คนที่ชอบเพศเดียวกันผิดบาปป่าวครับ
แล้วถ้ายังมีไรกันอีกหลังจากที่สารภาพบาปแล้วล่ะครับkingdom เขียน: แล้วถ้ามีไรกันแย้วล่ะ(ว้าแย่จัง)
แล้วผมต้องทำไงต่อดีครับkingdom เขียน: แล้วถ้ามีไรกันแย้วล่ะ(ว้าแย่จัง)
ผมไม่รู้............ผมกลัวครับ
พยายามเลิกสิครับ เลิกคิดฟุ้งซ่านทางเพศซะ อย่างบรรดานักบวชในศาสนาต่างๆ ก็มักถือพรหมจรรย์กันทั้งนั้น แล้วส่วนใหญ่ท่านก็ทำกันได้(ส่วนน้อยที่เรามักเห็นเป็นข่าวแต่ข่าวก้มีลงเรื่อยๆจนเรารู้สึกว่ามาก)
ดังนั้นความเป็นจริง เรามีชีวิตอยู่โดยไม่ต้องมีเซ็กซ์ก็ได้นะครับ ดังนั้นไม่มีอะไรต้องกลัวครับ กลัวบาปอย่างเดียวก็พอ และจงมีกำลังใจในการเอาชนะความผิดบาปของเรา
ดังนั้นความเป็นจริง เรามีชีวิตอยู่โดยไม่ต้องมีเซ็กซ์ก็ได้นะครับ ดังนั้นไม่มีอะไรต้องกลัวครับ กลัวบาปอย่างเดียวก็พอ และจงมีกำลังใจในการเอาชนะความผิดบาปของเรา
เศร้าเหลือเกินครับkingdom เขียน: แล้วถ้ามีไรกันแย้วล่ะ(ว้าแย่จัง)
นี่พรุงนี้เขาก็นัดเจอกับผมอีกแล้ว
ไม้รู้จะบอกยังไง
เศร้าครับ...ฮือ.ฮือ
ไม่รู้เหมือนกันว่าใจจะแข็งพอป่าวkingdom เขียน: แล้วถ้ามีไรกันแย้วล่ะ(ว้าแย่จัง)
ขอบคุณครับ
ขอเป็นกำลังใจเอาใจช่วยครับ พระเจ้าอวยพระพรครับ
ความเห็นส่วนตัวของเราน๊ะ
เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
ตามกฏพระศาสนจักร บาปงะ
เราไม่เข้าใจที่ว่า จากที่เราเรียนคำสอนมา เกย์ตุ๊ต กลับใจมาเป็นคริสชนตริม
ความคิดเห็นของเรา
เราไม่เคยเห็นพระเป็นเจ้าเลือกประเภทดีพร้อม 100%กลับใจมาเลยอะ
พระเป็นเจ้าเลือกคนที่บกพร่อง ทางร่างกาย และจิตใจมาทั้งน้านนน
แต่เราเข้าใจลึกๆๆอย่างเดียวว่า พระเป็นเจ้าเลือกคนที่ส่วนลึกในจิตใจเป็นคนดี
พระเป็นเจ้าไม่ได้มองมนุษย์ที่ภายนอก งะ
ในส่วนลึกของจิตใจ ทุกคนที่กลับใจน๊ะ
พระเป็นเจ้าไม่ได้มองภายนอกงะ :D
เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน
ตามกฏพระศาสนจักร บาปงะ
เราไม่เข้าใจที่ว่า จากที่เราเรียนคำสอนมา เกย์ตุ๊ต กลับใจมาเป็นคริสชนตริม
ความคิดเห็นของเรา
เราไม่เคยเห็นพระเป็นเจ้าเลือกประเภทดีพร้อม 100%กลับใจมาเลยอะ
พระเป็นเจ้าเลือกคนที่บกพร่อง ทางร่างกาย และจิตใจมาทั้งน้านนน
แต่เราเข้าใจลึกๆๆอย่างเดียวว่า พระเป็นเจ้าเลือกคนที่ส่วนลึกในจิตใจเป็นคนดี
พระเป็นเจ้าไม่ได้มองมนุษย์ที่ภายนอก งะ
ในส่วนลึกของจิตใจ ทุกคนที่กลับใจน๊ะ
