คนที่ชอบเพศเดียวกันผิดบาปป่าวครับ

ใครมาใหม่เชิญทางนี้ก่อน ทักทาย ทดลองโพส
kingdom

ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 2:15 am

แล้วถ้ามีไรกันแย้วล่ะ(ว้าแย่จัง)
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 2:20 am

ถ้ามีไรกันก็บาปครับ ต้องแก้บาป อ่านหน้าบทความนะครับ

http://www.newmana.com/important/homo01.htm
veevy2006
โพสต์: 51
ลงทะเบียนเมื่อ: ศุกร์ พ.ค. 27, 2005 4:33 pm
ที่อยู่: Phuket

ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 2:22 am

ผิดบาปหนัก ถ้าแค่ชอบก็คงไม่ผิด
115

ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 2:26 am

kingdom เขียน: แล้วถ้ามีไรกันแย้วล่ะ(ว้าแย่จัง)
แล้วถ้ายังมีไรกันอีกหลังจากที่สารภาพบาปแล้วล่ะครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 2:27 am

การสารภาพบาป คือการขอโทษพระเจ้า และพยายามที่จะไม่ทำบาปนั้นๆอีก การที่เราไปสารภาพแล้วเราต้องตั้งใจที่จะเลิกบาปนั้นๆด้วยครับ
115

ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 2:29 am

kingdom เขียน: แล้วถ้ามีไรกันแย้วล่ะ(ว้าแย่จัง)
แล้วผมต้องทำไงต่อดีครับ
ผมไม่รู้............ผมกลัวครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 2:32 am

พยายามเลิกสิครับ เลิกคิดฟุ้งซ่านทางเพศซะ อย่างบรรดานักบวชในศาสนาต่างๆ ก็มักถือพรหมจรรย์กันทั้งนั้น แล้วส่วนใหญ่ท่านก็ทำกันได้(ส่วนน้อยที่เรามักเห็นเป็นข่าวแต่ข่าวก้มีลงเรื่อยๆจนเรารู้สึกว่ามาก)

ดังนั้นความเป็นจริง เรามีชีวิตอยู่โดยไม่ต้องมีเซ็กซ์ก็ได้นะครับ ดังนั้นไม่มีอะไรต้องกลัวครับ กลัวบาปอย่างเดียวก็พอ และจงมีกำลังใจในการเอาชนะความผิดบาปของเรา
115

ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 2:36 am

kingdom เขียน: แล้วถ้ามีไรกันแย้วล่ะ(ว้าแย่จัง)
เศร้าเหลือเกินครับ
นี่พรุงนี้เขาก็นัดเจอกับผมอีกแล้ว
ไม้รู้จะบอกยังไง
เศร้าครับ...ฮือ.ฮือ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 3:05 am

ก็เจอกันแต่ไม่ต้องร่วมเพศกันไม่ได้เหรอครับ
abeenadai

ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 3:15 am

kingdom เขียน: แล้วถ้ามีไรกันแย้วล่ะ(ว้าแย่จัง)
ไม่รู้เหมือนกันว่าใจจะแข็งพอป่าว
ขอบคุณครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Nihil
~@
โพสต์: 1763
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 4:36 pm
ที่อยู่: Pax
ติดต่อ:

ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 4:55 am

ขอเป็นกำลังใจเอาใจช่วยครับ พระเจ้าอวยพระพรครับ
minnie

ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 8:58 am

ความเห็นส่วนตัวของเราน๊ะ

เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน

ตามกฏพระศาสนจักร บาปงะ

เราไม่เข้าใจที่ว่า จากที่เราเรียนคำสอนมา เกย์ตุ๊ต กลับใจมาเป็นคริสชนตริม

ความคิดเห็นของเรา

เราไม่เคยเห็นพระเป็นเจ้าเลือกประเภทดีพร้อม 100%กลับใจมาเลยอะ

พระเป็นเจ้าเลือกคนที่บกพร่อง ทางร่างกาย และจิตใจมาทั้งน้านนน

แต่เราเข้าใจลึกๆๆอย่างเดียวว่า พระเป็นเจ้าเลือกคนที่ส่วนลึกในจิตใจเป็นคนดี

พระเป็นเจ้าไม่ได้มองมนุษย์ที่ภายนอก งะ

ในส่วนลึกของจิตใจ ทุกคนที่กลับใจน๊ะ

พระเป็นเจ้าไม่ได้มองภายนอกงะ :D
Batholomew
~@
โพสต์: 12724
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
ที่อยู่: Thailand

ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 9:03 am

เป็นกำลังใจให้นะครับ
:+: seraphim :+:
~@
โพสต์: 7624
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
ที่อยู่: Pattaya Chonburi

ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 11:14 am

:) เป็นกำลังใจให้คะ พระองค์รอการกลับใจของคุณอยู่นะคะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Immanuel (MichaelPaul)
~@
โพสต์: 2887
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร

ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 1:05 pm

ถ้ามีอะไรกันแล้ว อย่าว่าแต่ ชาย-ชาย/ หญิง-หญิงเลยครับ ชายกะหญิง ถ้ามีไรกันโดยยังไม่ได้แต่งงานก็บาปแหละครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 2:00 pm

พระเจ้า คือองค์ความรัก

พระเจ้า ไม่ห้ามที่เราจะ รักใครครับ :D

แต่อย่างให้ ความหลง ทางตัณหาฝ่ายกามา ห้ามแทรก

ปล. กรณี คริสเตียน ที่พี่หนุ่ยมินนี่ว่า

เค้าสามารถเปลี่ยน พวก ที่เป้ฯตามสภาพแวดล้อมได้ครับ :-[


แต่ ไม่สามารถ เปลี่ยน พวก born to be ได้ ;D


เพราะพระเจ้าได้บอกล่วงหน้าถึง พวกเขาเหล่านี้แล้ว :o

มัทธิว19:12

"ด้วยว่าผู้ที่เป็นขันทีตั้งแต่กำเนิดก็มี ผู้ที่มนุษย์กระทำให้เป็นขันทีก็มี
ผู้ที่กระทำตัวเองให้เป็นขันทีเพราะเห็นแก่แผ่นดินสวรรค์ก็มี ใครถือได้ก็ให้ถือเอาเถิด "
ภาพประจำตัวสมาชิก
~@Little lamb@~
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 9396
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
ติดต่อ:

ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 5:53 pm

ถูก...การมีเพศสัมพันธ์กันก่อนแต่งงานก็ผิดบาปทั้งนั้น
ไม่นับว่าจะเพศเดียวกัน หรือ เพศตรงข้าม

ดังนั้น การเป็นอะไรนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะมาตัดสินผิดชั่ว
แต่การกระทำต่างหากที่ตัดสินเรา
ภาพประจำตัวสมาชิก
Ot@
~@
โพสต์: 989
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:44 pm

ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 6:05 pm

minnie เขียน:
ความคิดเห็นของเรา

เราไม่เคยเห็นพระเป็นเจ้าเลือกประเภทดีพร้อม 100%กลับใจมาเลยอะ
ไม่มีใครเป็นประเภทดีพร้อม100%
:+: seraphim :+:
~@
โพสต์: 7624
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
ที่อยู่: Pattaya Chonburi

ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 6:05 pm

:) ร่างกาย คือ วิหารของพระเจ้าคะ เราควรให้ความเคารพในตัวเองด้วย เนื่องจากเป็นพระวิหารศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 6:13 pm

Ot@ เขียน:
minnie เขียน:
ความคิดเห็นของเรา

เราไม่เคยเห็นพระเป็นเจ้าเลือกประเภทดีพร้อม 100%กลับใจมาเลยอะ
ไม่มีใครเป็นประเภทดีพร้อม100%
นั่นสิ

มก 10:18
ไม่มีใครทรงความดีนอกจากพระเจ้าเท่านั้น
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 6:15 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
Joseph
โพสต์: 2182
ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ เม.ย. 27, 2005 6:31 am

ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 6:34 pm

ถ้าเขาไม่กลับใจให้เราอยู่ห่างๆ ไว้ดีกว่าครับ (1 โครินธ์ 5) เราควรถวายสิ่งนี้ให้พระเจ้า เป็นกางเขนที่เราต้องแบก การมีอย่างนั้นกับผู้ชายด้วยกันพี่ว่าผิดยิ่งกว่าเพศตรงข้ามเสียอีก เพราะพระเจ้าไม่ได้สร้างมาให้เป็นอย่างนั้น

