ผมกำลังแสวงหาอะไรอยู่?
- Jack Sparrow
- โพสต์: 353
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:06 am
ความคิดผมคิดว่าพระไม่เห็นด้วยที่เราสนใจแต่หาเงินทองฝ่ายโลก พระเจ้าบอกว่า ขายทุกสิ่งแจกจ่ายใหคนจนแล้วตามเรามา อูฐเข้ารูเข้มยังง่ายกว่าเศรษฐีไปสวรรค์ คนที่เป็นลูกพระเจ้าต้องละทิ้งทุกอย่าง ถ้ามีเงินเยอะมากก็ต้องแจกจ่ายให้คนจนมากก็ต้องเจ็บมากแต่ก็ได้บุญมากเพราะว่าตัวเองเสียสระให้พระมากกว่า แต่ถ้าเรายังรักเงินเพราะเรารวยอยากมีเงินเราก็เป็นเหมือนกับเศรษฐีหนุ่ม
แก้ไขล่าสุดโดย Jack Sparrow เมื่อ จันทร์ ก.พ. 26, 2007 4:09 am, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
บางทีนะครับ เวลาเราได้ดีเจออะไรดีๆ หรืออยู่ในสภาพที่ดีๆ ก็กลัวว่าจะเสียไปหรือพระเจ้าจะเอาคืนไปพี่ก็เคยเป็นบ่อย ก็ต้องระวังปีศาจบางทีมันก็ใส่ความคิดพี่บางทีก็รู้สึกกลัวบ่อยๆ หรือจิตเราฟุ้งซ่าน
พระเจ้าไม่เคยทำร้ายใครให้เราวางใจพระเจ้าพอ คนคริสต์บางคนที่เขามีปัญหาเพราะพระเจ้ารักเขาพอเขารวยแล้วเขาลืมพระเจ้าพระเจ้าก็เลยตีสอน สิ่งที่พระเจ้าต้องการคือวิญญาณของเขา พระเจ้าก็เหมือนพ่อแม่เรานั่นแหละมีแต่ให้
พระเจ้าไม่เคยทำร้ายใครให้เราวางใจพระเจ้าพอ คนคริสต์บางคนที่เขามีปัญหาเพราะพระเจ้ารักเขาพอเขารวยแล้วเขาลืมพระเจ้าพระเจ้าก็เลยตีสอน สิ่งที่พระเจ้าต้องการคือวิญญาณของเขา พระเจ้าก็เหมือนพ่อแม่เรานั่นแหละมีแต่ให้
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:42 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ผมเห็นด้วยที่เราไม่ควรสนใจแต่หาเงินทองฝ่ายโลก และผมก็เห็นนักบวชจำนวนหนึ่งขอบริจาคเพื่อสร้างสิ่งต่าง ๆ เพื่อสงเคราะห์คนด้อยโอกาส เช่น คนป่วยเอดส์ โรคเรื้อน เด็กกำพร้า หญิงท้องนอกสมรส เป็นต้น ถ้าไม่มีคนที่หาเงินทองฝ่ายโลกเลย จะเกิดอะไรขึ้น ?Jack Sparrow เขียน: ความคิดผมคิดว่าพระไม่เห็นด้วยที่เราสนใจแต่หาเงินทองฝ่ายโลก พระเจ้าบอกว่า ขายทุกสิ่งแจกจ่ายใหคนจนแล้วตามเรามา อูฐเข้ารูเข้มยังง่ายกว่าเศรษฐีไปสวรรค์ คนที่เป็นลูกพระเจ้าต้องละทิ้งทุกอย่าง ถ้ามีเงินเยอะมากก็ต้องแจกจ่ายให้คนจนมากก็ต้องเจ็บมากแต่ก็ได้บุญมากเพราะว่าตัวเองเสียสระให้พระมากกว่า แต่ถ้าเรายังรักเงินเพราะเรารวยอยากมีเงินเราก็เป็นเหมือนกับเศรษฐีหนุ่ม