พระเป็นเจ้าไม่ได้มองภายนอกงะ :D
-
- ~@
- โพสต์: 12724
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 2:28 pm
- ที่อยู่: Thailand
เป็นกำลังใจให้นะครับ
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
:) เป็นกำลังใจให้คะ พระองค์รอการกลับใจของคุณอยู่นะคะ
- Immanuel (MichaelPaul)
- ~@
- โพสต์: 2887
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 8:49 pm
- ที่อยู่: กรุงเทพมหานคร
ถ้ามีอะไรกันแล้ว อย่าว่าแต่ ชาย-ชาย/ หญิง-หญิงเลยครับ ชายกะหญิง ถ้ามีไรกันโดยยังไม่ได้แต่งงานก็บาปแหละครับ
พระเจ้า คือองค์ความรัก
พระเจ้า ไม่ห้ามที่เราจะ รักใครครับ :D
แต่อย่างให้ ความหลง ทางตัณหาฝ่ายกามา ห้ามแทรก
ปล. กรณี คริสเตียน ที่พี่หนุ่ยมินนี่ว่า
เค้าสามารถเปลี่ยน พวก ที่เป้ฯตามสภาพแวดล้อมได้ครับ :-[
แต่ ไม่สามารถ เปลี่ยน พวก born to be ได้ ;D
เพราะพระเจ้าได้บอกล่วงหน้าถึง พวกเขาเหล่านี้แล้ว :o
มัทธิว19:12
"ด้วยว่าผู้ที่เป็นขันทีตั้งแต่กำเนิดก็มี ผู้ที่มนุษย์กระทำให้เป็นขันทีก็มี
ผู้ที่กระทำตัวเองให้เป็นขันทีเพราะเห็นแก่แผ่นดินสวรรค์ก็มี ใครถือได้ก็ให้ถือเอาเถิด "
พระเจ้า ไม่ห้ามที่เราจะ รักใครครับ :D
แต่อย่างให้ ความหลง ทางตัณหาฝ่ายกามา ห้ามแทรก
ปล. กรณี คริสเตียน ที่พี่หนุ่ยมินนี่ว่า
เค้าสามารถเปลี่ยน พวก ที่เป้ฯตามสภาพแวดล้อมได้ครับ :-[
แต่ ไม่สามารถ เปลี่ยน พวก born to be ได้ ;D
เพราะพระเจ้าได้บอกล่วงหน้าถึง พวกเขาเหล่านี้แล้ว :o
มัทธิว19:12
"ด้วยว่าผู้ที่เป็นขันทีตั้งแต่กำเนิดก็มี ผู้ที่มนุษย์กระทำให้เป็นขันทีก็มี
ผู้ที่กระทำตัวเองให้เป็นขันทีเพราะเห็นแก่แผ่นดินสวรรค์ก็มี ใครถือได้ก็ให้ถือเอาเถิด "
- ~@Little lamb@~
- Defender of lawS
- โพสต์: 9396
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 3:00 pm
- ติดต่อ:
ถูก...การมีเพศสัมพันธ์กันก่อนแต่งงานก็ผิดบาปทั้งนั้น
ไม่นับว่าจะเพศเดียวกัน หรือ เพศตรงข้าม
ดังนั้น การเป็นอะไรนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะมาตัดสินผิดชั่ว
แต่การกระทำต่างหากที่ตัดสินเรา
ไม่นับว่าจะเพศเดียวกัน หรือ เพศตรงข้าม
ดังนั้น การเป็นอะไรนั้นไม่ใช่สิ่งที่จะมาตัดสินผิดชั่ว
แต่การกระทำต่างหากที่ตัดสินเรา
-
- ~@
- โพสต์: 7624
- ลงทะเบียนเมื่อ: พุธ มี.ค. 23, 2005 9:49 pm