นี่คือขอพระคัมภีร์ที่พระเจ้าพูดถึงผู้ชายที่ติดผู้หญิงกลางคืน ไม่รักเดียวใจเดียว
"22ความบาปชั่วของคนชั่วร้ายดักเขาเอง และเขาก็ติดอยู่กับตาข่ายบาปของเขา 23เขาตายเพราะขาดวินัยในชีวิต และเพราะความโง่อย่างยิ่งของเขา เขาจึงหลงเจิ่นไป"(สุภาษิต. 5 : 22 -23) :) สรุปว่า จงรักเดียวใจเดียว จงมีวินัยในชีวิต อย่ามีความต้องการตรงนั้นกับชายใดหญิงใดที่ไม่ใช้ภรรยาของเรา

"คนที่ล่วงประเวณีนั้นพระเจ้าทรงพิพากษาลงโทษเข้า" (ฮบ.13 : 6) พี่ไม่ได้ว่าน้องนะพี่แบ่งปันพระคัมภีร์เพราะความห่วงใย :)
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 9:29 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
abeenadai

เสาร์ มิ.ย. 10, 2006 1:42 pm

มันพูดยากนะครับ ความรู้สึกน่ะ...
อย่างถ้าคนเราชอบหรือเชื่อหรือจิตใจมุ่งตรงไปหาอะไรสักอย่างเนี่ย
ถ้าจะทำให้เขาคนนั้นเปลี่ยนทิศทางชีวิตของเขาละก็...
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันวเต้องใช้วิธีใหน และขอทราบหลักเกณฑ์ในการตัดสินได้ใหมครับ
มันมี 2 ข้อครับ
1. ได้
2. ไม่ได้
สมมุติว่าวนหนึ่งนะครับมีคนมาบอกคุณว่าให้เลิกันกับแฟนของคุณซะ
เพราะว่าเขามีเมียแล้ว และคุณก้รักเขาคนนี้มากมายด้วย
จนเคยสัญญากันว่าหากขาดคนใดคนหนึ่งไป อีกคนต้องอยู่ไมได้แน่แน่
ผมอยากถามว่า...คุณจะใช้อะไรในการตัดสินใจว่าจะเลิกกันกับเขาหรือจะอยู่ต่อไปเพราะเห็นแก่ความรักและคำสัญญา....
ใจเย้นครับ..ผมกำลังจะโยงเข้าสู่เรื่องนี้ ความรู้สึกของผมตอนนี้ก็คงไม่ต่างจากตัวอย่างที่ยกมาแล้ว
มันเป้นความรู้สึกแบบที่ผุ้ชายคนหนึ่งมีกับผู้หญิงคนหนึ่งต่างกันเพียงว่าเป็นผู้ชายเท่านั้น
ลืมบอกไปครับว่า ผมแมน 100% และมีความรู้สึกอย่างนี้กับผู้ชายคนนี้เพียงคนเดียว
ทำไมครับ เพราะพระคัมภีร์หรือครับ หรือเพรากฏเหณฑ์ทางสังคม หรือเพราะความเหมาะสม...
ผมคิดว่าโลกแยกเพศชายเพศหญิงเพียงเพื่อต้องการแยกคนสองคนออกจากกันเท่านั้นไม่ใช่เหรอครับ
....................
Jeab Agape
~@
โพสต์: 8259
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
ที่อยู่: Bangkok

เสาร์ มิ.ย. 10, 2006 2:14 pm

ประเด็นนี้ยาวทุกที และจบลง โดยทางใครทางมัน

นักบุญเปาโล บอกว่าเรามีเสรีภาพ แต่อย่าให้เสรีภาพนั้น ทำลาย ความจริงของพระเจ้า

พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ มาตรัสว่า "ดีนัก" ดังนั้น บางเรื่อง เป็นเรื่องของความอดทน และอุทิศ ฮะ
ภาพประจำตัวสมาชิก
Andreas
~@
โพสต์: 3131
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 7:47 am
ที่อยู่: Bangkok
ติดต่อ:

เสาร์ มิ.ย. 10, 2006 2:20 pm

เห็นด้วยครับ เรื่องแบบนี้คุยเท่าไรไม่จบ อยู่ที่ตัวของคน ๆ นั้น ว่าจะต่อสู้กับการทดลองได้หรือไม่ อย่าลืม พระเจ้าทรงประทานพระหรรษทานให้เราเพียงพอเสมอ และเรื่องแบบนี้เราไม่ได้สู้จนถึงขนาดต้องหลั่งโลหิต แม้จะล้มไปบ้างก็จงลุกขึ้นมาใหม่ บาปต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบาปอะไรก็ตาม มันก็ไม่ต่างกัน เพราะมันคือบาป ไม่มีบาปไหนดูแย่กว่า หรือดูดีกว่ากัน เพราะบาปทุก ๆ ชนิดล้วนเป็นสิ่งที่ไม่น่าดูในสายพระเนตรของพระเจ้า
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

เสาร์ มิ.ย. 10, 2006 3:54 pm

ยกอันนี้ให้ไปคิดแล้วกันครับ

มธ 19:10-12 การสมัครใจไม่แต่งงาน
   บรรดาศิษย์ทูลพระองค์ว่า
พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ
~@
โพสต์: 2546
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm

เสาร์ มิ.ย. 10, 2006 5:53 pm

มันไม่ใช่เรื่องของพระคำภีร์ หรือกฏเกณฑ์ของสังคมหรอกครับ แต่มันเป็นเรื่องของความรักนะครับ

ระหว่าง
.
.
ความรักของเรากับเขา และ ความรักของเรากับพระเป็นเจ้า


โอเคครับรักกันไม่ว่าจะเพศไหนพระองค์ไม่เคยห้าม...แต่ถ้ารักกันแล้วต้องมีอะไรกันที่ไม่ใช่เพราะการสืบเผ่าพันธุ์มนุษย์(ไม่ว่าจะชาย-ชาย , หญิง-หญิง หรือแม้กระทั่งชาย-หญิง ก็ตาม)

ไม่เคยห้ามนะครับเรื่องความรักแต่ขอให้เป็นความรักที่บริสุทธ์ ถ้าความรักของคุณที่มีให้เขานั้นเป็นความรักที่บริสุทธ์ใจ คุณก็ไม่จำเป็นต้องแคร์กับการเลิกกันหรือไม่เลิกกันเพราะความรักนั้นไม่ใช่เรื่องของพันธทางร่างกาย แต่เป็นเรื่องของพันธทางจิตใจ ความรักเป็นสิ่งที่ดี แต่การมีอะไรกันเพราะสนองตัณหานั้นไม่ควร ส่วนคำพูดที่ว่า"มีอะไรกันเพราะรัก"นั้น เอาเข้าจริงๆแล้วก็เพื่อสนองตัณหาเท่านั้นครับเพราะว่าถ้ารักกันจริงแล้วก็ลองไม่มีอะไรกันดูสิว่าจะยังรักกันและอยู่ด้วยกันได้หรือไม่?(เช่นเมื่อแก่ตัวไปแบบว่ามัน "ไม่ปึ๋งปั๋ง"แล้วยังจะรักกันอยู่หรือเปล่า) เพราะถ้าอยู่ไม่ได้เพียงเพราะไม่ยอมมีอะไรกันนี่ก็ไม่ใช่ความรักแล้วละครับ


ถ้าแฟนเรารับไม่ได้ที่จะไม่มีอะไรกัน เราก้ต้องชั่งระหว่างความรักของเรากับแฟน และความรักของเรากับพระเป็นเจ้า ครับว่าเราจะให้สิ่งไหนมีความสำคัญมากกว่าสำหรับเรา ซึ่งผมเองตอนเลิกกับแฟน(ผู้ชาย)ก็ทำใจลำบากเหมือนกันครับแต่สุดท้ายผมก็เลิกไปเพราะเห็นแก่พระองค์ แต่ว่าทุกวันนี้เราก็ยังโทรคุยกันอยู่ครับยังรักกันยังไปเที่ยวด้วยกันเสมอต่างคนก็รักกันเหมือนเดิมทั้งๆที่ไม่ได้มีอะไรกัน
Jezebel

เสาร์ มิ.ย. 10, 2006 7:10 pm

พระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ(เจ้ทา) เขียน: มันไม่ใช่เรื่องของพระคำภีร์ หรือกฏเกณฑ์ของสังคมหรอกครับ แต่มันเป็นเรื่องของความรักนะครับ