ในความเห็นของผม " คนที่เป็นลูกพระเจ้าต้องละทิ้งทุกอย่าง " เป็นประโยคที่ต้องระวังให้มาก พระเยซูไม่เคยกล่าวเช่นนั้น ในความเชื่อของผม "คนที่เป็นลูกพระเจ้าต้องเด็มเปี่ยมด้วยความรัก รักตนเอง รักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง และรักพระเจ้ากว่าสิ่งต่าง ๆหรือรักความรักมากกว่าสิ่งใด ๆ เพราะพระเจ้าคือความรัก ผู้ใดมีความรักพระเจ้าสถิตกับผู้นั้น
เงินไม่ใช่สิ่งชั่วร้าย ความรักเงินต่างหากที่ชั่วร้าย รักเงินมากจนทำทุกสิ่งทุกอย่างได้เพื่อให้ได้เงินมา ไม่ว่าจะเป็นการค้าประเวณี ค้ายาเสพติด ค้าหรือทำสิ่งละเมิดศิลธรรม ละเมิดกฏหมาย เพื่อให้ได้เงินมา
ผมเชื่อว่าความรักความเมตตาของพระเจ้ายิ่งใหญ่สุดพรรณาได้ เป็นไปได้อย่างไรที่พระเจ้าจะลงโทษผู้ใดให้ทนทุกข์ชั่วนิรันดร์ ?แม้แต่ปีศาจก็เช่นกันJoseph เขียน: บางทีนะครับ เวลาเราได้ดีเจออะไรดีๆ หรืออยู่ในสภาพที่ดีๆ ก็กลัวว่าจะเสียไปหรือพระเจ้าจะเอาคืนไปพี่ก็เคยเป็นบ่อย ก็ต้องระวังปีศาจบางทีมันก็ใส่ความคิดพี่บางทีก็รู้สึกกลัวบ่อยๆ หรือจิตเราฟุ้งซ่าน
พระเจ้าไม่เคยทำร้ายใครให้เราวางใจพระเจ้าพอ คนคริสต์บางคนที่เขามีปัญหาเพราะพระเจ้ารักเขาพอเขารวยแล้วเขาลืมพระเจ้าพระเจ้าก็เลยตีสอน สิ่งที่พระเจ้าต้องการคือวิญญาณของเขา พระเจ้าก็เหมือนพ่อแม่เรานั่นแหละมีแต่ให้
สิ่งที่เกิดขึ้นบนโลกนี้อาจไม่แตกต่างจากสิ่งที่เกิดขึ้นบนสวรรค์ก็ได้ ??? มีความขัดแย้งอยู่เสมอ
สำหรับพี่ก็เชื่อว่าพระเจ้ารักเรา อยากให้ลูกๆ ของพระองค์ได้ดี ไม่มีพ่อแม่คนไหนอยากให้ลูกต้องอยู่อย่างอดยาก แต่ที่แน่ๆ พระองค์ต้องการหัวใจของเราหัวใจที่รักพระองค์อย่างที่น้องว่า คือรักพระเจ้าสุดจิต จุดใจ สุดกำลัง สุดความคิด
พี่คิดว่าพ่อแม่ก็ต้องรักลูกบางครั้งพ่อแม่ก็ต้องตีสอนลูกถ้าเส้นทางนั้นทำให้วิญญาณลูกไปนรก พี่คิดว่าถ้าเราแสวงหาพระเจ้าด้วยความจริงใจ พระเจ้าอวยพรเราอยู่แล้วครับไม่ต้องกลัว พระเจ้าต้องการอวยพรเราแต่หัวใจเราเองที่ทำให้พระเจ้าอวยพรไม่ได้ ถ้าเราไม่รักพระองค์ด้วยความจริงใจ จงแสวงหาพระเจ้าก่อนก่อนครับแล้วทุกๆ สิ่งจะบังเกิดแก่ตัวของท่าน
พี่คิดว่าพ่อแม่ก็ต้องรักลูกบางครั้งพ่อแม่ก็ต้องตีสอนลูกถ้าเส้นทางนั้นทำให้วิญญาณลูกไปนรก พี่คิดว่าถ้าเราแสวงหาพระเจ้าด้วยความจริงใจ พระเจ้าอวยพรเราอยู่แล้วครับไม่ต้องกลัว พระเจ้าต้องการอวยพรเราแต่หัวใจเราเองที่ทำให้พระเจ้าอวยพรไม่ได้ ถ้าเราไม่รักพระองค์ด้วยความจริงใจ จงแสวงหาพระเจ้าก่อนก่อนครับแล้วทุกๆ สิ่งจะบังเกิดแก่ตัวของท่าน
แก้ไขล่าสุดโดย Joseph เมื่อ อังคาร ก.พ. 27, 2007 10:23 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- Jack Sparrow
- โพสต์: 353
- ลงทะเบียนเมื่อ: จันทร์ ก.พ. 26, 2007 3:06 am