- ที่อยู่: Pattaya Chonburi
:) ร่างกาย คือ วิหารของพระเจ้าคะ เราควรให้ความเคารพในตัวเองด้วย เนื่องจากเป็นพระวิหารศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า
นั่นสิOt@ เขียน:ไม่มีใครเป็นประเภทดีพร้อม100%minnie เขียน:
ความคิดเห็นของเรา
เราไม่เคยเห็นพระเป็นเจ้าเลือกประเภทดีพร้อม 100%กลับใจมาเลยอะ
มก 10:18
ไม่มีใครทรงความดีนอกจากพระเจ้าเท่านั้น
แก้ไขล่าสุดโดย Holy เมื่อ ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 6:15 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ถ้าเขาไม่กลับใจให้เราอยู่ห่างๆ ไว้ดีกว่าครับ (1 โครินธ์ 5) เราควรถวายสิ่งนี้ให้พระเจ้า เป็นกางเขนที่เราต้องแบก การมีอย่างนั้นกับผู้ชายด้วยกันพี่ว่าผิดยิ่งกว่าเพศตรงข้ามเสียอีก เพราะพระเจ้าไม่ได้สร้างมาให้เป็นอย่างนั้น
นี่คือขอพระคัมภีร์ที่พระเจ้าพูดถึงผู้ชายที่ติดผู้หญิงกลางคืน ไม่รักเดียวใจเดียว
"22ความบาปชั่วของคนชั่วร้ายดักเขาเอง และเขาก็ติดอยู่กับตาข่ายบาปของเขา 23เขาตายเพราะขาดวินัยในชีวิต และเพราะความโง่อย่างยิ่งของเขา เขาจึงหลงเจิ่นไป"(สุภาษิต. 5 : 22 -23) :) สรุปว่า จงรักเดียวใจเดียว จงมีวินัยในชีวิต อย่ามีความต้องการตรงนั้นกับชายใดหญิงใดที่ไม่ใช้ภรรยาของเรา
"คนที่ล่วงประเวณีนั้นพระเจ้าทรงพิพากษาลงโทษเข้า" (ฮบ.13 : 6) พี่ไม่ได้ว่าน้องนะพี่แบ่งปันพระคัมภีร์เพราะความห่วงใย :)
นี่คือขอพระคัมภีร์ที่พระเจ้าพูดถึงผู้ชายที่ติดผู้หญิงกลางคืน ไม่รักเดียวใจเดียว
"22ความบาปชั่วของคนชั่วร้ายดักเขาเอง และเขาก็ติดอยู่กับตาข่ายบาปของเขา 23เขาตายเพราะขาดวินัยในชีวิต และเพราะความโง่อย่างยิ่งของเขา เขาจึงหลงเจิ่นไป"(สุภาษิต. 5 : 22 -23) :) สรุปว่า จงรักเดียวใจเดียว จงมีวินัยในชีวิต อย่ามีความต้องการตรงนั้นกับชายใดหญิงใดที่ไม่ใช้ภรรยาของเรา
"คนที่ล่วงประเวณีนั้นพระเจ้าทรงพิพากษาลงโทษเข้า" (ฮบ.13 : 6) พี่ไม่ได้ว่าน้องนะพี่แบ่งปันพระคัมภีร์เพราะความห่วงใย :)
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ ศุกร์ มิ.ย. 09, 2006 9:29 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
มันพูดยากนะครับ ความรู้สึกน่ะ...
อย่างถ้าคนเราชอบหรือเชื่อหรือจิตใจมุ่งตรงไปหาอะไรสักอย่างเนี่ย
ถ้าจะทำให้เขาคนนั้นเปลี่ยนทิศทางชีวิตของเขาละก็...