ระหว่าง
.
.
ความรักของเรากับเขา และ ความรักของเรากับพระเป็นเจ้า


โอเคครับรักกันไม่ว่าจะเพศไหนพระองค์ไม่เคยห้าม...แต่ถ้ารักกันแล้วต้องมีอะไรกันที่ไม่ใช่เพราะการสืบเผ่าพันธุ์มนุษย์(ไม่ว่าจะชาย-ชาย , หญิง-หญิง หรือแม้กระทั่งชาย-หญิง ก็ตาม)

ไม่เคยห้ามนะครับเรื่องความรักแต่ขอให้เป็นความรักที่บริสุทธ์ ถ้าความรักของคุณที่มีให้เขานั้นเป็นความรักที่บริสุทธ์ใจ คุณก็ไม่จำเป็นต้องแคร์กับการเลิกกันหรือไม่เลิกกันเพราะความรักนั้นไม่ใช่เรื่องของพันธทางร่างกาย แต่เป็นเรื่องของพันธทางจิตใจ ความรักเป็นสิ่งที่ดี แต่การมีอะไรกันเพราะสนองตัณหานั้นไม่ควร ส่วนคำพูดที่ว่า"มีอะไรกันเพราะรัก"นั้น เอาเข้าจริงๆแล้วก็เพื่อสนองตัณหาเท่านั้นครับเพราะว่าถ้ารักกันจริงแล้วก็ลองไม่มีอะไรกันดูสิว่าจะยังรักกันและอยู่ด้วยกันได้หรือไม่?(เช่นเมื่อแก่ตัวไปแบบว่ามัน "ไม่ปึ๋งปั๋ง"แล้วยังจะรักกันอยู่หรือเปล่า) เพราะถ้าอยู่ไม่ได้เพียงเพราะไม่ยอมมีอะไรกันนี่ก็ไม่ใช่ความรักแล้วละครับ


ถ้าแฟนเรารับไม่ได้ที่จะไม่มีอะไรกัน เราก้ต้องชั่งระหว่างความรักของเรากับแฟน และความรักของเรากับพระเป็นเจ้า ครับว่าเราจะให้สิ่งไหนมีความสำคัญมากกว่าสำหรับเรา ซึ่งผมเองตอนเลิกกับแฟน(ผู้ชาย)ก็ทำใจลำบากเหมือนกันครับแต่สุดท้ายผมก็เลิกไปเพราะเห็นแก่พระองค์ แต่ว่าทุกวันนี้เราก็ยังโทรคุยกันอยู่ครับยังรักกันยังไปเที่ยวด้วยกันเสมอต่างคนก็รักกันเหมือนเดิมทั้งๆที่ไม่ได้มีอะไรกัน
ขอร่วมอภิปรายต่อจากน้องปั๊มนิดนึงค่ะ

เจ๊ขออ้างพระดำรัสของพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ในพระสมณสาส์น"Deus Caritas Est" พระเจ้าเป็นความรัก หน่อยนึงค่ะ พระองค์ทรงอ้างถึงความรัก 3 ประเภท แยกใช้ศัพท์ภาษากรีก 3 คำ ดังนี้ค่ะ

1.eros ความรักแบบชาย-หญิง

2.philia ความรักแบบมิตรภาพ

3.agape ความรักบริสุทธิ์ต่อเพื่อนมนุษย์

ความรักทั้งสามประเภทนี้ มีความสำคัญทั้งสิ้น

อย่างที่เจ๊เคยพูดไว้บ้างว่า คนเราในทุกวันนี้สนใจแต่ความรักแบบ eros มากเกินไป จนไม่เห็นความรักอีกสองแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบบที่สาม ดูจะเป็นสิ่งที่น่าแปลกประหลาดมากสำหรับคนมากมายในยุคนี้ รวมถึงคริสตชนจำนวนไม่น้อยด้วย ที่เมื่อพูดถึงความรักก็จะคิดไปถึงแต่ความรักแบบ eros อยู่ร่ำไป ฉะนั้น สำหรับคนยุคนี้ โดยทั่วไป คำว่า"รัก"ก็มักจะต้องแฝงความหมายนัยประหวัดไปถึงการมีสัมพันธ์แบบคู่รักด้วยบ้างไม่มากก็น้อย ถ้าใครคนหนึ่งบอกว่าเขารักใครอีกคนหนึ่ง ก็ดูเหมือนจะแปลว่า เขากำลังมีerosอยู่กับอีกคนหนึ่ง ทั้งๆที่ความจริงแล้ว อาจกำลังมีagapeอยู่ก็ได้ เรามักจะไม่แยกแยะมิติของความรักแบบต่างๆ จึงอาจเกิดความสับสนว่าความรักคืออะไร และควรแสดงออกมาอย่างไรจึงจะเหมาะสม ถ้าความรักหมายถึงต้องมีสัมพันธ์สวาทเสมอไป ก็น่าจะกล่าวได้ว่าเป็นความเข้าใจต่อความรักที่ผิดเพี้ยนไป จึงอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือเข้าใจไม่ตรงกัน เพราะมีความเข้าใจต่อคำว่า"รัก"ที่ผิดแผกแตกต่างกันออกไป

