ยอแซฟ คงคิดได้ว่า ทำไมมารีย์ภรรยาถึงกระตือรือร้นที่จะติดตามเขาไปด้วย เธอคงคิดถึง พระวาจาผ่านประกาศก มีคาร์ว่า “บ้านเบธเลเฮมในแผ่นดินยูเดียจะเป็นบ้านเล็กน้อยที่สุดในสายตาของบรรดา ผู้ครอบครองแผ่นดินยูเดีย ก็หามิได้ เพราะว่าเจ้านายคนหนึ่งจะออกมาจากท่าน ผู้นี้จะครอบครองอิสราเอลชนชาติของเรา” ( มีคาร์ ๕.๒ ) อนิจจายอแซฟและมารีย์พบความจริงว่าที่เมือง “ เบธเลเฮม”ขณะนั้นวุ่นวายไม่มีที่พักเพราะผู้คนจากที่ต่างๆหลั่งไหลกันมาที่เบธเลเฮม เพื่อจดทะเบียนสำมะโนครัวเหมือนยอแซฟ ยอแซฟจึงได้ติดต่อขอที่พักเพื่อภรรยาที่ครรภ์แก่กับเขา ห้องพักเต็ม ยอแซฟได้ตัดสินใจ ขอพักที่โรงสัตว์ของโรงแรมนั้น ในที่สุดทารกน้อย พระมหาไถ่ของมนุษยชาติได้ถือกำเนิดในสถานที่ต่ำต้อยที่สุด นั้นคือที่โรงสัตว์ เปลน้อยของพระกุมารคือ รางหญ้า

ณ เวลานี้ ยอแซฟบิดาบุญธรรมของพระกุมารเยซู เข้าใจกระจ่างแจ้ง ถึงวิธีการของพระเจ้าที่ทรงใช้พระบุตรมาช่วยกู้โลกให้รอด พระองค์ เสด็จเข้ามาอย่างไร เขาเห็นภาพชัดเจนที่ว่าพระเยซูเจ้าเกิดมาเพื่อปรนนิบัติ พระเจ้าทรงประทานพระบุตรเข้ามาช่วยคนบาปด้วยสภาพที่ต่ำต้อย เพื่อว่าจะสามารถช่วยนำคนบาปที่ใจแข็ง กลับไปคืนดีกับพระบิดาเจ้า