วิถีชีวิตพระเจ้าเท่านั้นที่กำหนด เราเหมือนเรือแต่พระเจ้าเป็นผู้นำว่าเรือจะไปในทิศทางใดฝากชีวิตทั้งชีวิตให้พระเจ้าทรงเป็นผู้นำทางครับ ไม่ว่าเจอพายุร้ายดูเหมือนเรือใกล้จะล่มแต่เราก็ไม่กลัวเพราะเรารู้ว่ามีพระเจ้าทรงนำทางพระองค์ไม่เคยหลับเมื่อเรามีภัยsakda88 เขียน:ผมเห็นด้วยที่เราไม่ควรสนใจแต่หาเงินทองฝ่ายโลก และผมก็เห็นนักบวชจำนวนหนึ่งขอบริจาคเพื่อสร้างสิ่งต่าง ๆ เพื่อสงเคราะห์คนด้อยโอกาส เช่น คนป่วยเอดส์ โรคเรื้อน เด็กกำพร้า หญิงท้องนอกสมรส เป็นต้น ถ้าไม่มีคนที่หาเงินทองฝ่ายโลกเลย จะเกิดอะไรขึ้น ?Jack Sparrow เขียน: ความคิดผมคิดว่าพระไม่เห็นด้วยที่เราสนใจแต่หาเงินทองฝ่ายโลก พระเจ้าบอกว่า ขายทุกสิ่งแจกจ่ายใหคนจนแล้วตามเรามา อูฐเข้ารูเข้มยังง่ายกว่าเศรษฐีไปสวรรค์ คนที่เป็นลูกพระเจ้าต้องละทิ้งทุกอย่าง ถ้ามีเงินเยอะมากก็ต้องแจกจ่ายให้คนจนมากก็ต้องเจ็บมากแต่ก็ได้บุญมากเพราะว่าตัวเองเสียสระให้พระมากกว่า แต่ถ้าเรายังรักเงินเพราะเรารวยอยากมีเงินเราก็เป็นเหมือนกับเศรษฐีหนุ่ม
ในความเห็นของผม " คนที่เป็นลูกพระเจ้าต้องละทิ้งทุกอย่าง " เป็นประโยคที่ต้องระวังให้มาก พระเยซูไม่เคยกล่าวเช่นนั้น ในความเชื่อของผม "คนที่เป็นลูกพระเจ้าต้องเด็มเปี่ยมด้วยความรัก รักตนเอง รักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง และรักพระเจ้ากว่าสิ่งต่าง ๆหรือรักความรักมากกว่าสิ่งใด ๆ เพราะพระเจ้าคือความรัก ผู้ใดมีความรักพระเจ้าสถิตกับผู้นั้น
เงินไม่ใช่สิ่งชั่วร้าย ความรักเงินต่างหากที่ชั่วร้าย รักเงินมากจนทำทุกสิ่งทุกอย่างได้เพื่อให้ได้เงินมา ไม่ว่าจะเป็นการค้าประเวณี ค้ายาเสพติด ค้าหรือทำสิ่งละเมิดศิลธรรม ละเมิดกฏหมาย เพื่อให้ได้เงินมา
กระทู้นี้ยาวเหลือเกิน ... งั้นตอบบ้างดีกว่า 
จงแสวงหาน้ำพระทัยพระเป็นเจ้าและความเที่ยงตรงของพระองค์ แล้วทุกๆสิ่งจะบังเกิดแก่ตัวของท่าน อัลเลลู อัลเลลูยา
จากบทเพลงข้างต้น ก็บอกไว้ให้แสวงหาอยู่ 2 อย่าง
แล้วทุกสิ่งก็จะบังเกิดแก่ท่าน ใช่ปะครับ


จงแสวงหาน้ำพระทัยพระเป็นเจ้าและความเที่ยงตรงของพระองค์ แล้วทุกๆสิ่งจะบังเกิดแก่ตัวของท่าน อัลเลลู อัลเลลูยา
จากบทเพลงข้างต้น ก็บอกไว้ให้แสวงหาอยู่ 2 อย่าง




เพียงแค่เดินบน หนทาง ความจริง และชีวิต ก็ไม่มีสิ่งใดที่ต้องแสวงหาอีกต่อไปแล้ว
จงวางใจในพระเจ้า และปล่อยให้พระองค์นำพาชีวิตของเราไป
ละทิ้งน้ำใจตัวเอง ฟังและตอบสนองเสียงเรียกของพระองค์
ไม่ว่าเราจะทำอะไร เพียงแค่ให้นึกถึงพระองค์
ดำเนินตามทางที่พระเยซูได้ทรงวางแบบไว้