สรุปค่ะ ดังนี้เจ๊จึงเห็นด้วยกับน้องปั๊มเต็มอัตราศึกค่ะ ขอบคุณ
แก้ไขล่าสุดโดย Jezebel เมื่อ เสาร์ มิ.ย. 10, 2006 7:16 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
lovejesus(cap)
โพสต์: 250
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ เม.ย. 17, 2006 7:15 pm

เสาร์ มิ.ย. 10, 2006 10:05 pm

"ด้วยว่าผู้ที่เป็นขันทีตั้งแต่กำเนิดก็มี ผู้ที่มนุษย์กระทำให้เป็นขันทีก็มี
ผู้ที่กระทำตัวเองให้เป็นขันทีเพราะเห็นแก่แผ่นดินสวรรค์ก็มี ใครถือได้ก็ให้ถือเอาเถิด "
ขันทีในที่นี้หมายถึงเพศที่ 3 ใช้ไหมคับ ???
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ เสาร์ มิ.ย. 10, 2006 10:08 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ภาพประจำตัวสมาชิก
Zion
~@
โพสต์: 3777
ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 8:37 pm
ติดต่อ:

อาทิตย์ มิ.ย. 11, 2006 6:19 am

lovejesus(cap) เขียน:
"ด้วยว่าผู้ที่เป็นขันทีตั้งแต่กำเนิดก็มี ผู้ที่มนุษย์กระทำให้เป็นขันทีก็มี
ผู้ที่กระทำตัวเองให้เป็นขันทีเพราะเห็นแก่แผ่นดินสวรรค์ก็มี ใครถือได้ก็ให้ถือเอาเถิด "
ขันทีในที่นี้หมายถึงเพศที่ 3 ใช้ไหมคับ ???
พระคัมภีร์ไม่ได้ให้ความหมายเจาะจงขนาดนั้นนะ

ถ้าน้องถามคริสเตียน เค้าอาจจะให้คำตอบว่า

"ผู้ตัดขาดจากเรื่องทางเพศ เพื่อถวายตัวรับใช้"

_______________________________
แต่ถ้า มองจากพระวรสารข้อนี้แล้ว
น่าสนใจ ในเรื่อง ที่พูดถึงการเป็นขันทีตั้งแต่อยู่ในครรภ์
ฮอร์โมน เป็นปัจจัยอย่างนึงที่ส่งผลได้
(เป็นต้นว่าตัวพี่เอง เป็นคนที่ฮอร์โมนเพศชายน้อย มาเสมอๆกับฮอร์โมนเพศหญิงครับ)

ปัจจุบัน การแพทย์/วิทยาศาสตร์ ก็ได้ชี้ให้เห็นแล้วว่า เพศที่3 ไม่ใช่ความวิกลจริต แต่ประการใด
ภาพประจำตัวสมาชิก
Holy
Defender of lawS
Defender of lawS
โพสต์: 10011
ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:06 pm

อาทิตย์ มิ.ย. 11, 2006 6:47 am

lovejesus(cap) เขียน:
"ด้วยว่าผู้ที่เป็นขันทีตั้งแต่กำเนิดก็มี ผู้ที่มนุษย์กระทำให้เป็นขันทีก็มี
ผู้ที่กระทำตัวเองให้เป็นขันทีเพราะเห็นแก่แผ่นดินสวรรค์ก็มี ใครถือได้ก็ให้ถือเอาเถิด "
ขันทีในที่นี้หมายถึงเพศที่ 3 ใช้ไหมคับ ???
ไม่ใช่ครับ น่าจะหมายถึงคนที่ต้องงดเรื่องเพศมากกว่า
ตอบกลับโพส