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันวเต้องใช้วิธีใหน และขอทราบหลักเกณฑ์ในการตัดสินได้ใหมครับ
มันมี 2 ข้อครับ
1. ได้
2. ไม่ได้
สมมุติว่าวนหนึ่งนะครับมีคนมาบอกคุณว่าให้เลิกันกับแฟนของคุณซะ
เพราะว่าเขามีเมียแล้ว และคุณก้รักเขาคนนี้มากมายด้วย
จนเคยสัญญากันว่าหากขาดคนใดคนหนึ่งไป อีกคนต้องอยู่ไมได้แน่แน่
ผมอยากถามว่า...คุณจะใช้อะไรในการตัดสินใจว่าจะเลิกกันกับเขาหรือจะอยู่ต่อไปเพราะเห็นแก่ความรักและคำสัญญา....
ใจเย้นครับ..ผมกำลังจะโยงเข้าสู่เรื่องนี้ ความรู้สึกของผมตอนนี้ก็คงไม่ต่างจากตัวอย่างที่ยกมาแล้ว
มันเป้นความรู้สึกแบบที่ผุ้ชายคนหนึ่งมีกับผู้หญิงคนหนึ่งต่างกันเพียงว่าเป็นผู้ชายเท่านั้น
ลืมบอกไปครับว่า ผมแมน 100% และมีความรู้สึกอย่างนี้กับผู้ชายคนนี้เพียงคนเดียว
ทำไมครับ เพราะพระคัมภีร์หรือครับ หรือเพรากฏเหณฑ์ทางสังคม หรือเพราะความเหมาะสม...
ผมคิดว่าโลกแยกเพศชายเพศหญิงเพียงเพื่อต้องการแยกคนสองคนออกจากกันเท่านั้นไม่ใช่เหรอครับ
....................
อย่างถ้าคนเราชอบหรือเชื่อหรือจิตใจมุ่งตรงไปหาอะไรสักอย่างเนี่ย
ถ้าจะทำให้เขาคนนั้นเปลี่ยนทิศทางชีวิตของเขาละก็...
ผมก็ไม่รู้เหมือนกันวเต้องใช้วิธีใหน และขอทราบหลักเกณฑ์ในการตัดสินได้ใหมครับ
มันมี 2 ข้อครับ
1. ได้
2. ไม่ได้
สมมุติว่าวนหนึ่งนะครับมีคนมาบอกคุณว่าให้เลิกันกับแฟนของคุณซะ
เพราะว่าเขามีเมียแล้ว และคุณก้รักเขาคนนี้มากมายด้วย
จนเคยสัญญากันว่าหากขาดคนใดคนหนึ่งไป อีกคนต้องอยู่ไมได้แน่แน่
ผมอยากถามว่า...คุณจะใช้อะไรในการตัดสินใจว่าจะเลิกกันกับเขาหรือจะอยู่ต่อไปเพราะเห็นแก่ความรักและคำสัญญา....
ใจเย้นครับ..ผมกำลังจะโยงเข้าสู่เรื่องนี้ ความรู้สึกของผมตอนนี้ก็คงไม่ต่างจากตัวอย่างที่ยกมาแล้ว
มันเป้นความรู้สึกแบบที่ผุ้ชายคนหนึ่งมีกับผู้หญิงคนหนึ่งต่างกันเพียงว่าเป็นผู้ชายเท่านั้น
ลืมบอกไปครับว่า ผมแมน 100% และมีความรู้สึกอย่างนี้กับผู้ชายคนนี้เพียงคนเดียว
ทำไมครับ เพราะพระคัมภีร์หรือครับ หรือเพรากฏเหณฑ์ทางสังคม หรือเพราะความเหมาะสม...
ผมคิดว่าโลกแยกเพศชายเพศหญิงเพียงเพื่อต้องการแยกคนสองคนออกจากกันเท่านั้นไม่ใช่เหรอครับ
....................