และให้แม่พระจูงมือเราเดิน เพื่อที่เราจะไม่หลงทาง
จงวางใจในพระเจ้า และปล่อยให้พระองค์นำพาชีวิตของเราไป
ละทิ้งน้ำใจตัวเอง ฟังและตอบสนองเสียงเรียกของพระองค์
ไม่ว่าเราจะทำอะไร เพียงแค่ให้นึกถึงพระองค์
ดำเนินตามทางที่พระเยซูได้ทรงวางแบบไว้
และให้แม่พระจูงมือเราเดิน เพื่อที่เราจะไม่หลงทาง
แสวงหาสิ่งที่พระจัดไว้ให้....อืม น่าคิดแฮะ
และที่สำคัญ อย่าแสวงหาเพื่อตัวเองเท่านั้น แสวงหาเพื่อผู้อื่นด้วย
หาความชอบธรรม ถ้าพบมันมอบมันให้กับทุกคน และเหลือแค่ไหน ค่อยให้กับตัวเอง
ps....ฉลองเย้วๆๆ นี่กระทู้ที่ 90 ที่ตอบ 55+ 
และที่สำคัญ อย่าแสวงหาเพื่อตัวเองเท่านั้น แสวงหาเพื่อผู้อื่นด้วย
หาความชอบธรรม ถ้าพบมันมอบมันให้กับทุกคน และเหลือแค่ไหน ค่อยให้กับตัวเอง


มนุษย์ทุกคนเห็นแก่ตัว ไม่มีผู้ใดเลยในโลกนี้ที่ทำสิ่งใดก็ตามโดยไม่ต้องการสิ่งตอบแทน การที่คน ๆ หนึ่งทำอะไรบางอย่าง ๆ ต่อเนื่องและยาวนานได้เพราะสิ่งที่เขาต้องการยังคงอยู่หรือความหวังที่เขาจะได้สิ่งที่เขาต้องการยังมีอยู่
ผมกลับมาที่กะทู้นี้ก็เช่นกันเพื่อประโยชน์ของผมเองเป็นหลัก
1 ครอบครัวผมถือแคทอลิก ผมต้องการคงความเชื่อในแนวทางนี้ของผมไว้ แม้จะน้อยลงทุกที
2 กระแสความคิดของผู้คนที่เข้ามาอ่านกะทู้นี้ผมเชื่อว่าได้ส่งผ่านมาถึงผมด้วย ทำให้ผมเกิดความคิดใหม่ ๆ ด้วย
3 ทุกคนที่ได้ตอบกะทู้นี้ได้ช่วยให้ผมได้คิดถึงหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมคิดไม่ถึง
4 ได้มองเห็นตนเองเมื่อเวลาผ่านไป
5 ตราบเท่าที่ลมหายใจยังมีอยู่การแสวงหานั้นก็ยังคงดำเนินต่อไป
ผมกลับมาที่กะทู้นี้ก็เช่นกันเพื่อประโยชน์ของผมเองเป็นหลัก
1 ครอบครัวผมถือแคทอลิก ผมต้องการคงความเชื่อในแนวทางนี้ของผมไว้ แม้จะน้อยลงทุกที
2 กระแสความคิดของผู้คนที่เข้ามาอ่านกะทู้นี้ผมเชื่อว่าได้ส่งผ่านมาถึงผมด้วย ทำให้ผมเกิดความคิดใหม่ ๆ ด้วย
3 ทุกคนที่ได้ตอบกะทู้นี้ได้ช่วยให้ผมได้คิดถึงหลายสิ่งหลายอย่างที่ผมคิดไม่ถึง
4 ได้มองเห็นตนเองเมื่อเวลาผ่านไป
5 ตราบเท่าที่ลมหายใจยังมีอยู่การแสวงหานั้นก็ยังคงดำเนินต่อไป
ความเที่ยงตรงของพระเจ้า ความเห็นของผม ณ วันนี้ คือ ทุกสิ่งที่มนุษย์ทุกคนปรารถนาไม่ว่าดีหรือชั่วพระเจ้าล้วนประทานให้ถ้าเขาผู้นั้นมีความปรารถนามากพอและมีความเชื่อว่าเขาจะได้สิ่งนั้นโดยไม่เปลี่ยนแปลง และสิ่งที่ได้รับมานั้นไม่ได้ประกอบด้วยความรักและความเมตตาสิ่งนั้นคงอยู่ไม่นาน และสิ่งที่ได้รับมานั้นประกอบด้วยความรักและความเมตตาสิ่งนั้นคงอยู่นานแสนนาน
พระเจ้าให้สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นเพื่อให้มนุษย์ได้เรียนรู้ และนี่คือกฏของพระองค์ ไม่ว่าผู้นั้นเชื่อในพระเจ้าหรือไม่ก็ตาม กฏนี้เป็นจริงเสมอ นี่คือความเห็นของผม ณ วันนี้
พระเจ้าให้สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นเพื่อให้มนุษย์ได้เรียนรู้ และนี่คือกฏของพระองค์ ไม่ว่าผู้นั้นเชื่อในพระเจ้าหรือไม่ก็ตาม กฏนี้เป็นจริงเสมอ นี่คือความเห็นของผม ณ วันนี้
อย่าพูดว่าพระเจ้าเป็นกฎซิครับ ฟังดูโหดร้ายยังไงก็ไม่รู้sakda88 เขียน: ความเที่ยงตรงของพระเจ้า ความเห็นของผม ณ วันนี้ คือ ทุกสิ่งที่มนุษย์ทุกคนปรารถนาไม่ว่าดีหรือชั่วพระเจ้าล้วนประทานให้ถ้าเขาผู้นั้นมีความปรารถนามากพอ
และมีความเชื่อว่าเขาจะได้สิ่งนั้นโดยไม่เปลี่ยนแปลง และสิ่งที่ได้รับมานั้นไม่ได้ประกอบด้วยความรักและความเมตตาสิ่งนั้นคงอยู่ไม่นาน และสิ่งที่ได้รับมานั้นประกอบด้วยความรักและความเมตตาสิ่งนั้นคงอยู่นานแสนนาน
พระเจ้าให้สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นเพื่อให้มนุษย์ได้เรียนรู้ และนี่คือกฏของพระองค์ ไม่ว่าผู้นั้นเชื่อในพระเจ้าหรือไม่ก็ตาม กฏนี้เป็นจริงเสมอ นี่คือความเห็นของผม ณ วันนี้

อย่างนี้ผมเรียกว่าการตีสอนของพ่อซะมากกว่านะครับ
เพราะว่าพระองค์ทรงรักเรา เลยเลือกที่จะให้เราได้รับบทเรียน ฟังดูดีกว่าไหมครับ

sasuke เขียน:อย่าพูดว่าพระเจ้าเป็นกฎซิครับ ฟังดูโหดร้ายยังไงก็ไม่รู้sakda88 เขียน: ความเที่ยงตรงของพระเจ้า ความเห็นของผม ณ วันนี้ คือ ทุกสิ่งที่มนุษย์ทุกคนปรารถนาไม่ว่าดีหรือชั่วพระเจ้าล้วนประทานให้ถ้าเขาผู้นั้นมีความปรารถนามากพอ
และมีความเชื่อว่าเขาจะได้สิ่งนั้นโดยไม่เปลี่ยนแปลง และสิ่งที่ได้รับมานั้นไม่ได้ประกอบด้วยความรักและความเมตตาสิ่งนั้นคงอยู่ไม่นาน และสิ่งที่ได้รับมานั้นประกอบด้วยความรักและความเมตตาสิ่งนั้นคงอยู่นานแสนนาน
พระเจ้าให้สิ่งต่าง ๆ เกิดขึ้นเพื่อให้มนุษย์ได้เรียนรู้ และนี่คือกฏของพระองค์ ไม่ว่าผู้นั้นเชื่อในพระเจ้าหรือไม่ก็ตาม กฏนี้เป็นจริงเสมอ นี่คือความเห็นของผม ณ วันนี้
อย่างนี้ผมเรียกว่าการตีสอนของพ่อซะมากกว่านะครับ
เพราะว่าพระองค์ทรงรักเรา เลยเลือกที่จะให้เราได้รับบทเรียน ฟังดูดีกว่าไหมครับ![]()
พระองค์เป็นกฎ เพียงแต่เป็นกฎแห่งความรัก