-
- ~@
- โพสต์: 8259
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ม.ค. 17, 2005 9:56 pm
- ที่อยู่: Bangkok
ประเด็นนี้ยาวทุกที และจบลง โดยทางใครทางมัน
นักบุญเปาโล บอกว่าเรามีเสรีภาพ แต่อย่าให้เสรีภาพนั้น ทำลาย ความจริงของพระเจ้า
พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ มาตรัสว่า "ดีนัก" ดังนั้น บางเรื่อง เป็นเรื่องของความอดทน และอุทิศ ฮะ
นักบุญเปาโล บอกว่าเรามีเสรีภาพ แต่อย่าให้เสรีภาพนั้น ทำลาย ความจริงของพระเจ้า
พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ มาตรัสว่า "ดีนัก" ดังนั้น บางเรื่อง เป็นเรื่องของความอดทน และอุทิศ ฮะ
เห็นด้วยครับ เรื่องแบบนี้คุยเท่าไรไม่จบ อยู่ที่ตัวของคน ๆ นั้น ว่าจะต่อสู้กับการทดลองได้หรือไม่ อย่าลืม พระเจ้าทรงประทานพระหรรษทานให้เราเพียงพอเสมอ และเรื่องแบบนี้เราไม่ได้สู้จนถึงขนาดต้องหลั่งโลหิต แม้จะล้มไปบ้างก็จงลุกขึ้นมาใหม่ บาปต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบาปอะไรก็ตาม มันก็ไม่ต่างกัน เพราะมันคือบาป ไม่มีบาปไหนดูแย่กว่า หรือดูดีกว่ากัน เพราะบาปทุก ๆ ชนิดล้วนเป็นสิ่งที่ไม่น่าดูในสายพระเนตรของพระเจ้า
-
- ~@
- โพสต์: 2546
- ลงทะเบียนเมื่อ: อังคาร ม.ค. 18, 2005 10:54 pm
มันไม่ใช่เรื่องของพระคำภีร์ หรือกฏเกณฑ์ของสังคมหรอกครับ แต่มันเป็นเรื่องของความรักนะครับ
ระหว่าง
.
.
ความรักของเรากับเขา และ ความรักของเรากับพระเป็นเจ้า
โอเคครับรักกันไม่ว่าจะเพศไหนพระองค์ไม่เคยห้าม...แต่ถ้ารักกันแล้วต้องมีอะไรกันที่ไม่ใช่เพราะการสืบเผ่าพันธุ์มนุษย์(ไม่ว่าจะชาย-ชาย , หญิง-หญิง หรือแม้กระทั่งชาย-หญิง ก็ตาม)
ไม่เคยห้ามนะครับเรื่องความรักแต่ขอให้เป็นความรักที่บริสุทธ์ ถ้าความรักของคุณที่มีให้เขานั้นเป็นความรักที่บริสุทธ์ใจ คุณก็ไม่จำเป็นต้องแคร์กับการเลิกกันหรือไม่เลิกกันเพราะความรักนั้นไม่ใช่เรื่องของพันธทางร่างกาย แต่เป็นเรื่องของพันธทางจิตใจ ความรักเป็นสิ่งที่ดี แต่การมีอะไรกันเพราะสนองตัณหานั้นไม่ควร ส่วนคำพูดที่ว่า"มีอะไรกันเพราะรัก"นั้น เอาเข้าจริงๆแล้วก็เพื่อสนองตัณหาเท่านั้นครับเพราะว่าถ้ารักกันจริงแล้วก็ลองไม่มีอะไรกันดูสิว่าจะยังรักกันและอยู่ด้วยกันได้หรือไม่?(เช่นเมื่อแก่ตัวไปแบบว่ามัน "ไม่ปึ๋งปั๋ง"แล้วยังจะรักกันอยู่หรือเปล่า) เพราะถ้าอยู่ไม่ได้เพียงเพราะไม่ยอมมีอะไรกันนี่ก็ไม่ใช่ความรักแล้วละครับ
ถ้าแฟนเรารับไม่ได้ที่จะไม่มีอะไรกัน เราก้ต้องชั่งระหว่างความรักของเรากับแฟน และความรักของเรากับพระเป็นเจ้า ครับว่าเราจะให้สิ่งไหนมีความสำคัญมากกว่าสำหรับเรา ซึ่งผมเองตอนเลิกกับแฟน(ผู้ชาย)ก็ทำใจลำบากเหมือนกันครับแต่สุดท้ายผมก็เลิกไปเพราะเห็นแก่พระองค์ แต่ว่าทุกวันนี้เราก็ยังโทรคุยกันอยู่ครับยังรักกันยังไปเที่ยวด้วยกันเสมอต่างคนก็รักกันเหมือนเดิมทั้งๆที่ไม่ได้มีอะไรกัน
ระหว่าง
.