เราแต่ละคนกำหนดวิถีชีวิตของเราเองโดยไม่รู้ตัวเสียส่วนมาก พระเจ้าเป็นผู้กำหนดให้อาดัมละเมิดข้อห้ามของพระองค์หรือกระนั้นหรือ ?Jack Sparrow เขียน: วิถีชีวิตพระเจ้าเท่านั้นที่กำหนด เราเหมือนเรือแต่พระเจ้าเป็นผู้นำว่าเรือจะไปในทิศทางใดฝากชีวิตทั้งชีวิตให้พระเจ้าทรงเป็นผู้นำทางครับ ไม่ว่าเจอพายุร้ายดูเหมือนเรือใกล้จะล่มแต่เราก็ไม่กลัวเพราะเรารู้ว่ามีพระเจ้าทรงนำทางพระองค์ไม่เคยหลับเมื่อเรามีภัย
เปล่าเลย พระเจ้าอนุญาติให้การละเมิดนั้นเกิดขึ้นได้และให้มนุษย์ได้เรียนรู้ถึงผลของการละเมิดนั้น เราแต่ละคนกำหนดวิถีชีวิตของเราเองและหลายคนได้ให้พระเจ้าช่วยในการนำทางชีวิตของตนและหลายคนได้ถวายตัวทั้งหมดแด่พระเจ้าซึ่งจะเห็นได้ว่าชีวิตพวกเขาเหล่านั้นเต็มเปี่ยมด้วยความรักและเมตตา เช่น แม่ชีเทเรซ่าแห่งกัลกัตตา เป็นต้น
ในกาลามสูตรนั้น สอนไม่ให้เชื่อเพียงเพราะเหตุต่างๆ 10 ประการ แต่ให้เชื่อหลังจากพิจารณาแล้ว 4 ประการ อันพอสรุปได้ว่าให้งดเว้น 10 ประการ ให้กระทำ 4 ประการ ข้อที่ควรงดเว้น คือ การเชื่อเพียงเพราะ
1. ฟังตามกันมา
2. นำสืบๆ กันมา
3. ข่าวลือ
4. อ้างตำรา
5. นึกเดาเอาเอง
6. คาดคะเน
7. ตรึกตามอาการ
8. ชอบใจว่าตรงกับความคิดเห็นของตน
9. เห็นว่าพอจะเชื่อได้
10. เห็นว่าผู้นี้เป็นครูของเรา
ข้อที่สอนให้พิจารณาซึ่งควรทำ มี 4 ประการ คือ
1. ธรรมเหล่านี้เป็นอกุศลหรือกุศล
2. มีโทษหรือไม่มีโทษ
3. วิญญูชนติเตียนหรือสรรเสริญ
4. ถ้าประพฤติปฏิบัติแล้วจะก่อให้เกิดสิ่งไม่เป็นประโยชน์ ความทุกข์ หรือก่อให้เกิดประโยชน์ ความสุข
ถ้าเห็นว่าเป็นฝ่ายไม่ดีก็จะละเสีย ถ้าเห็นว่าดีจึงค่อยกระทำ คำสอนมีทั้งให้เว้นทางลบ 10 ข้อ ให้ปฏิบัติทางบวก 4 ข้อ น่าจะมีความกระจ่างอยู่ในตัวแล้ว ในทางปฏิบัติจึงควรเว้นทั้ง 10 ข้อ ควรกระทำหรือพิจารณาทั้ง 4 ข้อ ผสมผสานกันไป
1. ฟังตามกันมา
2. นำสืบๆ กันมา
3. ข่าวลือ
4. อ้างตำรา
5. นึกเดาเอาเอง
6. คาดคะเน
7. ตรึกตามอาการ
8. ชอบใจว่าตรงกับความคิดเห็นของตน
9. เห็นว่าพอจะเชื่อได้
10. เห็นว่าผู้นี้เป็นครูของเรา
ข้อที่สอนให้พิจารณาซึ่งควรทำ มี 4 ประการ คือ
1. ธรรมเหล่านี้เป็นอกุศลหรือกุศล
2. มีโทษหรือไม่มีโทษ
3. วิญญูชนติเตียนหรือสรรเสริญ
4. ถ้าประพฤติปฏิบัติแล้วจะก่อให้เกิดสิ่งไม่เป็นประโยชน์ ความทุกข์ หรือก่อให้เกิดประโยชน์ ความสุข
ถ้าเห็นว่าเป็นฝ่ายไม่ดีก็จะละเสีย ถ้าเห็นว่าดีจึงค่อยกระทำ คำสอนมีทั้งให้เว้นทางลบ 10 ข้อ ให้ปฏิบัติทางบวก 4 ข้อ น่าจะมีความกระจ่างอยู่ในตัวแล้ว ในทางปฏิบัติจึงควรเว้นทั้ง 10 ข้อ ควรกระทำหรือพิจารณาทั้ง 4 ข้อ ผสมผสานกันไป
แก้ไขล่าสุดโดย sakda88 เมื่อ เสาร์ เม.ย. 28, 2007 12:58 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.