.
ความรักของเรากับเขา และ ความรักของเรากับพระเป็นเจ้า
โอเคครับรักกันไม่ว่าจะเพศไหนพระองค์ไม่เคยห้าม...แต่ถ้ารักกันแล้วต้องมีอะไรกันที่ไม่ใช่เพราะการสืบเผ่าพันธุ์มนุษย์(ไม่ว่าจะชาย-ชาย , หญิง-หญิง หรือแม้กระทั่งชาย-หญิง ก็ตาม)
ไม่เคยห้ามนะครับเรื่องความรักแต่ขอให้เป็นความรักที่บริสุทธ์ ถ้าความรักของคุณที่มีให้เขานั้นเป็นความรักที่บริสุทธ์ใจ คุณก็ไม่จำเป็นต้องแคร์กับการเลิกกันหรือไม่เลิกกันเพราะความรักนั้นไม่ใช่เรื่องของพันธทางร่างกาย แต่เป็นเรื่องของพันธทางจิตใจ ความรักเป็นสิ่งที่ดี แต่การมีอะไรกันเพราะสนองตัณหานั้นไม่ควร ส่วนคำพูดที่ว่า"มีอะไรกันเพราะรัก"นั้น เอาเข้าจริงๆแล้วก็เพื่อสนองตัณหาเท่านั้นครับเพราะว่าถ้ารักกันจริงแล้วก็ลองไม่มีอะไรกันดูสิว่าจะยังรักกันและอยู่ด้วยกันได้หรือไม่?(เช่นเมื่อแก่ตัวไปแบบว่ามัน "ไม่ปึ๋งปั๋ง"แล้วยังจะรักกันอยู่หรือเปล่า) เพราะถ้าอยู่ไม่ได้เพียงเพราะไม่ยอมมีอะไรกันนี่ก็ไม่ใช่ความรักแล้วละครับ
ถ้าแฟนเรารับไม่ได้ที่จะไม่มีอะไรกัน เราก้ต้องชั่งระหว่างความรักของเรากับแฟน และความรักของเรากับพระเป็นเจ้า ครับว่าเราจะให้สิ่งไหนมีความสำคัญมากกว่าสำหรับเรา ซึ่งผมเองตอนเลิกกับแฟน(ผู้ชาย)ก็ทำใจลำบากเหมือนกันครับแต่สุดท้ายผมก็เลิกไปเพราะเห็นแก่พระองค์ แต่ว่าทุกวันนี้เราก็ยังโทรคุยกันอยู่ครับยังรักกันยังไปเที่ยวด้วยกันเสมอต่างคนก็รักกันเหมือนเดิมทั้งๆที่ไม่ได้มีอะไรกัน
ขอร่วมอภิปรายต่อจากน้องปั๊มนิดนึงค่ะพระเจ้าสถิตย์กับเราเสมอ(เจ้ทา) เขียน: มันไม่ใช่เรื่องของพระคำภีร์ หรือกฏเกณฑ์ของสังคมหรอกครับ แต่มันเป็นเรื่องของความรักนะครับ
ระหว่าง
.
.
ความรักของเรากับเขา และ ความรักของเรากับพระเป็นเจ้า
โอเคครับรักกันไม่ว่าจะเพศไหนพระองค์ไม่เคยห้าม...แต่ถ้ารักกันแล้วต้องมีอะไรกันที่ไม่ใช่เพราะการสืบเผ่าพันธุ์มนุษย์(ไม่ว่าจะชาย-ชาย , หญิง-หญิง หรือแม้กระทั่งชาย-หญิง ก็ตาม)
ไม่เคยห้ามนะครับเรื่องความรักแต่ขอให้เป็นความรักที่บริสุทธ์ ถ้าความรักของคุณที่มีให้เขานั้นเป็นความรักที่บริสุทธ์ใจ คุณก็ไม่จำเป็นต้องแคร์กับการเลิกกันหรือไม่เลิกกันเพราะความรักนั้นไม่ใช่เรื่องของพันธทางร่างกาย แต่เป็นเรื่องของพันธทางจิตใจ ความรักเป็นสิ่งที่ดี แต่การมีอะไรกันเพราะสนองตัณหานั้นไม่ควร ส่วนคำพูดที่ว่า"มีอะไรกันเพราะรัก"นั้น เอาเข้าจริงๆแล้วก็เพื่อสนองตัณหาเท่านั้นครับเพราะว่าถ้ารักกันจริงแล้วก็ลองไม่มีอะไรกันดูสิว่าจะยังรักกันและอยู่ด้วยกันได้หรือไม่?(เช่นเมื่อแก่ตัวไปแบบว่ามัน "ไม่ปึ๋งปั๋ง"แล้วยังจะรักกันอยู่หรือเปล่า) เพราะถ้าอยู่ไม่ได้เพียงเพราะไม่ยอมมีอะไรกันนี่ก็ไม่ใช่ความรักแล้วละครับ
ถ้าแฟนเรารับไม่ได้ที่จะไม่มีอะไรกัน เราก้ต้องชั่งระหว่างความรักของเรากับแฟน และความรักของเรากับพระเป็นเจ้า ครับว่าเราจะให้สิ่งไหนมีความสำคัญมากกว่าสำหรับเรา ซึ่งผมเองตอนเลิกกับแฟน(ผู้ชาย)ก็ทำใจลำบากเหมือนกันครับแต่สุดท้ายผมก็เลิกไปเพราะเห็นแก่พระองค์ แต่ว่าทุกวันนี้เราก็ยังโทรคุยกันอยู่ครับยังรักกันยังไปเที่ยวด้วยกันเสมอต่างคนก็รักกันเหมือนเดิมทั้งๆที่ไม่ได้มีอะไรกัน
เจ๊ขออ้างพระดำรัสของพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ในพระสมณสาส์น"Deus Caritas Est" พระเจ้าเป็นความรัก หน่อยนึงค่ะ พระองค์ทรงอ้างถึงความรัก 3 ประเภท แยกใช้ศัพท์ภาษากรีก 3 คำ ดังนี้ค่ะ
1.eros ความรักแบบชาย-หญิง
2.philia ความรักแบบมิตรภาพ
3.agape ความรักบริสุทธิ์ต่อเพื่อนมนุษย์
ความรักทั้งสามประเภทนี้ มีความสำคัญทั้งสิ้น
อย่างที่เจ๊เคยพูดไว้บ้างว่า คนเราในทุกวันนี้สนใจแต่ความรักแบบ eros มากเกินไป จนไม่เห็นความรักอีกสองแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งแบบที่สาม ดูจะเป็นสิ่งที่น่าแปลกประหลาดมากสำหรับคนมากมายในยุคนี้ รวมถึงคริสตชนจำนวนไม่น้อยด้วย ที่เมื่อพูดถึงความรักก็จะคิดไปถึงแต่ความรักแบบ eros อยู่ร่ำไป ฉะนั้น สำหรับคนยุคนี้ โดยทั่วไป คำว่า"รัก"ก็มักจะต้องแฝงความหมายนัยประหวัดไปถึงการมีสัมพันธ์แบบคู่รักด้วยบ้างไม่มากก็น้อย ถ้าใครคนหนึ่งบอกว่าเขารักใครอีกคนหนึ่ง ก็ดูเหมือนจะแปลว่า เขากำลังมีerosอยู่กับอีกคนหนึ่ง ทั้งๆที่ความจริงแล้ว อาจกำลังมีagapeอยู่ก็ได้ เรามักจะไม่แยกแยะมิติของความรักแบบต่างๆ จึงอาจเกิดความสับสนว่าความรักคืออะไร และควรแสดงออกมาอย่างไรจึงจะเหมาะสม ถ้าความรักหมายถึงต้องมีสัมพันธ์สวาทเสมอไป ก็น่าจะกล่าวได้ว่าเป็นความเข้าใจต่อความรักที่ผิดเพี้ยนไป จึงอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือเข้าใจไม่ตรงกัน เพราะมีความเข้าใจต่อคำว่า"รัก"ที่ผิดแผกแตกต่างกันออกไป
สรุปค่ะ ดังนี้เจ๊จึงเห็นด้วยกับน้องปั๊มเต็มอัตราศึกค่ะ ขอบคุณ
แก้ไขล่าสุดโดย Jezebel เมื่อ เสาร์ มิ.ย. 10, 2006 7:16 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- lovejesus(cap)
- โพสต์: 250
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ เม.ย. 17, 2006 7:15 pm
ขันทีในที่นี้หมายถึงเพศที่ 3 ใช้ไหมคับ ???"ด้วยว่าผู้ที่เป็นขันทีตั้งแต่กำเนิดก็มี ผู้ที่มนุษย์กระทำให้เป็นขันทีก็มี
ผู้ที่กระทำตัวเองให้เป็นขันทีเพราะเห็นแก่แผ่นดินสวรรค์ก็มี ใครถือได้ก็ให้ถือเอาเถิด "
แก้ไขล่าสุดโดย Anonymous เมื่อ เสาร์ มิ.ย. 10, 2006 10:08 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
พระคัมภีร์ไม่ได้ให้ความหมายเจาะจงขนาดนั้นนะlovejesus(cap) เขียน:ขันทีในที่นี้หมายถึงเพศที่ 3 ใช้ไหมคับ ???"ด้วยว่าผู้ที่เป็นขันทีตั้งแต่กำเนิดก็มี ผู้ที่มนุษย์กระทำให้เป็นขันทีก็มี
ผู้ที่กระทำตัวเองให้เป็นขันทีเพราะเห็นแก่แผ่นดินสวรรค์ก็มี ใครถือได้ก็ให้ถือเอาเถิด "
ถ้าน้องถามคริสเตียน เค้าอาจจะให้คำตอบว่า
"ผู้ตัดขาดจากเรื่องทางเพศ เพื่อถวายตัวรับใช้"
_______________________________
แต่ถ้า มองจากพระวรสารข้อนี้แล้ว
น่าสนใจ ในเรื่อง ที่พูดถึงการเป็นขันทีตั้งแต่อยู่ในครรภ์
ฮอร์โมน เป็นปัจจัยอย่างนึงที่ส่งผลได้
(เป็นต้นว่าตัวพี่เอง เป็นคนที่ฮอร์โมนเพศชายน้อย มาเสมอๆกับฮอร์โมนเพศหญิงครับ)
ปัจจุบัน การแพทย์/วิทยาศาสตร์ ก็ได้ชี้ให้เห็นแล้วว่า เพศที่3 ไม่ใช่ความวิกลจริต แต่ประการใด
ไม่ใช่ครับ น่าจะหมายถึงคนที่ต้องงดเรื่องเพศมากกว่าlovejesus(cap) เขียน:ขันทีในที่นี้หมายถึงเพศที่ 3 ใช้ไหมคับ ???"ด้วยว่าผู้ที่เป็นขันทีตั้งแต่กำเนิดก็มี ผู้ที่มนุษย์กระทำให้เป็นขันทีก็มี
ผู้ที่กระทำตัวเองให้เป็นขันทีเพราะเห็นแก่แผ่นดินสวรรค์ก็มี ใครถือได้ก็ให้ถือเอาเถิด "